ตอนที่ 6 : TLC - 5 | 140%
สุดท้ายแล้วคุณเซนอะไรนั่นก็ไม่ได้อยู่ทานข้าวด้วย
แหม... น่าเสียดายจริงๆ ทั้งที่โรงอาหารออกจะสวยมากแท้ๆ แถมเพื่อนร่วมโต๊ะ ก็มีตั้งสามคนแหนะ
หลังจากส่งแขกทุกคนก็ขึ้นมาอยู่ในห้องทำงานของแบมแบมรวมทั้งเฟยที่นำของว่างมาเสิร์ฟด้วย
“ปกติก็มีลูกค้าแบบนี้เยอะเลยหรอแบม” มาร์คยกโกโก้ร้อนเข้าปากเสร็จแล้วเอ่ยถามแบมแบม
“อื้อ ลูกค้าเรื่องมากเกือบทุกคนเลยแหละ แต่ก็พอรับมือไหวนะ ทำไมอะ”
“โหย งั้นมาร์คไม่เรียนแล่ว จะสมัครเป็นยามอยู่ที่บริษัทแบมนี่แหละ” นี่เจ้าตัวคงไม่รู้ใช่ไหมเนี่ยว่าจะโดนลูกค้ามันล่อลวงอะ มาร์คได้แต่คิดในใจ
“ตลกละ เป็นยามบริษัทพี่แบมเงินเดินไม่เยอะเท่าสถาปนิกหรอกนะ”
“ใครสนกันล่ะ ชิ” มาร์คพึมพำออกมาเบาๆ เหมือนคุยกับตัวเอง
“อ้อ ลืมไปเลย คุณเฟยนี่มาร์คครับ คนที่ผมไปรับที่สนามบิน” แบมแบมเงยหน้ามองคุณเลขา แนะนำมาร์คให้รู้จัก เพราะมีลางสังหรณ์ว่าจะได้เจอกันบ่อยๆ
“อ่า...สวัสดีค่ะ เฟยค่ะ เป็นเลขาคุณแบม” เฟยก้มหน้างุดไม่กล้าคุยสบตา
“แบมใช้งานเค้ามากไปหรือป่าว ทำไมหน้าแดงจัง” มาร์คยื่นหน้ามากระซิบกระซาบแบมแบมเสียงเบา
“เค้าเขินแกมั้ง” คุณเฟยสะดุ้งโหยงเพราะเสียงแบมแบมที่เปล่งออกมาแบบปกติทำให้เฟยที่ยืนหน้าแดงอยู่แล้วแดงขึ้นไปอีก
มาร์คหันหน้าไปมองเลขาพี่แบมแล้วส่ายหน้าพรืด เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง คิดว่าจะเขินแบมแบมซะมากกว่า
แต่ถ้าเขินเขาจริงก็คงได้แต่โนๆๆ ถ้าไม่ใช่พี่แบมหน้าไหนก็ไม่เอา
“ช่างเหอะ ไปซื้อหนังสือเตรียมสอบกันดีกว่า” แบมแบมวางแก้วกาแฟลงก่อนจะลุกนำออกจากห้องไปเหลือเพียงมาร์คที่งุ่นกับการเก็บของให้แบมแบมกับเลขาเฟยที่ยืนหน้าแดงอยู่ที่เดิม
“พี่เฟยห้ามแย่งแบมนะ” มาร์คว่าจบก็หอมแฟ้มของแบมแบมวิ่งตามหลังไป
เฟยตกใจเล็กน้อยที่มาร์คพูดกับตัวเองแต่ก็ไม่ได้พูดตอบกลับอะไร พร้อมกับเดินออกมานอกห้องได้แต่มองตามหลัง
‘เฟยไม่ได้คิดอะไรกับคุณแบมสักหน่อยนะคะ’
พอเลือกซื้อหนังสือเกี่ยวกับวิชาที่ต้องใช้ในการสอบเสร็จ รถจากัวร์สีดำก็เคลื่อนตัวเข้ามาภายในบ้านของมาร์ค ในเวลาเกือบดึก เพราะพากันไปเดินนั่นดูนี่ก็เสียเวลากันไปพอสมควรกว่าจะออกจากห้าง
“แม่เค้ายังไม่กลับอีกเหรอครับ” มาร์คที่ลากกระเป๋าเดินทางใบไม่ใหญ่มากเดินนำหน้าแบมแบมตามทางเดินในบ้านเอ่ยขึ้น
“อีกสักเดี๋ยวก็คงมาแหละมั้ง” แบมแบมควงกุญแจรถเล่นอย่างไม่ใส่ใจมากนัก เพราะทั้งคุณน้ากับครอบครัวเขาก็ไม่ค่อยจะกลับบ้านกันบ่อยๆอยู่แล้ว “เริ่มติววันพรุ่งนี้ดีกว่าเนอะ เดี๋ยวจะเคลียร์งานหาเวลามาให้ วันนี้เหนื่อยจะแย่”
“ดีเลย งั้นมาร์คนวดให้นะ”
“ครับ” แบมแบมตอบรับด้วยคำสุภาพอย่างติดปาก
ตอนเลี้ยงมาร์คเขาจะพูดมีหางเสียงตลอดเพราะอยากให้โตมาเป็นเด็กที่ดี พอเอาเข้าจริงโตมาก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่ บางทีพูดกับเขาไม่มีหางเสียงก็ไม่ถือ แต่ถ้าพูดกับคนอื่นไม่มีหางเสียงนี่ล่ะสิ โดนดุแน่ๆ
“เสื้อตัวไหนของมาร์คที่พี่แบมใส่ได้บ้าง” แบมแบมเอ่ยปากถามมาร์ค พอเหนื่อยๆจากการจากงาน วันนี้ก็เหมือนจะมีเรื่องวุ่นๆเยอะแยะไปหมด แบมแบมจึงเลือกที่จะอาบน้ำทันที อยากนอนจะแย่
แบมแบมยืนอยู่หน้าตู้เสือผ้าของมาร์ค แหวกหาเสื้อตัวเล็กๆจากในตู้พรางถอนหายใจออกมาเบาๆ นี่เขาเป็นพี่นะทำไมถึงได้ตัวเล็กกว่ามาร์คได้ล่ะเนี่ย รู้งี้ตอนเด็กๆน่าจะเสียเวลาไปออกกำลังกายสักนิดน่าจะดี จะได้ไม่ต้องมาน้อยใจในโชคชะตาความตัวเล็กของตัวเอง
“ใส่ตัวใหญ่ๆก็ได้หนิครับ” มาร์คที่ไปอาบน้ำก่อนกลับมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวที่คลุมแค่ช่วงเอวไว้ผืนเดียว บนอกแกร่งยังมีหยดน้ำเกาะพราวระยับไปทั่วตัว ยืนซ้อนหลังแบมแบมยื่นมือมาแหวกหาเสื้อช่วยจึงจำเป็นต้องโน้มตัวไปข้างหน้าทำให้อกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามกระทบเข้าไปหลังของแบมแบม
กลิ่นครีมอาบน้ำราคาแพงจากต่างประเทศโชยเข้าจมูกแบมแบม จากผู้ที่หลงใหลในกลิ่นน้ำหอมอยู่แล้วทำให้อดใจยืนเคลิ้มกับกลิ่นไม่ได้
มาร์คที่กะจะเต๊าะพี่แบมเล่นๆก้มหน้ามองปฏิกิริยาของคนที่เขากักบริเวณไว้เสมือนโอบกอดกลายๆทำจมูกฟุดฟิดๆแอบดมกลิ่นตัวของเขา ก็เกิดความพึงพอใจ
ทำไมมาร์คจะไม่รู้ว่าแบมแบมนั้นชอบกลิ่นหอมแบบไหน ไอ่เขาที่ไม่ได้เรื่องมากกับกลิ่นก็อุตส่าห์เข้าห้างไปสรรหาครีมอาบน้ำกับน้ำหอมในแบบที่แบมแบมชอบมาเลยนะ
“อ่า..นี่แบมแอบดมกลิ่นมาร์คอยู่นะ” มาร์คเลื่อนหน้าลงมาครางต่ำพร้อมเอ่ยกระซิบข้างหู ก่อนจะเลื่อนไปจุ๊บหลังคอขาวของพี่แบมแล้วผละออกอย่างอ้อยอิ่ง
เสียงแหบพร่าเข้ากับใบหน้าหล่อๆนั่นนอกซะจากพี่แบมที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรมาได้ยินก็คงตายเรียบเหมือนกันหมด
พอความเย็นสัมผัสเข้าที่หลังคอก็ทำให้แบมแบมตกใจเผลอหมุนตัวหันหน้าเข้าหามาร์คโดยลืมไปว่ากำลังโดนกักไว้ในอ้อมกอดแถมใบหน้าหล่อคมยังเลื่อนลงมาต่ำจนใบหน้าแทบชิดกัน ทำให้ลมหายใจแบมแบมขาดห่วงไปชั่วขณะ
แสงจากไฟที่เปิดดวงเดียวภายในห้องทำให้บรรยากาศช่างเหมาะกับใบหน้าสวยของแบมแบมยิ่งดูยั่วยวนยิ่งขึ้นไปอีก
ลมหายใจร้อนที่เป่าออกมากระทบหน้าแบมแบมทำให้หัวสมองขาวโพลนลืมแม้กระทั่งต้องออกจากเขตอันตรายนี้ อายุอานามก็ปาไปสามสิบประสบการณ์เรื่องพวกนี้ก็ไม่เคยจะมี นอกซะจากนอนดูหนังโป๊ในห้องไอ่แจมัน
ริมฝีปากบางเฉียบโน้มลงมาจูบปิดปากพี่แบมเรียวลิ้นร้อนค่อยๆเลียตามรอยแยกของริมฝีปากอวบ สองมือเปลี่ยนจากกักตัวเลื่อนมาโอบเอวบางให้ขยับมาแนบชิด ส่วนอีกข้างที่ยังว่างเลื่อนขึ้นไปสอดไว้ใต้ผมนุ่นบังคับให้เอนเอียงตามอีกฝ่ายอย่างว่าง่าย ก่อนที่เรียวลิ้นของคนร่างสูงจะแทรกเข้ามาภายในปากเกี่ยวกระหวัดลิ้นของคนตัวเล็กที่เอาแต่หดถอยหนี
ดวงตากลมโตของผู้บริหารที่วันๆเอาไว้ฟาดฟันกับลูกค้าหลับลงรับจูบอันดูดดื่ม ทำให้คนที่เปิดตาเฝ้ามองดวงหน้าสวยอย่างมาร์คยิ้มขำปนเอ็นดูอยู่ภายในใจ
จ๊วบ
จ๊วบ
เสียงดูดริมฝีปากดังระงมไปทั่วห้องก่อนที่แบมแบมจะเริ่มผลักออกเพราะเริ่มหมดอากาศหายใจ
“แฮ่กๆๆ มะ..มาร์ค” มาร์คไม่ปล่อยให้แบมแบมได้พูดอะไรต่อก้มหน้าไปกัดริมฝีปากอวบที่ตอนนี้บวมเจ่อแต้มไปด้วยสีแดงจากการจูบเมื่อครู่ให้ยืดออกมาเบาๆให้ความรู้สึกเหมือนกำลังงับเยลลี่เล่น
“Goodnight Kiss ไงครับ” ว่าจบก็เปลี่ยนมาซุกซอกคอหอมอย่างออดอ้อนแบบที่เจ้าตัวชอบทำเป็นประจำ
“โตแล้วยังต้องทำอีกหรอ” แบมแบมขมวดคิ้วมุ่นไม่ค่อยเข้าใจการกระทำ
“แต่ผมจะนอนไม่หลับนะ” มาร์คยังคงกลั้นขำกับสีหน้าแดงส่านของแบมแบม
อ่า.. ชอบจัง
“แล้วตอนเรียนเมืองนอกจูบกับใครเล่า” พอได้ยินแบบนี้แบมแบมก็เริ่มรู้สึกเหมือนอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาดื้อๆ
โตเป็นหนุ่มแล้วนี่ คงมีสาวให้คิสก่อนนอนเยอะเลยสิท่า ทำไมไม่พกติดตัวมาด้วยเลยเล่า
มาร์คที่เห็นสีหน้าที่อยู่ดีๆเริ่มบูดบึ้งของพี่แบม ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร รู้แค่ว่าตอนนี้พี่แบมน่ะ น่ารังแกที่สุด
“จูบกับใครน้า...” มาร์คทำหน้าครุ่นคิดแต่ก็ไม่ได้ขยับหน้าให้ห่างออกจากแบมแบม
“พอเลย ไม่ต้องมาคิสแล้ว” แบมแบมผลักมาร์คออก เดินตรงไปในห้องน้ำ ลืมแม้กระทั้งเสื้อผ้ากับผ้าเช็ดตัวที่ต้องขนเข้าไปด้วย
“หึๆ ผมไม่ได้คิสกับใครทั้งนั้นแหละครับ นอนก็ไม่ค่อยจะหลับเลย” มาร์คเลิกแกล้งแล้วคว้าพี่แบมมากอดจากทางด้านหลังเอ่ยบอกไปตามความจริง
“ก็เรื่องของมาร์คสิ พี่แบมจะไปอาบน้ำแล้ว”
“งอนหรอ ดีกันก่อนเร็ว” นิ้วก้อยเรียวยาวของคนด้านหลังแบมแบมยกขึ้นมาเขี่ยจมูกโด่งรั้นเล่น
“พี่แบมสามสิบแล้วนะ!”
“เหมือนพึ่งเกิดเมื่อวานเลย”
“มาร์ค!” นี่พี่แบมโตจนบริหารได้ทั้งบริษัทเลยนะ มาว่าเขาเหมือนคนพึ่งเกิดได้ยังไง ถึงจะด้อยประสบการณ์แต่ก็ไม่ใช่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยไหมล่ะ
“โอเคครับ เอาเป็นว่าเค้าค่อยง้อแบมทีหลังก็ได้ แต่อย่างอนนานนะครับ มาร์คใจไม่ดีเลย”
จุ๊บ
ก่อนจะผละออกก็ไม่ปล่อยไปเฉยๆ ก้มไปจุ๊บหลังคอเบาๆอีกรอบ ต้องมีตอดเล็กตลอดน้อยตลอด
มาร์คนี่มันมาร์คจริงๆเลย!
---- 45% ----
แบมแบมลืมตางัวเงียตื่นขึ้นมาในตอนเช้ามืดเพื่อที่จะกลับคอนโด แต่ก็รู้สึกหนักจนกว่าจะลุกขึ้นไหว แถมอึดอัดอีกตะหาก
ผีอำปะวะ อีเหี้ย
“แบมหยุดดิ้น” อยู่ดีๆก็มีเสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นมาใกล้ๆ พอนึกๆขึ้นมาได้ก็คิดออกว่าตัวเองอยู่ห้องของมาร์ค กลิ่นหอมอ่อนๆโชยมาจากอกแกร่ง แต่ก็รู้สึกถึงความหนึบๆตรงบริเวณมือและใบหน้าพอตื่นเต็มตาก็อาศัยแสงสลัวจากดวงจันทร์สำรวจข้างหน้า ก็พบกับแผ่นอกเปลือยเปล่าแถมมือตัวเองก็ยังไปกอดเอวสอบไว้ซะแน่น
นี่เขาไม่ได้ละเมอกอดแน่ๆล่ะ
ส่วนไอ่ความรู้สึกหนักๆก็คงไม่พ้นแขนล้ำๆของเจ้าของห้องที่นอนรัดเขาจนอากาศแทบไม่สามารถเล็ดลอดไปได้
“มาร์คร้อนไม่ใช่หรอ ปล่อยก่อนสิ” แบมแบมเลิกผ้าห่มออก ที่รู้สักหนึบๆเมื่อกี้คงเป็นเพราะมาร์คร้อนจนเหงื่อท่วม แต่ก็ยังห่วงเขาที่เป็นคนขี้หนาว
ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วที่มาร์คชอบนอนถอดเสื้อเพราะขี้ร้อนเอามากๆ แอร์ยี่สิบห้าองศาก็เอาไม่อยู่ มานอนด้วยทีไรก็เหมือนกับสร้างขั้วโลกไว้ในห้องกลายๆ แต่ก็ยังดีที่มีบ๊อกเซอร์ปิดลูกน้อยมันไว้อยู่ ไม่งั้นตื่นเช้ามาก็คงเห็นงูมันผงาดหัวชูคอขึ้นมาทุกเช้าเป็นแน่
มันน่าตีจริงๆเลย
“นอนต่อเถอะ” ไม่ว่าป่าวแขนแกร่งฉุดแบมแบมให้นอนลงตามเดิม พร้อมกักตัวเขาไว้ในอ้อมกอดซะมิด
“พี่แบมต้องไปทำงานแล้ว”
“ทำงานบ้าอะไรเช้าขนาดนี้หะ ถ้าไม่อยากเจ็บปากก็นอนอยู่ดีๆ” แบมแบมได้แต่อึ้งค้างภายในอ้อมกอดของมาร์ค
เดี๋ยวนะ... เมื่อกี้คือขู่เขาใช่ไหม?
เสียงแข็งชนิดที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนทำให้แบมแบมนิ่งจนไม่กล้าหือกล้าอือ เพราะไม่อยากเจ็บปาก
อะไรของมันวะ อยู่ดีๆก็จะมาต่อย เดี๋ยวนี้เป็นนักเลงใหญ่แล้วหรอไอ่อ้วน อยู่เมกาก็เป็นแก๊งค์สเตอร์ใช่ไหม
หนอยแหนะ อุตส่าห์เลี้ยงมาดั่งเจ้าหญิงตัวน้อย บังอาจนอกลู่นอกทางได้นะ ตื่นมาล่ะจะดุให้เข็ดเลย
---- 55% ----
“อ่าวม๊า กลับมาแล้วเหรอครับ” มาร์คเริ่มลงมาจากชั้นสองของบ้านหลังจากที่อาบน้ำแต่งตังเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เห็นม๊าคนสวยั่นแหมะอยู่หน้าทีวีเพื่อรับชมข่าวในตอนเช้า
“ฉันต้องพูดคำนี้มากกว่าไหม ไอ่ลูกหมาของม๊า มาถึงก็ไม่เคยจะบอกกันเลย” คุณม๊าดารินยกกาแฟอุ่นๆขึ้นมาจิบอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก รู้นิสัยของลูกตัวเองดีอยู่แล้ว พี่แบมไปรับก็คงจะระริ้กระรี้อยู่กับพี่แบมจนลืมม๊าคนนี้ไงเล่า
“เอาหน่าม๊า งอนบ่อยๆเดี๋ยวรอยขึ้นเพิ่มนะ” มาร์คเอ่ยแซวพรางขำเบาๆ
“แกนี่มันจริงๆเลย”
“แล้วม๊าเห็นแบมบ้างป้ะ” เพราะตื่นมาในตอนเช้าที่ควรจะสดใส กลับอึมครืมเมื่อคนที่ควรจะอยู่ในอ้อมกอดของของกลับหายไป
ไม่ใช่ว่าหนีกลับก่อนไปแล้วหรอกนะ
“อยู่ในครัวมั้ง” พอพูดจบม๊าดารินก็หันเหลือบไปมองเจ้าลูกชายตัวดี ที่รีบวิ่งหน้าตั้งไปทางห้องครัว คงคิดว่าพี่แบมจะทำอาหารเช้าให้กินล่ะสิ ถึงได้ยิ้มหน้าบานเดินไปนู้นแล้ว
เธอก็พึ่งจะมารู้ตอนเช้าที่เห็นแบมแบมลากสลิปเปอร์เดินออกมาในห้องของมาร์ค จึงชวนกันออกมาคุยเล่นหน้าโทรทัศน์นิดหน่อย หนูแบมก็เล่าเรื่องเจ้ามาร์คให้ฟังก่อนจะขอตัวไปทำอาหารให้กินในครัว
ถ้าให้มาร์คอยู่กับแบมแบมก็ไม่มีอะไรต้องห่วงในฐานะเสมือนพี่เลี้ยงแบมแบมน่ะปรามไอ่เสือตัวนั้นได้อยู่หมัดเลยล่ะ คนเป็นแม่อย่างของที่ไม่ค่อยจะมีเวลาว่างใส่ใจลูกเท่าไหร่พอได้พี่แบมแบมเป็นตัวช่วยก็เบาใจไปมากโข
“หอมจังครับ” พอเดินมาถึงห้องครัว ก็เจอกับร่างบางที่สวมผ้ากันเปื้อนทับกับเสื้อเชิ้ตสีขาวขนาดใหญ่ของเขาพร้อมกับบ๊อกเซอร์ตัวเล็ก เอวขอดกิ่วที่มีสายของผ้ากันเปื้อนรัดอยู่ยิ่งทำให้ดูบางยิ่งขึ้นไปอีก
ไม่รอปล่อยโอกาสให้คนที่กำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารให้ตั้งตัว มือหนาก็เข้าไปสวมกอดพี่แบมจากทางด้านหลัง หน้าที่มีสันกรามอย่างชัดเจนเกยไว้บนไหล่ คลอเคลียกับแก้มกลมของคนพี่ไปมา
“ตื่นแล้วหรอ” เอ่ยถามทั้งที่ ในมือแบมแบมยังคงถือทัพพีคนอาหารต่อไปไม่ได้หันมาสนใจคนข้างหลัง
“ไม่ยอมปลุกกันเลยครับ”
“ก็เห็นว่าหลับสบายดี เลยไม่อยากกวน” พอคิดถึงเรื่องนี้ ประเดนที่ไปเป็นนักเลงใหญ่ก็ยังไม่ได้เคลียร์เลยนะอ้วน
“พี่แบม” แบมแบมแทบปล่อยทัพพีให้ล่วงลงหม้อ ตกใจกับสรรพนามที่ไม่คุ้นหูเอาซะเลยจากอีกคนรีบหันไปมองอัตโนมัติ
จุ๊บ
“Morning Kiss นะครับ” เมื่อแผนการของคนเจ้าเล่ห์บรรลุไปด้วยดี ก็เอาแต่กอดเอวคอดและยิ้มกริ่ม
“ได้เหรอ จะเที่ยงอยู่แล้ว” แต่แบมแบมก็หาได้สนใจไม่ ทำเป็นเมินเฉยต่อคำเรียกถึงแม้จะอึ้งๆปนภูมิใจอยู่ก็ตาม แต่ก็เลือกหันไปทำหน้าที่คนอาหารในหม้อต่อไป
คงจะเป็นช่วงคึกตามเช้า
แล้วที่ไอ่ดื้อมันจูบเช้าจูบเย็นก็เขาเองไม่ใช่เหรอที่ทำให้อีกฝ่ายจนติดเป็นนิสัยแบบนี้น่ะ แต่ตอนนี้ก็โตพอที่จะรู้เรื่องรู้ราวแล้วไม่ใช่เหรอไง ยังไม่เลิกนิสัยที่ต้องมาขอคิสเช้าคิสเย็นนี่อีก
“งั้น After Kiss อีกรอบได้ไหมครับ”
“มีที่ไหนกันเล่า แล้วมือน่ะมือ” ไม่ว่าเปล่า แบมแบมเอามือข้างที่ว่างไปตีมือหนาที่กำลังล้วงเขามาลูบหน้าท้องตัวเอง
เผลอไม่ได้เลยนะ
“ฮื่อออ”
“ไม่ต้องมาฮื่อเลย พี่แบมไม่ตามใจแล้ว”
“ใจร้าย~” ถึงปากจะว่าไปแบบนั้น แต่ก็ยังเอาแต่กอดเอวบางไว้แน่น ซุกหน้ากับซอกคอหอมออดอ้อนดังเดิม
“ไปเอาถ้วยมา จะกินไหมข้าวน่ะ”
“คร้าบบบ~” มาร์คยอมผละออกมาอย่างอ้อยอิ่ง เดินไปเอาถ้วยมาให้แบมแบม ยืนมองด้วยสายตาลูกหมา
“มองอะไร เรามีความผิดที่ต้องเคลียร์กันนะ พี่จะยังไม่ฟ้องคุณน้าก็ได้” แบมแบมยืนกอดอกเอาทัพพีชี้หน้ามาร์คไปมาจนน้ำแกงที่ปลายทัพพีแทบกระเด็นติด “ไปเรียกคุณน้ามากินข้าวด้วย เดี๋ยวพี่แบมเตรียมโต๊ะรอ”
มาร์คขมวดคิ้วมองด้วยความงุ่นงงกับคำพูดของแบมแบม ประมวลผลแทบไม่ทัน
ความผิด? ว้อททท!?
“หอมจังหนูแบม ทำอะไรให้กินคะลูก” คุณนายต้วนเลื่อนเจ้าอี้จากโต๊ะอาหารออกมาเบาๆก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงไปเอ่ยถามแบมแบมด้วยความตื่นเต้น หน้าตาคล้ายอาหารไทยที่เขารู้จักไม่มีผิด ไม่นึกว่าหนูแบมจะทำเป็นด้วย สมัยเป็นสาวพิมพ์แม่ของหนูแบมก็ทำให้กินบ่อยๆ
“ต้มยำกุ้งครับ คุณน้าน่าจะรู้จัก แม่ผมสอนมาอีกที” แบมแบมเอ่ยภูมิใจในความเป็นไทยที่ได้รับการถ่ายทอดมาสู่ตนเอง
ตอนแรกก็ลังเลอยู่ว่าจะทำอะไรให้ทานดี พอเปิดตู้เย็นก็เห็นกุ้งสดที่แม่บ้านออกไปซื้อตอนเช้ามาแช่ไว้ อยู่เกาหลีก็คงต้องทำอะไรแปลกใหม่ที่ไม่ค่อยได้กินให้กินสินะ
คิดถึงเมนูอาหารที่ตัวเองพอจะทำได้เกี่ยวกับกุ้ง ก็ต้องเป็นต้มยำกุ้งนี่แหละ ร้านอาหารไทยในเกาหลีรสชาติก็ไม่ค่อยจะถูกปากเท่าคนไทยทำสักเท่าไหร่
“ของโปรดเลยล่ะจ่ะ” คุณน้ากล่าวยิ้มแย้ม
“ลองชิมดูก่อนครับ ผมไม่แน่ใจว่าฝีมือจะสู้คุณแม่ได้หรือป่าว” ในขณะที่คุณนายต้วนกำลังยกช้อนขึ้นมาตักเพื่อชิมน้ำก่อนเป็นอันดับแรก แบมแบมก็ลุ้นจนตัวเกร็ง กลัวไม่ถูกปากคนชิม
พอรสชาติน้ำของต้มยำกุ้งไหลลงคอคุณน้าก็เผยยิ้มพยักหน้าพึงพอใจกับรสชาติที่ไม่ได้แต่งต่างไปจากพิมพ์เพื่อนรักเขาทำสักเท่าไหร่
แบมแบมที่รีแอคชั่นของคุณน้าก็ยิ้มยาม กระตือรือร้นตักนู้นตักนี่ใส่จานคุณน้าเรื่อยๆ
“แล้วของเค้าอะแบม” บุคคลที่กลายเป็นหมาหัวเน่าร่วมโต๊ะอีกคนเอ่ยอย่างแง่งอน เหมือนเขาจะกลายเป็นผู้ถูกลืมไปซะแล้ว
“อ่ะ” แบมแบมเห็นๆหน้าหงอยๆของมาร์คก็อดเอ็นดูไม่ได้ คีบผักใส่ให้เต็มจานในขณะที่กุ้งตัวโตอยู่ในจานของม่าม๊าทำเอามาร์คแทบจะเหลือกตามองบน
“ก็รู้ว่าไม่ชอบอะ ม๊าช่วยกินหน่อยดิ” ประโยคแรกคุยกับแบม เมื่อทำอะไรไม่ได้มาร์คก็หันหน้าไปเว้าวอนม่าม๊าคนสวย
“รับผิดชอบจานของตัวเองไปเลยย่ะ” ไม่สนใจใยดียังไม่พอ ยังมีหน้ามาเมินหันไปแกะกุ้งให้แบมแบมอีก
เกิดเป็นมาร์คบางทีมันก็เหนื่อยใจไปปะวะเนี่ย
คิดว่าจะมีมื้อเช้าที่แสนสวีทงั้นเร้อะ เหอะ กลับไปคุยกับไก่ในเล้าซะยังดีกว่าเป็นหมาหัวเน่าในตอนนี้ซะอีก
---- 85% ----
หลังจากมื้อเช้าที่โดนไอ่อ้วนมันแง่งอนเสร็จก็พามันกลับมาคอนโดด้วยเพื่อเปลี่ยนเป็นชุดทำงาน แล้วมุ่งหน้าไปบริษัทตอนสิบโมงเพื่อพบลูกค้าอย่างคุณเซน
ทีแรกก็ว่าจะให้ไอ่อ้วนมันรออยู่บนห้องทำงานของเขาแต่เจ้าตัวก็ตื้อจะไปด้วย ด้วยเหตุที่ว่ามาศึกษาดูงาน
บ้าบอ นี่มันข้ออ้างล้านแปดที่มันคิดเตรียมมาแล้วแน่ๆ
“ผมว่าเริ่มกันเลยดีกว่าครับ” แบมแบมเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ พอเข้ามาในห้องรับรองลูกค้าที่มีคุณเซนกับคุณเฟยรออยู่แล้วก็ก้มมองดูนาฬิกาตัวเอง
นี่มันมาก่อนเวลาไปปะวะ วันนี้ก็แค่มาคุยรายละเอียดเล็กๆว่าต้องการแบบไหนแค่นั้นเอง เขาจะได้จัดหาฝ่ายเชี่ยวชาญให้ แล้วค่อยไปคุยกับทีมงานฝ่ายนู้นเรื่องลงรายละเอียดอีกที
พอหย่อนตัวนั่งได้สักพักก็เกิดเดธแอร์ขึ้นไม่มีใครแม้จะเปิดปากคุยอะไร
นี่พวกมึงคิดว่าอยู่ในโรงหนังตอนฉาย A Quiet Place หรือไงวะ เงียบคือรอดงี้หรอ
แล้วทำไมทุกคนต้องมานั่งเก๊กหน้าหล่อใส่กันด้วยกูไม่เข้าใจ นี่ก็เกรงตามจนปวดเหนียงไปหมดแล้ว อีห่า คุยกันสักทีเถอะ
“ผมว่าเรามานั่งคุยเล่นให้ผ่อนคลายกันก่อนดีกว่านะ” คุณเซนว่า
อ่าว อีดอก กูมาทำงานไหมจะมาลูกเล่นอะไร ว่างมากมั้ง คือกูก็มีอย่างอื่นต้องทำไหมล่ะ คนจะรีบกลับอะเข้าใจไหม? ทำไมชอบทำตัวเป็นตัวขัดขวางความสุขอยู่เรื่อย มึงนี่ วันนี้พี่แบมอารมณ์ไม่ดีนะเว้ย เพราะไอ่น้องเฮงซวยมันดันไปเป็นแก๊งค์สเตอร์แล้วยังไม่ได้เคลียร์ประเด็นจนถึงตอนนี้เนี่ย
“อ้วนกลับ” ไม่คุยก็ไม่คุยวุ้ย
แบมแบมลุกขึ้นคว้ากุญแจรถเตรียมออกจากห้องท่ามกลางสายตาความงุ่นงงของบุคคลที่อยู่ร่วมในห้องไม่เว้นแม้แต่มาร์คที่ยังนั่งก้นไม่ทันอุ่นก็ต้องลุกตามพี่แบมไปอีกแล้ว
“เดี๋ยวสิครับ” ในตอนที่แบมแบมเดินเฉียดโซฟาที่คุณเซนนั่งมือใหญ่ขาวสไตล์ฝรั่งของคุณเซนก็คว้าไว้ที่มือของแบมแบมจนแบมแบมตกใจรีบสบัดออก
ส่วนมาร์คต้วนตอนนี้ก็เหมือนจะมีลูกไฟลุกโชนในตา
เอ่อเว้ย เดี๋ยวนี้ชอบเห็นอะไรแปลกๆ อย่าง รังสีดำทะมึน หรือความดอกไม้บานรอบตัว ล่าสุดคือกูเห็นลูกไฟในตาคน ดีจัง แม่ง...
“ผมมาบริษัทเพื่อทำงานนะครับ ไม่ได้มาเล่น ถ้าคุณเหงาเชิญสวนสนุกหรือสวนสัตว์เลยยิ่งดีครับ เพื่อนคุณน่าจะเยอะ”
“คิก ฮ่าๆๆ” เฟยที่แอบฟังอยู่เงียบกลั่นขำแทบไม่อยู่ ไม่น่าเชื่อว่าคุณแบมแบมจะพูดตอกอัดคนอื่นก็เป็น ปกติจะใช้แต่ความใจเย็นเข้าสู่ตลอด หรือมีอะไรที่เขาไม่รู้กันนะ...
คุณเซนตวัดสายตาใส่คุณเฟยจึงยอมเงียบลง
“เท่าที่ผมอ่านรายละเอียดคุณอยากได้สวนหย่อมสไตล์ญี่ปุ่นใช่ไหมครับ เดี๋ยวผมจะติดต่อฝ่ายที่รับผิดชอบให้ แล้วจะให้เลขาผมติดต่อคุณไปอีกที ขอตัวนะครับ” แบมแบมคลายมือที่ยืนกอดอกคุยเมื่อครู่ก่อนจะหันมาอีกทีเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ “ อ้อ.. ขอบคุณที่ไว้ใจบริษัทของเรา หวังว่าจะไม่ทำให้คุณผิดหวังนะครับ” ว่าจบแบมแบมก็เดินหิ้วคอมาร์คออกจากห้องอย่างคนอารมณ์เสีย
“เป็นไงล่ะศึกษาดูงาน ได้ความรู้มากมั้ง” แบมแบมพูดขึ้นมาในร้านกาแฟเล็กๆใกล้กับบริษัทของเขา วันที่คาดว่าคงไม่กลับเข้าไปแล้วล่ะ
“หึๆ ปกติปกครองแบบนี้หรอบริษัทน่ะ ไม่ยักรู้” มาร์คต้วนนั่งไขว้ห้างตรงข้ามกับแบมแบมยกลาเต้ขึ้นมาดูด
“ครั้งแรกเหมือนกัน ปกติไม่ได้เป็นแบบนี้นะ เชื่อเถอะ” แบมแบมว่าพรางตักเครปเค้กเข้าปาก พอได้ลิ้มลองของหวานละมุนลิ้นแล้วก็ทำเอาอารมณ์ขุ่นมัวเมื่อครู่หายไปนิดๆ
เขาน่ะ รำคาญลูกค้านิสัยอะไรแบบนั้นที่สุด
“นี่..” จู่ๆแบมก็เรียกมาร์คเสียงเย็นจนมาร์คสดุ้ง
“จะพูดอะไรก็พูดมาเถอะเค้าฟังรอตั้งแต่เช้าละ” มาร์ควางแก้วลงบนโต๊ะเปลี่ยนมานั่งดีๆแล้วโน้มตัวลงมาตั้งใจฟัง
“แกไปหัดเป็นนักเลงตั้งแต่เมื่อไหร่” แบมแบมใช้สายตาคาดคั้นถามมาร์คที่เอาแต่ขมวดคิ้วมุ่น
นี่กะจะหาข้ออ้างอีกแล้วสินะ
“ไม่ใช่ว่ามาร์คอยู่ภายใต้อายัดแบมหรอกเหรอ ถ้าหาตัวหัวหน้าแก๊งค์ก็คงจะเป็นลูกพี่กันต์ตรงหน้านี่แหละ ทำไมถึงพูดงั้น ถึงจะไม่ใช่คนดีมากแต่ก็ไม่ใช่ว่าเลวขนาดนั้นป้ะแบม แถมหน้าตาหล่อเหลาสาวมองขนาดนี้มองยังไงก็เป็นคนดี”
“ก็แค่ภายนอก...หรือฉันพูดไม่ถูก” แทนตัวเองว่าฉันเฉย มาร์คคิดในใจ
แบมแบมแทบเบ้ปากคนอะไรจะอวดตัวเองได้ถึงเพียงนี้ถ้าไม่ใช่มาร์ค
“ก็..ถูก แต่มาร์คไมได้เป็นนักเลงนะเว้ย อะไรของแบมเนี่ย”
“ก็เมื่อคืนแกขู่จะต่อยปากฉัน! เลี้ยงมาเสียข้าวสุกจริงเลย!” เออ เรียกแกไปอีก เอาจริงดิ๊แบม!?
“ห้ะ!?.. เค้า?” มาร์คชี้เข้าหาตัวเอง
บ้าป้ะ ใครจะไปชกคนที่ตัวเองรักลงวะ รู้ว่าแก่ไร้ประสบการณ์อะ แต่ขอให้มันมีขอบเขตเหอะที่รั้กกก
“ตอนไหนเมื่อไหร่ไม่ทราบ คือมาร์คละเมอเหรอ?” มาร์คลนลานถาม ไม่ใช่ว่าเขาละเมอแล้วโดนต่อยไปแล้วหรอกนะ แต่เมื่อกี้บอกว่าขู่ แสดงว่ายังไม่ได้ต่อยสินะ เฮ้อ โล่ง...
“ไม่ได้ละเมอ! แกบอกว่าถ้าฉันไม่นอนนิ่งๆฉันจะเจ็บปากแน่ เนี่ยปกติแกไม่ใช่เเป็นแบบนี้ พอไม่มีคนเตือนก็ออกนอกลู่นอกทางฉันล่ะผิดหวังจริงๆเลย” แบมแบมว่าจบก็กอดอกเบือนหน้าหนี
มาร์คได้แต่กระพริบตาปริบๆ รีบรันลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหัวของเมื่อคืนที่ผ่านมา
‘มาร์คร้อนไม่ใช่หรอ ปล่อยก่อนสิ’
‘นอนต่อเถอะ’
‘พี่แบมต้องไปทำงานแล้ว’
‘ทำงานบ้าอะไรเช้าขนาดนี้หะ ถ้าไม่อยากเจ็บปากก็นอนอยู่ดีๆ’
“โว๊ะะะะ” พอคิดออกมาร์คก็สบถร้องโว๊ะออกกมาเสียดื้อๆ ดึงความสนใจให้แบมแบมหันกลับมา
อยู่ดีๆก็มาโวยใส่เขาดูสิ นิสัยไม่ดีแล้ว!
“คิดออกแล้วใช่ไหมล่ะ เค้าบอกว่าคนที่ไม่ค่อยได้สติมักจะเผยธาตุแท้ออกมา คิดไม่ผิดจริงๆ”
“เฮ้ออออ นี่แบม” มาร์คถอนหายใจอีกรอบ นี่ต้องพาพี่แบมไปเข้าคลอสจับกดขึ้นเตียงกับเขาใช่ไหมถึงจะรู้เรื่อง หรือวันๆเอาแต่เลี้ยงเขาจนไม่มีโอกาสได้ไปเผชิญโลกภายนอกหรืออย่างไร? พอเขาไปเรียนต่างประเทศก็เอาแต่โหมงานจนสร้างบริษัทได้ รู้ตัวอีกทีก็อัพไซต์เป็นสามสิบโดยที่ในชีวิตไม่ได้ผ่านอะไรมาเลยใช่ไหม? บอกมาร์ค!!
“ไอ่ที่มาร์คบอกจะเจ็บปากอะมันไม่ได้หมายความแบบนั้น” มาร์คพูดอย่างปลงๆ
“แล้วมันเป็นแบบไหนครับ คุณนักเลงใหญ่” โห ดูเรียกเข้า ไอ่ใหญ่ก็ใหญ่อยู่หรอก แต่เป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่นักเลงนะ...
เอ๋? จะว่าไปก็นักเลงพอตัวนี่หว่า หรือว่าจะใช่...
“... อยากลองหรอ” มาร์คยื่นหน้าเข้ามาใกล้อย่างลองเชิง เนื่องจากโต๊ะที่กั้นละหว่างเขากับอีกคนไม่ได้ใหญ่อะไรมากแถมเป็นมุมอับสายตา ทำให้อะไรๆก็ดูเป็นทางสะดวกให้มาร์คไปซะหมด
“จะทำอะไร..” แบมเอ่ยกระซิบกระซาบทันทีที่มาร์คเอาหน้าเข้ามาใกล้
ถ้าต่อยก็ต้องเงื้อมือกำหมัดสิ
ยะ..อย่าบอกนะว่าจะเอาหน้าผากโขกอะ
ไอ่มาร์คนี่หน้ากลัวเกินไปแล้ว...
“อื้ออออ...อื้ออ!!” มาร์คพุ่งจู่โจมปิดริมฝีปาก ล็อคคอไว้กันหนี บดขยี้แรงๆให้แบมแบมได้รู้ซึ้งถึงคำว่า 'เจ็บปาก'
ตุบ ตุบ
“ทำบ้าอะไร! เจ็บนะเว้ย!” แบมแบมหน้าดำหน้าแดงที่ไม่รู้ว่าเขินหรือโกรธกันแน่ทุบมาร์คให้ปล่อย
“ก็เจ็บไง..” มาร์คผละปากออกมานั่งที่ของตัวเองอย่างไม่ทุกไม่ร้อน ให้แบมแบมได้คิด “เข้าใจหรือยัง? วันหลังอย่าคิดมาท้าทาย ไม่งั้นได้เจอนักเลงใหญ่แน่”
ถึงจะไม่ค่อยประโยคหลังสักเท่าไหร่ แต่พี่แบมว่า พี่แบมเข้าใจคำว่า 'เจ็บปาก' ของมาร์คแล้ว! ไอ่มาร์คไอ้คนเห็นแก่ได้!
---- 140% ----
Talk 181020 | 45%
ขะ...ขอเลือดค่าาา ฮือออ ยืนยันคำเดิมว่าพี่แบมไม่ได้ทึ่มหรอกนะ คิกๆๆ
Talk 181020 | 55%
หูย น่าน้อยใจจังเค้าไมเห็นคอมเมนต์เล้ยย ไม่มีคนรออ่านแล้วใช่ไหมน้า...
Talk 181021 | 85%
สปอย ไม่แน่ตอนหน้าพี่แบมอาจจะเจอคนที่ต้องหน้าต้องตาก็เป็นได้ หุๆๆ ส่วนตอนนี้ขอเอาน้องมาร์คไปปล่อยในเล้าไก่ก่อนจ้าา
Talk 181021 | 140%
นักเลงใหญ่อะไรของแก ว้อยยย มาร์คคคค
ยังไม่ได้ขัดเกลาจ้า เนื้อเรื่องยังไม่ได้มีปมอะไรปล่อยชิลล์ไปก่อน เดี๋ยวก็มีเองจ้า คิกๆ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

พี่แบมตามน้องไม่เคยจะทันเลยนะ
เจ็บปากเลย จำไหมล่ะ แบม