[NCT] องครักษ์ที่รัก | TAETEN FT.NCT - นิยาย [NCT] องครักษ์ที่รัก | TAETEN FT.NCT : Dek-D.com - Writer
×

[NCT] องครักษ์ที่รัก | TAETEN FT.NCT

โดย Osakaboy

รักต้องห้ามของ องค์ชายรัชทายาทเท็นนัมกุลกับองครักษ์อีแทยง จะเป็นเช่นไร โปรดติดตามและเอาใจช่วยพวกเขากันด้วยนะครับ

ยอดวิวรวม

721

ยอดวิวเดือนนี้

1

ยอดวิวรวม


721

ความคิดเห็น


13

คนติดตาม


50
จำนวนตอน : 4 ตอน
อัปเดตล่าสุด :  8 ม.ค. 60 / 17:05 น.

ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

               


Intro

องครักษ์ที่รัก




               กลางดึกสงัดที่ไร้เมฆา จันทรากลับอวดแสงจ้าสีเงินนวลส่องไปทั่วทุกตารางนิ้วภายในวังหลวงแห่งเมืองโชซอน


               แมวดำตัวน้อยย่างกรายเรียวขาทั้งสี่ของมันอยู่บนยอดหลังคานั้น ด้วยน้ำหนักปลายเท้าที่นุ่มนวลดุจดังนักกายกรรมเดินไต่อยู่บนเส้นเชือก หาได้กลัวความสูงที่ห่างจากพื้นเบื้องล่างแม้แต่เพียงน้อยนิด


               ทางเดินบนพื้นเบื้องล่างนั้น กลับมีขันทีผู้หนึ่งที่คอยรับใช้องค์ชายรัชทายาท กำลังเร่งฝีเท้าของตนเองตรงเข้ามายังตำหนักอย่างตื่นกลัว รีบร้อน และลนลาน

 

               องค์รัชทายาท เท็นนัมกุล พลิกตัวลืมตาตื่นขึ้น ก่อนไล้มือของตนเองออกจากผ้าห่มเพื่อควานหาสัมผัสจากใครคนหนึ่งที่นอนอยู่เคียงข้าง หากแต่องค์รัชทายาทกลับพบเพียงความว่างเปล่าไร้เงาของคนสำคัญที่เขาต้องการเห็นหน้าทุกครั้งที่ลืมตาขึ้นมา เด็กหนุ่มผู้มีฐานันดรศักดิ์ยันกายลุกขึ้นนั่งจนผ้าห่มสีทองร่วงลงมาอยู่บนตัก

 

               "แทยง เจ้าอยู่หรือเปล่า?" เด็กหนุ่มที่อยู่ในห้องเพียงลำพังร้องเรียกหาคนสนิท

 

               ...

 

               "มีใครอยู่ข้างนอกไหม?"

 

               ...

 

               "ไม่มีใครอยู่เลยเหรอ?!"

 

               ...

 

               "มีใครอยู่ไหม?!!

 

               ...

 

               ไม่มีใครอยู่ข้างนอกเลยเหรอ?!"

 

               ...

 

               เท็นนัมกุลเป็นถึงองค์ชายรัชทายาทแห่งเมืองโชซอน หากเขาต้องการสิ่งใดแล้ว ไม่ว่าใครก็ต้องพร้อมที่จะเข้ามาคอยรับใช้ปรนบัติอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง

 

               แต่ครั้งนี้กลับไม่เป็นไปดั่งที่เขาคิด

 

               ใบหน้าขององค์รัชทายาทเปลี่ยนเป็นวิตกกังวัลขึ้นมาทันที นี่ต้องมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นแน่นอน

 

               เสียงฝีเท้าที่ดังถี่ค่อย ๆ ดังชัดเข้ามาภายในตำหนัก ขันทีในชุดสีเขียวที่วิ่งหกล้มกลิ้งคว่ำกลิ้งหงายอยู่ตรงทางเดินข้างนอกเมื่อสักครู่นี้ กำลังวิ่งเข้ามาพร้อมกับเสียงร้องไห้ที่ดังอยู่ในลำคอ

 

               "ฮ...ฮือ..."

 

               เท็นนัมกุลไม่อาจรอช้าได้อีกต่อไป เขาผุดลุกออกมาจากที่นอน แล้วพุ่งตัวตรงไปผลักบานประตูไม้ออกกว้างด้วยหน้าตาที่หวั่นวิตก

 

               คนรับใช้ในชุดสีเขียวก้มศรีษะลงโค้งคำนับให้องค์ชายอย่างรีบร้อน

 

               "เกิดอะไรขึ้น?!"

 

               "อ...องค์ชาย...ฮ...ฮือ..." เสียงร้องไห้โฮของขันทีดังออกมาในที่สุด

 

               "บอกข้ามา!"

 

               "ฮ...ฮือ..."

 

               "ข้าถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น?!"

 

               "องค์ชาย...ฮ...ฮือ..."

 

               ขันทีในชุดสีเขียวเอาแต่ก้มหน้าร้องไห้อยู่อย่างนั้น เขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อีก จนเท็นนัมกุลเริ่มรู้สึกหงุดหงิดกับท่าทีที่อ้ำอึ้งแบบนั้น เขาเผลอยื่นมือออกไปคว้าหัวไหล่ทั้งสองข้างของขันทีคนนัน้ก่อนออกแรงบีบหัวไหล่จนสุดกำลัง

 

               "มีเรื่องอะไร?! ข้าถามว่ามีเรื่องอะไร?!"

 

               "ฮ...ฮือ..."

 

.

.

 

               ประตูไม้บานใหญ่ถูกผลักเปิดออกไปพร้อมกับองค์ชายรัชทายาทที่พุ่งตัวตามออกมาอย่างรวดเร็ว ขันทีคนเดิมในชุดสีเขียววิ่งตามหลังคนตัวเล็กออกมาในระยะประชิด


               หากเป็นไปได้จริงในเวลานี้ เท็นกุลก็อยากจะพังประตูทุกบานทิ้งไปเพื่อให้เขาเดินไปถึงประตูบานสุดท้ายให้เร็วที่สุด

 

               ทหารองครักษ์ทั้งหมดต่างพากันรีบเร่งตามออกมาจากตำหนักพร้อมอาวุธครบมืออย่างไม่มีใครที่ต้องออกคำสั่ง

 

               องค์ชายรัชทายาทยังคงเร่งฝีเท้าตรงออกไปข้างหน้าอย่างไม่มีหยุดพัก แม้แต่ขันทีคนสนิทที่กำลังสะดุดขาตัวเองล้มลงอยู่ข้างหลังก็ไม่ได้อยู่ในความสนใจขององค์ชายเลยสักนิด

 

               เท็นนัมกุลวิ่งผ่านพระราชตำหนักออกไปอย่างไม่รอช้า หวังเพียงที่จะออกจากเขตพระราชวังชั้นในแล้วตรงออกไปยังสวนดอกไม้ด้านนอกให้เร็วที่สุด

 

               เบื้องหน้าที่เขามองเห็นนั้น มีกลุ่มทหาร ขันที และนางกำนัลหลายคนยืนรุมล้อมบางสิ่งบางอย่างอยู่ด้วยอาการตกใจ

 

               ชายผ้าสีขาวของฉลองพระองค์ขององค์ชายรัชทายาทสะบัดขึ้นก่อนจะหยุดนิ่ง พร้อมกับปลายเท้าทั้งสองข้างของเท็นกุลที่หยุดวิ่งอย่างกระทันหันเมื่อเขามาถึงที่เกิดเหตุ

 

               เท็นนัมกุลหายใจอย่างเหนื่อยหอบ เขาพยายามกอบโกยเอาอากาศหายใจเข้าไปจนเต็มปอดครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนเลื่อนปลายเท้าทั้งสองข้างก้าวเดินต่อไปในที่เกิดเหตุเบื้องหน้านั้น นางในทุกคนต่างยอมหลีกทางพร้อมกับก้มศรีษะโค้งคำนับให้กับเขา

 

               สายตาคมวาวของเท็นนัมกุลจับจ้องมองตรงไปยังสระน้ำเบื้องหน้า องครักษ์คนสนิทของเขาคว่ำหน้านอนแน่นิ่งอยู่ภายในสระน้ำนั้น

 

               เท็นนัมกุลยังคงสืบปลายเท้าเข้าไปอย่างเชื่องช้า หัวใจของเขาแทบจะหยุดเต้นในทุกวินาทีที่ร่างกายของเขายิ่งขยับเข้าไปใกล้ เรี่ยวแรงที่มีอยู่ในตอนนี้ก็แทบจะหายไปจนหมดภายในเสี้ยววินาทีนั้น

 

               รองเท้าสีดำที่เคยมีเจ้าของ กลับลอยนิ่งอยู่บนผิวน้ำอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร

 

               แม้จะต้องฝืนความรู้สึกมากมายขนาดไหน เท็นนัมกุลก็ต้องข่มใจสืบปลายเท้าของเขาเข้าไป ทั้งที่ตัวเองกลับใกล้จะไร้เรี่ยวแรงลงทุกที หยดน้ำตาที่ปริ่มคลออยู่ที่นัยน์ตาใกล้จะทลายเขื่อนกั้นพร้อมรินไหลออกมาอยู่รอมร่อแล้ว

 

               "แท-ยง"

 

               เสียงเรียกพร้อมก้อนสะอึกที่กลั้นอยู่ในลำคอกับหยดน้ำตาใสพลันร่วงหล่นลงมาจากนัยน์ตาอย่างไม่อาจจะต้านทานแรงโน้มถ่วงของโลกใบนี้ได้

 

               "แทยง...อา"

 

               เสียงสะอื้นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้มของเด็กหนุ่มไม่อาจฝืนทนเก็บกักเอาไว้ได้อีกต่อไป

 

               "แทยง...อา"

 

               "แทยง...อา"

 

               ใครจะรู้บ้างว่าหัวใจดวงนี้ของเท็นนัมกุลมันได้แตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ไปแล้ว น้ำตาที่ปริ่มไหลออกมาเป็นสายจวนเจียนแทบขาดใจ ก็น่าจะแทนคำอธิบายได้เป็นอย่างดี

 

               ร่างของคนรักที่ไม่อาจฟื้นคืนกลับมาหาเขาได้อีกแล้ว

 

               "องค์ชาย!”

 

               ...

 

               องค์ชาย!"

 

               ...

 

               ทหารองครักษ์นับสิบคนที่วิ่งมาถึง รีบตรงเข้าไปรั้งจับท่อนแขนขององค์รัชทายาทเอาไว้ ก่อนที่องค์ชายจะก้าวเดินตรงไปยังสระน้ำอย่างไร้สติ

 

               "องค์ชาย!”

 

               ...

 

               องค์ชาย!"

 

               "ปล่อยข้าสิ! ปล่อยข้า!"

 

               องค์รัชทายาทพยายามดิ้นรนต่อสู้ขัดขืน เพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากการเกาะกุมของเหล่าทหาร เขาอยากจะเข้าไปหาองครักษ์คนสนิทคนที่เป็นมากกว่าชีวิตของเขา เป็นครั้งสุดท้ายเพียงเท่านี้องค์ชายรัชทายาทอย่างเขาก็ไม่อาจทำมันได้เลยอย่างนั้นหรือ

 

               "องค์ชาย!"

 

               "ปล่อยข้านะ!"

 

               ทุกหยดน้ำตาของลูกผู้ชายอย่างเท็นนัมกุล ที่ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่เขาจะยอมปล่อยให้ใครได้เห็นมันอย่างง่ายดาย กลับพรั่งพรู่ออกมาแบบที่ไม่หลงเหลือคราบของความเป็นองค์ชายรัชทายาทผู้เคยแข็งแกร่งมาก่อนเลยสักนิด

 

               "แทยง เจ้าไปทำอะไรอยู่ตรงนั้น? แทยง...ฮ...ฮือ..." ถึงแม้ทหารองครักษ์จะรั้งตัวองค์ชายเอาไว้จนแทบจะขยับกายไม่ได้ แต่เท็นนัมกุลก็ยังคงตะโกนร้องเรียกชื่อของคนรักออกไปจนสุดเสียง

 

               "แทยง...อา…”

 

               ฮือ..."

 

               "แทยง...อา…”

 

               ฮือ..."

 

               "ปล่อยข้า!"

 

               ฮือ..."

 

               "แทยง...อา…”

 

               ร่างของแทยงองครักษ์คนสนิทผู้เป็นดั่งดวงใจของเท็นนัมกุลนอนแน่นิ่งคว่ำหน้าอยู่กลางสระน้ำนั้นอย่างไม่ไหวติง

 

.

.

 

               ภายในพระราชตำหนักคยองบ๊ก พระราชาทรงยกยิ้มขึ้นมา หลังจากทรงจิบชาร้อนในถ้วยเคลือบที่ทำจากหยกสีเขียวสดที่ถูกตกแต่งด้วยลวดลายมังกรสีทองอย่างงดงาม พระองค์ทรงทอดพระเนตรใบหน้าของเด็กน้อยวัยสิบขวบที่นั่งหลังตรงอยู่ทางขวามือเบื้องหน้านั้น ท่ามกลางวงล้อมของขุนนางที่นับรวมได้มากกว่าสิบคน

 

               "องค์ชาย"

 

               "พ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ" องค์ชายเท็นกุลขานรับผู้เป็นพ่อด้วยรอยยิ้มที่สดใส

 

               "บรรดาขุนนางต่างพากันร้อนใจ อยากเห็นเจ้ารีบคัดเลือกองครักษ์คู่ใจไว้คอยช่วยคุ้มกันตัวเจ้าสักคนหนึ่ง ข้าขอถามหน่อยว่าเจ้าอยากได้องครักษ์แบบไหนกันล่ะ?" พระราชาทรงพระสรวลตรัสถามออกมาอย่างอารมณ์ดี

 

               "หม่อมฉันอยากได้องครักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดพ่ะย่ะค่ะ" เท็นกุลตอบผู้เป็นพระบิดากลับไปอย่างฉะฉาน

 

               "ว่าไงนะ?"

 

               "องค์ชาย พระอาญามิพ้นเกล้า ทรงสนพระทัยเพียงแค่ความแข็งแกร่งเท่านั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ" ขุนนางชนชั้นสูงคนหนึ่งขออนุญาตถามรัชทายาทอย่างคาดหวังคำตอบอื่น

 

               "ถ้าหากว่าข้ามีองครักษ์ที่แข็งแกร่ง ข้าก็จะได้ฝึกฝีมือการต่อสู้กับเขาได้ทุกวันเลยยังไงล่ะ แต่ถ้าจะให้ดีมากกว่านั้น เขาควรมีหน้าตาที่หล่อสู้ข้าไม่ได้ ข้าจะได้มีเรื่องหนึ่งที่ดูเหนือกว่าเขา"

 

               "อะไรกัน? ต้องดูหล่อน้อยกว่าเจ้าอย่างนั้นเหรอ?" พระราชาตรัสถามออกไปพร้อมหัวเราะเสียงดังไปทั่วทั้งตำหนัก

 

               แม้แต่เหล่าขุนนางเองต่างก็พากันชอบอกชอบใจหัวเราะเสียงดังให้กับความไร้เดียงสาขององค์ชายรัชทายาทตามออกไปด้วย

 

.

.

 

               แทยงในวัยสิบขวบกำลังวิ่งหน้าตาตื่นกลับเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ของตัวเอง ตระกูลคิมคือตระกูลนักรบผู้ยิ่งใหญ่ที่มีชื่อเสียงและมีประวัติสืบทอดกันมายาวนานชนิดที่เรียกได้ว่าไม่มีใครในโชซอนไม่รู้จัก เขาวิ่งตรงไปยังห้องนอนของพี่ชาย ก่อนเลื่อนบานประตูเปิดออกแล้วซุกตัวเข้าไปในนั้นอย่างลุกลี้ลุกลน

 

               "พี่แทอิล! พี่แทอิล!" เขาร้องเรียกพี่ชายสุดที่รักด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเป็นที่สุด

 

               "อะไรของเจ้ากันเนี่ย?! แทยง?!" คนเป็นพี่ที่กำลังตั้งใจอ่านหนังสือถามกลับไปด้วยท่าทางที่ไม่อยากจะใส่ใจอะไรมากนัก

           

               "ตอนนี้มีข่าวประกาศออกไปทั่ว ว่ามีพระราชโองการให้ส่งตัวเด็กผู้ชายที่มีความแข็งแกร่ง ให้เข้ารับการคัดเลือกเป็นทหารองครักษ์ขององค์ชายรัชทายาทน่ะสิ" สิ้นเสียงเจื้อยแจ้วของแทยง พี่ชายคนโตก็ปิดหนังสือบนโต๊ะพลันเลื่อนสายตาหันมายิ้มให้กับน้องชายของเขาในทันที

 

               "ห๊า...จริงเหรอ? คัดเลือกเป็นองครักษ์ขององค์ชายใช่ไหม?"

 

               "ก็จริงน่ะสิ" แทยงพยักหน้ารับพร้อมยิ้มตอบกลับไปอย่างมั่นใจในคำตอบนั้นเป็นที่สุด

 

               คนเป็นพี่ได้แต่เบิกตากว้างส่งยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี

 

               "แล้วท่านพี่รู้ไหม? ว่าทำไมบ้านเราถึงมีคนเข้าออกมากมายขนาดนี้?" น้องชายตัวเล็กตั้งคำถามย้อนกลับไปหาพี่ชายอีกครั้ง

 

               เอ๋?

 

               "เพราะมีข่าวว่า ลูกชายของท่านพ่อกำลังจะได้รับเลือกให้เป็นองครักษ์ขององค์ชายรัชทายาทยังไงล่ะ พวกเขาก็เลยมาร่วมแสดงความยินดีกันก่อนล่วงหน้า" เด็กน้อยแทยงพูดเสียงเจื้อยแจ้วไม่ยอมหยุดจนแทอิลที่นั่งฟังอยู่ต้องหันมายิ้มให้กับน้องชายตัวเองอีกครั้ง

 

               "ถ้าเจ้าบอกว่าพวกเขามาแสดงความยินดีให้กับลูกชายของท่านพ่อที่จะได้รับคัดเลือก นั่นก็หมายความว่า ไม่เจ้าก็ข้าที่จะมีสิทธิ์ได้เป็นราชองครักษ์ขององค์ชายน่ะสิ" สองพี่น้องต่างพากันหัวเราะคิกคักชอบอกชอบใจ

 

               "แล้วใครกันล่ะที่จะได้รับเลือกให้เป็นราชองครักษ์?" แทอิลแกล้งยิ้มแหย่ถามน้องชายตัวเล็ก

 

               "จริง ๆ เลยนะ มันก็ต้องเป็นท่านพี่อยู่แล้ว" แทยงตอบกลับไปแบบที่ไม่ต้องใช้ความคิดเลยสักนิด ทำเอาคนที่ได้ยินคำตอบนั้นพลันยิ้มตามออกมาอย่างชอบใจในคำตอบเป็นที่สุด

           

               "เฮ้อ! แค่ข้ารู้ว่าท่านพี่จะได้เป็นองครักษ์ขององค์ชายรัชทายาท ข้าก็รู้สึกดีใจจะแย่อยู่แล้ว ข้าจะได้เห็นวังหลวงจริง ๆ สักครั้ง นั่นก็เป็นเพราะท่านพี่เลยนะ"

 

               "แทยง หากข้าได้เป็นองครักษ์ขององค์ชายแล้ว ข้าจะเรียกเจ้าเข้าวังไปหาทุกวันเลยนะ ให้เจ้าได้เจอผู้หญิงสวย ๆ ได้กินของอร่อยที่สุดเลยด้วย" คนเป็นพี่ให้สัญญากับน้องชายตัวเล็กที่กำลังนั่งฝันหวานอยากเห็นวังหลวงสักครั้งในชีวิต

 

               "องค์รัชทายาทจะมีฝีมือที่เก่งกาจและมีรูปร่างหน้าตาเป็นแบบไหนกันนะ?" แทยงพยายามจินตนาการถึงคนที่เขากำลังพูดถึงอยู่ในห้วงความคิด

 

.

.

 

               "พวกเจ้าได้ยินข่าวกันแล้วใช่ไหม? บ้านเราคงจะต้องส่งบุตรชายเข้ารับการคัดเลือกครั้งนี้ด้วยเหมือนกัน" บิดาของเด็กหนุ่มทั้งสองคนเอ่ยขึ้นหลังจากที่เรียกตัวทั้งคู่เข้ามาพบ

 

               "เมื่อเจ้าได้รับเลือกให้เข้าไปฝึกเป็นราชองครักษ์แล้ว เจ้าจะต้องตั้งใจฝึกให้เต็มที่เพื่อแสดงความแข็งแกร่งและความสามารถที่ไม่อาจมีใครเทียบเจ้าได้ นั่นเป็นการดีที่เจ้าจะได้ทำสิ่งดีให้แก่วงศ์ตระกูล ซึ่งในการคัดเลือกครั้งนี้ พ่อจะส่งตัวแทยงเข้าไป เพราะฉะนั้นเจ้าต้องรีบเตรียมตัว" สายตาของคนเป็นพ่อหันไปส่งยิ้มให้กับลูกชายคนเล็กที่นั่งอยู่ทางซ้ายมือของเขา

 

               เสียงคำตัดสินของผู้เป็นพ่อเปรียบดังสายฟ้าฟาดที่สาดใส่เด็กหนุ่มผู้เป็นพี่ชายคนโตของบ้าน แทอิลพลันนิ่วหน้าขมวดคิ้วเข้าหากันในทันทีอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก

 

               คนเป็นน้องพลันเงยหน้าขึ้นมองดูรอยยิ้มของผู้เป็นพ่อด้วยความสงสัย ทั้งที่เขาเองเตรียมตัวแสดงความยินดีกับพี่ชายของเขาเอาไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว

 

               "ท่านพี่ นี่ท่านจะส่งลูกชายคนเล็กไปอย่างนั้นเหรอ?" ผู้เป็นแม่หันไปถามผู้เป็นสามีแบบตะกุกตะกัก

 

               "ถูกต้องแล้ว แทยงลูกชายคนเล็กของเราจะต้องเข้ารับการคัดเลือกครั้งนี้"

 

               แทยงที่ได้ยินคำตอบนั้น กลับรู้สึกลำบากใจยิ่งนัก เขาค่อย ๆ ชำเลืองสายตามองดูใบหน้าของพี่ชายที่นั่งอยู่ข้างตัวเขาด้วยความรู้สึกเสียใจและรู้สึกผิดไปในคราวเดียวกัน

 

               "ท่านพ่อ..." แทยงพยายามทักท้วงบิดาออกไป เพื่อขอให้ท่านทบทวนการตัดสินใจใหม่อีกครั้ง

 

               หยดน้ำตาของแทอิลพลันคลอรื้นขึ้นมาเต็มหน่วย เขาคาดหวังเรื่องนี้มากเกินไป จึงต้องเสียใจเมื่อตัวเองไม่ได้เป็นผู้ถูกเลือก

 

               "แทอิลฟังพ่อให้ดี" ผู้เป็นพ่อมองดูใบหน้าลูกชายที่พยายามกลั้นก้อนสะอื้นเอาไว้

 

               "ครับ ท่านพ่อ"

 

               "เจ้าต้องช่วยน้องเตรียมตัวสำหรับการคัดเลือกให้ดีที่สุด เข้าใจไหม?"

 

               ครับ ท่านพ่อ"

 

               เด็กหนุ่มที่พยายามกลั้นก้อนสะอื้นเอาไว้ ตอนนี้หยดน้ำตามันได้ไหลออกมาจากเขื่อนกั้นแล้วอย่างง่ายดายแบบที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้สึกว่าจะต้องอับอายใครหน้าไหนอีกต่อไปแล้ว

 

               ดวงใจของผู้เป็นแม่หล่นวูบไปในทันที นางรู้สึกสงสารแทอิลขึ้นมาจับใจ แต่ก็ช่วยเหลืออะไรลูกชายคนโตไม่ได้เลยสักนิด แทยงเองก็เป็นลูกชายของเธอเหมือนกัน แล้วจะให้เธอนั้นทำอย่างไร

 

               แทยงได้แต่นั่งก้มหน้านิ่ง ถึงแม้ว่าตัวเขาเองอยากที่จะเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของคนเป็นพ่อในครั้งนี้ แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน





#นอนรอคนอ่าน

#องครักษ์ที่รัก




             











   
  CR.SQW
 
 

อีบุ๊กในซีรีส์เดียวกัน ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

คำนิยม Top

ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

คำนิยมล่าสุด

ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

13 ความคิดเห็น