ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักนี้พรหมลิขิต (Y)

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1 อุบัติเหตุ

    • อัปเดตล่าสุด 15 ก.ค. 66


    warning :

    อย่าคาดหวังเลยนะคะ ถึงเราจะรีเสริชมาแล้วแต่เนื้อเรื่องที่เราเขียนจำเป็นต้องตัดความเป็นจริงบางอย่างของเด็กเรียนหมอไป

    โปรดอย่าดราม่าค่ะ

     

     


     

    sds

    22:01 น.

    ในกลางดึกเวลา 4 ทุ่มนิดๆรอบข้างมืดสนิทมีแต่ป่าไม้ทั้งสองข้างทางแต่ก็ยังมีแสงสว่างของหลอดไฟสาธารณะที่ให้ความสว่างอยู่บ้างแต่อยู่ห่างกัน 5 เมตรและไฟไม่ค่อยสว่างมากนักไม่เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่มีป่าเสียเท่าไหร่ แต่ก็มีนักศึกษาแพทย์ปี 4 ที่กำลังขับขี่มอไซต์ดึกๆดื่นๆกลับหอพักด้วยความจำเป็นที่ต้องขึ้นวอร์ด ตัวเองตัวคนเดียวจึงต้องประหยัดเงินให้ได้มากที่สุดนั่นคือการอยู่หอพักที่ต้องผ่านป่าธรรมดาไม่ได้มีอาถรรพ์แต่อย่างใดแต่เพราะไม่มีความปลอดภัยในเรื่องการให้ความสว่างและร้านสะดวกซื้อต่างๆนั้นห่างไกล ห้องพักจึงถูกมากเพียงเดือนละแค่ 1,000 บาทไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ  เฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นก็ครบครันอาจต้องซื้อเพิ่มนิดหน่อยก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร ซึ่งนักศึกษาแพทย์ชั้นปี 4 เองก็ไม่ได้เดือดร้อนค่าน้ำค่าไฟอยู่แล้วเพราะชั้นปีนี้ต้องขึ้นวอร์ดที่วันๆนึงมีคนไข้หลายร้อยคน

    เพราะงั้นตนเองที่เรียนที่วอร์ดเสร็จแล้วจึงต้องขี่รถกลับบ้านดึกอย่างนี้เกือบทุกวันจนเคยชินแต่สิ่งที่ยากคือเรียนและอ่านหนังสือหนักวันหยุดก็ต้องไปเป็นเด็กเสิร์ฟหารายได้และวันนี้มีการสอบในช่วงเช้าแล้วขึ้นวอร์ดต่อช่วงบ่ายจึงได้อ่อนเพลียอย่างมากแต่ก็พยายามประคองสติขับรถให้ถึงหอพักให้ได้

    แต่ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเสียเท่าไหร่ เมื่อจู่ๆนักศึกษาแพทย์ก็เกิดหลับในรู้ตัวอีกทีก็เห็นว่ารถกำลังพุ่งตกข้างทางที่มีป่าและชนต้นไม้ใหญ่หลายปีอย่างจัง

    "อั่ก!!"เสียงร้องเจ็บปวดของร่างกายที่อาจจะมีการแตกหักจากการชนต้นไม้ใหญ่อย่างจังนั้นอย่างน่าเจ็บปวดแต่ก็ยังดีที่ล้มห่างจากมอไซต์ไม่ถูกมอไซต์ล้มทับขาเอาเพราะอาการบาดเจ็บภายในสำหรับนักศึกษาแพทย์ที่เรียนอย่างหนักก็ทราบเป็นอย่างดีว่าบาดเจ็บเกินกว่าที่จะขยับร่างกายได้ไม่อย่างนั้นจะได้ตายซะก่อน

    "จะมีคน..มาเจอ...ไหมวะ.."ชายหนุ่มบ่นพึมพำกับตัวเองขณะที่สายตามองท้องฟ้าในคืนนี้อย่างเริ่มปล่อยวางถ้าเกิดว่าตัวเองจะตายขึ้นมา

    เด็กหนุ่มทำใจแล้วหลับตาลงรอเวลาไม่อาจฝืนลืมตาทั้งที่ร่างกายเจ็บหนักได้อีกต่อไป

     

     

     

    ผ่านไป 2 ชั่วโมง

    ขณะนั้นก็โชคดีที่มีมอไซต์ของเหล่าเด็กนักศึกษาที่พึ่งกลับมาจากการท่องราตรีกำลังจะกลับหอแล้วต้องผ่านทางพอดี

    "เชี่ยมึง! ตรงนั้นมีคนนอนอยู่ว่ะ"ชายที่ซ้อนท้ายเพื่อนกันมาสองคนรวมคนขับเหลือบไปเห็นคนนอนอยู่ก็สร่างเมาทันทีร้องตะโกนบอกเพื่อนเสียงดังพร้อมกับสะกิดเพื่อนแรงๆ

    "เชี่ย! ผีป่ะวะ"เพื่อนคนขับจึงได้จอดมอไซต์แล้วหันไปดูบ้าง แล้วก็ดันกลัวจินตนาการไม่เข้าเรื่องจนเพื่อนที่ซ้อนท้ายต้องตบหัวเรียกสติ

    แป๊ะ!!

    "คนเถอะไอ้สัสนอนหมดสภาพเลือดท่วมกับมอไซต์นอนอยู่นั่นก็ต้องคนดิวะแถวนี้เคยมีผีที่ไหนกลับหอเวลานี้ตั้งไม่รู้กี่ครั้ง"เพื่อนซ้อนท้ายตบหันคนขับเสร็จก็ด่าแล้วรีบลงจากรถแล้ววิ่งไปดู

    "นักศึกษาแพทย์ว่ะมึงโทรเรียกรถดิ๊"เพื่อนที่ลงไปดูจึงได้ตะโกนบอกเพื่อนที่เป็นคนขับต่อสายหาโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

    จนรถโรงพยาบาลมารับตัวคนไข้ไปส่งเด็กชายทั้งสองที่เจอก็ต้องไปให้ปากคำเช่นกัน

    ขณะรักษาอาการในห้องผ่าตัดก็เกิดอาการหัวใจหยุดเต้นไปตั้ง 1 นาทีจนหมอและพยาบาลภายในห้องวุ่นวายฟื้นคนไข้กลับมาได้สำเร็จ ทางด้านหน้าห้องผ่าตัดเองถึงจะไม่ได้วุ่นวายเหมือนในห้องผ่าตัด แต่ก็กระวนกระวายจิตใจไม่สงบอยู่ไม่นิ่งเหมือนกัน

    "ทำไมหมอไม่ออกมาสักทีวะ"พะเพื่อนแฝดพี่ที่นั่งอยู่เก้าอี้บ่นอย่างร้อนใจ

    "เฮ้อออ ออกมาสักทีดิหมอ"พะแพงแฝดน้องที่เดินวนไปวนมาบ่นอย่างหงุดหงิด

    ในห้องผ่าตัดหลังจากฉุดกระชากคนไข้ให้รอดพ้นจากประตูยมโลกรอดกลับมายังโลกมนุษย์ก่อนหน้านี้รอดมาได้อย่างหงุดหงิด ทำอาการรักษาอีกนิดหน่อยก็เสร็จหมอใหญ่หัวหน้าทีมรักษาจึงได้ออกจากห้องมาเพื่อแจ้งข่าวกับหญิงสาวสองแฝดที่เห็นหมอออกจากห้องพร้อมกับคนไข้ที่ถูกเข็นเตียงออกมาหญิงสาวสองคนจึงเลือกที่จะตามเพื่อนของตนไป

    "เดี๋ยวครับญาติ เดี๋ยวยืนคุยกับหมอสักครู่เถอะนะครับ"หมอรีบเรียกรั้งสองแฝดเอาไว้เพื่อคุยถึงอาการบาดเจ็บต่างๆของคนไข้

    "เชิญทางนี้ครับ มีรายละเอียดเยอะมากที่ต้องไปคุยกันที่ห้อง"หมอเห็นว่าเรียกรั้งเอาไว้ได้จึงได้พาทั้งคู่ไปที่ห้องตรวจของหมอเพื่อคุยถึงรายละเอียดต่างๆ

    เมื่อมาถึงห้องหมอก็ได้มีการอธิบายรายละเอียดการบาดเจ็บต่างๆในร่างกายของคนไข้ให้แฝดทั้งคู่ฟัง

    "แล้วคนไข้ไม่มีญาติหรือครับค่ารักษาพยาบาลรวมกับค่าพักฟื้นนอนโรงพยาบาลก็หลักแสนเลยนะครับ"หมอถามสองแฝด

    "ไม่มีญาติค่ะ เพื่อนหนูโตมาจากบ้านเด็กกำพร้าค่ะ"พะแพงตอบหมอเสียงเศร้า

    "แล้วอย่างนี้จะทำยังไงล่ะครับ หมอเองก็ไม่ได้มีเงินพอจะจ่ายให้เพื่อเอาบุญด้วย"หมอได้ยินก็เครียดและคิดหนัก

    "ไม่เป็นไรค่ะหมอเดี๋ยวเรื่องค่ารักษาหนูสองคนจ่ายเอง ส่วนพักฟื้นช่วยย้ายไปโรงบาลXXXให้หน่อยแล้วกันนะคะ"พะแพงจัดแจงบอกหมอเอง

    "มีเงินหรือครับ แน่ใจนะครับว่าจ่ายไหว หมอสามารถช่วยเปิดรับบริจาคได้อยู่ครับ"หมอเป็นห่วงเพราะเห็นว่าหญิงสาวยังอยู่ในชุดนักศึกษากันอยู่ด้วยซ้ำ

    "บ้านหนูเปิดโรงบาลค่ะ คุณหมอไม่ต้องห่วงค่ะ แค่ย้ายเพื่อนหนูไปที่โรงบาลนั้นก็พอค่ะ"พะเพื่อนตอบหมอ หมอก็พยักหน้าเข้าใจแล้ว

    "ถ้างั้นก็ไปเยี่ยมคนไข้เถอะครับเดี๋ยวหมอดำเนินเรื่องไม่เกินวันพรุ่งนี้ก็น่าจะได้ย้ายไปโรงบาลนู้นแล้วครับ ห้องไอซียูครับ"หมอบอกพะเพื่อนกับพะแพงให้ออกไปได้แล้วหันไปก้มหน้าเขียนกระดาษอะไรสักอย่าง

    พะเพื่อนและพะแพงจึงได้ออกจากห้องของหมอแล้วไปตรงไปเยี่ยมเพื่อนที่นอนป่วยอยู่ห้องไอซียูทำได้แค่มองอยู่หน้าห้องที่มีกระจกเพราะห้ามใครเข้าเยี่ยม

    "เพื่อนกู บอกให้มันเลิกเรียนหมอดีไหม"พะเพื่อนเห็นสภาพเพื่อนที่มีสายระโยงระยางไปทั่วก็พูดอย่างเสียใจก่อนจะหันไปถามน้องตัวเอง

    "มันเรียนมาตั้ง 3 ปีแล้วมันคงไม่กลับไปเรียนใหม่หรอก"พะแพงตอบแฝดพี่ตน

    "เฮ้ออออ"สองพี่น้องถอนหายใจพร้อมกันแล้วพากันไปจ่ายเงินค่ารักษาให้เพื่อนก่อนจะกลับไปพักผ่อนไม่ลืมที่จะลาเรียนและแจ้งข่าวที่เพื่อนเกิดอุบัติเหตุนอนโรงบาลให้กับอาจารย์ได้รับรู้

     

     

     

     

     

     

     

    จบแล้วค่าาาา

    เปิดเรื่องเลยชื่อนอ.ก็ยังไม่โผล่แม้แต่ตัวเดียวค่าตัวค่อนข้างแพงแหละ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×