ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Krieg und Sieg

    ลำดับตอนที่ #8 : ปฐมกาลอินทรีย์ : ช่องแคบครีเมรัส

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ย. 63


              ท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่นกลางฤดูใบไม้ร่วง มีเมฆบ้างประปรายแต่โดยรวมถือว่าอากาศดี กองทัพพันธมิตรครีเมเรีย-ทาราทอรัสเริ่มกรีฑาทัพอย่างเอิกเกริก ด้วยจำนวนรวมกันถึง 18,000 นาย ทำให้ขบวนทัพดูใหญ่โตราวกับอสรพิษก็ไม่ปาน โดยไซอันให้กองทัพครีเมเรียเป็นทัพหน้าในการบุกโจมตี ในขณะที่กองทัพส่วนอื่นๆ ของตนอยู่เป็นทัพกลางและทัพหลัง

    ไซอันมองดูกองทัพครีเมเรียจากทัพกลาง เขารู้สึกไม่ค่อยพอใจนักเนื่องจากกองทัพครีเมเรียเดินทัพชักช้าและไร้วินัย

    "(จะห่วยแตกก็ให้มันมีขอบเขตหน่อยเถอะ!)" ชายหนุ่มคิดในใจ ป่านนี้แล้วกองทัพแรกตัสคงกำลังเตรียมการป้องกันอยู่แน่ๆ

    อันที่จริงไซอันวางแผนจะใช้กองทัพครีเมเรียเป็นทัพหน้าเข้าบดขยี้กองทัพแรกตัสตรงๆ แล้วให้กองทัพของตนเข้าเก็บเกี่ยวผลประโยชน์โดยที่แทบไม่ต้องลงแรงใดๆ แต่ดูท่าว่าแผนนั้นคงใช้ไม่ได้ซะแล้ว เพราะกองทัพแรกตัสยังไงก็เป็นกองทัพชายแดนที่มีทั้งระเบียบวินัยและประสบการณ์สูง การเอากองทัพไร้ประสิทธิภาพของแคว้นครีเมเรียไปสู้ก็ไม่ต่างอะไรจากเอาใข่ไปทุบหิน

    "มีอะไรกัน? ทำไมถึงหยุดทัพล่ะ?" ไซอันสังเกตุเห็นว่ากองทัพเริ่มหยุดเดินทัพ เขาหันไปถามนายทหารข้างกายทันที

    "มีรายงานมาว่าพบช่องเขาในเส้นทางเดินทัพครับ" นายทหารคนนั้นรับรายงานจากทหารส่งข่าวแล้วรายงานไซอันทันที

    "ช่องเขา?"

    "ครับ เห็นว่าคนท้องถิ่นเรียกที่นี่ว่า ช่องเขาครีเมรัสครับ"

    ช่องเขาครีเมรัส มาจากการนำชื่อของแคว้นครีเมเรียกับแรกตัสมาเรียกรวมๆ กัน ฟังดูเหมือนไม่รู้จะตั้งชื่อว่าอะไรดีก็เลยเรียกรวมๆ กันซะเลยยังไงยังงั้น ช่องเขานี้เป็นดังประตูสู่แคว้นแรกตัสของครีเมเรีย

    "ให้กองทัพครีเมเรียนำไปละกัน!"

    "ครับ!" ทหารนายนั้นรับคำสั่งจากไซอันแล้วแจ้งกลับไปยังทหารส่งข่าวเพื่อส่งคำสั่ง ไซอันไม่คิดที่จะเอาทหารชั้นยอดของตนไปเสี่ยงโดยใช่เหตุ ดังนั้นใช้ทัพกระจอกงอกง่อยของครีเมเรียนี่แหละเหมาะที่สุด

    "ท่านครับ! มีคำสั่งจากท่านไซอัน ทาราทอรัสว่าให้เรานำไปก่อนครับ!" ทหารส่งข่าวของครีเมเรียรายงานบุตรชายเคานท์

    ".....เดินทัพต่อได้!" บุตรชายเคานท์ออกคำสั่งให้เดินทัพต่อโดยไม่คิดที่จะส่งทหารไปดูลาดเลา

    "นายท่าน! แบบนี้มันเสี่ยงเกินไปนะครับ! ช่องเขาแบบนี้มีโอกาสสูงที่พวกแรกตัสจะซุ่มโจมตี...." แม่ทัพครีเมเรียทักท้วงทันที ในหมู่กองทัพชั้นเลวของครีเมเรียแล้ว เขาคือทหารเพียงคนเดียวที่มีประสบการณ์จริงๆ

    "ก็ช่างปะไร! ก็แค่พวกบ้านนอกน่ะไม่มีอะไรต้องกลัวหรอก!" บุตรชายเคานท์พูดตัดบทใส่แม่ทัพของตนอย่างไม่แยแส

    "แต่ว่า...."

    "ข้าบอกให้ไปก็ไปสิ! ไอ้พวกขี้ขลาด! ถ้ากลัวนักก็ไปบอกกับท่านไซอันโน่น!!" บุตรชายเคานท์ออกคำสั่งแม่ทัพของตนในขณะที่ตนอยู่แนวหลังสุด แม่ทัพคนนั้นได้แต่จิ๊ปากไม่พอใจเงียบๆ ถ้าไม่ติดว่าตนได้รับคำสั่งมาจากเคานท์ล่ะก็ คนอย่างเขาคงไม่มารับคำสั่งเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมแบบนี้แน่

    กองทัพครีเมเรียเดินทัพเข้าไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ จะขัดขืนก็ไม่ได้ พื้นที่ที่เหมาะแก่การซุ่มโจมตีแบบนี้ทำให้บรรดาแม่ทัพและทหารพากันหวาดระแวง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีการซุ่มโจมตีอย่างที่กลัวเอาไว้แต่อย่างใด

    "เห็นมั้ย!? ก็แค่พวกบ้านนอกมันจะทำอะไรได้!!" บุตรชายเคานท์ที่มาทีหลังหลังจากรู้แน่ชัดแล้วว่าปลอดภัยพูดขึ้นอย่างย่ามใจ

    "ไปแจ้งทัพกลางซะว่าที่นี่ไม่มีอะไร!" บุตรชายเคานท์หันไปบอกทหารส่งข่าว

    "ครับ!"

    "แต่แบบนี้มันไม่ถูกนะครับ....ข้าศึกมันนิ่งเงียบเกินไป..." แม่ทัพคนนั้นยังคงระแวง เขารู้สึกเสียวสันหลังแปลกๆมาตั้งแต่ผ่านช่องเขาแล้ว

    "แกมันก็ดีแต่กลัวอยู่ได้! ก็แค่พวกบ้านนอกป่าเถื่อนอย่างแคว้นแรกตัสน่ะไม่มีทาง.....!!" ขณะที่บุตรชายเคานท์หันไปพูดดูถูกแม่ทัพของตน บางสิ่งบางอย่างก็ลอยมาทางพวกเขา

    ตูม!!

    "ปืนใหญ่!!" แม่ทัพครีเมเรียรู้ทันทีว่าเป็นประสุนปืนใหญ่ มันยิงใส่กองทัพครีเมเรียอย่างแม่นยำ ท่ามกลางความโกลาหลที่เกิดขึ้นกระทันหัน แม่ทัพคนนั้นสังเกตุเห็นกองทัพแรกตัสห่างออกไป

    "บ้าชัดๆ.....ทั้งที่อยู่ไกลขนาดนั้นแท้ๆ...."

    "มัวอึ้งอะไรอยู่วะ!? หาทางทำอะไรเข้าเร็วสิ!!!" บุตรชายเคานท์ตวาดใส่แม่ทัพของตนอย่างตื่นกลัว

    "สั่งให้ทหารกระจายตัวออกจากช่องเขา!! เดี๋ยวนี้!!" แม่ทัพคนนั้นออกคำสั่งอย่างรวดเร็วเพราะรู้ดีว่าการกระจุกอยู่ที่ปากช่องเขาแบบนี้มีแต่เป็นเป้าเด่น แต่มันไม่ง่ายอย่างที่สั่ง เพราะช่องเขาที่คับแคบ ทำให้เส้นทางเดินทัพและพื้นที่ถูกจำกัด และเพราะทหารในกองทัพครีเมเรียมีแต่ชาวบ้านถูกเกณฑ์มารบ พวกเขาจึงไม่ได้ถูกฝึกให้รับมือกับสถานการณ์ตรงหน้า พวกเขากรีดร้อง ผลักไสใส่กัน พยายามถอยทัพกลับและเบียดเสียดกับเพื่อนทหารที่อยู่ข้างหลังอย่างน่าสังเวช ส่วนบุตรชายเคานท์ที่ควรจะเป็นผู้นำทัพก็หวังพึ่งอะไรไม่ได้

    "ไอ้พวกนั้น! เป็นแค่พวกบ้านนอกแท้ๆ อย่ามาดูถูกกันนะโว้ย!! บุกเข้าไป!! ฆ่าพวกมันให้หมด!!" บุตรชายเคานท์ที่หวาดกลัวอยู่เริ่มระเบิดโทสะออกมา ไม่ว่าจะเพื่อกลบเกลื่อนความขลาดเขลาของตัวเองหรืออะไรก็แล้วแต่ เมื่อมีคำสั่งมาจากผู้นำทัพ เหล่ากองทัพครีเมเรียก็แตกฮือเหมือนฝูงผึ้ง และพุ่งเข้าใส่กองทัพแรกตัสที่อยู่ห่างออกไปทันที

    จะถอยก็ไม่ได้ อยู่เฉยก็มีแต่ตาย เมื่อเหล่าทหารชั้นเลวของแคว้นครีเมเรียถูกบีบให้จนตรอก พวกเขาก็เลือกที่จะไปตายเอาดาบหน้าเหมือนสุนัขจนตรอก

    . . . . . . . . . .

              ทางด้านกองทัพแคว้นแรกตัสนั้นได้ทำการตั้งแนวรบเตรียมเอาไว้ตั้งแต่รุ่งสางแล้ว ต้องขอบคุณความล่าช้าของกองทัพครีเมเรียที่ทำให้พวกเขามีเวลาเตรียมตัวมากขึ้น พวกเขาจึงสามารถขุดแนวสนามเพลาะและบังเกอร์จนเสร็จทันเวลา

    "รายงาน! ข้าศึกปรากฏขึ้นที่ช่องเขาแล้ว!" ทหารแรกตัสนายหนึ่งตะโกนจากแนวหน้า

    "รอให้พวกมันเข้ามามากกว่านี้ก่อน!" โดร่าตะโกนกลับไปอย่างใจเย็น ปืนใหญ่เหล็กหล่อจากแคว้นแรกตัสจำนวนมากที่ปรับศูนย์เล็งเรียบร้อยแล้วตั้งนิ่งรอคำสั่ง จนกระทั่งกองทัพครีเมเรียส่วนใหญ่ออกมาจากช่องเขาจนเกือบหมดแล้ว โดร่าก็ส่งสัญญาณโจมตีทันที

    "ยิงได้!!"

    "ยิง!!" นายทหารปืนใหญ่ตะโกนใส่ทหารของตนทันทีที่ได้รับสัญญาณ ปืนใหญ่หลายสิบกระบอกคำรามลั่นและส่งกระสุนปืนใหญ่ไปทางช่องเขาทันทีจากระยะห่างถึง 3 กิโลเมตร

    "ระดมยิงต่อไปอย่าหยุด!" โดร่าออกคำสั่งต่อเนื่อง ปืนใหญ่ยังคงระดมยิงไปยังเป้าหมาย จนกองทัพครีเมเรียเริ่มกระจายตัวออกและมุ่งมาทางทัพแรกตัส

    "ข้าศึกกระจายตัวบุกมาแล้วครับ!"

    "สั่งทหารม้าฮุสซาเรี่ยนเข้าโอบล้อม!! เยเซลบุกไปทางปีกซ้าย! ส่วนแกงเกิลบุกไปทางปีกขวา! แล้วให้ทหารราบออกจากสนามเพลาะ!!"

    "บุกได้!!"

    "ฮูร่าาาา!!!!" เสียงคำรามของเหล่าทหารแรกตัสดังลั่นไปทั่วทั้งสมรภูมิพร้อมๆ กับที่กระสุนปืนใหญ่ชุดสุดท้ายถูกยิงออกไป พวกเขาดึงดาบปลายปืนออกมาสวมเข้ากับปากกระบอกปืนแล้วบุกออกมาจากสนามเพลาะเพื่อเรียงแถวเดิน ส่วนทหารม้าฮุสซาเรี่ยนที่นำโดยเยเซลและแกงเกิลสองพ่อลูกเข้าโอบโจมตีจากทั้งซ้ายขวา ต่อหน้าทหารที่ถูกฝึกมาอย่างดีแล้ว กองทัพครีเมเรียที่ไร้การฝึกฝนและระเบียบวินัยก็ไร้ทางสู้ ทหารครีเมเรียถูกระดมยิงอย่างหนักจากกองทหารราบแรกตัส ในขณะที่ทหารม้าเข้าจัดการกับคนที่คิดจะหนีออกข้าง ไม่ช้ากองทัพครีเมเรียก็แตกพ่าย

    "นี่มันอะไรกันวะ!! สู้มันสิโว้ยไอ้พวกตาขาว!!" บุตรชายเคานท์ตะโกนสั่งทหารแตกทัพราวกับคนบ้า แต่ไม่ว่าจะตะโกนยังไงก็ไม่มีใครฟัง พวกเขาเอาแต่หนี คนที่หนีไม่ทันก็กลายเป็นเป้าซ้อมยิงให้ทหารแรกตัส จนกระทั่งบุตรชายเคานท์ดึงดาบเล่มยาวที่ไม่เหมาะกับตัวออกมาแล้วเหวี่ยงใส่ทหารของตน

    "ข้าบอกให้กลับไปสู้สิโว้ย! ไอ้พวกไม่ได้เรื่อง!"

    "นายท่านระวัง!!" แม่ทัพครีเมเรียตะโกนลั่นทันทีที่เห็นทหารม้าแรกตัสนายหนึ่งพุ่งเข้ามาพร้อมกับทวนในมือ ใบหน้าของทหารนายนั้นเต็มไปด้วยหนวดเคราที่เริ่มหงอก บ่งบอกว่าเป็นทหารสูงวัย

    "ตายซะตาแก่!" แม่ทัพคนนั้นยกทวนขึ้นแล้วขี่ม้าเข้าปะทะ ก่อนจะโดนทวนของอีกฝ่ายแทงเข้าที่ยอดอกอย่างจังแล้วถูกเหวี่ยงตกจากหลังม้า

    "แกสิตาย..." แกงเกิลพูดกับแม่ทัพข้าศึกคนนั้นขณะปล่อยมือจากทวนแล้วดึงดาบออกมาสู้แทน

    เมื่อเห็นแม่ทัพของตนตายลงต่อหน้า บุตรชายเคานท์ก็ไม่เหลือความกล้าที่จะสู้อีกต่อไป เขาเริ่มหันหลังแล้วควบม้าหนี แต่ความลนลานนั้นทำให้เขาถือสายบังเหียนไม่แน่นจนทำให้ม้าพยศและดีดเขาตกจากหลังม้าทันที

    "อ้าก!" ขุนนางหนุ่มร่างอ้วนกลิ้งหลุนๆ เหมือนลูกบอลและร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวด เขาลุกขึ้นมาแล้วหันไปเห็นทหารม้าแรกตัสจำนวนมากกำลังพุ่งตรงเข้ามา ความขี้ขลาดทำให้เขาถึงกับปัสสาวะราด

    "ย..อย่า! ข้าคือบุตรชายแห่งเคานท์ครีเมเรีย! ข้าขอยอม....!"

    ปัง!!

    ยังไม่ทันจะพูดจบ กระสุนจากปืนพกทหารม้าพุ่งเจาะร่างของเขาเข้าที่หน้าอกอย่างแม่นยำ ก่อนที่ทหารม้าอีกนายที่เข้าประชิดจะใช้ดาบในมือฟันจนหัวของขุนนางหนุ่มอ้วนหลุดกระเด็นจากบ่า

    "นั่นมันหมายความว่ายังไงกัน!!?" ณ กองทัพทาราทอรัสที่ยังไม่ทันจะเดินทัพเข้าสู่ช่องเขา ไซอันถึงกับแผดเสียงเมื่อได้ยินว่ากองทัพครีเมเรียถูกโจมตีจนแตกพ่ายภายในเวลาเพียงไม่นาน

    "ข้าศึกตั้งทัพดักรออยู่ที่ปากช่องเขาแล้วใช้ปืนใหญ่ระดมยิงอย่างหนัก ตอนนี้กองทัพครีเมเรียพ่ายแพ้เรียบร้อยแล้วครับ!"

    "บัดซบ!! ข้านึกเอาไว้ไม่ผิด!" ไซอันสบถอย่างหัวเสีย

    "ท่านครับ เอายังไงต่อดีครับ!? ข้าศึกกำลังฮึกเหิมแบบนี้ ถ้าเราตั้งรับล่ะก็ก็พอมีหนทาง....!"

    "ไม่! ถอนกำลัง!" ไซอันออกคำสั่งทันที

    "แต่ว่า!?"

    "ตอนนี้ข้าศึกกำลังฮึกเหิม พวกเราที่เพิ่งเสียทัพหน้าไปคงไม่เป็นผลดีแน่ที่จะสู้กับพวกมันตอนนี้ อีกอย่างถ้าเราบุกเข้าช่องเขาไปล่ะก็พวกเราเสียหายหนักแน่! ถอยทัพ!!"

    "ทราบแล้วครับ! ถอยทัพ!!" แม่ทัพของไซอันออกคำสั่งถอยทัพแล้วถอนกำลังรบทันที ส่วนกองทัพแรกตัสเองก็ไม่ไล่ตามออกมาจากช่องเขา

    "โดร่า แรกตัส…!!" ไซอันหันกลับไปกัดฟันพูดอย่างเจ็บแค้นพลางนึกถึงใบหน้าของคนที่เคยลงมือกับตนในวัยเด็ก

    "ครั้งนี้ข้าไม่ได้แพ้แกหรอกนะ!" ไซอันพูดย้ำซ้ำไปซ้ำมา ใช่แล้ว ตนไม่ได้แพ้ กองทัพจากเมืองหลวงก็ยังอยู่ครบ ถ้าไม่ติดว่ากองทัพครีเมเรียห่วยแตกล่ะก็...บุตรชายดยุคคิดแบบนั้นขณะควบม้ากลับไปยิงทิศที่ตนจากมา

    . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

    จากคนเขียน - ตอนนี้ยาวหน่อย รอบนี้สองตอนติดๆ ไปเลย!(ไอเดียแล่น)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×