[NCT] องครักษ์ที่รัก | TAETEN FT.NCT - นิยาย [NCT] องครักษ์ที่รัก | TAETEN FT.NCT : Dek-D.com - Writer
×

    [NCT] องครักษ์ที่รัก | TAETEN FT.NCT

    รักต้องห้ามของ องค์ชายรัชทายาทเท็นนัมกุลกับองครักษ์อีแทยง จะเป็นเช่นไร โปรดติดตามและเอาใจช่วยพวกเขากันด้วยนะครับ

    ผู้เข้าชมรวม

    776

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    776

    ความคิดเห็น


    26

    คนติดตาม


    49
    จำนวนตอน :  4 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  8 ม.ค. 60 / 17:05 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                   


    Intro

    องครักษ์ที่รัก




                   กลางดึกสงัดที่ไร้เมฆา จันทรากลับอวดแสงจ้าสีเงินนวลส่องไปทั่วทุกตารางนิ้วภายในวังหลวงแห่งเมืองโชซอน


                   แมวดำตัวน้อยย่างกรายเรียวขาทั้งสี่ของมันอยู่บนยอดหลังคานั้น ด้วยน้ำหนักปลายเท้าที่นุ่มนวลดุจดังนักกายกรรมเดินไต่อยู่บนเส้นเชือก หาได้กลัวความสูงที่ห่างจากพื้นเบื้องล่างแม้แต่เพียงน้อยนิด


                   ทางเดินบนพื้นเบื้องล่างนั้น กลับมีขันทีผู้หนึ่งที่คอยรับใช้องค์ชายรัชทายาท กำลังเร่งฝีเท้าของตนเองตรงเข้ามายังตำหนักอย่างตื่นกลัว รีบร้อน และลนลาน

     

                   องค์รัชทายาท เท็นนัมกุล พลิกตัวลืมตาตื่นขึ้น ก่อนไล้มือของตนเองออกจากผ้าห่มเพื่อควานหาสัมผัสจากใครคนหนึ่งที่นอนอยู่เคียงข้าง หากแต่องค์รัชทายาทกลับพบเพียงความว่างเปล่าไร้เงาของคนสำคัญที่เขาต้องการเห็นหน้าทุกครั้งที่ลืมตาขึ้นมา เด็กหนุ่มผู้มีฐานันดรศักดิ์ยันกายลุกขึ้นนั่งจนผ้าห่มสีทองร่วงลงมาอยู่บนตัก

     

                   "แทยง เจ้าอยู่หรือเปล่า?" เด็กหนุ่มที่อยู่ในห้องเพียงลำพังร้องเรียกหาคนสนิท

     

                   ...

     

                   "มีใครอยู่ข้างนอกไหม?"

     

                   ...

     

                   "ไม่มีใครอยู่เลยเหรอ?!"

     

                   ...

     

                   "มีใครอยู่ไหม?!!

     

                   ...

     

                   ไม่มีใครอยู่ข้างนอกเลยเหรอ?!"

     

                   ...

     

                   เท็นนัมกุลเป็นถึงองค์ชายรัชทายาทแห่งเมืองโชซอน หากเขาต้องการสิ่งใดแล้ว ไม่ว่าใครก็ต้องพร้อมที่จะเข้ามาคอยรับใช้ปรนบัติอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง

     

                   แต่ครั้งนี้กลับไม่เป็นไปดั่งที่เขาคิด

     

                   ใบหน้าขององค์รัชทายาทเปลี่ยนเป็นวิตกกังวัลขึ้นมาทันที นี่ต้องมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นแน่นอน

     

                   เสียงฝีเท้าที่ดังถี่ค่อย ๆ ดังชัดเข้ามาภายในตำหนัก ขันทีในชุดสีเขียวที่วิ่งหกล้มกลิ้งคว่ำกลิ้งหงายอยู่ตรงทางเดินข้างนอกเมื่อสักครู่นี้ กำลังวิ่งเข้ามาพร้อมกับเสียงร้องไห้ที่ดังอยู่ในลำคอ

     

                   "ฮ...ฮือ..."

     

                   เท็นนัมกุลไม่อาจรอช้าได้อีกต่อไป เขาผุดลุกออกมาจากที่นอน แล้วพุ่งตัวตรงไปผลักบานประตูไม้ออกกว้างด้วยหน้าตาที่หวั่นวิตก

     

                   คนรับใช้ในชุดสีเขียวก้มศรีษะลงโค้งคำนับให้องค์ชายอย่างรีบร้อน

     

                   "เกิดอะไรขึ้น?!"

     

                   "อ...องค์ชาย...ฮ...ฮือ..." เสียงร้องไห้โฮของขันทีดังออกมาในที่สุด

     

                   "บอกข้ามา!"

     

                   "ฮ...ฮือ..."

     

                   "ข้าถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น?!"

     

                   "องค์ชาย...ฮ...ฮือ..."

     

                   ขันทีในชุดสีเขียวเอาแต่ก้มหน้าร้องไห้อยู่อย่างนั้น เขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อีก จนเท็นนัมกุลเริ่มรู้สึกหงุดหงิดกับท่าทีที่อ้ำอึ้งแบบนั้น เขาเผลอยื่นมือออกไปคว้าหัวไหล่ทั้งสองข้างของขันทีคนนัน้ก่อนออกแรงบีบหัวไหล่จนสุดกำลัง

     

                   "มีเรื่องอะไร?! ข้าถามว่ามีเรื่องอะไร?!"

     

                   "ฮ...ฮือ..."

     

    .

    .

     

                   ประตูไม้บานใหญ่ถูกผลักเปิดออกไปพร้อมกับองค์ชายรัชทายาทที่พุ่งตัวตามออกมาอย่างรวดเร็ว ขันทีคนเดิมในชุดสีเขียววิ่งตามหลังคนตัวเล็กออกมาในระยะประชิด


                   หากเป็นไปได้จริงในเวลานี้ เท็นกุลก็อยากจะพังประตูทุกบานทิ้งไปเพื่อให้เขาเดินไปถึงประตูบานสุดท้ายให้เร็วที่สุด

     

                   ทหารองครักษ์ทั้งหมดต่างพากันรีบเร่งตามออกมาจากตำหนักพร้อมอาวุธครบมืออย่างไม่มีใครที่ต้องออกคำสั่ง

     

                   องค์ชายรัชทายาทยังคงเร่งฝีเท้าตรงออกไปข้างหน้าอย่างไม่มีหยุดพัก แม้แต่ขันทีคนสนิทที่กำลังสะดุดขาตัวเองล้มลงอยู่ข้างหลังก็ไม่ได้อยู่ในความสนใจขององค์ชายเลยสักนิด

     

                   เท็นนัมกุลวิ่งผ่านพระราชตำหนักออกไปอย่างไม่รอช้า หวังเพียงที่จะออกจากเขตพระราชวังชั้นในแล้วตรงออกไปยังสวนดอกไม้ด้านนอกให้เร็วที่สุด

     

                   เบื้องหน้าที่เขามองเห็นนั้น มีกลุ่มทหาร ขันที และนางกำนัลหลายคนยืนรุมล้อมบางสิ่งบางอย่างอยู่ด้วยอาการตกใจ

     

                   ชายผ้าสีขาวของฉลองพระองค์ขององค์ชายรัชทายาทสะบัดขึ้นก่อนจะหยุดนิ่ง พร้อมกับปลายเท้าทั้งสองข้างของเท็นกุลที่หยุดวิ่งอย่างกระทันหันเมื่อเขามาถึงที่เกิดเหตุ

     

                   เท็นนัมกุลหายใจอย่างเหนื่อยหอบ เขาพยายามกอบโกยเอาอากาศหายใจเข้าไปจนเต็มปอดครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนเลื่อนปลายเท้าทั้งสองข้างก้าวเดินต่อไปในที่เกิดเหตุเบื้องหน้านั้น นางในทุกคนต่างยอมหลีกทางพร้อมกับก้มศรีษะโค้งคำนับให้กับเขา

     

                   สายตาคมวาวของเท็นนัมกุลจับจ้องมองตรงไปยังสระน้ำเบื้องหน้า องครักษ์คนสนิทของเขาคว่ำหน้านอนแน่นิ่งอยู่ภายในสระน้ำนั้น

     

                   เท็นนัมกุลยังคงสืบปลายเท้าเข้าไปอย่างเชื่องช้า หัวใจของเขาแทบจะหยุดเต้นในทุกวินาทีที่ร่างกายของเขายิ่งขยับเข้าไปใกล้ เรี่ยวแรงที่มีอยู่ในตอนนี้ก็แทบจะหายไปจนหมดภายในเสี้ยววินาทีนั้น

     

                   รองเท้าสีดำที่เคยมีเจ้าของ กลับลอยนิ่งอยู่บนผิวน้ำอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร

     

                   แม้จะต้องฝืนความรู้สึกมากมายขนาดไหน เท็นนัมกุลก็ต้องข่มใจสืบปลายเท้าของเขาเข้าไป ทั้งที่ตัวเองกลับใกล้จะไร้เรี่ยวแรงลงทุกที หยดน้ำตาที่ปริ่มคลออยู่ที่นัยน์ตาใกล้จะทลายเขื่อนกั้นพร้อมรินไหลออกมาอยู่รอมร่อแล้ว

     

                   "แท-ยง"

     

                   เสียงเรียกพร้อมก้อนสะอึกที่กลั้นอยู่ในลำคอกับหยดน้ำตาใสพลันร่วงหล่นลงมาจากนัยน์ตาอย่างไม่อาจจะต้านทานแรงโน้มถ่วงของโลกใบนี้ได้

     

                   "แทยง...อา"

     

                   เสียงสะอื้นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้มของเด็กหนุ่มไม่อาจฝืนทนเก็บกักเอาไว้ได้อีกต่อไป

     

                   "แทยง...อา"

     

                   "แทยง...อา"

     

                   ใครจะรู้บ้างว่าหัวใจดวงนี้ของเท็นนัมกุลมันได้แตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ไปแล้ว น้ำตาที่ปริ่มไหลออกมาเป็นสายจวนเจียนแทบขาดใจ ก็น่าจะแทนคำอธิบายได้เป็นอย่างดี

     

                   ร่างของคนรักที่ไม่อาจฟื้นคืนกลับมาหาเขาได้อีกแล้ว

     

                   "องค์ชาย!”

     

                   ...

     

                   องค์ชาย!"

     

                   ...

     

                   ทหารองครักษ์นับสิบคนที่วิ่งมาถึง รีบตรงเข้าไปรั้งจับท่อนแขนขององค์รัชทายาทเอาไว้ ก่อนที่องค์ชายจะก้าวเดินตรงไปยังสระน้ำอย่างไร้สติ

     

                   "องค์ชาย!”

     

                   ...

     

                   องค์ชาย!"

     

                   "ปล่อยข้าสิ! ปล่อยข้า!"

     

                   องค์รัชทายาทพยายามดิ้นรนต่อสู้ขัดขืน เพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากการเกาะกุมของเหล่าทหาร เขาอยากจะเข้าไปหาองครักษ์คนสนิทคนที่เป็นมากกว่าชีวิตของเขา เป็นครั้งสุดท้ายเพียงเท่านี้องค์ชายรัชทายาทอย่างเขาก็ไม่อาจทำมันได้เลยอย่างนั้นหรือ

     

                   "องค์ชาย!"

     

                   "ปล่อยข้านะ!"

     

                   ทุกหยดน้ำตาของลูกผู้ชายอย่างเท็นนัมกุล ที่ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่เขาจะยอมปล่อยให้ใครได้เห็นมันอย่างง่ายดาย กลับพรั่งพรู่ออกมาแบบที่ไม่หลงเหลือคราบของความเป็นองค์ชายรัชทายาทผู้เคยแข็งแกร่งมาก่อนเลยสักนิด

     

                   "แทยง เจ้าไปทำอะไรอยู่ตรงนั้น? แทยง...ฮ...ฮือ..." ถึงแม้ทหารองครักษ์จะรั้งตัวองค์ชายเอาไว้จนแทบจะขยับกายไม่ได้ แต่เท็นนัมกุลก็ยังคงตะโกนร้องเรียกชื่อของคนรักออกไปจนสุดเสียง

     

                   "แทยง...อา…”

     

                   ฮือ..."

     

                   "แทยง...อา…”

     

                   ฮือ..."

     

                   "ปล่อยข้า!"

     

                   ฮือ..."

     

                   "แทยง...อา…”

     

                   ร่างของแทยงองครักษ์คนสนิทผู้เป็นดั่งดวงใจของเท็นนัมกุลนอนแน่นิ่งคว่ำหน้าอยู่กลางสระน้ำนั้นอย่างไม่ไหวติง

     

    .

    .

     

                   ภายในพระราชตำหนักคยองบ๊ก พระราชาทรงยกยิ้มขึ้นมา หลังจากทรงจิบชาร้อนในถ้วยเคลือบที่ทำจากหยกสีเขียวสดที่ถูกตกแต่งด้วยลวดลายมังกรสีทองอย่างงดงาม พระองค์ทรงทอดพระเนตรใบหน้าของเด็กน้อยวัยสิบขวบที่นั่งหลังตรงอยู่ทางขวามือเบื้องหน้านั้น ท่ามกลางวงล้อมของขุนนางที่นับรวมได้มากกว่าสิบคน

     

                   "องค์ชาย"

     

                   "พ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ" องค์ชายเท็นกุลขานรับผู้เป็นพ่อด้วยรอยยิ้มที่สดใส

     

                   "บรรดาขุนนางต่างพากันร้อนใจ อยากเห็นเจ้ารีบคัดเลือกองครักษ์คู่ใจไว้คอยช่วยคุ้มกันตัวเจ้าสักคนหนึ่ง ข้าขอถามหน่อยว่าเจ้าอยากได้องครักษ์แบบไหนกันล่ะ?" พระราชาทรงพระสรวลตรัสถามออกมาอย่างอารมณ์ดี

     

                   "หม่อมฉันอยากได้องครักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดพ่ะย่ะค่ะ" เท็นกุลตอบผู้เป็นพระบิดากลับไปอย่างฉะฉาน

     

                   "ว่าไงนะ?"

     

                   "องค์ชาย พระอาญามิพ้นเกล้า ทรงสนพระทัยเพียงแค่ความแข็งแกร่งเท่านั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ" ขุนนางชนชั้นสูงคนหนึ่งขออนุญาตถามรัชทายาทอย่างคาดหวังคำตอบอื่น

     

                   "ถ้าหากว่าข้ามีองครักษ์ที่แข็งแกร่ง ข้าก็จะได้ฝึกฝีมือการต่อสู้กับเขาได้ทุกวันเลยยังไงล่ะ แต่ถ้าจะให้ดีมากกว่านั้น เขาควรมีหน้าตาที่หล่อสู้ข้าไม่ได้ ข้าจะได้มีเรื่องหนึ่งที่ดูเหนือกว่าเขา"

     

                   "อะไรกัน? ต้องดูหล่อน้อยกว่าเจ้าอย่างนั้นเหรอ?" พระราชาตรัสถามออกไปพร้อมหัวเราะเสียงดังไปทั่วทั้งตำหนัก

     

                   แม้แต่เหล่าขุนนางเองต่างก็พากันชอบอกชอบใจหัวเราะเสียงดังให้กับความไร้เดียงสาขององค์ชายรัชทายาทตามออกไปด้วย

     

    .

    .

     

                   แทยงในวัยสิบขวบกำลังวิ่งหน้าตาตื่นกลับเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ของตัวเอง ตระกูลคิมคือตระกูลนักรบผู้ยิ่งใหญ่ที่มีชื่อเสียงและมีประวัติสืบทอดกันมายาวนานชนิดที่เรียกได้ว่าไม่มีใครในโชซอนไม่รู้จัก เขาวิ่งตรงไปยังห้องนอนของพี่ชาย ก่อนเลื่อนบานประตูเปิดออกแล้วซุกตัวเข้าไปในนั้นอย่างลุกลี้ลุกลน

     

                   "พี่แทอิล! พี่แทอิล!" เขาร้องเรียกพี่ชายสุดที่รักด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเป็นที่สุด

     

                   "อะไรของเจ้ากันเนี่ย?! แทยง?!" คนเป็นพี่ที่กำลังตั้งใจอ่านหนังสือถามกลับไปด้วยท่าทางที่ไม่อยากจะใส่ใจอะไรมากนัก

               

                   "ตอนนี้มีข่าวประกาศออกไปทั่ว ว่ามีพระราชโองการให้ส่งตัวเด็กผู้ชายที่มีความแข็งแกร่ง ให้เข้ารับการคัดเลือกเป็นทหารองครักษ์ขององค์ชายรัชทายาทน่ะสิ" สิ้นเสียงเจื้อยแจ้วของแทยง พี่ชายคนโตก็ปิดหนังสือบนโต๊ะพลันเลื่อนสายตาหันมายิ้มให้กับน้องชายของเขาในทันที

     

                   "ห๊า...จริงเหรอ? คัดเลือกเป็นองครักษ์ขององค์ชายใช่ไหม?"

     

                   "ก็จริงน่ะสิ" แทยงพยักหน้ารับพร้อมยิ้มตอบกลับไปอย่างมั่นใจในคำตอบนั้นเป็นที่สุด

     

                   คนเป็นพี่ได้แต่เบิกตากว้างส่งยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี

     

                   "แล้วท่านพี่รู้ไหม? ว่าทำไมบ้านเราถึงมีคนเข้าออกมากมายขนาดนี้?" น้องชายตัวเล็กตั้งคำถามย้อนกลับไปหาพี่ชายอีกครั้ง

     

                   เอ๋?

     

                   "เพราะมีข่าวว่า ลูกชายของท่านพ่อกำลังจะได้รับเลือกให้เป็นองครักษ์ขององค์ชายรัชทายาทยังไงล่ะ พวกเขาก็เลยมาร่วมแสดงความยินดีกันก่อนล่วงหน้า" เด็กน้อยแทยงพูดเสียงเจื้อยแจ้วไม่ยอมหยุดจนแทอิลที่นั่งฟังอยู่ต้องหันมายิ้มให้กับน้องชายตัวเองอีกครั้ง

     

                   "ถ้าเจ้าบอกว่าพวกเขามาแสดงความยินดีให้กับลูกชายของท่านพ่อที่จะได้รับคัดเลือก นั่นก็หมายความว่า ไม่เจ้าก็ข้าที่จะมีสิทธิ์ได้เป็นราชองครักษ์ขององค์ชายน่ะสิ" สองพี่น้องต่างพากันหัวเราะคิกคักชอบอกชอบใจ

     

                   "แล้วใครกันล่ะที่จะได้รับเลือกให้เป็นราชองครักษ์?" แทอิลแกล้งยิ้มแหย่ถามน้องชายตัวเล็ก

     

                   "จริง ๆ เลยนะ มันก็ต้องเป็นท่านพี่อยู่แล้ว" แทยงตอบกลับไปแบบที่ไม่ต้องใช้ความคิดเลยสักนิด ทำเอาคนที่ได้ยินคำตอบนั้นพลันยิ้มตามออกมาอย่างชอบใจในคำตอบเป็นที่สุด

               

                   "เฮ้อ! แค่ข้ารู้ว่าท่านพี่จะได้เป็นองครักษ์ขององค์ชายรัชทายาท ข้าก็รู้สึกดีใจจะแย่อยู่แล้ว ข้าจะได้เห็นวังหลวงจริง ๆ สักครั้ง นั่นก็เป็นเพราะท่านพี่เลยนะ"

     

                   "แทยง หากข้าได้เป็นองครักษ์ขององค์ชายแล้ว ข้าจะเรียกเจ้าเข้าวังไปหาทุกวันเลยนะ ให้เจ้าได้เจอผู้หญิงสวย ๆ ได้กินของอร่อยที่สุดเลยด้วย" คนเป็นพี่ให้สัญญากับน้องชายตัวเล็กที่กำลังนั่งฝันหวานอยากเห็นวังหลวงสักครั้งในชีวิต

     

                   "องค์รัชทายาทจะมีฝีมือที่เก่งกาจและมีรูปร่างหน้าตาเป็นแบบไหนกันนะ?" แทยงพยายามจินตนาการถึงคนที่เขากำลังพูดถึงอยู่ในห้วงความคิด

     

    .

    .

     

                   "พวกเจ้าได้ยินข่าวกันแล้วใช่ไหม? บ้านเราคงจะต้องส่งบุตรชายเข้ารับการคัดเลือกครั้งนี้ด้วยเหมือนกัน" บิดาของเด็กหนุ่มทั้งสองคนเอ่ยขึ้นหลังจากที่เรียกตัวทั้งคู่เข้ามาพบ

     

                   "เมื่อเจ้าได้รับเลือกให้เข้าไปฝึกเป็นราชองครักษ์แล้ว เจ้าจะต้องตั้งใจฝึกให้เต็มที่เพื่อแสดงความแข็งแกร่งและความสามารถที่ไม่อาจมีใครเทียบเจ้าได้ นั่นเป็นการดีที่เจ้าจะได้ทำสิ่งดีให้แก่วงศ์ตระกูล ซึ่งในการคัดเลือกครั้งนี้ พ่อจะส่งตัวแทยงเข้าไป เพราะฉะนั้นเจ้าต้องรีบเตรียมตัว" สายตาของคนเป็นพ่อหันไปส่งยิ้มให้กับลูกชายคนเล็กที่นั่งอยู่ทางซ้ายมือของเขา

     

                   เสียงคำตัดสินของผู้เป็นพ่อเปรียบดังสายฟ้าฟาดที่สาดใส่เด็กหนุ่มผู้เป็นพี่ชายคนโตของบ้าน แทอิลพลันนิ่วหน้าขมวดคิ้วเข้าหากันในทันทีอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก

     

                   คนเป็นน้องพลันเงยหน้าขึ้นมองดูรอยยิ้มของผู้เป็นพ่อด้วยความสงสัย ทั้งที่เขาเองเตรียมตัวแสดงความยินดีกับพี่ชายของเขาเอาไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว

     

                   "ท่านพี่ นี่ท่านจะส่งลูกชายคนเล็กไปอย่างนั้นเหรอ?" ผู้เป็นแม่หันไปถามผู้เป็นสามีแบบตะกุกตะกัก

     

                   "ถูกต้องแล้ว แทยงลูกชายคนเล็กของเราจะต้องเข้ารับการคัดเลือกครั้งนี้"

     

                   แทยงที่ได้ยินคำตอบนั้น กลับรู้สึกลำบากใจยิ่งนัก เขาค่อย ๆ ชำเลืองสายตามองดูใบหน้าของพี่ชายที่นั่งอยู่ข้างตัวเขาด้วยความรู้สึกเสียใจและรู้สึกผิดไปในคราวเดียวกัน

     

                   "ท่านพ่อ..." แทยงพยายามทักท้วงบิดาออกไป เพื่อขอให้ท่านทบทวนการตัดสินใจใหม่อีกครั้ง

     

                   หยดน้ำตาของแทอิลพลันคลอรื้นขึ้นมาเต็มหน่วย เขาคาดหวังเรื่องนี้มากเกินไป จึงต้องเสียใจเมื่อตัวเองไม่ได้เป็นผู้ถูกเลือก

     

                   "แทอิลฟังพ่อให้ดี" ผู้เป็นพ่อมองดูใบหน้าลูกชายที่พยายามกลั้นก้อนสะอื้นเอาไว้

     

                   "ครับ ท่านพ่อ"

     

                   "เจ้าต้องช่วยน้องเตรียมตัวสำหรับการคัดเลือกให้ดีที่สุด เข้าใจไหม?"

     

                   ครับ ท่านพ่อ"

     

                   เด็กหนุ่มที่พยายามกลั้นก้อนสะอื้นเอาไว้ ตอนนี้หยดน้ำตามันได้ไหลออกมาจากเขื่อนกั้นแล้วอย่างง่ายดายแบบที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้สึกว่าจะต้องอับอายใครหน้าไหนอีกต่อไปแล้ว

     

                   ดวงใจของผู้เป็นแม่หล่นวูบไปในทันที นางรู้สึกสงสารแทอิลขึ้นมาจับใจ แต่ก็ช่วยเหลืออะไรลูกชายคนโตไม่ได้เลยสักนิด แทยงเองก็เป็นลูกชายของเธอเหมือนกัน แล้วจะให้เธอนั้นทำอย่างไร

     

                   แทยงได้แต่นั่งก้มหน้านิ่ง ถึงแม้ว่าตัวเขาเองอยากที่จะเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของคนเป็นพ่อในครั้งนี้ แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน





    #นอนรอคนอ่าน

    #องครักษ์ที่รัก




                 











       
      CR.SQW
     
     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น