คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : TIME-03-
TIME
IM X KIHYUN
Episode 03
#ไทม์เอ็มกี
………………………………………..
-03-
สถานีตำรวจคังนัมยังเต็มไปด้วยผู้คนมากมายแม้ว่าจะเป็นวันเสาร์ กีฮยอนเดินเข้ามาข้างในตัวสำนักงานอย่างคุ้นเคยเพราะมาที่นี่หลายครั้งแล้ว สายตาสอดส่องหาคนที่เขาตั้งในมาหาพร้อมกับสองมือที่ถือของพะรุงพะรัง มันคือถุงแอปเปิ้ลที่พี่เขาฝากมาให้สารวัตรซนนั่นแหละ
"กีฮยอน!"
"สวัสดีครับ"
โค้งให้คนเป็นพี่ก่อนจะถูกผายมือเชิญให้เข้าไปด้านในห้องของนายตำรวจหนุ่ม ฮยอนอูรับถุงของฝากจากมือน้องชายคนสนิทก่อนจะเอาไปเก็บ
"มาคนเดียวเหรอ?"
"ครับ"
ตอบกลับไปสั้นๆและไม่มีใครเอ่ยอะไรขึ้นอีก บอกตามตรงว่ากีฮยอนค่อนข้างที่จะรู้สึกอึดอัดกับสารวัตรหนุ่มอยู่ไม่น้อย ทั้งๆที่ครอบครัวเราสองคนสนิทกัน แต่ก็นั่นแหละ
ยู กีฮยอนมันเป็นพวกที่มนุษยสัมพันธ์แย่
"คุณน้าสบายดีใช่ไหม?"
"สบายดีครับ แล้วพี่กับคุณป้าล่ะ สบายดีใช่ไหม?"ถามกลับไปตามมารยาท
"สบายดีครับ"สารวัตรหนุ่มยิ้มตอบ
"พี่คงมีงานเยอะ งั้นเดี๋ยวผมขอตัวแล้วกันครับ พอดีมีธุระต้องไปต่อเหมือนกัน"
โกหก ยูกีฮยอนก็แค่โกหกเพื่อที่จะได้ออกไปจากห้องนี้ จากสถานการณ์ที่ชวนอึดอัดแบบนี้
"อ่า งั้นเดี๋ยวพี่ออกไปส่ง"
ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีกนอกจากกีฮยอนที่ลุกแล้วเดินนำนายตำรวจหนุ่มออกมาด้านนอกก่อน
"อ้ะ!"
"ขอโทษครับ!"
เอกสารสีขาวกระจัดกระจายไปทั่วพื้นเมื่อคนตัวเล็กดันเปิดประตูห้องออกมาชนกับใครบางคนที่อาจจะมาทำธุระที่นี่
ไวเท่าความคิดคนตัวเล็กก้มลงไปเก็บเอกสารที่กระจายบนพื้นช่วยอีกคนที่กำลังเก็บอยู่ก่อนหน้านี้ เด็กหนุ่มชะงักไปครู่หนึ่งพร้อมกับเอกสารแผ่นหนึ่งที่มือเล็กหยิบขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ เขาจะไม่รู้สึกอะไรเลยถ้าหากว่ารูปเล็กๆที่ติดอยู่มุมซ้ายของกระดาษไม่บังเอิญไปคล้ายกับใครบางคน ใครบางคนที่เขาพึ่งรู้จัก
"คุณครับ!" ร่างเล็กสะดุ้งหลุดออกจากความคิดเมื่อถูกอีกฝ่ายเรียก
"คะ...ครับ?"
"เอ่อ...ผมขอเอกสารผมคืนด้วยครับ"
เด็กหนุ่มมองเอกสารที่อยู่ในมือสลับกับคนตรงหน้าที่แบมือมาเพื่อของคืน เขาจำเป็นต้องยื่นเอกสารให้อีกคนพร้อมกับปล่อยไปพร้อมกับความสงสัยที่เกิดขึ้น ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?
แล้วเป็นอะไรกับอิม ชางกยุน
"พี่ครับ"
"ว่าไง?"
"ว่างไหม? ผมมีเรื่องอยากถามสักหน่อย"
…………………………………………………………..
แม่น้ำฮันคือสถานที่ที่เขาอยู่ในตอนนี้ สายตาทอดมองไปยังอีกฝั่งของแม่น้ำพร้อมกับความคิดมากมายที่ผุดขึ้นในหัว เขาแยกจากพี่ฮยอนอูเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว และมานั่งคิดสิ่งที่ได้รับรู้จากพี่ฮยอนอูอยู่ตรงนี้สองชั่วโมงแล้วเหมือนกัน
'พี่ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกเพราะพี่ไม่ได้เป็นคนรับผิดชอบคดีนั้น พอรู้คร่าวๆว่าผู้ชายคนนั้นน่ะขับรถชนคนตาย พึ่งออกมาจากคุกเมื่อไม่กี่เดือนก่อนเพราะเป็นนักโทษที่ประพฤติดีเลยได้รับสิทธิ์ให้ออกมาช่วยเหลือสังคมข้างนอกและต้องมารายงานตัวทุกเดือน'
คำบอกเล่าของพี่ฮยอนอูทำให้เขาต้องมานั่งคิด ชางกยุนตายเพราะถูกรถชน แต่ทำไมวิญญาณหมอนั่นถึงมาอยู่กับเขาทั้งๆที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลยสักนิดเดียว
~~~Rrrr~~~
เสียงริงโทนของมือถือทำให้คนตัวเล็กหลุดออกจากภวังค์ ก่อนจะล้วงเข้าไปหยิบมือถือที่แผดเสียงดังอยู่ในกระเป๋าเสื้อโค้ทออกมา
"ครับแม่"ขานรับปลายสายทันทีที่กดรับ
(กีฮยอน ตอนนี้อยู่ที่ไหนลูก?)
"ผมอยู่ที่แม่น้ำฮันครับแม่ แม่มีอะไรหรือเปล่า?"
"พอดีเพื่อนที่โรงเรียนลูกเขามาหาน่ะจ่ะ แม่เลยโทรถามว่าลูกใกล้ถึงบ้านหรือยัง"
เพื่อนที่โรงเรียน? เพื่อนเขาที่โรงเรียนเนี่ยนะ? เหอะ!
"ใครเหรอครับ?"
(เขาบอกแม่ว่าชื่อฮยองวอนน่ะจ่ะ)
ฮยองวอน บุคคลน่ารำคาญอันดับหนึ่ง
"บอกให้เขากลับไปเถอะครับแม่ ผมยังไม่เสร็จธุระ คาดว่าอีกนานเลย"
(อย่างนั้นเหรอจ้ะ ได้ๆเดี๋ยวแม่บอกเพื่อนให้ แค่นี้นะ)
"ครับแม่"ชิงกดวางสายไป
แช ฮยองวอนอีกแล้วเหรอ ให้ตายเหอะหมอนี่เป็นอะไรกับเขานักหนานะถึงได้ตามรังควานกันไม่หยุดไม่หย่อนอย่างนี้ น่ารำคาญชะมัด
……………………………………………………….....
"กีฮยอนบอกให้เรากลับไปก่อนน่ะจ่ะ เขายังไม่เสร็จธุระ"
"อย่างนั้นเหรอครับ?"
ฮยองวอนบอกกลับไป เชื่อเถอะว่าถ้าหมอนั่นเสร็จธุระอย่างที่คุณน้าบอกแล้วก็คงไม่ยอมมาเจอเขาอย่างแน่นอน ก็แสดงออกชัดว่ารำคาญเขาขนาดนั้น
"คุณน้าครับ!"
"ว่าไงจ้ะ?"
"เมื่อก่อนน่ะ..."ฮยองวอนชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งว่าจะถามออกไปดีไหมเพราะเขาเองก็ไม่ได้สนิทสนมกับคนตรงหน้าสักเท่าไหร่"ไม่มีอะไรหรอกครับ งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ"
คนตัวผอมลุกขึ้นก่อนจะโค้งผู้ที่มีอายุมากกว่าแล้วเอี้ยวตัวกลับ ก็อยากจะถามอยู่หรอกนะ แต่ก็ไม่อยากไปจุดฉนวนให้คุณน้าเขาต้องโกรธกับเหตุการณ์ที่ทำให้ลูกชายเขาต้องเป็นแบบนี้
เพราะไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากเห็นลูกไม่มีความสุขหรอกจริงไหม?
………………………………………………………………………....
ยูกีฮยอนกลับเข้าบ้านในเวลาบ่ายสามครึ่งของวันเขาเดินเข้าไปหาแม่และพี่สาวที่นั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องนั่งเล่น พูดคุยกันนิดหน่อยก่อนจะขอตัวขึ้นห้องนอนเมื่อนึกได้ว่ามีใครบางคนรออยู่
"ไปไหนมาเหรอ?"
ทันทีที่ปิดประตูห้องลงเสียงคำถามก็ดังขึ้นอยู่ที่ด้านหลัง ชางกยุนยืนกอดอกพิงสะโพกไว้กับขอบหน้าต่างที่เปิดอยู่ สีหน้าฉายแววความสงสัยออกมาเต็มที่
"ใช้ความเป็นผีของนายเดาเองสิ"
"โห...ถ้าฉันเก่งขนาดนั้นฉันคงจะไม่มานั่งขอความช่วยเหลือจากนายหรอกเปี๊ยก"สรรพนามใหม่ถูกยกขึ้นมาใช้กับคนตัวเล็ก
"เมื่อกี้นายเรียกฉันว่าไงนะ?"
"ก็เปี๊ยกไง"
"เหอะ!"
ได้แต่หัวเราะแห้งๆในลำคอ ถ้าถามกีฮยอนว่าเคืองไหมกับการที่อีกคนเรียกแบบนี้ก็คงไม่มีคำตอบอื่นนอกจากว่าเคืองจนอยากจะตื้บหมอนี่ให้จมดินไปเลยล่ะ แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ เขาจับต้องตัวของอีกฝ่ายได้ซะที่ไหน
"อย่าเรียกฉันแบบนี้อีก ฉันไม่ชอบ"
"อ้าว! ทำไมล่ะ?น่ารักดีออก"
"อิม ชางกยุน!"
เรียกชื่อเต็มพร้อมกับเสียงที่แข็งบ่งบอกว่าถ้าขืนยังเรียกเขาแบบนี้ก็เตรียมตัวหาที่อยู่ ไม่สิ! ที่สิงสถิตใหม่เลย
"โอเคๆ หยอกนิดหยอกหน่อยก็ไม่ได้ ถามจริง ชีวิตนี้นายสะกดคำว่า'ร่าเริง'เป็นมะ?"
"ยุ่ง!" สงบปากสงบคำแทบไม่ทันกับคำๆเดียวที่คนตัวเล็กส่งมาให้ ยู กีฮยอนนอกจากจะใจร้ายแล้วยังปากร้ายอีกนะเนี่ย
"แล้วสรุปนายไปไหนมา?"วนกลับมาคำถามเดิม
ยู กีฮยอนนิ่งไปสักพักกับคำถามของอีกคนเพราะทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์ที่สถานีตำรวจ ความสับสนเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เขาควรจะบอกชางกยุนถึงสาเหตุการตายของอีกคนดีไหม หรือว่าเขาจะรอให้อะไรๆมันแน่ชัดไปกว่านี้เสียก่อน
"ฉัน..."เสียงขาดห้วงเมื่อในสมองของคนตัวเล็กตอนนี้กำลังเรียบเรียงคำเพื่อที่จะพูดกับคนตรงหน้าโดยที่จะไม่แสดงพฤติกรรมน่าสงสัยออกไป"ฉันเอาแอปเปิ้ลไปให้ลูกพี่ลูกน้องที่สถานีตำรวจมาน่ะ"
เพราะกีฮยอนยังไม่อยากให้ชางกยุนรู้ในตอนนี้
"แค่เอาแอปเปิ้ลไปให้คนทำไมต้องอ้ำๆอึ้งๆด้วย"ชางกยุนว่า
"เรื่องของฉัน"
เอาน่ากีฮยอน ถ้านายยังไม่อยากให้หมอนั่นรู้เรื่องในตอนนี้นายก็แค่แสดงออกไปให้เหมือนกับที่นายเคยทำก่อนหน้านี้ก็แค่นั้นเอง
"ฉันไม่น่าถามเลย เออ!! วันนี้มีคนมาหานายด้วยล่ะ"
ชางกยุนเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กเริ่มที่จะหัวร้อนกับคำพูดของเขาเมื่อสักครู่
"นายรู้ได้ยังไง?"
"แหะ แหะ" อิม ชางกยุนหัวเราะพร้อมส่งกับยิ้มแห้งๆมาให้เขา
"นายออกไปข้างนอกห้องอีกแล้วใช่ไหม? นี่ชางกยุนฉันบอกนายแล้วไงว่า..."
"ให้อยู่แต่ในห้องนี้"ชางกยุนรีบสวนขึ้นมาอย่างทันควัน"นายพูดคำนี้จนฉันแทบอยากเอามาตั้งเป็นสโลแกนประจำตัวอยู่แล้ว"
"แล้วออกไปทำไมอีก?"
"นี่กีฮยอนถามจริง ทำไมนายถึงไม่อยากให้ฉันออกไปข้างนอกห้องนี้จังเลย มันมีอะไรงั้นเหรอ?"
ชางกยุนไม่ตอบคำถามของเขาแต่เลือกที่จะถามกลับในสิ่งที่ตัวเองสงสัย แน่ล่ะถ้าหากว่าเป็นเขาเขาก็เลือกที่จะถามแบบนี้เหมือนกัน
"ฉัน..."
"นายทำไม?"
"ฉันก็แค่กลัวว่าคนอื่นจะเห็นนายแล้วตกใจก็แค่นั้นเอง"
"แล้วเห็นมะ?" "อะไร?"
"ก็ฉันหมายความว่ามีใครเห็นฉันไหม แม่นาย พี่สาวนาย หรือเพื่อนนายที่หน้าเหมือนกบคนนั้นน่ะ มีใครเห็นฉันไหม?"
เชื่อเถอะว่าชางกยุนคงหมดความอดทนแล้วจริงๆหลังจากที่ถูกคนตัวเล็กสั่งให้อยู่แต่ในห้องมาหลายวัน แน่นอนว่าเขาเองก็เบื่อเป็นเหมือนกันเพราะตลอดเวลาที่อยู่ในห้องนี้นอกจากการเดินสำรวจห้องนี้ก็ไม่มีอะไรดีไปกว่านั้นเลยสักนิด
"ก็..."
"ไม่มีใช่ไหมล่ะ? นายน่ะคิดมากไปเองกีฮยอน"
ไม่เคย ตั้งแต่เกิดมานอกจากแม่และครูที่โรงเรียนแล้ว กีฮยอนก็ไม่เคยถูกใครว่าหรือตักเตือนแบบนี้ อิมชางกยุนชักนะเอาใหญ่แล้ว
"นี่! ชางกยุน"
"หืม?"
"ถ้าเกิดว่าวันหนึ่งนายรู้สาเหตุการตายของตัวเอง นายจะทำยังไงเหรอ?" วกกลับมาในสิ่งที่ตัวเองอยากรู้ ก่อนที่จะมีความรู้สึกอยากเขกหัวตัวเองเพราะถามอะไรไม่เข้าท่าออกไป
"ไม่รู้สิ แต่ถึงฉันจะอยากทำฉันก็ทำไม่ได้อยู่ดี นายก็รู้ว่าฉันจับต้องอะไรไม่ได้"
"นาย...จำอะไรไม่ได้จริงๆเหรอ?"
ให้ตายเถอะทำไมวันนี้ถึงควบคุมตัวเองไม่ได้เลยนะ คอยเอาแต่ถามอะไรที่เป็นการทำร้ายความรู้สึกของอีกฝ่ายอยู่นั่นแหละกีฮยอน
แล้วทำไมเขาต้องห่วงความรู้สึกของหมอนั่นด้วยล่ะเนี่ย
"จำไม่ได้"
"เคยพยายามนึกไหม?"
"เคย..."
"แล้ว?"
"นายเจ็บ"
"ห้ะ?"
"ฉันเคยพยายามนึกว่าตัวเองเป็นใครอยู่หลายครั้ง และทุกครั้งที่ฉันนึกนายเองจะเจ็บที่หน้าอกตลอด"
ชางกยุนพูดความจริงที่กีฮยอนอาจจะไม่เคยใส่ใจ เพราะทุกครั้งที่เขาคอยเอาแต่ถามหาตัวตนของตัวเองในอดีต คนตัวเล็กเองก็จะเจ็บปวดตามไปด้วย นั่นเลยเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเลิกพยายามเพราะไม่อยากเห็นยู กีฮยอนต้องเจ็บปวดอีก
"ฉัน..."
"ช่างเถอะ! ว่าแต่พรุ่งนี้ล่ะ นายมีแผนหรือยัง"
ชางกยุนเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเมื่อเห็นว่าอีกคนเริ่มให้ความสนใจกับมันมากเกินไป เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมทุกครั้งที่เขานึกถึงอดีตของตัวเองมันถึงส่งไปถึงอีกคน จะว่าเขาคิดไปเองก็ได้ หากแต่สิ่งที่เขาพูดกับอีกคนมันเคยเกิดขึ้นหลายครั้งแล้วจนเขาเลิกพยายามนึกถึงมันไปแล้ว ไม่อยากจะคิดถึง
เพราะไม่อยากให้อีกคนเจ็บปวด
"อืม" "ไปที่ไหนเหรอ?"
"สวนศิลปะอันยาง" บอกกับอีกคนไปถึงสถานที่ที่เขาเลือกจะไปถ่ายรูปในวันพรุ่งนี้
"แต่นายไปชอบคนเยอะไม่ใช่เหรอ? แล้วสวนที่นายว่าเนี่ยมันคนไม่เยอะเหรอ?"
"นี่! อย่าถามมากได้ไหม"
"ก็ฉันอยากรู้นี่ ทีนายอยากรู้นายยังถามฉันได้เลย"
กวนประสาท บอกได้เลยว่าวินาทีชางกยุนกวนประสาทเขามากเลยที่เดียว เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะเบือนหน้าหนีอีกคนที่ยังอยู่ที่เดิมแล้วท่าเดิม
"เตรียมตัวด้วยแล้วกัน"
"ไปตอนนี้เลยยังได้ ฉันพร้อมแล้ว"
"ขี้โม้"
เด็กหนุ่มเดินมาที่โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมกับถอดเสื้อโค้ทออกมาพาดไว้ที่เก้าอี้ก่อนจะเดินไปนั่งลงที่ปลายเตียงเพื่อที่จะได้มองเห็นอีกคนที่อยู่หน้าต่างได้ชัดเจน
ชางกยุนในมุมนี้ดูดีมากนั่นคือสิ่งที่เขาคิดในตอนนี้ จริงๆเขาเองก็พึ่งที่จะมีโอกาสได้มองใบหน้าของอีกคนเต็มๆก็วันนี้แหละ หลังจากที่มีอคติกับอีกคนอยู่นาน ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขามีความคิดที่อยากจะช่วยใครสักคนทั้งๆที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มานานมากแล้ว แต่กับอีกคนที่อยู่ ณ ที่นี้กลับทำให้เขายอมช่วยทั้งๆที่เขาเองก็พึ่งรู้จักอีกฝ่ายได้ไม่นาน
…………………………………………………………...
ชะแวปมากลางดึกเพราะแต่งพึ่งเสร็จ ไม่มีอะไรจะแก้ตัวไม่มีเวลาแต่งเพราะมหาลัยไรท์เปิดเทอมแว้วววววว แต่ยังไงก็ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ รักทุกคนเสมอออออ
By P_Hyun6104
ความคิดเห็น