ลำดับตอนที่ #20
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : อินทรีย์ผงาด : ยุทธการนองเลือด
"นั่นมันอะไรกัน!!?" กองทัพซิสทีเรียเกิดความสับสนขึ้นอย่างฉับพลันเพราะการโจมตีที่ไม่คาดฝัน ทำให้การโจมตีเมืองเลอเบิร์กหยุดชะงัก
"รายงาน!! จู่ๆ ก็มีกองทัพข้าศึกปรากฏตัวที่ทิศใต้ห่างจากกองทัพเราไปราวๆ 10 กิโลเมตรได้ครับ!!"
"เป็นไปไม่ได้!!??" เหล่าแม่ทัพซิสทีเรียพากันหัวหมุน เพราะพวกเขาคาดการว่าทัพใหญ่ของแรกตัสที่กำลังทำสงครามอยู่กับแคว้นฮอลเลนเซียและครีเมเรียทางใต้น่าจะใช้เวลาอย่างน้อยสองถึงสามวันกว่าจะมาถึงที่นี่ได้ และระยะทางของทั้งสองทัพเองก็ไกลเกินกว่าปืนใหญ่ของฝั่งซิสทีเรียจะยิงถึงอย่างมาก
"หยุดการตีเมืองเอาไว้ก่อน! แล้วส่งอัศวินไวเวิร์นไปจัดการทางนั้นซะ!!" ไซอันออกคำสั่งอย่างร้อนรน
"แต่ท่านครับ...! ถ้าเราละแนวรบตอนนี้ล่ะก็ พวกมันในเมืองจะ...!"
"หุบปากแล้วทำตามที่ข้าสั่งซะ! ไม่งั้นพวกเราจะโดนโจมตีทั้งสองด้าน!!"
"ค.....ครับ!" แม่ทัพซิสทีเรียรับคำสั่งจากไซอันแล้วรีบกลับไปยังกองทัพของตนทันที ไม่ช้ากองทัพซิสทีเรียก็เปลี่ยนกระบวนทัพเพื่อรับมือกับศึกสองด้านอย่างรวดเร็ว
แต่ก็แค่ทัพส่วนที่ยังไม่บุกไปเท่านั้น กองทัพส่วนใหญ่โหมบุกใส่เมืองเลอเบิร์กไปต้องใช้เวลาพอสมควรในการถอนกำลังกลับมาและจัดแนวรบใหม่ และเป็นไปตามที่นายทหารบางส่วนของไซอันคาดเอาไว้ พอกองทัพซิสทีเรียถูกหันเหความสนใจ กองทัพในเมืองเลอเบิร์กก็เริ่มการโต้กลับทันที
"ไล่พวกมันกลับไป!! ทัพเสริมมาถึงแล้ว!!!" กองทัพแรกตัสประจำเมืองเลอเบิร์กที่อ่อนล้าและสิ้นหวัง ตอนนี้พวกเขากลับมามีขวัญกำลังใจเต็มเปี่ยม หลังจากจัดการกับทหารซิสทีเรียบนแนวกำแพงเมืองได้แล้ว พวกเขาก็เริ่มระดมยิงปืนและปืนใหญ่ใส่กองทัพซิสทีเรียที่กำลังล่นถอยทันที
ทางด้านกองทัพอากาศ เมื่อได้รับสัญญาณ กองอัศวินไวเวิร์นที่กำลังง่วนอยู่กับการปั่นป่วนแนวรบเมืองเลอเบิร์กก็ทำการถอนกำลังออกมาทันทีและจัดขบวนเพื่อโจมตีกองทัพแรกตัสที่บุกมาเสริมทันที
กองอัศวินไวเวิร์นที่บุกมาในตอนนี้มีเพียง 15 นายเท่านั้น เนื่องจากพวกเขาเป็นกองบินลาดตระเวนซึ่งขี่ไวเวิร์นสวมเกราะหนังสัตว์ที่มีน้ำหนักเบา ในขณะที่ไวเวิร์นที่เหลือเป็นไวเวิร์นสวมเกราะหนักซึ่งจำเป็นต้องหยุดพักระหว่างเที่ยวบิน แต่ต่อให้พวกเขามีจำนวนน้อยลง ความมั่นใจของพวกเขาก็ยังเต็มเปี่ยม
อัศวินไวเวิร์นนั้นคือจ้าวแห่งท้องฟ้าอย่างแท้จริงในโลกนี้ แม้การป้องกันจะลดลงเพราะไม่ใช่ไวเวิร์นสวมเกราะหนัก แต่ด้วยความเร็วในการบินถึง 150 กิโลเมตร/ชั่วโมง ต่อให้อีกฝ่ายมีหน้าไม้สำหรับยิงไวเวิร์นก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการยิงไวเวิร์นสักตัว
"หัวหน้า! พวกมันดูท่าทางแปลกๆ นะครับ!?" หนึ่งในลูกทีมในกองอัศวินไวเวิร์นทักหัวหน้ากองขึ้นเพราะเห็นการเคลื่อนไหวของกองทัพแรกตัสแปลกไปจากที่คิดเอาไว้มาก
"ไม่ต้องไปกลัวมัน! จากที่ดูแล้วพวกมันไม่มีหน้าไม้ยักษ์เลยสักอันเดียว! ให้ทั้งหมดโจมตีวนไปเรื่อยๆ! ใช้ความเร็วของพวกเราให้เป็นประโยชน์!!"
"แต่ว่า!! นั่น!!" อัศวินลูกทีมคนนั้นยังคงชี้ไปที่กลุ่มเกวียนของกองทัพแรกตัสที่เรียงกันเป็นแถว พอดูดีๆ บนเกวียนเหล่านั้นมีอะไรสักอย่างเหมือนปืนใหญ่ ติดเอาไว้
"คิดจะเอาปืนใหญ่ยิงเรางั้นเหรอ!? โง่ชัดๆ!! ของแบบนั้นน่ะไม่มีทางจัดการกับเป้าหมายบนฟ้า....."
เปรี้ยงๆๆๆๆ!!
หัวหน้ากองอัศวินไวเวิร์นยังไม่ทันจะพูดจบด้วยความขบขัน ปืนใหญ่บนเกวียนเหล่านั้นก็เล็งมาทางกองอัศวินไวเวิร์นแล้วระดมยิงใส่ทันที พอเห็นแบบนั้นเหล่าอัศวินไวเวิร์นก็พากันบินหลบกระสุนที่พุ่งเข้ามา
"ยิงถึงงั้นเหรอ!?" เหล่าอัศวินไวเวิร์นซิสทีเรียพากันตกใจเมื่อรู้ว่ากระสุนปืนใหญ่เหล่านั้นยิงมาถึงพวกตน แต่ความสับสนยังไม่จบ
โพล๊ะ!!
"โอ๊ย!!?" "อ๊ากก....!!!"
"บ้าน่า!!?" กระสุนที่ควรจะยิงพลาดเป้าไปกลับระเบิดกลางอากาศ ส่งสะเก็ดระเบิดใส่ไวเวิร์นและเหล่าอัศวินที่อยู่ในรัศมี อัศวินบางนายร่วงลงไปพร้อมกับไวเวิร์นที่ไม่อาจทรงตัวกลางอากาศได้อีก บางนายเผลอปล่อยมือจากสายบังเหียนจนถูกไวเวิร์นของตัวเองดีดตกจากอานและร่วงสู่พื้นเบื้องล่าง พอหัวหน้ากองหันกลับไป ก็พบว่าลูกทีมของเขาเหลือเพียงครึ่งนึงของจำนวนทั้งหมดทั้งที่ยังไม่ทันจะบินถึงระยะโจมตีของพวกตนด้วยซ้ำ
"บ้าชัดๆ....!" เขาสบถออกมาเมื่อเห็นลูกทีมที่ร่วมสู้ศึกกันมาจนถึงตอนนี้ร่วงลงทีละคนสองคน และทันทีที่ได้สติกลับมา เขาก็พบว่ากระสุนปืนใหญ่นัดนึงพุ่งตรงมาหาเขา ก่อนที่กระสุนนัดนั้นจะเจาะร่างของไวเวิร์นและตัวเขาเอง และฉีกร่างของเขากลางอากาศด้วยแรงระเบิด
. . . . . . . . . .
กองทัพแรกตัสจำนวน 10,000 นายของโดร่ามาถึงจุดหมายเมื่อเช้ามืด และเริ่มการเข้าตีตอนรุ่งสาง เพราะรถจักรไอน้ำทำให้การเดินทางเร็วขึ้นเป็นเท่าตัว และเพื่อแก้ปัญหาเรื่องความล่าช้าของพลเดินเท้า โดร่าสั่งจึงให้ทหารของตนยึดเกวียนและม้ามาจากกองทัพและชาวบ้านในพื้นที่ของแคว้นฮอลเลนเซียและครีเมเรียมาด้วยเป็นจำนวนมาก แล้วให้ใช้ม้าเหล่านั้นลากเกวียนบรรทุกทหารเดินเท้าไปตลอดทางเพื่อร่นเวลาเดินทาง
และเพราะรายงานเรื่องอัศวินไวเวิร์น โดร่าสั่งให้โรงงานอาวุธที่นอร์เดนเบิร์กพัฒนาอาวุธต่อต้านอากาศยานขึ้นมาอย่างเร่งด่วน จนได้เป็นปืนใหญ่ขนาด 20 มิลลิเมตรแบบบรรจุท้ายลำกล้องรุ่นใหม่
ปืนใหญ่เหล่านี้ถูกติดตั้งบนฐานยิงแบบพิเศษที่ออกแบบขึ้นมาให้ปรับทิศทางและมุมการยิงได้หลากหลาย และที่ฐานยังมีที่นั่งสำหรับพลเล็งปืนเอาไว้ให้ด้วย ปืนใหญ่เหล่านี้ใช้คนคุมปืนเพียง 2-3 คนเท่านั้น คือผู้การปืน(พลเล็ง) พลกระสุน และพลบรรจุและยิง รูปร่างของมันเหมือนปืนใหญ่ต่อต้านอากาศยานรุ่นแรกๆ ในศตวรรษที่ 18-19
นอกจากนี้กองทัพแรกตัสยังประสบความสำเร็จในการผลิตกระสุนปืนใหญ่แบบแตกอากาศขึ้นมา เพื่อเพิ่มความหวังผลในการยิงเป้าหมายที่อยู่บนฟ้ามากขึ้นจากสะเก็ดระเบิด
ตอนนี้หน่วยปืนต่อต้านอากาศยานกำลังระดมยิงใส่ฝูงไวเวิร์นของกองทัพราชอาณาจักรที่อยู่ห่างออกไปราวๆ 1 กิโลเมตร ในขณะที่ทหารราบลงจากเกวียนและจัดกระบวนทัพเพื่อเตรียมเข้าตี
"ให้ทหารราบทั้งหมดจัดแถวหน้ากระดาน!! แล้วเคลื่อนพลไปข้างหน้า!! ส่วนปืนใหญ่วิถีโค้งยิงชุดสุดท้าย!!" โดร่าตะโกนออกคำสั่งทันทีเมื่อเห็นว่าโอกาศที่จะเข้าตีมาถึงแล้ว ทหารแรกตัสจำนวนมากต่างเข้าแถวและจัดกระบวนทัพอย่างรวดเร็ว
"ไวเวิร์นมันหลุดเข้ามาได้สามตัว!!" เสียงของทหารปืนต่อต้านอากาศยานนานหนึ่งตะโกนไปยังแถวทหารราบ เนื่องจากปืนใหญ่เหล่านี้ถูกสร้างขึ้นอย่างเร่งรีบ มันจึงยังไม่ทนทานนัก และตอนนี้ปืนก็ร้อนเกินกว่าจะใช้ยิงต่อไปได้
"เตรียมพร้อม! ยิง!!" นายทหารในแถวรีบออกคำสั่งให้ทหารทั้งหมดเตรียมพร้อมและเล็งปืนไปที่ไวเวิร์นสามตัวนั้นทันที ก่อนที่ทหารราบแรกตัสจำนวนมากจะสาดกระสุนใส่ไวเวิร์นเหล่านั้นพร้อมกัน ไม่มีใครรู้ว่าไวเวิร์นเหล่านั้นโดนยิงไปกี่นัดและโดนใครยิง แต่ไวเวิร์นทั้งสามตัวร่วงลงจากฟ้าทันทีหลังจากโดนระดมยิง
"เดินหน้า!!" เมื่อจัดการกับศัตรูที่บุกเข้ามาหมดแล้ว ก็ถึงคราวที่กองทัพแรกตัสเป็นฝ่ายโจมตีบ้าง หลังจากปืนใหญ่ระดมยิงชุดสุดท้ายเสร็จ กองทัพแรกตัสก็เดินหน้าเข้าหากองทัพซิสทีเรียอย่างช้าๆ พร้อมกับเสียงคำรามพร้อมกันที่ดังลั่นไปทั่วทั้งบริเวณนั้นเพื่อข่มขวัญศัตรู
"ย..อย่าไปกลัวพวกมัน!! พวกเรามีมากกว่า! บุกได้!!"
"เฮฮฮฮฮ!!!!" เสียงร้องคำรามของกองทัพซิสทีเรียดังลั่นไม่แพ้กัน แม้จะถูกระดมยิงด้วยปืนใหญ่จนเสียทหารไปเป็นจำนวนมาก แต่จำนวนของพวกเขาก็ยังมากกว่ากองทัพแรกตัสอยู่ดี แต่เพราะความสับสนและรีบร้อน แทนที่จะจัดขบวนทัพแล้วเข้าตี กองทัพซิสทีเรียกลับกระจายตัวกันแล้ววิ่งเข้าใส่กองทัพแรกตัสไม่ต่างจากทหารเลวไร้วินัย
"ยิง!!!" เสียงปืนจากฝั่งแรกตัสดังระงม คราวนี้กองทัพแรกตัสให้ทหารแถวแรกสุดนอนยิง แถวที่สองนั่งยิง และแถวที่สามจึงจะยืนยิง เพื่อจะได้ยิงได้ทีละสามแถวในคราวเดียว
ทหารม้าเริ่มเปิดฉากบุกบ้างเมื่อเห็นว่าฝ่ายซิสทีเรียเริ่มส่งทหารม้าเข้าตีจากด้านข้าง สิ่งที่ทหารม้าซิสทีเรียต้องเจอคือกองพันฮุสซาร์เรียนของแรกตัส
. . . . . . . . . .
สองฝ่ายเข้าปะทะ ไซอันมองดูการต่อสู้ทั้งหมดที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นด้วยความขุ่นเคือง
"บัดซบ!! ไอ้ตุ๊ดนั่นอีกแล้วเหรอ!!" บุตรชายดยุคกระทืบเท้าอย่างหัวเสียที่โดร่าเข้ามาขัดขวางชัยชนะของตน
"รายงาน! ทัพหลักเรากำลังสูญเสียกำลังพลเป็นจำนวนมาก! และต้องการกำลังเสริมอย่างเร่งด่วน!!"
"สั่งให้ทหารของเราทั้งหมดถอยกลับมา!! เราจะรวมกำลังใหม่!!" ไซอันออกคำสั่งอย่างเดือดดาล
"ไม่ได้ครับ! กองทัพเรากระจายตัวมากเกินไป! คำสั่งไปไม่ถึงครับ!"
"บัดซบโว้ยยย!!!" ไซอันคำรามออกมาอย่างเดือดดาล ก่อนที่ทหารนายหนึ่งจะวิ่งเข้ามารายงานอย่างเร่งรีบ
"รายงาน! ทหารม้าข้าศึกกลุ่มหนึ่งกำลังฝ่าเข้ามาจากทางปีกซ้าย! พวกมันตรงมาทางนี้ครับ!!" คำรายงานนั้นทำให้ไซอันชะงัก ก่อนที่แม่ทัพข้างๆ ไซอันจะพูดออกมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ
"ท่านครับ...ผมว่าเราควรถอย...."
ฉัวะ!
แต่ไซอันกลับชักดาบออกมาฟันเข้าที่คอของอีกฝ่ายทันที
"ถอยเหรอ!? จะให้ข้าหนีไอ้ตุ๊ดกบฏบ้านนอกนั่นน่ะเหรอ!!?? ข้าเป็นถึงลูกชายของสมุหราชมลเฑียรเชียวนะ!!!" ไซอันในตอนนี้ถูกโทสะและความเดือดดาลเข้าครอบงำจนเอาอารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผลเรียบร้อย เจ้าตัวตะโกนลั่นต่อหน้าบรรดานายทหารที่กำลังตื่นกลัวกับอารมณ์ของไซอันที่กำลังเดือดได้ที่
"ข้าไม่ถอยหรืออะไรทั้งนั้น!! ข้าไม่กลัวไอ้ตุ๊ดนั่น......!"
"เอะอะอะไรน่ารำคาญอยู่ได้......ไอ้ลูกหมา" เสียงๆ หนึ่งเข้ามาขัดจังหวะการพูดของไซอันกระทันหัน พอเจ้าตัวมองกลับไปก็เห็นโดร่าขี่ม้าศึกสีขาวของตนกำลังมองมาด้วยแววตามุ่งร้ายอย่างรุนแรง
"เจอกันอีกแล้วนะ ไซอัน ทาราทอรัส" โดร่าพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบและเย็นเฉียบ ส่งจิตสังหารมายังไซอันจนอีกฝ่ายเผลอตกใจกลัวไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่จะตั้งสติได้แทบจะทันที
"แก...! เป็นแกจริงๆ สินะ! ไอ้กบฏ!! ฆ่ามัน! ฆ่าไอ้สารเลวโสโครกนั่นซะ!!" ไซอันที่กำลังคุ้มคลั่งหันไปสั่งทหารของตนอย่างเกรี้ยวกราด แต่ก็โดนปืนเล็กสั้นจากทหารม้าแรกตัสยิงตายทันทีที่เข้าใกล้โดร่า
"ก...แก! ถ้าแน่จริงแกก็ลงมาสู้กับข้าตัวต่อตัวสิวะ!! ไอ้ขี้ขลาด!"
"เออ ชั้นทำแน่!" โดร่ารับคำท้าแล้วลงจากหลังม้า และถือดาบเปื้อนเลือดของตนเดินเข้าหาไซอัน
"ไอ้โง่!" ไซอันแอบยิ้มเล็กน้อยแล้วหยิบปืนพกออกมาเล็งไปทางโดร่าทันที
ปัง!
"อ๊าก!?" แต่โดร่าไวกว่า ไซอันปล่อยปืนพกของตัวเองตกพื้นแล้วเอามือซ้ายกุมมือขวาที่เลือดไหลไม่หยุดอย่างเจ็บปวด
โดร่าเดินเข้าหาไซอันอย่างช้าๆ ทำให้โทสะของไซอันแปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัว ก่อนที่บุตรชายดยุคจะรีบวิ่งแทรกแถวทหารของตนไป
"หนีงั้นเหรอ!? คราวนี้ใครกันแน่ล่ะที่ขี้ขลาดน่ะ!!?" โดร่าตะโกนไล่หลังขณะบรรจุกระสุนนัดถัดไป แต่ไซอันไม่สนใจคำพูดสบประมาทนั้น พอเห็นว่าเป้าหมายกำลังหนีไป โดร่าก็สั่งให้ทหารของตนบุกเข้าไปทันที ก่อนจะปะทะกับทหารซิสทีเรียที่พยายามขัดขวางไม่ให้โดร่าตามไซอันไป
เมื่อแม่ทัพหนีจากสนามรบ ขวัญกำลังใจของกองทัพซิสทีเรียก็หดหาย แต่ทหารที่ขัดขวางพวกโดร่าอยู่นั้นเป็นทหารองค์รักษ์ชั้นดีที่ดยุคทาราทอรัสส่งมาคุ้มกันบุตรชายของตนโดยเฉพาะ ดังนั้นไม่ว่าจะกลัวแค่ไหน พวกเขาก็ไม่ละทิ้งหน้าที่
การต่อสู้แบบตะลุมบอนเกิดขึ้น ณ ตรงนั้น ระหว่างองค์รักษ์ของไซอันกับทหารม้าของโดร่า ท่ามกลางความโกลาหล โดร่าเห็นไซอันควบไวเวิร์นตัวหนึ่งหนีไปทางทิศตะวันออก
"โธ่เว้ย!!" ชายหนุ่มสบถอย่างหัวเสียที่เป้าหมายของตนหนีไปได้ โดร่าสาบานกับตัวเอง ว่าครั้งต่อไปจะไม่ยอมให้อีกฝ่ายรอดไปได้อีกแน่
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
จากคนเขียน - งานเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว ถ้าไม่ติดงานมากเวลาเขียนและอัพตอนน่าจะกลับมาเหมือนเดิม
ป.ล.ภาพประกอบรูปร่างของปืนต่อต้านอากาศยานที่กองทัพแรกตัสใช้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น