ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Durarara] My special Human (Izaya Orihara x Oc)

    ลำดับตอนที่ #3 : Chess piece 3

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.ย. 64







    "เจอตัวแล้ว "

      Kanra: 'ถึงเธอไม่มา ฉันก็จะไปรับเธออยู่ดี'

                                                  
         ข้อความของคนคนนั้น พลุบขึ้นมาในหัวของเด็กสาวทันที ปฎิกิริยาของเธอเป็นไปตามอัตโนมัติ เด็กสาวกระชากมือปริศนาออกจากตัวเธออย่างแรง ก่อนจะใช้กระเป๋าหนังสีน้ำตาล ตวัดฝาดกับไปแต่ก็ต้องหยุดชะงักกับเป้าหมายแทน

         "โว้ เว้อออ" เด็กชายผมที่ถูกย้อมเหลืองทองคนที่ชอบส่งเสียงดังที่เจอกันตอนปฐมนิเทศ ดูตระหนกตกใจกับท่าทางของเธอ

         เด็กสาวไม่พูดอะไร ลดกระเป๋าลงจากหน้าของเด็กหนุ่ม เธอเห็นว่ามีเพื่อนร่วมห้องของเธอคนนึงมากับเขาด้วย เจ้าหนุ่มเหนียมอายนี้เอง พวกเขาทั้งสองได้พูดกับเธอแต่ว่าเพลงมันกลับกลบเสียงไปหมด เธอเลยต้องหยุดเพลงถอดหูฟังออก

         "นี้ เธอได้ยะ-"

         "มีอะไร" ชิยูกิพูดออกมาเสียงเรียบราวกับว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

         "ยังจะมาถามว่ามีอะไร เมื่อกี้เธอเกือบฟาดหัวฉันด้วยกระเป๋านั้นนะ" ชายหนุ่มผมเหลืองเริ่มโวยวายชี้ไปที่กระเป๋าในมือเธอ

         "ก็นายดันมาจับไหล่ฉันซะแรง ฉันก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา" เธอกล่าวเสียงเรียบคิ้วขมวดด้วยความรำคาญ

         "หน้าเธอนิ่งๆที่ว่าคือตกใจ งั้นสิ" ยังจะต่อล้อต่อเถียงไม่เลิกอีก

         "น่าๆ ทั้งสองคน เรามาเริ่มกันไหมเถอะนะ" เจ้าหนุ่มเหนียมอายยกมือมาห้ามศึกระหว่างเราคนทั้งสอง

         "เอางั้นก็ได้เห็นว่า เธอน่าตาน่ารักจะยกโทษให้เป็นกรณีพิเศษก็แล้วกัน" ชายผมทองเอามือปัดผมไปด้านข้างพร้อมกับขยิบตาส่งให้ ทำท่าทางเหมือนกับนายแบบในโฆษณาทีวีแต่ทว่ามันดูเฉิ่มสำหรับหมอนี้ยังไงยังงั้น

         'น่าจะฟาดให้หัวแตกรู้แล้วรู้รอด'  เธอเบ้ปากออกด้วยความไม่พอใจ

         "ฉัน คิดะ มาซาโอมิ หนุ่มสุดหล่อแสนเพอร์เฟ็คของสาวๆทุกคน ยินดีที่ได้รู้จัก" คิดะหรือชายผมเหลืองแนะนำตัวเองอย่างอลังการเกินเบอร์

         "แค่นี้ใช่ม่ะ ไปละ" ชิยูกิหันตัวหนี แต่ก็ถูกคิดะเดินดักนำหน้าเธอไปก่อน

         "เดี๋ยวสิๆ แบบนี้เธอเองก็ต้องแนะนำตัวด้วยสิ"  เด็กสาวถอนหายใจบ่นเสียงจิจ้ะออกมาแสดงให้เห็นเลยว่าเธอกำลังไม่พอใจ ทำให้มันจบๆไปก็ได้ เธอคิด

         "คิโนมิยะ ชิยูกิ ไปนะ" ชิยูกิเดินผ่านตัวคิดะไปแต่ดูเหมือนคิดะจะไม่พอใจกับการแนะนำตัวแค่นี้เขาจึงได้เดินมาขว้างเธออีกครั้ง

         "อย่าพึ่งไปสิ รู้ไหมที่พวกเราทักเธอนะเพราะอะไร" เด็กสาวไม่ตอบคำถาม ได้แต่ทำหน้านิ่งไม่พอใจบวกกับความรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาแล้วตอนนี้มือเธอพร้อมที่จะใช้กระเป๋าฟาดทุกเมื่อ 

         "ที่ฉันทักเธอก็เพราะเห็นเธอคุยกับมิคาโดะแล้วก็ดูเมื่อเธอจะไม่ค่อยมีเพื่อนสักเท่าไร ก็เลยจะมาทำความรู้จักกับเธอแล้วก็ชวนเธอไปเที่ยวด้วยกันไงละ" คิดะกล่าวคำพูดออกมาที่มำให้คิ้วกับเท้าของเด็กสาวกระตุกขึ้นมา เมื่อเห็นว่าจะมีศึกขึ้นมา นายหนุ่มขี้อายจึงเดินมาแทรกกลางระหว่างเขากับเธอ

         "ต้องขอโทษแทนคิดะคุงด้วยนะ คุณคิโนมิยะ อันที่จริงแล้วพวกเราก็แค่อยากจะทำความรู้จักกับเธอก็เท่านั้นเอง" นายหนุ่มเหนียมอายเริ่มพูดบ้าง

         "อ่าห่ะ แต่ว่านายชื่ออะไรนะ" คนที่มาห้ามศึกถึงกับอ้าปากค้างกับคำถามเธอ

         "ผม ที่อยู่ห้องเดียวกับคุณไง ริวงามิเนะ มิคาโดะไงครับแล้วก็ที่เจอกันตอนปฐมนิเทศตอนเช้าวันนี้ด้วยไง" มิคาโดะเริ่มอธิบายสถานะตัวเอง 

         อ่ามิคาโดะนายติดอ่างคนนั้นสินะ พอฟังชื่อแล้วเหมือนชื่อยี่ห้อเครื่องปรับอากาศเลยแหะ เด็กชายที่พึ่งจะเจอกันเมื่อเช้าแล้วแถมยังเป็นเพื่อนร่วมห้องกับเธอ ยังถูกเมินได้ขนาดนี้ นี้เขาจะไร้ตัวตนขนาดนั้นเลยงั้นหรอมิคาโดะคิดในใจ 

         "ฮ่าฮ่าๆ ฉันก็รู้อยู่แล้วว่านายมันจืดชืดแต่ไม่คิดว่าจะจืดจนคนจำไม่ได้ขนาดนี้นะ" เพื่อนชายของมิคาโดะได้แต่หัวเราะยกใหญ่พลางตบหลังปลอบเพื่อนตัวเอง อะไรมันจะน่าสงสารขนาดนี้ แต่ถ้าไม่หยุดขำมีหวังได้โดนหมายหัวไว้อีกคนแน่

          "โอเคๆ ฟู่~ สรุปแล้วคำตอบละ คนสวย" คิดะหยุดหายใจสักพักก่อนจะรอรับฟังคำตอบจากเด็กสาวตรงหน้า ยังไม่ทันที่ชิยูกิจะเปิดปากด่าอีกฝ่ายกับความดื้นรั้นนี้แล้ว ก็ได้มีบทสนถนาดังขึ้นมาขัดพวกเขาเสียก่อน

         "กรุณารอก่อนค่ะ ยางิริคุงเธอคงกำลังลำบากใจอยู่ใช่ไหม" เสียงของเด็กสาวใส่แว่นผมสั้นสีดำพูดขึ้น ถ้าจำไม่ผิดเธอคนนี้ชื่อว่า โซระ อันริ สักอย่าง 

         เธอกำลังรั้งแขนของเด็กผู้ชายร่างใหญ่ที่เจ้าตัวบอกว่ามีภารกิจอันใหญ่ยิ่งต้องไปทำอยู่ คนรักงั้นหรอไม่น่าใช่ เพราะเรียกนามสกุล แต่ดูเหมือนทั้งสองคนจะรู้จักกันมาก่อน แต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะไม่สนใจสิ่งที่เด็กสาวพูดแม้แต่น้อย

         "ฉันไม่รู้" ยางิริบอกแบบปัดๆไปเพื่อที่เธอจะได้ปล่อยเขาแต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล

         "ตะ ตะ แต่ว่าจะขาดเรียนวันแรกแบบนี้เลยงั้นหรอ"

         "ก็บอกว่าไม่รู้ไง" ยางิริสะบัดแขนให้พ้นจากเด็กสาวและได้รีบสาวเท้าออกมาอย่าไม่สนใจเธออีกเลย

         'น่าเบื่อชะมัด การทะเลาะของหนุ่มสาววัยรุ่น ไม่เห็นจะมีอะไรน่าสนใจสักนิด' เธอคิดอยู่ในใจ ผิดกับเด็กชายทั้งสองที่ยืนฟังอย่างตั้งอกตั้งใจกว่าเวลาในห้องเรียนเสียอีก สุดท้ายคิดะที่กำลังมองสถาณการณ์ทุกอย่างอยู่ก็ได้เอยปากพูดทักเธอคนนั้นไป

         "มีเรื่องอะไรกันหรอ" คิดะที่ดูเหมือนจะชอบจุ้นจ้านเรื่องคนอื่นก็เอยทักเธอไป แบบไม่กลัวเลยว่าจะโดนด่ากลับมาว่าสอดรู้เรื่องชาวบ้านรึเปล่า แต่ถ้าเป็นเด็กผู้หญิงคนนี้อาจจะไม่ก็ได้

         เด็กสาวที่เห็นว่ามีคนกำลังจ้องมองมาที่บทสนถนาของเธอกับยางิริ ดูเหมือนจะทำตัวไม่ถูก ก้มหัวตามแบบมารยาทญี่ปุ่นก่อนจะเดินจากไป
         
         "เขามีเรื่องอะไรกันหรอ" มิคาโดะถามคิดะ

         "หึๆๆ ฉันเป็นผู้ชายบาปหนาจริงๆ" คิดะอยู่ดีๆก็พูดอะไรแปลกๆขึ้นมาซังั้น

         "ห่ะ" คิดะที่เริ่มพูดแปลกๆนั้นทำให้ทำให้มิคาโดะเหงื่อยตกเลยจริงๆ

         "ดูเหมือนว่าจะมีเธอจะตกหลุมรักฉันซะแล้วสิ สีหน้าของเธอบอกเลยว่า ควรจะ Fall in love with a bad boyอย่างฉันคนนี้ดีไหม อย่างเนี้ยสิ แล้วก็แม่สาวกระเป๋าหนังที่จู่โจ่มฉันเมื่อกี้ก็เพื่อแก้เขินตอนที่ฉันทักแน่ๆเลย" 

         "โทษนะนายช่วยพูดภาษาคนกับฉันได้ไหมเนี้ย" มิคาโดะถึงกับเหนื่อยใจกับคำพูดคำจาที่พูดเพ้อไม่รู้เรื่องของเจ้าตัว

         "แหมๆ ช่วยไม่ได้งั้นวันนี้ฉันจะพาเธอไปเที่ยวเองนะ ชิยูกิจัง เอะ อ่ะ อ้าว หายไปไหนแล้วละ" เมื่อคิดะหันมาหาเด็กสาว ก็กลับไม่เจอใครตรงหน้าเลยสักคน 










         ชิยูกิใช้โอกาศที่สองคนนั้นสนใจอย่างอื่นเดินหนีมา และตอนนี้เธอก็ได้อยู่หน้าตึกคอนโดสีขาวสไตล์โมเดิลสวยแต่ดูจากราคาแล้วไม่น่าจะสวยสักเท่าไร ภายในตัวตึกของแต่ละชั้นก็ใหญ่พอสำหรับบ้านหลังนึงได้ 

         มีลิฟต์สองตัวคือ ตัวนึงไว้ขนส่งรถขนาดใหญ่ของแต่ละชั้นส่วนอีกอันจะไว้สำหรับคน แต่ละชั้นจะมีเจ้าของแค่คนเดียวหรือต่อหนึ่งครอบครัว พูดง่ายก็คือบ้านนั้นแหละแต่อยู่ในรูปแบบของตึกใหญ่ในเมือง 

         ชิยูกิเดินเข้าไปในลิฟต์ กดปุ่มที่ชั้นห้าซึ่งเป็นชั้นบนสุด ไฟที่ระบุตัวเลขของแต่ละชั้นก็ค่อยๆไต่ขึ้นไปยังชั้นจุดหมาย

        ประตูลิฟต์เปิดเมื่อถึงที่หมายเธอเดินออกมาแล้วหันไปมองตรงที่จอดรถ แต่ก็ไร้ซึ่งสิ่งใด 'ยังไม่กลับมาสินะ'

         มือเรียวหยิบกุญแจไขประตูเปิด ทางเดินขนาดเล็กกับอพาร์ทเม้นท์สีขาวครีม ชิยูกิเดินเข้าไปในตัวห้อง ถอดรองเท้าให้เป็นที่เป็นทาง ใส่รองเท้าแตะสำหรับเดินในบ้านแทน 

         "กลับมาแล้วหรอชิยูกิ" เสียงของชายหนุ่มวัย23-24ปีพูดดังมาจากห้องนั่งเล่นพร้อมกับเสียงทีวีที่เปิดไว้อยู่ เจ้าตัวได้ลุกจากโซฟาก่อนจะเดินไปต้อนรับเด็กสาวที่พึ่งมาเยือนได้ไม่นาน

         เธอมองเงยหน้ามองคนตรงหน้า เขาที่ไว้ผมสั้นสีน้ำตาลที่เหมือนกันกับเธอแต่ทว่ากลับเข้มกว่า ส่วนปลายผมก็ดัดขึ้นเล็กน้อย ที่ใบหน้ามีแว่นตากลมโตประดับไปด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรและที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุดคือตัวชุดที่ใส่ เสื้อกาวน์สีขาวของคุณหมออยู่ ที่ยาวเกือบจะละพื้น


         "กลับมาแล้ว"

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×