ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • ฟอนต์ THSarabunNew
    • ฟอนต์ Sarabun
    • ฟอนต์ Mali
    • ฟอนต์ Trirong
    • ฟอนต์ Maitree
    • ฟอนต์ Taviraj
    • ฟอนต์ Kodchasan
    • ฟอนต์ ChakraPetch
รักวุ่นๆของหนุ่มสาวชาวเด็กช่าง

ลำดับตอนที่ #1 : กว่

  • อัปเดตล่าสุด 13 ธ.ค. 49


 

กริ่ง ๆ กริ่งๆ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเสียงกริ่งนาฬิกาปลุกลูกหมูของฉันดังขึ้นทำให้ฉันที่กำลังนอนหลับอย่างสบายสะดุ้งตื่นขึ้นจนเกือบจะผลัดตกจากเตียงที่แสนจะเล็กๆเหลือเกินเมื่อเทียบกับลำตัวอันแสนยาวเหมือนเสาไปฟ้าของฉัน

ไม่รู้เมื่อไรป๋าจะซื้อเตียงใหม่ให้สักทีก็ไม่รู้ ไม่รู้จะงกไปถึงไหนซื้อเตียงใหม่ให้ลูกสาวแค่นี้ทำเป็นคิดน๊านนาน เซ่งโว้ยๆๆๆๆๆๆๆๆ

ในขณะที่ฉันกำลังนินทาป๋าตัวเองอยู่นั้น อยู่ๆๆประตูห้องนอนของฉันก็ถูกทำร้ายอย่างรุนแรงด้วยฝีมือของคนที่ฉันทั้งรักและทั้งนับถือ คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่น้ำหวานพี่สาวสุดสวยของฉันนั้นเอง ทุกคนคงจะสงสัยใช่มั้ยค่ะว่าทำไมคนๆนั้นถึงไม่เป็นแม่ของฉันก็เพราะว่าแม่ของฉันท่านเสียชีวิตตั้งแต่ฉันอายุยังน้อย และคนที่เลี้ยงดูฉันมาก็คือป๋าและพี่น้ำหวานพี่สาวคนสวยของฉันนั้นเอง  ฉันสนิทกับพี่น้ำหวานมากจนใครๆที่สนิทกับพวกเราทั้งสองคนได้ตั้งสโลแกนให้กับพวกเราว่า ที่ไหนมีน้ำหวาน ที่นั้นต้องมีน้ำข้าว

ปัง  !!!!!!ๆ โครม !!!!!!!!เฮ้ยไอ้น้ำข้าวแกตื่นยังว่ะ นี้มันสายแล้วน่ะโว้ยแกไม่คิดที่จะตื่นอาบน้ำแต่งตัวไปเรียนบ้างหรือไงอ่ะ

เสียงพี่น้ำหวานดังตามเข้ามาหลังจากคุณพี่แก่ได้ทำการประทุร้ายประตูห้องนอนของฉันไปเรียบร้อยโรงเรียนพี่น้ำหวานแล้ว พูดเสร็จ(หรือตะโกนกันแน่)พี่น้ำหวานก็เดินจากไปทิ้งให้น้องน้อยของพี่แกที่ยังอึ่งอยู่กับการกระทำของเธออยู่ไม่หาย แต่ว่าจริงๆแล้วฉันน่าจะชินการกระทำแบบนี้ของพี่น้ำหวานได้แล้วน่ะ  ฉันลุกขึ้นจากที่นอนแต่ก็จะแอบหันไปมองที่นอนด้วยสายอันแสดงถึงความเสียดายอย่างสุดซึ่ง ฉันใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีในการอาบน้ำแต่งตัว เมื่อลงมาถึงด้านล่างฉันก็เห็นป๋าที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วด้วยชุดนายตำรวจต็มยศ อ่ะลืมบอกไปป๋าฉันน่ะเป็นถึงนายตำรวจยศพันตำรวจตรีเชี่ยวน่ะ และก็เพราะงานตำรวจนี้แหล่ะจึงทำป๋าไม่เคยอยู่ติดบ้านเลย ปล่อยให้ฉันสองคนพี่น้ำหวานต้องอยู่ด้วนกันตามลำพังบ่อยๆ ฉันกับป๋าสนิทกันมากต่างกับพี่น้ำหวานที่ดูเหมือนพี่แกจะไม่ค่อยจะสนิทกับป๋าสักเท่าไร นานๆ ครั้งถึงจะพูดดีๆๆกันสักครั้ง

ป๋าพี่น้ำหวานล่ะฉันเอ๋ยถามพี่น้ำหวานกับป๋าในขณะที่มือก็กำลังควานหาของกินในตู้เย็นอยู่

ออกไปเรียนแล้ว ว่าแต่แกเถอะทำไมถึงยังไม่เรียนอีกล่ะ นี้มันจะเจ็ดโมงครึ่งแล้วน่ะป๋าตอบคำถามฉันทันทีพร้อมกับลดหนังสือพิมพ์ลงจากหน้าแถมยังถามฉันกลับมาอีก

จะรีบไปไหนล่ะป๋า เหลือเวลาอีกทั้งครึ่งชั่วโมง บ้านเรากับโรงเรียนใกล้กันแค่นี้เอง ฉันเงยหน้าจากตู้เย็นแล้วหันมาตอบป๋า

แก จะบ้าเหรอไอ้น้ำข้าว โรงเรียนใหม่ของแกเค้าเข้าเรียนกัน เจ็ดโมงสี่สิบน่ะ ไม่ใช่แปดโมงอย่างที่โรงเรียนเก่าของแกเจ็ดโมงสี่สิบเหรอ ตอนนี้เจ็ดโมงครึ่งเหลือเวลาอีก 10 นาที แล้วจะทันไม่ล่ะเนี้ย ตายแน่ฉันคร่าวนี้ พี่น้ำหวานเคยเล่าให้ฟังว่าครูฝ่ายปกครองของโรงเรียนนี้ดุเจ็บเป๋งเลย โรงเรียนที่ฉันจะไปเรียนนี้เป็นโรงเรียนของกรมอาชีวะหรือที่เด็กทั่วไปเขาเรียกกันว่าวิทยาลัยเทคนิคกันนั้น แหล่ะ โรงเรียนแห่งนี้เปิดสอนอยู่ สองระดับ คือ ระดับ ปวช. เปิดสอนทั้งแต่ ปวช.1-ปวช.3 ซึ่งในระดับนี้ก็เทียบเท่ากับ เด็กมัธยมปลาย ม4.- ม.6 และก็อีกระดับหนึ่งคือ ระดับ ปวส ระดับนี้เทียบเท่าอนุปริญญา  สาเหตุที่ฉันเข้าเรียนต่อที่นี้ก็เพราะว่าฉันอยากมาเรียนที่เดียวกับพี่น้ำหวาน ตอนนี้พี่น้ำหวานเรียนอยู่ชั้น ปวช.3 คณะบริหารธุรกิจสาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ส่วนฉันเรียนคณะอุตสาหกรรมสาขาไฟฟ้ากำลัง  วันนี้เปิดเรียนวันแรกเสียด้วยขืนไปสายมีหวังตายแน่นอน ทำไมพี่น้ำหวานถึงไม่รอฉันด้วยล่ะเนี้ย

                ป๋า ไปส่งหนูหน่อยดิ ฉันเข้าไปอ้อนป๋าอย่าที่เคยทำทุกครั้งเวลาที่จะขอให้ป๋าทำอะไรให้ หรืออยากได้อะไรก็ตาม

                ไม่ คำปฏิเสธคำเดียวที่หลุดออกมาจากปากของป๋าทำให้ฉันถึงกับยืนอึ่งไปชั่วขณะ แต่พอนึกถึงสาเหตุที่ป๋าไม่ยอมไปส่งฉันขึ้นมาได้ฉันก็จำเป็นต้องยอมรับชะกรรมต่อไป

                งั้นหนูไปล่ะ สวัสดีค่ะฉันยกมือไหว้ป๋าแล้วเดินออกจากบ้านด้วยใบหน้าอันจ๋อยสนิท    

นึกย้อนไปเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้วตอนที่ฉันบอกกับป๋าว่าฉันจะไปเรียนที่เดียวกับที่พี่น้ำหวานเรียน

ป๋า หนูจะไปเรียนต่อที่เดียวกับที่พี่น้ำหวานเรียนน่ะ

แกว่าไงน่ะ ป๋าที่นั่งดูข่าวนักการเมืองทะเลาะกัน หันมาถามฉันอีกครั้งด้วยน้ำเสียงตกใจ

หนูบอกว่าหนูจะไปเรียนที่เดียวกับที่พี่น้ำหวานเรียน ฉันบอกป๋าซ้ำอีกครั้ง

ป๋าไม่ให้แก่ไป

ทำไมล่ะป๋าฉันถามป๋ากลับทันที ตอนนี้ใบหน้าของฉันบ่งบอกถึงความสงสัยเป็นที่สุดว่าทำไมป๋าถึงไม่ยอม

ก็เพราะว่าที่นั้นมันไม่ดีไง วันๆมีแต่เด็กทะเลาะกัน ยกพวกตีกันบ้างล่ะ ตบตีเพื่อแย่งผู้ชายกันบ้างล่ะ   ขี่มอเตอร์ซิ่งบ้างล่ะ ป๋าไม่เห็นว่าที่นั้นมันจะมีอะไรดีเลย ถึงอย่างไงฉันก็ไม่ยอมให้แก่ไปเรียนเป็นอันขาดพูดจบป๋าก็ลุกขึ้นยืนเพื่อจะเดินกลับห้องของตัวเอง

แล้วทำป๋าถึงยอมให้พี่น้ำหวานไปเรียนได้ล่ะฉันไม่ยอมแพ้ หาเหตุผลมาเถียงป๋ากลับ

ก็เพราะว่าพี่แกมันดื้อให้ไงล่ะ ไม่ยอมเชื่อที่ป๋าบอก

ถึงหนูจะดื้อแต่หนูก็เรียนจะจบแล้วน่ะป๋า ไม่เห็นจะมีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่ป๋าพูดสักอย่าง ไอ้น้ำข้าวมันจะไปเรียนทำไมป๋าถึงไม่ยอมให้มันเรียนไปล่ะ ไอ้น้ำข้าวมันไม่ใช่เด็กแล้วป๋า มันเอาตัวรอดได้อยู่แล้วแหล่ะอยู่ๆพี่น้ำหวนที่นั่งฟังฉันกับป๋าเถียงกันอยู่นานก็สวนขึ้นมาบ้าง แบบที่คนอย่างป๋าถึงกับอึ่งไปเลยเหมือนกัน ปกติป๋ากับพี่น้ำข้าวก็ไม่ค่อยจะถูกกันแล้วพอมาเจอเอากับบทสนทนานี้ก็ทำให้เกิดความเงียบขึ้นมาในบ้านทันที

โอเค ฉันจะยอมให้ไอ้น้ำข้าวไปเรียนที่นั้นก็ได้แต่แกกล้ารับปากกับฉันได้มั้ยล่ะว่าแกจะดูแลน้องเป็นอย่างดี หลังจากเงียบอยู่นานป๋าก็เปิดการสนทนาขึ้นมาอีกครั้ง

โอเค หนูรับปากว่าจะดูแลน้องเป็นอย่างดี ป๋าสบายใจได้พี่น้ำหวานตกลงคำสัญญากับป๋าเสร็จก็หันมายักคิ้วให้ฉันหนึ่งครั้งแล้วหันไปสนใจกับหนังสือนิยายของตนเองต่อปล่อยให้ฉันต้องทนสู้กับสายพิฆาตของป๋าต่อไป

ส่วนแก ป๋าที่มองฉันเงียบๆอยู่นานก็พูดขึ้น

ฉันจะยอมให้แกไปก็ได้ ไชโย  !!!!!!!!!!!!!    แต่ฉันจะไม่ยอมไปส่งแกเด็ดขาด เวลาที่แกตื่นสาย 

ตายล่ะงานนี้ใครๆก็รู้ฉันเป็นคนที่ชอบตื่นสายเป็นสุด ขืนป๋าไม่ยอมไปส่งแบบนี้ฉันคงต้องไปเรียนสายทุกวันแน่เลย

ทำไม ป๋าต้องเอาจุดอ่อนของหนูมาใช้ด้วยล่ะ ไม่ยุติธรรมเลยสักนิด ป๋าใจร้ายอ่ะ ฉันที่เริ่มจะร้องไห้เอ่ยถามป๋าขึ้นด้วยเสียงสั่นๆนิดๆ

ช่วยไม่ได้!!  ตกลงจะเอาอย่างไง 

ป๋าอย่าคิดน่ะ ว่าเรื่องแค่นี้จะห้ามหนูได้คงคิดละสิว่าหนูจะยอมเปลี่ยนใจ ป๋าคิดผิดแล้ว เรื่องไปสายเอาไว้หาทางแก้ไขปัญหาเอาทีหลัง ตอนนี้ต้องหักหน้าป๋าให้ได้เสียก่อน

แล้วไงล่ะ

ตกลงค่ะ หนูรับข้อเสนอของป๋า หนูจะไปเรียนที่เดี่ยวกับที่พี่หวานเรียน เมื่อฉันพูดจบสีหน้าที่ยิ้มอย่างเป็นต่อของป๋าก็เริ่มหุบลงเสียสนิท

เย้ สุดยอดไปเลยว่ะไอ้ข้าว พี่ไม่นึกเลยว่าแกจะกล้าขนาดนี้ พี่ภูมิใจในตัวแกมากเลยว่ะ

แกไอ้น้ำหวาน !!!!!!!!!!!!”ไม่ต้องรอให้ป๋าพูดจบพี่น้ำหวานก็เป่นขึ้นห้องนอนของตนเองทันทีส่วนฉันจะอยู่ทำไมล่ะขืนป๋าเปลี่ยนใจขึ้นเดี่ยวจะแย่

พี่รีบๆหน่อยดิ หนูสายแล้วน่ะ ซิ่งไปเลยเมื่อไม่มีทางเลือกแล้วและก็ใกล้จะถึงเวลาเรียนเข้าไปทุกทีแล้ว  ฉันจึงจำเป็นต้องใช้ทางเลือกสุดท้ายที่ฉันไม่อยากเลือกที่สุดนั้นก็คือการขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างนั้นเองใช่ว่าฉันจะไม่เคยขี่มอเตอร์น่ะ แต่หลังจากที่ฉันประสบอุบัติเหตุเมื่อ2 ปีก่อน โดยการขี่รถมอเตอร์ไปชนเอากับรถกะบะที่วิ่งสวนทางมา เหตุในครั้งนั้นทำให้มือข้างซ้ายและขาขวาของฉันหักต้องใส่เฝือกนานเดือนด้วยกัน จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ฉันกลัวการขี่รถมอเตอร์เป็นที่สุด ไม่ว่าจะให้ฉันเป็นคนขี่เองหรือให้นั่งซ้อนท้ายคนอื่นฉันก็ยังกลัวอยู่ดี 

เฮ้ยน้องพี่คงขี่เร็วกว่านี้ไม่ได้แล้วแหล่ะ นี้ตั้งแต่พี่ขี่มอเตอร์เป็นน่ะ  ครั้งนี้แหล่ะที่พี่ขี่เร็วที่สุดแล้วคุณพี่คนขับหันมาตอบฉัน และก็ทำหน้าที่ของแกต่อไปเรื่อยๆๆ

ความเร็วแค่ 40 นี้น่ะค่ะที่พี่ว่าเร็วที่สุดแล้ว แบบนี้ต่อให้เที่ยงหนูก็คงไม่ถึงโรงเรียนมั่งค่ะพี่ ฉันเริ่มจะหมดความอดทนกังคุณพี่คนขับคนนี้ไม่ไหวแล้ว ขืนปล่อยให้พี่แกขับอยู่อย่างฉันคงต้องไปสายจริงๆแน่

แล้วน้องจะให้พี่ทำอย่างไงล่ะพี่คนขับหันหน้ามาถามฉัน

งั้นพี่จอดรถเลยฉันสั่งให้พี่คนขับจอดรถ ในขณะที่รถกำลังติดไฟแดงอยู่นั้นเอง

จอดทำไมอ่ะน้อง

หนูขี่เอง พี่ลงมาเร็ว หนูขี่พี่นั่งสั่งเสร็จฉันก็กระโดดออกจากตัวรถแล้วใช้ให้พี่คนขับออกจากตัวรถ

จะดีเหรอน้องพี่คนขับทำสีหน้าลังเล แต่ฉันก็ไม่ปล่อยให้แก่คิดนานหรอกฉันกระชากแขนพี่คนขับออกจากรถทันทีและขึ้นคร่อมรถทันที โชคดีหน่อยที่ฉันเรียนคณะช่างอุตสาหกรรมเขาให้ใส่กางเกงได้ทำให้สะดวกขึ้นเมื่อขี่มอเตอร์แบบนี้

เฮ้ยน้องทำอะไรเมื่อฉันกับคุณพี่คนขับสลับที่นั่งกันเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น อยู่ๆก็มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้น และเสียงนั้นก็ไม่ได้ดังมาจากที่ไหนไกลมันดังมาจากรถมอเตอร์อีกคันที่จอดติดไฟแดงอยู่ข้างๆรถของฉัน (แน่ใจนะว่ะว่าเป็นของแก) บนคันนั้นมีผู้ชายสองคนแต่งกายเครื่องแบบนักเรียนแบบเดียวกับฉัน ที่คอปกเสื้อของสองคนนั้นเป็นสีเหลืองเหมือนของฉันเลย แต่ว่าสองคนนั้นน่าจะแกกว่าฉันเพราะดูจากสีเสื้อแล้วนั้นเหมือนมีการใช้งานมานานแล้ว

แล้วเกี่ยวอะไรกับพวกนายด้วยฉันสวนกลับไปทันที  พร้อมกับหันไปจ้องตาไอ้คนพูดอย่างเอาเรื่องไม่ต้องไปสนมันแล้วว่าจะเป็นรุ่นพี่หรือว่ารุ่นเดียวกัน

เฮ้ยน้องเพื่อนพี่ถามดีๆ ทำไมถึงตอบแบบนั้นล่ะไอ้คนที่นั่งซ้อนท้ายอยู่พูดขึ้นมาบ้าง หลังจากที่นั่งมองฉันกับไอ้คนขี่จ้องตากันอยู่นาน

แล้วจะทำไม ใครใช้ให้พวกนายมายุ่งกับเรื่องของฉันล่ะอีตาคนที่นั่งซ้อนท้ายอยู่ถึงกับอึ่งเมื่อเจอกับคำตอบของฉันซึ่งต่างกับอีกคนที่เอาแต่จ้องหน้าฉันไม่ยอมพูดอะไร เหมือนกับโชคเข้าข้างฉัน สัญญาณไฟเขียวมาพอดี ฉันจึงใช้จังหวะนั้นออกรถซิ่งหนี้ไอ้พวกนั้นทันทีขืนอยู่ไปนานกว่านี้ไอ้พวกนั้นเกิดโมโหขึ้นมาฉันสองคนพี่ขับมอเตอร์จะรอดไมล่ะ (แกคิดเหรอว่าเค้าจะช่วยแก)

เท่าไรค่ะพี่ฉันหันมาถามพี่คนขับเมื่อฉันขี่รถมาถึงหน้าโรงเรียน แต่ดูเหมือนว่าพี่คนขับคงจะยังไม่หายจากอาการตกใจเมื่อกี้ ก็พี่แก่ยังคงนั่งสะลึมสะลืออยู่เลย พออาการดีขึ้นมาหน่อยพี่แก่ก็ชูสองนิ้วขึ้นมา ฉันจึงเดาว่าหน้าจะเป็นค่าโดยสาร 20 บาท ฉันจึงเอาตัง 20 บาทยืนส่งให้แกไป

งั้นหนูไปล่ะพี่ ขับรถดีๆน่ะพูดเสร็จฉันจึงเดินเข้าโรงเรียนทันที ซึ่งตอนนี้เข็มนาฬิกากำลังจะชี้ที่เวลา 7 โมง 40 พอดี เห็นดังนั้นฉันก็รีบโกยทันที  แต่ก็วิ่งไปได้ไม่ไกลทันไร ก็ฉันดันวิ่งไปชนใครก็ไม่รู้ด้วยแรงวิ่งอย่างเร็วของฉันบวกกับอีกฝ่ายก็กำลังวิ่งอยู่เช่นกันจึงทำให้แรงปะทะมีมากพอสมควรทำให้ทั้งสองฝ่ายล้มกันไปคนล่ะทิศคนล่ะทาง

โธ่เอ๊ย! เดินบ้าอะไรของเธอเนี้ย ทำไมไม่ดูทางบ้างเลยเนี้ย”เสียงของไอ้คนที่เดินชนฉันดังขึ้น ดูเหมือนว่าหมอนั้นจะไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร แต่จะให้ทำไงได้ก็คนมันไม่ได้ตั้งใจนี้หว่า

ไม่ได้เดินโว้ย วิ่งตั้งหากล่ะปากฉันที่ไม่เคยอยู่สุขเลยสักครั้งก็สวนกับไปทันที

นี้ยัยเซ่อ ผิดแล้วยังไม่ยอมรับผิดอีกเหรอหมอนั้นเงยหน้าเอามือชี้หน้าฉัน แต่แฮะทำหน้ามันถึงคุ้นๆหว่า

เธอ!!!!!!!!!!!!!!!

นาย!!!!!!!!!!!!!!!

ว่าแล้วทำไมหน้ามันถึงได้คุ้นๆ ก็ไอ้คนที่ทะเลาะกับฉันที่ไฟแดงนี้น่า ทำไมชีวิตฉันมันถึงได้โชคร้ายขนาดนี้ด้วยว่ะ  ไม่ทันที่ฉันกับหมอนั้นจะได้วางมวยกัน   เสียงอาจารย์ก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน

นี่เธอสองคนจะทำอะไรกันน่ะเสียงของอาจารย์หน้ากลมตาดุศีรษะโล้นคนหนึ่งดังขึ้นพร้อมเดินหน้าบึ่งเข้ามาหาฉันกับหมอนั้น

เปล่า ค่ะ/ครับเสียงของฉันกับหมอนั้นปฏิเสธขึ้นพร้อมกัน

แล้วทำไมถึงมาเดินอยู่แถวนี้ เธอสองคนมาสายใช่มั้ยพูดจบอาจารย์คนนั้นก็ก้มลงมองนาฬิกาข้อมือของตนเอง

เปล่า น่ะค่ะ/ครับฉันสองคนหมอนั้นปฏิเสธพร้อมกันอีกแล้ว

ไม่ต้องมาปฏิเสธเลย เธอสองคนตามฉันมาทางนี้สั่งเสร็จอาจารย์หน้ากลมก็เดินนำหน้าฉันกับหมอนั้นไปทางสนามบาสเกตบอลที่ตอนนี้มีนักเรียนอยู่ 7-8 คน ยืนอยู่ในสนาม

นี้นายอาจารย์แกพาเรามาทำไมที่นี้อ่ะดูเหมือนว่าฉันจะลืมว่ากำลังทะเลาะอยู่กับหมอนั้น จึงเอามือไปสะกิดถามหมอนั้นเข้า

ก็พามาลงโทษน่ะสิหมอนั้นตอบพร้อมกับทำหน้าหงิกใส่ฉัน

ลงโทษเรื่องอะไรล่ะไอ้ฉันก็คนความจำสั้นดันลืมอีกแระว่ากำลังทะเลาะกับหมอนั้นอยู่ แต่ก็ยังดันไปถามหมอนั้นเข้าอีกครั้ง

นี้เธอไม่รู้หรือไงว่ากฎของโรงเรียนนี้ใครมาสายจะต้องโดยลงโทษน่ะ หน้าตาก็ดีไม่หน้าโง่เลยนี้

นี้นายว่าฉันเหรอ

ใช่โธ้ไอ้บ้าหน้าตาก็ดีทำปากหมาขนาดว่ะ

 เรื่องกฎของโรงเรียนฉันก็รู้น่ะ แต่ฉันไม่ได้มาสายนี้ ฉันมาตรงเวลาพอดีแป๊ะเลยนี้ 7 โมง 40 น่ะฉันถามหมอนั้นอีกครั้ง

ใช่ กฎของโรงเรียนนี้บอกไว้ว่าเข้าเรียน 7 โมง 40 แต่ก่อนจะเข้าเรียนนักเรียนทุกคนจะต้องไปเข้าแถวพร้อมกันที่หน้าเสาธงเสียก่อน ถ้าเกิดใครไม่ได้ไปเข้าแถวก็ถือว่าสายจะต้องโดยลงโทษจากอาจารย์ฝ่ายปกครอง

เหรอ

ก็ใช่น่ะสิ ยัยเซ่อ เพราะเธอ จึงทำให้ฉันต้องโดนทำโทษแบบนี้

ช่วยไม่ได้ นายอยากมายืนขวางทางฉันเองทำไมล่ะพูดจบฉันก็เดินหนีจากหมอนั้นไปยืนรวมกลุ่มกับนักเรียนคนอื่นๆ แต่ฉันก็เห็นหมอนั้นทำหน้าไม่พอดีสุดๆๆๆ     ซะใจดีเลยโว้ย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

 

 

 

 

ติดตามเรื่องนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน

ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...
×
แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture