ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chess piece 5

เหลือเวลาอีกสิบวิ ชายหนุ่มเกศาสีดำมองนาฬิกาข้อมือ เขายืนรออยู่ในตึกร้างกับกระเป๋าเดินทางสีดำที่ตั้งนอนอยู่ข้างๆมาได้สักพัก มือเก็บมือถือเข้ากระเป๋าพลางนับเวลาในใจ
5
4
3
2
และ
'กึกๆ กึกๆ' กระเป๋าเดินทางเกิดการขยับขึ้นมาเอง มันสั่นและมีเสียงดังมาจากด้านในได้สักพักและได้หยุดไป จนกระทั้งมันกลับมาสั่นและกระแทกอย่างรุนแรงใหม่อีกครั้ง
'กึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แกกๆๆๆๆๆๆ' ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้และได้รูดซิบกระเป๋าให้เปิดออกยังไม่ทันที่จะรูดซิบจนสุดกับมีบางสิ่งพุ่งทะลุออกมาจากกระเป๋าแทน มันพุ่งตรงไปยังหน้าของชายหนุ่มไม่สิสิ่งนั้นพร้อมพุ่งชนไปกับทุกสิ่งที่เปิดกระเป๋านั้นไม่ว่าจะคนดีหรือไม่ดีก็ตาม
แต่เขากลับหลบการโจมตีได้อย่างสบายๆพร้อมถอยตัวห่างจะกระเป๋าใบนั้น ภาพตรงหน้าถ้าหากใครมาเห็นอาจจะคิดว่าเป็นผีก็เป็นได้แต่ว่าสำหรับชายคนนี้รู้อยู่แล้วว่าเธอคนนี้เป็นใคร ก็แหงละก็เป็นวางแผนหมดเองนั้นแหละ
"หลับสบายดีไหม ชิยูกิ" เสียงทุ้มนุ่มพูดกับเด็กสาวที่อยู่ในกระเป๋านั้นเป็นเวลานาน ร่างของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ หายใจหอบจากการขาดอาการ ถึงดานในจะมีหน้ากากกับถังออกซิเจนให้พร้อมแต่ยังไงมันก็อึกอัดอยู่ดีเมื่อต้องมานอนในกระเป๋าเดินทางใบเล็ก
สีหน้าท่าทางของเธอตอนนี้พร้อมที่จะกินเลือดกินเนื้อคนตรงหน้าเต็มที่ ดวงตาสีฟ้าของเธอหมองลงเมื่อเห็นชายตรงหน้า
"ฉันไม่เอานายไว้แน่" เธอชี้หน้าไปที่ชายตรงหน้า "อิซายะ" เธอพูดเสียงเข้มลอดผ่านไรฟันอย่างเครียดแค้น อิซายะทำเพียงแค่ยิ้มต้อนรับ
"ได้ซื้อของให้ พี่ชาย รึเปล่า" เมื่อพูดจบประโยคกลับมีเศษก้อนอิฐปาเข้ามาที่เขา "อุ้ยโย้ ไม่น่ารักเลยนะปาของใส่คนอื่นแบบนั้นมันอันตรายนะ"
"อย่ามาทำเป็นพูดดี นายกล้าดียังไงเอาฉันใส่กระเป๋าบ้านั้นและยิ่งไปกว่านั้น" เธอชี้หน้าชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ
"นายแฮคมือถือฉันเพื่อส่งข้อความมาหลอกกันอีก" เธอก้าวจากกระเป๋าพร้อมวิ่งพุ้งไปชกคนตรงหน้า
"นั้นเรียกว่าคำเชิญต่างหากละแถมกระเป๋านั้นก็ออกแบบมาเพื่อเธอเลยนะ" ยังจะมีหน้ามาพูดอีกนะ คำเชิญบ้านไหนเขาจับเด็กผู้หญิงมอปลายใส่กระเป๋าเดินทางมาบ้าง
เด็กสาวทั้งพยายามต่อยตีเตะอีกฝ่ายแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะฝ่ายชายหลบได้ทุกครั้ง พอทะเลาะกันไปได้สักพักเด็กสาวก็ถึงกับจะเซล้มลงไปกับพื้น เพราะอาการหน้ามืดที่นอนอยู่ในที่แคบบวกกับอากาศที่ไม่ค่อยมีในกระเป๋า
แต่ยังดีที่อิซายะคว้าตัวไว้ไม่ให้หัวไปกะแทกกับพื้นซะก่อน ชิยูกิที่อยู่ในอ้อมแขนของชายตรงหน้าก็ตวัดหมัดไปชกแต่ก็ถูกมือที่ใหญ่กว่าห้ามไว้
"แรงก็แทบจะไม่ค่อยมีอยู่ ยังคิดจะสู้อีกงั้นหรอ ดื้อจริงๆเลยนะเธอน่ะ" ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มผิดกับอีกมือที่รับหมัดไว้ กวนประสาทชะมัดหมอนี้ เด็กสาวสะบัดตัวหนีผละออกห่างจากคนตรงหน้า
"อย่ามาแตะตัวฉัน" เธอพูดเสียงเข้มมองอย่างเหยียดๆ
"ก็ได้ๆ ไม่แตะก็ไม่แตะ แต่ว่าเธอควรดื่มน้ำหน่อยนะ" อิซายะชูขวดน้ำเปล่าขึ้นมาให้เด็กสาว "อ่ะนี้ฉันซื้อน้ำมายังมีข้าวปั้นกับขนมอย่างอื่นด้วยนะ เธอคงยังไม่ได้ทางข้าวเย็นละสิท่าถึงได้หงุดหงิด"
ยัง ยังอีก ยังจะมาล้อเล่นกับสถาณการ์แบบนี้อีกนะ
เด็กสาวที่กระหายหลังจากเสียเหงื่อกับคอที่แห้งผา สายตามองไปที่เครื่องดื่มพร้อมกับจะยื่นมือไปแต่ก็ต้องชะงักห้ามตัวเองไว้เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน
"ฉันไม่โง่กินของพวกนั้นแน่ ถ้านายวางยาอะไรแปลกๆไว้ละ"
"ขี้ระแวงจังน้า" จะไม่ให้ระแวงได้ไงละกับสิ่งที่ทำมาเมื่อกี้ เจ้าบ้า
"ในน้ำไม่มียาอะไรหรอกนะ ทั้งขนมด้วย" เขาชูของทั้งสองอย่างขึ้นมาโชว์ให้เห็นว่าไม่มีรอยแกะใดๆทั้งสิ้น
"เหอะ เชื่อก็โง่แล้ว" อิซายะถอนหายใจแต่ก็ยังคงรอยยิ้มไว้อยู่ เขาเปิดฝาขวดน้ำที่แกะใหม่ออกก่อนจะหยิบมันขึ้นมายกกระดกดื่มต่อหน้าเด็กสาวให้เห็น
"ทีนี้จะเชื่อฉันได้ยัง" มือยื่นน้ำมาตรงหน้าของเด็กสาวที่ถูกดื่มไปแล้ว แต่สายตาของเธอก็เบนไปทางถุงสะดวกซื้อที่มือของอีกฝ่าย
"อ่าเข้าใจแล้วๆ เดี๋ยวฉันจะกินให้ดูต่อหน้าทุกอย่างเลย ไม่ต้องห่วง"
เธอคว้าขวดน้ำจากอีกฝ่ายไม่วายดมกลิ่นที่อยู่ในน้ำตรวจสอบอีกครั้ง เมื่อแน่ใจแล้วว่าในขวดน้ำจะไม่มียาอะไรเธอก็ยกขึ้นมาดื่มหมดพรวดเดียว ความร้อนได้ถูกบรรเทาลงจากน้ำดื่มเล็กน้อย
"จะนับว่าเป็นจูบทางอ้อมไหมนะ" อิซายะพูดหยอกล้อ
ชิยูกิถึงกับคิ้วกระตุก เธอปาขวดเปล่าใส่อีกฝ่ายแต่ก็ไม่โดนอยู่ดี ไอ้หมอนี้จะหลบเก่งไปไหนเนี้ย
ถึงเธอจะอยากตีหัวคนตรงหน้าให้แตกยังไงก็คงจะมีแต่เสียแรงเปล่าๆ เอาไปฟ้องชิซึโอะดีไม่ดีเมืองได้แว่งไปครึ่งแน่และคงจะทำให้เดือดร้อนอีก เธอถอนหายใจกับวิธีที่จะเอาคืนคนตรงหน้าแต่ดูเหมือนจะไม่มีแผนไหนสำเร็จสักแผนแต่ช่างมัน เธออยากกลับบ้านจะแย่แล้ว
เธอเดินผ่านอิซายะไปราวกับเป็นฝุ่นอากาศ มุ่งหน้าออกจากตึกร้างในเมื่อสู้ไม่ได้ตอนนี้ก็มีได้แต่ถอยทัพก่อนทว่าอิซายะจะไม่ยอมง่ายๆ เขาจับที่ข้อมือของเด็กสาวไว้แน่น
"จะไปไหนละ"
"ยุ่ง" เธอพยายามสะบัดมือออกแต่ก็ไม่หลุด
"ถ้าจะกลับบ้านฉันไม่แนะนำให้เลยนะ"
"ฉันจะไปไหนก็เรื่องของฉัน" เธอสะบัดข้อมืออีกครั้งแต่ก็ยังไม่เป็นผล
"ก็ตามใจถ้าเธออยากจะเดินจากชินจูกุไปอิเคบุคุโระอ่ะนะ" อิซายะปล่อยข้อมือของเด็กสาวก่อนจะยักไหล่ขึ้นแบบไม่คิดอะไร
เธอต้องสะดุ้งกับสิ่งที่ชายหนุ่มพูดเมื่อสักครู่ เมื่อกี้นี้ว่าอะไรนะ ชินจูกุ นี้เธอนอนอยู่ในกระเป๋ามานานแค่ไหนกันเนี้ย
"นี้นายจับฉันใส่กระเป๋ามาไว้ชินจูกุเนี้ยนะ" อีกฝ่ายไม่ตอบอะไรได้แค่ยิ้มแป้นแล้นตอบกลับเช่นเคย
"ช่างเถอะฉันจะโทรเรียกเซลตี้ให้ม่ะ-" มือพลางลวงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแต่กลับว่างเปล่า มือถือหายไปไหน กระเป๋าตังค์ด้วย และเมื่อนึกได้ทั้งกระเป๋าสะพายข้างของเธอด้วย
"หานี้อยู่หรอ" อิซายะชูมือถือสีเงินกับกระเป๋าสะพายข้าง หยิบของนู้นนี้ดูด้านใน เธอเดินไปหาเข้าอีกครั้งก่อนจะเอื้อมมือไปขว้าของของเธอแต่ทว่าเขากลับถอยหลังหลบการคว้าของเด็กสาว
"เอาคืนมาเดี๋ยวนี้ อิซายะ" ชิยูกิแยกเขี้ยวใส่ แต่ดูอีกฝ่ายจะไม่กลัวหรือสะทกสะท้านกับภาพตรงหน้าเลย ดีไม่ดีจะชอบซะด้วยซ้ำ
"ฉันชอบเวลาเธอโมโหนะ" เพราะว่าเด็กสาวตรงหน้าเหมือนลูกแมวตัวเล็กที่กำลังขู่ฟ่อๆ ยังไงยังงั้นน่ารักจริงๆ
ชิยูกิจะหงุดหงิดน้อยกว่าก็เป็นได้ถ้าระยะทางของชินจูกุกับอิเคบุคุโระไม่ได้ห่าง5-6กิโลและเธอก็ไม่รู้ทางกลับบ้าน ซึ่งถ้าเดินก็ต้องใช้เวลา1-2ชั่วโมง ถ้าไปทางรถไฟคงจะเร็วกว่านี้ แต่ดูจากความมืดและระยะเวลาที่เธอดู เวลานี่้คงหมดรอบรถไฟแน่ๆ กระเป๋าตังค์กับมือถือก็อยู่กับเจ้านั้นอีก ถึงจะหนีไปได้เจ้านี้ก็ต้องลากเรากลับมาแน่ๆ
ชิยูกิถอนหายใจเฮือกใหญ่ คงมีแค่ทางเดียวสินะ เธอหันไปหาตัวต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด
"ถ้าเธอมากับฉันละก็จะไปส่งให้ก็ได้นะ" เขาเว้นระยะ "แต่ก่อนอื่นฉันจะพาเธอไปดูการแสดงก่อน"
อีกแล้วเป็นแบบนี้อีกแล้ว เค้าคนนี้ โอริฮาระ อิซายะ เค้าชอบพาเธอไปดู การแสดง ถ้าจะให้เรียกแบบนั้น ตั้งแต่เด็กจนโตเค้าชอบที่จะลากเธอไปดูสิ่งแปลกๆนี้ขนาดตัวเธอที่หายหน้าหายตาไปนานและได้กลับมาที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง นิสัยของชายคนนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่มีผิดแถมยังหนักขึ้นทุกวันด้วย
เค้าชอบพาไปดูสิ่งที่เรียกว่าการกระทำของมนุษย์มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งเธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเค้าถึงชอบพาเธอไปทำอะไรแบบนี้ด้วย
"ว่าไงละ หืมมมม" อิซายะลากเสียงยาว ชิยูกิถอนหายใจมือเท้าสะเอวมองอย่างหมดอาลัยตายอยาก
"เฮ้อออ ทำยังกะฉันมีทางเลือก"
รู้งี้ยอมเดินหลงกลางเมืองห้ากิโลกลับบ้านตั้งแต่แรกซะยังจะดีกว่า
"นี้มันอะไรละเนี้ย" ตอนนี้เธอไม่สิ เธอและอิซายะกำลังอยู่หน้าคอนเสริต์ของ มิริมิริจัง ซึ่งเต็มไปด้วยผู้ชายวัยหนุ่มจนวัยทำงานมายืนต่อคิวที่มีแต่หูกระต่ายสีชมพูเขียนว่า Love Love Miri Miri นี้ยังไม่นับเสื้อคลุมสีชมพูนีออนที่มีรูปผู้หญิงหัวชมพูแป๋นอีกนะ และที่สำคัญอิซายะได้ยื่นของพวกนั้นมาที่เธอ
"ก็อุปกรณ์เชียร์ไง"
"ไม่ใช่เรื่องนั้น ฉันหมายถึงคอนเสริต์พวกนี้คืออะไรทั้งยังคนพวกนี้อีก" เธอหันหน้าไปมองกลุ่มชายวัยชกรรจ์ที่อยู่ตรงหน้า
"ก็โชว์ที่ฉันจะพาเธอมาดูไงละ" ชายหนุมตอบหน้าซื่อ คำตอบไม่ได้ช่วยให้เธอกระจ่างขึ้นเลย
"นายเป็นโอตะตั้งแต่เมื่อไร"
"ฉันเปล่าเป็นนะ" อิซายะยกมือปฎิเสธ "ยังไงก็เหอะ ทำไมเธอไมลองใส่นี้ซะละ"พูดไปก็เอาหูกระต่ายสวมเข้าที่หัวของเธอ ซึ่งมันเป็นสีขาวตัดกับผมสีน้ำตาล
"น่ารักเข้ากับเธอดีนะ" อิซายะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ราวกับได้จับตุ๊กตาแต่งตัวตามที่ตัวเองชอบ ตอนนี้ชิยูกิอยู่ในสภาพสีชมพูทั้งตัวพร้อมกับหูกระต่ายสีขาว เธอทำหน้าเบ้ไม่พอใจกับการยัดเยียด
"ทำไมนายไม่ใส่ด้วยละ"
"มันไม่ใช้สีที่ฉันชอบสักเท่าไรและก็ไม่ใช่สไตล์ฉันด้วย" เธอพยายามจะถอดออกแต่ก็ต้องถูกอีกฝ่ายจับใส่อีกครั้งเมื่อพยายามถอดออกเท่าไรอีกคนก็จะใส่ให้เธออยู่ดี นั้นจึงทำให้เด็กสาวต้องยอมแพ้ ชิยูกิคิ้วขมวดด้วยความไม่พอใจแต่ดูเหมือนอิซายะจะไม่สนใจสักนิด
"เอาละเราเข้าไปกันดีกว่า" ชายหนุ่มจับข้อมือของเด็กสาวแล้วพาตัวเธอเข้าไปใน พวกเค้าทั้งสองเดินลงไปยังชั้นใต้ดินของตึกแห่งหนึ่ง ทางเดินค่อยๆมืด เมื่อเดินมาจนสุดทางเดินก็จะพบกับประตูบานนึงเมื่อพวกเค้าเข้าไป
กลิ่นอับชื่นกระจายไปทั่ว ทั้งห้องนั้นล้วนสว่างและเต็มไปด้วยเหล่าแฟนคลับนับร้อยชีวิตอยู่ในห้องที่เหม็นอับนี้อีก ความร้อนที่กระจายเต็มทั่วห้องที่ถึงแม้จะมีเครื่องปรับอากาศก็แทบจะไม่ช่วยอะไรเลย
ร้อนชะมัดแถมยังอึดอัดอีกด้วยนั้นคือสิ่งที่เด็กสาวคิด เสียงผู้คนตะโกนดังโหวกเหวกเรียกชื่อดาราที่ตัวเองชื่นชอบกัน
ตอนนี้ทั้งอิซายะและชิยูกิได้อยู่แถวหน้าสุดที่อีกนิดนึงก็แถบจะติดกับขอบเวทีแค่เอื้อม
"รู้ไหมว่าเราได้ที่พิเศษที่สุดเลยนะ" แหมไม่บอกไม่รู้นะเนี่ย ชิยูกิเบ้ปากไม่พอใจตอบ "ถ้าทางเธอจะร้อนนะ เอานี้" อิซายะยื่นพัดลายมิริมิริจังมาให้ ชิยูกิมองลายพัดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
"ถามจริงเหอะ นายน่ะไม่ได้เป็นโอตะของมิริอะไรนั้นใช่ไหม" ถึงเธอจะถามไปแต่ก็ยังรับพัดนั้นมาพัดอยู่ดี
"ทำไมหึงฉันงั้นหรอ" อิซายะเท้าคางกับราวเหล็กยื่นหน้ามาใกล้เด็กสาวแต่เธอกลับเอาพัดตีหน้าอย่างจังแล้วค่อยกลับมาพัดต่อ
"ฉันไม่เอาความรู้สึกไร้สาระมาใช้กับนายหรอกนะ"
"ใจร้ายจังเลย" อิซายะบีบเสียงเล็กให้ดูน่าสงสารพูด ช่างน่าหมั่นไส้นักผู้ชายคนนี้ ในจังหวะนั้นเองแสงไฟค่อยๆมืดลง หมานควันของการแสดงค่อยลอยขึ้นมาแสงและดนตรีค่อยๆบรรเลง เหล่าแฟนคลับทั้งหลายที่ได้เห็นสัญญาณก็ต่างส่งเสียงดังหนักกว่าแต่ก่อน
ร่างเงาดำของเด็กสาวค่อยๆโผล่จากม่านหมอกควัน เผยให้เห็นร่างของเด็กผู้หญิงในผมสีชมพูมัดผมทวิลเทลกับ ชุดกระโปรงฟูฟ่องระบายระยิบระยับ กับดวงตาสีฟ้าใส มือของเธอนั้นถือไมค์ชมพูประดับด้วยโบว์
"สวัสดีค่ะ ทุกคนๆ มิริเองค่ะ" เสียงเล็กหวานน่ารักราวกับเด็กก้องไปทั่วห้อง "ทุกคนเป็นยังไงกันบ้างค่าาา" เสียวตะโกนดีใจบอกรักของเหล่าแฟนคลับตอบกลับกันอย่างล้นหลาม
"วันนี้มิริ ดีใจมากเลยที่ทุกคนมาพบกับมิริเพื่อมาฟัง Secret Concert of MIRI MIRI" คอนเสิตร์ลับงั้นหรอก็ว่าทำไมถึงต้องมาร้องเพลงในห้องชั้นใต้ดินแบบนี้
"แล้วก็นะ วันนี้มิริจะมาร้องเพลงที่พึ่งแต่งขึ้นมาใหม่ให้เหล่าแฟนๆทุกคนโดยเฉพาะเลย" มิริทำมือเหมือนกับอุ้งเท้าแมววางไว้ใต้คางพลางขยิบตาส่งให้ทุกคน
"งั้นเราอย่ามาเสียเวลาเลย มาเริ่มเข้าสู่ห้วงแห่งความฝันสี่ชั่วโมงแบบ non-stop กันเถอะค่าาาา" เธอชูมือขึ้นฟ้ากับเสียงเฮที่ดังตามมาติดๆ
"Music" เสียงเพลงดังขึ้น แท่งไฟสีชมพูถูกโชว์แกว่งไปมาตามจังหวะพร้อมเพรียงราวกับนัดซ้อมหมู่ขณะมาก่อนหน้า
ชิยูกิลอบกลืนน้ำลายเมื่อกี้เธอฟังไม่ผิดใช่ไหม สี่ชั่วโมงแบบไม่หยุดกับห้องจำลองซาวหน้า งานนี้เธอต้องตายแน่ๆ ตายทั้งเป็นแน่ๆ เธอหันไปหาตัวต้นเหตุซึ่งหน้าสลอ ดูท่าหมอนี้จะสนุกที่ได้ทรมารคนอื่นโดยเฉพาะการทรมารเธอทั้งเป็นแบบนี้
"ฉันเกลียดนาย" ชิยูกิพูดด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยอ่อนแต่ดูมันจะไม่กระทบอะไรอิซายะ
"ฉันก็รักเธอเหมือนกัน"
ไม่น่าตามหมอนี้มาเลยเรา
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น