ตอนที่ 8 : TLC - 7 | 108%
ตลอดทั้งเดือนที่ผ่านมามาร์คก็เฝ้าสังเกตแบมแบมตลอดและดูเหมือนจะติดหนึบกว่าเก่าด้วยซ้ำ จนคนในบริษัทแบมแบมคุ้นหน้าคุ้นตาเขาเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ได้ทำตัวไร้ประโยชน์ไปวันๆหรอกนะ มีอะไรที่พอจะช่วยได้เขาก็จะช่วยจนคนเข้าใจผิดบ่อยๆว่ามาทำงานพาร์ทไทม์หรืออย่างไร
มาร์คมักจะสังเกต เฝ้ามองคนไปมาหาสู่แบมแบมเรื่อยๆตลอดเวลา ส่วนใหญ่ก็มีแต่ลูกค้าแก่ๆหรือพวกเสี่ยมีตังที่จะสร้างตึกหรือรีสอร์ท แต่แบมก็ดูเหมือนไม่ได้อะไร ลูกค้าก็คือลูกค้านั่นแหละ ไม่เห็นจะมีใครที่แบมแบมรู้จักหรือสนิทด้วยเลยสักคนเท่าที่ดูมา ส่วนไอ่คุณเซนก็หายหน้าหายตามาร์คเองก็ไม่เห็น แต่พอลอบถามพี่เฟยแล้วก็ได้ความมาว่าจะเข้ามาดีลงานในเร็วๆนี้ ฉะนั้นแล้วเขาก็ต้องแคนเซิลตารางเวลากิจกรรมให้ว่างที่สุดเพื่อพร้อมรับมือกับไอ่คุณเซนที่ดูเป็นตัวอันตรายที่สุดแล้ว
จริงๆก็พอเบาใจไปครึ่งหนึ่งหลังจากยินบทสนทนาแบมกับพี่ยองแจ ที่ผ่านมาเกือบเดือนแล้ว ก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพิ่มเติมจนแทบเลือนราง อาจเป็นเขาที่คิดมากไปเองหรือแบมอาจจะหมายถึงชอบหมาชอบแมวที่ไหนก็ได้ ยิ่งเป็นคนแปลกๆชอบตั้งชื่อให้อะไรมั่วๆอยู่นั่นแหละ แต่ก็อดระแวงไม่ได้อยู่ดี
ส่วนเรื่องการสอบที่ใกล้จะเข้ามาถึงในอีกไม่กี่สัปดาห์มาร์คก็ไปติวให้เพื่อนเรื่อยๆ วันละสามสิบนาทีถึงหนึ่งชั่วโมง เลือกนัดที่ใกล้ๆกับบริษัทแบมแบมอย่างร้านกาแฟหรือร้านขนมเค้ก เพราะจะต้องรีบไปทำหน้าที่ยามในความคิดมโนต่อ จนถึงตอนนี้พวกมันก็ยังไม่รู้เลยว่ามาร์คกับเจ้าของบริษัท BK design มีความเกี่ยวข้องกันยังไง
ส่วนการยื่นแฟ้มผลงานเข้ามหาลัยของมาร์คเองก็ผ่านฉลุยโดยแทบไม่ต้องทำอะไร การไปให้สัมภาษณ์ก็เหมือนกับเป็นการคุยเล่นกับคณบดีเสียมากกว่า นี่มันเดินเข้ามหาลัยแบบที่บอกเลยจริงๆ จึงไม่ต้องมานั่งคิดอะไรมาก รอเวลาเปิดภาคเรียนซะก็จบ ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณแบมที่สรรหาเวลามาช่วยทำแฟ้มผลงานให้เขา จึงมีเวลามานั่งตีขาเล่นในห้องแบมแบมอยู่ในตอนนี้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ขออนุญาตค่ะ” คุณเฟยเดินเข้ามาเคาะประตูห้องประธานของเขาไม่ทันไร ก็มีตัวยุ่งที่ไม่รู้ว่ามาบริษัททำไมทุกวันเดินมาเปิดประตูให้เฟย ท่าทางของคุณเลขาที่ถือ Ipad มาหนึ่งเครื่องช่างดูเงอะงะในสายตามาร์ค นี่ทำงานมากี่ปีทำไมดูไม่กระฉับกระเฉง
เฟยที่มัวแต่ก้มหน้าก้มตาเขินมาร์คก็ไม่ยอมเข้าห้องจนมาร์คเรียก
“มาเคาะประตูเล่นเฉยๆหรอครับ” มาร์คทำเสียงขรึม ตัวเองก็รอยืนปิดประตูห้องให้แบม สายตาจ้องคุณเลขาราวกับกดดัน
ไม่ว่าจะเจอกันไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งเฟยก็ไม่เคยชินกับคุณมาร์คสักที จะว่าหล่อก็หล่อนะ แต่น่ากลัวเกินไปจนไม่กล้ายุ่ง นี่เป็นรุ่นน้องเขาแน่ใช่ไหม?
“คือเฟยจะมาคุยงานกับคุณแบมแบม” เฟยทำท่าทีอึกอักไม่กล้าไล่มาร์คตรงๆ เพราะเขาต้องคุยงาน เรื่องนี้อาจจะเป็นไพรเวทสำหรับคุณแบมแบม
“ก็คุยไปสิครับ” มาร์คขมวดคิ้วตอบ จะคุยก็คุยไปสิ แล้วทำไมถึงไม่ยอมเข้าห้องสักทีล่ะเนี่ย
“มาร์ค” เป็นแบมแบมที่ดึงแว่นออกจากใบหน้าก่อนจะเอ่ยเรียกมาร์คเสียงแข็ง ให้รู้ว่าควรที่จะออกไปก่อน
“โอเค รีบๆคุยนะครับ ผมจะไปซื้อหนมรอ” ว่าจบมาร์คก็ดึงประตูเข้ามาให้กว้างรอคุณเลขาเดินเข้ามาเสร็จตัวเองจึงค่อยเดินออกไป
“เฮ้อ ดื้อจริงๆเลย” พอมาร์คออกไปได้สักพักแบมแบมก็พ่นหายใจบ่นตามหลัง
“เดี๋ยวนี้คุณมาร์คมาทุกวันเลยนะคะ ติดคุณแบมแจเลย” เฟยเอ่ยยิ้มขึ้นมาบ้าง
“ไม่รู้ว่ามาทำไมเหมือนกันครับ ว่าแต่คุณเฟยมีอะไรหรือป่าว” แบมแบมวกเข้าเรื่องงานก่อนที่จะคุยกันนอกเรื่องไปมากกว่านี้
“อ่อใช่ค่ะ..คือที่คุณแบมจ้างวิศวะมาน่ะค่ะ คุมไซต์งานตอนนี้เริ่มมีโครงสร้างแล้ว คุณเมสันอยากให้คุณแบมไปดูสักสองสามวันน่ะค่ะ” เฟยตาจ้อง Ipad บอกตารางงานพร้อมรายละเอียดสลับกับมองหน้าแบมแบมเป็นพักๆ
เนื่องจากบริษัทแบมแบมเป็นแค่บริษัทออกเป็นไม่ได้จ้างวิศวะมาเป็นพนักงาน เวลาที่ต้องออกแบบตึกหรืออาคารต่างๆก็ต้องจ้างวิศวะมาร่วมทีมกับสถาปนิกพร้อมกับทีมเขียนแบบอีกที ส่วนคนที่รับผิดชอบอาคารทั้งหลัง เซ็นใบอนุมัติก็ยังคงเป็นแบมแบมเพียงแต่ตอนคุมไซต์งานก็จะเป็นวิศวะที่จ้างมา แต่ก็มีคิดๆอยู่ว่าจะรับพนักงานส่วนของวิศวะเข้ามาเป็นพนักงานเพิ่มด้วย ต้องรอคุยกับฝ่ายบริหารและเสียงส่วนใหญ่ดูก่อน เพราะทั้งบริษัทไม่ได้มีเพียงแต่ทีมออกแบบบ้านออกแบบอาคาร แต่รวมไปถึงดีไซต์เนอร์ที่ออกแบบชุดด้วย ถ้ารับวิศวะมาเป็นพนักงานเลยก็เกรงว่าจะไม่ตรงกับคอนเซ็ปบริษัทสักเท่าไหร่ เพราะแค่เขาที่จบสถาปนิกมาคนส่วนใหญ่ก็คิดไปเสียครึ่งแล้วว่าเป็นบริษัทที่มีแค่สถาปนิก
ส่วนคุณเมสันถ้าจำไม่ผิดก็คือคุณ ไมค์ เมสัน ที่เขาจ้างมาจากบริษัทอเมริกา จะว่าไปก็ไม่เคยเห็นคุณเมสันอะไรนี่เหมือนกันแหะ
“จะให้ผมไปช่วยคุมไซต์งานหรอครับ” แบมแบมถาม
“ก็ไม่เชิงค่ะ คุณเมสันอยากให้คุณแบมแบมไปดูหน้างานเอง ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นหรือป่าวนะคะ ตรงส่วนนี้คุณเมสันไม่ได้แจ้งมา”
“ก็ดีเหมือนกันครับ ออกนอกพื้นที่บ้าง ผมต้องเริ่มไปวันไหนหรอครับ”
“พรุ่งนี้ค่ะ”
“พรุ่งนี้!”
“ชะ..ใช่ค่ะ”
“ทำไมเค้าต้องรีบอะไรขนาดนั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยหรอครับ”
“ไม่ได้แน่นอนค่ะ เพราะเฟยเคลียร์ตารางงานให้คุณแบมแบมหมดแล้วค่ะ”
“แบบนี้มันมัดมือชกกันชัดๆเลยหนิครับ” เฟยไม่รู้ว่าจะไปต่อยังไงเลยยิ้มแห้งเป็นคำตอบ ก็ในเมื่อที่ประธานพูดมามันก็เป็นเรื่องจริงทุกประการ เขาโดนคุณเมสันกำชับมาว่าต้องลากคุณแบมไปไซต์งานให้ได้ กลัวคุณแบมก็กลัวอยู่หรอก แต่กลัวคุณเมสันมากกว่า...
อีกอย่างงานนี้คุณแบมแบมก็ควรที่จะไป เพราะยังไงผู้ว่าจ้างก็ต้องไปดูงานเองอยู่แล้วหลังจากที่บอกปัดและให้คนอื่นไปแทนตั้งหลายรอบ แถมช่วงนี้ประธานก็ดูเหนื่อยๆก็อยากจะให้ไปพักผ่อนด้วย
“ที่ไหนหรอครับ”
“คยองกีโดค่ะ คุณแบมต้องเดินทางช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ เดินทางโดนประมาณ หนึ่งชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมงค่ะ เฟยจัดเตรียมรถตู้ไว้ให้แล้ว”
“ถ้าวางแผนมาขนาดนี้ก็ไม่น่าจะถามผมแต่แรกนะครับ”
“ได้ยังไงกันล่ะคะ เฟยก็ต้องมาถามความเห็นประธานก่อนอยู่แล้ว”
“แค่ให้เป็นพิธีล่ะสิครับ แต่ก็เอาเถอะคยองกีโดก็ไม่เลว แวะเล่นสกีหิมะช่วงนี้คงดีไม่ใช่น้อย”
“นั่นแหละค่ะ เฟยจองโรงแรมใกล้กับสถานที่พักผ่อนให้คุณแบมเรียบร้อยแล้วค่ะ”
“ครับ” ถึงคุณเลขาของเขาวันนี้จะดูพูดเจื้อยแจ้วเป็นพิเศษก็เถอะ แต่แบมแบมก็ไมได้สนใจอะไรแบบเคย อยากให้เขาไปก็จะไป มันก็เป็นหน้าที่ของเขาอยู่แล้วนี่เนอะ
“เอ่อ...แล้ว..คุณแบมจะไปกับใครหรอคะ”
“คุณเฟยไม่ได้เตรียมให้หรอครับ ผมต้องไปคนเดียวหรอ” แบมแบมชี้นิ้วเข้ามาตัวเองเลิกคิ้วเชิงสงสัยใส่เลขา
สรรหาจัดเตรียมให้ขนาดนี้แต่ไม่รู้ว่าเขาควรจะไปกับใครเนี่ยนะ?
“ก็คุณเมสันเอ่ยชื่อเฉพาะคุณแบมแบมนี่คะ ไม่ได้บอกให้ทีมไหนติดตามไปด้วย คุณเมสันเข้าก็คงอยากให้คุณแบมไปดูผลงานแค่นั้นแหละค่ะ แล้วเฟยก็อยากให้คุณแบมพักผ่อนด้วยถ้าเอาทีมงานไปเยอะๆก็คงจะรบกวน...”
“จะไปเที่ยวกันหรอครับ!” ไอ่ตัวยุ่งที่กลับมาจากการซื้อขนม เข้ามาให้พร้อมกับถุงพะรุงพะรังและสตาร์บัคในมืออีกหนึ่งแล้ว เดินเข้ามาถึงในห้องเพียงไม่กี่ก้าวก็เอ่ยขึ้นแทรกบทสนทนา
“คงไม่ต้องเลือกแล้วล่ะครับว่าจะเอาใครไป แค่คนเดียวก็คงจะวุ่นกว่าคนเป็นสิบแล้วมั้งครับ หึๆ” แบมแบมพูดหยอกล้อกับคุณเฟย เป็นอันรู้กันแล้วว่าอีกคนที่จะไปกับคุณแบมคือใคร โดยที่บุลคลที่โดนกล่าวถึงทำหน้างงไม่รู้เรื่องราว
---40%---
“แบมดูนี่ หล่อมะ” เจ้าดื้อหยิบเสื้อแจ็คเก็ตสีดำที่แขวนอยู่มาลองใส่พร้อมกับโพสท่าเป็นนายแบบประหนึ่งถ่ายแม็กกาซีนในร้านเสื้อผ้าของแบรนด์ดังเรียกร้องความสนใจจากพี่แบมที่กำลังง่วนอยู่กับการเลือกเสื้อเชิ๊ตสีขาวของตัวเอง
“ถ้าบอกว่าหล่อก็จะซื้ออีกหรอ” แบมแบมถามมาร์คสลับกับมองเสื้อผ้ากองพะเนินที่เจ้าตัวเป็นคนหิ้วมาเองทั้งหมด เพียงเพราะแบมแบมตอบมาร์คไปว่าหล่ออย่างไม่ได้ใส่ใจเจ้าตัวก็เล่นหอบมันมาทุกชิ้น จนถึงตอนนี้ยังไม่หยุดเลือกเลย...
ช็อปหนักกว่าพี่แบมก็มาร์คดื้อนี่แหละ
ในวันเดียวกันที่รู้ว่าจะต้องมีแพลนออกไปทำงานนอกสถานที่ ตกเย็นหลังหมดเวลางานและเคลียร์เอกสารเรียบร้อยแล้วไอ่อ้วนก็ลากเขาออกจากบริษัทให้มาเดินเลือกเสื้อผ้ากับของใช้ที่ต้องเตรียมไปเที่ยวในวันพรุ่งนี้
ไม่ใช่คนชอบเข้าห้างแท้ๆ แบบนี้มันเรียกว่าเห่อนี่น่า
“ใส่แล้วหล่ออะ ก็ต้องซื้อป้ะ” ไอ่อ้วนลอยหน้าลอยตาพูดมือก็ยังไม่หยุดแหวกเลือกเสื้อตัวต่อไป
“ไม่หล่อแล้ว ทำไมมาร์คซื้อเยอะแบบนี้อะ ไปไม่กี่วันเอง ที่มาร์คเลือกมันใส่ได้เป็นเดือนเลยนะ” แบมเริ่มทำหน้างอใส่มาร์ค
“ก็นานๆแบมจะยอมมาเดินซื้อของด้วยทั้งทีนี่ครับ”
“มาร์คมาเดินกับเพื่อนวันหลังก็ได้ ดูดิจะขนยังไงไหวล่ะเนี่ย” แบมแบมเดินตรงยังกองผ้าที่ทับๆไว้บนเก้าอี้หยิบขึ้นมาดูอย่างพิจารณา
“ก็เพื่อนเลือกของให้มาร์คไม่ได้ดีเท่าแบมนี่น่า” ถึงเพื่อนจะบอกว่าใส่ตัวนี้แล้วหล่อมากก็ไม่เท่ากับแบมบอกว่าหล่อนิดหน่อยหรอก จะใส่หล่อไปให้แบมดูไม่ได้ให้เพื่อนดู เลือกไปก็ไม่ซื้ออยู่ดี...
“ก็เนี่ย...”
“นะครับ.. น้า ตามใจอ้วนหน่อยนะ” ยังไม่ทันที่พี่แบมจะพูดจบดีน้ำเสียงออดอ้อนก็ถูกดึงมาใช้ตัดบทพี่แบมพร้อมกัดปากล่างนิดนึงผสมกับทำตาปริบๆใส่นิดหน่อย เชื่อเถอะ ร้อยทั้งร้อย
“แค่วันนี้นะ”
พี่แบมของน้องมาร์คไปไหนไม่รอดแน่...
“เห็นไหมซื้อเยอะจนขนแทบไม่ไหว เอามานี่พี่แบมช่วยถือ” หลังจากเลือกเสื้อผ้าจนหนำใจทั่นดื้อ ก็ได้มาสิบถุงกว่าๆรวมกับของพี่แบมเองด้วย
ไอดื้อพาเดินเข้าร้านนั้นทีร้านนี้ทีจนเขาแทบจะต้องเช่าวิลแชร์มาให้มาร์คลากโดยมีเขานั่งอยู่ในนั้น
ยังไม่แก่นะ! แค่เหนื่อยเฉยๆหรอก!
แบมแบมกำลังจะเอื้อมมือไปแย่งถุงแบรนด์เสื้อผ้าจากมาร์คมาถือบ้างแต่เจ้าดื้อก็ดันเบี่ยงตัวหลบ
“เดี๋ยวเค้าถือเอง”
“มันหนัก แบ่งมานี่” แบมแบมแบมือพร้อมกระดิกนิ้วรอรับถุงจากมาร์ค
“มาร์คเป็นผู้ชายนะ แค่นี้สบายมาก” มาร์คยักไหล่ไปทีแสดงท่าทางให้เห็นว่าเจ้าตัวไม่ได้หนักอะไร
“พี่แบมก็ผู้ชายนะมาร์ค...”
“...” เอ่อ จริงว่ะ...
มาร์คได้แต่เงียบทำตาปริบๆอย่างคนไม่รู้ว่าจะเถียงอะไรต่อ
“เอามาเร็ว ขนไปที่รถนี่เอง เดี๋ยวไปหาอะไรกินกัน” สุดท้ายมาร์คก็ยอมแบ่งให้พี่แบมเป็นคนถือไปสี่ถุง
พอของในมือมีปริมาณที่น้อยลงมาร์คก็ย้ายถุงทั้งหมดไปไว้ในมือเดียว ส่วนอีกข้างที่พึ่งว่างหมาดๆก็ตวัดโอบไหล่พี่แบมแบบเนียนๆดันไหล่เล็กให้เดินไปข้างหน้าพร้อมๆกัน
“ขอเป็นร้านอาหารข้างนอกนะ” มาร์คเอ่ยขึ้นในระหว่างทางมือจากที่พาดอยู่บนไหล่ก็ค่อยๆไหลตกลงมาที่เอวคอด
“แล้วแต่คนขับรถสิ”
“เดี๋ยววันนี้ไปนอนเพ้นเฮาท์พี่แบมนะมาร์ค ต้องเดินทางเช้า”
“!!!” ไอ่อ้วนที่กำลังทำหน้าที่เป็นสารถีขับรถหันหน้ามามองอย่างตกใจก่อนรีบหันไปมองทาง ถึงแม้กำลังจะอึ้งๆอยู่แต่ความปลอดภัยก็ต้องมาก่อน เมื่อกี้ก็แอบเป๋ไปนิดนึงเหมือนกัน...
“ดูทำหน้าสิ ถ้าไม่อยาก...”
“ไปสิ! โถ่ แบมอะ จะได้ขึ้นเพ้นเฮาท์แบมครั้งแรกเลยนะขอตกใจนิดนึงเถอะ”
“เว่อร์แล่ว... งั้นเดี๋ยวแวะบ้านมาร์คก่อนนะ ยังไม่ได้ไปขอม๊าต้วนเลย” แบมยู่หน้าใส่มาร์คก่อนจะคิดได้ว่ายังไม่ได้ไปขออนุญาตผู้ปกครองของมาร์คเลย
“ขออะไรอะ ลูกชายม๊าต้วนรึป่าว” มาร์คยิ้มกริ่มหยอดมุกห้าบาทสิบบาทใส่พี่แบม
มุกแบบนี้มันควรจะหมดไปตั้งแต่ 2018 แล้วไหมมาร์ค...
“สงสัยรถตู้พรุ่งนี้คงมีพี่แบมนั่งคนเดียวแล้วสินะ” แบมแบมทำท่ากอดอกหันหน้าให้ความสนใจกับธรรมชาติข้างไหล่ทาง พูดอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อนในขณะที่อีกคนเริ่มกระวีกระวาดกลัวว่าจะไม่ได้ไปเที่ยวกับพี่แบม
“แบมอา~ ใจร้ายยย” อินเนอร์ของหน้าตาในการอ้อนก็ยังคงรักษามาตรฐานได้ดีดังเดิมไม่มีตก ไอ่หน้าหงอยๆเหมือนลูกหมานั่นเห็นเมื่อไหร่ก็ต้องใจอ่อน ให้ตาย...
“ไม่ต้องมาอ้อนนะ ขับรถไปบ้านตัวเองเลย”
“คร้าบบบ” ถึงแม้จะอยากงอนที่ไม่รับมุกแถมยังเกือบโดนทิ้งไม่ให้ไปเที่ยว แต่ก็ต้องเก็บมันไว้ส่วนลึกในใจ ถือคติงอนเองหายเองอย่างรวดเร็วก่อนที่จะถูกทิ้งให้นอนกร่อยอยู่บ้านจริงๆ
---70%---
“โห กว้างจัง” ไอ่อ้วนที่ตอนนี้ได้ขนข้าวขนของพะรุงพะรังออกจากบ้านเหมือนหนีตามกันมาทั้งที่ขออนุญาตม๊าต้วนแล้ว วางของอันหนักอึ้งของตัวเองลงทันทีที่ก้าวเข้ามายังภายในเพนท์เฮาส์สุดหรูที่ใช้ทั้งชั้นของบริษัทในการทำ ใช้สายตาคมสำรวจไปรอบๆอย่างให้ความสนใจ
ถึงจะบริษัทแทบทุกวันแต่ก็ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่จะมีบุญวาสนาได้ขึ้นมาเหยียบเพนท์เฮาส์ของชั้นบนสุดในบริษัท
Line~
หืม...
ในระหว่างที่พี่แบมกำลังให้ความสนใจกับเจ้าอ้วนที่วิ่งไปดูนู้นทีจับนี่ทีเสียงไลน์จากในกระเป๋ากางเกงก็ดังขึ้นทำให้พีแบมจำต้องละสายตาจากเจ้าดื้อชั่วขณะ
เลขาเฟย : บอสคะ รถออกบ่ายโมงนะคะ
เอ๋?
ไม่ใช่ว่าออกเช้าหรอกเหรอครับ :
เลขาเฟย : นั่นไง บอสลืมจริงๆด้วย
เลขาเฟย : Sent Photo
แล้วคุณเลขาที่ขยันทำงานแม้กระทั่งเวลาดึกก็ส่งรูปตารางกำหนดการของเขามาให้ดู
บัดซบ! ก็ตอนไปทัศนศึกษากับโรงเรียนสมัยมัธยมทุกครั้งรถออกตีห้านี่หว่า! ก็เลยจำมาแบบนี้อะ!
แล้วหิ้วไอ่อ้วนมานอนเพนท์เฮาส์ให้มันได้ใจทำไมเนี่ย!
อ่า... ครับ :
ก็จะไม่อะไรเลยถ้าไม่กู้ดไนท์คิสแล้วต้องมานั่งใจเต้นอยู่คนเดียวเนี่ย! บ้าจริง..
“อ้วน... รถเลื่อนเป็นออกบ่ายแล้วอะ” เพื่อป้องกันการหน้าแตกก็จำเป็นต้องแถไปแบบนี้แหละ
ขอโทษนะ พี่แบมนิสัยไม่ดีอีกแล้ว ;-;
“แล้วไงอะ จะไล่กลับบ้านตอนนี้ก็ไม่ไปแล้ว ไปอาบน้ำก่อนน้า อ่า~ อยากเห็นห้องน้ำจังจะหรูขนาดไหนน้า” ไอ่อ้วนทำหน้าขี้ดื้อใส่พร้อมกับเดิมมาค้นกระเป๋ารื้อเอาเสื้อผ้ากับผ้าเช็ดตัวออกมาเสร็จสรรพแล้วเดินหายเข้าไปห้องน้ำ
พี่แบมก็ได้แต่ยืนเคว้งอยู่กลางเพนท์เฮาส์ของตัวเองก่อนจะเกาหัวแกรกๆแล้วเดินเข้าไปเช็คความเรียบร้อยในห้องนอนพร้อมกับอาบน้ำด้วย
เนื่องจากว่าภายในเพนท์เฮาส์มีห้องน้ำอยู่สองห้องคือห้องน้ำใหญ่ด้านนอก กับห้องน้ำภายในห้องนอน เห็นไอ่อ้วนมันเดินดุ่มๆเข้าไปในห้องน้ำใหญ่ก็คงจะแอบไปสำรวจแล้วแหละว่ามีอ่างจากุซซี่ ตอนเด็กไม่น่าเอาไอ่อ้วนไปแช่ทิ้งไว้ในกะละมังซักผ้าของแม่บ้านเลย ดูสิถึงได้ติดอ่างอาบน้ำมาจนถึงทุกวันนี้
ก็หวังแค่ว่าจะไม่เอาเป็ดยางไปปล่อยในอ่างราคาแพงของเขาหรอกนะ...
หลังจากที่พี่แบมชำระร่างกายเสร็จเรียบร้อยก็มานั่งกดโทรศัพท์เช็คอีเมลล์ที่หลั่งไหลเข้ามาไม่หยุดหย่อน ส่วนเรื่องความเป็นไปในโชเชียลพี่แบมก็แค่สมัครไว้ประดับโทรศัพท์เท่านั้นเองซึ่งนานๆก็เข้าไปส่องที
นั่งรอตั้งนานสองนานกินน้ำจนแทบหมดไปขวดใหญ่ก็ไม่เห็นวี่แววไอ่อ้วนมันจะออกจากห้องน้ำซักกะที
ให้มันได้แบบนี้สิ
นี่ก็ว่าตัวเองอาบนานแล้วนะยังแพ้มาร์คเลย ไม่ใช่ว่าสลบเหมือดอยู่ใต้อ่างไปแล้วหรอกนะ
อะไรก็ได้แต่อย่ามาจมน้ำตายในห้องพี่แบม จะตายทั้งทีก็อย่ามาตายตลกเช่นเผลอหลับในอ่างแล้วจมน้ำ ธุรกิจกำลังรุ่งพี่แบมยังไม่อยากดังในด้านนี้...
ไปตามหน่อยดีกว่า...
“มาร์ค แกตายรึยัง” แบมแบมเอามือไขว้หลังยืนตะเบงเสียงอยู่หน้าประตูห้องน้ำ แต่ปฏิกิริยาของคนข้างในไม่มีท่าทางไหวติงหรือได้ยินเสีงตะกุกตะกักอะไรสักอย่างจึงลองเรียกอีกรอบ
“มาร์คคคค ไอ่อ้วนๆๆ”
“...”
“เห้ย ดื้อ ได้ยินพี่แบมป่าววะ” แบมแบมเริ่มใจไม่ดี กลัวจะมาจมน้ำตายในห้องเขาจริงๆ วันนี้ยิ่งทำอะไรที่ต้องใช้กำลังเยอะๆก็คงจะเหนื่อยง่ายเป็นธรรมดา ก็ไม่ใช่ว่าผ่อนคลายจนเพลินไปแล้วหรอกนะ
ไม่มีเสียงเรียกเป็นครั้งที่สี่พี่แบมตัดสินใจเลื่อนประตูกระจกแก้วทึบบานหนาแล้วรีบเข้าไปดูเจ้าดื้อ
ทันทีที่เท้าเหยียบเข้ากับพื้นกระเบื้องเย็นๆของห้องน้ำก็ไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงของน้ำจึงเดินเลี้ยวเข้าไปยังโซนที่มีอ่างจากุซซี่ที่ถูกกั้นเพียงกระจกใสบางๆก็เจอกับไอ่อ้วนที่หัวพาดกับอ่างนอนหลับสบายแม้สิ่งที่ใช้หลับนอนจะมีฟองสบู่มากมายลอยอยู่
เหอะ... นี่แค่คิดขำๆเองนะ หลับจริงหรอเนี่ย
ขาเนียนๆที่โผล่พ้นออกมาจากกางเกงขาสั้นก้าวเข้าไปใกล้มาร์คก่อนจะนั่งหมิ่นเหม่ที่ขอบอ่าง
“ดื้อเอ้ย หลับไปได้ยังไงเนี่ย...”
เสียงหายใจเข้าออกสม่ำเสมอไม่มีท่าทีว่าจะตื่นขึ้นมาง่ายๆ
“น่ารักจัง..” ก็แค่ตอนหลับล่ะนะ
พี่แบมลอบมองใบหน้าคมแสนดื้อที่มักจะเอาแต่ใจตัวเองเวลาอยู่กับเขาแต่ทีกับคนอื่นกลับเงียบขรึมไม่ค่อยพูดซะงั้น ตอนตื่นก็คุยจ้อไม่หยุด แต่พอตอนหลับกลับกลายเป็นเด็กน้อยขี้เซาไปซะได้
แบมแบมเอื้อมมือไปปัดปอยผมที่ลู่ลงมาแนบหน้าผากเพราะเปียกน้ำขึ้นไปข้างบนก่อนจะใช้มือวนๆอยู่กับหน้าผากเนียน ลอบมองใบหน้าคมแล้วก็หวนนึกถึงสมัยตัวจ้อยๆวัยอ้วนกลมน่าหยิกมากๆ
ชีวิตที่คิดว่าจะมีแค่เรื่องเรียนในตอนนั้นเปลี่ยนไปตั้งเยอะ ในทุกๆวันเขาดูมีอะไรให้นึกถึงผดขึ้นมาในความทรงจำตั้งมากมาย ได้รู้จักความเป็นห่วงคนอื่น ได้รู้ว่าความสำคัญกับบุคคลคนนึงมันเป็นยังไง และได้รู้จักกับความรัก
แต่พอมองย้อนไปในตอนที่จมกับกองหนังสือมันช่างดูว่างเปล่า การทำอะไรซ้ำๆเดิมทำให้รู้สึกเหมือนช่วงชีวิตขาดหายไป
เจ้าอ้วนเหมือนสิ่งที่วิเศษมากๆเลยล่ะ
“ตอนมาร์คเด็กๆพี่แบมจุ๊บตรงนี้บ่อย” พูดไปก็ยิ้มอบอุ่น ระลึกความหลังที่แสนวิเศษตั้งแต่มีเด็กคนนี้เข้ามาให้เขาเลี้ยง
“พี่แบมโป๊ะๆตรงนี้” มือบางละจากหน้าผากไล้ลงมามาแปะอยู่ตรงแก้มตอบ
“แก้มอ้วนๆหายไปหมดแล้ว” แบมแบมหัวเราะเบาๆกับตัวเองก่อนจะผละออกจากขอบอ่างเพื่อเตรียมตัวปลุกเจ้าอ้วน แต่ก็มีแขนของคนในอ่างยื้อเขาไว้ซะก่อน
“...” พี่แบมทำตาปริบๆมองคนที่เอาแต่มองหน้าเขาตาไม่กระพริบ
หว่า นี่แกล้งหลับแน่ๆเลย
“ตรงนี้ก็ Kiss ทุกเช้าทุกเย็น” มาร์คยึดฝ่ามือบางขึ้นมาแนบกับริมฝีปากของตัวเองพูดเลียนแบบแบมบ้าง แล้วเอาไปกอบกุมไว้ข้างแก้มตัวเองเหมือนเดิม
จริงๆก็แช่เพลินจนเกือบจะหลับไปแล้วเหมือนกันถ้าไม่มีคนมาเสยผมที่เปียกน้ำของเขาขึ้นไปซะก่อน
“หอมจังครับ อาบน้ำแล้วหรอ” มาร์คว่าพร้อมทั้งใช้สายตาหวานเชื่อมมองพี่แบม
“อื้อ รีบลุกขึ้นมาเร็วตัวเปื่อยหมดแล้ว” แบมแบมดึงมือออกมาจากใบหน้าคมแล้วตีลงไปยังแผ่นอกแกร่งที่โผล่พ้นออกมาจากน้ำ
“ตอนนี้เลยหรอครับ” มาร์คยิ้มขำ ก็ในเมื่อนอนนี้สภาพใต้น้ำของเขาไม่มีอะไรปกปิดเลย
“หึ่ย ไปแล้วโรคจิตจริงๆเลย” แบมแบมย่นคิ้วใส่มาร์ครีบลุกออกมาจากขอบอ่าง แต่ก็มิวายได้ยินเสียงแจ้วแซวตามหลัง
“นี่ ตัวเองเป็นคนเข้ามาหาเค้าเองนะ”
“บ้า!” แล้วก็ได้ยินเสียงตะโกนเป็นการตอบกลับ
“ฮ่าๆๆ” มาร์คหัวเราะร่าก่อนจะรู้สึกเขินกับการกระทำของแบมแบมเมื่อครู่ เรียกว่าลักหลับได้ไหมนะ
แต่รู้สึกดีเป็นบ้าเลย
ด้านแบมแบมที่รีบซอยเท้าออกมาจากห้องน้ำมุ่งตรงไปยังห้องนอนแบบรวดเร็วหยิบโทรศัพท์ที่แอ้งแม้งอยู่บนเตียงขึ้นมาเข้าแอพพลิเคชั่นไลน์ก่อนจะพิมพ์ลงไปอย่างรวดเร็ว
ยองแจจจจจ ฮื่อออ แย่แล้ววว!! :
---- 108% ----
Talk 181231 | 40%
ของขวัญส่งท้ายปีเก่าค่ะรีดเดอร์ทุกคน สวัสดีปีใหม่นะคะ ขอให้เป็นปีที่ดีสำหรับทุกคนเลยค่ะ :')
สำหรับน้องมาร์คจะต่อหลังสอบเสร็จนะคะ พี่แบมจะไปเจอใครน้าาา ช่วยรอติดตามด้วยนะคะ รักๆจากไรท์
Talk 190105 | 70%
ตัวละครใหม่เร็วๆนี้งับ
Talk 190105 | 108%
ตอนหน้าไปเที่ยวกันค่ะ ฮ่าๆ ไม่ได้แต่งนานเค้ารู้สึกว่าการใช้คำไม่ค่อยเหมือนเดิมเท่าไหร่ ฝากคอมเม้นต์ติชมหน่อยนะคะ เค้าจะได้ปรับเปลี่ยน ขอบคุณค่ะ :D
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ใจตรงกันขนาดนี้ รีบคุยกันเถอะ
น่ารักกกก~
โอ้ยเด็กบ้า
555 ใครแพ้ทางใครกันแน่