ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รอวันที่รัก

    ลำดับตอนที่ #2 : นางฟ้า

    • อัปเดตล่าสุด 23 ต.ค. 48




        บ้านของมะลิเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว แต่กว้างขวางพอควร ทางด้านซ้ายของตัวบ้านมีโรงนาที่อยู่ของม้าพันธุ์ดี 3 – 4 ตัวที่เธอเพาะพันธุ์เอง เพื่อสานต่อความฝันของสามี ใกล้ๆ กันมีเล้าไก่ไข่ขนาดใหญ่ ทางด้านหลังมีสวนมะม่วงอยู่ กับสวนผักแปลงเล็กที่ปลูกไว้ทานเอง ส่วนหน้าบ้านนั้น เธอทำเป็นสวนไม้ดอกสวยงามน่าดูทีเดียว แถมบางครั้งเธอยังตัดดอกไม้ไปขายได้อีกด้วย



        “ พาไปที่ห้องเล็กเลยนะ เดี๋ยวมะลิตามไป” มะลิบอกสีกับเดช ให้ไปที่ห้องทางด้านหลัง ส่วนตัวเธอเองนั้นเข้าไปเอาชุดปฐมพยาบาลในห้องพระที่อยู่ติดกัน



        “ กุหลาบไปตักน้ำมาให้แม่ทีลูก เอาผ้าผืนเล็กมาด้วยนะ” เธอหันบอกลูกสาวที่จะเดินตามไปห้องเล็ก



        “ แม่มะลิ งั้นเดี๋ยวพ่อไปตามหมอจั่นก่อนนะ” หลังจากปล่อยภาษกรไว้บนเตียงเรียบร้อย สีก็อาสาไปตามแพทย์ประจำตำบลที่อาศัยอยู่ไม่ไกลจากบ้านของมะลินัก



        ภาษกรรู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อผ้าชุบน้ำหมาดๆ แตะลงบนหน้าของเขา



        “ ดีนะเนี่ยที่ไม่เป็นอะไรมาก แค่ข้อมือเคลื่อน กับหัวแตก หมอดามให้แล้ว แล้วก็เย็บแผลให้แล้วด้วย ส่วนแผลถลอกตรงอื่น หมอฝากแม่มะลิจัดการแล้วกันนะ เดี๋ยวหมอขอตัวไปที่ท้ายหมู่บ้านก่อน ตาอบแกมาบอกว่า เมียแกจะคลอด แล้วข้อเท้า รู้สึกจะบวมๆ ก็อย่าเพิ่งปล่อยให้เดินล่ะ”



        ภาษกรเห็นชายวัยกลางคนดูท่าทางภูมิฐานยืนพูดอยู่ที่ปลายเตียง กับหญิงสาวเจ้าของบ้าน



        “ มะลิขอบคุณ คุณหมอ มากนะคะ ที่มา” มะลิยกมือไหว้หมอจั่น แล้วให้เดชออกไปส่งเขา



        คนเจ็บที่นอนอยู่บนเตียงขยับตัวเล็กน้อย เมื่อผ้าแตะลงบนแผลถลอก



        “ แม่คะ” เด็กหญิงทิ้งผ้าลงข้างเตียง แล้ววิ่งไปหาแม่ “เขาขยับด้วยค่ะ”



        “ คุณคะ ฟื้นแล้วเหรอคะ”



        ...นางฟ้าเหรอนั่น... ภาษกรหรี่ตามองหญิงสาวสวยตรงหน้า ก่อนจะหมดสติไปรอบที่ 3 ของวัน



                   *****



        ช่วงสายของวันรุ่งขึ้น คือเวลาที่ภาษกรมีสติสัมปชัญญะเต็มร้อย เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับกระดูกทุกชิ้นในร่างกาย แต่จำยังไม่ค่อยได้ว่า เขาอยู่ที่ไหน และมาที่นี่ได้อย่างไร สิ่งที่เขาจำได้แม่นยำที่สุดมีสิ่งเดียวคือ หญิงสาวหน้าตาสะสวย ที่มีเสียงไพเราะดังระฆังแก้ว



        ...เครื่องตก เจอคน มาที่บ้านบ้านใคร... ภาษกรลำดับเหตุการณ์



        เขาพยายามจะลุกขึ้นมองรอบห้องที่เขาอยู่ แต่แล้วก็ต้องล้มกลับลงนอน



        “ แม่” เด็กหญิงวิ่งโร่ออกจากห้องเล็ก “ลุงคนนั้นตื่นแล้ว”



        ...นี่เราแก่ขนาดเป็นลุงเลยเหรอเนี่ย... ภาษกรนึกขำในใจ ที่อายุ 20 ปลายๆ อย่างเขากลายเป็นลุงไปซะแล้ว



        “ ดีจังเลยนะคะ ที่คุณตื่นแล้ว” หญิงสาวผู้เป็นแม่เดินเข้ามาในห้องพร้อมถาดอาหารกลิ่นหอมฉุย



        ภาษกรหันมองเธอ แล้วจำได้ว่า นี่คือนางฟ้าแสนสวยของเขา เธอไม่น่าจะอายุเกิน 25… อ่อนกว่าเขาสัก 3 – 4 ปี น่าจะได้ ก็ถูกแล้วที่เขากลายเป็นลุงไป… ส่วนเด็กน้อยลูกของเธอ น่าจะอายุประมาณ 5 – 6 ขวบ



        “ ทานน้ำหน่อยนะคะ” มะลิช่วยภาษกรลุกขึ้นนั่ง “ส่วนข้าว… เอ่อ… เดี๋ยวมะลิป้อนให้แล้วกัน” เธอยกชามข้าวต้มหมูขึ้นตักป้อนชายหนุ่ม



        “ ผมชื่อ ภาษกร ครับ” เขาแนะนำตัวระหว่างที่รอเธอเป่าข้าวบนช้อนให้เย็น



        “ มะลิ ค่ะ” เธอตอบกลับมาด้วยท่าทีเป็นมิตร และยิ้มให้เขาอย่างจริงใจ



        “ หนูชื่อ กุหลาบ ค่ะ” เด็กหญิงที่เกาะอยู่ปลายเตียงเอ่ยขึ้น เธอยิ้มกว้าง จนเห็นฟันหลอทั้ง 3 ซี่



        ภาษกรจะหัวเราะให้ความเดียงสาของเด็กน้อยคนนี้ แต่เขาเจ็บเกินไปที่จะหัวเราะได้ เลยเปลี่ยนเป็นยิ้มแบบแหยๆ เพราะปากที่แตกจะเกิดอาการเจ็บ ถ้าเขาฉีกยิ้มกว้างเกินไป



        “ ลุงยิ้มตลกจัง” กุหลาบหัวเราะคิกคัก ทำให้ภาษกรอยากจะหัวเราะตาม



        “ เดี๋ยวก็เจ็บหรอกค่ะ… กุหลาบไปดูน้าเดชให้แม่ทีสิจ๊ะ” ประโยคแรกเธอเตือนชายหนุ่ม ส่วนประโยคหลังเธอสั่งลูกสาวที่ยืนฉีกยิ้มอยู่



        “ คุณภาษกร มาจากเมืองกรุงเหรอคะ” เธอชวนคุย เพื่อลดความกระอักกระอ่วนที่อบอวลอยู่ในห้อง



        “ เรียก ภพ เถอะครับ แล้วก็ใช่ครับ ขับ ฮ. มา”



        “ เศษเหล็กในป่านั้นน่ะเหรอคะ”



        “ ความจริงมันดูดีกว่านั้นนะครับ ถ้ามันไม่ตกซะก่อน” ชายหนุ่มอ้าปากรับข้าวต้มอีกช้อน



        “ พอจะนึกออกค่ะ แล้ว คุณภพ มาทำอะไรแถวนี้ล่ะคะ ส่วนมากที่เห็นขับ ฮ. กันมาก็มีแต่พวกสำรวจป่าบ้าง สำรวจแม่น้ำบ้าง แล้วคุณมาสำรวจอะไรล่ะคะ”



        “ สำรวจแหล่งลงทุนครับ พอดีผมติดต่อกับเจ้าของโรงงานผลไม้กระป๋องที่นี่ไว้”



        “ คุณอธิป” มะลิเอ่ยขึ้น



        “ ครับ ใช่ แต่เขาเกิดยกเลิก ผมอุตส่าห์เดินทางมาตั้งไกล” ภาษกรแสดงสีหน้าไม่พอใจ



        “ คงจะรอให้ พงศ์ กลับมาก่อน” ดวงตาสีนิลของมะลิส่องประกายเมื่อเอ่ยชื่อ พงศ์ธวัช ลูกชายคนเดียวของคุณอธิป อาชาชัย



        “ ใครหรือครับ”



        “ ลูกชายของคุณอธิปน่ะค่ะ” เธอหลบสายตาของภาษกรที่จ้องมองเธอด้วยความสงสัย



        “ เขาบอกอย่างนั้นเหมือนกันครับ รอลูกเรียนจบกลับมาก่อน” ภาษกรพล่ามว่าอธิปต่ออีกยาวยืด แต่มะลิไม่ได้สนใจฟังเขาสักเท่าไร



        ยิ่งเธอคิดถึงพงศ์ธวัชมากเท่าไร เธอยิ่งทั้งสุข และเศร้าในเวลาเดียวกัน มากเท่านั้น เธอยิ้มอยู่คนเดียว แต่น้ำตาก็คลอเบ้า จนตาเริ่มพร่า และนั่นเองที่เธอรู้สึกตัว



        “ มะลิขอตัวออกไปดูกุหลาบก่อนนะคะ ไปตั้งนานแล้วยังไม่มา คุณภพนอนอยู่เฉยๆ นะคะ หมอจั่นสั่งเอาไว้” เธอวางชามข้าวต้มลงบนถาด แล้วก้าวพรวดๆ ออกจากห้องไป ปล่อยให้ภาษกรงงเป็นไก่ตาแตก



        “ เดี๋ยวสิครับ… โธ่ จะถามเรื่องโทรศัพท์ซะหน่อย”



                   *****



        “ พี่มะลิ ออกมาทำอะไรข้างนอกล่ะพี่” เดชก้าวกระโดดขึ้นบันไดไม้ทีละ 2 ขั้น ขณะที่กุหลาบก้าวตามขึ้นมาอย่างกุลสตรีที่ดี



        “ พี่มะลิ ร้องไห้เหรอ” เด็กหนุ่มสังเกตเห็นตาแดงกร่ำของมะลิ



        “ ผู้ชายคนนั้นมันทำอะไรพี่หรือเปล่า มันทำใช่ไหม เดี๋ยวผมจะเข้าไปจัดการ คนเจ็บก็คนเจ็บเถอะ” น้องชายแสนดีถกแขนเสื้อขึ้นพร้อมสู้เต็มที่ แต่ถูกพี่สาวแสนสวยดึงตัวเอาไว้



        “ ไม่เกี่ยวกับเขา เดช แล้วพี่ก็ไม่ได้ร้องไห้ด้วย แค่ฝุ่นเข้าตา”



        “ ฝุ่น?” เดชหันไปมองหลานสาวตัวน้อย ซึ่งเธอยักไหล่ตอบกลับมาประมาณว่า หนูจะไปรู้ได้ไง



        “ แล้วพี่ให้กุหลาบไปตามฉันมาทำไม”



        “ พี่จะให้ไปเอาของของคุณภพที่ ฮ. มาให้หน่อย”



        “ คุณภพ เชียวนะพี่ แค่ 12 ชม. เองมั้งเนี่ย” เดชทำหน้ารู้ทัน เขารู้ว่า พี่สาวคนนี้เหงาแค่ไหน ตั้งแต่สามีของเธอเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุเมื่อ 2 ปีก่อน เพราะจากวันนั้น เขาเห็นเธอแอบร้องไห้แทบทุกคืนที่เขามาช่วยเป็นไม้กันหมา…เอ๊ย…ยามกันภัยให้เธอ



        “ อย่าสงสัยให้มันมากนักได้ไหม ไปเอาของมาได้แล้ว เดี๋ยวฝนก็ตกก่อนจนได้” มะลิทำหน้าดุใส่



        “ คร้าบ พี่มะลิ แต่แค่พูดนิดพูดหน่อย หน้าแดงเชียวนะครับพี่สาว” เดชไม่วายทิ้งท้าย ก่อนกระโดดลงจากระเบียงบ้านอย่างชำนาญ แล้ววิ่งลับตาไปทางทะเลสาบ ไม่ใช่ด้วยความรีบ แต่เพราะกลัวตะกร้าสานในมือมะลิจะลอยเข้าหา



        “ แม่ไม่เป็นอะไรแน่นะคะ” กุหลาบเข้ากระตุกชายเสื้อของมะลิ



        “ แม่ไม่เป็นไรจ๊ะ” มะลิรู้สึกตัว เธอหันไปยิ้มกว้างให้ลูกสาวดูว่า เธอไม่เป็นไรจริงๆ



        “ เดี๋ยวกุหลาบเข้าไปดูคุณภพให้แม่ทีนะ คงกำลัง งงที่อยู่ดีๆ ก็โดนทิ้งให้อยู่กับชามข้าวอย่างงั้น แม่จะไปดูเล้าไก่กับคอกม้าซะหน่อย เมื่อวานหลังคารั่วน่าดูเลย”



        กุหลาบพยักหน้ารับคำสั่งแม่ด้วยความเต็มใจ แล้ววิ่งเข้าบ้านไป



        ...พงศ์ธวัช คุณจะกลับมาแล้วจริงๆ เหรอ... มะลิปล่อยให้ความคิดของเธอล่องลอยไปอีกครั้ง



    ----------------------------------------------------------------------

    ไหนๆ ก้อเปนวันหยุด ขอลงอีกตอนละกันนะ ^ ^ คงไม่ยาวเกินไป... หรือว่ามันสั้นไป???
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×