ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Monsta X]-Time (I.M X Kihyun) #ไทม์เอ็มกี

    ลำดับตอนที่ #3 : TIME-02-

    • อัปเดตล่าสุด 12 มิ.ย. 60





    TIME

    IM X KIHYUN

    Episode 02
    #ไทม์เอ็มกี

    ………………………………………..

    -02-

    วันนี้คนตัวเล็กมาเรียนตามปกติหลังจากที่ต้องหยุดเรียนไปเพราะเรื่องของใครบางคน ชางกยุนไม่ได้ตามเขามาที่โรงเรียนเพราะเขาไม่อยากให้มาด้วย ในทีแรกหมอนั่นเถียงหัวชนฝาว่าทำไมถึงจะมาที่โรงเรียนกับคนตัวเล็กไม่ได้ ในเมื่อเมื่อก่อนหมอนั่นก็ตัวติดกับเขาแทบทุกวัน

    บอกตามตรงว่ายังเคืองเรื่องห้องน้ำกับหมอนั่นอยู่

    กีฮยอนเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะเรียนที่อยู่หลังสุดของตัวเอง คนตัวเล็กนั่งลงก่อนจะหยิบเอาสมาร์ทโฟนเครื่องบางออกมาฟังเพลง วันนี้ฝนตกอีกแล้ว ทั้งๆที่มันอยู่ในห้วงของต้นฤดูหนาวแต่ฝนดันตกหนักราวกับว่านี่คือฤดูฝนอย่างไรอย่างนั้นแถมมันยังเป็นเรื่องที่น่ารำคาญเหลือเกินสำหรับเขา คนตัวเล็กมองออกไปที่นอกหน้าต่างที่ตอนนี้มองเห็นภาพมุมกว้างไม่ชัดเพราะสายฝนที่กระหน่ำลงมา แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังทำให้เขาสามารถมองเห็นอาคารเรียนของโรงเรียนข้างๆได้

    โรงเรียนของอิม ชางกยุน

    กีฮยอนไม่รู้หรอกว่าชางกยุนอายุน้อยกว่าหรือมากกว่าเขา แต่ถึงจะมากกว่าเขาก็ไม่สนใจอยู่ดี เพราะสิ่งที่เขาสนใจในตอนนี้คือสงสัยว่าชางกยุนเป็นใครมาจากไหน และการที่เขากำลังจ้องอาคารของโรงเรียนหมอนั่นอยู่ก็เพราะเขากำลังคิดที่จะทำบางอย่าง

    "ถ้าฉันไปหาเพื่อนนาย ฉันอาจจะรู้ว่าที่จริงแล้วนายเป็นใครใช่ไหม?"

    พึมพัมกับตัวเองเพราะสมองกำลังคิดในสิ่งที่จะทำ มันไม่ง่ายเขารู้ เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าหมอนั่นชื่อชางกยุนจริงๆหรือเปล่า แล้วถ้าหากว่าเขาไปถามหาชางกยุนที่นั่นจะมีคนรู้จักบ้างหรือเปล่า เพราะไม่แน่ชางกยุนอาจจะเป็นแบบนั้น เป็นคนประเภทที่มีโลกส่วนตัวสูงเหมือนกันกับเขา แถมเขายังไม่มีข้อมูลอะไรที่จะไปถามหาตัวบุคคลที่นั่นเลยสักนิด แม้แต่รูปถ่ายใบเดียวยังไม่มีเลย

    "กีฮยอน!"

    คนตัวเล็กสะดุ้งเพราะเสียงเรียกของใครบางคน ไม่ใช่ใครอื่นไกล เป็นแชฮยองวอนหัวหน้าห้องเขานี่แหละ

    "มีอะไร?"

    ถามกลับไปโดยที่ยังอยู่ในโหมดหน้านิ่งเหมือนเดิม ผู้ชายคนนี้เป็นอะไรของเขากันนะ ทำไมถึงชอบทำตัวน่ารำคาญแบบนี้

    "พอดีฉันเรียกนายตั้งนานแต่นานก็ไม่ได้ยินน่ะ คือเมื่อวานแม่ฉันพึ่งกลับจากยังกู เลยซื้อขนมมานิดหน่อยน่ะฉันเลยเอามาให้นาย"ว่าพลางยื่นถุงขนมมาให้เขา ในถุงนั่นดูเหมือนว่าจะมีถุงคุกกี้อยู่สองสามถุงเห็นจะได้

    "นายเอามาให้ฉันทำไม?"

    "กะ...ก็ของฝากจากแม่ฉันไง"

    "ขอบคุณนะ แต่ทีหลังไม่ต้องลำบากหรอก เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ฉันอึดอัดที่จะรับมัน"

    คนฟังถึงกับหน้าเจื่อนลงไปอย่างเห็นได้ชัด นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กีฮยอนพูดกับคนตรงหน้าแบบนี้ แถมอาจจะรวมไปถึงเพื่อนในชั้นเรียนคนอื่นๆที่พยายามจะเป็นเพื่อนเขาด้วยก็ได้

    "อะ...อ๋อ ฉันรู้แล้ว"

    ฮยองวอนว่าแค่นั้นก่อนจะลุกเดินไปนั่งยังที่ของตัวเอง ไม่มีความรู้สึกผิด ใช่ ยู กีฮยอนรู้สึกแบบนั้น เพราะสิ่งที่อีกคนทำมันไม่ได้เกิดจากการร้องขอของเขา เพราะฉะนั้นเขาเองก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปรู้สึกผิดกับอะไรแบบนั้น

    ฟังดูเลวใช่ไหมล่ะ? แต่เขาไม่แคร์หรอก

    ……………………………………………………....

    คนตัวเล็กถึงบ้านในเวลาหกโมงเย็นหลังจากที่เลิกเรียนเขาไปใช้เวลาที่ร้านหนังสือ เพราะวันนี้เป็นวันที่หนังสือของนักเขียนคนโปรดออกขาย เขาเลยไม่พลาดที่จะซื้อมาอ่าน เพราะเขาอ่านเล่มเดิมรอวนไปหลายรอบแล้ว

    คนตัวเล็กถอดรองเท้าแล้วเก็บเข้าชั้นวางก่อนจะเดินเข้ามาในบ้าน แม่กับพี่สาวคงช่วยกันทำอาหารอยู่ในครัวเพราะเขาได้ยินเสียงคุยกันดังออกมาจากในนั้น

    "กลับมาแล้วครับ"

    "อ้าวกีฮยอน มาพอดีเลย เดี๋ยวเอาของขึ้นไปเก็บแล้วลงมาทานข้าวนะลูกกับข้าวเสร็จพอดี"

    โค้งให้ผู้เป็นแม่และพี่สาวก่อนจะเดินขึ้นห้องโดยที่ไม่ได้พูดอะไรอีก คนตัวเล็กเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องของตัวเอง ยืนชั่งใจอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้อง ให้ตายเถอะ นี่มันห้องนอนของเขานะ ทำไมเขาจะต้องกังวลเวลาที่จะเข้าออกห้องของตัวเองทุกครั้งแบบนี้ด้วย คนที่จะต้องเป็นกังวลคืออิม ชางกยุนสิ

    เขาล่ะไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ

    ยูกีฮยอนเดินเอากระเป๋านักเรียนและถุงหนังสือมาวางไว้ที่โต๊ะเขียนหนังสือก่อนจะกวดสายตามองไปรอบๆห้อง

    เงียบ

    ไม่มีวี่แววของผู้ชายที่เขาพึ่งรู้จักเมื่อวาน ทั้งห้องดูเงียบและสงบเหมือนอย่างที่เคยเป็น

    "มองหาอะไรอยู่หรอ?"

    เสียงกระซิบที่ข้างหูทำให้ต้องหันไปข้างหลังด้วยความตกใจ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อพบว่าคนในความคิดกำลังยืนยิ้มอยู่ตรงหน้าเขา แถมตอนนี้จมูกเราสองคนก็แทบเรียกได้ว่าเกือบชนกันอีกจนทำให้ผละออกแทบไม่ทัน เชื่อเถอะว่าถ้าหากกีฮยอนสามารถจับต้องตัวของชางกยุนได้ ตอนนี้เขาคงตบกะบาลอีกฝ่ายไปไม่ต้องคิดแล้ว โทษฐานที่โผล่มาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง ไม่ได้คิดอะไรกับเหตุการณ์เมื่อครู่หรอกนะ แต่มันก็ทำใจสั่นได้นิดหน่อยเหมือนกัน อาจเป็นเพราะตกใจล่ะมั้ง

    "เล่นบ้าอะไรของนาย?"เมื่อตั้งสติได้ก็ถามคนตรงหน้าทันที

    "ก็แค่อยากรู้ว่านายจะตกใจกลัวหรือเปล่า?"

    "นายผิดกฎ" มองหน้าอีกฝ่ายนิ่งๆเป็นเชิงบอกว่าเขาจริงจังกับเรื่องกฎที่ตั้งขึ้นแค่ไหน ก็แน่ล่ะ กีฮยอนไม่ได้ตั้งมันขึ้นแบบส่งๆเพื่อที่จะให้อีกฝ่ายลืมมันในวันต่อมาหรอกนะ

    "โธ่...ฉันแค่แกล้งนายเอง อย่าจริงจังกับมันได้ไหมกีฮยอน" อิม ชางกยุนโอดครวญกับคนตรงหน้าพลางนั่งลงที่เตียง เขาก็แค่อยากแกล้งกีฮยอนเล่นๆเอง แต่ไม่คิดว่าคนที่ยืนอยู่จะจริงจังขนาดนี้

    "..."

    "โอเคๆ ฉันขอโทษ ฉันจะไม่ทำแบบนี้อีกพอใจยัง?"

    เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเอาแต่เงียบ แถมยังแสดงออกชัดเจนว่าจริงจังกับเรื่องกฎเกณฑ์บ้าบอนั่นขนาดไหนก็ทำให้อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขอโทษออกไป แต่ไม่ได้รู้สึกผิดหรอกนะ แค่อยากให้เรื่องมันจบๆไปก็เท่านั้นเอง "

    ฉันจะลงไปกินข้าว นายไม่ต้องตามลงไปนะ"

    "นี่ใจคอจะให้ฉันอยู่แต่ในห้องนายเลยหรือยังไงกันกีฮยอน"

    "ถ้าบอกว่าใช่ล่ะ"ตอบกลับมาเสียงเรียบตามแบบฉบับของคนที่ไม่ค่อยสนใจคนรอบข้างอย่างยู กีฮยอน

    "ใจร้ายว่ะ ฉันเองก็อยากเห็นโลกภายนอกเหมือนกันนะเว้ย"

    โอดครวญไปอย่างนั้นแหละเผื่อคนตรงหน้าจะเห็นใจเขาขึ้นมาบ้าง เพราะวันนี้ทั้งวันเขาเองก็ทำได้แค่อยู่แต่ในห้องนอนของคนตัวเล็กเท่านั้น จะให้ทำยังไงได้ล่ะ ก็คนตัวเล็กสั่งเสียงแข็งซะขนาดนั้น

    "ถ้าอย่างนั้นก็ออกไปสิ"

    "จริงเหรอ?"ยิ้มออกเมื่อได้ยินคนตัวเล็กพูดแบบนั้น

    "และก็ไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก"

    สตั้นสิครับ ยูกีฮยอนนี่เป็นตัวร้ายในละครหรือยังไงกันนะถึงได้ปากคอเราะร้ายไม่ใส่ใจความรู้สึกของคนอื่นแบบนี้ ดูสิกีฮยอนแค่พูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก็เปิดประตูออกไปเลย ไม่หันกลับมาพูดว่าล้อเล่น หรืออะไรสักอย่างที่แสดงให้เขาเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นจริงๆ

    อิม ชางกยุนทิ้งตัวลงนั่งที่ปลายเตียงของเจ้าของห้อง กวาดสายตามองไปรอบๆห้องอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ก็ใช่ที่เขาบอกว่าอยู่ที่นี่มาสองปีแล้ว แต่เขากลับไม่เคยที่จะได้สังเกตห้องที่เขาอยู่เลยสักครั้ง คนที่นั่งอยู่ปลายเตียงถอนหายใจออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาเขาจำอะไรไม่ได้สักอย่าง จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร ชื่ออะไร แล้วก่อนหน้าที่มาอยู่ที่นี่เขาเคยอยู่ที่ไหนมาก่อน

    เขายังจำวันแรกที่มาที่นี่ได้เป็นอย่างดีว่ามันเป็นยังไงที่ได้แต่ยืนมองกีฮยอนที่นอนหลับไม่ได้สติอยู่บนเตียงจนคนตัวเล็กตื่นขึ้นมา เขาจำได้ว่าตอนนั้นพยายามเรียกอีกคนอยู่นานมากจนเหนื่อยและล้าไปเองแต่การเรียกอีกคนก็ไม่เป็นผล ไม่มีใครเห็นหรือได้ยินเสียงของเขานอกจากตัวของเขาเอง เขาสามารถทะลุประตูหรือกำแพงได้อย่างน่าเหลือเชื่อ และวันหนึ่งเขาเองก็ได้รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังเป็นอยู่คือสิ่งที่มนุษย์เรียกว่า'วิญญาณ' แน่นอนว่าเขาเองไม่ได้เสียความทรงจำไปจนชนิดที่ว่าไม่รู้ว่าตัวเองตายไปแล้ว และสิ่งหนึ่งที่เขาคาใจและอยากรู้มาตลอดสองปีก็คือ...

    เขาตายได้ยังไง?

    ถ้าขอให้กีฮยอนที่มองเห็นเขาแล้วในตอนนี้ช่วย หมอนั่นจะยอมช่วยเขาหรือเปล่านะ

    …………………………………………..

    "กีฮยอน"

    "ครับแม่?"

    มองหน้ามารดาหลังจากที่ก้มหน้าก้มตาทานข้าวโดยไม่พูดไม่จากับใคร ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับคนในบ้าน เพราะปกติกีฮยอนเองก็เป็นคนที่นิ่งๆและไม่ค่อยพูดแบบนี้อยู่แล้ว

    "ที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง?"

    'คิม แชอึน'ถามคนเป็นลูกชายด้วยความใส่ใจปนความเป็นห่วง ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าลูกชายเธอน่ะเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนขนาดไหน

    ยู กีฮยอนที่เมื่อก่อนน่ะเป็นเด็กที่ร่าเริง แจ่มใส เข้ากับคนอื่นได้ง่ายเหมือนกับพ่อของเขาจนทำให้เป็นที่รักของเพื่อนๆและทำให้มีเพื่อนสนิทอยู่หลายคน จนกระทั่งเกิดเรื่องขึ้นนั่นแหละ มันเลยทำให้ลูกชายของเธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคนอย่างเห็นได้ชัด

    "เหมือนเดิมครับแม่"แชอึนหันไปมองหน้าลูกสาวอย่างยอนจองที่หันมามองหน้าเธอโดยไม่ได้นัดหมายเหมือนกัน

    "กีฮยอน"

    "ครับพี่?"ขานตอบพี่สาว

    "พอดีพี่สั่งแอปเปิ้ลจากเซจูมาสองลังน่ะ อยากวานเราช่วยเอาไปให้สารวัตรซนหน่อยได้ไหม?"

    พี่สาวของเขาหมายถึงพี่ฮยอนอู เป็นลูกพี่ลูกน้องกับเราสองคนที่ทำงานเป็นตำรวจอยู่ที่สถานีตำรวจคังนัมในตำแหน่งสารวัตร สารวัตรซน ฮยอนอู

    "ได้ครับ เดี๋ยวผมเอาไปให้"

    ว่าแค่นั้นก่อนจะขอตัวขึ้นห้องเพราะกินเสร็จแล้ว วันนี้กีฮยอนไม่มีการบ้านเพราะทำเสร็จไปตั้งแต่อยู่โรงเรียนแล้ว เปิดประตูเข้ามาก็เจออีกคนที่นอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงของเขาอย่างสบายอารมณ์ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ทำหน้าเหมือนกับงอนเขาอย่างกับอะไรดี

    หรือเขาควรจะเพิ่มกฎอีกข้อดี

    อิมชางกยุน ดีดตัวลุกออกจากเตียงทันทีที่เห็นเขาเข้ามาในห้อง ก่อนจะส่งยิ้มกลับมาให้ คิดว่ายิ้มแบบนี้แล้วน่ารักมากหรือยังไงกัน?

    "ฉันจะอ่านหนังสือ เพราะฉะนั้นนายช่วยอยู่เงียบๆด้วย"ว่าพลางดึงเก้าอี้ออกมานั่งแล้วเปิดหนังสือ

    "นี่กีฮยอน"

    "..."เงียบ

    "กีฮยอน"

    "..."ครั้งที่สองก็ยังคงเงียบ

    "ยู กีฮยอน"

    ได้ผล! คนตัวเล็กลพความสนใจจากหนังสือก่อนจะปรายตามามองเขา ย้ำนะว่าแค่ปรายตามอง แถมในสายตานั่นยังสื่อกลายๆว่าถ้าหากเขายังไม่หยุด คนตัวเล็กก็พร้อมที่จะกินหัวเขาได้ทุกเมื่อ

    "ขอโทษ"

    "ไม่ให้"

    "ก็ฉันแค่อยากคุยกับนายนี่ หนังสือนั่นมันน่าสนใจกว่าฉันตรงไหนกัน?"

    "ก็ถ้าให้ฉันเลือกระหว่างนายกับหนังสือนี่ คงไม่ต้องให้บอกนะว่าฉันจะเลือกอะไร"ก็พูดกับเขานะ แต่ตายังอยู่ที่หนังสือตรงหน้า

    "ใจร้าย..."

    "ฉันใจร้ายได้มากกว่านี้อีก อยากลองไหม?"

    "บางทีนายก็ต้องพูดถนอมน้ำใจคนอื่นหน่อยก็ดี"

    "ไม่จำเป็น"

    กีฮยอนเงียบ ชางกยุนเงียบ ทั้งห้องเงียบเพราะไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก บางทีชางกยุนก็ได้แต่สงสัยนะว่ากีฮยอนได้นิสัยนี้มายังไง ทั้งๆที่คุณแชอึนและคุณยอนจองเองก็ดูเหมือนจะเข้ากับคนอื่นได้ง่ายๆ แต่ดูกีฮยอนสิ

    "กีฮยอน..."

    "ถ้านายยังไม่หยุดเรียกอีกฉันจะออกไปข้างนอกและจะไม่กลับเข้ามาในนี้อีก"ยื่นคำขาดเพราะเขาเองก็หมดความอดทนแล้วเหมือนกัน

    ยู กีฮยอนปิดหนังสือลงก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับคนที่เอาแต่เรียกเขาไม่หยุด อิม ชางกยุนน่ารำคาญ น่ารำคาญเอามากๆด้วย

    "..."

    "เฮ้อ!! มีอะไร?"

    สุดท้ายก็ถามกลับไปเพราะเห็นอีกคนทำหน้าหงอยๆ เชื่อเถอะว่านอกจากแม่และพี่สาวแล้วกีฮยอนก็ไม่เคยใส่ใจใครอีกเลย ขอบอกว่าหมอนี่กล้ามากที่มาทำแบบนี้กับเขา

    "นาย...คือฉันอยากรู้ว่าฉันตายได้ยังไง"

    "ห้ะ?"

    "ได้ยินไม่ผิดหรอก ฉันบอกว่าฉันอยากรู้ว่าฉันตายได้ยังไง"

    ไม่มีความขี้เล่นส่งผ่านมาจากแววตาคู่นั้นอย่างที่เคย คนตัวเล็กคิดว่าชางกยุนเองก็คงคิดเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เพียงแต่ยังไม่กล้าพูดกับเขาจนถึงตอนนี้

    "นี่ชางกยุน! ฉันเองก็อยากช่วยนายนะ เพราะฉันเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่านายตายได้ยังไง แต่ตอนนี้ฉันไม่มีอะไรที่บอกหรือแสดงถึงตัวนายสักอย่าง ตอนนี้ฉันมีแค่แหวนวงนี้วงเดียว และคนที่ชื่อชางกยุนก็ไม่ได้มีแค่คนเดียวในเกาหลี"

    "ฉันรู้..."เสียงแผ่วเบาราวกับว่าเรื่องที่กำลังพูดกันอยู่มันไม่มีทางเป็นไปได้

    "เฮ้อ! เอาเป็นว่าฉันจะพยายามช่วยนายให้ถึงที่สุดแล้วกัน"

    "ขอบใจนะกีฮยอน"

    "ส่วนตอนนี้ นายช่วยอยู่เงียบๆไปก่อนฉันจะอ่านหนังสือ"

    กลับมาแล้วกีฮยอนในโหมดใจร้าย อิมชางกยุนยิ้มให้อีกคนที่ตอนนี้หันกลับไปสนใจหนังสืออีกครั้ง อย่างน้อยกีฮยอนก็ไม่ได้ใจร้ายเสมอไปหรอกน่า

    ......................................................................

    "พรุ่งนี้วันหยุดงั้นครูจะสั่งการบ้านให้ไปทำนะ"

    เสียงครูผู้หญิงวัยกลางคนดังขึ้นเรียกเสียงโอดครวญจากนักเรียนในห้องได้เป็นอย่างดีด้วยคำว่าการบ้าน แน่นอนว่าไม่มีใครชอบคำนี้ กีฮยอนเองก็เหมือนกัน

    "โห่ครูครับ วันหยุดก็ให้พวกผมได้พักผ่อนบ้างสิครับ จะสั่งงานให้ปวดหัวทำไมกัน?"เพื่อนร่วมห้องที่นั่งอยู่แถวกลางที่ไม่รู้ว่าชื่ออะไรว่าขึ้นอย่างอาจหาญ

    "นั่นสิครับครู"

    "นั่นสิคะ!"

    เสียงคนในห้องเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆจนทำให้ครูประจำรายวิชาเริ่มที่จะรำคาญรวมไปถึงตัวกีฮยอนด้วย ไม่รู้ว่าคนพวกนี้จะบ่นอะไรกันนักหนา น่ารำคาญชะมัด

    "วันหยุดก็ต้องอยู่บ้านทบทวนการเรียนสิ ซึ่งครูคิดว่ามากกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นในห้องนี้ไม่เคยทำมันเลย ครูเลยต้องสั่งเพื่อเป็นการทบทวนไปในตัว เอาเป็นว่าไปทำมา มันไม่ได้ยุ่งยากอะไรแค่ถ่ายรูปลง SNS ของพวกเธอเอง อย่าโวยวายไม่งั้นครูจะแจกศูนย์ยกห้องเลยดีไหม? เลิกคาบ"

    "นักเรียนเคารพ"

    "ขอบคุณครับ/ค่ะ"

    ครูเดินออกไปแล้ว เช่นเดียวกับหลายคนที่เก็บของใส่กระเป๋าและทยอยออกไปกันที่ละคนสองคนเพื่อกลับบ้าน งานที่ครูอีสั่งไม่ได้มีอะไรยุ่งยากเพราะแค่ต้องถ่ายรูปอะไรก็ได้ลงใน SNS ของตัวเอง แล้วติดแท็กครูเพื่อที่จะให้คะแนนได้ถูกต้อง เป็นเพราะครูอีสอนในวิชาโฟโต้กราฟฟิคที่ทางโรงเรียนเพิ่มมาให้นักเรียนทุกคนได้มีงานอดิเรกทำ

    แต่กีฮยอนไม่ชอบเอาซะเลย

    กีฮยอนSNSเหมือนกันกับวัยรุ่นคนอื่นๆ แต่เขาไม่ค่อยเข้าไปหรอกเพราะชอบอ่านหนังสือมากกว่า แต่สงสัยวันนี้ต้องลองเขาไปเชคดูสักหน่อยว่ามันยังใช้ได้อยู่หรือเปล่า

    "กีฮยอน พรุ่งนี้เราไปถ่ายรูปด้วยกันไหม ฉันรู้จักสถานที่สวยๆในโซลเยอะเลยล่ะ มันคงจะดีถ้า..."

    "ไม่ล่ะ ฉันชอบทำคนเดียวมากกว่า ขอตัวนะ" เก็บของบนโต๊ะลงใส่กระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องเรียนไปทันทีโดยทีไม่สนใจคนที่ถูกปฏิเสธอยู่ข้างหลัง

    แช ฮยองวอนถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนตัวเล็กพูดกับเขาแบบนี้เขาจำได้ แต่ถึงอย่างนั่นเขาก็ยังไม่หยุดที่จะพยายามเข้าหาอีกคนสักที ที่เขาทำไปทุกอย่างไม่ใช่เพราะว่าเขาชอบกีฮยอนหรอก เขาแค่ทำทุกอย่างเพื่อชดใช้ความผิดของเขาในวันนั้นให้กับคนตัวเล็กเท่านั้นเอง แต่ก็ดูเหมือนว่ากีฮยอนจะไม่เข้าใจในการกระทำของเขาสักเท่าไหร่ ก็แน่ล่ะ กีฮยอนไม่เคยรู้นี่นาว่าเขาน่ะ

    เคยทำผิดอะไรไว้กับคนตัวเล็กบ้าง

    "ฉันขอโทษนะ...กีฮยอน"

    ……………………………………………………...

    ยู กีฮยอนเดินมาถึงหน้าบ้านก่อนจะเปิดประตูบ้านเข้าไป วันนี้คนตัวเล็กไม่ได้แวะไปที่ไหนหลังจากเลิกเรียนแล้วก็ตรงมาที่บ้านทันที เด็กหนุ่มชะงักไปนิดหน่อยเมื่อเห็นว่ามีใครบางคนกำลังนั่งยิ้มให้เขาอยู่บนชิงช้าที่ตั้งไว้บริเวณสนามหน้าบ้าน

    อิม ชางกยุน

    "จำได้ว่าฉันเคยบอกให้นายอยู่แต่ในห้อง"

    "โธ่...ฉันก็อยากจะออกมาสูดอากาศข้างนอกบ้างไม่ได้เลยหรือยังไง อยู่แต่ในห้องนายมันก็เบื่อเป็นนะเว้ย"

    "ถ้ามันน่าเบื่อขนาดนั้นทำไมนายไม่ออกจากที่นี่ไปเลยล่ะ"

    "นี่! ไม่ไล่ฉันสักวันนี่นอนไม่หลับเลยใช่ไหมกีฮยอน เชื่อนายเลยจริงๆ"

    คนที่นั่งอยู่บนชิงช้าว่าอย่างเอือมๆ ก็มันจริงนี่นา ยู กีฮยอนน่ะ เอะอะก็เอาแต่บอกว่าให้เขาไปจากที่นี่อยู่ตลอดเลย ไม่รู้ว่าจะเกลียดขี้หน้าอะไรเขานักหนา

    "คงงั้นมั้ง"คนใจร้ายเดินมาหาเขาและนั่งลงที่ชิงช้าตัวข้างๆเขาที่ว่างอยู่

    "แล้วทำไมวันนี้กลับเร็วจัง ปกตินายต้องไปที่ไหนสักที่ก่อนแล้วค่อยกลับมาไม่ใช่เหรอ?"ที่ไหนสักที่ที่เขาหมายถึงก็หนีไม่พ้นร้านหนังสือหรือไม่ก็ร้านกาแฟที่กีฮยอนชอบไปนั่งอ่านหนังสืออยู่ประจำนั่นแหละ

    "นี่!"

    "เรียกฉันเหรอ?"คนตัวเล็กไม่ตอบทั้งคำถามแรกและคำถามที่สองของเขา แต่กลับแค่ปรายตามองมาราวกับว่าเขาเป็นตัวน่ารำคาญของอีกคนสุดๆเลยอย่างไรอย่างนั้น

    เขาทำอะไรผิดอีกแล้ววะ?

    "วันอาทิตย์ออกไปข้างนอกกันไหม?"

    "ห้ะ?"

    ไม่อยากเชื่อ ไม่จะอยากเชื่อจริงๆ ยู กีฮยอนเนี่ยนะชวนเขาออกไปข้างนอกด้วย เป็นไปไม่ได้แน่ๆ เพราะตั้งแต่ที่คนตัวเล็กรู้การมีตัวตนของเขา เขาก็ถูกบังคับให้อยู่แต่ในห้องเท่านั้น นี่มันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อมาก

    "ก็ฉันเห็นว่านายเอาแต่บ่นว่าอยู่แต่ในห้องแล้วเบื่อ ฉันก็เลยชวนออกไปข้างนอกนี่ไง"

    "ละ...แล้วจะไปที่ไหนล่ะ?"

    "ที่สวยๆ"

    "ห้ะ?"

    "นี่จะสงสัยอะไรนักหนาห้ะชางกยุน? ที่ฉันชวนนายไปที่สวยๆเพราะฉันจะไปถ่ายรูปส่งงานครู เข้าใจยัง?"คนตัวเล็กรัวคำพูดออกมา

    "กะ...ก็เข้าใจแล้ว ฉันนึกว่านายเกิดติสแตกอยากไปในที่สวยๆทั้งๆที่เมื่อก่อนนายวนไปแค่โรงเรียน ไปร้านหนังสือ ร้านกาแฟ และก็บ้านแค่นั้นเอง"

    "เหอะ! ทำมาเป็นรู้ดี"

    "แน่นอน อย่าลืมสิว่าฉันอยู่กับนายมาสองปีแล้วหนิ"

    เขายิ้มออกมา แต่ก็นั่นแหละเขายิ้ม ส่วนกีฮยอนก็ทำหน้ารำคาญเขาเหมือนอย่างเคย นี่ถ้าไม่พอใจชวนก็ไม่ต้องชวน เขาเองก็ไม่ได้ง้อซะหน่อย แต่ก็บ่นไปอย่างนั้นแหละไม่กล้าพูดออกไปหรอก เพราะเขาเองก็คิดว่าบางที่กีฮยอนน่ะ

    ไม่ได้รำคาญเขาตลอดเวลาซะที่เดียวหรอก...

    ……………………………………………………………………....
    #ไทม์เอ็มกี



     

    แน้มีชวนกันออกไปข้างนอกด้วย ว่าแต่นี่เป็นการซ้อมเดทป่าวน้าาาาาา55555 เอามาลงให้แล้วววววว ขอโทษที่ลงช้านะคะ ไม่มีอะไรจะแก้ตัวเพราะเมื่อวานแต่งไม่เสร็จ นี่แต่งเสร็จแล้วรีบลงเลยยังไม่ทวนคำผิดเลยยยยยย ถ้ามีข้อผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะคะ TT รักทุกคนเสมออออออ

     

    -P_Hyun6104-














     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×