[NCT] องครักษ์ที่รัก | TAETEN FT.NCT
รักต้องห้ามของ องค์ชายรัชทายาทเท็นนัมกุลกับองครักษ์อีแทยง จะเป็นเช่นไร โปรดติดตามและเอาใจช่วยพวกเขากันด้วยนะครับ
ผู้เข้าชมรวม
776
ผู้เข้าชมเดือนนี้
7
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Intro
องครักษ์ที่รัก
กลางดึกสงัดที่ไร้เมฆา จันทรากลับอวดแสงจ้าสีเงินนวลส่องไปทั่วทุกตารางนิ้วภายในวังหลวงแห่งเมืองโชซอน
แมวดำตัวน้อยย่างกรายเรียวขาทั้งสี่ของมันอยู่บนยอดหลังคานั้น ด้วยน้ำหนักปลายเท้าที่นุ่มนวลดุจดังนักกายกรรมเดินไต่อยู่บนเส้นเชือก หาได้กลัวความสูงที่ห่างจากพื้นเบื้องล่างแม้แต่เพียงน้อยนิด
ทางเดินบนพื้นเบื้องล่างนั้น กลับมีขันทีผู้หนึ่งที่คอยรับใช้องค์ชายรัชทายาท กำลังเร่งฝีเท้าของตนเองตรงเข้ามายังตำหนักอย่างตื่นกลัว รีบร้อน และลนลาน
องค์รัชทายาท เท็นนัมกุล
พลิกตัวลืมตาตื่นขึ้น ก่อนไล้มือของตนเองออกจากผ้าห่มเพื่อควานหาสัมผัสจากใครคนหนึ่งที่นอนอยู่เคียงข้าง
หากแต่องค์รัชทายาทกลับพบเพียงความว่างเปล่าไร้เงาของคนสำคัญที่เขาต้องการเห็นหน้าทุกครั้งที่ลืมตาขึ้นมา
เด็กหนุ่มผู้มีฐานันดรศักดิ์ยันกายลุกขึ้นนั่งจนผ้าห่มสีทองร่วงลงมาอยู่บนตัก
"แทยง เจ้าอยู่หรือเปล่า?" เด็กหนุ่มที่อยู่ในห้องเพียงลำพังร้องเรียกหาคนสนิท
“...”
"มีใครอยู่ข้างนอกไหม?"
“...”
"ไม่มีใครอยู่เลยเหรอ?!"
“...”
"มีใครอยู่ไหม?!!
“...”
“ไม่มีใครอยู่ข้างนอกเลยเหรอ?!"
“...”
เท็นนัมกุลเป็นถึงองค์ชายรัชทายาทแห่งเมืองโชซอน
หากเขาต้องการสิ่งใดแล้ว ไม่ว่าใครก็ต้องพร้อมที่จะเข้ามาคอยรับใช้ปรนบัติอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง
แต่ครั้งนี้กลับไม่เป็นไปดั่งที่เขาคิด
ใบหน้าขององค์รัชทายาทเปลี่ยนเป็นวิตกกังวัลขึ้นมาทันที
นี่ต้องมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นแน่นอน
เสียงฝีเท้าที่ดังถี่ค่อย
ๆ ดังชัดเข้ามาภายในตำหนัก
ขันทีในชุดสีเขียวที่วิ่งหกล้มกลิ้งคว่ำกลิ้งหงายอยู่ตรงทางเดินข้างนอกเมื่อสักครู่นี้
กำลังวิ่งเข้ามาพร้อมกับเสียงร้องไห้ที่ดังอยู่ในลำคอ
"ฮ...ฮือ..."
เท็นนัมกุลไม่อาจรอช้าได้อีกต่อไป
เขาผุดลุกออกมาจากที่นอน แล้วพุ่งตัวตรงไปผลักบานประตูไม้ออกกว้างด้วยหน้าตาที่หวั่นวิตก
คนรับใช้ในชุดสีเขียวก้มศรีษะลงโค้งคำนับให้องค์ชายอย่างรีบร้อน
"เกิดอะไรขึ้น?!"
"อ...องค์ชาย...ฮ...ฮือ..."
เสียงร้องไห้โฮของขันทีดังออกมาในที่สุด
"บอกข้ามา!"
"ฮ...ฮือ..."
"ข้าถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น?!"
"องค์ชาย...ฮ...ฮือ..."
ขันทีในชุดสีเขียวเอาแต่ก้มหน้าร้องไห้อยู่อย่างนั้น
เขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อีก จนเท็นนัมกุลเริ่มรู้สึกหงุดหงิดกับท่าทีที่อ้ำอึ้งแบบนั้น
เขาเผลอยื่นมือออกไปคว้าหัวไหล่ทั้งสองข้างของขันทีคนนัน้ก่อนออกแรงบีบหัวไหล่จนสุดกำลัง
"มีเรื่องอะไร?! ข้าถามว่ามีเรื่องอะไร?!"
"ฮ...ฮือ..."
.
.
ประตูไม้บานใหญ่ถูกผลักเปิดออกไปพร้อมกับองค์ชายรัชทายาทที่พุ่งตัวตามออกมาอย่างรวดเร็ว
ขันทีคนเดิมในชุดสีเขียววิ่งตามหลังคนตัวเล็กออกมาในระยะประชิด
หากเป็นไปได้จริงในเวลานี้
เท็นกุลก็อยากจะพังประตูทุกบานทิ้งไปเพื่อให้เขาเดินไปถึงประตูบานสุดท้ายให้เร็วที่สุด
ทหารองครักษ์ทั้งหมดต่างพากันรีบเร่งตามออกมาจากตำหนักพร้อมอาวุธครบมืออย่างไม่มีใครที่ต้องออกคำสั่ง
องค์ชายรัชทายาทยังคงเร่งฝีเท้าตรงออกไปข้างหน้าอย่างไม่มีหยุดพัก
แม้แต่ขันทีคนสนิทที่กำลังสะดุดขาตัวเองล้มลงอยู่ข้างหลังก็ไม่ได้อยู่ในความสนใจขององค์ชายเลยสักนิด
เท็นนัมกุลวิ่งผ่านพระราชตำหนักออกไปอย่างไม่รอช้า
หวังเพียงที่จะออกจากเขตพระราชวังชั้นในแล้วตรงออกไปยังสวนดอกไม้ด้านนอกให้เร็วที่สุด
เบื้องหน้าที่เขามองเห็นนั้น
มีกลุ่มทหาร ขันที และนางกำนัลหลายคนยืนรุมล้อมบางสิ่งบางอย่างอยู่ด้วยอาการตกใจ
ชายผ้าสีขาวของฉลองพระองค์ขององค์ชายรัชทายาทสะบัดขึ้นก่อนจะหยุดนิ่ง
พร้อมกับปลายเท้าทั้งสองข้างของเท็นกุลที่หยุดวิ่งอย่างกระทันหันเมื่อเขามาถึงที่เกิดเหตุ
เท็นนัมกุลหายใจอย่างเหนื่อยหอบ
เขาพยายามกอบโกยเอาอากาศหายใจเข้าไปจนเต็มปอดครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนเลื่อนปลายเท้าทั้งสองข้างก้าวเดินต่อไปในที่เกิดเหตุเบื้องหน้านั้น
นางในทุกคนต่างยอมหลีกทางพร้อมกับก้มศรีษะโค้งคำนับให้กับเขา
สายตาคมวาวของเท็นนัมกุลจับจ้องมองตรงไปยังสระน้ำเบื้องหน้า
องครักษ์คนสนิทของเขาคว่ำหน้านอนแน่นิ่งอยู่ภายในสระน้ำนั้น
เท็นนัมกุลยังคงสืบปลายเท้าเข้าไปอย่างเชื่องช้า
หัวใจของเขาแทบจะหยุดเต้นในทุกวินาทีที่ร่างกายของเขายิ่งขยับเข้าไปใกล้
เรี่ยวแรงที่มีอยู่ในตอนนี้ก็แทบจะหายไปจนหมดภายในเสี้ยววินาทีนั้น
รองเท้าสีดำที่เคยมีเจ้าของ
กลับลอยนิ่งอยู่บนผิวน้ำอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร
แม้จะต้องฝืนความรู้สึกมากมายขนาดไหน
เท็นนัมกุลก็ต้องข่มใจสืบปลายเท้าของเขาเข้าไป ทั้งที่ตัวเองกลับใกล้จะไร้เรี่ยวแรงลงทุกที
หยดน้ำตาที่ปริ่มคลออยู่ที่นัยน์ตาใกล้จะทลายเขื่อนกั้นพร้อมรินไหลออกมาอยู่รอมร่อแล้ว
"แท-ยง"
เสียงเรียกพร้อมก้อนสะอึกที่กลั้นอยู่ในลำคอกับหยดน้ำตาใสพลันร่วงหล่นลงมาจากนัยน์ตาอย่างไม่อาจจะต้านทานแรงโน้มถ่วงของโลกใบนี้ได้
"แทยง...อา…"
เสียงสะอื้นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้มของเด็กหนุ่มไม่อาจฝืนทนเก็บกักเอาไว้ได้อีกต่อไป
"แทยง...อา…"
"แทยง...อา…"
ใครจะรู้บ้างว่าหัวใจดวงนี้ของเท็นนัมกุลมันได้แตกสลายออกเป็นเสี่ยง
ๆ ไปแล้ว น้ำตาที่ปริ่มไหลออกมาเป็นสายจวนเจียนแทบขาดใจ ก็น่าจะแทนคำอธิบายได้เป็นอย่างดี
ร่างของคนรักที่ไม่อาจฟื้นคืนกลับมาหาเขาได้อีกแล้ว
"องค์ชาย!”
“...”
“องค์ชาย!"
“...”
ทหารองครักษ์นับสิบคนที่วิ่งมาถึง
รีบตรงเข้าไปรั้งจับท่อนแขนขององค์รัชทายาทเอาไว้ ก่อนที่องค์ชายจะก้าวเดินตรงไปยังสระน้ำอย่างไร้สติ
"องค์ชาย!”
“...”
“องค์ชาย!"
"ปล่อยข้าสิ! ปล่อยข้า!"
องค์รัชทายาทพยายามดิ้นรนต่อสู้ขัดขืน
เพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากการเกาะกุมของเหล่าทหาร เขาอยากจะเข้าไปหาองครักษ์คนสนิทคนที่เป็นมากกว่าชีวิตของเขา
เป็นครั้งสุดท้ายเพียงเท่านี้องค์ชายรัชทายาทอย่างเขาก็ไม่อาจทำมันได้เลยอย่างนั้นหรือ
"องค์ชาย!"
"ปล่อยข้านะ!"
ทุกหยดน้ำตาของลูกผู้ชายอย่างเท็นนัมกุล
ที่ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่เขาจะยอมปล่อยให้ใครได้เห็นมันอย่างง่ายดาย กลับพรั่งพรู่ออกมาแบบที่ไม่หลงเหลือคราบของความเป็นองค์ชายรัชทายาทผู้เคยแข็งแกร่งมาก่อนเลยสักนิด
"แทยง
เจ้าไปทำอะไรอยู่ตรงนั้น? แทยง...ฮ...ฮือ..."
ถึงแม้ทหารองครักษ์จะรั้งตัวองค์ชายเอาไว้จนแทบจะขยับกายไม่ได้ แต่เท็นนัมกุลก็ยังคงตะโกนร้องเรียกชื่อของคนรักออกไปจนสุดเสียง
"แทยง...อา…”
“ฮือ..."
"แทยง...อา…”
“ฮือ..."
"ปล่อยข้า!"
“ฮือ..."
"แทยง...อา…”
ร่างของแทยงองครักษ์คนสนิทผู้เป็นดั่งดวงใจของเท็นนัมกุลนอนแน่นิ่งคว่ำหน้าอยู่กลางสระน้ำนั้นอย่างไม่ไหวติง
.
.
ภายในพระราชตำหนักคยองบ๊ก
พระราชาทรงยกยิ้มขึ้นมา หลังจากทรงจิบชาร้อนในถ้วยเคลือบที่ทำจากหยกสีเขียวสดที่ถูกตกแต่งด้วยลวดลายมังกรสีทองอย่างงดงาม
พระองค์ทรงทอดพระเนตรใบหน้าของเด็กน้อยวัยสิบขวบที่นั่งหลังตรงอยู่ทางขวามือเบื้องหน้านั้น
ท่ามกลางวงล้อมของขุนนางที่นับรวมได้มากกว่าสิบคน
"องค์ชาย"
"พ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ"
องค์ชายเท็นกุลขานรับผู้เป็นพ่อด้วยรอยยิ้มที่สดใส
"บรรดาขุนนางต่างพากันร้อนใจ
อยากเห็นเจ้ารีบคัดเลือกองครักษ์คู่ใจไว้คอยช่วยคุ้มกันตัวเจ้าสักคนหนึ่ง ข้าขอถามหน่อยว่าเจ้าอยากได้องครักษ์แบบไหนกันล่ะ?"
พระราชาทรงพระสรวลตรัสถามออกมาอย่างอารมณ์ดี
"หม่อมฉันอยากได้องครักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดพ่ะย่ะค่ะ"
เท็นกุลตอบผู้เป็นพระบิดากลับไปอย่างฉะฉาน
"ว่าไงนะ?"
"องค์ชาย พระอาญามิพ้นเกล้า
ทรงสนพระทัยเพียงแค่ความแข็งแกร่งเท่านั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ"
ขุนนางชนชั้นสูงคนหนึ่งขออนุญาตถามรัชทายาทอย่างคาดหวังคำตอบอื่น
"ถ้าหากว่าข้ามีองครักษ์ที่แข็งแกร่ง
ข้าก็จะได้ฝึกฝีมือการต่อสู้กับเขาได้ทุกวันเลยยังไงล่ะ แต่ถ้าจะให้ดีมากกว่านั้น เขาควรมีหน้าตาที่หล่อสู้ข้าไม่ได้
ข้าจะได้มีเรื่องหนึ่งที่ดูเหนือกว่าเขา"
"อะไรกัน? ต้องดูหล่อน้อยกว่าเจ้าอย่างนั้นเหรอ?" พระราชาตรัสถามออกไปพร้อมหัวเราะเสียงดังไปทั่วทั้งตำหนัก
แม้แต่เหล่าขุนนางเองต่างก็พากันชอบอกชอบใจหัวเราะเสียงดังให้กับความไร้เดียงสาขององค์ชายรัชทายาทตามออกไปด้วย
.
.
แทยงในวัยสิบขวบกำลังวิ่งหน้าตาตื่นกลับเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ของตัวเอง
ตระกูลคิมคือตระกูลนักรบผู้ยิ่งใหญ่ที่มีชื่อเสียงและมีประวัติสืบทอดกันมายาวนานชนิดที่เรียกได้ว่าไม่มีใครในโชซอนไม่รู้จัก
เขาวิ่งตรงไปยังห้องนอนของพี่ชาย ก่อนเลื่อนบานประตูเปิดออกแล้วซุกตัวเข้าไปในนั้นอย่างลุกลี้ลุกลน
"พี่แทอิล!
พี่แทอิล!" เขาร้องเรียกพี่ชายสุดที่รักด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเป็นที่สุด
"อะไรของเจ้ากันเนี่ย?! แทยง?!" คนเป็นพี่ที่กำลังตั้งใจอ่านหนังสือถามกลับไปด้วยท่าทางที่ไม่อยากจะใส่ใจอะไรมากนัก
"ตอนนี้มีข่าวประกาศออกไปทั่ว
ว่ามีพระราชโองการให้ส่งตัวเด็กผู้ชายที่มีความแข็งแกร่ง ให้เข้ารับการคัดเลือกเป็นทหารองครักษ์ขององค์ชายรัชทายาทน่ะสิ"
สิ้นเสียงเจื้อยแจ้วของแทยง พี่ชายคนโตก็ปิดหนังสือบนโต๊ะพลันเลื่อนสายตาหันมายิ้มให้กับน้องชายของเขาในทันที
"ห๊า...จริงเหรอ? คัดเลือกเป็นองครักษ์ขององค์ชายใช่ไหม?"
"ก็จริงน่ะสิ"
แทยงพยักหน้ารับพร้อมยิ้มตอบกลับไปอย่างมั่นใจในคำตอบนั้นเป็นที่สุด
คนเป็นพี่ได้แต่เบิกตากว้างส่งยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี
"แล้วท่านพี่รู้ไหม?
ว่าทำไมบ้านเราถึงมีคนเข้าออกมากมายขนาดนี้?" น้องชายตัวเล็กตั้งคำถามย้อนกลับไปหาพี่ชายอีกครั้ง
“เอ๋?”
"เพราะมีข่าวว่า
ลูกชายของท่านพ่อกำลังจะได้รับเลือกให้เป็นองครักษ์ขององค์ชายรัชทายาทยังไงล่ะ พวกเขาก็เลยมาร่วมแสดงความยินดีกันก่อนล่วงหน้า"
เด็กน้อยแทยงพูดเสียงเจื้อยแจ้วไม่ยอมหยุดจนแทอิลที่นั่งฟังอยู่ต้องหันมายิ้มให้กับน้องชายตัวเองอีกครั้ง
"ถ้าเจ้าบอกว่าพวกเขามาแสดงความยินดีให้กับลูกชายของท่านพ่อที่จะได้รับคัดเลือก
นั่นก็หมายความว่า ไม่เจ้าก็ข้าที่จะมีสิทธิ์ได้เป็นราชองครักษ์ขององค์ชายน่ะสิ"
สองพี่น้องต่างพากันหัวเราะคิกคักชอบอกชอบใจ
"แล้วใครกันล่ะที่จะได้รับเลือกให้เป็นราชองครักษ์?" แทอิลแกล้งยิ้มแหย่ถามน้องชายตัวเล็ก
"จริง ๆ เลยนะ
มันก็ต้องเป็นท่านพี่อยู่แล้ว" แทยงตอบกลับไปแบบที่ไม่ต้องใช้ความคิดเลยสักนิด
ทำเอาคนที่ได้ยินคำตอบนั้นพลันยิ้มตามออกมาอย่างชอบใจในคำตอบเป็นที่สุด
"เฮ้อ! แค่ข้ารู้ว่าท่านพี่จะได้เป็นองครักษ์ขององค์ชายรัชทายาท ข้าก็รู้สึกดีใจจะแย่อยู่แล้ว
ข้าจะได้เห็นวังหลวงจริง ๆ สักครั้ง นั่นก็เป็นเพราะท่านพี่เลยนะ"
"แทยง หากข้าได้เป็นองครักษ์ขององค์ชายแล้ว
ข้าจะเรียกเจ้าเข้าวังไปหาทุกวันเลยนะ ให้เจ้าได้เจอผู้หญิงสวย ๆ ได้กินของอร่อยที่สุดเลยด้วย"
คนเป็นพี่ให้สัญญากับน้องชายตัวเล็กที่กำลังนั่งฝันหวานอยากเห็นวังหลวงสักครั้งในชีวิต
"องค์รัชทายาทจะมีฝีมือที่เก่งกาจและมีรูปร่างหน้าตาเป็นแบบไหนกันนะ?" แทยงพยายามจินตนาการถึงคนที่เขากำลังพูดถึงอยู่ในห้วงความคิด
.
.
"พวกเจ้าได้ยินข่าวกันแล้วใช่ไหม? บ้านเราคงจะต้องส่งบุตรชายเข้ารับการคัดเลือกครั้งนี้ด้วยเหมือนกัน"
บิดาของเด็กหนุ่มทั้งสองคนเอ่ยขึ้นหลังจากที่เรียกตัวทั้งคู่เข้ามาพบ
"เมื่อเจ้าได้รับเลือกให้เข้าไปฝึกเป็นราชองครักษ์แล้ว
เจ้าจะต้องตั้งใจฝึกให้เต็มที่เพื่อแสดงความแข็งแกร่งและความสามารถที่ไม่อาจมีใครเทียบเจ้าได้
นั่นเป็นการดีที่เจ้าจะได้ทำสิ่งดีให้แก่วงศ์ตระกูล ซึ่งในการคัดเลือกครั้งนี้ พ่อจะส่งตัวแทยงเข้าไป
เพราะฉะนั้นเจ้าต้องรีบเตรียมตัว" สายตาของคนเป็นพ่อหันไปส่งยิ้มให้กับลูกชายคนเล็กที่นั่งอยู่ทางซ้ายมือของเขา
เสียงคำตัดสินของผู้เป็นพ่อเปรียบดังสายฟ้าฟาดที่สาดใส่เด็กหนุ่มผู้เป็นพี่ชายคนโตของบ้าน
แทอิลพลันนิ่วหน้าขมวดคิ้วเข้าหากันในทันทีอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก
คนเป็นน้องพลันเงยหน้าขึ้นมองดูรอยยิ้มของผู้เป็นพ่อด้วยความสงสัย
ทั้งที่เขาเองเตรียมตัวแสดงความยินดีกับพี่ชายของเขาเอาไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว
"ท่านพี่
นี่ท่านจะส่งลูกชายคนเล็กไปอย่างนั้นเหรอ?" ผู้เป็นแม่หันไปถามผู้เป็นสามีแบบตะกุกตะกัก
"ถูกต้องแล้ว
แทยงลูกชายคนเล็กของเราจะต้องเข้ารับการคัดเลือกครั้งนี้"
แทยงที่ได้ยินคำตอบนั้น
กลับรู้สึกลำบากใจยิ่งนัก เขาค่อย ๆ ชำเลืองสายตามองดูใบหน้าของพี่ชายที่นั่งอยู่ข้างตัวเขาด้วยความรู้สึกเสียใจและรู้สึกผิดไปในคราวเดียวกัน
"ท่านพ่อ..."
แทยงพยายามทักท้วงบิดาออกไป เพื่อขอให้ท่านทบทวนการตัดสินใจใหม่อีกครั้ง
หยดน้ำตาของแทอิลพลันคลอรื้นขึ้นมาเต็มหน่วย
เขาคาดหวังเรื่องนี้มากเกินไป จึงต้องเสียใจเมื่อตัวเองไม่ได้เป็นผู้ถูกเลือก
"แทอิลฟังพ่อให้ดี"
ผู้เป็นพ่อมองดูใบหน้าลูกชายที่พยายามกลั้นก้อนสะอื้นเอาไว้
"ครับ
ท่านพ่อ"
"เจ้าต้องช่วยน้องเตรียมตัวสำหรับการคัดเลือกให้ดีที่สุด
เข้าใจไหม?"
“ครับ
ท่านพ่อ"
เด็กหนุ่มที่พยายามกลั้นก้อนสะอื้นเอาไว้
ตอนนี้หยดน้ำตามันได้ไหลออกมาจากเขื่อนกั้นแล้วอย่างง่ายดายแบบที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้สึกว่าจะต้องอับอายใครหน้าไหนอีกต่อไปแล้ว
ดวงใจของผู้เป็นแม่หล่นวูบไปในทันที
นางรู้สึกสงสารแทอิลขึ้นมาจับใจ แต่ก็ช่วยเหลืออะไรลูกชายคนโตไม่ได้เลยสักนิด แทยงเองก็เป็นลูกชายของเธอเหมือนกัน
แล้วจะให้เธอนั้นทำอย่างไร
แทยงได้แต่นั่งก้มหน้านิ่ง
ถึงแม้ว่าตัวเขาเองอยากที่จะเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของคนเป็นพ่อในครั้งนี้
แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
#นอนรอคนอ่าน
#องครักษ์ที่รัก
ผลงานอื่นๆ ของ Osakaboy ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Osakaboy
ความคิดเห็น