ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Monsta X]-Time (I.M X Kihyun) #ไทม์เอ็มกี

    ลำดับตอนที่ #4 : TIME-03-

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.ค. 60






    TIME

    IM X KIHYUN

    Episode 03
    #ไทม์เอ็มกี

    ………………………………………..

    -03-

    สถานีตำรวจคังนัมยังเต็มไปด้วยผู้คนมากมายแม้ว่าจะเป็นวันเสาร์ กีฮยอนเดินเข้ามาข้างในตัวสำนักงานอย่างคุ้นเคยเพราะมาที่นี่หลายครั้งแล้ว สายตาสอดส่องหาคนที่เขาตั้งในมาหาพร้อมกับสองมือที่ถือของพะรุงพะรัง มันคือถุงแอปเปิ้ลที่พี่เขาฝากมาให้สารวัตรซนนั่นแหละ

    "กีฮยอน!"

    "สวัสดีครับ"

    โค้งให้คนเป็นพี่ก่อนจะถูกผายมือเชิญให้เข้าไปด้านในห้องของนายตำรวจหนุ่ม ฮยอนอูรับถุงของฝากจากมือน้องชายคนสนิทก่อนจะเอาไปเก็บ

    "มาคนเดียวเหรอ?"

    "ครับ"

    ตอบกลับไปสั้นๆและไม่มีใครเอ่ยอะไรขึ้นอีก บอกตามตรงว่ากีฮยอนค่อนข้างที่จะรู้สึกอึดอัดกับสารวัตรหนุ่มอยู่ไม่น้อย ทั้งๆที่ครอบครัวเราสองคนสนิทกัน แต่ก็นั่นแหละ

    ยู กีฮยอนมันเป็นพวกที่มนุษยสัมพันธ์แย่

    "คุณน้าสบายดีใช่ไหม?"

    "สบายดีครับ แล้วพี่กับคุณป้าล่ะ สบายดีใช่ไหม?"ถามกลับไปตามมารยาท

    "สบายดีครับ"สารวัตรหนุ่มยิ้มตอบ

    "พี่คงมีงานเยอะ งั้นเดี๋ยวผมขอตัวแล้วกันครับ พอดีมีธุระต้องไปต่อเหมือนกัน"

    โกหก ยูกีฮยอนก็แค่โกหกเพื่อที่จะได้ออกไปจากห้องนี้ จากสถานการณ์ที่ชวนอึดอัดแบบนี้

    "อ่า งั้นเดี๋ยวพี่ออกไปส่ง"

    ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีกนอกจากกีฮยอนที่ลุกแล้วเดินนำนายตำรวจหนุ่มออกมาด้านนอกก่อน

    "อ้ะ!"

    "ขอโทษครับ!"

    เอกสารสีขาวกระจัดกระจายไปทั่วพื้นเมื่อคนตัวเล็กดันเปิดประตูห้องออกมาชนกับใครบางคนที่อาจจะมาทำธุระที่นี่

    ไวเท่าความคิดคนตัวเล็กก้มลงไปเก็บเอกสารที่กระจายบนพื้นช่วยอีกคนที่กำลังเก็บอยู่ก่อนหน้านี้ เด็กหนุ่มชะงักไปครู่หนึ่งพร้อมกับเอกสารแผ่นหนึ่งที่มือเล็กหยิบขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ เขาจะไม่รู้สึกอะไรเลยถ้าหากว่ารูปเล็กๆที่ติดอยู่มุมซ้ายของกระดาษไม่บังเอิญไปคล้ายกับใครบางคน ใครบางคนที่เขาพึ่งรู้จัก

    "คุณครับ!" ร่างเล็กสะดุ้งหลุดออกจากความคิดเมื่อถูกอีกฝ่ายเรียก

    "คะ...ครับ?"

    "เอ่อ...ผมขอเอกสารผมคืนด้วยครับ"

    เด็กหนุ่มมองเอกสารที่อยู่ในมือสลับกับคนตรงหน้าที่แบมือมาเพื่อของคืน เขาจำเป็นต้องยื่นเอกสารให้อีกคนพร้อมกับปล่อยไปพร้อมกับความสงสัยที่เกิดขึ้น ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?

    แล้วเป็นอะไรกับอิม ชางกยุน

    "พี่ครับ"

    "ว่าไง?"

    "ว่างไหม? ผมมีเรื่องอยากถามสักหน่อย"

    …………………………………………………………..

    แม่น้ำฮันคือสถานที่ที่เขาอยู่ในตอนนี้ สายตาทอดมองไปยังอีกฝั่งของแม่น้ำพร้อมกับความคิดมากมายที่ผุดขึ้นในหัว เขาแยกจากพี่ฮยอนอูเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว และมานั่งคิดสิ่งที่ได้รับรู้จากพี่ฮยอนอูอยู่ตรงนี้สองชั่วโมงแล้วเหมือนกัน

    'พี่ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกเพราะพี่ไม่ได้เป็นคนรับผิดชอบคดีนั้น พอรู้คร่าวๆว่าผู้ชายคนนั้นน่ะขับรถชนคนตาย พึ่งออกมาจากคุกเมื่อไม่กี่เดือนก่อนเพราะเป็นนักโทษที่ประพฤติดีเลยได้รับสิทธิ์ให้ออกมาช่วยเหลือสังคมข้างนอกและต้องมารายงานตัวทุกเดือน'

    คำบอกเล่าของพี่ฮยอนอูทำให้เขาต้องมานั่งคิด ชางกยุนตายเพราะถูกรถชน แต่ทำไมวิญญาณหมอนั่นถึงมาอยู่กับเขาทั้งๆที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลยสักนิดเดียว

    ~~~Rrrr~~~

    เสียงริงโทนของมือถือทำให้คนตัวเล็กหลุดออกจากภวังค์ ก่อนจะล้วงเข้าไปหยิบมือถือที่แผดเสียงดังอยู่ในกระเป๋าเสื้อโค้ทออกมา

    "ครับแม่"ขานรับปลายสายทันทีที่กดรับ

    (กีฮยอน ตอนนี้อยู่ที่ไหนลูก?)

    "ผมอยู่ที่แม่น้ำฮันครับแม่ แม่มีอะไรหรือเปล่า?"

    "พอดีเพื่อนที่โรงเรียนลูกเขามาหาน่ะจ่ะ แม่เลยโทรถามว่าลูกใกล้ถึงบ้านหรือยัง"

    เพื่อนที่โรงเรียน? เพื่อนเขาที่โรงเรียนเนี่ยนะ? เหอะ!

    "ใครเหรอครับ?"

    (เขาบอกแม่ว่าชื่อฮยองวอนน่ะจ่ะ)

    ฮยองวอน บุคคลน่ารำคาญอันดับหนึ่ง

    "บอกให้เขากลับไปเถอะครับแม่ ผมยังไม่เสร็จธุระ คาดว่าอีกนานเลย"

    (อย่างนั้นเหรอจ้ะ ได้ๆเดี๋ยวแม่บอกเพื่อนให้ แค่นี้นะ)

    "ครับแม่"ชิงกดวางสายไป

    แช ฮยองวอนอีกแล้วเหรอ ให้ตายเหอะหมอนี่เป็นอะไรกับเขานักหนานะถึงได้ตามรังควานกันไม่หยุดไม่หย่อนอย่างนี้ น่ารำคาญชะมัด

    ……………………………………………………….....

    "กีฮยอนบอกให้เรากลับไปก่อนน่ะจ่ะ เขายังไม่เสร็จธุระ"

    "อย่างนั้นเหรอครับ?"

    ฮยองวอนบอกกลับไป เชื่อเถอะว่าถ้าหมอนั่นเสร็จธุระอย่างที่คุณน้าบอกแล้วก็คงไม่ยอมมาเจอเขาอย่างแน่นอน ก็แสดงออกชัดว่ารำคาญเขาขนาดนั้น

    "คุณน้าครับ!"

    "ว่าไงจ้ะ?"

    "เมื่อก่อนน่ะ..."ฮยองวอนชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งว่าจะถามออกไปดีไหมเพราะเขาเองก็ไม่ได้สนิทสนมกับคนตรงหน้าสักเท่าไหร่"ไม่มีอะไรหรอกครับ งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ"

    คนตัวผอมลุกขึ้นก่อนจะโค้งผู้ที่มีอายุมากกว่าแล้วเอี้ยวตัวกลับ ก็อยากจะถามอยู่หรอกนะ แต่ก็ไม่อยากไปจุดฉนวนให้คุณน้าเขาต้องโกรธกับเหตุการณ์ที่ทำให้ลูกชายเขาต้องเป็นแบบนี้

    เพราะไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากเห็นลูกไม่มีความสุขหรอกจริงไหม?

    ………………………………………………………………………....

    ยูกีฮยอนกลับเข้าบ้านในเวลาบ่ายสามครึ่งของวันเขาเดินเข้าไปหาแม่และพี่สาวที่นั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องนั่งเล่น พูดคุยกันนิดหน่อยก่อนจะขอตัวขึ้นห้องนอนเมื่อนึกได้ว่ามีใครบางคนรออยู่

    "ไปไหนมาเหรอ?"

    ทันทีที่ปิดประตูห้องลงเสียงคำถามก็ดังขึ้นอยู่ที่ด้านหลัง ชางกยุนยืนกอดอกพิงสะโพกไว้กับขอบหน้าต่างที่เปิดอยู่ สีหน้าฉายแววความสงสัยออกมาเต็มที่

    "ใช้ความเป็นผีของนายเดาเองสิ"

    "โห...ถ้าฉันเก่งขนาดนั้นฉันคงจะไม่มานั่งขอความช่วยเหลือจากนายหรอกเปี๊ยก"สรรพนามใหม่ถูกยกขึ้นมาใช้กับคนตัวเล็ก

    "เมื่อกี้นายเรียกฉันว่าไงนะ?"

    "ก็เปี๊ยกไง"

    "เหอะ!"

    ได้แต่หัวเราะแห้งๆในลำคอ ถ้าถามกีฮยอนว่าเคืองไหมกับการที่อีกคนเรียกแบบนี้ก็คงไม่มีคำตอบอื่นนอกจากว่าเคืองจนอยากจะตื้บหมอนี่ให้จมดินไปเลยล่ะ แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ เขาจับต้องตัวของอีกฝ่ายได้ซะที่ไหน

    "อย่าเรียกฉันแบบนี้อีก ฉันไม่ชอบ"

    "อ้าว! ทำไมล่ะ?น่ารักดีออก"

    "อิม ชางกยุน!"

    เรียกชื่อเต็มพร้อมกับเสียงที่แข็งบ่งบอกว่าถ้าขืนยังเรียกเขาแบบนี้ก็เตรียมตัวหาที่อยู่ ไม่สิ! ที่สิงสถิตใหม่เลย

    "โอเคๆ หยอกนิดหยอกหน่อยก็ไม่ได้ ถามจริง ชีวิตนี้นายสะกดคำว่า'ร่าเริง'เป็นมะ?"

    "ยุ่ง!" สงบปากสงบคำแทบไม่ทันกับคำๆเดียวที่คนตัวเล็กส่งมาให้ ยู กีฮยอนนอกจากจะใจร้ายแล้วยังปากร้ายอีกนะเนี่ย

    "แล้วสรุปนายไปไหนมา?"วนกลับมาคำถามเดิม

    ยู กีฮยอนนิ่งไปสักพักกับคำถามของอีกคนเพราะทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์ที่สถานีตำรวจ ความสับสนเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เขาควรจะบอกชางกยุนถึงสาเหตุการตายของอีกคนดีไหม หรือว่าเขาจะรอให้อะไรๆมันแน่ชัดไปกว่านี้เสียก่อน

    "ฉัน..."เสียงขาดห้วงเมื่อในสมองของคนตัวเล็กตอนนี้กำลังเรียบเรียงคำเพื่อที่จะพูดกับคนตรงหน้าโดยที่จะไม่แสดงพฤติกรรมน่าสงสัยออกไป"ฉันเอาแอปเปิ้ลไปให้ลูกพี่ลูกน้องที่สถานีตำรวจมาน่ะ"

    เพราะกีฮยอนยังไม่อยากให้ชางกยุนรู้ในตอนนี้

    "แค่เอาแอปเปิ้ลไปให้คนทำไมต้องอ้ำๆอึ้งๆด้วย"ชางกยุนว่า

    "เรื่องของฉัน"

    เอาน่ากีฮยอน ถ้านายยังไม่อยากให้หมอนั่นรู้เรื่องในตอนนี้นายก็แค่แสดงออกไปให้เหมือนกับที่นายเคยทำก่อนหน้านี้ก็แค่นั้นเอง

    "ฉันไม่น่าถามเลย เออ!! วันนี้มีคนมาหานายด้วยล่ะ"

    ชางกยุนเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กเริ่มที่จะหัวร้อนกับคำพูดของเขาเมื่อสักครู่

    "นายรู้ได้ยังไง?"

    "แหะ แหะ" อิม ชางกยุนหัวเราะพร้อมส่งกับยิ้มแห้งๆมาให้เขา

    "นายออกไปข้างนอกห้องอีกแล้วใช่ไหม? นี่ชางกยุนฉันบอกนายแล้วไงว่า..."

    "ให้อยู่แต่ในห้องนี้"ชางกยุนรีบสวนขึ้นมาอย่างทันควัน"นายพูดคำนี้จนฉันแทบอยากเอามาตั้งเป็นสโลแกนประจำตัวอยู่แล้ว"

    "แล้วออกไปทำไมอีก?"

    "นี่กีฮยอนถามจริง ทำไมนายถึงไม่อยากให้ฉันออกไปข้างนอกห้องนี้จังเลย มันมีอะไรงั้นเหรอ?"

    ชางกยุนไม่ตอบคำถามของเขาแต่เลือกที่จะถามกลับในสิ่งที่ตัวเองสงสัย แน่ล่ะถ้าหากว่าเป็นเขาเขาก็เลือกที่จะถามแบบนี้เหมือนกัน

    "ฉัน..."

    "นายทำไม?"

    "ฉันก็แค่กลัวว่าคนอื่นจะเห็นนายแล้วตกใจก็แค่นั้นเอง"

    "แล้วเห็นมะ?" "อะไร?"

    "ก็ฉันหมายความว่ามีใครเห็นฉันไหม แม่นาย พี่สาวนาย หรือเพื่อนนายที่หน้าเหมือนกบคนนั้นน่ะ มีใครเห็นฉันไหม?"

    เชื่อเถอะว่าชางกยุนคงหมดความอดทนแล้วจริงๆหลังจากที่ถูกคนตัวเล็กสั่งให้อยู่แต่ในห้องมาหลายวัน แน่นอนว่าเขาเองก็เบื่อเป็นเหมือนกันเพราะตลอดเวลาที่อยู่ในห้องนี้นอกจากการเดินสำรวจห้องนี้ก็ไม่มีอะไรดีไปกว่านั้นเลยสักนิด

    "ก็..."

    "ไม่มีใช่ไหมล่ะ? นายน่ะคิดมากไปเองกีฮยอน"

    ไม่เคย ตั้งแต่เกิดมานอกจากแม่และครูที่โรงเรียนแล้ว กีฮยอนก็ไม่เคยถูกใครว่าหรือตักเตือนแบบนี้ อิมชางกยุนชักนะเอาใหญ่แล้ว

    "นี่! ชางกยุน"

    "หืม?"

    "ถ้าเกิดว่าวันหนึ่งนายรู้สาเหตุการตายของตัวเอง นายจะทำยังไงเหรอ?" วกกลับมาในสิ่งที่ตัวเองอยากรู้ ก่อนที่จะมีความรู้สึกอยากเขกหัวตัวเองเพราะถามอะไรไม่เข้าท่าออกไป

    "ไม่รู้สิ แต่ถึงฉันจะอยากทำฉันก็ทำไม่ได้อยู่ดี นายก็รู้ว่าฉันจับต้องอะไรไม่ได้"

    "นาย...จำอะไรไม่ได้จริงๆเหรอ?"

    ให้ตายเถอะทำไมวันนี้ถึงควบคุมตัวเองไม่ได้เลยนะ คอยเอาแต่ถามอะไรที่เป็นการทำร้ายความรู้สึกของอีกฝ่ายอยู่นั่นแหละกีฮยอน

    แล้วทำไมเขาต้องห่วงความรู้สึกของหมอนั่นด้วยล่ะเนี่ย

    "จำไม่ได้"

    "เคยพยายามนึกไหม?"

    "เคย..."

    "แล้ว?"

    "นายเจ็บ"

    "ห้ะ?"

    "ฉันเคยพยายามนึกว่าตัวเองเป็นใครอยู่หลายครั้ง และทุกครั้งที่ฉันนึกนายเองจะเจ็บที่หน้าอกตลอด"

    ชางกยุนพูดความจริงที่กีฮยอนอาจจะไม่เคยใส่ใจ เพราะทุกครั้งที่เขาคอยเอาแต่ถามหาตัวตนของตัวเองในอดีต คนตัวเล็กเองก็จะเจ็บปวดตามไปด้วย นั่นเลยเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเลิกพยายามเพราะไม่อยากเห็นยู กีฮยอนต้องเจ็บปวดอีก

    "ฉัน..."

    "ช่างเถอะ! ว่าแต่พรุ่งนี้ล่ะ นายมีแผนหรือยัง"

    ชางกยุนเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเมื่อเห็นว่าอีกคนเริ่มให้ความสนใจกับมันมากเกินไป เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมทุกครั้งที่เขานึกถึงอดีตของตัวเองมันถึงส่งไปถึงอีกคน จะว่าเขาคิดไปเองก็ได้ หากแต่สิ่งที่เขาพูดกับอีกคนมันเคยเกิดขึ้นหลายครั้งแล้วจนเขาเลิกพยายามนึกถึงมันไปแล้ว ไม่อยากจะคิดถึง

    เพราะไม่อยากให้อีกคนเจ็บปวด

    "อืม" "ไปที่ไหนเหรอ?"

    "สวนศิลปะอันยาง" บอกกับอีกคนไปถึงสถานที่ที่เขาเลือกจะไปถ่ายรูปในวันพรุ่งนี้

    "แต่นายไปชอบคนเยอะไม่ใช่เหรอ? แล้วสวนที่นายว่าเนี่ยมันคนไม่เยอะเหรอ?"

    "นี่! อย่าถามมากได้ไหม"

    "ก็ฉันอยากรู้นี่ ทีนายอยากรู้นายยังถามฉันได้เลย"

    กวนประสาท บอกได้เลยว่าวินาทีชางกยุนกวนประสาทเขามากเลยที่เดียว เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะเบือนหน้าหนีอีกคนที่ยังอยู่ที่เดิมแล้วท่าเดิม

    "เตรียมตัวด้วยแล้วกัน"

    "ไปตอนนี้เลยยังได้ ฉันพร้อมแล้ว"

    "ขี้โม้"

    เด็กหนุ่มเดินมาที่โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมกับถอดเสื้อโค้ทออกมาพาดไว้ที่เก้าอี้ก่อนจะเดินไปนั่งลงที่ปลายเตียงเพื่อที่จะได้มองเห็นอีกคนที่อยู่หน้าต่างได้ชัดเจน

    ชางกยุนในมุมนี้ดูดีมากนั่นคือสิ่งที่เขาคิดในตอนนี้ จริงๆเขาเองก็พึ่งที่จะมีโอกาสได้มองใบหน้าของอีกคนเต็มๆก็วันนี้แหละ หลังจากที่มีอคติกับอีกคนอยู่นาน ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขามีความคิดที่อยากจะช่วยใครสักคนทั้งๆที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มานานมากแล้ว แต่กับอีกคนที่อยู่ ณ ที่นี้กลับทำให้เขายอมช่วยทั้งๆที่เขาเองก็พึ่งรู้จักอีกฝ่ายได้ไม่นาน

    …………………………………………………………...
    ชะแวปมากลางดึกเพราะแต่งพึ่งเสร็จ ไม่มีอะไรจะแก้ตัวไม่มีเวลาแต่งเพราะมหาลัยไรท์เปิดเทอมแว้วววววว แต่ยังไงก็ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ รักทุกคนเสมอออออ
    By P_Hyun6104


















     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×