ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    :+:+:ปิ๊งรักนาย เจ้าชายยากูซ่า:+:+:

    ลำดับตอนที่ #5 : {BL@cK[G]u@Rd} - เพราะนาย...

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 48


    ----อ่านะ คอนนิจิวะครับผู้อ่านทุกทาน หลายคนอาจจายังไม่ได้อ่านเรื่องแรกเลยยังไม่รู้จักเราสินะ แนะนำตัวเปิเตอนที่ห้าหน่อยละกัน เราชื่อเล่นจริงๆ ว่าแพรนะครับ อายุ 14 ปี ใครอยากคุยกับกระผมหรือติชมผลงานก็บอกได้ที่ C O M M E N T นะครับ หรือคุยที่เมลเลยก็ได้ จาขอบคุณทุกท่านที่ติดตามผลงานกันมานะครับ บ๋ายบาย---- Osaki[โปสเตอร์อาราชิรอแม่ด้วยน้า ^^\"]



        คาซาม่าพาฉันและพรรคพวกลงมาที่ห้องโรงยิม ซึ่งตอนนี้มีพวกเชียร์ลีดส์เดอร์ของโรงเรียนกำลังซ้อมกันอยู่



        “นี่เธอพาฉันมาดูเขาซ้อมเชียร์ลีดส์เดอร์กันทำไมเหรอ ฉันไม่ได้อยากดูสักหน่อย”



        “จะบ้าเหรอ นึกว่าอารมณ์นี้ฉันอยากจะดูยัยหุ่นขี้ก้างพวกนี้ซ้อมเชียร์กันรึไง มานี่สิฉันจะพาไปห้องแต่งตัว”



        เขาลากฉันมาที่ห้องแต่งตัวของชมรมเชียร์ลีดส์เดอร์ มีเสื้อผ้าวางกองระเกะระกะ เต็มไปหมด ไม่สมกับเป็นห้องแต่งตัวของชมรมนี้เลย เป็นผู้หญิงกันทั้งนั้นจะมีระเบียบกันสักหน่อยก็ไม่ได้ ฉันเดินผ่านตู้ล็อกเกอร์มาหลายตู้จนมาหยุดที่ตู้ ตู้หนี่ง มีชื่อเขียนเอาไว้เหมือนกัน แต่ดูแล้วไม่ใช่ของพวกเราในที่นี้สักหน่อย อย่าบอกนะว่า. . . คาซาม่าคิดจะขโมยของ



        แล้วมันก็เป็นอย่างที่ฉันคิดเอาไว้จริงๆ คาซาม่าล้วงกระเป๋าเสื้อแล้วหยิบเหล็กสั้นๆ งอๆ ชิ้นหนึ่งออกมา เธอใช้มันแหย่เข้าไปในรูกุญแจแล้วสักพักล็อกเกอร์ก็เปิดออก ด้านในมีชุดนักเรียนแขวนไว้ 2 – 3 ชุด และ สติกเกอร์ที่ติดเอาไว้ตามฝาล็อกเกอร์ จนดูรกหูรกตา



        “เธอคิดจะทำอะไรน่ะคาซาม่า”



        เธอหยิบชุดนักเรียนที่แขวนเอาไว้มาให้ฉัน 1 ชุด



        “ไหนลองใส่ซิ”



        “อะไรนะ จะ. . . จะให้ฉันใส่ชุดของคนอื่นได้ยังไงกัน นี่เราก็ไม่ได้ไปขออณุญาติเขาด้วยนะ”



        “เอาน่า. . . ใส่ไปเถอะ ยังดีกว่าโดนจับได้ไม่ใช่เหรอ อีกอย่างนะ ยัยเจ้าของล็อกเกอร์นี่ก็ออกจะรวย มีชุดนักเรียนอีกเยอะแยะ เราเอาไปสักชุดก็ไม่เสียหายหรอกน่า”



        “ฉัน.. . .. ใส่ได้จริงๆ เหรอ”



        “ใส่ได้สิ รีบๆ ไปเปลี่ยนเร็วๆ เข้า เดี๋ยวใครจะเข้ามาเห็นซะก่อน”



        “อะ อื้อ”



        ฉันไปหามุมหลบ เพื่อจะเปลี่ยนเสื้อผ้าของใครก็ไม่รู้ นี่ไม่ใช่เรื่องน่าดีใจสักหน่อยที่มีเสื้อผ้าใส่ แต่ก็ช่างเถอะ ชั่วครั้งชั่วคราวเอง เอาไว้ฉันใช้เสร็จแล้วจะเอามาคืนให้ก็แล้วกัน และหลังจากที่ฉันเปลี่ยนชุดเสร็จ เราทั้ง 4 ก็ออกจากห้องแต่งตัว ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น น่าแปลกที่ว่าฉันใส่ชุดของเจ้าของชุดนี้ได้ อย่าบอกนะว่านี่ฉันกลายเป็นคนหุ่นขี้ก้างไปแล้ว?



        พอเข้าชั่วโมงวิชาภูมิศาสตร์ ทุกอย่างปกติดี ฉันนั่งเรียนไปโดยไม่แสดงอาการพิรุธให้เห็น อาจารย์คนนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไร จนมันผ่านไปได้ด้วยดี หลังจากเรียนวิชาของวันนี้จบ ฉันก็เดินออกจากห้องพร้อมกับพวกคาซาม่า



        “จริงสิพวกเธอ ฉันยังไม่เห็นหน้าตาของไดคิคุงเลย อยากรู้จังนะว่าเขาจะหล่อแค่ไหน” จู่ๆ เรื่องไดคิคุงคนนั้นก็ผุดขึ้นมาในสมองของฉัน ก็แหม. . . ฉันเคยพลาดเรื่องแบบนี้ซะที่ไหนกันหละ ^O^



        “นั่นสิ วันนี้เราก็ไม่ได้เห็นไดคิคุงเหมือนกัน เพิ่งจะเปิดเทอมวันแรก เขาคงไม่ได้ซ้อมฟุตบอลหรอกมั้ง โชคร้ายจังเลยนะวันนี้ แล้วคืนนี้ฉันจะนอนหลับมั้ยเนี่ยถ้าไม่ได้เห็นหน้าเขา” อิคุมิพูดจนดูแล้วออกอาการเพ้อไปใหญ่



        “ฉันว่าไม่นะ วันนี้เราก็เจอเขาแล้วนี่นา เขายืนอยู่นั่นไง” นาอิพูด



        ไหนเหรอ ไหนๆๆ ไดคิคุงอยู่ที่ไหน O^O คนหน้าโรงเรียนเดินกันให้ขวักไขว่ไปหมดแล้วฉันจะดูออกมั้ยหละ   เนี่ย แต่ฉันว่าก่อนที่จะได้เจอไดคิคุง ฉันคงต้องพบกับโชคร้ายก่อนแน่ๆ เพราะอีตาบ้านั่น ที่ตามจองล้างจองผลาญ (เงิน) ฉัน ดันมายืนคุยกับเพื่อนๆ ของเขาที่หน้าโรงเรียนด้วย ฮือๆ T T ฉันต้องตายแน่ๆ ไม่เอาแล้ว   >_< ไดคิคุงเอาไว้เห็นวันอื่นก็ได้ แต่ตอนนี้ห่วงชีวิตตัวเองไว้ก่อนเถอะ



        “เออนี่ทุกคน ฉะ ฉะ ฉันขอตัวก่อนนะ ฉันมีธุระด่วน เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยเจอกันนะ บ๊ายบาย”



        ฉันโบกมือลาพวกเธอแล้ววิ่งแน่บออกประตูโรงเรียนไป โฮ้ย. . . ค่อยยังชั่วที่หมอนั่นยังไม่เห็นฉัน ไม่งั้นหละก็. . . ไม่อ่ะ ไม่อยากจะคิด ช่างเถอะ มัวมากลุ้มใจอยู่ได้ รีบไปทำงานดีกว่า ตังค์ในกระเป๋ายิ่งร่อยๆ อยู่



        พอมาถึงร้าน Cougar คนก็แน่นร้านเช่นเคย ส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนจากโรงเรียนไดโดคุทั้งนั้น พวกเขามองฉันแปลกๆ สงสัยว่าเพราะเครื่องแบบโรงเรียนฮาจิโบคุเอ็นแน่ๆ เลย เห็นว่า 2 โรงเรียนนี้เป็นคู่อริกันนี่นา ท่าทางว่าใส่ชุดนี้มาทำงานจะไม่ปลอดภัยซะแล้ว ฉันเลยรีบแหวกฝูงชนเข้ามาในร้าน น่าแปลกที่ไม่เห็นฮาเสะจุนหรือนัทสึเมะจัง แต่กลับเจอผู้หญิงที่ดูจะเป็นผู้ใหญ่มากกว่าฉันคนหนึ่งแทน เธอใส่ชุดพนักงานของร้าน สงสัยว่าเธอคงจะเป็นพนักงานเหมือนกัน ฉันเลยเดินเข้าไปทักเธอ



        “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ คุเซฮาร่า เมมิค่ะ”



        “. . .”



        “เอ่อ. . .  ฉันชื่อ คุเซฮาร่า เมมิค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก”



        “. . .”



        “เอ่อคุณคะ”



        “มัวมาพูดพร่ำอะไรอยู่ได้ ไม่เห็นรึไงว่าลูกค้าก็เต็มร้านแล้วฉันก็กำลังยุ่งอยู่ เป็นพนักงานที่นี่แล้วทำไมไม่ไปทำงาน เธอว่างนักหรือไง”



        “O_O. . .”



        โห. . . คนอะไรเนี่ย หน้าตาออกจะดีแต่ดุชะมัด แต่ก็ถูกของเธอนะว่าเธอกำลังยุ่งอยู่ ฉันควรจะไปทำหน้าที่ของฉันบ้างดีกว่า



        ลูกค้าเข้าร้านอย่างไม่ขาดสาย ฉันกับคุณ… จริงสิ ฉันยังไม่รู้นี่นาว่าเธอชื่ออะไร แต่เธอก็เป็นคนตั้งใจทำงานมากๆ ไม่วอกแวกเลยสักครั้ง ดูตั้งใจดีจัง จนเกือบจะได้เวลาเลิกงาน หมอนั่นจะรู้มั้ยนะว่าฉันอยู่ที่นี่ ถ้าไม่รู้ก็ดี แต่ถ้ารู้ก็ตายๆๆ ตายแน่ๆ ยังไงซะ เลิกงานแล้วก็รีบกลับดีกว่า



        “เอ่อ. . . ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ” ฉันพูดกับเธอก่อนที่จะเตรียมตัวออกจากร้าน



        “อื้อ เดี๋ยวฉันจะเก็บข้าวของที่เหลือเอง เมื่อกี้ฉันขอโทษนะที่ไม่ได้แนะนำตัวกลับ เผอิญเวลาทำงานฉันไม่ค่อยชอบพูดกับใคร ถ้าไม่รังเกียจช่วยบอกฉันอีกสักรอบได้มั้ย”



        “อะ อ๋อ ได้สิคะ ฉันชื่อ คุเซฮาร่า เมมิค่ะ^^”



        “ฟุโอกะ จิสึโตะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ^_^”



        “!!! O_O”



        อะ จ๊าก! และแล้วความซวยก็บังเกิดขึ้น หมอนั่นมาที่นี่จนได้ ยังใส่เครื่องแบบของโรงเรียนฮาจิโบคุเอ็นอยู่เลย ดีนะที่ฉันถอดชุดนั่นแล้ว นึกว่าวันนี้จะไม่ต้องเสียเงินแล้วเชียว ฮือๆๆ สาธุ อย่าให้ปีศาจกินจุมาเข้าสิงหมอนั่นอีกละกัน



        “กะแล้วเชียวเธอต้องอยู่ที่นี่”



        “อื้อ T T”



        “เรารีบไปหาอะไรกินกันเถอะ”



        “ไม่ได้หรอก”



        “ทำไม”



        “ก็เพราะ. . . เพราะๆๆ ฉันยังทำงานไม่เสร็จ” (อะไรกันยะหล่อน ไหนว่าเมื่อกี้จะรีบกลับไง)



        “อ๋อเหรอ งั้นฉันนั่งรอเธอก็ได้”



        “ไม่ได้ๆๆ ”



        “ทำไมอีกหละ”



        “ก็บอกว่าไม่ได้ ก็คือไม่ได้สิ”



        “เฮ้อ… ช่วยไม่ได้แฮะ งั้นมื้อเย็นวันนี้ฉันหาอะไรกินที่นี่ก็แล้วกัน เธอเป็นพนักงานที่นี่ไม่ใช่เหรอ บริการหน่อยสิ”



        มันก็ช่วยไม่ได้จริงๆ แฮะ ฉันจึงเดินไปหยิบเมนูให้หมอนั่น ในขณะที่คุณฟุโอกะ ยังยืนงงอยู่



        “เอาสตรอเบอรี่ชอทเค้ก 2 ชิ้น ครัวซองแฮมชีส 2 ชิ้น อัลมอนต์คุกกี้ 2 ถุง กาแฟเย็น 2 แก้ว”



        เฮ้ย! สั่งอะไรจะไวปานฟ้าแลบขนาดนั้น จะกินเองหรือสั่งแกล้งฉันกันแน่เนี่ย ฉันจดออร์เดอร์ไม่ทันเลยนะ



        “เอาแค่นั้นแหละ ด่วนๆ เลยนะ ^^”



        ยังจะมายิ้มอยู่ได้ ฉันน่ะคอตกแล้วนะ โถๆๆ เงินฉัน เงินที่ฉันอุตส่าห์ทำงานมาได้ของวันนี้ หมดกันน่ะสิ ฮือๆๆ



        “มีอะไรให้ฉันช่วยมั้ย” คุณฟุโอกะถาม



        “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณยังมีงานต้องทำอีกไม่ใช่เหรอ ของแค่นี้ฉันทำเองคนเดียวได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”



        ฉันจัดทุกอย่างใส่จานแล้วยกไปเสิร์ฟหมอนั่น หลังจากที่แน่ใจว่าไม่มีลูกค้าคนอื่นมาแล้ว ฉันจึงเก็บโต๊ะ เก็บเก้าอี้ และเช็ดเคาน์เตอร์ให้เรียบร้อย หมอนั่นก็ยังกินทุกอย่างอย่างสบายอารมณ์ ให้ตายสิ นี่ฉันยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลยนี่นา ชักจะปวดท้องขึ้นมาหน่อยๆ แล้วสิ



        “นี่เธอ”



        “หือ? “



        “มากินด้วยกันมั้ย”



        “ไม่ได้หรอก มันผิดกฎนายกินไปเถอะ -_-”



        “เอางั้นก็ได้ แต่ว่าฉันอิ่มแล้วหละ เก็บเงินเลยก็แล้วกัน”



        “อื้อ”



        ฉันหยิบเครื่องคิดเลขจากเคาน์เตอร์แล้วเดินไปที่โต๊ะของหมอนั่น โอ้โห. . . วันนี้ไหงกินทิ้งกินขว้างแบบนี้หละ สตรอเบอรี่ชอทเค้กก็ตักไปนิดเดียว ครัวซองแฮมชีสก็เหลืออีกตั้ง 1 ชิ้น อัลมอนต์คุกกี้ก็กินไปแค่ 1 ถุง แล้วกาแฟเย็นอีกหละ สงสัยจะไม่ได้ดูดไปสักนิด ปล่อยให้ไอน้ำเกาะเต็มข้างแก้วจนสีจืดชื่นไปแล้ว หนอยยยยยย ฉันอยากจะฆ่านายจริงๆ



        “ทั้งหมด 8140 เยน”



        “อื้อ ก็จ่ายให้ฉันด้วยก็แล้วกัน ฉันไปหละ”



        “เฮ้! เดี๋ยวสิ ฉันจ่ายค่าเค้กให้นายหมดแล้วฉันจะเอาเงินที่ไหนขึ้นรถกลับบ้านหละ”



        “เรื่องนั้นไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับฉันสักหน่อย”



        หมดนั่นพูดจบก็ลุกออกไป อะไรกันหละเนี่ย ค่าเค้กพวกนี้ก็เกือบหมื่นเลยนะ กินก็กินไม่หมด แถมฉันยังต้องจ่ายเองอีก หมดกัน เงินเก็บฉัน ฮึ่ย!!! เอาน่าทนไว้ อีก 6 วันเท่านั้น ว่าแต่… จะเอายังไงกับของเหลือพวกนี้ดีหละ จะว่าไป. . . บางอย่างมันก็ยังกินได้นี่นา

        ฉันจึงเก็บเค้กที่หมดนั่นกินเหลือใส่กล่อง แล้วเอาคุกกี้ใส่ถุง ส่วนกาแฟเย็นนั้นกินไม่ได้อยู่แล้วจึงเททิ้งซะ อย่างน้อยเย็นนี้ฉันก็มีอะไรให้ตกถึงท้องบ้างหละ พอออกมาหน้าร้าน ฉันก็เดินไปกินคุกกี้ไปอย่างสบายใจ แต่กว่าจะถึงบ้านก็ต้องเดินกันขาลากบ้างแหละ ฉันจึงทำใจให้สบายที่สุดเพื่อจะได้ไม่นึกถึงเรื่องแบบนั้น



        ปิ้น ปิ้น~



        อะไรอีกหละเนี่ย ฉันเดินของฉันดีๆ ไม่ได้ไปเดินกลางถนนสักหน่อย ใครมาบีบแตรนะ พอฉันหันไปดูก็เห็นรถหรูคันหนึ่งมาจอดอยู่ข้างๆ สักพัก กระจกก็เลื่อนลงมา คนที่นั่งอยู่ข้างในรถคือหมอนั่นนี่นา จะเอาอะไรจากฉันอีกหละ กรีดเลือดไปแล้วยังจะมาขูดเนื้อกันอีกเหรอ



        “ขึ้นมาสิ”



        “. . . O_O”



        ฉันหูฝาดรึเปล่า หมอนี่พูดกับฉันงั้นเหรอ ฉันหันซ้ายหันขวา แถวนี้ก็ไม่เห็นจะมีใครนี่นา



        “นายพูดกับฉันเหรอ”



        “ก็พูดกับเธอนั่นแหละ จะให้ฉันพูดกับผีที่ไหนหละ”



        ต๊าย~ ปากเสีย >_<



        “ไม่เอาหรอก เรื่องอะไรจะขึ้น ฉันไว้ใจนายได้รึเปล่าก็ไม่รู้”



        ฉันพูดจบก็เดินจากมาแล้วกินคุกกี้ต่อ แต่จู่ๆ หมอนั่นลงมาจากรถตอนไหนก็ไม่รู้ และอุ้มฉันแบกขึ้นบ่าเหมือนกระสอบทรายก่อนที่จะพาขึ้นรถไป ไม่รู้หมอนี่ฝึกอะไรมาถึงได้แรงเยอะขนาดนี้นะ ตัวก็ใช่ว่าจะไม่ใหญ่แต่แรงเยอะชะมัด



        “นี่นายไม่มีสิทธิ์มาทำกับฉันแบบนี้นะ ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้เลย”



        “นั่งเงียบๆ หน่อยได้มั้ย”



        “จะให้ฉันเงียบได้ยังไงกัน ฉันมาอยู่บนรถใครก็ไม่รู้ แล้วนายจะพาฉันไปไหนไม่ทราบ”



        “จะไปส่งเธอน่ะสิถามได้ คืนนี้ที่ถนนมากุมะ ทางผ่านทางไปบ้านของเธอกำลังมีพวกนักเลงตีกันอยู่ด้วย เธออยากจะโดนลูกหลงรึไง”



        “นักเลงตีกันเหรอ น่ากลัวจะตาย ใครจะไปอยากโดนลูกหลงหละ”



        “งั้นก็นั่งเงียบๆ ซะ เดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้ว”



        ฉันยอมทำตามที่หมอนั่นบอก แต่ก็วิตกหน่อยๆ ไม่รู้หมอนี่คิดอะไรกันแน่ที่มาส่งฉัน แล้วก็เป็นอย่างที่หมอนั่นพูด ตรงถนนมากุมะ มีนักเลงตีกันอยู่จริงๆ ยังเป็นพวกนักศึกษาอยู่เลย ถ้าหมอนี่ไม่มา ฉันอาจจะตายก็ได้ใครจะไปรู้ ฉันเองก็นึกขอบคุณเขาในใจ แต่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวนะ เพราะนายก็สร้างความลำบากให้ฉันเอาไว้เยอะเหมือนกัน



        “เอาหละถึงบ้านแล้ว”



        “ฉันรู้หรอกน่า ขอบใจละกัน”



        “พรุ่งนี้ฉันจะมารับ ห้ามไปไหนหละรู้มั้ย ไม่งั้นเธอโดนดีแน่”



        “เชอะ ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉัน นายไม่มีสิทธิ์มาสั่ง”



        ป้าบ! เขาเอามือตบเข้ากับกระจกรถฝั่งของฉัน ทำให้ฉันติดอยู่กับประตูรถและตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เหมือนกับจนมุมแล้วเลย ตอนนี้หมอนี่น่ากลัวมากๆ เลย



        “ฉันบอกว่าจะมาก็คือมาเข้าใจมั้ย แล้วก็รอฉันอยู่ที่นี่พรุ่งนี้ ห้ามไปไหนด้วย”



        “อะ อื้อ” ฉันตอบอย่างเกรงๆ



        “ที่นี้ก็ลงไปได้แล้ว”



        หมอนั่นเปิดประตูให้ฉันจากด้านใน ฉันรีบลงมาด้วยความกลัว ตัวสั่นทำอะไรไม่ถูก คนบ้าอะไรก็ไม่รู้ เวลาโกรธน่ากลัวชะมัด นี่ถ้าเขาความคุมสติตัวเองไม่ได้นี่คงพลั้งมือฆ่าฉันตายไปแล้วมั้ง โอ๊ย. . . คิดแล้วสยองดีชะมัด



        กิ๊งก่อง!



        ฉันกดออดก่อนที่จะตะโกนบอกให้เทริมรู้ว่าฉันกลับมาแล้ว “ฉันเองนะเทรูมิ”



        “อื้อ เข้ามาสิฉันไม่ได้ล็อก”



        ฉันเข้ามาถอดรองเท้าไว้ข้างทางเดิน แล้วก้มลงจัดรองเท้าของเทรูมิที่วางระเกะระกะให้เป็นระเบียบเสียหน่อย เพราะฉันก็เริ่มเข้าใจว่าเธอเป็นคนไม่ค่อยมีระเบียบ เธอก็ยังคงนั่งกินเบียร์ดูทีวีไปอย่างสบายใจ



        “วันนี้อยากไปเที่ยวจัง”



        “ความคิดที่ดีนี่ แล้วทำไมไม่ไปหละ”



        “ไปได้ยังไง วันนี้ละครอวสานนะ พระเอกก็ออกจะหล่อแต่นางเอกงี้รับไม่ได้เลย ถ้าไม่ติดว่าพระเอกหล่อนี่ไม่ดูนะเนี่ยจะบอกให้”



        “ฮิๆ เหรอ”



        “แต่วันนี้ฉันยังไม่เจอแฮร์รี่เลย ไม่รู้เขาเป็นยังไงบ้าง”



        “เมื่อเช้าฉันเห็นเขาก็สบายดีนะ แถมยังมีช็อบเปอร์อีกตะหาหาก ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้เท่ห์ชะมัดเลย”



        “จริงเหรอ เมื่อเช้าเธอเจอเขาเหรอ”



        “อื้อๆ เจอสิ บังเอิญเจอกันในลิฟต์น่ะ อืม. . . รู้สึกว่าเขาจะฝากบอกอะไรเธอมาด้วยนะ”



        “อะไรๆ เขาฝากบอกอะไรฉัน”



        “เขาฝากมาขอโทษ ที่ทำรุนแรงกับเธอไปเมื่อคืนก่อน”



        “อ๋อ. . . เหรอ ไม่เป็นไรหรอก เรื่องนั้นฉันรับได้”



        “เฮ้ๆๆ ฉันขอถามหน่อยเถอะ ไอ้รุนแรงที่ว่านี่มันคืออะไรเหรอ พอจะบอกได้มั้ย”



        “โฮะๆๆ นี่เรื่องของผู้ใหญ่เด็กอย่ารู้เลยดีกว่า” เธอหัวเราะพลางเอามือป้องปาก



        “อึ๋ย ถ้าหมายถึงเรื่องแบบนั้นฉันไม่รู้ก็ได้”



        “แหม. . . ความจริงมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรแบบนั้นหรอก แค่เราไปขี่ช็อบเปอร์เล่นกันแล้วตอนเบรกเขาเบรกแรงไปหน่อย จนฉันหัวโขกกับหมวกกันน็อกของเขาน่ะ เธอก็คิดเป็นตุเป็นตะเชียวหละสิ”



        ก็แหม… ฉันก็นึกว่าจะเป็นเรื่องแบบนั้นจริงๆ นี่นา วัยอย่างเทรูมิกับแฮร์รี่จะมีอะไรกันมันก็ไม่น่าแปลก แต่เอาเถอะ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนักหนานี่เนอะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×