ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หน้าใส สะอาด

    ลำดับตอนที่ #1 : สิว

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 49


      สิว

     วันก่อน ได้มีโอกาสปลีกเวลาว่าง (ซึ่งหาได้ยากยิ่งกว่างมเข็มใน มหาสมุทร ไปเดินปล่อยอารมณ์ที่เซ็นเตอร์พอยท์ (center point) จะได้ อารมณ์แปลกประหลาดไปอีกแบบหนึ่ง คล้ายกับว่าอยู่คนละโลกกัน โลกอันสดใสของเด็กวัยรุ่น ซึ่งต่างแต่งตัวแข่งขัน ประชันแฟชั่นกันอย่าง สุดฤทธิ์สุดเดช สีสันฉูดฉาดบาดตาของทรงผม เรียกว่าแทบจะหาผมสีดำ ธรรมดาไม่ค่อยเจอเลย ส่วนใหญ่จะเป็นทรงผมประเภทหนามทุเรียน ตั้งๆ โด่เด่กันทั้งนั้น บางคนก็เป็นทรงผมแบบกระเซอะกระเซิง จะรู้สึกว่าเท่กว่า ใครๆ เดินไปเดินมารู้สึกว่าเราเตี้ยกว่าใครๆ เพราะเขาใส่ส้นตึกเอ็มไพร์กัน ทั้งนั้น พยายามเงี่ยหูฟังว่าเขาคุยอะไรกันบ้าง นอกจากเขาจะคุยกันเรื่อง แต่งตัว แฟชั่นต่างๆ จะดูหนังเรื่องอะไรดี

     

    แล้ววัยรุ่นเขายังคุยกันเรื่อง "ว๊าย! ฉันเป็นสิวเต็มหน้าเลย มีรอยแผลเป็นด้วย ทำยังไงดีละคะ"

    สิว จัดเป็นปัญหาโลกแตก บางครั้งดูเหมือนแก้ไขได้ง่ายนิดเดียว แต่บางครั้งกลับแก้ไข หรือรักษาได้ยาก เชื่อว่าทุกท่านคงต้องรู้จัก "สิว" กันแทบทั้งนั้น สิวมีสาเหตุจากอะไรได้บ้าง

     

    สาเหตุและปัจจัยชักนำที่ทำให้เกิดสิว

    1. รูเปิดและท่อทางเดินของต่อมไขมันอุดตัน (Ductal hypercornification) เราจะพบว่า ผู้ที่มีใบหน้ามัน ผมมัน หนังศีรษะมัน มักจะเกิดสิวได้ง่ายกว่าผู้ที่มีใบหน้าแห้ง

    2. แบคทีเรีย ส่วนใหญ่จากเชื้อแบคทีเรีย พวก P.acnes แต่บางครั้งมีการติดเชื้ออื่นๆ แทรกซ้อนได้

    3. เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว บางคนใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงผิวหลายชนิด และเกิดอาการแพ้ ระคายเคืองทำให้ท่อทางเดินของต่อมไขมันเกิดการอักเสบและอุดตัน ทำให้เกิดสิวได้

    4. ช่วงใกล้มีประจำเดือน (Premenstrual) ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนมีประจำเดือน จะมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนภายในร่างกาย จะกระตุ้นให้เกิดสิวมากขึ้นได้

    5. ยา บางชนิดทำให้เกิดสิวมากขึ้นได้ เช่น ยาพวกสเตียรอยด์ชนิดกินและชนิดทา ยาคุมกำเนิด ฮอร์โมนเพศชายแอนโดรเจน (androgen) เป็นต้น

    6. กรรมพันธุ์ มีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง ถ้าพ่อแม่เป็นสิวมาก ลูกก็มีโอกาสเป็นสิวมากเช่นกัน

    7. ความเครียด วิตกกังวล ผู้ที่ทำงานหนักมากเกินไป เครียด วิตกกังวลมาก นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอจะเกิดสิวได้ง่าย

    8. การถู ขัดหน้า พอกหน้า สารพัดแบบ ถ้าท่านทำมากเกินไปบ่อยครั้งจนเกินไป จะทำให้ตัวคลุมผิวตามธรรมชาติ (skin barrier) หลุดลอกออกไป ผิวหน้าจะยิ่งบางลง และไวต่อสภาวะแวดล้อมต่างๆ มากขึ้น จะเกิดการแพ้ ระคายเคือง และเกิดสิวมากขึ้นได้ จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

    9. อาหาร เครื่องดื่มพวกเหล้า เบียร์ ที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ จะมีส่วนทำให้เกิดสิวมากขึ้นได้ แต่ช็อกโกแลตไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่หลายคนว่าทานช็อกโกแลตแล้วเป็นสิวมากขึ้น คิดว่าคงเป็นการบังเอิญมากกว่า

    10. อากาศร้อน ถ้าอยู่ในที่อากาศร้อนมากๆ จะเกิดสิวได้ง่ายกว่าที่มีอากาศเย็นๆ ฯลฯ

     

    วิธีการรักษาสิว

    §         กลุ่มยากิน ได้แก่

    1. กลุ่มยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) ที่ใช้ได้ผลดี คือ

    ·         Tetracycline

    ·         Doxycycline

    ·         Minocycline

    กินอย่างไร นานแค่ไหน ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์เท่านั้น

    2. กลุ่มยากรดวิตามินเอ คือ ยา Roaccutane (ยาเม็ดรักบี้)

    ·         ใช้ได้ผลดีมาก ออกฤทธิ์ยับยั้ง ทำให้ต่อมไขมันทำงานลดลง ต่อมไขมันมีจำนวนและขนาดลดลง สิวจึงลดน้อยลงได้

    ·         ต้องอยู่ในความควบคุมดูแลของแพทย์เท่านั้น เพราะมีผลข้างเคียงหลายประการ

    ·         ราคาแพงพอสมควร

    ผลข้างเคียง

    1. มีผลต่อเด็กในครรภ์ได้ ผู้หญิงที่กินยานี้ ต้องห้ามตั้งครรภ์ ถ้าจะต้องการตั้งครรภ์ จะต้องหยุดยากินตัวนี้ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ จึงจะปล่อยให้ตั้งครรภ์ได้ เพราะฉะนั้นจึงต้องควบคุมอย่างเคร่งครัด ในความดูแลของแพทย์

    2. ริมฝีปากจะแห้งมาก

    3.ไขมันในเลือดสูงขึ้นได้

    ฯลฯ

    3. กลุ่มยาฮอร์โมน คือยา Diane 35 ใช้ได้ผลดีแต่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์เช่นกัน

    §         กลุ่มยาทา ได้แก่

    1. กลุ่มยาทาปฏิชีวนะ เช่น 1% clindamycin (Dalacin-T), 2% Ery thromcin (Eryacne) ฯลฯ

    2. กลุ่มยาทาก่อนล้างหน้า เช่น 2.5%, 5% Benzylperoxide, Benzac, Brevoxyl ฯลฯ

    3. กลุ่มยาทากรดวิตามินเอ เช่น Retin-A, Stieva, Isotrex gel, Retacnyl ฯลฯ

    4. กลุ่มแป้งน้ำ เช่น Lotion P, Acne lotion

    5. กลุ่มอื่นๆ เช่น Skinoren, Differin

    §         กลุ่มสบู่

    มีหลายชนิดที่ใช้ได้ผลดี เช่น Acne aid, Cetaphil, L-soap, Physiogel, pH Eucerin Wash ฯลฯ

    การฉีดยารักษาสิว (Intralesional Kenacorte) ในกรณีที่เป็นสิวอักเสบรุนแรง สิวเม็ดใหญ่มากๆ (Cystic acne) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาจใช้วิธีฉีดยา kenacort เข้าไปที่หัวสิวโดยตรงเลย ซึ่งจะทำให้สิวยุบหายค่อนข้างเร็วได้ผลดี แต่เจ็บพอสมควร และต้องฉีดยาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะถ้าฉีดไม่ดีลงลึกเกินไปจะทำให้ผิวหนังบุ๋มลงได้

     

    การรักษารอยแผลเป็นหลุมลึกจากสิว (Pitted scar)

    1. Iontophoresis แพทย์จะใช้เครื่องมือชนิดนี้ทายาที่ใบหน้า และถูก นวดหน้า โดยใช้หลักการของประจุไฟฟ้า คือ เครื่องมือนี้จะปล่อยประจุไฟฟ้าและจะผลักตัวยา ให้ลงลึกสู่ผิวหนังชั้นหนังแท้ (dermis) ทำให้สามารถปิดรูขุมขน ทำให้แผลเป็นตื้นขึ้นได้ ใช้ได้ผลดีพอสมควร นอกจากนี้เครื่องมือชนิดนี้ยังสามารถใช้รักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยเหี่ยวย่น ริ้วรอยต่างๆ ได้ผลดีพอสมควรอีกด้วย

    2. ใช้แสงเลเซอร์ (Laser dermabrasion) สามารถใช้แสงเลเซอร์ กรอแผลเป็นจากสิว ทำให้ใบหน้าเนียนเรียบขึ้นได้ จะเห็นได้ว่าการดูแลสุขภาพผิวพรรณให้ดี และวิธีการรักษาสิวนั้น ไม่ยากจนเกินความสามารถ ถ้าท่านให้ความสนใจ ใส่ใจดูแลสุขภาพผิวพรรณของท่าน และท่านก็จะมีบุคลิกภาพที่ดียิ่งขึ้นตลอดไป

     

    ปล. ต้องขอบคุง พญ.วิญญารัตน์ ตันศิ มักมาก...........ก ที่ให้วิธีการต่างๆกับสาวจอมซ่า....ส์และทุกคนน่ะคร่า 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×