"เฮ้ย! ไอ้ยู" เสียงเรียกของเพื่อนที่อยู่โต๊ะข้างๆดูเหมือนจะไม่ได้เข้าหูผมเลย สายตาของผมไม่ได้จับจ้องไปที่กระดานหรืออาจารย์ที่ยืนสอนอยู่หน้าห้อง แต่มันดันไปหยุดอยู่ข้างล่าง ตรงนั้น..
มีเด็กผู้หญิงคนนึงยืนอยู่และเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมพอดี ผมเหมือนโดนสะกด ไม่สามารถละสายตาจากเธอคนนั้นได้เลย แม้ใบหน้าเธอจะเรียบเฉยไร้อารมณ์ความรู้สึกใดๆ แต่เธอก็ยังเป็นคนที่สวยมากอยู่ดี ผมเผลอมองจนลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบกาย ลืมว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่
"เรียกไม่ได้ยินหรือไง!?"
จนโดนสะกิดที่หัวไหล่
"มะ..มีไรเหรอ?"
ผมถามแต่ไม่ได้มองคนสะกิดแม้แต่น้อย ยังเท้าคางมอง สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่เดิม
"มัวเหม่ออะไรอยู่ฮะ อิจิโนเสะ!"
"เฮือก!"
คนที่สะกิดผมไม่ใช่ใครอื่น อาจารย์ประจำคาบนั่นเอง ซวยแล้วสิ!
"หลังเลิกเรียนมาที่ห้องครูด้วย เหมือนจะมีเรื่องให้คนที่ไม่สนใจเรียนอย่างเธอทำน่ะนะ"
"คะ..ครับ!"
อาจารย์สาวยิ้มแสยะอย่างน่ากลัว ก่อนจะเดินไปสอนต่อ ผมนี่เหงื่อตกเลยครับ หันไปข้างๆก็เจอริวทาโร่ เพื่อนสนิทยิ้มแหยๆมาให้ พลางพึมพำจับใจความได้ว่า ไม่น่าเลย.. ผมเหลือบมองไปยังข้างล่างอาคารก่อนจะถอนหายใจออกมา เธอคนนั้นไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นแล้วสิ
"ฉันก็พอเข้าใจนะ ว่านายอาจจะเหนื่อยมากเกินไป"
ริวทาโร่พูดขึ้นขณะกินข้าวกลางวันไปด้วย
"พูดถึงเรื่องอะไรเหรอ?"
ผมถามออกไปอย่างงงๆ พลางดูดน้ำชาไปด้วย
"นายไม่ได้เล่นเกมมากไปเหรอ"
"ก็เปล่าหนิ.."
"งั้นทำไมถึงมาเหม่อในคาบได้ล่ะ" "เหม่อไม่ได้แปลว่าเล่นเกมมากไปซะหน่อยนะ" ผมตอบ "อีกอย่างฉันไม่ได้เหม่อด้วย!"
"ถ้างั้นนายมองอะไรอยู่?"
"กะ..ก็"
ผมอึกอักขึ้นมาซะอย่างนั้น
"ก็อะไร?"
ริวทาโร่มองมาที่ผมอย่างคาดคั้นพลางยืนหน้าเข้ามาใกล้เพื่อรอฟัง แถมปากก็ยังคงเคี้ยวขนมปังอยู่
"ก็แค่ผู้หญิงคนนึงแหละน่า ถอยไปได้แล้ว!"
ผมผลักหน้าเพื่อนให้ออกห่างๆ หมอนั่นยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นมาก่อนจะเอ่ยขึ้น
"โห..นี่นายมองสาวๆจนไม่เป็นอันเรียนเลยเหรอเนี่ย หายากแฮะ"
"มะ..ไม่ใช่ซักหน่อย!!"
ผมรีบปฏิเสธขึ้นมา รู้สึกว่าหน้าเริ่มร้อนๆแล้ว
"ฮ่ะๆ ยูคุงของเราเป็นหนุ่มแล้วน้าทุกคนน"
อยู่ดีๆมันก็ประกาศไปทั่วห้อง ทำเอาผมรีบดึงไว้แทบไม่ทัน
"อย่าไปแกล้งยูคุงเขานักสิ"
เสียงผู้หญิงดังขึ้นข้างหลังริวทาโร่ เธอเดินเข้ามาพร้อมกับดุริวทาโร่ไปด้วย
"ริวนี่ก็..ทำไรเป็นเด็กไปได้"
"อะไรมิซึกิ จะมาปกป้องหมอนี่ทำไม เป็นแฟนมันเหรอเธอน่ะ"
"ห้ะ!! จะ..จะบ้าเหรอ ฉันพูดเพราะยูคุงเป็นเพื่อนต่างหากเล่า!"
กลายเป็นมิซึกิเองที่ลนลานปฏิเสธ
"เป็นเพื่อนต้องห่วงมันมากขนาดนี้ป่ะ"
ริวทาโร่ยังคงต้อนถามมิซึกิให้เผยความจริงในใจออกมา
"กะ..ก็บอกแล้วไง ว่าไม่ใช่อย่างนั้นน่ะ!" ผมได้แต่ยืนมองสองคนนั้นโต้เถียงกันเรื่องตัวเอง นี่ผมเป็นคนนอกหรือเปล่าเนี่ย
"หยุดได้แล้วน่าทั้งสองคน"
ผมพูดขัดขึ้น
"ยูคุง?"
มิซึกิเดินมาหยุดข้างๆ ผม
"นายไม่ได้กำลังมองสาวที่ไหนอยู่จริงหรือเปล่า?"
อยู่ๆเธอก็ถามขึ้นมา พร้อมยื่นหน้ามาจ้องจับผิดผม ทำเอาผมแทบจะสำลักน้ำชา
"ปะ..เปล่า"
ผมเอ่ยอย่างตกใจ เขยิบตัวถอยห่างออกมา
"ยูมันรำคาญเธอนะ มิซึกิ เลิกทำตัวเป็นแฟนมันได้แล้ว"
ริวทาโร่พูดขึ้น ทำเอามิซึกิหน้าขึ้นสี
"ห้ะ!? นายพูดอะไรน่ะริว"
เธอเถียงกลับทันควัน เดินไปหยุดอยู่หน้าริวทาโร่ ทำสีหน้าไม่พอใจใส่
"ก็เรื่องจริงหนิ เลิกทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของมันได้แล้ว!"
"ฉันไม่ได้ทำแบบนั้นนะ!"
สงครามประสาทเริ่มก่อตัวขึ้นมาอีกรอบ
"ฉะ..ฉันไปซื้อน้ำนะ"
ผมบอกก่อนจะรีบเดินออกมาเลย ปล่อยให้สองคนนั้นคุย(?)กันไป เห็นทะเลาะกันแบบนั้นแต่สองคนนั้นก็ดูสนิทกันดีนะ ขณะที่ผมเดินไปที่ตู้ขายน้ำอัตโนมัติก็ดันคิดถึงใบหน้าของเด็กสาวคนนั้นขึ้นมาอีก เธอเป็นผู้หญิงที่หน้าตาสะสวยมาก แถมผมยังคุ้นเคยอย่างประหลาดอีก แต่เด็กคนนั้นน่าจะพึ่งย้ายมาแน่ๆเพราะไม่เคยเห็นเธอในโรงเรียนนี้มาก่อน ถ้าหน้าตาดีขนาดนั้นคงเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชายหลายคนแน่ๆ เอ๊ะ? แล้วทำไมผมต้องมาคิดถึงเรื่องของเธอด้วยล่ะเนี่ย ผมก้มลงหยิบกระป๋องน้ำขึ้นมาถือก่อนจะเดินกลับ
"อ๊ะ!!"
เพราะมัวแต่คิดอะไรเพลินๆผมจึงเดินไปชนคนที่เดินสวนมาพอดี ข้าวของของเธอหล่นกระจายเต็มพื้น
"ขะ..ขอโทษครับ"
ผมพูดก่อนจะช่วยเธอเก็บสมุดขึ้นมาจากพื้นและส่งให้เธอ และเมื่อเห็นใบหน้าเธอชัดเต็มตาผมก็ต้องตกใจ ไม่บอกก็รู้ใช่มั้ยครับ เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าผมตรงนี้ก็คือเด็กผู้หญิงที่ผมมองจากบนอาคารเรียนจนโดนอาจารย์ใช้งานนั่นเอง
"ขอบใจ"
เธอพูดจบก็เดินจากไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย ผมได้แต่มองแผ่นหลังที่เคลื่อนไกลออกไปด้วยความตกตะลึง ใช่เธอคนนั้นจริงๆด้วย! เมื่อกี้ใส่โบว์สีแดงสินะ แสดงว่าอยู่ปีหนึ่ง(ร.ร.ผม สีแดงคือปีหนึ่ง สีน้ำเงินปีสอง สีเขียวก็ปีสาม) ทำไมกันนะ ผมรู้สึกแปลกๆขึ้นมา เหมือนว่าตัวผมจะมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเธอคนนั้น
ผมคงโทษใครอื่นไม่ได้นอกจากตัวของผมเอง ที่ดันไปเผลอจ้องมองเธอ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นโรคจิตยังไงชอบกล คิดไปก็ทำความสะอาดห้องทำงานของอาจารย์สาวหน้าโหดไปด้วย
"ยูคุง.."
เสียงเรียกดังขึ้นจากหน้าประตูห้อง ผมเงยหน้าไปมองต้นเสียงนั้น
"มิซึกิ?"
ผมที่กำลังเก็บของอยู่หันไปมองเธออย่างตกใจปนงงๆว่าเธอมาอยู่ที่นี่ทำไม
"มีอะไรเหรอ"
"อ๊ะ..คือว่า"
เธอเดินเข้ามาในห้องแล้วหยุดตรงหน้าผม
"ขอโทษนะ..ที่ฉันยุ่งเรื่องนายมากเกินไปน่ะ"
เธอก้มหน้าลงต่ำ น้ำเสียงดูสำนึกผิดมาก
"ไม่หรอก ต้องขอบคุณเธอมากกว่านะ ที่เป็นห่วงฉันน่ะ"
ผมพูดยิ้มๆ มิซึกิเงยหน้าขึ้นมามองก่อนจะคลายยิ้มออกมา
"ฉะ..ฉันก็แค่ทำตามหน้าที่ของเพื่อนเองนะ"
"ยังไงก็ขอบใจเธอมากนะ มิซึกิ"
ผมบอกพลางคิดในใจว่า เธอช่างเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ คอยเป็นห่วงผมกับริวทาโร่อยู่เสมอๆ
"อื้มจ้ะ~งั้นฉันช่วยทำนะ"
อีกฝั่งนึงของประตู ริวทาโร่ได้ยินที่ทั้งสองคนคุยกัน และได้เห็นสีหน้าดีใจของมิซึกิ ทำให้เขารู้สึกเจ็บใจขึ้นมา เขาตัดสินใจเดินห่างจากห้องนั้นมา ไม่อยากจะเห็นสีหน้านั้น สีหน้าที่มีให้เฉพาะกับยูคนเดียวเท่านั้น
ผมกำลังเดินกลับบ้านกับมิซึกิและริวทาโร่ ว่าแต่ทำไมริวดูเหมือนจะยังโกรธอยู่แฮะ ทั้งๆที่ตอนเรียนคาบบ่ายก็เห็นว่าดูเหมือนจะดีกันแล้วนี่นา ปกติเห็นทะเลาะกันแปบเดียวก็หายแท้ๆ อีกอย่างเรื่องที่ทะเลาะกันก็เป็นเรื่องของผมเองด้วย
"ริว นายยังไม่หายโกรธมิซึกิอีกเหรอ?"
ผมถามให้ได้ยินกันแค่สองคน เพราะมิซึกิไปซื้อของกินอยู่ พวกเราเลยรออยู่ที่หน้าร้านข้างนอก
"ฉันไม่ได้โกรธอะไรตั้งแต่แรกแล้วล่ะ..ก็แค่แกล้งยัยนั่นเล่นเฉยๆ"
ริวบอก เขาเหม่อมองออกไปยังถนนที่มีรถมากมายแล่นผ่าน
"นายบอกแบบนั้นฉันก็ค่อยโล่งใจหน่อย ไม่ชอบเวลาที่พวกนายทะเลาะกันเลย"
"อืม..ว่าแต่นายเหอะ"
ผมหันไปมองงงๆ
"อะไรเหรอ"
"นายมองใครอยู่งั้นเหรอ ฉันไม่เคยเห็นนายเป็นแบบนั้นมาก่อนเลย"
คำถามของริวทำเอาผมเกือบจะสำลักน้ำออกมา ทำไมถึงสนใจเรื่องนี้กันนักนะ แค่มองผู้หญิงมันแปลกขนาดนั้นเลยเหรอ?
"ถ้าเป็นคนอื่นมันก็ไม่แปลกหรอกนะ แต่นี่เป็นนายไงถึงแปลก"
ริวพูดเหมือนอ่านใจผมออก
"แปลกยังไงเหรอ"
"ก็ยูคุงของเราไม่เคยชายตามองสาวที่ไหนเลยหนิ มีจดหมายรักเต็มล็อกเกอร์ถึงนายจะใจดีรักษาน้ำใจผู้หญิงพวกนั้นไว้ แต่นายก็ไม่เคยรับรักใครเลย.."
ริวทาโร่ร่ายยาวพลางทำหน้าล้อเลียนผม มันก็จริงอย่างที่หมอนี่บอก ผมไม่เคยจะสนใจผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย มีเธอคนนั้นแหละคนแรก
"ไม่รู้ดิ รู้สึกว่าเด็กคนนั้นไม่เหมือนกับคนอื่นๆน่ะ"
ผมตอบเสียงเบา แต่ไอ้ริวก็ยังได้ยินแถมแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์อีกด้วย
"แล้วน้องคนนั้นชื่อไรล่ะ? ได้คุยกันมั่งหรือยัง"
"มะ..ไม่รู้อ่ะสิ พึ่งจะเคยเห็นวันนี้เอง"
ผมตอบเสียงอ้อมแอ้ม รู้สึกหน้าเริ่มร้อนๆ
"โห่ เซ็งว่ะ แล้วนายจะหน้าแดงทำซากไรฟะเนี่ย!?"
"ห้ะ!! ฉันเปล่านะ"
ผมลูบหน้าตัวเอง
"ไอ้ไก่อ่อนเอ๊ยย แล้วนายจะปล่อยน้องเขาไปงี้เหรอวะ"
"อ๊ะ..ริว นั่น!!"
ผมรีบชี้มือไปข้างหลังริว เด็กผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว!! เธอกำลังซื้อของอยู่กับเพื่อนของเธอ ห่างจากร้านนี้สองสามร้าน
"เห..น้องคนนั้นเองเหรอ หน้าตาน่ารักมากเลยนะเนี่ย เอ้า! ไปหาเขาซะสิ"
อยู่ดีๆริวก็ผลักผมไปข้างหน้า ผมเซถลาแทบจะไปชนกับเธออยู่แล้ว ดีที่หยุดไว้ทัน
"รุ่นพี่มีอะไรงั้นเหรอคะ?"
เพื่อนคนนึงของเธอถามขึ้นมาก่อนที่ผมจะทันพูดอะไร ส่วนเธอก็มองหน้าผมนิ่งๆไม่ได้พูดอะไร
"อะ..เอ่อ เปล่าครับๆ"
ผมตอบเขินๆก่อนจะรีบเดินกลับบ้าน เด็กสองคนนั้นยืนมองตามอย่างงงๆ
"คนรู้จักเธอเหรอ ยูนะ"
เพื่อนเธอถามขึ้น
"เปล่าหรอก"
เธอบอกก่อนจะแกะอมยิ้มขึ้นมาอมโดยไม่ได้สนใจมากนัก ส่วนด้านริวทาโร่ที่คอยจับตามองยูอยู่ตลอดก็ถอนหายใจเซ็งๆพลางบ่นไปด้วย
"ให้ตายสิยู นายนี่มัน..!"
พอรู้สึกตัวมิซึกิก็มายืนข้างๆพร้อมกับขนมหน้าตาน่าทานที่คุ้มค่ากับเวลารอ
"ยูคุงไปไหนเหรอ"
เขาคิดไว้แล้วล่ะว่าเธอต้องถามหาหมอนั่นก่อนเป็นอย่างแรก ถึงจะเจ็บใจแต่เขาก็ทำได้แค่นิ่งๆไว้เท่านั้น
"กลับไปก่อนแล้วล่ะ สงสัยมีธุระน่ะ"
เขาเลือกที่จะไม่บอกความจริงกับเธอ
"อย่างนั้นเองเหรอ"
สีหน้าเธอหมองลงนิดนึงก่อนจะยิ้มให้เขาเหมือนเช่นทุกครั้ง ใช่..เขาไม่อยากทำร้ายรอยยิ้มนั้น ถ้าพูดความจริงไปเธออาจจะเศร้ามากกว่านี้ก็ได้ อย่าให้เธอรู้จะดีกว่าเรื่องที่ว่ายูมันไม่เคยมองเธอเกินไปกว่าเพื่อนเลย
"งั้นเดี๋ยวฉันไปส่งที่บ้านนะ"
เขาเสนอขึ้น
"ขอบคุณนะ"
เธอตอบรับพร้อมรอยยิ้มหวาน ทำให้หัวใจของริวทาโร่พองโตขึ้นมา วันนั้นเขากลับบ้านไปก็แอบยิ้มอยู่คนเดียวทั้งคืน ถึงแม้ว่ามิซึกิจะเห็นเป็นเรื่องปกติที่มีเขาไปส่งบ้านอยู่บ่อยๆก็ตาม
"กลับมาแล้วครับ"
ผมวางรองเท้าไว้บนชั้นก่อนจะเดินเข้าห้องนั่งเล่น วางกระเป๋าไว้บนโซฟาก่อนจะเอนหลังพิงตาม เฮ้อ..ให้ตายสิ เหนื่อยชะมัดเลย หลังจากตอนนั้นผมก็รีบวิ่งกลับบ้านเลย ไอ้ริวก็ดันผลักมาได้เล่นเอาทำตัวไม่ถูกเลย เธอจะคิดว่าผมเป็นคนเพี้ยนไปแล้วหรือเปล่าเนี่ยยย
"กลับมาแล้วเหรอจ๊ะยูคุงง~"
แม่ของผมเดินออกมาทั้งๆที่ใส่ผ้ากันเปื้อนและยังถือตะหลิวในมือ
"เอ่อ..แม่ครับ ผมมีลูกพี่ลูกน้องที่เป็นผู้หญิงหรือเปล่า?"
ผมถามคำถามที่คาใจออกไป เพราะรู้สึกเหมือนจะเคยเห็นหน้าเธอคนนั้นมาก่อน เลยคิดว่าอาจจะเป็นญาติๆกันก็ได้
"อืม..ก็น่าจะมีนะ ทำไมเหรอจ๊ะ?"
"เอ้อ..เปล่าหรอกครับ ผมไปอาบน้ำนะ"
ผมบอกก่อนจะลุกไปอาบน้ำ ทิ้งให้สึโบมิยืนงงๆกับลูกชายตัวเอง เธอส่ายหัวยิ้มๆก่อนจะเดินเข้าครัวไปทำอาหารต่อ
ขณะที่อาบน้ำหน้าของเด็กสาวคนนั้นก็ยังลอยมาอยู่ในห้วงความคิดอีก หรือว่าผมจะชอบเธอเข้าแล้วน่ะ?
"บ้าไปใหญ่แล้วไอ้ยู!"
ผมบอกกับตัวเองแล้วเอาหน้าจุ่มลงในอ่างอาบน้ำที่ผมแช่อยู่ เพื่อให้สลัดเรื่องของเธอทิ้งไป
ติงต่อง~
ใครมานะ..? แต่คงไม่เกี่ยวกับผมอยู่แล้วล่ะนะ
"มาถึงเร็วจังน้าา ว่าจะไปรับอยู่พอดีเลยจ้ะ"
ได้ยินเสียงสดใสของแม่พูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี
"สวัสดีค่ะ คุณสึโบมิ"
เสียงผู้หญิงที่ตอบกลับมาแลดูคุ้นๆหู บางทีผมควรเล่นเกมให้น้อยลงอย่างที่ริวบอกจะดีกว่า ตอนนี้สมองชักไม่ปกติแล้วล่ะ แค่เสียงก็ดันไปนึกถึงเธอขึ้นมาอีกแล้ว
"แหม..เรียกว่าน้าก็ได้จ้ะ เดี๋ยวเราก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ"
ครอบครัวเดียวกันเหรอ มันหมายความว่าไงอ่ะ? ผมแต่งตัวไปก็ฟังบทสนทนาของแม่กับแขกที่มาที่บ้านไปด้วย
"แค่ชั่วคราวน่ะค่ะ"
"โหยย..ยูนะจังเย็นชาจังเลยอ่าาา น้าให้อยู่ไปตลอดก็ยังได้นะ"
เอ๋? ทำไมมันฟังดูแปลกๆแล้วแฮะ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร? แล้วทำไมถึงจะมาอยู่บ้านผมกันล่ะ ผมแนบหูติดกับประตูเพื่อแอบฟัง แต่เสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้นซะก่อน ทำเอาผมสะดุ้ง
"แอบฟังอะไรไม่ทราบ"
ผมจึงจำเป็นต้องเปิดประตูห้องรับแขกเข้าไปพลางยิ้มแหยๆ เห็นแม่ทำหน้างงๆใส่ผมก่อนจะเอ่ยขึ้น
"มาพอดีเลยยูคุง นี่ยูนะจังนะ เป็นลูกสาวของเพื่อนแม่น่ะ"
แม่ยิ้มหวานแนะนำเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ และพอผมเห็นก็ต้องตาค้าง
"อะ..อะ"
ผมชี้ไปที่เธอด้วยความตกใจสุดขีด เด็กคนนั้นอีกแล้ว! หรือว่าผมจะตาฝาดไปกันแน่
"ธะ..เธอมาทำอะไรที่นี่น่ะ!?"
ผมร้องโวยวายอย่างตกใจ แค่นึกถึงก็มาเจอกันง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอ!?
"นายอีกแล้วเหรอ แล้วเป็นบ้าอะไรของนาย ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันแล้วนะ"
เธอพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย
"เดี๋ยวนะจ๊ะ พวกหนูรู้จักกันมาก่อนเหรอจ๊ะเนี่ย"
แม่ผมถามขัดขึ้นอย่างแปลกใจ
"ไม่ได้รู้จักค่ะ แค่เคยเจอกันมาก่อนแล้วก็เท่านั้น"
เธอตอบ ใบหน้าที่เรียบเฉยนั้นไม่แสดงถึงอารมณ์ใดๆเลย
"รู้งี้น่าจะให้ยูคุงพามานะ มาเองคงหลงหลายรอบเลยสินะ"
"หนูไม่หลงหรอกค่ะ อีกอย่างบ้านหลังนี้ก็หาเจอง่ายดี หนูไม่ได้เดือดร้อนอะไรหรอก"
"เอ่อ..แม่ครับ น้องคนนี้?"
ผมถามขึ้นเพื่อไขข้อข้องใจของตัวเอง พลางเหลือบมองเธอนิดนึง
"ยูนะจังไงจ๊ะ จะมาอยู่บ้านเราตั้งแต่วันนี้นะ ฝากดูแลน้องด้วยนะจ๊ะ"
นะ..นี่มันเรื่องจริงเหรอเนี่ย!!? ผมยังคงยืนเอ๋ออยู่แบบนั้น ผมไม่เคยอยู่กับผู้หญิงคนอื่นมาก่อนเลยนะ
"ยูคุงคงไม่ว่าอะไรใช่มั้ย?"
อยู่ดีๆแม่ก็หันมาถามความเห็นผม
"เอ้อ..ครับ นั่นมันก็การตัดสินใจของแม่หนิ ผมไม่ว่าอะไรหรอก"
"งั้นก็ช่วยแนะนำอะไรหลายๆอย่างให้ยูนะจังด้วยนะ"
"ครับ"
"อ๊ะ! ลืมไปเลยย แม่ว่าจะไปซื้อของน่ะ ฝากดูแลยูนะจังด้วยนะ~"
ผมล่ะนับถือแม่จริงๆเลย ไม่ว่าตอนไหนก็ยิ้มแย้มแจ่มใสได้ตลอด ต่างจากเด็กผู้หญิงหน้านิ่งที่อยู่ข้างๆผมมากเลย อีกอย่างแม่จะไม่ให้เวลาผมหายตกใจก่อนเหรอครับ!? อยู่ดีๆก็มีสาวสวยจะย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเนี่ย
"ฝากซื้อไรกันมั้ยเอ่ย?"
ก่อนจะเปิดประตูออกไปก็หันมาถามพวกผมซะก่อน
"คุณสึโบมิ หนูอยากฝากซื้ออมยิ้มรสนี้หน่อยน่ะค่ะ"
ยูนะพูดก่อนจะหยิบเปลือกอมยิ้มพร้อมกับเงินส่งให้ แต่แม่ผมรับมาแค่เปลือกขนมเท่านั้น
"น้าออกให้เองจ้ะ แต่มีข้อแลกเปลี่ยนนะ"
"คะ?"
ยูนะทำหน้างงๆ
"แค่เรียกว่าน้าก็พอแล้วล่ะ"
"ค่ะ คุณน้า"
ยูนะทำตามอย่างว่าง่าย
"แหมน่ารักจริงๆเลยยย"
แม่ผมเดินเข้ามาสวมกอดเธออย่างเอ็นดู ผมได้แต่ยืนมอง ตกลงว่าใครเป็นลูกแม่กันแน่นะ แต่เอาเหอะ แม่น่ะชอบเด็กผู้หญิงจะตายไป
"ยูคุงเอาอะไรมั้ยจ๊ะ?"
แม่หันมาถามผมบ้าง สงสัยกลัวผมจะน้อยใจสินะ เป็นแม่ที่ดีสำหรับผมมากเลย
"ผมไม่เอาหรอกครับ ไปดีมาดีนะครับ"
"ไปดีมาดีค่ะ"
เมื่อแม่เดินออกไปจากบ้านแล้ว ยูนะก็เดินขึ้นบันไดไปโดยไม่พูดอะไร ว่าแต่ยัยนี่รู้จักห้องตัวเองแล้วเหรอ
"เดี๋ยวสิ!"
ผมคว้าข้อมือเธอเอาไว้ก่อน
"มีอะไร"
เธอหันมามองผมนิดนึงก่อนจะสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของผม
"คือว่านะ..ไหนๆ เธอก็จะมาอยู่ที่นี่แล้ว ไม่คิดจะทำความรู้จักกันหน่อยเหรอ?"
ผมเกาหัวแก้เขิน ปกติผมไม่ใช่คนที่จะมาชวนเด็กผู้หญิงพูดคุยแบบนี้เลย กับมิซึกิก็เพราะเป็นเพื่อนเลยไม่ได้คิดอะไร
เธอจ้องหน้าผมก่อนจะเอ่ยเรียบๆ
"นานาเสะ ยูนะ อยู่ปีหนึ่ง ขอฝากตัวซักพักละกัน"
"ฉันอิจิโนเสะ ยู ปีสาม ถึงยังไงฉันก็เป็นพี่เธอนะตอนที่อยู่ที่นี่ ถ้ามีอะไรก็มาบอกฉันได้นะ"
"อืม ขอบใจ"
"เอ่อ..แล้วเธอทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?"
ผมพยายามชวนเธอคุย
"เอาเป็นว่าฉันจะอยู่ที่นี่ไม่นานหรอก ไม่ต้องเป็นห่วง"
"ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นนะ!"
"หืม?"
ยูนะเอียงคอมองผมงงๆ
"ไม่เป็นไรถ้าเธอไม่อยากบอก เดี๋ยวฉัน.."
ผมพูดไม่ทันจบประโยคเธอก็พูดแทรกขึ้น
"ไปถามคุณสึโบมิเอาเองละกัน เพราะฉันขี้เกียจเล่าน่ะ"
"อ่อโอเค..แล้วเธอ"
"ยูนะ"
"ห้ะ?"
"ชื่อของฉันคือยูนะไม่ใช่เธอ"
"ยะ..ยูนะ"
ผมรู้สึกว่าคำพูดมันตะกุกตะกักขึ้นมา อาจเป็นเพราะผมไม่ค่อยได้เรียกชื่อจริงผู้หญิงซักเท่าไหร่นัก
"อืม..ฝากตัวด้วยนะยู ฉันไปนะ"
พูดจบเธอก็เดินขึ้นห้องไป โดยที่ผมไม่ได้เรียกไว้อีก คือที่จริงผมกำลังยืนค้างกับประโยคสุดท้ายของเธอน่ะครับ ก็เธอเรียกชื่อจริงผมหนิ ทั้งๆที่พึ่งเคยเจอกันวันแรกแท้ๆ แต่ผมไม่ได้อะไรหรอกนะ แค่รู้สึกดีใจแปลกๆขึ้นมา แถมใจยังเต้นแปลกๆอีก
ผมเดินไปนั่งที่โซฟาในห้องนั่งเล่น พลางกดรีโมทเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ จะว่าไปแล้วนี่ผมจะมีน้องสาวกับเขาแล้วสินะเนี่ย ถึงจะแค่ชั่วคราวก็เถอะ แต่ผมยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเธอเลยนอกไปจากที่เป็นลูกสาวของเพื่อนแม่ แถมเธอยังหน้านิ่งสุดๆจนอ่านความคิดไม่ออกเลย หรือว่าบางทีเธออาจจะมีเรื่องอะไรบางอย่างที่ทำให้กลายเป็นแบบนั้นก็ได้ ในเมื่อตอนนี้ผมเป็นพี่ชายของยัยนั่นอยู่ ผมก็มีสิทธิที่จะรู้ไม่ใช่เหรอ ดูท่าเธอคงไม่ยอมบอกอะไรผมแน่ แค่คุยกันยังยากเลยด้วยซ้ำ แต่จะให้ปล่อยๆไปโดยไม่สนใจก็ไม่ได้ ผมไม่ได้ใจร้ายขนาดที่จะไม่สนใจคนที่กำลังมีเรื่องทุกข์(?)ซะด้วยสิ
เอาล่ะ! นานาเสะ ยูนะ ไม่ว่าเธอกำลังซ่อนอะไรเอาไว้ในใจ ผมจะเป็นคนเอาความรู้สึกของเธอกลับมาเอง
"ยู.."
"ว้ากกก"
ผมที่กำลังเพ้อเจ้ออยู่คนเดียวต้องสะดุ้งตกจากโซฟาเมื่อมีเสียงดังขึ้นข้างหลัง
"ลุกขึ้นมาได้แล้ว"
ยูนะจับคอเสื้อผมให้เงยหน้ามองเธอชัดๆ ผมก็ค้างสิครับ
"มะ..มีอะไรหรือเปล่า"
"หลังกินข้าวมาที่ห้องฉันหน่อย"
"เอ๊ะ?"
เธอปล่อยคอเสื้อผมก่อนจะเดินกลับขึ้นห้องไป ทิ้งให้ผมนั่งเอ๋ออยู่คนเดียว
ตอนนี้ผมยืนอยู่หน้าห้องของยูนะแบบงงๆและสับสน ไม่กล้าจะเคาะประตูเรียกเลย ไอ้ที่ว่าให้มาหาที่ห้องหลังกินข้าวนี่เธอจะให้ผมทำอะไรกันแน่นะ ไม่กล้าเข้าไปเลยแฮะ
"จะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานมั้ย?"
เสียงเธอดังขึ้นจากประตูด้านหน้า ทำเอาผมสะดุ้ง
"อะ..ครับ!"
ดันเผลอพูดสุภาพใส่ซะงั้น ผมค่อยๆเปิดประตูเข้าไปช้าๆ ก่อนจะหันไปมองรอบๆห้องที่จัดไว้อย่างเรียบร้อยและสะอาดตา เวลาแค่แปบเดียวเธอจัดห้องเสร็จเร็วจังแฮะ จะว่าไปพึ่งจะเคยเข้าห้องผู้หญิงครั้งแรกเลย ประหม่าจังเลย ผมนั่งเกร็งอยู่บนพื้นห้อง
"มะ..มีไรเหรอ"
ถามออกไปด้วยเสียงสั่นๆ
"มาตรงนี้"
ยูนะบอกเสียงเรียบชี้ไปข้างๆตัวเธอ ผมจึงเดินเข้าไปหาอย่างกล้าๆกลัวๆเธอจะมีอะไรกับคนที่พึ่งเจอกันอย่างผมงั้นเหรอ หรือว่าจะมีเรื่องให้ช่วยกันนะ
"อ่ะนี่!"
อยู่ดีๆเธอก็ส่งกล่องลัง 2 กล่องใหญ่ให้ผมก่อนจะชี้นิ้วไปบนตู้เสื้อผ้าที่ตั้งอยู่ข้างหน้าผม อ้อ..ผมนึกได้ทันทีว่าตัวเองต้องทำอะไรต่อ ผมจึงวางกล่องไว้ข้างบนตู้นั้น
"ขอบใจ"
เธอบอกสั้นๆก่อนจะไปนั่งที่เก้าอี้ริมหน้าต่าง
"แล้วให้ช่วยอะไรอีกมั้ย"
"อืม..งั้นนายยังพอมีเวลามั้ยล่ะ?"
"ถ้าตอนนี้ก็ว่างอยู่อ่ะนะ"
"งั้นช่วยฉันจัดของหน่อยได้มั้ย ยังเหลืออีกนิดหน่อยน่ะ"
ผมที่จ้องมองปฏิกิริยาอีกฝ่ายอยู่เมื่อเห็นใบหน้าสวยๆนั่นก็ปฏิเสธไม่ลง เป็นใครเขาก็ต้องทำแบบผมอยู่แล้วล่ะ
"อื้ม"
ผมกับยูนะแยกย้ายกันจัดของอยู่คนละมุม
"เธอชอบอ่านนิยายด้วยเหรอ"
ผมหาเรื่องชวนคุยกับเธอพลางจัดหนังสือเข้าชั้นไปด้วย
"ใช่ หนังสือพวกนี้ดีมากเลย มันทำให้ฉันเหมือนไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว"
ถึงใบหน้าเธอจะเรียบเฉยไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมา ผมก็ยังสัมผัสได้ถึงความโดดเดี่ยว ความเศร้าของเธอ
"เธอน่ะไม่ได้ตัวคนเดียวหรอกนะ.."
"เอ๊ะ!"
เธอหันมามองผมงงๆ
"อย่างน้อยตอนนี้เธอก็ยังมีฉัน แล้วก็แม่ด้วย"
ผมพูดด้วยใบหน้าจริงจัง หวังจะช่วยปลอบใจให้เธอดีขึ้นบ้างซักนิดก็ยังดี
"..."
ยูนะจ้องหน้าผมนิ่งๆไม่ได้ตอบอะไร
"อ่า..ฉันคงยุ่งเรื่องของเธอมากเกินไป โทษทีนะ"
ผมพูดขึ้นเมื่อนึกได้ว่าผมมันก็แค่คนนอก
"ไม่หรอก นั่นมันก็ข้อดีของนายหนิ การที่เห็นคนอื่นลำบากแล้วต้องเข้าไปช่วยน่ะ นั่นน่ะ..."
รู้สึกเขินๆแฮะ เธอชมเราด้วย ผมตั้งใจฟังเธอพูดต่อ
"?"
"ฉันน่ะชอบนะ"
"ห้ะ!"
ผมเผลอร้องออกมาอย่างตกใจ รู้สึกหน้าเริ่มร้อนขึ้นมา
"จะตกใจทำไม ฉันหมายถึงนิสัยของนายต่างหาก"
"อะ..ใช่ นิสัยสินะ ฮ่ะๆๆ"
ผมหัวเราะกลบเกลื่อนความคิดตัวเองที่คิดไปไกล
"เอ้อกล่องนี้เก็บตรงไหนน่ะ"
"อ๊ะนั่นมัน!"
เมื่อผมเปิดกล่องนั้นดูก็เห็นชุดชั้นในอยู่เต็มกล่อง ผมก็เหวอสิครับ
"อุ่ก!"
และผมก็โดนฝ่ามือเรียวนั่นฟาดมาที่ใบหน้าซีกซ้ายอย่างจัง เจ็บชะมัด!
"ไอ้บ้าาา โรคจิตที่สุด!!"
"ฉะ..ฉันเปล่านะ"
ผมลูบแก้มตัวเองๆที่มีรอยมือประทับอยู่ เอ๊ะ..แต่ว่าเมื้อกี้ยัยนี่แสดงสีหน้าโกรธปนอายออกมานี่นา
"เมื่อกี้หน้าเธอ..?"
ผมถามเบาๆอย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก
"อะไรล่ะ"
เธอถามกลับห้วนๆ
"เปล่าๆ เธอยังมีอะไรให้ช่วยอีกมั้ย"
ผมเปลี่ยนเรื่อง บางทีผมอาจจะตาฝาดไปเองก็ได้
"ไม่มีไรแล้วล่ะ นายกลับไปได้ละ"
"โอเค ฝันดีนะ"
ผมพูดจบก็เปิดประตูออกจากห้องไป เพราะเห็นว่าผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ด้วยกันสองต่อสองในห้องมันไม่ค่อยดีนัก ถึงแม้ว่าผมไม่คิดจะทำอะไรเธอเลยก็เถอะ อีกอย่างเธอก็เป็นน้องสาวผมอยู่อ่ะนะตอนนี้
"ฝันดี"
ยูนะพึมพำเบาๆคนเดียว ก่อนจะเตรียมตัวจัดของเพื่อไปเรียนในวันพรุ่งนี้
จบตอนแรกกก กว่าจะจบ T^T รู้สึกจะสั้นไปหน่อยด้วยสิ ตอนหน้าจะพยายามให้ยาวขึ้นกว่านี้นะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน้าาา ><
ความคิดเห็น