ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fill In LOve หลุมหัวใจซุปเปอร์สตาร์ [Fic Super Junior]

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่2 : อดีตของคิบอมและคู่ปรับใหม่ของคิมฮีชอล [รีไรท์]

    • อัปเดตล่าสุด 9 ม.ค. 54


    “คิบอม ทำอะไรอยู่ทุกคนรอนายอยู่นะ” เด็กผู้ชายน่าตาน่ารักเขามาเรียกคิบอมและหันไปมองแอลฟาอย่างแปลกใจ เพราะเห็นคิบอมยิ้มให้กับคนตรงหน้า แต่คงจะมองนานไปสักหน่อยทำให้แอลฟารู้ตัวและทักทายกับคนที่ยืนมองเธอนาน
     
    “อันนิยองฮาเซโย” แอลฟากล่าวทักทายกับหนุ่มน้อยตรงหน้า
     
    “อันนิยองฮาเซโย” ทงแฮเห็นหญิงสาวตรงหน้ากล่าวทักเขา เขาจึงรีบกล่าวทักตอบทันที และหันไปมองหน้าคิบอมเล็กน้อยเหมือนกับอยากให้คิบอมอธิบาย คิบอมเห็นท่าทางของทงแฮจึงแนะนำแอลฟาทันที
     
    “เออทงเฮฮยอง นี้คือแอลฟานูนานะ เป็นนูนาทีเรารู้จักตอนอยู่LA”
     
    “แล้วนี้ก็ทงเฮนะ แอลฟา ทงเฮเป็นรุ่นพี่ที่อยู่ในวงเดียวกัน” คิบอมกล่าวแนะนำให้แอลฟาและทงเฮรู้จักกัน
     
    “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณทงเฮ ฉันจะมาเป็นผู้ดูแลวงของพวกคุณนะค่ะ” แอลฟาส่งยิ้มทักทายเล็กน้อยให้ทงเฮที่ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าผู้หญิงสวยและดูเซ็กซี่คนนี้คือใคร
     
    “ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ แอลฟานูนา”
     
    “ไม่ต้องเรียกพี่ก็ได้ค่ะ ฉันไม่ถือเท่าไรหรอกอายุก็ห่างกันแค่ปีเดียวเอง เออ เมื่อกี้ทงเฮมาเรียกพวกเรานิค่ะ เราเข้าไปข้างในกันเถอะ เดี๋ยวพวกเพื่อนๆคุณจะรอนาน” แอลฟายิ้มและรีบเดินนำไปในร้านอาหารทันทีพร้อมกับหนุ่มๆอีกสองคนที่เดินตามมาข้างหลัง
     
    “นี่คิบอม นูนาสวยดีเนอะออกเปรี้ยวซะด้วย ผิดกับอีกคนที่มารับเราเลยอ่ะ คนนั้นดูสวยเท่ๆ” ทงเฮเริ่มพูดเกี่ยวกับที่ตัวเองเห็น แต่คิบอมก็ไม่พูดอะไรเพียงแต่ยิ้มเล็กน้อยเท่านั้น เพราะถ้าทามว่าใครสวยกว่ากันมันก็คงตอบยาก แต่ถ้าถามว่าเขาชอบใคร คิบอมคงตอบได้ทันที เพราะแอบชอบมาตั้ง8ปีแล้วนิ
     
    # LA ปี 2001
     
    เด็กหนุ่มผมสีดำตัดกับผิวขาวกำลังเดินออกจากโรงเรียน ใบหน้าอวบๆนั้นไม่เคยมีรอยยิ้มตั้งแต่มาอยู่ที่นี้ก็เกือบๆสองปีแล้ว ทุกวันหลังเลิกเรียนเขาต้องไปโบสถ์ อาจเป็นเพราะว่าเขาไม่เคยมีเพื่อนเลยตั้งแต่มาอยู่ที่นี้ แต่วันนี้อาจจะต่างกว่าทุกวันเล็กน้อยก็ตรงทีระหว่างทางเขาเจอเด็กฝรั่งหลายคนมาดักรออยู่ แต่ก็ไม่มีสีหน้าหรืออารมณ์ใดๆออกมาจากแววตานั้น
     
    What do you want? เด็กหนุ่มตรงหน้าถามด้วยใบหน้าเรียบเฉย
     
    I dislike you เด็กฝรั่งคนหนึ่งพูดขึ้น พร้อมกับกระชากคอเสื้อเด็กหนุ่มเข้ามาใกล้ๆพร้อมกับเหวี่ยงหนุ่ม
    น้อยนั้นลงไปกระแทกกับพื้น และดูเหมือนสถานการณ์จะรุนแรงมากขึ้นเมื่อเด็กฝรั่งพวกนั้นเข้ามารุมกระทืบหนุ่มน้อยนั้นทันที แต่มีอันต้องหยุดลงเมื่อมีเสียงหญิงสาวตะโกนขึ้น
     
    Stop now!!  เด็กฝรั่งเกเรพวกนั้นหยุดและหันมามองต้นเสียง สาวผมดำยาวแซมด้วยผมสีชมพู เสียงตะโกนนั้นไม่เหมาะกับร่างบางๆของเธอเอาเสียเลย
     
    Don’t come to intrude (อย่ามาเสือก) เด็กฝรั่งที่ดูเหมือนหัวโจ๊กพูดขึ้น
     
    All right, but must liberate he (ก็ได้ แต่ต้องปล่อยเขา)
     
    Pretty girl, you want to be a hero (คนสวยอยากเป็นฮีโรหรือไง) เด็กฝรั่งคนเดิมพูดพร้อมสงสายตาหื่นๆมองหญิงสาวที่ใส่เกาะอกสีแดงกับกางเกงยาวเอวต่ำไปด้วย
     
    If, do not want about Jack hear closely, avoid go (ถ้าไม่อยากให้เรื่องถึงหูแจ็คก็หลบไป) เด็กฝรั่งทั้งหมดนิ่งทันทีเมื่อได้ยินชื่อนักเลงใหญ่ของทีนี้
     
    You!!!! What's with him?  (เธอเป็นอะไรกับเขา)
     
    Girlfriend เด็กเกเรเมื่อได้ยินดังนั้นเลยวิ่งหนีหายไปจนหมด หญิงสาวเขาไปดูเด็กหนุ่มทันที
     
    “นายเป็นอะไรหรือป่าว” หญิงสาวพูดภาษาเกาหลีทำให้เด็กหนุ่มเงยหน้ามองอย่างสงสัย
     
    “คุณเป็นคนเกาหลีหรอ” เด็กหนุ่มตอบกลับเป็นภาษาเกาหลี หญิงสาวยิ้มให้พร้อมกับส่ายหน้าช้าๆ
     
    “ทำไมคุณถึงพูดภาษาเกาหลีได้”
     
    “ฉันเคยเรียนมาบ้าง แต่พูดไม่เก่งหรอกนะ แล้วนายชื่ออะไรละ”  หญิงสาวถามและพยุงร่างของเด็กหนุ่มขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ข้างทาง
     
    “เออ  ขอบคุณครับ ผมชื่อคิบอม แล้วทำไมคุณถึงรุ้ละว่าผมเป็นคนเกาหลี” เด็กหนุ่มถามด้วยความสงสัย
     
    “เพราะว่าฉันสังเกตเห็นนายมาได้เดือนกว่าแล้วละ เลยพอรู้ว่านายเป็นคนเกาหลี” หญิงสาวยิ้มตอบพร้อมกับเอาพลาสเตอร์ยาเปะแผลที่ข้ามมุมปากให้เด็กหนุ่ม
     
    “และทำไมคุณต้องสังเกตผมด้วย คุณเป็นโรคจิตหรือไง” เด็กหนุ่มตอนนี้โกรธนิดหน่อยที่มีคนมาสืบประวัติเขา หญิงสาวตรงหน้าที่มือเบามาตลอดกลับกดแผลของคิบอมลงไป
     
    “โอ๊ย!!! เจ็บนะทำอะไรอ่ะ” คิบอมเอามือลูบแผลไปมา
     
    “สมควรอุตสาห์ช่วยกลับมาว่าฉันซะได้”
     
    “ใครจะไปรู้ละไม่รู้จักกัน แต่มาตามสืบประวัติคนอื่นเฉยเลย แฟนคุมโรงเรียนของคุณไม่หึงหรือไง”
     
    “โอเคฉันผิดก็ได้ และฉันชื่อ แอลฟา คราวนี้รู้จักกันแล้วนะคิบอม ส่วนเรื่องที่ฉันตามนายเป็นเพราะครูเขาฝากฉันมาดูนาย เห็นนายเงียบๆไม่คุยกับใคร อยู่มาตั้งนานไม่มีเพื่อนสักคน และไอ้เรื่องแจ็คนะฉันโกหกเพื่อช่วยนายต่างหาก”
     
    “ฉันไม่อยากได้เพื่อนสักหน่อย” หญิงสาวคงไปจี้ถูกจุดเด็กชายตรงหน้าซะแล้ว เมื่อคิบอมดูหงอยๆไป
     
    “เออ คิบอมงั้นเรามาเป็นเพื่อนกันดีไหม” คิบอมเงยหน้ามองแอลฟาด้วยความสงสัย
     
    “ทำไมมองงั้นละ ฉันพูดจริงนะ ถึงฉันอายุมากกว่าเถอะ แต่เรามาเป็นเพื่อนกันเถอะ” แอลฟายิ้มแป้นส่งมาให้ผม แต่ผมคิดว่าเธอคงหาอะไรสนุกๆทำซะมากกว่า
     
    แต่ผมคิดผิดซะแล้วหลังจากแอลฟาบอกจะมาเป็นเพื่อนกับผมเธอก็คอยตามติดผมจนเหมือนเป็นเงาของผมซะอย่างนั้น  แต่ผมไม่ได้เบื่อเธออย่างที่คิดเพราะเธอเป็นคนคุยเก่งมากๆ จนทำให้ผมยิ้มอยู่บ่อยๆทั้งที่เมื่อก่อนแทบจะไม่เคยยิ้ม เธอมาอยู่เเอลเอได้เดือนเดียวเธอก็เป็นที่รักของคนทั้งโรงเรียน บวกกับที่เธอหน้าตาสวยและแต่งตัวออกเป็นสาวมั่นใจมากๆ ทำให้หนุ่มๆในโรงเรียนตามขายขนมจีบเธอไม่หยุด แต่ดูเธอไม่สนใจสักเท่าไรรวมทั้งแจ็ค หนุ่มฝรั่งขวัญใจสาวๆในโรงเรียนแถมเป็นคนคุมโรงเรียน ยังยอมมาขายขนมจีบเธอทุกวันอีกด้วย ผมเคยถามเธอหลายครั้งว่าทำไมไม่ยอมมีแฟนสักทีทั้งที่มีแต่คนหล่อๆรวยๆมาตามจีบ แต่ผมก็ได้ยินคำตอบเดิมเหมือนทุกครั้ง
     
    “พี่แค่ไม่อยากหาอะไรมาให้หนักหัว แล้วพี่ก็ไม่ชอบใครเลยด้วย” เธอบอกไปยิ้มไป
     
    ผมดูก็ออกนะว่าเธอมีอะไรในใจที่ไม่ยอมบอกผม แต่ผมไม่สนใจหรอกถ้ามีแอลฟาอยู่ข้างๆผมแบบนี้ ถ้าเธอมีแฟนจริงๆผมเองก็คงไม่ยอมหรอก ถึงเธอจะมองว่าผมเป็นน้องชายเธอก็เถอะ แต่ผมคิดกับเธอเกินกว่านั้นไปแล้วนินา และตลอด1ปีที่เราดูเหมือนเป็นเพื่อนสนิทกัน(แต่ผมแอบคิดไม่ซื่อ)และอยู่ด้วยกันแทบทุกเวลา ก็ดูเหมือนต้องจบลง เพราะทุนของเธอครบกำหนด พอๆกับที่ผมเข้าวงการบันเทิงเพราะมีแมวมองมาแนะนำ เราเลยแยกย้ายกันกลับประเทศ แต่เราก็ติดต่อกันมาตลอด เรื่องของผมกับแอลฟาก็เป็นอย่างนี้แหละ
     
    #ห้องอาหาร
     
    หลังจากซึลฮวานให้ทงเฮไปตามคิบอม ก็หันมาคุยกับ2สาวที่นั่งฝั่งตรงข้าม
     
    “เป็นอย่างไงบ้าง แกรมมายังขี้เกียจเหมือนเดิมอยู่หรือป่าว”
     
    “ก็เหมือนๆเดิมแหละ แหะๆๆ” แกรมมาตอบพลางยิ้มแหย่ๆ
     
    “แล้วแอลฟาไปไหนละยังไม่เจอเลย” พูดจบซึลฮวานก็มองไปรอบๆร้าน
     
    “เดี๋ยวก็มาค่ะ โอป้า คงเดินตรวจร้านอยู่แหละ ชอบทำเป็นไม่สนใจแต่ก็ทำอย่างนี้ทุกครั้งเลย” บีตายิ้มเมื่อนึกถึงพี่สาวคนโตที่ทำตัวเหมือนรำคาญนู้นนี้ตลอดเวลา แต่ก็ยอมทำถ้าทำให้น้องๆสบายและปลอดภัย
     
    “ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไง พวกเรานี้ไม่เปลี่ยนกันเลยนะ” ซึลฮวานยิ้มให้ กับความรักกันของพี่และน้องบ้านนี้ คนพี่ก็ปากร้ายใจดี คนกลางก็ขี้บ่นแต่มีน้ำใจ ส่วนคนเล็กนี้ขี้เกียจและดูเฉยชาแต่พอเป็นเรื่องพี่ๆกลับยอมทำได้
     
    “ซึลฮวานฮยอง มาแล้วครับ” ทงเฮที่เดินมาพร้อมคิบอมกับแอลฟา ตะโกนเสียงดังจนคนในร้านหันมามอง
    ทำให้ทงเฮที่พึ่งรู้สึกตัวว่าเสียงดังไปหน่อยเลยหน้าแดงเพราะความอาย และเมื่อเดินมาถึงโต๊ะทงเฮก็รีบไปนั่งกับฮีชอลและทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้ทุกคนบนโต๊ะอาหารขำกับท่าทางของทงเฮ
     
    “ถ้ามากันครบแล้วเราก็กินกันเถอะค่ะ” บีตาพูดขึ้น หลังจากนั้นทุกคนก็เริ่มกินอาหารกันทันที
     
    A whole new world ~~~~~~ เสียงริงโทนดังขึ้น
     
    “ขอโทษนะ” แกรมมาลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารและเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูคนที่โทรมาคือ แจ็คกับจ็อบ 2พี่น้องที่ต้องไปอยู่ เกาหลี เพื่อเปลี่ยนตัวกับ Super junior ซึ่งสนิทกับ บีตาและแกรมมา
     
    “พี่จ็อบโทรมามีอะไรหรอ” แกรมมากรอกเสียงใส่โทรศัพท์ทันที
     
    “ทำไงดีอ่ะแกรมมา พี่เบื่อมากเลย พูดภาษาเกาหลีก็ไม่ได้ ออกไปไหนก็ลำบาก บลา~~~~” แกรมมาที่ฟังอยู่ก็ถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย
     
    “เฮ้ออ พี่ค่ะ ไปยังไม่ถึงวันก็บ่นขนาดนี้แล้ว แล้วนี้ต้องอยู่ตั้งสองเดือนนะ จะอยู่ได้ไหมค่ะ” แกรมมาพูดอย่างเหนื่อยใจ กับพี่ชายที่ดูเหมือนไม่ยอมโตสักที
     
    “ไม่ได้ แกรมมามาอยู่เป็นเพื่อนพี่ทีสินา~~~~” จ็อบเริ่มอ้อนเหมือนเด็กๆ
     
    “ไม่ได้ค่ะ แกรมมาต้องดูแลคนที่มาอยู่ที่นี่เหมือนกัน และอีกอย่างพี่จ็อบก็ไม่ได้อยู่คนเดียวสักหน่อยพี่แจ็คก็อยู่ อย่ามาอ้อนซะให้ยาก แกรมมาไปกินข้าวแหละแค่นี้นะค่ะ”
     
    “เดี๋ยว แกร.....” ยังไม่ทันที่จ็อบจะพูดอะไร แกรมมาก็รีบวางตัดปัญหาไปซะก่อน และเดินไปที่โต๊ะอาหารทันที
     
    “เฮ้ย!!! ทำไมอาหารหมดแล้วละ” แกรมมาที่เดินมาถึงโต๊ะก็ต้องตกใจเมื่ออาหารบนโต๊ะหายเกลี้ยงทั้งที่ออกไปไม่ถึง10นาทีด้วยซ้ำ
     
    “แหะๆๆ” ทุกคนบนโต๊ะหันมาหัวเราะแห้งๆให้กับแกรมมาที่พึ่งเดินมาที่โต๊ะ
     
    “เออ บีตาว่าเรารีบไปที่พักกันดีกว่านะ” บีตาลุกขึ้นบอกให้ทุกคนกลับ ก่อนหญิงสาวที่ยืนหน้าหงิกในตอนนี้จะโวยวาย
    เมื่อทุกคนที่ได้ยินที่บีตาพูดรีบลุกขึ้นจากโต๊ะไปขึ้นรถตู้กันทันที
     
    “ให้มันได้อย่างนี้สิ” แกรมมาเห็นทุกคนหนีไปหมดก็บ่นออกมาอย่างอดไม่ได้และรีบตามขึ้นรถไปทันที
     
    # บ้าน
     
    เมื่อรถเปิดประทุนคันสวยกับรถตู้อีก3คัน จอดสนิทในโรงจอดรถ
     
    “โหบ้านใหญ่จังเลย บีตา” ฮันคยองที่พึ่งลงจากรถตู้เดินมาคุยกับบีตาที่พึ่งลงมาจากรถเหมือนกัน ด้วยสำเนียงเกาหลีแปร่งๆ
     
    “แล้วพี่ฮันชอบหรือป่าว”
     
    “ก็ชอบนะสวยดี”
     
    “งั้นพี่ๆก็เข้าไปเก็บของในบ้านเลยนะ” ฮันคยองหันมามองอย่างงง
     
    “ก็บ้านหลังใหญ่นี้ ฉันให้พี่และก็เพื่อนๆของพี่อยู่กันอย่างไงละ ยังมาทำหน้างงอีกแหนะ” บีตาหันไปไปมองพี่ชายที่ทำหน้างงใส่
     
    “จริงหรอ แล้วบีตาจะอยู่ไหนละอยู่บ้านเดียวกันหรือป่าว”
     
    “เปล่าหรอก บีตานอนอีกหลังนะ แล้วไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นด้วย” ฮันคยองที่ได้ฟังทำหน้าเหมือนเสียดายนิดๆ
     
    “สองคนนั้นคุยอะไรกันอยู่ได้  รีบเข้าบ้านได้ไหมฉันร้อนนะ” ฮีชอลตะโกนออกมาอย่างเคืองๆเพราะตอนนี้เขาร้อนมากๆ
     
    “ก็เข้าสิค่ะ ใครฉุดคุณไว้ละ” แกรมมาที่ช่วยถือของเดินเข้าบ้าน แขวะชายหน้าสวยและเดินเข้าบ้านไป โดยที่ฮีชอลรีบเดินตามไป(หาเรื่อง)ในทันที
     
    “สงสัยพี่ฮีชอลเจอคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อก็คราวนี้แหละ” เยซองหันไปคุยกับเพื่อนๆที่พยักหน้ากันงึกๆ
     
    “เอาละค่ะทุกคน เข้าไปในบ้านได้เลยนะเดี๋ยว บีตาจะได้ชี้แจ้งเรื่องห้องพักของทุกคน แล้วก็งานด้วย” พี่ซึงฮยอนรีบไล่ให้เข้าไปในบ้านทันที
     
    “นี่!!!! เธอหยุดเดี๋ยวนี้นะ บอกไม่ได้ยินหรือไงเล่า” คิมฮีชอลเริ่มหงุดหงิดเมื่อคนตรงหน้าไม่ยอมหยุดเดิน แถมไม่ฟังเขาพูดอีกด้วย เขาเลยตะโกนเสียงดังเพื่อให้เธอหยุดและมันก็ได้ผล แกรมมาหยุดเอาของวาง และนั่งลงบนโซฟาทันที การกระทำของเธอยิ่งทำให้ฮีชอลเดือดยิ่งขึ้น
     
    “นี่เธอฉันโกรธเธอจริงๆนะ เด็กอะไรไม่มีมารยาท”
     
    “อ้าวคุณเรียกฉันหรอค่ะ ฉันไม่รู้นิค่ะ ก็เรียกเธอๆๆ แล้วฉันจะรู้ได้ไงว่าคุณเรียกฉัน” แกรมมาตอบฮีชอลด้วยหน้านิ่งๆ ฮีชอลกำลังจะตอบกลับแต่พี่ซึงฮวานมาห้ามไว้ซะก่อน
    “ฮีชอล พอได้แล้ว เราโตกว่าเขานะควบคุมอารมณ์หน่อย” ซึงฮวานเข้ามาพร้อมทุกคน และกล่าวเตือนฮีชอลด้วยเสียงเรียบพร้อมกับนั่งลงบนโซฟาด้านข้าง
     
    “พี่ฮีชอลค่ะ บีตาขอโทษแทนแกรมมาด้วยนะค่ะ แกรมมาเขาก็เป็นอย่างงี้แหละค่ะ อย่าโกรธเลยนะค่ะ บีตาขอร้องละค่ะ”บีตาที่เดินมาพร้อมฮันคยองกล่าวขอโทษพร้อมก้มหัวหงุดๆ เมื่อเห็นว่าเรื่องจะบานปลาย
     
    “ฮีชอลนายอย่าโกรธเลยนะ มานั่งกับฉันดีกว่า” ฮันคยองช่วยพูดอีกแรงพลางกวักมือเรียกฮีชอลให้มานั่งข้างตนเอง
     
    “ไม่ ฉันจะนั่งตรงนี้” ฮีชอลนั่งลงข้างแกรมมาและหันมายิ้มแสยะๆให้เธอ
     
    “นีคุณฉันอึดอัดอย่ามาเบียดได้ไหม”
     
    “ไม่” ฮีชอลยังคงขยับเบียดมากขึ้น หึ้ย ไอ้บ้าเอ๋ย แกรมมาคิดอยู่ในใจ
     
    เมื่อทุกคนเข้ามานั่งกันพร้อมเพรียงในห้องนั่งเล่นใหญ่แล้ว บีตาที่นั่งอยู่ระหว่างซึงฮยอนกับฮันคยองก็ลุกขึ้น
     
    “เอาละค่ะ ทุกคนในเมื่อมาพร้อมแล้ว ฉันจะแนะนำคนที่จะมาดูแลทุกคนและแบ่งกลุ่มกันนะค่ะ ฉันบีตา กันต์เจริญกิต อายุ22 (นับตามสากล) เป็นฝ่ายประสานงานและเป็นหัวหน้างานที่จะมาดูแลพวกคุณตลอดช่วงเวลาที่มาอยู่ประเทศไทย ฝากตัวด้วยนะค่ะ”
     
    “ฉันแอลฟา กันต์เจริญกิต อายุ24  ฝ่ายประชาสัมพันธ์และดูแลเรื่องส่วนตัวทุกอย่างค่ะ”
     
    “ฉันแกรมมา กันต์เจริญกิต อายุ 20ฝ่ายควบคุมงาน เสื้อผ้า สถานที่ และทุกอย่างที่เหลือทั้งหมดค่ะ”
     
    “และนอกจากพวกฉันแล้วยังจะมีทีมงานของGnnมาคอยดูแลงานของพวกคุณอีกนะค่ะ แต่ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวต้องการสิ่งของอย่างอื่นหรือไปไหนที่นอกเหนือจากงานให้บอกพี่แอลฟานะค่ะ เธอจะเป็นคนจัดการทุกอย่างให้พวกคุณ ส่วนเรื่องอาหารและที่อยู่ เราจะให้พวกคุณอยู่บ้านหลังนี้ จะมีแม่บ้านมาดูแลทำความสะอาดและทำกับข้าวให้นะค่ะ ถ้าขาดเหลืออะไรเรามีอินเตอร์คอมอยู่ในทุกห้องนะค่ะต่อเข้าหาแม่บ้านได้เลย หรือจะต่อไปยังบ้านที่พวกฉันอยู่ก็ได้นะค่ะ ส่วนเบอร์ภายในฉันให้คนจัดการแปะไว้ข้างอินเตอร์คอมเรียบร้อยแล้วนะค่ะ มีใครมีข้อสงสัยอะไรหรือป่าวค่ะ” บีตาที่กำลังชี้แจ้งรายละเอียดต่างๆถามขึ้น ทุกคนในห้องส่ายหน้าเป็นอันว่าเข้าใจกันหมดทุกคน
     
    “ถ้างั้นเดี๋ยวแบ่งกลุ่มเป็นสามกลุ่มเลยแล้วกันนะค่ะ เสร็จแล้วช่วยแนะนำตัวด้วยนะค่ะ” บีตาพูดจบทุกคนก็เริ่มจับกลุ่มกันทันที เมื่อจัดกลุ่มกันเรียบร้อย อีทึกก็ลุกขึ้นแนะนำตัวเป็นคนแรก
     
     
    “ปาร์ก จองซู เรียกว่าอีทึก อายุ26 เป็นลีเดอร์วง อยู่กลุ่ม3ครับ”
    “คิม ฮีชอล อายุ26 อยู่กลุ่ม3”
    “ฮันคยอง อายุ26 อยู่กลุ่ม2”
    “คิม จงอุน เรียกว่า เยซอง อายุ 25 อยู่กลุ่ม3”
    “คิม ยองอุน เรียกว่า คังอิน อายุ25 อยู่กลุ่ม2”
    “ชิน ดงฮี เรียกว่า ชินดง อายุ 24 อยู่กลุ่ม1”
     “อี ซองมิน อายุ 24 อยู่กลุ่ม 2”
    “อี ฮยอกแจ เรียกว่า อึนฮยอก อายุ23 อยู่กลุ่ม1”
    “อี ดงแฮ อายุ23 อยู่กลุ่ม1”
    “ชเว ซีวอน อายุ 22 อยู่กลุ่ม2”
    “คิม รยอวุค อายุ 21 อยู่กลุ่ม3”
    “คิม คิบอม อายุ 21 อยู่กลุ่ม1”
    “โจว คยูฮยอน อายุ 21 อยู่กลุ่ม 2”
     
    “งั้นเอาตามนี้เลยนะค่ะ เดี๋ยวเราก็เอาของขึ้นห้องนอนได้เลยนะค่ะ มีทั้งหมด6ห้องนอนนะค่ะ จะมี2ห้องที่นอนสามคนนะค่ะ ชั้น2มี5ห้องนอน ชั้นล่างอีก1ห้อง และนอกนั้นจะมีห้องไว้ให้ทุกคนทำกิจกรรมกันนะค่ะ มีห้องซ้อมเต้น ร้องเพลงและอื่นๆ ทางเราจัดเตรียมไว้หมดแล้ว ถ้าขาดอะไรบอกได้เลยนะค่ะถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้นพวกเราสามคนขอตัวกลับ ที่พักก่อนนะค่ะ เดี๋ยวอาหารเย็นจะตั้งตอน1ทุ่ม เหลือเวลาอีก 3ชั่วโมง เชิญทุกคนตามสบายเลยนะค่ะ” หลังจากสามสาวออกจากบ้านไป หนุ่มๆก็รีบขึ้นไปจัดของทันที
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×