ตอนที่ 4 : TLC - 3 | 140%
เข้าสู่ครึ่งเดือนแล้วของการเลี้ยงน้องมาร์ค เวลาค่อนข้างผ่านไปเร็วดีเหมือนกัน และดูเหมือนเราจะสนิทกันมากขึ้น...
มาก..
จน...
“มาร์คห้ามดูดแก้มพี่แบมแรงมันเจ็บ!”
“กะแบมไม่โป๊ะเค้า แล้วเค้าจะนอนยัมไง!” ผละปากที่ดูดแก้มแบมแบมออก ดูผลงานตัวเองที่ขึ้นสีแดงเป็นรอยกว้างพร้อมกับน้ำลายที่เปราะแก้มก่อนจะเถียงออกมาแล้วก้มลงไปดูดต่อ
“หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะมาร์ค!” แล้วก็ขึ้นมานอนทับบนตัวเขาด้วยนี่คิดว่าเบามากมั้ง ถึงจะไม่อ้วนแต่พออยู่นานๆมันก็เริ่มหนักแล้วนะเว้ย
จ๊วบๆ
ดูดเป็นขนมเลยนะไอ่อ้วน
“พอแล้วๆ ยอมๆ แก้มแดงหมดแล้วเห็นไหม” แบมแบมว่าพร้อมกอดไอ่อ้วนผลิกตัวเองให้ขึ้นมาอยู่ข้างบนกักตัวเด็กซนให้อยู่ข้างล่างแทน
“เขินๆเค้าล่ะซี่” เด็กน้องมองหน้าแบมแบมหัวเราะร่า
เขินพ่อง ดูดซะขนาดนี้อีกนิดจะขึ้นเขียวแล้วน้องมึง
แบมแบมปล่อยเด็กอ้วนกลมแล้วลุกขึ้นมานั่งบนที่นอน เด็กน้อยเลยตะกุยตะกายตัวเองขึ้นมั่งตาม
“พี่แบมบอกแล้วว่าถ้าน้องมาร์คจะนอนค่อยหอมแก้ม แต่นี่น้องมาร์คยังไม่นอน” แบมแบมบอกเสียงเข้มแต่ก็แฝงไปด้วยความละมุน
จะให้มานั่งหอมแก้มกันตลอดมันก็ไม่ใช่ไหม นี่อ้อนจะหอมแก้มทุกครั้งที่มีโอกาสเลย
“แต่แบมไม่โป๊ะเค้าฉองวันแล่ว เค้าก้ะนอนไม่ใช่จะหลับ”
จริงสิสองวันที่แล้วเขาอยู่เป็นเพื่อนเล่นให้มาร์คตลอด พอมาร์คหลับก็เก็บกวาดห้องที่มาร์คเทกระจาดของเล่น ตกกลางคืนความเหนื่อยสะสมก็จะเผลอนอนก่อนมาร์คไปซะทุกที จนลืมไปว่าเด็กนี่ต้องหอมแก้มก่อนนอนทุกคืนไม่งั้นจะนอนไม่หลับ
อันนี้ก็ไม่รู้ว่าจริงไหม แต่เจ้าตัวก็บอกมางี้ จะยอมโดนเด็กมันเอาเปรียบก็ได้ ข้อหาที่ละเลยการดูแลอยู่บ่อยครั้งหรือดูแลได้ไม่มีเท่าที่ควร
“เอางี้ละกัน โทษฐานที่พี่แบมลืม วันนี้พี่แบมจะให้จุ๊บๆ”
ว่าจบแบมแบมก็โน้มตัวลงไปใกล้เด็กน้อยจุ๊บปากหยักเร็วๆแล้วผละออก
ตึกตัก ตึกตัก
เชี่ยยยยยยย เป็นไรวะ
“สะ..เสร็จแล้ว ทีนี้ก็นอนสักที” แบมแบมสติแทบหลุดจนลืมไปว่านี่พึ่งจะสองทุ่ม
มึงจะเขินเด็กไม่ได้อีแบม!
“เหมือนเยลลี่เลย!” เด็กน้อยโพล่งออกมาทำตาโต ท่าทางตื่นเต้นเหมือนเจอขนมรสโปรด “เค้าจะเอาอีก!”
ได้ไงเล่า!
ไม่ว่าเปล่าเด็กน้อยทำท่าจะปีนขึ้นมาบนตักแบมแบม แต่ก็ถูกเบรกไว้ด้วยการที่แบมแบมอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาชูขึ้นค้างไว้
มาร์คพยายามดิ้นให้หลุดจากการเกาะกุมในที่สุดก็ปีนขึ้นมาบนตักแบมแบมได้สำเร็จ
สองแขนป้อมคว้าหมับเข้าที่คอของแบมแบมเกาะไว้แน่น เพราะแบมแบมพยายามที่จะอุ้มเด็กน้อยให้ลงมาจากตัวอีกครั้ง แต่มาร์คเกาะเขาไว้แน่นซะยิ่งกว่าลูกลิง!
แบมแบมหมดทางเลือกจึงปล่อยมือที่ยื้อฉุดกันบนร่างของเจ้าอ้วนแล้วเอาปิดปิดปากตัวเอแทน
“ออแอ้วอาก(พอแล้วมาร์ค)” แต่มีหรือเด็กน้อยหัวรั้นแบบมาร์คจะยอม
หงับ!
“โอ้ย!” มาร์คใช้ฟันน้ำนมที่กำลังขึ้นเพียงไม่กี่ซี่งับเข้าที่มือของแบมแบมจนเผลอปล่อยมือของจากปาก
เสร็จกัน!
จุ๊บๆๆๆ จุ๊บๆ
เด็กน้อยก้มหน้าลงมาจุ๊บปากเขารัวๆ ตอนนี้มาร์คเหมือนหมาบ้าเลย
อะไรจะขนาดั้นล่ะโว้ยยยยย
“อ๊ะ!...อย่ากัด!” อยู่ๆมาร์คก็มากัดปากเขาโดยที่ไม่ได้ตั้งตัว นี่แค่จุ๊บไม่พอยังกะจะเคี้ยวปากเขาไปด้วยใช่ไหม
รู้ว่าปากบวม อวบอิ่มแต่ไม่ใช่เยลลี่เว้ย! ห้ามแดก!
ในสมองที่คิดคำนวณเลขได้อย่างรวดเร็วของแบมแบมกำลังหาวิธีสกัดเจ้ามาร์คออกจากตัวเขาที่กำลังละเลงจุ๊บปากเขาเหมือนกับเป็นของหวานยังไงอย่างงั้น
และแล้ววีดีโอหนึ่งที่เขาพึ่งดูที่เขาจบไปเมื่อตอนกลางวันก็ผุดขึ้นมาในหัว วีดีโอที่คุณแม่แกล้งร้องไห้เพื่อให้ลูกเป็นห่วง!
แบมแบมเบิกตาค้างไว้เพื่อให้ตัวเองแสบตา และคิดแต่เรื่องเศร้าจากซีรีย์ที่ดูว่าก็เหมือนจะเป็นฉนวนที่ทำให้น้ำตาไหลได้ดี
“ฮึก..ฮือออ..มาร์ค..พี่แบมเจ็บ”
และดูเหมือนแผนนี้จะได้ผล มาร์คหยุดการกระทำเอาแต่ใจหันมาสนใจเขาที่แสร้งทำน้ำตาหยดลงมาปอยๆ
ต่อนิเทศก็น่าจะรอดเหมือนกันอะกู
“แบมเจ็บตมไหนคั้บ” มาร์คทำหน้าหงอยๆปล่อยมือ-ออกจากคอแบมแบมเปลี่ยนมาเช็ดน้ำตาบนใบหน้าเนียนแทน เงยหน้าถามแบมแบม
อีกละจะโกรธก็โกรธไม่ลงเมื่อเห็นหน้าหงอยๆของน้องมาร์คทำไมต้องมาแพ้อะไรแบบนี้ทุกที
แต่ไม่ได้หรอกนะครั้งนี้เขาต้องทำใจแข็ง เดี๋ยวเด็กมันได้ใจ
“เจ็บปาก ปากพี่แบมแตกแน่เลย” แบมแบมทำหน้าหงอยสู้กลับ เอามือขึ้นมาแตะปากให้ดูน่าสงสาร
เชรดเข้ เจ็บจริงนะอันนี้
“ฮือ ไหนมาร์คขอดู” เจ้าตัวเล็กทำหน้าเหมือนตกใจเขยิบหน้าเข้ามาใกล้เขาแล้วเอามือแตะๆดู
“มัคขอโทด มัคโอ๋ๆนะคั้บ” มาร์คยืดตัวขึ้นมากระชับกอดที่คอแบมแบมแล้วเอาแก้มตัวเองกดลงที่ปากของคนพี่ถูไปมาเป็นการปลอบ
เดี๋ยวนะ ปลอบแบบนี้ใช่หรอวะ...
------ 30% ------
และดูเหมือนมาร์คจะกอดปลอบเขานานเกินไปจนเจ้าตัวตาเริ่มปรือ แบมแบมเอามือลองไว้ที่ก้นเจ้าอ้วนอุ้มกระชับกอดขึ้นมา แล้วยันตัวเองลุกออกจากเตียง พาตัวเล็กเดินไปรอบๆห้องลูบหลังฮัมเพลง เขย่าตัวเจ้าอ้วนเบาๆกล่อมให้นอนเร็วขึ้น
พอเหลือบมองเด็กในอ้อมกอดที่หลับคอพับบนลาดไหล่เขาไปแล้ว ก็เปลี่ยนจากลูบหลังเป็นลูบหัวเบาๆ กระชับกอดแน่นขึ้นไปอีกแต่ก็ไม่ได้แรงจนทำน้องมาร์คตื่น
ก็มันหมั่นเขี้ยวนี่น่า
ทำอะไรก็น่าเอ็นดูไปหมด ยิ่งตอนอุ้มกล่อมให้หลับแล้วชอบเอาหน้ามาซุกไว้ที่ต้นคอหัวก็หนุนไว้บนไหล่บางของเขา ไหนจะลมหายใจอุ่นจากเจ้าตัวเล็กที่พ่นออกมาลดต้นคอเบาๆทำให้รู้สึกจั๊กจี้นิดๆนี่ยิ่งน่าเอ็นดูเข้าไปใหญ่จนอยากจะอุ้มให้หลับไปซะแบบนี้จนถึงเช้า
แต่ก็ได้แค่คิดล่ะนะ
แบมแบมย้ายตัวเองขึ้นมาบนเตียงเอามือลองหัวเจ้าอ้วนแล้วค่อยๆเอนตัวลง วางหัวเจ้าอ้วนให้ลงพอดีกับหมอนใบเล็ก นั่งสำรวจใบหน้าน่ารักสักพักก็เอามือไปลูบผมหน้าม้าที่ปรกหน้านิดๆออก ยิ้มกริ่มออกมาคนเดียว ดูเหมือนจะภูมิใจในฝีมือการเลี้ยงเด็กของตัวเองไม่ใช่น้อย
“โตไวๆนะตัวเล็กของพี่แบม”
จุ๊บ
“Goodnight Kiss ครับ”
ถึงแม้จะโดนตะโบมจูบแบบเด็กๆไปแล้วเมื่อสักครู่ ส่วนหนึ่งลึกๆในใจเป็นเพราะเขาอาจจะเต็มใจให้ทำเป็นการขอโทษ แล้วส่วนนี้ก็ถือเป็น Goodnight Kiss ของจริงล่ะมั้ง
เสร็จแล้วแบมแบมก็หันหน้าไปคว้าหมอนมาใกล้ๆเจ้าตัวเล็กเตรียมตัวจะนอนลงบ้าง แต่ก็ได้ยินเสียงเล็กๆพึมพำออกมาซะก่อน
“กึ้ดน้ายคิสส แง่มๆๆ”
หืม...
“ละเมอหรอกหรอ ฮ่าๆๆ” แบมแบมหัวเราะเอ็นดู ล้มตัวนอนแล้วคว้าเจ้าตัวเล็กมากอด
พอมีไออุ่นข้างตัวน้องมาร์คก็ตวัดแขนโอบเข้าที่เอวของพี่แบมซุกหน้ากับอกบาง
“เหลืออีกแค่เดือนครึ่งเอง พี่แบมจะเลี้ยงอ้วนดีๆเลย...”
เข้าสู่เดือนที่ 2
“มาร์คตื่นเร็ว”
“ฮื่อ...”
“ไม่ต้องมาบิดขี้เกียจใส่เลย พี่แบมจะพาไปซุปเปอร์ ถ้าไม่ลุกพี่แบมจะทิ้งไว้ที่คอนโดคนเดียวนะ”
“ฮื่อ...” ตากลมโตค่อยๆปรือขึ้น หรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อปะทะกับแสงที่สาดส่องเข้ามาเมื่อแบมแบมเปิดม่านที่ระเบียงไว้ซะกว้าง แล้วก็ปิดเปลือกตาลงต่อ
“มาร์คคคคคคค”
“Okay, wait a sec”
ไอ่นี่...
อ้อ ความจริงอีกอย่างที่พึ่งรู้คือตัวอ้วนที่เขาเลี้ยงอยู่มันเป็นเด็กลูกครึ่งจีน-เมกา แม่เป็นจีน พ่อเป็นเมกา แล้วครอบครัวก็ย้ายมาอยู่เกาหลี ส่วนพ่อเจ้าอ้วนตอนนี้ก็บริหารธุรกิจอยู่ที่อเมริกา เวลานอนละเมอหรือตกใจก็จะเผลอพูดอิ้งใส่เขารัวๆ อันนี้ยังพอฟังเข้าใจเพราะเขาก็เก่งอังกฤษอยู่แล้ว แต่วันดีคืนดีที่เขาได้ยินเด็กมันพูดจีนนี่ล่ะสิ ถึงกับกุมขมับ พี่แบมฟังรู้เรื่องแค่ เชี่ยเชี่ย กับ หว่ออ้ายหนี่ นะมาร์ค...
พอปล่อยให้มาร์คมันนอนต่ออีก 5 นาที ตัวเขาเองก็นั่งรออยู่ที่โต๊ะทำงานจ้องเจ้ามาร์ครอคอยการลุกของเด็กขี้เซา
แบมแบมเอานิ้วเคาะโต๊ะไปเรื่อยๆ สักพักตัวเล็กก็ตะเกียกตะกายลุกขึ้นกางแขนไว้รอ
“แบมอุ้มมมม”
“ฮึบ! หนักขึ้นรึป่าวเนี่ยมาร์ค”
“จุ๊บๆ Morning Kiss Bam! คิกๆๆ”
“ค้าบๆ Morning Kiss น้า”
จุ๊บ
เจ้าตัวเล็กหัวเราะชอบใจตวัดมือกอดคอเขาเอาหน้าซุกคออ้อนแบบที่เจ้าตัวชอบทำตลอดเดือนนึงที่ผ่านมา
แบมแบมจับเจ้ามาร์คอุ้มไปอาบน้ำแต่งตัวหล่อๆเสร็จแล้วชงนมให้กินไปก่อนแต่เจ้าตัวก็ส่ายหน้ายังไม่กินอาจจะเพราะตื่นนอนเลยยังไม่หิว ก็เลยจำเป็นที่จะต้องหิ้วขวดนมออกมาด้วย จากนั้นก็อุ้มเจ้าอ้วนมาที่โรงจอดรถของคอนโด
คิดว่าเด็กสิบหกอย่างผมจะมีรถยนต์ขับหรอ ก็ไม่ไง วันนี้จะพามาร์คไปแว๊นมอ’ไซค์ตะหาก
“มาร์คซ้อนมอ’ไซค์เป็นป้ะ” แบมแบมถามขณะที่จูงเจ้ามาร์คเดินมาเรื่อยๆ
เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน ไม่เคยพามาร์คซ้อนมอร์เตอร์ไซค์ไปไหนเลย วัตถุดิบการทำอาหารต่างๆคนจากที่บ้านก็จะเอามาส่งให้ เวลาจะออกไปไหนก็จะมีคนไปรับไปส่ง อย่างครั้งที่แล้วก็พาเจ้ามาร์คไปเที่ยวตั้งหลายที่ อาทิตย์ละครั้ง ก็จะมีคนขับรถมารับไปเที่ยวตลอด
แต่ครั้งนี้ลืมโทรบอกที่บ้านว่าของในตู้เย็นหมดแล้วถ้าจะโทรบอกตอนนี้ก็จะยิ่งช้าเข้าไปใหญ่ คงได้หิวตายทั้งพี่ทั้งน้อง จะโทรสั่งเซอร์วิสโรงแรมก็ไม่ถูกปากคุณเขาอีก เพราะว่าผมเคยสั่งอาหารขึ้นมากินเนื่องจากวันนั้นขี้เกียจมากๆ คุณมาร์คเค้ากลับประท้วงไม่ยอมแตะข้าว ไล่เขาไปทำให้กินจนเขาต้องหอบสังขารไปทำให้
และรถมอร์เตอร์ไซค์ที่อยู่ในโรงก็มีของผมจอดอยู่ 3 คัน เป็นมินิไบค์ Honda X-ADV อีกคันเป็นเวสป้า เอาไว้ขับชิลล์ๆไปโรงเรียน และ QBIX ที่พี่แบมแบม GOT7 เป็นพรีเซ็นเตอร์ เวลาขับนี่แทบอยากตะโกนว่า เมนผมเป็นพรีเซ็นเตอร์เองคร้าบบบ แต่ก็ได้แค่หวีดร้องในใจ และก็มีอีกคันเป็นคันโปรดของผมแต่จอดไว้ที่บ้านเป็น Kawasaki Z125 เห็นแบบนี้ผมก็เป็นคนที่ชื่นชอบรถมากๆเลยนะ แต่ถ้าจะให้ขับบิ๊กไบค์อย่าง M-slaz หรือ ducati เลยก็ไม่ไหว ขอเป็นเพียงแค่คนซ้อนก็แล้วกัน น้อยใจเหมือนกันนะครับเกิดมาตัวเล็กเนี่ย
ตอนแรกก็กะว่าจะเอาเวสป้าออกมาขับแต่มาคิดๆดูแล้วน้องมาร์คน่าจะซ้อนลำบาก งั้นเอา X-ADV ละกัน
“No ,มัคไม่เคยคั้บ” มาร์คตอบพร้อมกับส่ายหัวว่าเจ้าตัวไม่เคยนั่ง
“งั้นก็เคยวันนี้แหละ ชี้เลยจะนั่งคันไหน” พามาตรงตรงหน้าลูกๆทั้งสามคันแล้วให้มาร์คเป็นคนเลือก แน่นอนว่าเด็กผู้ชายจะชอบอะไรที่มันเท่ห์ๆ
และไม่ผิดคาดมาร์คเลือกที่จะนั่งคันเดียวกับที่ผมเลือกไว้ในใจแต่แรก ผมจึงอุ้มน้องขึ้นนั่งข้างหน้าสวมหมวกกันน็อคเล็กๆที่ผมซื้อมาเผื่อไว้แล้วให้น้อง และมุ่งหน้าไปยังซุปเปอร์
เราเดินทางกันมาถึงซุปเปอร์มาเก็ตขนาดกลาง ในช่วงสายของวัน กะไว้ว่าจะซื้อของเวฟกับวัตถุดิบและขนมไปตุนไว้เยอะๆจึงเลือกลากรถเข็นออกมาแล้วอุ้มน้องมาร์คไว้ในรถเข็น
เจ้าตัวเล็กดูตื่นเต้นไม้น้อยทำท่าลั้ลลาอยู่ในรถเข็นมือก็ถือขวดนมชูขึ้นโบกไปมา จนพี่แบมเหมือนเห็นมีดอกไม้บานอยู่รอบๆ
อ่า... คุณน้าคงไม่เคยพามาเดินซุปเปอร์สินะ
“มาร์คอยากกินอะไรก็ชี้เลยนะ” พี่แบมก้มหน้าบอกน้องมาร์คที่เอนตัวพิงกับรถเข็นดูดขวดนมจ๊วบๆอยู่พร้อมกับลากรถเข็นไปเรื่อยๆ มาร์คพยักหน้ารับตาก็สนใจไปรอบๆ
สุดท้ายก็ได้ของกินกลับมาเต็มห้อง ขนมส่วนใหญ่ก็จะได้เป็นไอติมตามใจคุณมาร์คเขา ส่วนมื้อเช้าเป็นสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าของโปรดอันดับต้นๆของน้องมาร์ค
“อ้ามมมมม...งั่มๆๆ” มาร์คอ้าปากรับสปาเก็ตตี้คำเล็กเข้าปากหน้าระรื่น ส่วนหน้าที่ป้อนก็ยังตกเป็นของพี่แบมอีกเช่นเคย มื้อนี้เขาเป็นคนยอมป้อนแต่โดยดีเนื่องจากถ้าให้มาร์คกินเองก็คงจะเลอะเทอะไปหมด และคงจะเป็นมื้อที่มาร์คเจริญอาหารอีกมื้อ อ้าปากเอาๆจนเขาป้อนแทบไม่ทัน บอกให้เคี้ยวให้ละเอียดก็ไม่ยอมฟัง ต้องขู่ว่าจะไม่ป้อนเจ้าตัวจึงค่อยๆกิน
ขนาดว่าค่อยๆป้อนอย่างระมัดระวังก็ยังมีซอสติดรอบปากของน้องมาร์ค แบมแบมจึงยกผ้ากันเปื้อนที่ติดไว้รอบคอมาร์คขึ้นมาเช็ดให้เบาๆ
“อีกไม่กี่วันเราก็จะได้กลับบ้านแล้วนะมาร์ค” พอคิดเรื่องนี้ก็ใจหายเหมือนกันนะ
ความเป็นปกติมันจะไม่ปกติเมื่อมีอีกคนก้าวเข้ามาในชีวิตเป็นส่วนหนึ่งของเรา แต่เมื่อเขาหายไปมันก็จะรู้สึกเคว้งๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ยังอยู่คนเดียวได้ มันก็ควรจะเศร้าอยู่แล้วเพราะความปกติมันถูกอีกคนเข้ามาแทนที่จนกลายเป็นความปกติใหม่ซ้อนทับอันเดิม ถ้าน้องมาร์คได้ไม่ได้อยู่ร่วมคอนโดกับเขาอีกแล้ว เราก็แค่กลับไปใช้ความปกติเดิมแรกๆก่อนที่จะมีเขาเข้ามาอยู่ด้วย
ใช่ ก็แค่กลับไปอยู่บนเดียวแบบเดิม
แบบที่เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอกับกองชีท ไม่มีของเล่นเรี่ยราดให้เขาตามเก็บ ไม่มีเสียงแว้ดๆให้เขาเถียงเป็นเด็กๆ ไม่มีเด็กตัวเล็กๆให้เขากอดตอนนอน ไม่มีเด็กที่คอยอ้อนเขาเอานู้นเอานี้ในห้องของเขาอีกแล้ว
เฮ้อ เศร้าใจจังนะ
แบมแบมท้าวแขนพิงกับขอบเคาท์เตอร์ครัวจ้องหน้ามาร์คที่เคี้ยวข้าวหงุบหงับๆ สองก้อนที่ไม่รู้ว่าเป็นแก้มหรือซาลาเปายกขึ้นไปมา
“เค้าจะเอาแบมไปอยู่ด้วย คิกๆๆมัคชอบแบมคั้บ.. ชอบเล่นกับแบม เค้าจะไปอยู่กับแบมที่บ้านของมัค”
ถึงจะเป็นคำพูดของเด็กก็ตามแต่แบมก็ไม่รู้หรอกว่าเจตนาจริงๆแล้วมาร์คต้องการแบบนั้นไหม หรือพูดออกมาเพราะความสนุกชั่วครั้งคราวเท่านั้น ถ้าเกิดเป็นแบบนั้นขึ้นมาจริงๆ เขาไม่สามารถไปอยู่ด้วยได้หรอกนะ หรือจะจ้างให้เป็นพี่เลี้ยงก็ไม่ไหวหรอก บ้านมาร์คอยู่ห่างจากโรงเรียนของเขามากกว่าบ้านของเขาอีก
ถ้าต้องจากกันมาร์คจะร้องไห้ให้เขาไหมนะ จะงอแงอยู่กับเขาต่อหรือป่าว
แล้วเขาล่ะ จะทนอยู่กับห้องเดิมๆแบบนี้คนเดียวได้หรือป่าว...
----- 80% -----
“แบม! แบม!”
“อยู่นี่มาร์ค พี่แบมอยู่นี่” แบมแบมกวักมือเรียกมาร์คที่พอโผล่พ้นออกมาจากห้องนอนก็ยืนตะโกนเรียกเขาซะเสียงดังเลย
มาร์ครีบวิ่งเตอะแตะเกือบล้มอยู่หลายทีไปหาแบมแบมที่อ้าแขนรอรับ สุดท้ายก็สะดุดก็สะดุดขาตัวเองล้ม โถมตัวใส่หน้าตักแบมแบมที่นั่งอยู่บนโซฟาหน้าโทรทัศน์พอดี
“ก็ไม่เห็นต้องรีบขนาดนั้นเลยไหมเล่า เดี๋ยวก็ล้มหรอก” มีหรือที่เด็กซนจะสนใจหนำซ้ำยังหัวเราะคิกคักยืนอยู่ตรงหน้าแบมแบมโน้มตัวเอาหน้าซุกตักมือก็กอดรอบเอวบางไว้
เรื่องอ้อนขอให้บอกสิน่า...
“แบมมัคๆฝันด้วยล่ะ!” เด็กน้อยว่าเสียงใสปีนขึ้นมานั่งบนตักแบมแบม หันหน้าเข้าหากัน แบมแบมจึงประคองหลังเด็กอ้วนไว้กลัวหงายหลังตก
“หืม ฝันว่ายังไงเอ่ย” แบมแบมยักคิ้วเอ่ยถาม มืออีกข้างก็ยกมือขึ้นมาลูบผมน้องมาร์ค
อ่า... นี่เขากลายเป็นคนที่เอ็นดูเด็กคนนี้มากๆตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ
“อืม... เค้าฝันว่าแบมโดนสับปะหลาดจับไป แล้วมัคก้ะแปลมร่ามไปโช่ย มัคเป็นฮีโร่ด้วยล่ะแบม!”
“จริงป่าว โม้ก็ไม่รู้” ด้วยความหมั่นเขี้ยวที่เห็นเด็กน้อยตั้งใจเอ่ยเล่าเรื่องราวในความฝันให้เขาฟังพรางทำหน้าทำตาโอเว่อร์แอคติ้งสุดๆก็อดเอ็นดูไม่ได้ แบมแบมจึงก้มหน้าให้หน้าผากชิดกับเด็กอ้วนตรงหน้า เอาจมูกชิดกันเขี่ยไปมาอย่างหมั่นเขี้ยว
“ฮื่อ จีงงงงง แล้วมัคก้ะโช่ยแบมได้ด้วยนะ” มาร์คจับจมูกแบมแบมเอาไว้เพราะเขายังเล่าไม่จบ “เค้าก้ะตบใจม้าดเห็นแบมร้อมไห้ เค้าก้ะเตะสับปะหลาดตายไปเลย”
“หูยยย จริงหยอออ” แบมทำตาโตล้อเลียนมาร์ค
“จีงงงงง ฮื่อ แบมล้อเค้า”
“ฮ่าๆๆ เก่งจังน้าช่วยพี่แบมได้ด้วย ตัวก็ตั้งอ้วนยังยกขาเตะไหวอีก”
“มะอ้วงงง แบมมั่วแล่ว” มาร์คทำปากจู๋ใส่พี่แบม อันนี้คือท่างอนของเขาล่ะ ไอ่ทำปากจู๋ๆใส่เนี่ย
“อ้วนก็หล่อนะ พี่แบมก็ชอบเด็กอ้วนๆน่ารักจะตาย”
“ฮื่อ แบมอะ งั้นมัคก้ะจะกินเยอะๆอีก แบมก็ต้อมป้อนเยอะๆ”
“ก็เดี๋ยวมาร์คก็จะกลับบ้านแล้วพี่แบมก็จะไม่ได้อยู่ป้อนมาร์คแล้วนี่สิ”
“กะแบมไปอยู่ที่บ้านมัคไง”
“ไอ่แสบ” แบมแบมอดไม่ได้ที่จะยืดแก้มกลมๆนั่นเล่น
หมั่นเขี้ยวมาก ขอที
“พี่แบมไปไม่ได้หรอก พี่แบมต้องเรียนหนังสือ”
“เรียนไปทำไมอะ” มาร์คเอียงคอถาม
“ก็จะได้ทำงานมีเงินซื้อหนมให้หนูเยอะๆเลยไงครับ”
“อื้อ มัคชอบกินไอติมล่ะ” ดูสินี่ขนาดยังไม่ทันไรก็สั่งไว้ก่อนซะละ
“ได้ แต่ก็ต้องห้ามงอแงนะรู้ไหม พี่แบมจะไปเล่นด้วยบ่อยๆ จะซื้อไอติมไปฝากด้วย”
“ไม่รับลู้” มาร์คเอามือปิดหูแล้วส่ายหน้าไปมา
ไม่รับรู้เรื่องอะไรวะ...
ดื้อนี่มันดื้อจริงๆ
และแล้วก็ถึงวันที่เจ้าอ้วนจะต้องกลับบ้าน
“มาร์คมาหาม่าม๊าสิลูก”
“หงึ...เค้าม่ายเอา” ม่าม๊าต้วนคนสวยอ้าแขนรอรับลูกชายตัวน้อยแต่มาร์คกลับเกาะเอวพี่แบมแน่นเป็นลูกลิงส่ายหัวไปมา
คุณน้ากลับมาจากญี่ปุ่นพร้อมพ่อแม่ของเขาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่เนื่องจากเดินทางกันมาเหนื่อยๆ กว่าจะถึงบ้านก็ตั้งเย็นแล้ว ก็เลยพักผ่อนกันที่บ้านผมไปก่อน พอสายๆก็เลยแห่กันมาเยี่ยมที่คอนโดของผม
และด้วยความที่คุณน้าเค้าก็คงจะคิดถึงลูกชายมาก ก็แหง๋ล่ะไม่เจอกันตั้งสองเดือน ทำได้มากสุดก็แค่สไกป์ไปหา แต่ไอ่อ้วนก็ดูเหมือนไม่ทุกข์ไม่ร้อน ไม่เห็นจะงอแงหาแม่เลยสักนิด แถมตอนนี้ยังเกาะหนึบผมเป็นลูกลิงไม่ยอมลงยังกะคนแปลกหน้ามาขออุ้ม
เดี๋ยวมาร์ค... นั่นแม่มึง
“มาร์คไปหาม่าม๊าก่อน” ผมพยายามพูดกล่อมมือก็พยายามแกะมือเล็กออกจากเอวไปด้วย แต่เด็กดื้อก็เกาะแน่นซะเหลือเกิน
“ก้ะเค้ายังไม่อยากกลับนี่น่า” มาร์คทำหน้าหงอยพิงอกเขา
“ก็ยังไม่กลับไง เนี่ยเดี๋ยวคุณม๊าจะนอนที่นี่ใช่ไหมครับ” แบมแบมเงยหน้าขยิบตากับคุณน้า “ลุกก่อนเร็วคุณม๊าเค้าคิดถึงมาร์คนะ”
“ฮื่อ ก้ะได้คั้บ” มาร์คยอมผละออกจากแบมแบมแล้วหันไปชูมือให้ม่าม๊าต้วนอุ้มแทน “เค้าคิดถึมม่าม๊า” พอได้ยินประโยคที่อ้วนมันเอ่ยพี่แบมถึงกับคิ้วกระตุก
เรื่องเอาใจนี่ขอให้เหอะ เมื่อกี้ยังไม่ยอมลง ทีตอนนี้ทำเป็นมาคิดถึมม่าม๊า ไอ่อ้วนเอ้ย
“แล้วแบมแบมเตรียมตัวจะเปิดเทอมหรือยังล่ะลูก อีกแค่สองวันเองหนิ” เป็นแม่ของแบมแบมที่เอ่ยถามความเป็นไปของลูกชายบ้าง
“ไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับม๊า” ถึงจะโดนเจ้าอ้วนมันเข้ามาวุ่นวายตอนกำลังจัดของอยู่บ่อยๆ แต่ก็ถือว่าโอเคที่ไม่ได้ทำให้เขาเหนื่อยจนเกินไป ก็เข้าใจแหละว่าเด็กมันก็อยากจะมีส่วนร่วมด้วย เขาจึงไม่ได้เอ่ยดุอะไร แถมยื่นนู้นยื่นนั่นให้เล่นอีกตะหาก
“เลี้ยงน้องเป็นยังไงบ้างล่ะ มีความรับผิดชอบขึ้นเยอะเลยสิ” พ่อแบมแบมอดที่จะแซวลูกชายไม่ได้
ก็ในเมื่ออยู่คนเดียวก็เลยกลายเป็นคนชิลล์ๆอะไรก็ได้ แทบจะไม่แคร์อะไร อ่านหนังสือเสร็จก็กองไว้ตรงนั้นแล้วอ้างเหตุผลว่ายังไงก็ต้องกลับมานั่งอ่านที่เดิมเดี๋ยวก็รกเหมือนเดิมจะเก็บทำไม แต่พอมีอีกชีวิตนึงเข้ามาแบมแบมก็ดูเหมือนจะเก็บกวาดห้องให้เรียบร้อยขึ้น กองชีทที่เกะกะรกตาตอนนี้ก็ไม่มีให้เห็นแล้ว
เขาอนุญาตให้มาอยู่คอนโดได้แต่ก็ต้องรับผิดชอบตัวเองด้วย เขาเลี้ยงลูกมาเพื่อที่จะให้รู้จักกับความลำบากบ้าง ผ้าก็ต้องซักเองจะให้แม่บ้านหอบไปหอบมาก็ไม่ได้หรอก ชีวิตไม่ได้มีอะไรได้มาง่ายๆ ถ้ารู้จักแต่ความสุขสบายชีวิตนี้ก็คงจะไม่ดิ้นรนทำอะไร
“หูย พ่อครับเยอะกว่าที่พ่อคิดไว้ซะอีก ผมไข้แทบจับวันละหลายหน” แบมแบมฟ้องบ้าง
“แล้วไม่สนุกว่างั้นเถอะ”
“ก็ดีนะครับ เลี้ยงน้องก็สีสันชีวิตอีกแบบ มาร์คเองก็ไม่ดื้อ” เหร๊ออออ “แถมผมก็ได้ภาษาจีนจากน้องมาร์คตั้งเยอะ” ถึงจะปวดหัวมากๆก่อนจะได้ศัพท์ก็เถอะ แต่ก็ไม่ได้แย่ไปหมดซะทีเดียว
“จริงสิน้องมาร์คก็พูดจีนได้นี่เนอะ” แม่แบมแบมเอ่ยขึ้นบ้าง
“ม่าม๊าๆ จอไจ่” อยู่ๆมาร์คก็ตบมือแล้วพูดขึ้นมา
“หนูพูดอะไรคะลูก”
“ตัวอักษรภาษาไทยน่ะครับคุณน้า ผมสอนน้องมาร์คเอง” แบมแบมยืดอกพูดภูมิใจที่ตัวเองก็สอนมาร์คได้ แถมแอบยกนิ้วโป้งให้มาร์ค ที่ทำให้เขาได้หน้า
อย่างน้อยก็ไม่ใช่มีแค่มาร์คที่ให้ความรู้เขานะ แบมแบมเองก็สอนมาร์คไปตั้งหลายอย่าง
เนี่ย ตอนนี้ก็กินข้าวเองได้ด้วย ใช้ตะเกียบก็เป็น...
ก-ฮ เขาก็สอน ถ้าอยู่ด้วยกันนานอีกนิดนี่คืดพูดไทยได้ชัดเปร๋อแล้วนะ
คุณน้าต้วแหงนหน้ามองดูนาฬิกาพนัง แล้วก็พยักหน้าให้กับพ่อแม่ของผม
ก็คงจะได้เวลาแล้วสินะ
พ่อกับแม่ของผมที่มารถคนละคันกับคุณน้าจึงขอตัวกลับก่อนเพราะต้องไปตรวจดูงานเมืองข้างๆ
นี่ขนาดพึ่งกลับพวกเขายังมีเวลาพักกันแปปเดียวเอง เหนื่อยแทนเลยแฮะ
“เก่งจังเลยลูก งั้นเราไปซื้อไอติมเป็นของรางวัลกันเนอะกันเนอะ” คุณน้าทำเป็นเอ่ยชมเจ้าอ้วนและล่อลวงด้วยไอติมของโปรดเพื่อให้ออกจากคอนโดแบบเนียนๆ
มาร์คลังเล ใจนึงก็อยากกินไอติม ใจนึงก็กลัวจะโดนอุ้มกลับบ้านแล้วจะไม่ได้อยู่กับพี่แบม มาร์คจึงวิ่งไปกำรอบนิ้วพี่แบมไว้แล้วออกแรงดึง
“เอาแบมไปด้วย!”
คุณน้าอึกอักไม่คิดว่ามาร์คจะมาไม้นี้
“โอเค พี่แบมจะลงไปด้วย เราไปซื้อไอติมด้วยกันนะ” แล้วแบมแบมก็ขยิบตาให้คุณน้าเป็นอันรู้กันอีกที
มาร์คกำรอบนิ้วของทั้งสองคนมาเรื่อยๆไม่ยอมปล่อยจนมาถึงรถที่จอดรอไว้
คุณน้าอุ้มเจ้าอ้วนให้สอดเข้าไปในรถด้วยกันแล้วจับนั่งตัก แต่มือก็ยังไม่ยอมปล่อยออกจากแบมแบม
“แบมเข้ามา” เจ้าอ้วนเรียกแบมแบมที่ยังไม่ยอมขึ้นรถ
ในหัวแบมแบมก็กำลังคิดหาวิธีที่ทำให้มาร์คปล่อยมือ
เอาจริงๆ ส่วนนึงเขาก็ยังไม่อยากให้ปล่อยเหมือนกันนั่นแหละ ถ้าน้องมาร์คไม่ร้องพี่แบมจะร้องแทนแล้วนะ
แบมแบมน้ำตาคลอหน่วยใจจริงแล้วยังไม่ยากให้อ้วนไป แต่จะทำยังไงได้แม่เขาก็คิดถึงลูก ก็อยากมีเวลาอยู่กับลูกเหมือนกัน เขาก็คงไม่ทรามพรากแม่พรากลูกคนอื่นหรอก
“พี่แบมจะไปนั่งข้างหน้ามาร์คปล่อยก่อน” แบมแบมพยามคุมเสียงที่มันใกล้สั่นเต็มที
ท่าจะแย่แล้ว พี่แบมจะคุมน้ำตาไม่อยู่แล้วนะอ้วน
“มัคนั่งด้วย”
“อื้อ แต่มาร์คต้องปล่อยก่อน” มาร์คลังเลสักพักแต่ก็ยอมปล่อย สายตาก็ไม่วางไปจากหน้าของพี่แบม
แบมแบมถอยออกมาเล็กน้อยยืนบนฟุตบาทปิดประตูให้เสร็จแล้วก็ไม่ไหวติง ไม่มีท่าทางว่าจะขึ้นมานั่งบนรถ
มาร์คเห็นท่าไม่ดี ก็ใจเสียขึ้นมา รู้อยู่แก่ใจแล้วว่า โดนหลอกให้กลับบ้านแล้วแน่ๆ น้ำตาก็เริ่มตกเลยทันที
“ฮือออ แบมแบม!! ฮือออ” มาร์คพยามจะลุกออกจากตักม่าม๊าต้วนลงไปมาหาแบมแบมแต่ก็โดนคุณม๊ายื้อไว้ ม๊าต้วนจึงสั่งให้คนขับรถล็อคประตู และเคลื่อนที่ออกจากบริเวณนั้น
“แงงงงง!! เค้าจะหาแบม ฮืออ!! แบม!!!”
ฝั่งพี่แบมที่แข็งใจไม่ให้น้ำตาไหลออกมาซะก่อนก็ได้แต่โบกมือบ๊ายบายตามหลังรถเจ้าอ้วนไป
พอรถขับลับสายตาไปแล้วน้ำตาที่กักเก็บไว้ก็หยดลงมาปอยๆพร้อมกับแรงสะอื้น
“ฮื่อออ.. ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ได้เจอกันนะ อ้วน ฮึก...”
---- 140% ----
"อัพเร็วอัพช้า ขึ้นอยู่กับคอมเม้นต์และให้กำลังใจนะคะ"
Talk 181007
จริงๆเค้าก็ไม่ค่อยโอเคกับกาารแต่งแบบนี้เท่าไหร่ละมันเหมือนยืดเยื้อยังไงไม่รู้ คอมเม้นต์ติชมได้เลยนะคะ อยากให้ปรับแก้ตรงไหนก็จะยินดีรับฟังเลยค่ะ
Talk 181011
ด้นสดเลยค่ะ ยังไม่ได้ขัดเกลาใดๆเพราะหลังจากนี้จะยุ่งอีกแล้วค่ะเลยรีบมาอัพก่อน ส่วนตอนนี้ขอสปอยว่าจะมากกว่า 100% ตอนหน้าจะเป็นเวอร์ชันโตๆกันแล้ว รอน้าาาา
Talk 181013
ยังไม่หยักให้ไอ่อ้วงไปจากพี่แบมเล้ยยยย เจอไอ่อ้วงเวอร์ชันโตตอนหน้านะคะ
ปล.ที่ไม่มีฉากน้องมาร์คจับอะไรนุ่มนิ่มของพี่แบมเพราะไรท์เปลี่ยนพล็อตใหม่น่ะค่ะ มาร์คตอนเด็กก็เลยดูเรียบร้อย
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไม่ร้องนะครับ เดี๋ยวพี่แบมไปหาบ่อย ๆ น๊า
มาร์คส่อแวว ตั้งแต่เด็กเลย ชอบดูดปากเนี่ยะ