ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Krieg und Sieg

    ลำดับตอนที่ #10 : ปฐมกาลอินทรีย์ : เค้าลางของสงคราม

    • อัปเดตล่าสุด 31 พ.ค. 62


              ราวๆ สามเดือนนับตั้งแต่สงครามครีเมเรีย ณ ตอนนี้ฤดูหนาวที่ดูเหมือนจะยาวนานกำลังมาถึงจุดสิ้นสุด และฤดูใบไม้ผลิอันงดงามและอบอุ่นกำลังมาเยือน สำหรับประชาชนทั่วไปและเหล่าเกษตรกรคงกำลังยินดีกับข่าวนี้กันทั่ว แต่สำหรับเหล่าผู้ครองแคว้นแรกตัสแล้ว มันคือช่วงเวลาแห่งความวุ่นวาย

    เมืองนอร์เดนเบิร์ก เมืองหลวงของแคว้นแรกตัสซึ่งบัดนี้หิมะที่ปกคลุมไปทั่วเมืองเริ่มละลาย ต้นไม้ประดับเมืองเริ่มผลิใบ ผู้คนเริ่มออกมาทำกิจกรรมต่างๆ ที่ไม่สามารถทำได้ในช่วงหน้าหนาว แต่ที่ถนนใหญ่ของเมืองกลับมีทหารม้านายหนึ่งควบม้าอย่างเร่งรีบไปยังเขตชานเมือง

    ณ ทุ่งกว้างบริเวณนอกเมือง พื้นที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นที่ทดลองอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ และซ้อมรบของกองทัพนอร์เดนเบิร์กมาโดยตลอด ณ ขณะนี้ ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยทหารแรกตัสจำนวนหนึ่ง 

    "ยิง!!"

    ปังๆๆๆๆๆ!!

    เสียงปืนหลายนัดดังขึ้นพร้อมกันอย่างต่อเนื่อง และเป้าซ้อมยิงทุกตัวถูกยิงจากระยะไกลถึง 500 เมตร สำหรับยุคนี้ ถือว่ามีความแม่นยำสูงมาก

    "คิดว่ายังไงบ้างครับ?" นายทหารนายหนึ่งหันมาถามโดร่าที่ยืนดูการทดสอบอาวุธใหม่นี้ตั้งแต่ต้นด้วยสีหน้าภาคภูมิใจแล้วผายมือไปทางทหารที่ถือปืนเล็กนั้น โดร่ายิ้มให้อย่างพึงพอใจ

    มันคืออาวุธปืนที่โดร่าสั่งให้พัฒนาและเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาด้วยตนเอง หนึ่งในอาวุธที่ชายหนุ่มรู้จักมาจากชาติก่อน อาวุธมาตรฐานที่ทำให้ราชอาณาจักรปรัสเซียมีชัยชนะเหนือข้าศึกทั่วทั้งยุโรปเหนือ ปืน zündnadelgewehr

    ปืนนี้ใช้หัวกระสุนทรงรีขนาด 11 มิลลิเมตร ห่อรวมกับดินปืนด้วยปลอกกระสุนกระดาษ บรรจุทางท้ายลำกล้องโดยตรง และจุดดินปืนด้วยกลไกเข็มแทงชนวนกับตัวจุดกระแทก ภายในลำกล้องมีเกลียวเวียนขวา มันคือปืนไรเฟิลซึ่งถือว่าล้ำยุคมากในยุคนี้ และนอกจากปืนเล็กยาวทหารราบแล้วยังมีปืนเล็กสั้นสำหรับทหารม้าด้วย

    "ปืนแบบที่ท่านต้องการนั้นถือว่าท้าทายความสามารถของวิศวกรกองทัพเรามาก แต่ในที่สุดเราก็ทำสำเร็จจนได้ ทั้งนี้ต้องขอบคุณความคิดและการเปิดกว้างของท่านแท้ๆ....."

    "ที่พูดมามันก็เกินไป.....ผมก็แค่เอาสิ่งที่มีอยู่ในหัวมาเสนอเท่านั้นเอง" โดร่าพูดด้วยรอยยิ้มขณะเอานิ้วเคาะกะโหลกตัวเอง

    "แล้วพวกปืนใหญ่ล่ะ?" ก่อนที่ชายหนุ่มจะถามกลับไป

    "ถ้าปืนใหญ่กับปืนระดมยิงล่ะก็ ตอนนี้กำลังเตรียมการทดสอบอยู่ครับ" วิศวกรทหารคนนั้นยิ้มตอบแล้วนำทางโดร่าไปยังโซนทดสอบปืนใหญ่

    ปืนใหญ่รุ่นใหม่ที่โดร่าพูดถึงนี้เองก็เป็นแบบมีเกลียวในลำกล้อง และบรรจุกระสุนทางท้ายลำกล้องเช่นกัน แต่ก็มีปัญหาอยู่บ้างเนื่องจากปืนใหญ่นี้ใช้กระสุนแบบปลอกโลหะซึ่งถือเป็นของใหม่ในยุคนี้ ซึ่งก็ต้องสร้างโรงงานผลิตเฉพาะอีกที

    ปืนใหญ่นี้ถูกออกแบบมาให้ปรับมุมยิงได้หลากหลายตำแหน่งในแบบที่ปืนใหญ่แบบบรรจุทางปากลำกล้องไม่อาจทำได้ โดยได้ต้นแบบมาจากปืน Howitzer ของปรัสเซียในช่วงทศวรรษที่ 1860 - 1870

    "เจ้าปืนใหญ่วิถีโค้งนี่มีขนาดลำกล้องใหญ่ถึง 180 มิลลิเมตร และยิงได้ไกลที่สุดราวๆ 10 กว่ากิโลเมตร ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของทีมวิศวกรกองทัพเราอย่างยิ่ง" วิศวกรทหารอธิบายด้วยสีหน้าภาคภูมิใจไม่แพ้ปืนเล็กยาว โดร่ามองดูปืนใหญ่เหล่านี้พลางนึกถึงสงครามปรัสเซีย-เดนมาร์ก เมื่อปี 1864 ของชาติก่อน ที่กองทัพเดนมาร์กต้องพ่ายแพ้ให้กับจักกลสงครามปรัสเซียก็เพราะอาวุธปืนเหล่านี้ ด้วยสิ่งเหล่านี้ ชายหนุ่มหวังอย่างยิ่งว่ามันจะทำให้กองทัพของตนแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น แม้แต่กองทัพของดยุคทาราทอรัสเองก็ไม่อาจเทียบเท่า แต่ปัญหาอยู่ที่ปืนระดมยิง

    "ทางนั้นเหมือนกำลังแย่แฮะ..." ปืนระดมยิงที่ถูกนำมาทดสอบเองก็อยู่ที่นั่น แต่ดูจากสภาพแล้วเหมือนมันใช้ได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะมันทั้งหนักและความคล่องตัวต่ำมาก การบรรจุกระสุนก็ชักช้า ดูแล้วผลการทดสอบไม่เป็นที่พอใจสักเท่าไร

    "แล้วเรื่องสายการผลิตล่ะว่ายังไง?" โดร่าหันกลับไปถามวิศวกรทหารคนนั้นต่อถึงการนำปืนเข้าประจำการและการผลิต

    "ตอนนี้ทางเราส่งคำสั่งเตรียมการไปแล้ว คาดว่าการผลิตจะพร้อมในอีกไม่กี่สัปดาห์ครับ"

    "ดี....ผมหวังเอาไว้มากกับสิ่งเหล่านี้นะ..." โดร่ายิ้มให้กับวิศวกรคนนั้นอีกครั้งเดินกลับไปที่กระโจมพัก ที่นั่นชายหนุ่มเห็นแกงเกิลยืนรอด้วยท่าทางเคร่งเครียด

    "มีอะไรงั้นเหรอ? แกงเกิล"

    "มีรายงานด่วนมาจากแนวหน้าทางใต้ครับ"

    "ว่ามา..." โดร่ากลับมามีท่าทางจริงจังทันทีที่ได้ยิน ก่อนจะเปิดอ่านรายงานนั้นที่วางอยู่บนโต๊ะทันที

    'แคว้นเบรเมน ฮอลเลนเซีย ครีเมเรีย และเมืองหลวงเบลลีน มีท่าทีคุกคามแคว้นแรกตัสด้วยกำลังทหารอย่างชัดเจน อ้างว่าการรบระหว่างแคว้นแรกตัสกับครีเมเรียไม่ได้รับการยินยอมจากทางเมืองหลวง'

    "เหตุผลสิ้นคิดดีจริงๆ...." ชายหนุ่มสบถพลางวางเอกสารลงบนโต๊ะ สงครามกับแคว้นครีเมเรียนั้นเห็นได้ชัดว่าทางครีเมเรียคุกคามแคว้นแรกตัสก่อนอย่างชัดเจน การที่เอาสงครามที่เห็นชัดทั้งเหตุและผลมาเป็นข้ออ้างทำสงครามแบบนี้ถือว่าเป็นอะไรที่สิ้นคิดมากในสายตาของโดร่า

    "เดี๋ยวเสร็จจากการทดสอบตรงนี้แล้วให้ไปแจ้งคุณปู่ทันที เราจะเปิดประชุมด่วน!"

    "ครับ!" แกงเกิลรับคำสั่ง ส่วนโดร่าทำหน้าไม่สบอารมณ์อย่างชัดเจน

    . . . . . . . . . .

              การประชุมด่วนถูกจัดขึ้นอย่างเร่งรีบ ทั้งบรรดาขุนนางฝ่ายบุ๋นและเหล่านายทหารฝ่ายบู๊ถูกเรียกตัวมาอย่างเร่งด่วน สังเกตุได้ว่าบรรดาขุนนางและนายทหารมีบางคนมาร่วมประชุมทั้งที่ไม่ได้สวมชุดพิธีการ

    "ก่อนอื่นทางเราต้องกล่าวขออภัยทุกท่านที่จู่ๆ ก็เรียกมาโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า แต่นี่คือเรื่องเร่งด่วน…!" โดร่ากล่าวกับทุกคนในที่ประชุม

    "มีอะไรงั้นเหรอโดร่า? ถึงได้เรียกทุกคนมาอย่างฉุกละหุกแบบนี้น่ะ?" มาควิสแรกตัสถามอย่างสงสัย

    "แคว้นเบรเมน ฮอลเลนเซีย ครีเมเรีย และทางเมืองหลวงมีทีท่าว่าจะประกาศสงครามกับแคว้นแรกตัสเรา! กำลังทหารอีกฝ่ายยังไม่ทราบแน่ชัด! แต่อยู่ในสภาพพร้อมเข้าสู่สงครามเต็มที่!"

    "!!?" เสียงประกาศของโดร่านั้นทำให้ทั้งขุนนางและแม่ทัพแต่ละคนถึงกับตกตะลึง ไม่เว้นแม้แต่มาควิสแรกตัส คนที่ไม่ตกใจก็มีแค่โดร่า แกงเกิล และนายทหารบางคนที่รู้ข่าวมาก่อนแล้วเท่านั้น

    "เพิ่งจะเข้าฤดูใบไม้ผลิก็เอาเลยเหรอ!?"

    "เร็วเกินไปแล้ว!"

    "บ้าชัดๆ!!" เสียงเอะอะของผู้คนในที่ประชุมดังก้องไปทั่วห้อง แม้แต่มาควิสแรกตัสเองก็ออกอาการตื่นตระหนกชัดเจน

    โดร่าชี้แจงทั้งเหตุผลที่สามแคว้นกับทางเมืองหลวงมีประกาศเช่นนี้ รวมถึงข้อเรียกร้องที่ว่าให้มาควิสแรกตัสและโดร่าไปแสดงตัวที่เมืองหลวงเพื่อรับทราบข้อกล่าวหานั้นให้ทุกคนได้รับรู้ สิ่งที่ตามมาคือเสียงก่นด่าจากทุกๆ คน

    "เหตุผลบ้าบอสิ้นดี!!"

    "ใครมันจะไปทำตามได้วะ!?"

    "ไอ้พวกส่วนกลางเวรตะไลนั่น!!"

    "ทั้งหมดเงียบ!!!" โดร่าประกาศด้วยน้ำเสียงอันดัง ทำให้ความวุ่นวายในห้องประชุมนั้นหยุดลงทันที

    "ที่ปรึกษาริชเบิร์ต! คิดว่าเราควรทำยังไง!" โดร่าหันไปถามขุนนางที่ปรึกษาคนสำคัญของมาควิสแรกตัสเสียงดังโดยไม่มีหางเสียงเหมือนทุกครั้ง(โดร่าจะพูดจามีหางเสียงกับคนอายุมากกว่าเสมอ(ยกเว้นกับเยเซล)

    "ถ้าถามความคิดของกระผมล่ะก็ กระผมว่าเราไม่ควรทำตามข้อเรียกร้องนั้นเด็ดขาดครับ!" ขุนนางสูงวัยท่าทางทรงภูมิ เคานท์ริชเบิร์ต ตอบอย่างเสียงดังฟังชัด

    "เสนาธิการรอนเดล! กล่าวสิ่งที่ท่านเห็นว่าควรทำมากที่สุดในตอนนี้ออกมา!" คราวนี้โดร่าหันไปทางนายทหารคนหนึ่ง ผมสีน้ำตาลเข้มแซมขาว ดูแล้วอายุรุ่นเดียวกันกับแกงเกิล เขาลุกขึ้นตอบทันที

    "ผมเห็นควรว่าเราควรจัดเตรียมกำลังทหารของเราให้พร้อมสำหรับสงคราม แล้วแสดงท่าทีของเราให้ทางนั้นได้เห็นชัดเจน!!" เสนาธิการทหารรอนเดลกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด ไม่ใช่แค่พวกเขาสองคนเท่านั้น แต่ขุนนางและนายทหารกว่าครึ่งล้วนเห็นด้วยกับพวกเขา

    "คุณปู่.....การตัดสินใจของท่านล่ะ?" โดร่าหันไปถามมาควิสแรกตัสด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาลง

    "เจ้าเป็นผู้แทนของเราอยู่แล้วนี่ โดร่า....ตัดสินใจตามที่เห็นควรเถอะ" มาควิสแรกตัสกล่าวกับหลานชายด้วยน้ำเสียงที่จริงจังและเด็ดขาด แสดงออกถึงความเชื่อใจในหลานชายของตนอย่างชัดเจน

    "นี่คือการตัดสินใจของเรา!! !เราจะไม่ทำตามข้อเรียกร้องของทางเมืองหลวงและอีกสามแคว้นที่เหลือ เด็ดขาด!!" โดร่าประกาศอย่างชัดเจนและเด็ดขาดท่ามกลางเสียงโห่ร้องของเหล่าขุนนางและขุนพลที่กำลังเดือดดาล ท่าทางของชายหนุ่มในตอนนี้ดูสง่าและองอาจสมเป็นสายเลือดขุนนางสายทหารอย่างแท้จริง

    "จะไม้ไหนก็มาเลย....ดยุคทาราทอรัส!!" โดร่ากัดฟันพูดพลางฉีกสารน์ที่ทางเมืองหลวงส่งมาทิ้งกับมือ แววตาสีฟ้าครามของชายหนุ่มลุกโชติช่วงราวกับไฟ

    . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

    จากคนเขียน - ตอนนี้เขียนแค่เพื่อเป็นรอยต่อของตอนต่อไปแค่นั้น(ส่วนหนึ่งก็เพื่อพูดถึงอาวุธด้วย) ช่วงนี้จะยุ่งเพราะมหาลัย อาจมาอัพน้อยลง

    สำหรับคนที่ไม่รู้รูปร่างของอาวุธและปืนระดมยิง ลองไปหาข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธในสงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซียดูเอาเอง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×