ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ปฐมกาลอินทรีย์ : สถานการณ์ไม่คาดคิด
การรบเริ่มต้นขึ้นได้ไม่นาน สถานการณ์ของฝ่ายฮอลเลนเซียก็ย่ำแย่ถึงขีดสุด
"นี่มันเวทย์มนต์อะไรกันวะเนี่ย!!?"
"จับปฏิกิริยาเวทย์มนต์ไม่ได้เลยครับ!!"
"พวกมันโจมตีมาจากระยะนั้นเนี่ยนะ!!?" เสียงสบถและเสียงร้องของเหล่านายทหารกองทัพฮอลเลนเซียดังระงมปนไปกับเสียงร้องโหยหวนของเหล่าทหารและเสียงระเบิด เพราะระยะที่กองทัพแรกตัสโจมตีมานั้นไกลเกินสามัญสำนึกของพวกเขาอย่างมาก อีกทั้งนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นสิ่งที่เรียกว่ากระสุนส่องวิถี ซึ่งกองทัพแรกตัสพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ยิงนำร่องสำหรับปรับศูนย์เล็งหรือยิงตอนกลางคืน
"ย..อย่ารวมตัวกันนะ! กระจายตัวออกไป!!" ยูริอุสออกคำสั่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทันทีเมื่อเห็นว่าการกระจุกรวมกันมีแต่เป็นเป้านิ่ง
"พบทิศทางที่พวกมันยิงมาแล้วครับ!!"
"ดี! ให้ทหารม้าบุกไปจัดการพวกมันซะ!!" ยูริอุสออกคำสั่งกับแม่ทัพของตน ก่อนที่ทหารม้าทั้ง 1,000 นายของแคว้นฮอลเลนเซียจะมุ่งไปยังทิศที่กระสุนปืนใหญ่ถูกยิงออกมา
"เห็นเป้าหมายแล้ว!!" ทหารม้าที่ขี่ม้านำกลุ่มตะโกนลั่นและชี้นิ้วไปทางกองทัพแรกตัสที่กำลังระดมยิงปืนใหญ่
"ปืนใหญ่อะไรกันนั่น!?" แม่ทัพฮอลเลนเซียที่นำกองทหารม้าอึ้งไปพักนึง เขาไม่เคยเห็นปืนใหญ่ที่มีขนาดใหญ่แบบนั้นมาก่อน แถมการบรรจุกระสุนก็ไม่ใช่การบรรจุแล้วใช้ไม้ดันกระสุนเข้าไปอย่างที่เขารู้จัก แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ต้องสนใจ
"บุกเข้าไป!! ขอแค่จัดการพวกมันได้พวกเราก็มีชัยไปกว่า.....!!"
"ข้าศึก!!" ยังไม่ทันพูดจบ ทหารม้าอีกนายหนึ่งตะโกนขัดจังหวะขึ้นพร้อมกับที่ทหารแรกตัสโผล่ออกมาจากพื้นดินแล้วเล็งปืนเล็กยาวในมือมาทางพวกเขา
"ซุ่มโจมตี!?"
"ยิง!!" ทหารแรกตัสระดมยิงปืนใส่ทหารม้าฮอลเลนเซียทันที การยิงชุดแรกทำให้ทหารม้าฮอลเลนเซียตายไปเยอะพอสมควรเพราะปืนมีความแม่นยำและระยะการยิงที่มากขึ้น
"แถวสอง! ยิง!!" ไม่มีเวลาให้ได้พักหายใจ ทหารแรกตัสชุดยิงแรกหดหัวกลับลงสนามเพลาะ ก่อนที่ชุดที่สองซึ่งรอสัญญาณอยู่แล้วจะโผล่ขึ้นมายิงต่อ พอยิงเสร็จก็ก้มลงไป ให้ชุดยิงแรกโผล่หัวขึ้นมายิงต่อสลับกันไปมา
"อะไรกันวะเนี่ย!!? พวกมันมีพลปืนเยอะแค่ไหนกัน!!?" แม่ทัพฮอลเลนเซียซึ่งตอนนี้ก้มหน้าหมอบอยู่กับพื้นหลังศพม้าของตนเพื่อหลบกระสุนสบถออกมาอย่างหัวเสียปนสับสน รอบตัวเขามีแต่ทหารฮอลเลนเซียโดนยิงตายไปทีละคนสองคน บ้างก็กระสุนทะลุศพม้าไปโดนคนที่หลบอยู่ด้านหลัง บ้างก็ก้มหัวไม่ต่ำพอ ทหารม้าทั้งพันนายของกองทัพฮอลเลนเซียไม่สามารถทำอะไรได้เลย
"หยุดแล้ว!?" เสียงปืนและปืนใหญ่หยุดลงกระทันหัน ทำให้เหล่าทหารม้าฮอลเลนเซียพากันงงงวย จนมีคนหนึ่งลองเสี่ยงโผล่หน้าขึ้นไปดู
"...!! พวกมันออกมาแล้ว!!" เขาตะโกนเตือนพวกพ้อง เพราะสิ่งที่เขาเห็นคือทหารแรกตัสพากันออกจากสนามเพลาะพร้อมกันเป็นจำนวนมาก ปืนที่พวกเขาถืออยู่ในมือตอนนี้ติดเหล็กปลายแหลมที่ปากกระบอก บ่งบอกว่าพวกเขาออกมาเพื่อปะทะ
"จ..จัดการพวกมันซะ! อย่าให้พวกมันบุกไปหาทัพหลักได้!!" แม่ทัพคนนั้นออกคำสั่งอย่างตื่นกลัว เหล่าทหารม้ารีบลุกขึ้นและดึงดาบหรือปืนพกของตนออกมาอย่างเร่งรีบ
ซ่า!!
"อะไรเนี่ย!?"
"ฝน...ไม่สิ น้ำ?" ทหารม้าฮอลเลนเซียสับสนยิ่งขึ้นเมื่อจู่ๆ ก็มีฝนตกใส่พวกเขาทั้งที่ฟ้าโปร่ง ก่อนจะรู้ตัวว่าฝนประหลาดนี้ทำให้ปืนของพวกเขาด้าน
"พวกมันใช้เวทย์น้ำใส่เรา! บัดซบ!! ทั้งหมดดึงดาบออกมา! แสดงให้พวกมันเห็นฝีมือของพวกเราบ้าง!!" แม่ทัพคนนั้นสบถใส่กองทัพแรกตัสแล้วดึงดาบที่เอวออกมา ก่อนที่ตัวเขาและทหารม้าที่เหลือจะบุกใส่ศัตรูอย่างจนตรอก
"นั่นมันหมายความว่ายังไงกัน!!?" ณ กองทัพทหารราบฮอลเลนเซีย ยูริอุสถึงกับไม่เชื่อสายตาตัวเอง เบื้องหลังคือกองทัพพลหอกยาวและปืนคาบชุดที่เขาภาคภูมิใจที่ถูกบดขยี้ ตอนนี้ทหารม้ายังถูกจัดการไปด้วย และตอนนี้กองทัพแรกตัสที่ในที่สุดก็เปิดเผยตัวตนกำลังบุกมาทางพวกเขา
"ให้พลหอกออกไปยันพวกมันไว้!! ส่วนพลปืนคาบชุดรีบๆ บรรจุกระสุนใหม่แล้วจัดการพวกมันซะ!!" ยูริอุสออกคำสั่งอย่างร้อนรน ไม่หลงเหลือความสุขุมเยือกเย็นอีกต่อไป
"ทหารม้าข้าศึก!!" ทหารม้าแรกตัสปรากฏสู่สายตาของพวกเขา แต่ในมือของพวกเขากลับไม่ได้ถือทวน
ปังๆๆๆๆ!!
ทหารม้าแรกตัสยิงปืนเล็กสั้นในมือใส่กองทัพฮอลเลนเซียที่กระจุกรวมกันทันที แม้ว่าทหารฮอลเลนเซียจะล้มลงไปมากเท่าไรพวกเขาก็ยังคงนิ่ง ปักด้ามหอกในมือกับพื้นแล้วชี้ปลายหอกไปทางทหารม้าแรกตัสราวกับจะรอให้อีกฝ่ายบุกเข้ามาหาตามสไตล์การรับมือทหารม้าของพลหอก
แต่ทหารม้าแรกตัสกลับไม่เข้าปะทะอย่างที่ทหารม้าควรทำ พวกเขาบรรจุกระสุนปืนนัดใหม่แล้วยิงใส่ทหารฮอลเลนเซียต่อไปจากบนหลังม้า ซึ่งเหนือความคาดหมายของกองทัพฮอลเลนเซียที่ยังใช้ปืนคาบชุดแบบบรรจุทางปากลำกล้องมาก
"โอ๊ย!"
"ปืนอะไรกันวะนั่น!?"
"บัดซบ..!" เหล่าทหารฮอลเลนเซียเริ่มสับสน เมื่อความวุ่นวายและแตกตื่นเข้าครอบงำ วินัยกองทัพก็หดหาย พวกเขาแตกแถว บ้างวิ่งหนีอย่างขลาดเขลา บ้างเข้าชาร์จกองทัพแรกตัสอย่างบ้าคลั่ง ส่วนยูริอุสอาศัยจังหวะชุลมุนนั้นหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย
"บัดซบ บัดซบ! บัดซบ!!" เขาสบถอย่างบ้าคลั่ง สาบแช่งทุกๆ สิ่ง ทั้งกองทัพแรกตัส กองทัพตัวเอง หรือกระทั่งความประมาทของตัวเขาเอง ก่อนที่ยูริอุสจะมองเห็นกองทัพของเขาส่วนสุดท้ายที่ยังคงรักษากระบวนทัพเอาไว้ได้
"พ..พวกแกต้านพวกมันเอาไว้!! แล้วรีบส่งสัญญาณให้ทัพหนุนเข้าเสริมซะ!!" ยูริอุส ตะโกนสั่งทหารของเขาจากจุดที่เขากำลังวิ่งอยู่ ตอนนี้ชายหนุ่มได้แต่ฝากความหวังไว้กับกองทัพเบรเมนที่คอยท่าอยู่ที่ค่าย
สัญญาณขอกำลังเสริมถูกส่งไปยังกองทัพเบรเมนที่ตั้งทัพรออยู่ที่แนวค่าย ยูริอุสมองดูด้วยความหวัง
............
กองทัพเบรเมนไม่ตอบสนอง ราวกับกำลังทรยศความหวังของยูริอุส
"อะไรกัน...ทำไมกัน!!?" เขาสบถใส่กองทัพเบรเมนที่เมินเฉยต่อคำสั่งของเขา ก่อนจะรู้สึกตัวว่ากองทัพแรกตัสกำลังใกล้เข้ามามากขึ้น ทัพหน้าสุดที่กำลังฝืนต้านข้าศึกในตอนนี้ถึงขีดจำกัดแล้ว
"บัดซบ!!!!!!" ยูริอุสคำรามลั่น กองทัพแรกตัสเข้าปะทะกับกองทัพสุดท้ายของฮอลเลนเซียแล้ว
. . . . . . . . . .
"สัญญาณขอกำลังเสริมครับ!!" ณ กองทัพเบรเมนที่มองดูสถานการณ์มาตั้งแต่ต้น เหล่าทหารและแม่ทัพพากันขอบคุณโชคชะตาที่พวกเขาไม่ได้เป็นทัพหน้า พลางนึกสงสารทหารฮอลเลนเซียที่โชคร้ายในใจ
"ท่านครับ! เราควรเข้าเสริมกำลังดีมั้ยครับ!?" แม่ทัพเบรเมนหันไปถามเคานท์เบรเมนที่ขี่ม้าอยู่ข้างๆ
เคานท์เบรเมนในตอนนี้ดูสงบนิ่งอย่างแปลกประหลาด ท่ามกลางเหล่าแม่ทัพที่รอคอยคำสั่ง เคานท์พูดออกมาเสียงดังฟังชัดกว่าทุกที
"ไม่ต้องทำอะไร!"
"หา!?"
"แต่ท่านครับ....!"
"เราบอกว่าไม่ต้องทำอะไร! ทั้งนั้น!!" เคานท์ย้ำเสียงดังฟังชัด ก่อนจะกลับมาอยู่ในท่าสงบนิ่งอีกครั้ง
กองทัพเบรเมนหันกลับไปมองดูกองทัพฮอลเลนเซียอีกครั้ง กองทัพฮอลเลนเซียในตอนนี้ไม่อยู่ในสภาพที่จะสู้ได้อีกแล้ว พวกเขาพากันวางอาวุธยอมแพ้
"เตรียมส่งสัญญาณยอมแพ้....ไม่งั้นเราจะไม่มีโอกาสอีก" เคานท์เบรเมนหันไปบอกทหารของตนราวกับรอเวลานี้มานาน ก่อนที่ทหารคนนั้นจะปลดธงกองทัพแล้วชูธงขาวอย่างว่าง่าย
. . . . . . . . . .
โดร่าในตอนนี้กำลังมองดูชัยชนะของตน ชายหนุ่มและทหารม้าคุ้มกันขี่ม้ามองดูบรรดาทหารฮอลเลนเซียที่ถูกจับเป็นเชลย พวกเขาถูกจับมัดแล้วให้นั่งรวมกัน แม้แต่คนเจ็บก็ไม่ปรานี ส่วนคนที่บาดเจ็บสาหัสก็ได้รับการสงเคราะห์เรียบร้อย ในขณะที่ทหารแรกตัสที่บาดเจ็บถูกหามออกจากสนามรบ
"ท่านครับ! กองทัพเบรเมนยอมจำนนเรียบร้อยแล้วครับ!" ทหารม้านายหนึ่งเข้ามารายงานโดร่า ชายหนุ่มจึงไปยังกองทัพบาวาเรียทันที
กองทัพเบรเมนถือว่าอยู่ในสถานะที่แตกต่างจากกองทัพฮอลเลนเซียอย่างชัดเจน แม้พวกเขาจะยอมจำนนและถูกปลดอาวุธแล้วก็ตาม แต่ไม่มีใครถูกพันธนาการใดๆ และพวกเขาทุกคนเองก็ไม่มีท่าทีต่อต้านด้วย เมื่อเห็นโดร่าและทหารม้าแรกตัสขี่ม้ามา พวกเขามองด้วยสายตาหวาดหวั่นทันที
"ขอทำความเคารพแม่ทัพแห่งแคว้นแรกตัส....." เคานท์เบรเมนก้มหัวให้ทันทีที่เห็นโดร่า
"ไม่ได้เจอกันนานนะ..." โดร่าทักอีกฝ่ายทันที
"ก็ตั้งสองปีได้แล้วล่ะนะ" เคานท์เบรเมนตอบกลับไป
"ถึงจะยอมจำนนแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าชั้นจะละเว้นนายหรอกนะ แจน" โดร่าพูดชื่ออีกฝ่ายทันที
"เรารู้ แต่เราขอร้องอะไรอย่างหนึ่งได้มั้ย?" แจน ฟอน เบรเมน ร้องขอโดร่าอย่างไม่คาดหวัง
"ขอแค่ให้ทหารของเราได้กลับบ้านที่บาวาเรียก็พอ ส่วนนอกนั้นจะทำยังไงกับเราก็เชิญ"
"น..นายท่าน!!" แม่ทัพของแจนร้องทักเจ้านายทันที
"ไม่ต้องห่วง....เพราะพวกเขาจะต้องกลับไปป้องกันเบรเมนของนายต่อ" โดร่าตอบกลับไป คำตอบนั้นทำให้แจนกับบรรดาแม่ทัพบาวาเรียงุนงง
"จากนี้ไปแคว้นเบรเมนจะต้องอยู่ใต้คำสั่งของแคว้นแรกตัส และจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามให้กับแคว้นแรกตัสด้วย ส่วนรายละเอียดเอาไว้ตกลงกันอีกที"
"น..นี่พูดจริงๆ เหรอ!!?" แจนถึงกับเงยหน้ามองโดร่า
"ทำไมล่ะ? ไม่ยอมรับเงื่อนไขงั้นเหรอ?"
"เปล่าเลย! แต่ว่าลงโทษพวกเราที่เป็นศัตรูแค่นี้จะดีเหรอ!?" แจนถามโดร่าอย่างไม่อยากเชื่อ เพราะปกติแล้วการตัดสินชะตากรรมของผู้แพ้มักไม่สวยงามนัก แม่ทัพมักจะถูกจับเป็นเชลยเพื่อประกาศชัยชนะหรือเรียกค่าไถ่ ส่วนทหารก็จับเป็นเชลยหรือไม่ก็ปล่อยไปตามบุญตามกรรม เงื่อนไขที่โดร่าบอกมาอีกทั้งยังบอกว่า"ตกลงกันทีหลัง"นั้นถือว่าเบามาก
"ชั้นไม่ได้หวังจะจัดการกับเบรเมนอยู่แล้ว ในเมื่อพ่อของนายที่เป็นต้นเรื่องไม่อยู่รับโทษแล้วชั้นก็ไม่รู้จะลงโทษใครอีกล่ะนะ" โดร่าสาธยายเหตุผลออกมา แต่ความจริงแล้วโดร่าตั้งใจเอาไว้แบบนี้อยู่แล้ว เพราะถ้าเบรเมนปกครองตนเองต่อไปจะควบคุมได้ง่ายกว่าต้องส่งทหารมายึดครองดูแล พอได้ยินแบบนั้นทั้งแจนและแม่ทัพเบรเมนก็พากันคุกเข่าให้กับโดร่าทันที สีหน้าของพวกเขาดูซาบซึ้งเอามากๆ ที่โดร่าใจดีด้วยถึงขนาดนี้ แต่ก็มีบางคนเข้ามาขัดจังหวะ
"ท่านครับ! จดหมายจากนอร์เดนเบิร์กครับ!" ทหารส่งสารน์นายนั้นรีบควบม้ามาหาโดร่าด้วยท่าทางเร่งรีบ เนื้อหาในจดหมายนั้นทำให้โดร่าถึงกับหน้าถอดสีทันทีที่ได้อ่าน
"บ..บ้าน่า....." โดร่าหน้าซีดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
"นายน้อย?" เยเซลถึงกับร้องทักเมื่อเห็นโดร่าแปลกๆ ไป
"รีบเตรียมการให้พร้อม!! เราจะเดินทัพกลับนอร์เดนเบิร์กทันทีแล้วไปเสริมกำลังที่ชายแดนตะวันออก!!"
"มีอะไรงั้นเหรอครับ?" เยเซลถามโดร่าซ้ำด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
"แคว้นกุสตาฟถูกโจมตี! เราต้องรีบแล้ว!!" โดร่าหันไปบอกกับเยเซลแล้วรีบควบม้ากลับไปยังค่ายทันที ทิ้งหน้าที่ดูแลเชลยให้กองทัพส่วนหนึ่งที่นี่
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
จากคนเขียน - ช่วงนี้รีบลง จะได้เอาเวลาไปเตรียมสอบสัมพาษย์มหาลัย ถ้าหายไปพักใหญ่อย่าแปลกใจละกัน
ป.ล.จากนี้ไปขอเพิ่มรายละเอียดเรื่องชื่อของตัวละคร ชื่อของขุนนางจากนี้ไปจะมีคำว่าฟอน(Von) คั่นกลางระหว่างชื่อกับนามสกุลตามชื่อขุนนางเยอรมัน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น