คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
ไม่ทันที่เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์จะบินข้ามผ่านเมืองไทยเพื่อไปยังจุดหมายปลายทาง ชายหนุ่มร่างใหญ่เจ้าของธุรกิจขนส่งขนาดใหญ่ในประเทศอังกฤษก็ต้องตัดสินใจลงจากเครื่องบินไป เมื่อบอดี้การ์ดของเขาตรวจพบว่าภายในเครื่องบินมีระเบิด
“ตอนนี้เราเหลือเวลาเท่าไร?”
โดมินิคเอ่ยถามเสียงเคร่งเครียด
“ตอนนี้เราเหลือเวลาอีกสามสิบนาทีครับ”
บอดี้การ์ดร่างสูงโปร่งที่รับหน้าที่ควบคุมเฮลิคอปเตอร์รายงาน ขณะที่พยายามควบคุมเฮลิคอปเตอร์ให้บินต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ผู้เป็นนายไต่เชือกลงไปบนพื้นดินอย่างปลอดภัย
“ฉันขอสั่งให้พวกนายสองคนมีชีวิตรอดกลับมา” เขาออกคำสั่ง ก่อนจะไต่เชือกที่ห้อยจากเฮลิคอปเตอร์ลงไปข้างล่าง ในจังหวะที่เขาจะเหยียบถึงพื้นดิน จู่ๆ ก็มีเสียงปืนดังขึ้น ร่างของชายหนุ่มค่อยๆ ร่วงจากที่สูงลงไปนอนกองอยู่บนพื้นดิน
บอดี้การ์ดทั้งสองที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ต่างตกใจไปตามๆกัน เมื่อเห็นร่างของผู้เป็นนายร่วงจากที่สูง แต่ทั้งสองก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากควบคุมเฮลิคอปเตอร์ออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดตามคำสั่งของผู้เป็นนาย เนื่องจากอยู่ใกล้กับแหล่งชุมชน
มือปืนที่ซุ่มยิงชายหนุ่มอยู่บนต้นไม้รีบไต่ลงมาดูผลงานของตนเองทันทีอย่างไม่รอช้า เพื่อจะได้กลับไปรับรางวัลใหญ่จากนายจ้างตามข้อตกลง
“ใครน่ะ?”
เสียงแหลมของหญิงสาวร่างเล็กดังขึ้น เมื่อเห็นร่างใหญ่ของใครบางคนนอนกองไม่ได้สติอยู่บนพื้น
มือปืนรีบวิ่งออกไปจากที่นี่ทันทีที่ได้ยินเสียง ด้วยคิดว่าคนที่หญิงสาวหมายถึงนั้นคือตัวเอง เขาจะไม่ระแวงขนาดนี้เลย ถ้าพื้นที่ตรงนี้ไม่ติดกับแหล่งชุมชนที่มีตำรวจเข้าออกทุกวัน
“คุณ! คุณได้ยินฉันหรือเปล่า ไม่สิ…หน้าตาออกฝรั่งขนาดนี้คงจะไม่เข้าใจภาษาไทยแน่ๆ”
ทอฝันพึมพำบอกตัวเองในท้ายประโยค ก่อนจะหันมองรอบตัวเพื่อขอความช่วยเหลือจากใครสักคนที่พอจะช่วยพาชายหนุ่มไปโรงพยาบาลได้ แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีใครผ่านมาทางนี้
“ช่างเถอะ! คงแค่สลบไปไม่น่าจะเป็นอะไรมาก”
พูดจบ เธอก็ประคองร่างชายหนุ่มไปที่บ้านไม้หลังเล็กของตัวเองที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ทันทีอย่างทุลักทุเล
เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงที่เธอใช้ในการเดินทางมาที่บ้านพักของตัวเอง แน่นอนว่าเป็นครั้งแรกที่เธอใช้เวลานานถึงเพียงนี้ เพราะปกติเธอใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีในการเดินจากบ้านใหญ่มาที่บ้านพักของตนเอง
"เลือด!!”
เธออุทานด้วยความตกใจ เมื่อเห็นเสื้อของตัวเองเปื้อนเลือด ก่อนจะรีบหันไปสำรวจร่างใหญ่ที่นอนแนบนิ่งอยู่บนเตียงขนาดเล็กของตัวเอง
เมื่อพบว่าชายหนุ่มได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่ เธอไม่รอช้ารีบเอื้อมมือไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลข้างเตียงมาทำแผลให้ทันที จากนั้นจึงเดินออกไปนั่งมุมของตัวเองด้านนอกเพื่อทำงานของตัวเองเงียบๆ แล้วปล่อยให้ชายหนุ่มได้นอนพัก
ทอฝัน ประกายดาว หญิงสาวผู้มีใบหน้างดงามจนใครๆ ที่พบเห็นต่างหลงรักตั้งแต่แรกเห็น ซึ่งต่างจากนิสัยของเธอที่ทั้งดื้อรั้นและไม่ยอมใครง่ายๆ แต่ในบางครั้งก็เงียบจนยากจะคาดเดาอารมณ์ เธอเป็นนักศึกษาจบใหม่ที่กำลังรอการเรียกตัวจากบริษัทที่เพิ่งสัมภาษณ์เสร็จไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เวลาว่างส่วนใหญ่ของเธอมักจะหมดไปกับการแต่งนิยายที่เธอรัก
แม้ว่าครอบครัวของเธอจะเป็นผู้ส่งออกผลไม้รายใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ แต่เธอก็ยังเลือกที่จะออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ จากข้างนอกแทน
“พี่ฝันค่ะ”
เสียงของเด็กหญิงวัยแปดขวบดังขึ้นจนหญิงสาวต้องหันไปมอง พร้อมกับตอบกลับว่า
“ว่าไงคะ”
“พี่ฝันลืมปิ่นโตค่ะ คุณย่านับดาวเลยให้หนูเอามาให้พี่ฝันค่ะ คุณย่ายังฝากมาบอกด้วยนะคะว่าให้พี่ฝันกินข้าวให้ตรงเวลาและกลับไปกินข้าวเย็นกับคุณย่าที่บ้านด้วยค่ะ”
เด็กหญิงตัวน้อยพูดยาวเหยียดตามที่คุณย่านับดาวฝากมา ไม่ให้ตกหล่นแม้แต่คำเดียว
“ขอบคุณค่ะ ฝากบอกคุณย่านับดาวด้วยนะคะว่าพี่ฝันจะกินไม่ให้เหลือเลย”
“ได้ค่ะ”
พูดจบ เด็กหญิงตัวน้อยก็วิ่งจากไปทันที
ทอฝันฉีกยิ้มให้กับความไร้เดียงสาและร่าเริงของเด็กน้อย ก่อนจะหันมาสนใจกับนิยายของตัวเองตรงหน้า
หลังจากนั้นเวลาผ่านไปได้ไม่ถึงสองชั่วโมง ทอฝันก็ต้องเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง หลังได้ยินเสียงเรียกของใครบางคนที่ดังมาจากประตูด้านหลัง
“ตื่นแล้วเหรอ?” เธอเอ่ยถามเสียงเรียบเป็นภาษาอังกฤษ หลังมั่นใจชายหนุ่มฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง
โดมินิคพยักหน้าตอบกลับไป ก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้ที่อยู่ใกล้กับหญิงสาว หลังมั่นใจว่าหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้มีอันตรายใดๆกับตนเอง อีกทั้งยังช่วยเหลือเขาไว้จากอันตรายที่มองไม่เห็น
“เธอเป็นคนช่วยฉันไว้งั้นหรือ?”
••••
ความคิดเห็น