คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : 07: she works with me
she works with me
เด็กสาวในชุดยูนิฟอร์มสีกรมโรงเรียนชื่อดังก็อตแธมอคาเดมี่ในชุดสีกรมซึ่งตัดกับสีของ จักรยานสีแดงขึ้นสนิมขับลัดเลาะไปตามท้องถนน เธอก้มลงไปมองที่ข้อมือของตัวเองเพื่อดูเวลา
อีกยี่สิบนาทีก่อนถึงเวลาเข้าเรียน สบายๆเวลาเหลือเฝื่อ เธอเริ่มปั่นจักรยานมาโรงเรียนก็ตอนที่ย้ายเข้ามาเรียนที่ก็อดแทมอคาเดมี่ จู่ๆเธอก็หยุดจักรยาน ร่างของหญิงชรามือถือถุงกระดาษใส่ของชำยืนรอไฟแดงข้ามถนนทางม้าลายที่ขับไม่เกรงใจใคร การที่คนแก่จะข้ามถนนในเมืองใหญ่แบบนี้เรียกได้ว่าเป็นอุปสรรคนึงสำหรับพวกเค้าเลยก็ว่าได้
"ให้หนูช่วยนะคะ" มิลลี่ลงจากจักรยานจอดไว้ตรงริมข้างทางไม่ไกลนัก เธอเดินไปหาหญิงชราพลางถือของให้กับเธอ
"ขอบใจนะจ้ะ แม่หนูนี้น่ารักจริงๆ" หญิงชรายิ้มให้กับเธอ เวลาไม่นานไฟสีเขียวก็ได้เปลี่ยนเป็นสัญญาณหยุด เธอปล่อยให้หญิงชราเกาะแขนเธอ ระหว่างเดินนั้นหญิงชราเองก็พลางเล่าเรื่องต่างๆนาๆตามประสาคนแก่ไปเรื่อย มิลลี่เองก็พยักหน้าเอออ่อไปตามเรื่อง
"หนูนี้น่าจะอายุไล่ๆกับหลายชายยายเลย แต่เด็กคนนั้นค่อนข้างหัวดื้อหัวรั้นนานๆทีจะทำตัวน่ารักกับเค้าบ้าง" หลานยายที่ว่าหัวดื้อก็คงจะทำตัวน่ารักกว่าคนที่เธอไปเจออีกก็ได้ มิลลี่คิด
"หนูเรียนที่ก็อตแธม อคาเดมี่สินะดูจากชุดแล้ว คงเรียนเก่งสิน้าอยู่โรงเรียนหัวกะทินี้เนอะ แหมทั้งเด็กดีทั้งเรียนเก่ง รู้ไหมสมัยนี้น้อยคนนักจะมาคอยช่วยเหลือคนแก่ๆแบบยาย ใครได้หนูเป็นแฟนนะต้องโชคดีมากๆเลย"
"มะ ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ" ตามทางยายชราเองก็ยังคงพูดถึงหลานชายของเธอบ้างก็ชมบ้างก็แอบหยอกล้อ ดูเหมือนจะสนิทและรักกันมากเลยแหะสองหลานยาย
"พูดถึงเรื่องแฟนหนูมีรึยังละ ถ้ายังไม่มีเดี๋ยวยายแนะนำหลายชายยายให้นะ ถึงจะบ๋องๆแต่ก็หล่อใช้ได้ไม่ธรรมดายายบอกเลย" มิลลี่ยิ้มแห้งหัวเราะเอ็นดูกับคำของยายแกที่พยายามพรีเซ้นหลานสุดรักให้เธอฟัง พวกเธอค่อยๆเดินกันไปอย่างช้าๆตามความเร็วที่หญิงชราจะเดินทัน
"นี้ค่ะ" เมื่อทั้งสองข้ามมายังอีกฝัง มิลลี่ได้ยื่นของคืนให้กับหญิงชรา
"ขอบใจมากๆเลยนะแม่หนู อ่ะนี้" หญิงชรายื่นลูกกวาดห่อด้วยกระดาษสีพาสเทลน่ารักๆสีแดงสลับขาวแบบลูกอมสมัยก่อน "ไว้ครั้งหน้าถ้าเราเจอกันอีกหละก็ยายจะพาหนูมาดื่มน้ำชากับยายด้วยกันนะ"
"แน่นอนค่ะ ขอบคุณนะค่ะ งั้นหนูขอตัวก่อน" มิลลี่ยิ้มรับก่อนจะเดินข้ามไปอีกฝังเพื่อเดินทางไปโรงเรียนต่อ
ระยะทางก็ไม่ได้ไกลมากนักเธอจึงไม่จำเป็นจะต้องรีบปั่น มิลลี่ปั่นจักรยานมาเรื่อยๆมาจนถึงหน้าโรงเรียน เธอลงจากตัวจักรยานก่อนจะลากไปไว้ที่จอดจักรยานข้างประตูโรงเรียน
'แอมเมอร์สัน ที่ไปขัดขาชิลล์หนิ"
'ได้ข่าวว่ายัยนั้นเล็งเดเมี่ยนไว้เลยเรียกร้องความสนใจแบบนั้น'
'ไม่จริงฉันได้ยินมาว่าเธอชอบชิลล์'
เสียงกระซิบบางเรื่องก็มีจริงผสมเท็จอยู่แต่ตัวเธอเองก็ไม่ได้สนใจอะไรทำเป็นหูทวนลม ถึงเธอจะไปแก้ข่าวก็คงจะมีแต่คนคิดว่าร้อนตัวซะป่าวๆชะนั้นปล่อยให้มันเงียบไปเองเสียดีกว่า ยังไงซะเธอเองก็ไม่ใช่คนดังยังไงเรื่องพวกนี้ก็คงเงียบไม่นาน
ขณะนั้นเองก็มีรถลีมูซีนสีดำเงา มาจอดหน้าโรงเรียนทุกสายตาต่างจับจ้องไปเป็นทางเดียวกัน ร่างของชายหนุ่มเกศาสีดำที่ทุกคนในโรงเรียนไม่มีใครไม่รู้จัก เดเมี่ยน เวนย์ เจ้าตัวก้าวลงมาจากรถลีมูซีนคันหรู ใบหน้ายังคงไร้อารมณ์เหมือนเช่นเคย เสียงซุบซิบเริ่มพูดถึงคนที่มาเยือนใหม่ดังไปตามทางที่เค้าเดินเหมือนกับที่เธอโดน มีทั้งเรื่องจริงเท็จดีไม่ดีปนกันไปมา
ทั้งสองต่างสบสายตากัน แต่ต่างคนก็หันหน้าหนีไม่ได้พูดอะไร อันที่จริงคงมีแค่ตัวมิลลี่เองที่หันหนี เพราะเดเมี่ยนเองก็ยังคงมองเธออยู่แต่ก็ไม่นานนักเค้าก็มุ่งเดินเข้าไปในตึกเรียน มิลลี่ที่เห็นคุณชายจอมหยิ่งหายลับสายตาไป เจ้าตัวจึงเดินเข้าตึกเรียนไปตามๆกัน
หลังจากวันนั้นวันที่เธอกับเดเมี่ยนที่ได้พูดคุยกันก็ผ่านไปได้สามวันแล้ว จากที่ไม่รู้จักกันอยู่แล้วทั้งสองยิ่งทำตัวไม่รู้จักหนักกว่าเดิมเสียอีกต่างคนต่างทำเหมือนอีกฝ่ายเป็นแค่ธาตุอากาศ
วิชาเรียนช่วงเช้าได้ดำเนินไปตามปกติจนล่วงเลยไปช่วงบ่ายไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ไม่มีเรื่องราวุ่นวาย ไม่มีเสียงนินทา เหมือนที่เธอคาดไว้ ทั้งเธอและเค้าถึงจะนั่งข้างกันแต่ก็ไม่ได้พูดคุยเหมือนเช่นเคย จนกระทั้งเธอสังเกตบางอย่าง กลิ่นควันบุหรี่มันจางลง ปกติจากที่นั่งของเธอกับเดเมี่ยนไม่ได้ห่างกันมากและทุกครั้งที่นั่งข้างกันเธอก็มักจะได้กลิ่นควันไหม้เหม็นอ่อนๆจากชายคนนี้เสมอ
คนส่วนใหญ่มักจะบอกว่าเธอเป็นคนจมูกไวเหมือนกับสุนัขตำรวจก็ไม่ปาน มิลลี่มักจะได้กลิ่นที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้กลิ่นเสมอ เธอสามารถได้กลิ่นน้ำหอมสุดฉุนกึกของพวกผู้หญิงจากหน้าห้องสุดจนถึงที่นั่งของเธอที่อยู่เกือบจะหลังสุดได้ หรือไม่ก็กลิ่นคลอรีนจากสระว่ายน้ำที่อยู่อีกตึกนึง
บางครั้งก็แอบคิดในใจว่านี้อาจเป็นพลังพิเศษของเธอที่เธอไม่รู้ตัวก็ได้ แต่เอาจริงๆแล้ว อาจจะเป็นเพราะบ้านของเธอทำเบเกอรี่และการดมกลิ่นวัตถุดิบเองก็เป็นงานนึงที่เธอทำเป็นประจำตั้งแต่เด็กจนโตมาแต่ไหนแต่ไรเพื่อขัดแยกคุณภาพของวัตถุดิบ ถ้ามันจะพัฒนาศักย์ภาพของจมูกก็คงจะไม่แปลก
และวันนี้ชายที่นั่งข้างเธอ กลิ่นบุหรี่ที่มักจะได้กลิ่นทุกวันจนแทบจะต้องเอายาดมมาดมเกือบหมดหลอด มันเบาลงจนน่าประหลาด หรือเธอไม่สบายเลยไม่ได้กลิ่น หรืออาจเป็นเพราะที่เธอพูดใส่เค้าในวันนั้น ไม่ม้างคำพูดแค่นั้นใส่คนอย่างหมอนี้มีหรอจะฟัง
อยู่ๆคำพูดของอาจารย์โจแอน ก็ได้เรียกสติเธอ
"เอาละ ครูจะให้พวกเธอจับคู่ทำรายงานประวัติศาสตร์ที่เรียนกันในวันนี้" ทั้งห้องส่งเสียงโห่โอดครวญเสียใจกันยกใหญ่ บางคนในห้องเองก็เริ่มหันเข้าหาเพื่อนสนิทเพื่อจับคู่แต่สำหรับมิลลี่แล้วจะเป็นใครขอแค่ช่วยงานก็พอแล้ว มิสโจแอนได้ตบมือเสียงดังเพื่อให้นักเรียนในห้องเงียบ
"พวกเธอต้องทำรายงานประวัติศาสตร์ของเมืองก็อตแธม แหล่งที่มาต้องเอามาจากในหนังสืออย่างน้อยสี่เล่ม ส่งปลายเดือนนี้ ถ้าได้คู่แล้วก็ส่งรายชื่อบอกครู ถ้ามีคำถามอะไรก็มาถามนอกคาบได้ วันก็นี้มีแค่นี้ เลิกคลาสได้" เมื่ออาจารย์เดินออกจากห้องไป ทุกคนในห้องต่างก็เดินเข้าหาเพื่อนของตนทันที
มิลลี่มองไปรอบห้องเพื่อนหาคนที่ดูเหมือนจะยังไม่มีคู่และจู่ๆสายตาของเธอก็ไปเห็นชายใส่แว่นคนนึงเข้า แมคแคน มิลเลอร์ หนุ่มแว่นทรงกลมสายวิทย์ผมสีน้ำตาฟู่พร้อมเหล็กดัดฟัน ร่างผอมตัวบางเพราะไม่ได้เป็นเด็กสายออกกำลัง หรือจำพวกที่คนมักรู้จักคือเนิรด์ เค้าโบกไม้โบกมือมาทางเธอพร้อมรอยยิ้มเหล็กดัดสีเงิน ก่อนเค้าเดินตรงมาที่โต๊ะเธอ
"เฮ้ไง มิลลี่ เอ่อคือ ธะ เธอมีคู่ทำรายงานยัง ถ้าไม่รังเกียจละก็จะทำคู่กับฉันไหมพอดีฉันยัง เอ่อไม่มีนะ" ชายใส่แว่นเกาหลังคอหัวเราะแห้งๆ แมคแคน มิลเลอร์ เองก็เป็นคนอัธยาศัยดีแถมยังเก่งเรื่องวิชาการ พูดจารู้เรื่องไม่ลามปามใคร มิลลี่ยิ้มและตอบตกลงเจ้าตัวไป เหมือนว่าแมคแคนดูจะดีใจมากเช่นกันเมื่อเธอตอบตกลง
"เอาสิฉันเองก็ยังไม่มีคู่ งั้นเดี๋ยวไปบอกครู-" เธอลุกขึ้นจากที่นั่ง แต่อยู่ดีๆก็มีใครคนนึงเดินมาตัดหน้าเธอพร้อมกับบทสนถนา กลิ่นควันบุหรี่จางๆที่คุ้นเคยไม่ต้องมองหน้าก็รู้แล้วว่าใคร
"แอมเมอร์สัน เธอทำงานคู่กับฉัน" เดเมี่ยน เวนย์ ชายที่เธอไม่คิดว่าจะหันมาคุยกับเธอเป็นครั้งที่สองบัดนี้ได้มาปรากฏตัวตรงหน้าเธอแล้ว ทั้งห้องหันมาที่ตัวเธอเป็นสายตาเดียวกัน การที่เธอพยายามไม่ทำตัวเด่นมันยากรึยังไงกัน
"ฉันหรอ"มิลลี่ชี้นิ้วมาที่ตัวเองอย่างก่ะตัวเองหูฝาดไป หมอนี้อยากทำงานคู่ฉันทำไมละหรือจะเอาคืนไม่หรอกอย่างหมอนี้ถ้าจะเอาคืนก็คงทำไปนานแล้ว
"เวสตันปกติแล้วมักทำงานคู่กับแอมเมอสัน ฉันเองก็ยังไม่มีคู่เลย เดเมี่ยนเธอคู่กับฉันก็ได้นะ" แบรนด้า ทอร์เรส แม่สาวบาร์บี้เดินได้ เธอเข้ามาขัดบทสนถนาระหว่างเธอและเค้า เธอเดินมาคลอเคลียจับไหล่เดเมี่ยนพลางลูบเบาๆ
สกิลการจับเหยื่อแม่นางนี้ไม่เป็นที่สองรองใครจริงๆ เป็นชายอื่นคงคล้อยตามกับใบหน้าหวานจิ้มลิ้มราวกับตุ๊กตาผมสีบลอนด์ทองยาวสวยดวงตากลมโตสีน้ำตาลหวานเยิ้มนั้น และกลิ่นน้ำหอมกลิ่นหวานนั้น แต่หน้าชายคนนี้กลับนิ่งสนิทมิหน้ำซ้ำยังดูเหมือนจะเคืองด้วยซ้ำ เดเมี่ยนปัดมือของแบรนด้าออกเบาๆ
"ก็ตามนั้น แอมเมอร์สัน"ดูเหมือนเดเมี่ยนจะไม่ได้สนใจคำที่แบรนด้าพูดเลยเสียด้วยซ้ำ
"ขอโทษนะ แต่ฉันชวนเธอก่อน-" แมคแคนพยายามจะพูดแต่ก็ถูกสายตามรกตเย็นชามองมาที่เค้า จนเจ้าตัวพูดไปต่อไม่ถูก "อ่ะ เอ่อ คือ"
"เธอทำงานกับฉัน นายมีอะไรจะพูดรึเปล่า" นั้นทำให้แบรนด้ามองแรงมิลลี่จนตาแทบทะลุจากเบ้า คนทั้งห้องเริ่มซุบซิบกันทันทีราวกับราดน้ำมันลงกองไฟ ทั้งที่เงียบไปแล้วไหงถึงกลับมาดังได้อีกละ มิลลี่เองก็พยายามไม่สบตากับแบรนด้าที่จะจ้องกินเลือดกินเนื้อ
แม่คุณมามองไรฉันไปมองคนที่ปฎิเสธเธอนู้น มิลลี่อยากจะเอาขาเกยหัว จะบ้าตายอีกคนก็จะยังงั้นอีกคนก็จะแบบนี้ ตัวเธอตอนนี้ทำตัวไม่ถูกจริงๆ แถมแมคแคนก็มองเธอตาแป๋วอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ
มิลลี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอพูดด้วยน้ำเสียงปกติไม่โมโหไม่ร้อนรนพยายามยิ้มสู้เสือ เธอมองไปที่ดวงตาสีเขียวสดสวยนั้น
"ขอโทษทีนะเวนย์ ฉันทำรายงานคู่กับแมคแคนแล้ว ถ้านายยังไม่มีคู่ทำไมไม่คู่กับแบรนด้าละ พอดีเลย เธอเองก็ไม่มีคู่ เอาละฉันแก้ปัญหานายให้แล้วงั้นไปนะ" มิลลี่ไม่รีรอให้อีกฝ่ายพูดตอบ ส่งสายตาไปหาแมคแคนเป็นเชิงว่า ไปกันเดี๋ยวนี้ แมคแคนเองก็เดินไปตามอย่างรู้งาน เธอรีบออกจากห้องเท่าที่จะทำได้เพื่อหนีความวุ่นวายเหล่านี้
เดเมี่ยนมองหญิงสาวผมบลอนด์ทองเดินหายลับสายตาไป อยู่ดีๆแบรนด้าก็มายื่นอยู่หน้าเค้า นิ้วไล้ไปตามแผงอก
"ไหนๆ ในเมื่อสองคนนั้นเค้าก็คู่กันแล้ว และคนอื่นๆเองก็มีคู่กันเรียบร้อย ก็คงเหลือแค่เราสองคนแล้วนะเดเมี่ยน" แบรนด้าพูดด้วยน้ำเสียงใสแจ๋วนิ้วม้วนผมไปมา "ส่วนเรื่องรายงานนายจะไปทำที่บ้านฉันหรือบ้านนายดีละ"
เดเมี่ยนสบทเบาๆกับความตอแหยของหญิงคนนี้ ทั้งที่ปฎิเสธไปนับต่อนักแล้วทำไมถึงตามตื้อเค้าเก่งนักนะ เมื่อเข้าหันไปหากลุ่มคนที่กำลังมอง พวกเค้าทั้งหมดก็หันไปทำกิจกรรมของตัวเองต่าราวกับเหมือนเรื่องเมื่อกี้ไม่ได้มีใครมองพวกเค้า
"ทอร์เรส"
"โธ่ เรียกฉันว่าแบรนด้าก็ได้ไม่เห็นต้อง-"
"ช่วยเรียกฉันด้วยนามสกุลด้วย ทอร์เรส" สิ้นคำพูดเดเมี่ยนจึงเดินออกจากห้องไปเช่นกัน ทิ้งให้หญิงสาวยื่นเก้อกับสิ่งที่เจ้าตัวเองได้ยิน
เดเมี่ยนเดินไปตามทางเดินพลางขยี้หัวด้วยความหงุดหงิด ทั้งสายตาของคนพวกนั้น คำนินทาที่น่ารำคาญ และโดยเฉพาะหญิงสาวที่พยายามหนีเค้าทุกครั้งที่ทำได้
'น่ารำคาญจริงๆยัยนั้น'
" Sorry, Wayne I work with him already"
Branda Torrest
Macken Miller
ความคิดเห็น