ลำดับตอนที่ #25
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : อินทรีย์ผงาด : ความเคลื่อนไหวจากทางใต้
เสียงฝีเท้าย่ำเท้าอย่างหนักจนเกิดเสียงดังไปทั่วทั้งทางเดิน ชายร่างสูงใหญ่เดินผ่านเหล่าขุนนางที่พากันหวาดกลัวไปอย่างไม่แยแสและเปิดประตูออกมายังห้องโถงใหญ่ของคฤหาสต์
ภายในห้องโถงนั้นมีโลงศพใบใหญ่ตั้งอยู่ ข้างๆ นั้นมีสติกซ์และเหล่าทหารม้าที่รอดกลับมาได้นั่งคุกเข่าก้มหน้าราวกับนักโทษรอคำตัดสินโดยไม่พูดอะไร ดยุคเดินเข้าไปใกล้โลงศพที่ไม่มีฝาโลงปิดเอาไว้แล้วเห็นร่างของลูกชายตัวเองนอนแน่นิ่งอยู่ในนั้น ใบหน้าซีดเผือด ชุดเกราะบนร่างกายเต็มไปด้วยรูจากกระสุนปืน
"เป็นฝีมือของใคร.....?" ดยุคถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความเงียบ
"ข้าถามว่าใคร!!!?" ดยุคไม่อาจสะกดกลั้นโทสะเอาไว้ได้อีก เจ้าตัวชักดาบออกจากเอวแล้วฟันใส่ทหารม้าที่รอดกลับมาได้นายหนึ่งจนทหารนายนั้นลงไปนอนดิ้นพล่านกับพื้นอย่างน่าเวทนา สติกซ์จึงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา
"โดร่า กุสตาฟ แรกตัส ผู้นำพวกกบฏครับ" สติกซ์พูดออกมาเสียงดังฟังชัดแล้วนิ่งเงียบไปราวกับรอรับชะตากรรม ดยุคทิ้งดาบลงกับพื้นแล้วเดินย่ำเท้าแรงๆ ออกจากห้องโถงนั้นไปอย่างเดือดดาล
ภายในห้องส่วนตัวของดยุคทาราทอรัส ภายในห้องที่เคยเรียบร้อย ตอนนี้บริเวณหน้าห้องกลับระเนระนาดไปด้วยเศษซากข้าวของ ดยุคนั่งบนเก้าอี้บุหนังอย่างดีเพื่อสงบสติอารมณ์
"เสียใจกับการจากไปของบุตรชายท่านด้วยนะครับ......" ชายร่างสูงในชุดขุนนางคนหนึ่งยื้นก้มหัวอยู่หน้าห้อง
"ถ้าไม่จริงใจก็ไม่ต้องพูด! ฟริตส์!" ดยุคตวาดกลับไป
"ขออภัย......"
"ไม่นึกเลยว่าไอ้เด็กจากแคว้นบ้านนอกนั่นมันจะทำได้ถึงขนาดนี้....." ดยุคเอนหลังพิงพนักเก้าอี้พลางมองดูขุนนางหนุ่มที่ยังคงยืนค้อมหัวให้อย่างนอบน้อม
"สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?"
"ตอนนี้แคว้นทางใต้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ส่วนทางตะวันออกเริ่มมีการเคลื่อนไหวเด่นชัดแล้วครับ" ฟริตส์รายงานกลับไปทั้งที่ยังก้มหัว
"สรุปก็คือ ไอ้คางคกโซมเริ่มมีการเคลื่อนไหวแล้วงั้นสินะ....?" ดยุคพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ นอกเหนือจากดยุคทาราทอรัสแล้ว ยังมีขุนนางใหญ่อีกสองคนคอยกุมอำนาจของอาณาจักรซิสทีเรียอยู่อีกสองตระกูล คือดยุคลาธาซที่ปกครองทางใต้ และดยุคโซมที่ปกครองทางตะวันออก
ที่ดยุคทาราทอรัสพูดถึงคือดยุคโซม สมุหการคลังแห่งอาณาจักร เชื้อพระวงศ์สายตรงของราชวงศ์
ต่างจากตระกูลลาธาซกับทาราทอรัสที่เป็นดังตระกูลเขยแต่งเข้าราชวงศ์ ตระกูลโซมเป็นตระกูลสายเลือดราชวงศ์โดยตรงขององค์ราชาองค์ปัจจุบัน มีอาณาเขตในปกครองมากที่สุดในเหล่าดยุคสามตระกูล
สำหรับดยุคทาราทอรัสแล้ว เจ้าตัวเกรงกลัวดยุคลาธาซทางใต้ซะมากกว่า แต่ดยุคโซมเองก็ประมาทไม่ได้
"ให้เสริมกำลังที่ชายแดนทางตะวันออกซะ ส่วนทางใต้ให้จับตามองดูต่อไป!"
"ทราบแล้วครับ" ฟริตส์รับคำสั่งแล้วจะออกจากห้องไป แต่ว่า
"เดี๋ยว! ก่อนไป แกไปตามสติกซ์มาด้วย! บอกไปว่าข้าจะให้โอกาสมัน.....เป็นครั้งสุดท้าย" ดยุคทาราทอรัสพูดกับฟริตส์อีกครั้ง ขุนนางหนุ่มก้มหัวให้แล้วปิดประตูห้องลง ดยุคมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างโกรธแค้น
"โดร่า แรกตัส.......ข้าจะไม่ให้แกได้ตายดีแน่!"
. . . . . . . . . .
หลังจากชัยชนะที่ชไควร์ โดร่าก็กลับมายังนอร์เดนเบิร์กเพื่อจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นและสะสมมาตลอดเวลาที่ตนออกศึก แม้จะมีคณะรัฐมนตรีของรัฐและเหล่าข้าราชการคอยช่วยก็ตาม แต่ก็มีปัญหาบางอย่างที่ต้องให้โดร่าเป็นคนตัดสินใจเอง บนโต๊ะของชายหนุ่มจึงเต็มไปด้วยเอกสารจำนวนมาก
"ขออภัย" เยเซลเปิดประตูห้องเข้ามาและเห็นโดร่านอนเหลวคาโต๊ะอย่างหมดแรง เจ้าตัวถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
"ฝืนทำงานโต้รุ่งอีกแล้วเหรอครับ?" นายทหารหนุ่มพูดกับผู้นำของตนพลางเดินเข้ามา
"อา.......พวกผู้ช่วยก็ดันลาหยุดกันตอนนี้ซะอีก....." โดร่าที่แทบจะกลายร่างเป็นสไลม์พูดออกมาอย่างหมดแรง
"พักผ่อนก่อนเถอะครับ" เยเซลพูดขณะค่อยๆ อุ้มร่างของโดร่าออกจากเก้าอี้แล้วพาไปนอนที่โซฟา
"แล้วเรื่องงาน......"
"สุขภาพสำคัญกว่าครับ" เยเซลพูดออกมาอย่างเด็ดขาด
"นับวันนายยิ่งเหมือนแกงเกิลเข้าไปทุกทีนะเนี่ย...."
"ก็พ่อลูกกันนี่ครับ" เยเซลยิ้มให้โดร่า ก่อนจะกลับมาทำหน้าเครียด
"มีอะไรงั้นเหรอ?" โดร่าถามขณะปลดริบบิ้นที่ผูกผมออก ปล่อยให้ผมเปียเส้นใหญ่คลายตัวจนผมสีบลอนด์ยาวสยายเหมือนผมผู้หญิง
"มีโทรเลขมาจากแคว้นครีเมเรียครับ" เยเซลพูดพลางยื่นซองโทรเลขให้โดร่าอ่าน เนื้อหาในนั้นทำให้โดร่าถึงกับต้องลุกขึ้นนั่ง
"ทูตจากแคว้นเซาเทิร์นแลนด์?" โดร่าขมวดคิ้ว แคว้นเซาเทิร์นแลนด์เป็นแคว้นทางใต้สุดของอาณาจักรซิสทีเรียซึ่งอยู่ห่างจากแรกตัสไปมากโข และที่สำคัญแคว้นนี้อยู่นอกเหนือจากอำนาจของดยุคทาราทอรัส
"ก็หมายความว่า....."
"ครับ คาดว่าพวกนั้นเองก็เริ่มเคลื่อนไหวเหมือนกัน" คำพูดของเยเซลทำให้โดร่าทำหน้าเครียดขึ้นมาทันที
"ดยุคลาธาซ....."
. . . . . . . . . .
การที่คณะทูตจากแคว้นทางใต้สุดดั้นด้นมาถึงแคว้นทางเหนือสุดแบบนี้ สันนิฐานได้เพียงไม่กี่อย่าง นั่นคือดยุคลาธาซเริ่มมีการเคลื่อนไหวแล้ว คณะทูตจากแคว้นชายแดนทางใต้เดินทางมายังแคว้นครีเมเรียด้วยรถม้า
ขบวนรถม้านี้ดูเรียบง่าย เหล่าทหารที่คุ้มกันขบวนก็ไม่ได้แต่งตัวดูดีมากนัก พวกเขาสวมเกราะโซ่และสวมเกราะแผ่นทับอีกที ท่าทางเหมือนทหารรับจ้างมากกว่า ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะขุนนางผู้นำขบวนนี้สั่งไม่ให้พวกเขาทำตัวเอิกเกริกเกินไป และตอนนี้คณะทูตก็หยุดพักอยู่ที่เมืองชเต็นดาล เมืองหลวงของแคว้นครีเมเรีย
"ขออภัยครับ" นายทหารร่างบึกบึนท่าทางป่าเถื่อนคนหนึ่งเปิดประตูรถม้าออกแล้วก้มหัวให้กับคนที่นั่งอยู่ด้านใน ภายในนั้นมีคนนั่งอยู่สามคน เป็นผู้ชายทั้งหมด โดยสองคนที่นั่งริมซ้ายขวาเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาจิ้มลิ้มในเสื้อผ้าน้อยชิ้น เหมือนชุดนางรำก็ไม่ปาน คอยปรนนิบัติชายหนุ่มคนตรงกลางซึ่งสวมเสื้อผ้าที่ทั้งดูหรูหราและเรียบง่ายในเวลาเดียวกัน ใบหน้าของเขาจัดได้ว่าเป็นบุรุษรูปงามทีเดียว ผมสีชายาวมัดหางม้าต่ำดูท่าทางเป็นคนฉลาดหลักแหลม กำลังนั่งไขว่ห้างอย่างสบายอารมณ์โดยในมือขวาถือแก้วไวน์ที่กำลังถูกเติมเต็ม ส่วนมือซ้ายถือโซ่คล้องปลอกคอของเด็กหนุ่มทั้งสองเอาไว้ เด็กหนุ่มรูปงามทั้งสองคือทาสนั่นเอง
"มีอะไรงั้นเหรอ? ท่านนายกอง" ชายหนุ่มคนนั้นหันไปถามนายกองอย่างสบายอารมณ์ในขณะที่นายกองคนนั้นทำหน้าไม่รับแขก ยังไงเขาก็ทำใจให้ชินไปกับรสนิยมของขุนนางหนุ่มคนนี้ไม่ได้สักที
"ทางนั้นตอบรับข้อความของเราแล้วครับ....." นายกองคนนั้นรีบรายงานราวกับต้องการจะเบือนหน้าหนีจากภาพตรงหน้า ขุนนางหนุ่มคนนั้นหัวเราะเบาๆ ก่อนจะไล่นายกองคนนั้นออกไปแล้วกลับเข้าสู่ความสำราญของตนต่อ
"โดร่า แรกตัส......" ชายคนนั้นพูดชื่อของโดร่าออกมาเบาๆ พลางนึกภาพของอีกฝ่ายในหัว
"จะงดงามจริงๆ อย่างที่เขาร่ำลือกันรึเปล่านะ....?" และแสยะยิ้มออกมาจนทาสหนุ่มน้อยที่อยู่เคียงข้างถึงกับเสียวสันหลัง
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น