ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ปฐมกาลอินทรีย์ : ยุทธการครีเมเรีย
ศักราชสากลที่ 1887 ราชอาณาจักรซิสทีเรีย ดินแดนภาคเหนือของอาณาจักร หลังจากกรณีข้อขัดแย้งระหว่างแคว้นครีเมเรียกับแคว้นแรกตัสเรื่องสัมปทานเหมืองแร่ กองทัพแคว้นครีเมเรียจำนวน 8,000 นายเดินทัพเข้าประชิดชายแดนแคว้นแรกตัสทันทีที่แคว้นแรกตัสปฏิเสธคำขอในสิทธิ์สัมปทาน
กองทัพครีเมเรียจำนวน 8,000 นั้นเป็นทหารราบทั้งหมด เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ของแคว้นเป็นภูเขา นอกจากนั้นพวกเขามีปืนใหญ่สำริดราวๆ 10 กว่ากระบอก เมื่อเทียบกับแคว้นแรกตัสที่เป็นแคว้นอุตสาหกรรมแล้วถือว่าน้อยกว่ามาก
สาเหตุจริงๆ ที่เคานท์ครีเมเรียก่อสงครามกับแคว้นแรกตัสก็เพราะเศรษฐกิจภายในแคว้นที่นับวันยิ่งเลวร้าย เพราะพื้นที่เกษตรกรรมมีน้อย อีกทั้งแคว้นยังเต็มไปด้วยภูเขา ไม่สะดวกอย่างยิ่งสำหรับการคมนาคม ทำให้การค้าขายฝืดเคืองเพราะไม่ค่อยมีพ่อค้า ประชาชนส่วนใหญ่จึงไม่มีงานทำ เมื่อไม่มีงานก็ไม่มีเงินภาษี ประกอบกับที่ขณะนั้นดยุคทาราทอรัสเสนอการสนับสนุน ยิ่งขุนนางส่วนใหญ่ในแคว้นกับบุตรชายของเคานท์ฝักใฝ่ไปทางดยุคแล้ว เคานท์ครีเมเรียจึงตอบรับข้อเสนอทันที
ที่ชายแดนแคว้นครีเมเรียกับแรกตัส กองทัพของดยุคทาราทอรัสจำนวน 10,000 นาย ซึ่งนำโดยบุตรชายดยุค ไซอัน เดินทัพมาถึงเป็นที่เรียบร้อย
ไซอันและบรรดาแม่ทัพฝ่ายดยุคพากันมองดูทหารครีเมเรียด้วยสีหน้าสมเพช เพราะระเบียบวินัยของพวกเขาหย่อนยานมาก ยังไม่ทันหมดวันก็เห็นทหารตั้งวงดื่มเหล้ากันแล้ว แม้ว่าส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะพวกเขาส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านถูกเกณฑ์มารบ แต่หย่อนยานมากขนาดนี้ก็เกินไป ชายหนุ่มมองอย่างหัวเสียก่อนจะหันไปเห็นบุตรชายเคานท์ลิ่วล้อของตนยืนรอต้อนรับอยู่ที่หน้ากระโจมใหญ่พร้อมกับบรรดานายทหารของแคว้น
"กำลังรออยู่เลยครับ ท่านไซอัน!" บุตรชายเคานท์ก้มหัวอย่างสุภาพนอบน้อม
"ยังไม่หมดวันก็จัดงานเลี้ยงซะแล้วเหรอ?" ไซอันถาม
"ครับ.....เพราะว่าได้ข่าวว่าพวกท่านกรุณาถึงขนาดนำกองทัพมาช่วยพวกเรารบกับแคว้นแรกตัส พวกเราก็เลยให้ทหารเลี้ยงฉลองกันน่ะครับ..." บุตรชายเคานท์ตอบ
"(ทำยังกับชนะแล้วยังงั้นแหละ...)" บรรดานายทหารของไซอันพากันคิดในใจ พวกเขาล้วนเป็นนายทหารจบใหม่จากโรงเรียนเตรียมทหารของเมืองหลวง ถ้าไม่นับนิสัยที่เย่อหยิ่งจองหองล่ะก็ พวกเขาถือว่าเป็นนายทหารชั้นยอดทั้งสิ้น
"ของเชิญท่านไซอันและคณะทางนี้เลยครับ!" บุตรชายเคานท์เอ่ยปากชวน ไซอันก็ไม่ปฏิเสธ
. . . . . . . . . .
งานเลี้ยงเป็นไปอย่างเอิกเกริก เหล่านายทหารครีเมเรียและตัวบุตรชายเคานท์เองต่างพากันดื่มฉลองกันจนเมาหัวราน้ำแต่หัววัน ผิดกับไซอันและบรรดานายทหารรอบกายที่ดื่มแต่พอประมาณ บุตรชายดยุคมองไปยังบรรดานายทหารแคว้นครีเมเรียก็รู้สึกอดสู
"แบบนี้จะรบไหวเรอะ...?" ไซอันบ่นอุบอิบ
"อย่าห่วงไปเลยครับ....~! ตอนนี้พวกบ้านนอกแรกตัส..~ เห็นว่ากำลังหดหัวอยู่แต่ที่เหมือง...~!" บุตรชายเคานท์พูดเสียงอ้อแอ้เหมือนเด็กทารกเพราะฤทธิ์สุรา
"แล้วแผนการรบล่ะ?" ไซอันถามต่อไป
"เรื่องนั้นให้พวกแม่ทัพจัดการกันไปเถอะครับ~!" บุตรชายเคานท์ตอบ ทำเอาไซอันมองไปรอบๆ อีกครั้ง
"(ก็แม่ทัพของแกเองก็เมาหัวราน้ำไม่ต่างกันอยู่ตรงนั้นไง!)" บุตรชายดยุคอดคิดไม่ได้ พลางคิดต่อไปว่านี่ตนคิดผิดรึเปล่าที่หวังจะพึ่งกำลังรบของครีเมเรีย ขณะนั้นเอง ทหารนายหนึ่งเข้ามาขัดจังหวะงานเลี้ยง แล้วคุกเข่าลงตรงหน้าบุตรชายเคานท์
"รายงานครับนายท่าน"
"ว่ามาซิ...!" บุตรชายเคานท์หันไปพูดด้วยอย่างหัวเสียที่ถูกขัดความสุข
"พวกเราเจอพวกชาวบ้านแถวนี้ คาดว่าเป็นพวกสายลับจากแคว้นแรกตัส เราก็เลยเข้าจับกุมเอาไว้น่ะครับ..." ทหารนายนั้นรายงานแล้วเงยหน้าขึ้นมามองบุตรชายเคานท์
"แล้วไง?"
"พวกมันพาครอบครัวมาด้วย อ้างว่าลี้ภัยสงครามน่ะครับ จะทำยังไงดีครับ?" ทหารนายนั้นรายงานจบ สีหน้าของบุตรชายเคานท์ก็เปลี่ยนไปทันที
"เยี่ยมไปเลย! เดี๋ยวข้าจะจัดการเอง.....!" สีหน้าของขุนนางหนุ่มร่างท้วมเต็มไปด้วยความกักขฬะ ทหารนายนั้นรับคำสั่งแล้วเดินออกไป
"แล้วท่าน...."
"ข้าไม่เอาหรอก แกเอาไปเถอะ" ไซอันตอบด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย
"ขอบคุณมากครับ..." บุตรชายเคานท์ลุกขึ้นอย่างทุลักทุเลเพราะติดพุง ปล่อยให้ไซอันนึกสงสารพวกชาวบ้านที่ต้องมารับเคราะห์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาต้องเจอกับอะไร พวกผู้ชายและคนแก่คงถูกฆ่าไม่ละเว้น ผู้หญิงก็คงถูกกระทำย่ำยีอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนเด็กๆ อาจจะถูกฆ่าหรือบังคับให้เป็นทาสก็ไม่อาจรู้ แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้ใส่ใจมากเท่าไรนัก ชีวิตของชาวบ้านรากหญ้าตาดำๆ ไม่ได้มีค่ามากพอให้ต้องมาใส่ใจสำหรับบุตรชายดยุค
. . . . . . . . . .
ณ ค่ายทหารแคว้นแรกตัส ภายในกระโจมใหญ่เหล่าบรรดานายทหารต่างประชุมกันอย่างเคร่งเครียด
"เป็นที่แน่ชัดแล้วครับว่าทางเมืองหลวงส่งกองทัพมาช่วยแคว้นครีเมเรีย" นายทหารส่งสารน์รายงานชัดเจน
"อย่างที่คิดไว้เลย ดยุคทาราทอรัสคงอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ด้วยแน่ๆ" โดร่าบ่นอย่างไม่สบอารมณ์
"ตอนนี้พวกมันมีกำลังมากกว่าเราถึงสองเท่า จะเอายังไงต่อดีครับ?" เยเซลถามโดร่าที่ยืนมองแผนที่อย่างเคร่งเครียด
"ผมขอแนะนำว่าให้ตั้งรับจะดีกว่าครับ" นายทหารอาวุโสที่สุดของกองทัพแรกตัส แกงเกิล ออกความเห็น
"ว่ามาสิ..."
"พื้นที่เหมืองเป็นช่องเขา ง่ายต่อการตั้งรับ ยิ่งข้าศึกมามากกว่าเราถึงสองเท่า การปะทะซึ่งหน้าย่อมไม่เป็นผลดีนัก" แกงเกิลให้เหตุผล เพราะกองทัพของโดร่าส่วนใหญ่เป็นทหารผ่านศึกจากศึกสงครามเมื่อคราวก่อน แต่ก็แค่ 8,000 นายเท่านั้น อีกทั้งต่อให้ตัดกองทัพครีเมเรียออกไป ก็ยังมีกองทัพชั้นดีจากเมืองหลวงของไซอันอยู่
"แต่ผมว่าเราควรโจมตีมากกว่านะ" เยเซลออกความเห็นบ้าง นั่นทำให้แกงเกิลหันไปถามเยเซลทันที
"บอกได้มั้ยว่าทำไมน่ะ?"
"ก็....พวกครีเมเรียน่ะส่วนใหญ่เป็นทหารเกณฑ์จากชาวบ้าน ไม่ได้ผ่านการฝึกเป็นเรื่องเป็นราวเลยนี่นา ถ้าเราเน้นบุกเร็วถอยเร็วล่ะก็ยังไงเราก็มีโอกาสชนะอยู่พอสมควร..."
"แล้วทหารจากเมืองหลวงอีกหมื่นนายล่ะ? จะทำยังไง" แกงเกิลถามต่อไป
"เรื่องนั้น....."
"ก็มีโอกาสที่พวกมันจะไม่บุกตามมา..." โดร่าออกความเห็นตัวเองบ้าง
"ชั้นจะปล่อยให้พวกมันเข้ามาซะ!" โดร่าพูดเสียงดังในที่ประชุม
"หมายความว่ายังไงเหรอครับ?" เยเซลหันไปถาม
"เราจะปล่อยให้พวกมันเข้ามา แล้วจัดการพวกมันที่ปากทางออกช่องเขาซะ..." โดร่าพูดพลางเลื่อนตัวหมากรุกบนแผนที่เพื่อวางแผนแบบคร่าวๆ
"แล้วเราจะบดขยี้ทัพหน้าของพวกมันจากปากช่องเขา ถ้าทัพหน้ามันแตก พวกที่เหลือก็จะถอยไปเอง"
"แล้วถ้าอีกฝ่ายไม่ถอยล่ะครับ?" แกงเกิลถามลองเชิงเพื่อความมั่นใจในการศึก
"พวกมันถอยแน่ แกงเกิล....เพราะว่า...." โดร่าอธิบายให้แกงเกิลและบรรดานายทหารทุกนายฟัง เพียงเท่านั้นเสียงคัดค้านก็เบาบางลงทันตา
"ไปเตรียมตัวซะ!" โดร่าออกคำสั่งชัดเจน เหล่านายทหารก็พากันเดินออกจากกระโจมไปเตรียมการทันที
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
จากคนเขียน - ช่วงนี้ติดเกม Maple Story & World of Tanks....
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น