คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ปฐมกาลอินทรีย์ : บทนำ
กฏระเบียบเป็นของคู่กันกับสังคมมนุษย์ เมื่อมีสังคมก็ย่อมต้องมีกฏระเบียบ เรื่องนี้ถือเป็นสามัญสำนึกโดยทั่วไปของใครหลายๆ คน.....
ทั้งๆที่เป็นแบบนั้น...ทำไมถึงมีคนบางกลุ่มชอบทำลายกฏระเบียบของสังคมนั้นๆ กัน...? ชายหนุ่มไม่เข้าใจ
เสียงร้องอื้ออึงรอบตัวชวนหนวกหู สายตาที่พล่ามัว ร่างกายที่ไร้ซึ่งเรียวแรง และผู้คนจำนวนมากที่รายล้อม ชายหนุ่มกำลังทำความเข้าใจ
ย้อนกลับไปเมื่อไม่นานมานี้ ชายหนุ่มกำลังยืนอยู่ริมถนน รอสัญญาณไฟจราจรให้รถหยุดพลางนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาในวันนี้
"ขอร้องล่ะครับ....! จะอะไรก็ได้ทั้งนั้น..! ขอแค่...." เสียงร้องขอความเห็นใจอันน่าเวทนาของชายคนหนึ่ง ท่าทางของเขาช่างน่าเวทนาและน่าอดสู ก้มกราบลงกับพื้นจนหน้าจรดพื้น แทบไม่เหลือศักดิ์ศรีใดๆ
"ก่อเรื่องทะเลาะวิวาท...ทำร้ายร่างกาย...ขู่กรรโชกทรัพย์...นำชื่อสถาบันไปแอบอ้างให้เลื่อมเสีย.....แค่นี้ยังไม่พอสำหรับเหตุผลอีกหรือไง?" ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาพลางมองดูหนุ่มน้อยเบื้องล่างด้วยสายตาเหยียดหยามและวางเอกสารรายงานความผิดลงต่อหน้า
"ข..ขอร้องล่ะครับอาจารย์! อีกแค่ไม่กี่เดือนก็จะจบอยู่แล้ว! อย่างน้อยก็เห็นแก่อนาคตของผม...!!"
"แล้วอนาคตของคนอื่นที่เธอไปทำลายไม่มีชิ้นดีล่ะ? คนพวกนั้นไม่สำคัญเลยรึไง?" ชายหนุ่มที่ถูกหนุ่มน้อยคนนั้นเรียกว่า"อาจารย์"ยังคงพูดอย่างเย็นชาราวกับไม่สนใจท่าทางอันน่าสมเพชของลูกศิษย์ตรงหน้า
"แล้วนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอก่อเรื่องนะ...ตามจริงเธอต้องถูกดำเนินคดีแล้วด้วยซ้ำ...!" ใช่แล้ว...เรื่องที่พูดมานั้นถือเป็นความผิดร้ายแรง ที่ลูกศิษย์ของเขาคนนี้ยังมีโอกาสมาร้องขอความเห็นใจก็เพราะทางสถานศึกษาสงสารล้วนๆ จึงไม่แจ้งความใดๆ แต่กับคู่กรณีก็ไม่แน่ ชายหนุ่มไม่รู้จะพูดอะไรต่ออีกแล้วลุกจากเก้าอี้แล้วเดินออกไป
"ขอร้องล่ะอาจารย์!! ถ้าพ่อผมรู้ว่าผมจะโดนไล่ออกล่ะก็ท่านเล่นผมตายแน่!! ผมของร้องล่ะ เห็นแก่อนาคตของผม....!!" *ผลั่ก!!
"อนาคตเน่าๆ ของสวะที่ไม่ยอมอยู่ร่วมกฏกับคนอื่นน่ะไม่มีค่าพอให้สงสารหรอก...!" ชายหนุ่มสะบัดขาใส่ลูกศิษย์คนนั้นอย่างไม่ใยดีแล้วพ่นคำด่าใส่ด้วยน้ำเสียงกึ่งตะคอกโดยไม่สนใจต่อสายตาของคนรอบข้างที่มองมาทางเดียวกันแล้วมอง"สวะ"คนนั้นด้วยสายตาราวกับมองมดปลวกก็ไม่ปาน ทิ้งให้ชายหนุ่มนักศึกษาคนนั้นหมอบกับพื้นอย่างน่าสมเพช
สำหรับชายหนุ่มแล้ว กฏระเบียบคือทุกสิ่ง สังคมมนุษย์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันล้วนอยู่ร่วมกันได้ก็เพราะกฏ เหมือนฝูงสัตว์ที่ยังมีจ่าฝูงของพวกมัน ดังนั้นคนที่ตะแบงไม่ยอมทำตามกฏระเบียบที่คนหมู่มากปฏิบัติตามก็เป็นได้แค่พวกนอกคอก
สัญญาณไฟจราจรเป็นสีแดง รถทุกคนหยุดลงตรงเส้นถนน ก่อนที่ผู้คนจำนวนมากที่ยืนอออยู่บนทางเท้าจะเดินข้ามถนนตามทางม้าลาย
เสียงฝีเท้าที่ดังผิดปกติดังขึ้นและเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ชายหนุ่มที่กำลังเหม่อลอยถึงเรื่องต่างๆ ที่ตนเจอมาตลอดทั้งวันไม่ทันระวัง ก่อนจะหันไปเจอกับใครบางคนที่วิ่งแหวกฝูงชนเข้ามา
ฉึก..!
"!!?" ชายหนุ่มตะลึง เสี้ยววินาทีที่ถูกอะไรบางอย่างแทงเข้าที่หน้าอก ความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่ร่างกาย และล้มลง เขาเห็นอดีตลูกศิษย์ของตนเป็นคนถือมีดเล่มนั้น พลางมองมาที่ตนด้วยสายตาอาฆาตแค้น
"ทำไม....?" ชายหนุ่มถามออกมา ถามถึงโชคชะตาและตรรกกะของโลกใบนี้ที่ตนเชื่อมั่น ก่อนที่เสียงกรีดร้องจะดังระงมไปทั่ว สติของชายหนุ่มค่อยๆ เลือนลางลงทุกวินาที
"ก็เพราะโลกใบนี้น่ะมันบิดเบี้ยวยังไงล่ะ..."
"?" เสียงๆ หนึ่งดังก้องในหัวของชายหนุ่มอย่างชัดเจน เสียงนั้นแหลมเล็กเหมือนเสียงผู้หญิง
"เพราะโลกใบนี้น่ะมันบิดเบี้ยว มนุษย์ก็เลยสร้างกฏและตรรกกะขึ้นมาเพื่อขจัดความบิดเบี้ยวนั้น...." เสียงนั้นยังคงก้อง
"แต่ลำพังสิ่งเหล่านั้นมันไม่มากพอที่จะขจัดความบิดเบี้ยวที่ว่านั้น...."
"เพราะแบบนั้นเราถึงต้องพยายามขจัดความบิดเบี้ยวนั้นไม่ใช่รึไง?" ชายหนุ่มโต้ตอบเสียงปริศนานั้น น่าแปลกที่ตนสามารถพูดออกมาได้โดยไม่ติดขัดใดๆ ทั้งๆ ที่หน้าอกถูกแทง
"แต่เจ้าเพียงลำพังนั้นมันไร้พลัง เจ้าเปลี่ยนมันไม่ได้..." เสียงนั้นตอบกลับมาอย่างตรงไปตรงมา
"ไร้พลัง.....?" ชายหนุ่มอ้ำอึ้ง พลางนึกถึงเรื่องๆ ต่างที่ผ่านมา ทั้งเรื่องที่ตนปฏิเสธคำขอร้องของอดีตลูกศิษย์นอกคอกคนนั้นอย่างไร้เยื่อใย หรือที่ผ่านๆ มา ทั้งที่ตนทำในสิ่งที่น่าจะถูกต้อง ทั้งๆ ที่ตนทำไปเพื่อให้กฏยังเป็นกฏ แต่บางครั้งตนกลับถูกต่อว่า ว่าเป็นฝ่ายผิด บ่อยครั้งที่ถูกมองด้วยสายตารังเกียจ หรือกระทั่งถูกเรียกว่า"คนไร้หัวใจ" ชายหนุ่มเริ่มนึกขึ้นได้ว่า....โลกใบนี้มันบิดเบี้ยว
"เข้าใจแล้วใช่มั้ย? สุดท้ายแล้วมนุษย์ก็เห็นแก่ตัว แม้จะบอกนักหนาว่าทำตามกฏ แต่สุดท้ายก็เอาผลประโยชน์ตัวเองเป็นที่ตั้ง..." เสียงปริศนานั้นกล่าว
"แต่ถ้าเจ้าคิดว่าโลกของเจ้ามันบิดเบี้ยวแล้วล่ะก็ เจ้าคิดผิด....ในจักรวาลนี้น่ะยังมีโลกอีกหลายใบที่บิดเบี้ยวไม่ต่างกัน หรือยิ่งกว่านี้อยู่มากมาย...เจ้าอยากจะลองเปลี่ยนมันดูมั้ยล่ะ?" เสียงนั้นกลับมาถามชายหนุ่ม
"ลองเปลี่ยน...?"
"ใช่....เรามอบโอกาสนั้นให้เจ้าได้ ขอแค่เจ้าตอบรับ...."
"........ตกลง..." ชายหนุ่มตอบรับ ถึงยังไงก็ไม่มีอะไรให้เสียอีกแล้ว ชายหนุ่มคิด
"ถ้าเช่นนั้น....ขอให้โชคดีกับชีวิตใหม่นะ....เจ้ามนุษย์ผู้ยึดมั่นในกฏเกณฑ์...." เสียงปริศนาเงียบลง เช่นเดียวกับสายตาของชายหนุ่มที่มืดบอด...
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
ท่ามกลางบรรยากาศอันหนักอึ้งและกดดัน หญิงสาวคนหนึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าที่อ่อนล้า เธอจับที่ราวกั้นที่พาดระหว่างเตียงเหนือตัวเธอ
"ออกแรงอีกนิดค่ะ! คุณหญิง!" เสียงของหมอตำแยเร่งเร้าให้เธอเค้นแรงที่มีออกมา ในขณะที่สาวใช้คนอื่นๆ คอยช่วยหมอตำแยและดูแลหญิงสาวไม่ห่าง
"อีกนิดเดียวค่ะ! อีกแค่นิดเดียว!!" หมอตำแยเร่งเร้าอีกนิดในขณะที่เธอกำลังทำคลอดให้หญิงสาว จนกระทั่งช่วงเวลาแห่งความกดดันผ่านพ้นไป เสียงร้องอ้อแอ้ไม่ได้ศัพท์ก็ดังขึ้นเบาๆ ท่ามกลางรอยยิ้มปริติยินดีของเหล่าสาวใช้
"เสียงนั่น!? สำเร็จมั้ย...สำเร็จแล้วใช่มั้ย!!?" ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องด้วยอาการร้อนรน เขามีผมสีน้ำตาลอ่อน รูปร่างสูงสง่างาม มีแววตาสีฟ้าครามที่งดงามและไว้หนวดเคราพองาม
"สำเร็จแล้วค่ะนายท่าน! ยินดีด้วยค่ะ! เป็นเด็กผู้ชายแข็งแรงดีค่ะ!!" สาวใช้กล่าวกับชายหนุ่มขณะที่หมอตำแยกำลังล้างตัวเด็กแล้วห่อด้วยผ้าอย่างทนุถนอม ก่อนที่เธอจะยื่นเด็กคนนั้นให้ชายหนุ่มรับ
"โอ.....ลูกชายล่ะ ซินเดล ดูสิ! ลูกชายของเรา!!" ชายหนุ่มหันไปพูดกับภรรยาที่นอนหมดแรงอยู่บนเตียง ใบหน้าของเธอปรากฏรอยยิ้มแห่งความปิติยินดี
"แล้ว.....ตกลงว่ายังไงล่ะ.....ชื่อของเด็ก..คนนั้น......?" หญิงสาวเอ่ยถามสามี
"แน่นอนว่าข้าคิดไว้แล้ว....ชื่อของเด็กคนนี้.....คือ โดร่า!" ชายหนุ่มชูลูกน้อยในมือขึ้นอย่างภาคภูมิใจ ท่ามกลางเหล่าสาวใช้และภรรยา
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
จากคนเขียน - เปิดตัวตอนแรกของโปรเจ็คนิยายเรื่องใหม่...
ความคิดเห็น