ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : >>>1
                                                                                                              1
“ฮายอง ลูกลงมาแม่หน่อยได้ไหม แม่มีอะไรจะคุยด้วย เร็วๆ เร็วนะจ๊ะ” เสียงแม่ของฉันเองจะเรียกทำไมก็ไม่รู้ยังเช้าอยู่เลยอ่ะ น่ารำคาญ คิดหรอว่าฉันจะลงไปกำลังหลับสบายอยู่แท้ ๆ
“ยูฮายอง!!! แม่เรียกไม่ได้ยินหรอไง จะลงมาดี ๆ หรือให้แม่ขึ้นไปปลุก” ว้ายถ้าแม่ขึ้นมาปลุก ฉันจะเหลือชีวิตรอดไหมเนี๊ยะ สงสัยละสิ ก็วิธีปลุกของแม่ฉันอ่ะนะ คือเอาพริกไปยัดใส่ปากฉัน แล้วมันไม่ใช่พริกธรรมดา มันเป็นพริกที่เผ็ดมาก ๆ ไอ้ฉันก็ไม่ค่อยชอบกินเผ็ดซ่ะด้วยสิ คิดแล้วขนลุกสยองขวัญสั่นประสาท อึ้ย
“ค่ะแม่ ตื่นแล้ว หนูจะลงไปเดี๋ยวนี้ไปแหละ แม่รอแป็บนึงนะค่ะ” เฮ้อต้องลุกจากเตียงที่แสนนุ่ม เตียงจ๊า ฉันลาก่อน เฮ้อ ทีเรื่องอะไรหนักหนาเนี๊ยะ
“มาช้าจิง แม่รอตั้งนาน แม่จะบอกว่า ลูกต้องไปเรียนต่อที่อีกเมืองนะจ๊ะ เพราะว่าแม่โดนคำสั่งย้ายด่วน ให้ไปทำงานที่นั่น แม่คิดว่าลูกคงไม่มีปัญหานะจ๊ะ” โอ้มายก็อด ฉันต้องไปจากเมืองนี้ ว้ายไม่ได้ฉันไม่ไป
“แม่ค่ะ หนูไม่ไปค่ะ หนูจะต่อไฮสคูลที่นี่ หนูไม่ไปที่ไหนทั้งนั้นอ่ะ หนูรักที่นี่ หนูไม่...”
“เงียบไปเลยจะลูกรักของแม่ แม่ตัดสินใจแล้ว แม่จะไม่ปล่อยให้ลูกรักของแม่ต้องอยู่ที่นี่คนเดียวแน่ ๆ แม่สมัครเรียนให้ลูกเรียบร้อยแล้วนะจ๊ะ แล้วก็อีกอย่างแม่ไม่มีทางเปลี่ยนใจแน่นอน อีก 1อาทิตย์นะจ๊ะ เราจะไปอยู่ที่นั่น ลูกตกลงนะจ๊ะ...ดีมาก งั้นตกลงตามนี้อีก 1 อาทิตย์ เพราะฉะนั้ลูกไปเก็บของให้เรียบร้อยนะจ๊ะ แม่ไปทำงานละนะจ๊ะ อาหารอยู่ในตู้เย็น อยากกินอะไรก็เอามาอุ่นนะจ๊ะ แม่ไปนะ แม่รักลูกนะ จุ๊บจุ๊บ”
    “แม่คะ แม่ แม่เดี๋ยว แม่...” แม่ไม่ยอมเปิดโอกาสให้ฉันพูดเลย แม่เล่นพูดฉอด ๆ ๆ อยู่คนเดียวอ่ะ เฮ้อ ฉันจะไปจากเมืองนี้ได้ยังไงอ่ะ ก็ในเมื่อฉันมีเพื่อนที่แสนดี มีแฟนที่แสนน่ารักของฉันอยู่ที่นี่อ่ะ ฉันจะทำไงดีอ่ะ คิดแล้วเครียด แฟน แฟน เออ ช่าย ฉันลืมได้ไง อย่างนี้ต้องโทรไปปรึกษาดูดีกว่า ว่าแล้วฉันก็หยิบโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดที่สุดแสนจะแพงขึ้นมา แล้วรีบโทรหาแฟนของฉันทันที
    “ฮัลโล มินโฮ ฉันมีอะไรจะบอกอ่ะ วันนี้เรามาเจอกันที่ร้านไอศกรีมที่เดิมนะ”
    “เอ่อ ฮายอง วันนี้ฉันไม่ว่างอ่ะ คือว่า เอ่อ... ฉันต้องไปทำธุระให้แม่อ่ะ เธอคงไม่ว่าอะไรฉันใช่ไหม”
    “อืม...ไม่เป็นไรหรอก ธุระฮันมันก็ไม่สำคัญเท่าไหร่หรอก”
    “เธอไม่โกรธฉันใช่ไหมฮายอง”
    “ไม่โกรธหรอก ธุระของแม่มันก็ต้องสำคัญกว่าอยู่แล้วอ่ะนะ งั้นแค่นี้ละกัน บาย”
    “จ๊า บายที่ร๊าก”
    เฮ้อพูดมาได้ว่าไม่โกรธใช่ไหม ฉันละอยากจะพูดจิงๆ เลยว่าโกรธ โกรธมากเลยด้วย ก็เดี๋ยวนี้เค้าชอบผิดนัด หรือไม่ก็ปฏิเสธที่จะไปกับฉัน เมื่อก่อนตอนที่เราคบกันใหม่ ๆ อ่ะนะ เค้าไม่เคยพูดว่า ไม่ได้ ไม่ว่างเลยอ่ะ เดี๋ยวนี้ฉันรู้สึกว่าเค้าแปลก ๆ ไป เหมือนกับยัยนามินเพื่อนรักเพื่อนซี้เพื่อนสนิทของฉันเอง นี่ก็อาทิตย์นึงแล้วที่ฉันกับนามินไม่ได้เจอกัน อย่างงี้ต้องชวนมาเลี้ยงที่เรียนจบ ม.3 สักกะหน่อย
    “ฮัลโล้.............นามินเพื่อนร๊าก”
    “มีอะไรรึป่าวจ๊ะฮายอง คือว่าฉันต้องรีบไปธุระอ่ะ” ธุระอีกแล้ว...เหมือนมินโฮเลย
    “เอ่อ...คือว่าฉันจะชวนเธอไปฉลองกันอ่ะ นะไปกะฉันนะ”
    “อืม...คือว่าฉันก็อยากจะไปนะ แต่ว่าฉันมีนัดอ่ะ”
    “เธอเห็นนัดของคนอื่นสามมะคานกว่าเพื่อนรักคนนี้ของเธอหรอ ฮือ...ฉันน้อยใจเธอแล้วนะ”
    “ปล่าวจ๊ะ คือว่าฉันเลื่อนนัดเค้ามาหลายรอบแล้วอ่ะ จะเลื่อนนัดเค้าอีกฉันก็เกรงใจเค้าอ่ะ เธอเข้าใจฉันนะ ฮายอง”
    “...”
    “ฮายอง อย่างเงียบอย่างงี้จิ ฉันสัญญาว่าพรุ่งนี้ฉันจะไปกับเธออ่ะ นะ”
    “ก้อได้ เธอรีบไปเถอะ เดี๋ยวคนของเธอเค้าจารอ บาย”
    “เค้าไม่ใช่คนของฉันหรอก...งั้นบ๊ายบายนะ”
    เอ๊ะ !!! เมื่อกี้นามินพูดว่าเค้าอะไรน้า ได้ยินไม่ค่อยถนัดเลยอ่ะ แต่ช่างเหอะ ช่วงบ่ายๆ ฉันค่อยไปเดินซื้อของคนเดียวดีกว่า มีแม่ แม่ก็เห็นงานดีกว่าลูก มีเพื่อน เพื่อนก็ไม่สน มีแฟน แฟนก็เห็นคนอื่นดีกว่า โอ๊ยชีวิตของฉันทำไมเป็นอย่างงี้เนี๊ยะ นอนต่อดีกว่า เชอะ !!!
    พอเริ่มบ่ายฉันก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ไปช็อปปิ้งระบายอารมณ์ ต้องซื้อเสื้อผ้า กระโปรง สร้อย แหวน นาฬิกา ฯลฯ เพื่อประชดชีวิต ว้าว อานนี้ก็สวย อันนี้ก้อน่ารัก เอาอันไหนดีอ่ะ เอา 2 อันเลยดีกว่า อุ๊ยร้านเปิดใหม่ ว้าวมีแต่ของน่ารัก ๆ ทั้งนั้นเลยอ่ะ............. อ้าวบ่าย 3 แล้วนี่นา ฉันยังไม่กินข้าวเที่ยงเลยอ่ะ แวะร้านอาหารร้านประจำของฉันดีกว่า อื้มตอนนี้คนยังน้อยอยู่เลยอ่ะ
    “สวัสดีค่ะ น้องฮายอง นัดเพื่อนไว้ใช่ไหมค่ะ” หา!!!เพื่อน วันนี้ฉันมาคนเดียวนี่นา ไม่ได้นัดใครไว้
    “ป่าวค่ะ วันนี้มาคนเดียวอ่ะ ว่าแต่เพื่อนที่พี่พูดถึงเนี๊ยะ พี่หมายถึงใครหร๋อค่ะ”
    “ก็...น้องนามินกับน้องมินโฮไงค่ะ นั่งกันอยู่ที่เดิมอ่ะค่ะ” นามินกับมินโฮหร๋อ เค้า 2 คนมาทำอะไรที่นี่นะน่าสงสัย อย่างงี้ต้องแอบ
    “อ๋อ...ค่ะ ขอบคุณนะค่ะ” ว่าแล้วฉันก็สวมมาดนักสืบฮายองเข้าไปนั่งโต๊ะข้าง แล้วเงี่ยหูฟัง แต่เท่าที่ฉันเห็นเพื่อนสนิทและแฟนของฉันกำลังนั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน เอ๊ะ อุ๊ย เค้ากำลังพูดอะไรถึงฉันอยู่เนี๊ยะ
    “มินโฮ ฉัน...ฉันรู้สึกผิดต่อฮายองอ่ะ”
    “ผมก็เหมือนกัน แต่ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ผมไม่เคยรักเธอเลย”
    “ฉันก็ไม่อยากผิดต่อเพื่อนอย่างงี้ เวลาอยู่ที่โรงเรียนฉันก็ต้องพยายามเฉย ๆ เวลาที่นายอยู่กับฮายอง”
    “ผมก็เข้าใจนะ แต่...แต่ผม ผมรักนามิน ตอนนี้ผมกำลังพยายามจะบอกกับฮายองอยู่”
    “แต่ถึงยังไงฉันก็รุ้สึกผิดต่อฮายองอยู่ดีอ่ะ”
    นี่มันอะไรกันอ่ะ แปลว่าแฟนสุดที่รักของฉันกับเพื่อนที่ฉันสนิท เค้ารักกัน งั้นหร๋อ หมานความว่ายังไงอ่ะ ฉันไม่เข้าใจ มินโฮ เค้าไม่เคยรักฉันเลยงั้นหร๋อ แล้ว...แล้วเค้า...มาคบกับฉัน...ทำไม อย่างงี้ต้องคุยกันให้รูเรื่องฉันไม่รอช้าเปลี่ยนจากมากสายสืบมาเป็น นางมารร้าย แล้วเดินไปนั่งข้าง ๆ นามินทันที
    “หมายความว่ายังไงอ่ะ มินโฮ นามิน เธอ 2 คน ฉัน มันอะไรกันอ่ะ อธิบายมาให้ฉันเข้าใจเดี๋ยวนี้นะ” ฉันพยายามระงับสติอารมณ์เอาไว้เพราะฉันไม่อยากระเบิดอารมณ์ออกมาในตอนนี้ ส่วนพวกเค้า 2 คนนะหร๋อ ก็อึ้งนะสิ คงสงสัยว่าฉันมาอยู่อะไรที่นี่
    “ฮายอง...ฉันขอโทษ ฉัน...” นามินพูดออกมาเพื่อทำลางความเงียบภายในโต๊ะ
    “คือว่า ฉันอธิบายได้นะฮายอง” มินโฮพูดต่อ ฉันจะเชื่ออะไรนายได้ไหมอ่ะ มินโฮ
    “ก็ดี...ฉันว่าเราออกไปคุยกันข้างนอกดีกว่า” พอพูดจบฉันก็เดินนำพวกเค้าไป ส่วนเค้า 2 คนนะหร๋อ นามินกำลังร้องไห้อยู่ มินโฮก็เลยเข้าไปปลอบแล้วประคองนามินออกมา ช่างเป็นภาพอะไรที่บาดตาบาดใจฉันเหลือเกิน ระหว่างที่เราเดินกันมา 3 คน ตลอด 2 ข้างทางก็มีแต่คนมองมาที่เราตลอดทาง
    แล้วเรา 3 คนก็เดินมาถึงสานสาธารณแห่งหนึ่ง มันเป็นที่แห่งความทรงจำ ฉันเจอเค้าครั้งแรกที่นี่ ตอน ม.3 เทอมแรก เค้าเพิ่งย้ายมาจากเมืองใกล้ๆ เค้ากำลังหลงทางหาทางกลับบ้านอยู่ ฉันก็เลยเดินไปส่งเค้าที่หน้าปากซอยบ้านเค้า แต่ระหว่างทางเราไม่ได้พูดคุยกันเลย เดินมาเงียบๆ พอถึงซอยบ้านเค้า เค้าก็ขอบคุณ แล้วฉันก็เดินกลับบ้านแค่นั้น แล้วก็มารู้ทีหลังว่ามินโฮอยู่โรงเรียนเดียวกับฉันห้องเดียวกัน แล้วเราก็สนิทกัน พอรู้จักกันได้สัก 1 เดือน มินโฮเค้ามาขอคบกับฉันที่นี่ แต่ตอนนี้ ฉันกำลังจะขอเลิกกับเค้าที่นี่
    “มินโฮ...ฉันจะฟังนายพูด นายมีอะไรจะอธิบายไหม” ฉันพยายามข่มเสียงให้เป็นปกติที่สุด ถึงแม้ว่าฉันรู้สึกว่าเสียงตัวเองมันจะสั่นๆ ก็เถอะ
    “ฉัน...ฉันรักนามิน รักมานนานแล้วด้วย” เค้าพูดออกมา น้ำเสียงของเค้าฟังดูแล้วมันเข้มแข็ง ฉันไม่เคยได้ยินเสียงแบบนี้จากเค้าเลย มานบาดใจฉันมาก เค้ารักเพื่อนฉัน เค้ารักเพื่อนสนิทของฉัน แล้วเค้ามาคบกับฉันทำไม ฉันไม่เข้าใจ
    “แล้วนายมาคบกับฉันทำไม มาคบกับฉันทำไม!!! นายคบกับฉันเพื่ออะไร !!! ฮือ ฮือ...” ฉันข่มเสียง ข่มใจ กลั้นน้ำตาของตัวเองไม่ไหวแล้ว ค่อยยังชั่วนะ ที่ที่นี่ไม่มีคน ไม่งั้นเค้าคงสงสัยว่าผู้หญิงบ้าคนนี้มาแหกปากตะโกนอะไรเสียงดัง
    “ฮายองฉันขอโทษ ฉัน ฉันไม่ได้ตั้งใจอ่ะ ฮายอง ฮือ ฮือ”
    “นามินเธอเงียบไปก่อน ตอนนี้ฉันยังไม่อยากได้ยินเสียงของเธอ ว่าไงละมินโฮ เงียบทำไมตอบฉันมาสิ”
    “ความจริงแล้วฉัน ฉันเป็นพี่ชายของเธอฮายอง พ่อเธอกับพ่อฉันเป็นคนๆ เดียวกัน พ่อบอกให้ฉันมาดูแลเธอ ฉันไม่รู้จะดูแลเธอยังไงดี ก็เลยขอคบกับเธอ” หมายความว่า พ่อฉันกับพ่อมินโฮเป็นคนเดียวกัน ที่พ่อมาหาฉันเดือนละครั้งก็เพราะอย่างงี้เองหร๋อ งั้นคนที่ฉันเรียนว่าป้าก็ต้องเป็นแม่ของมินโฮ งั้นหร๋อ อะไรกันนะ ฉันงงไปหมดแล้ว
    “มินโฮ นาย นายโกหก นาโกหกใช่ไหม นายไม่อยากให้ฉันเสียใจ นายก็เลยกุเรื่องขึ้นมา ต้องใช่แน่ๆเลย” อืมมันต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ
    “มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ฮายอง ฉันขอโทษนะ”
    “ไม่ มันไม่จริง!!! นายโกหก ฉันเกลียดนาย เกลียดนาย!!!” ฉันรีบวิ่งออกมาจากที่นั่นอย่างรวดเร็ว ฉันไม่ต้องการให้เค้าเห็นน้ำตาของฉันมากไปกว่านี้ นี่ฉันต้องฝันไปแน่ๆ เลย มันต้องเป็นเรื่องโกหกแน่ๆ
   
ฉันวิ่งมาหยุดที่ต้นไม้ใหญ่ ใกล้ๆบ้าน เวลาฉันทีเรื่องเศร้าฉันมักจะมาเล่าให้ต้นไม้ต้นนี้ฟัง ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน แต่ฉันว่าต้นไม้ต้นนี้มักจะคอยรับฟังฉันทุกอย่าง ไม่เถียงฉันด้วย
    “ฮือ ฮือ จุนโฮ นายโกหกใช่ไหม...”
    “นี่เธอเป็นบ้าอะไรมาร้องไห้ให้ต้นไม้ฟัง ฉันอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ ถ้าอยากร้องไห้มากนักก็ไปร้องที่อื่นไป โธ่เว๊ย !!! อารมณ์เสียชะมัด” พอเค้าพูดจบแล้วเค้าก็เดินไป
    อะไรของเค้ากันนะ ไม่เข้าใจเลยอ่ะ ฉันร้องไห้อยู่ดีดี ก็มาด่าฉันไล่ฉันแล้วก็เดินไป ฉันงงจริงๆเลย แต่เท่าที่ฉันเห็นเค้าดูหล่อนะหน้าเค้าดูเข้มตอนเค้าอารมณ์เสียเมื่อกี้อ่ะ ถ้าเค้าไม่อารมณ์เสียเค้าคงจะดูน่ารักกว่านี้ เอ๊ะ ฉันจะไปยุ่งอะไรกับเค้าละนี่ ตอนนี้ฉันต้องร้องไห้เพื่อลืมผู้ชายที่ชื่อมินโฮสิ ฉันต้องร้องไห้เพื่อที่จะลืมเค้า ฉันต้องคิดว่าเค้าเป็นพี่ชาย ไม่ใช่คนรัก
    “ฮือ ฮือ มินโฮนายเป็นพี่ชายฉัน วันนี้จะเป็นครั้งแรก ครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายที่ฉันจะร้องไห้ให้นาย วันนี้ฉันจะรักนายเป็นวันสุดท้าย” ใช่ฉันต้องร้องไห้ ร้องให้ถึงที่สุด พรุ่งนี้ฉันจะเข้มแข็ง แล้วพรุ่งนี้ฉันจะต้องเคลียเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อย
    ร้องไห้เสร็จแล้วฉันรู้สึกว่าตาฉันมันบวม และฉันก็คิดว่ามันคงจะแดงน่าดู ถ้าแม่ฉันเห็นละก็ ไม่ได้ ไม่ได้ฉันต้องแอบไม่ให้แม่เห็น
    “ฮายองลูกไปไหนมาจ๊ะ ทำไมกลับมาช้าจังเลย แม่รอตั้งนาน เมื่อกี้เพื่อนแม่ที่อยู่ที่เมืองที่เราจะไปอยู่ เค้ามาเยี่ยมด้วยนะจ๊ะ เค้าบอกว่าเค้าจัดเตรียมที่อยู่เพื่อลูกเรียบร้อยแล้วนะ อยู่ใกล้โรงเรียนด้วยเดินแปบเดียวก็ถึง...” ฉันปล่อยให้แม่พูดไปเรื่อยๆ ส่วนฉันนะเหรอ ก็ค่อยๆเดินขึ้นห้องไม่ให้แม่เห็น เพราะตอนนี้ฉันยังไม่อยากพูดอะไรกับใครทั้งนั้น ฉันไม่อยากระเบิดอารมณ์ใส่แม่ แต่คงไม่สำเร็จแล้วละ
    “นี่หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะฮายอง ลูกเป็นอะไร ทำไมตาลูกถึงบวมอย่างนี้ล่ะ เป็นอะไร ใครทำลูกแม่จะไปจัดการมันเดี๋ยวนี้ บอกแม่มาเดี๋ยวนี้นะฮายอง ” ฉันไม่รู้ว่าแม่จะพูดอะไรต่อ ฉันรู้แค่ว่าน้ำตาของฉันมันจะไหลออกมาอีกแล้ว ใช่ฉันต้องถามแม่ ถามแม่ให้รู้เรื่อง
    “เพราะแม่นั่นแหละ เพราะแม่ฮือ...หนูต้องเป็นอย่างนี้เพราะแม่ ทำไมทำไมแม่ถึงปล่อยให้หนูคบกับมินโฮทั้งๆที่แม่ก็รู้ว่ามินโฮเป็นพี่ชายของหนู ทำไม ทำไม” แล้วฉันก็นั่งลงบนโซฟาข้าง ๆ แม่
    “ลูกรู้เรื่องนี้แล้วหร๋อจ๊ะ แม่ขอโทษนะ”
    “ขอโทษ ขอโทษหร๋อค่ะ วันนี้หนูได้ยินคำนี้มาหลายครั้งแล้ว แม่มีคำพูดที่ดีกว่านี้ไหมค่ะ มีมั๊ย!!!” แล้วฉันก็ทนไม่ไหวระเบิดอารมณ์ใส่แม่ ดูแม่คงจะตกใจน่าดู
    “แม่ แม่ไม่มีคำอธิบายจะ แม่กับพ่อรักกันมานานแล้ว แต่พ่อลูกถูกคุณย่าบังคับให้แต่งงานกับคุณป้าฮันชอง แต่ท่านก็ยังแวะมาหาแม่อยู่บ้างจนกระทั่งคืนหนึ่งพ่อกับแม่...พอคุณย่าท่านทราบว่าแม่ท้อง ท่านก็เลยรับแม่เป็นสะใภ้เล็ก แล้วก็คิดว่าจะปิดเรื่องนี้ไม่ให้ลูกรู้ เพราะแม่กลัวลูกเสียใจ แต่แม่รับรองได้นะว่าคุณพ่อท่านรักลูกมาก ท่านโทรหาถามว่าลูกเป็นอย่างไรทุกวัน ท่านมาหาลูกเดือนละครั้ง.......”
    แม่พูดต่อไปเรื่อยๆ ฉันคิดว่าแม่มีความสุขมากที่ได้รักพ่อ แม่น่าจะพอที่เป็นแบบนี้ แค่แม่มีความสุขฉันก็ไม่คิดอะไรมากแล้วแหละ ฮ้าว ง่วงนอนจังเลย แล้วฉันก็หลับไป รู้สึกตัวอีกทีก็เช้าแล้ว ฉันนอนอยู่บนตักแม่ทั้งคืน เท่าที่สภาพแม่ตอนนี้ แม่ไม่ได้หลับเลยทั้งคืน แม่นั่งเฝ้าฉันทั้งคืน
    “เมื่อคืนนี้แม่ไม่ได้หลับหร๋อค่ะ”
    “ตื่นแล้วหร๋อลูก แม่มีความสุขจังเลย ลูกไม่ได้มานอนบนตักแม่แบบนี้นานแล้วนะ”
    “ค่ะแม่ เดี๋ยวหนูขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะค่ะ พอดีว่าหนูมีเรื่องต้องไปสะสางค่ะ แล้วพรุ่งนี้เราจะออกเดินทางกันนะค่ะแม่”
    “ลูกว่าไง แม่ก็ว่างั้นจะ แต่ว่าวันพรุ่งนี้ เราไปลาคุณย่ากันก่อนดีกว่าแล้วค่อยไปนะจ๊ะ”
    “โอเคค่ะแม่ หมับ หนูรักแม่ค่ะ”
    ฉันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ 9 โมงเช้าพอดี ตอนนี้ฉันต้องทำใจก่อน ฉันต้องเสียคนที่ฉันรักไปให้เพื่อน เค้าไม่เคยรักฉันเลย มีแต่ฉันที่รักเค้าข้างเดียว ที่เค้าทำทุกอย่างให้ฉันมันเป็นเพียงหน้าที่ หน้าที่ที่พี่ชายต้องดูแลน้องสาว เค้าให้ฉันมาเยอะแล้ว ถึงเวลาที่ฉันต้องให้เค้าสักที ถึงเวลาที่เค้าต้องมีความสุขกับคนที่เค้ารักแล้ว
“ฮายอง ลูกลงมาแม่หน่อยได้ไหม แม่มีอะไรจะคุยด้วย เร็วๆ เร็วนะจ๊ะ” เสียงแม่ของฉันเองจะเรียกทำไมก็ไม่รู้ยังเช้าอยู่เลยอ่ะ น่ารำคาญ คิดหรอว่าฉันจะลงไปกำลังหลับสบายอยู่แท้ ๆ
“ยูฮายอง!!! แม่เรียกไม่ได้ยินหรอไง จะลงมาดี ๆ หรือให้แม่ขึ้นไปปลุก” ว้ายถ้าแม่ขึ้นมาปลุก ฉันจะเหลือชีวิตรอดไหมเนี๊ยะ สงสัยละสิ ก็วิธีปลุกของแม่ฉันอ่ะนะ คือเอาพริกไปยัดใส่ปากฉัน แล้วมันไม่ใช่พริกธรรมดา มันเป็นพริกที่เผ็ดมาก ๆ ไอ้ฉันก็ไม่ค่อยชอบกินเผ็ดซ่ะด้วยสิ คิดแล้วขนลุกสยองขวัญสั่นประสาท อึ้ย
“ค่ะแม่ ตื่นแล้ว หนูจะลงไปเดี๋ยวนี้ไปแหละ แม่รอแป็บนึงนะค่ะ” เฮ้อต้องลุกจากเตียงที่แสนนุ่ม เตียงจ๊า ฉันลาก่อน เฮ้อ ทีเรื่องอะไรหนักหนาเนี๊ยะ
“มาช้าจิง แม่รอตั้งนาน แม่จะบอกว่า ลูกต้องไปเรียนต่อที่อีกเมืองนะจ๊ะ เพราะว่าแม่โดนคำสั่งย้ายด่วน ให้ไปทำงานที่นั่น แม่คิดว่าลูกคงไม่มีปัญหานะจ๊ะ” โอ้มายก็อด ฉันต้องไปจากเมืองนี้ ว้ายไม่ได้ฉันไม่ไป
“แม่ค่ะ หนูไม่ไปค่ะ หนูจะต่อไฮสคูลที่นี่ หนูไม่ไปที่ไหนทั้งนั้นอ่ะ หนูรักที่นี่ หนูไม่...”
“เงียบไปเลยจะลูกรักของแม่ แม่ตัดสินใจแล้ว แม่จะไม่ปล่อยให้ลูกรักของแม่ต้องอยู่ที่นี่คนเดียวแน่ ๆ แม่สมัครเรียนให้ลูกเรียบร้อยแล้วนะจ๊ะ แล้วก็อีกอย่างแม่ไม่มีทางเปลี่ยนใจแน่นอน อีก 1อาทิตย์นะจ๊ะ เราจะไปอยู่ที่นั่น ลูกตกลงนะจ๊ะ...ดีมาก งั้นตกลงตามนี้อีก 1 อาทิตย์ เพราะฉะนั้ลูกไปเก็บของให้เรียบร้อยนะจ๊ะ แม่ไปทำงานละนะจ๊ะ อาหารอยู่ในตู้เย็น อยากกินอะไรก็เอามาอุ่นนะจ๊ะ แม่ไปนะ แม่รักลูกนะ จุ๊บจุ๊บ”
    “แม่คะ แม่ แม่เดี๋ยว แม่...” แม่ไม่ยอมเปิดโอกาสให้ฉันพูดเลย แม่เล่นพูดฉอด ๆ ๆ อยู่คนเดียวอ่ะ เฮ้อ ฉันจะไปจากเมืองนี้ได้ยังไงอ่ะ ก็ในเมื่อฉันมีเพื่อนที่แสนดี มีแฟนที่แสนน่ารักของฉันอยู่ที่นี่อ่ะ ฉันจะทำไงดีอ่ะ คิดแล้วเครียด แฟน แฟน เออ ช่าย ฉันลืมได้ไง อย่างนี้ต้องโทรไปปรึกษาดูดีกว่า ว่าแล้วฉันก็หยิบโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดที่สุดแสนจะแพงขึ้นมา แล้วรีบโทรหาแฟนของฉันทันที
    “ฮัลโล มินโฮ ฉันมีอะไรจะบอกอ่ะ วันนี้เรามาเจอกันที่ร้านไอศกรีมที่เดิมนะ”
    “เอ่อ ฮายอง วันนี้ฉันไม่ว่างอ่ะ คือว่า เอ่อ... ฉันต้องไปทำธุระให้แม่อ่ะ เธอคงไม่ว่าอะไรฉันใช่ไหม”
    “อืม...ไม่เป็นไรหรอก ธุระฮันมันก็ไม่สำคัญเท่าไหร่หรอก”
    “เธอไม่โกรธฉันใช่ไหมฮายอง”
    “ไม่โกรธหรอก ธุระของแม่มันก็ต้องสำคัญกว่าอยู่แล้วอ่ะนะ งั้นแค่นี้ละกัน บาย”
    “จ๊า บายที่ร๊าก”
    เฮ้อพูดมาได้ว่าไม่โกรธใช่ไหม ฉันละอยากจะพูดจิงๆ เลยว่าโกรธ โกรธมากเลยด้วย ก็เดี๋ยวนี้เค้าชอบผิดนัด หรือไม่ก็ปฏิเสธที่จะไปกับฉัน เมื่อก่อนตอนที่เราคบกันใหม่ ๆ อ่ะนะ เค้าไม่เคยพูดว่า ไม่ได้ ไม่ว่างเลยอ่ะ เดี๋ยวนี้ฉันรู้สึกว่าเค้าแปลก ๆ ไป เหมือนกับยัยนามินเพื่อนรักเพื่อนซี้เพื่อนสนิทของฉันเอง นี่ก็อาทิตย์นึงแล้วที่ฉันกับนามินไม่ได้เจอกัน อย่างงี้ต้องชวนมาเลี้ยงที่เรียนจบ ม.3 สักกะหน่อย
    “ฮัลโล้.............นามินเพื่อนร๊าก”
    “มีอะไรรึป่าวจ๊ะฮายอง คือว่าฉันต้องรีบไปธุระอ่ะ” ธุระอีกแล้ว...เหมือนมินโฮเลย
    “เอ่อ...คือว่าฉันจะชวนเธอไปฉลองกันอ่ะ นะไปกะฉันนะ”
    “อืม...คือว่าฉันก็อยากจะไปนะ แต่ว่าฉันมีนัดอ่ะ”
    “เธอเห็นนัดของคนอื่นสามมะคานกว่าเพื่อนรักคนนี้ของเธอหรอ ฮือ...ฉันน้อยใจเธอแล้วนะ”
    “ปล่าวจ๊ะ คือว่าฉันเลื่อนนัดเค้ามาหลายรอบแล้วอ่ะ จะเลื่อนนัดเค้าอีกฉันก็เกรงใจเค้าอ่ะ เธอเข้าใจฉันนะ ฮายอง”
    “...”
    “ฮายอง อย่างเงียบอย่างงี้จิ ฉันสัญญาว่าพรุ่งนี้ฉันจะไปกับเธออ่ะ นะ”
    “ก้อได้ เธอรีบไปเถอะ เดี๋ยวคนของเธอเค้าจารอ บาย”
    “เค้าไม่ใช่คนของฉันหรอก...งั้นบ๊ายบายนะ”
    เอ๊ะ !!! เมื่อกี้นามินพูดว่าเค้าอะไรน้า ได้ยินไม่ค่อยถนัดเลยอ่ะ แต่ช่างเหอะ ช่วงบ่ายๆ ฉันค่อยไปเดินซื้อของคนเดียวดีกว่า มีแม่ แม่ก็เห็นงานดีกว่าลูก มีเพื่อน เพื่อนก็ไม่สน มีแฟน แฟนก็เห็นคนอื่นดีกว่า โอ๊ยชีวิตของฉันทำไมเป็นอย่างงี้เนี๊ยะ นอนต่อดีกว่า เชอะ !!!
    พอเริ่มบ่ายฉันก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ไปช็อปปิ้งระบายอารมณ์ ต้องซื้อเสื้อผ้า กระโปรง สร้อย แหวน นาฬิกา ฯลฯ เพื่อประชดชีวิต ว้าว อานนี้ก็สวย อันนี้ก้อน่ารัก เอาอันไหนดีอ่ะ เอา 2 อันเลยดีกว่า อุ๊ยร้านเปิดใหม่ ว้าวมีแต่ของน่ารัก ๆ ทั้งนั้นเลยอ่ะ............. อ้าวบ่าย 3 แล้วนี่นา ฉันยังไม่กินข้าวเที่ยงเลยอ่ะ แวะร้านอาหารร้านประจำของฉันดีกว่า อื้มตอนนี้คนยังน้อยอยู่เลยอ่ะ
    “สวัสดีค่ะ น้องฮายอง นัดเพื่อนไว้ใช่ไหมค่ะ” หา!!!เพื่อน วันนี้ฉันมาคนเดียวนี่นา ไม่ได้นัดใครไว้
    “ป่าวค่ะ วันนี้มาคนเดียวอ่ะ ว่าแต่เพื่อนที่พี่พูดถึงเนี๊ยะ พี่หมายถึงใครหร๋อค่ะ”
    “ก็...น้องนามินกับน้องมินโฮไงค่ะ นั่งกันอยู่ที่เดิมอ่ะค่ะ” นามินกับมินโฮหร๋อ เค้า 2 คนมาทำอะไรที่นี่นะน่าสงสัย อย่างงี้ต้องแอบ
    “อ๋อ...ค่ะ ขอบคุณนะค่ะ” ว่าแล้วฉันก็สวมมาดนักสืบฮายองเข้าไปนั่งโต๊ะข้าง แล้วเงี่ยหูฟัง แต่เท่าที่ฉันเห็นเพื่อนสนิทและแฟนของฉันกำลังนั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน เอ๊ะ อุ๊ย เค้ากำลังพูดอะไรถึงฉันอยู่เนี๊ยะ
    “มินโฮ ฉัน...ฉันรู้สึกผิดต่อฮายองอ่ะ”
    “ผมก็เหมือนกัน แต่ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ผมไม่เคยรักเธอเลย”
    “ฉันก็ไม่อยากผิดต่อเพื่อนอย่างงี้ เวลาอยู่ที่โรงเรียนฉันก็ต้องพยายามเฉย ๆ เวลาที่นายอยู่กับฮายอง”
    “ผมก็เข้าใจนะ แต่...แต่ผม ผมรักนามิน ตอนนี้ผมกำลังพยายามจะบอกกับฮายองอยู่”
    “แต่ถึงยังไงฉันก็รุ้สึกผิดต่อฮายองอยู่ดีอ่ะ”
    นี่มันอะไรกันอ่ะ แปลว่าแฟนสุดที่รักของฉันกับเพื่อนที่ฉันสนิท เค้ารักกัน งั้นหร๋อ หมานความว่ายังไงอ่ะ ฉันไม่เข้าใจ มินโฮ เค้าไม่เคยรักฉันเลยงั้นหร๋อ แล้ว...แล้วเค้า...มาคบกับฉัน...ทำไม อย่างงี้ต้องคุยกันให้รูเรื่องฉันไม่รอช้าเปลี่ยนจากมากสายสืบมาเป็น นางมารร้าย แล้วเดินไปนั่งข้าง ๆ นามินทันที
    “หมายความว่ายังไงอ่ะ มินโฮ นามิน เธอ 2 คน ฉัน มันอะไรกันอ่ะ อธิบายมาให้ฉันเข้าใจเดี๋ยวนี้นะ” ฉันพยายามระงับสติอารมณ์เอาไว้เพราะฉันไม่อยากระเบิดอารมณ์ออกมาในตอนนี้ ส่วนพวกเค้า 2 คนนะหร๋อ ก็อึ้งนะสิ คงสงสัยว่าฉันมาอยู่อะไรที่นี่
    “ฮายอง...ฉันขอโทษ ฉัน...” นามินพูดออกมาเพื่อทำลางความเงียบภายในโต๊ะ
    “คือว่า ฉันอธิบายได้นะฮายอง” มินโฮพูดต่อ ฉันจะเชื่ออะไรนายได้ไหมอ่ะ มินโฮ
    “ก็ดี...ฉันว่าเราออกไปคุยกันข้างนอกดีกว่า” พอพูดจบฉันก็เดินนำพวกเค้าไป ส่วนเค้า 2 คนนะหร๋อ นามินกำลังร้องไห้อยู่ มินโฮก็เลยเข้าไปปลอบแล้วประคองนามินออกมา ช่างเป็นภาพอะไรที่บาดตาบาดใจฉันเหลือเกิน ระหว่างที่เราเดินกันมา 3 คน ตลอด 2 ข้างทางก็มีแต่คนมองมาที่เราตลอดทาง
    แล้วเรา 3 คนก็เดินมาถึงสานสาธารณแห่งหนึ่ง มันเป็นที่แห่งความทรงจำ ฉันเจอเค้าครั้งแรกที่นี่ ตอน ม.3 เทอมแรก เค้าเพิ่งย้ายมาจากเมืองใกล้ๆ เค้ากำลังหลงทางหาทางกลับบ้านอยู่ ฉันก็เลยเดินไปส่งเค้าที่หน้าปากซอยบ้านเค้า แต่ระหว่างทางเราไม่ได้พูดคุยกันเลย เดินมาเงียบๆ พอถึงซอยบ้านเค้า เค้าก็ขอบคุณ แล้วฉันก็เดินกลับบ้านแค่นั้น แล้วก็มารู้ทีหลังว่ามินโฮอยู่โรงเรียนเดียวกับฉันห้องเดียวกัน แล้วเราก็สนิทกัน พอรู้จักกันได้สัก 1 เดือน มินโฮเค้ามาขอคบกับฉันที่นี่ แต่ตอนนี้ ฉันกำลังจะขอเลิกกับเค้าที่นี่
    “มินโฮ...ฉันจะฟังนายพูด นายมีอะไรจะอธิบายไหม” ฉันพยายามข่มเสียงให้เป็นปกติที่สุด ถึงแม้ว่าฉันรู้สึกว่าเสียงตัวเองมันจะสั่นๆ ก็เถอะ
    “ฉัน...ฉันรักนามิน รักมานนานแล้วด้วย” เค้าพูดออกมา น้ำเสียงของเค้าฟังดูแล้วมันเข้มแข็ง ฉันไม่เคยได้ยินเสียงแบบนี้จากเค้าเลย มานบาดใจฉันมาก เค้ารักเพื่อนฉัน เค้ารักเพื่อนสนิทของฉัน แล้วเค้ามาคบกับฉันทำไม ฉันไม่เข้าใจ
    “แล้วนายมาคบกับฉันทำไม มาคบกับฉันทำไม!!! นายคบกับฉันเพื่ออะไร !!! ฮือ ฮือ...” ฉันข่มเสียง ข่มใจ กลั้นน้ำตาของตัวเองไม่ไหวแล้ว ค่อยยังชั่วนะ ที่ที่นี่ไม่มีคน ไม่งั้นเค้าคงสงสัยว่าผู้หญิงบ้าคนนี้มาแหกปากตะโกนอะไรเสียงดัง
    “ฮายองฉันขอโทษ ฉัน ฉันไม่ได้ตั้งใจอ่ะ ฮายอง ฮือ ฮือ”
    “นามินเธอเงียบไปก่อน ตอนนี้ฉันยังไม่อยากได้ยินเสียงของเธอ ว่าไงละมินโฮ เงียบทำไมตอบฉันมาสิ”
    “ความจริงแล้วฉัน ฉันเป็นพี่ชายของเธอฮายอง พ่อเธอกับพ่อฉันเป็นคนๆ เดียวกัน พ่อบอกให้ฉันมาดูแลเธอ ฉันไม่รู้จะดูแลเธอยังไงดี ก็เลยขอคบกับเธอ” หมายความว่า พ่อฉันกับพ่อมินโฮเป็นคนเดียวกัน ที่พ่อมาหาฉันเดือนละครั้งก็เพราะอย่างงี้เองหร๋อ งั้นคนที่ฉันเรียนว่าป้าก็ต้องเป็นแม่ของมินโฮ งั้นหร๋อ อะไรกันนะ ฉันงงไปหมดแล้ว
    “มินโฮ นาย นายโกหก นาโกหกใช่ไหม นายไม่อยากให้ฉันเสียใจ นายก็เลยกุเรื่องขึ้นมา ต้องใช่แน่ๆเลย” อืมมันต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ
    “มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ฮายอง ฉันขอโทษนะ”
    “ไม่ มันไม่จริง!!! นายโกหก ฉันเกลียดนาย เกลียดนาย!!!” ฉันรีบวิ่งออกมาจากที่นั่นอย่างรวดเร็ว ฉันไม่ต้องการให้เค้าเห็นน้ำตาของฉันมากไปกว่านี้ นี่ฉันต้องฝันไปแน่ๆ เลย มันต้องเป็นเรื่องโกหกแน่ๆ
   
ฉันวิ่งมาหยุดที่ต้นไม้ใหญ่ ใกล้ๆบ้าน เวลาฉันทีเรื่องเศร้าฉันมักจะมาเล่าให้ต้นไม้ต้นนี้ฟัง ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน แต่ฉันว่าต้นไม้ต้นนี้มักจะคอยรับฟังฉันทุกอย่าง ไม่เถียงฉันด้วย
    “ฮือ ฮือ จุนโฮ นายโกหกใช่ไหม...”
    “นี่เธอเป็นบ้าอะไรมาร้องไห้ให้ต้นไม้ฟัง ฉันอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ ถ้าอยากร้องไห้มากนักก็ไปร้องที่อื่นไป โธ่เว๊ย !!! อารมณ์เสียชะมัด” พอเค้าพูดจบแล้วเค้าก็เดินไป
    อะไรของเค้ากันนะ ไม่เข้าใจเลยอ่ะ ฉันร้องไห้อยู่ดีดี ก็มาด่าฉันไล่ฉันแล้วก็เดินไป ฉันงงจริงๆเลย แต่เท่าที่ฉันเห็นเค้าดูหล่อนะหน้าเค้าดูเข้มตอนเค้าอารมณ์เสียเมื่อกี้อ่ะ ถ้าเค้าไม่อารมณ์เสียเค้าคงจะดูน่ารักกว่านี้ เอ๊ะ ฉันจะไปยุ่งอะไรกับเค้าละนี่ ตอนนี้ฉันต้องร้องไห้เพื่อลืมผู้ชายที่ชื่อมินโฮสิ ฉันต้องร้องไห้เพื่อที่จะลืมเค้า ฉันต้องคิดว่าเค้าเป็นพี่ชาย ไม่ใช่คนรัก
    “ฮือ ฮือ มินโฮนายเป็นพี่ชายฉัน วันนี้จะเป็นครั้งแรก ครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายที่ฉันจะร้องไห้ให้นาย วันนี้ฉันจะรักนายเป็นวันสุดท้าย” ใช่ฉันต้องร้องไห้ ร้องให้ถึงที่สุด พรุ่งนี้ฉันจะเข้มแข็ง แล้วพรุ่งนี้ฉันจะต้องเคลียเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อย
    ร้องไห้เสร็จแล้วฉันรู้สึกว่าตาฉันมันบวม และฉันก็คิดว่ามันคงจะแดงน่าดู ถ้าแม่ฉันเห็นละก็ ไม่ได้ ไม่ได้ฉันต้องแอบไม่ให้แม่เห็น
    “ฮายองลูกไปไหนมาจ๊ะ ทำไมกลับมาช้าจังเลย แม่รอตั้งนาน เมื่อกี้เพื่อนแม่ที่อยู่ที่เมืองที่เราจะไปอยู่ เค้ามาเยี่ยมด้วยนะจ๊ะ เค้าบอกว่าเค้าจัดเตรียมที่อยู่เพื่อลูกเรียบร้อยแล้วนะ อยู่ใกล้โรงเรียนด้วยเดินแปบเดียวก็ถึง...” ฉันปล่อยให้แม่พูดไปเรื่อยๆ ส่วนฉันนะเหรอ ก็ค่อยๆเดินขึ้นห้องไม่ให้แม่เห็น เพราะตอนนี้ฉันยังไม่อยากพูดอะไรกับใครทั้งนั้น ฉันไม่อยากระเบิดอารมณ์ใส่แม่ แต่คงไม่สำเร็จแล้วละ
    “นี่หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะฮายอง ลูกเป็นอะไร ทำไมตาลูกถึงบวมอย่างนี้ล่ะ เป็นอะไร ใครทำลูกแม่จะไปจัดการมันเดี๋ยวนี้ บอกแม่มาเดี๋ยวนี้นะฮายอง ” ฉันไม่รู้ว่าแม่จะพูดอะไรต่อ ฉันรู้แค่ว่าน้ำตาของฉันมันจะไหลออกมาอีกแล้ว ใช่ฉันต้องถามแม่ ถามแม่ให้รู้เรื่อง
    “เพราะแม่นั่นแหละ เพราะแม่ฮือ...หนูต้องเป็นอย่างนี้เพราะแม่ ทำไมทำไมแม่ถึงปล่อยให้หนูคบกับมินโฮทั้งๆที่แม่ก็รู้ว่ามินโฮเป็นพี่ชายของหนู ทำไม ทำไม” แล้วฉันก็นั่งลงบนโซฟาข้าง ๆ แม่
    “ลูกรู้เรื่องนี้แล้วหร๋อจ๊ะ แม่ขอโทษนะ”
    “ขอโทษ ขอโทษหร๋อค่ะ วันนี้หนูได้ยินคำนี้มาหลายครั้งแล้ว แม่มีคำพูดที่ดีกว่านี้ไหมค่ะ มีมั๊ย!!!” แล้วฉันก็ทนไม่ไหวระเบิดอารมณ์ใส่แม่ ดูแม่คงจะตกใจน่าดู
    “แม่ แม่ไม่มีคำอธิบายจะ แม่กับพ่อรักกันมานานแล้ว แต่พ่อลูกถูกคุณย่าบังคับให้แต่งงานกับคุณป้าฮันชอง แต่ท่านก็ยังแวะมาหาแม่อยู่บ้างจนกระทั่งคืนหนึ่งพ่อกับแม่...พอคุณย่าท่านทราบว่าแม่ท้อง ท่านก็เลยรับแม่เป็นสะใภ้เล็ก แล้วก็คิดว่าจะปิดเรื่องนี้ไม่ให้ลูกรู้ เพราะแม่กลัวลูกเสียใจ แต่แม่รับรองได้นะว่าคุณพ่อท่านรักลูกมาก ท่านโทรหาถามว่าลูกเป็นอย่างไรทุกวัน ท่านมาหาลูกเดือนละครั้ง.......”
    แม่พูดต่อไปเรื่อยๆ ฉันคิดว่าแม่มีความสุขมากที่ได้รักพ่อ แม่น่าจะพอที่เป็นแบบนี้ แค่แม่มีความสุขฉันก็ไม่คิดอะไรมากแล้วแหละ ฮ้าว ง่วงนอนจังเลย แล้วฉันก็หลับไป รู้สึกตัวอีกทีก็เช้าแล้ว ฉันนอนอยู่บนตักแม่ทั้งคืน เท่าที่สภาพแม่ตอนนี้ แม่ไม่ได้หลับเลยทั้งคืน แม่นั่งเฝ้าฉันทั้งคืน
    “เมื่อคืนนี้แม่ไม่ได้หลับหร๋อค่ะ”
    “ตื่นแล้วหร๋อลูก แม่มีความสุขจังเลย ลูกไม่ได้มานอนบนตักแม่แบบนี้นานแล้วนะ”
    “ค่ะแม่ เดี๋ยวหนูขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะค่ะ พอดีว่าหนูมีเรื่องต้องไปสะสางค่ะ แล้วพรุ่งนี้เราจะออกเดินทางกันนะค่ะแม่”
    “ลูกว่าไง แม่ก็ว่างั้นจะ แต่ว่าวันพรุ่งนี้ เราไปลาคุณย่ากันก่อนดีกว่าแล้วค่อยไปนะจ๊ะ”
    “โอเคค่ะแม่ หมับ หนูรักแม่ค่ะ”
    ฉันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ 9 โมงเช้าพอดี ตอนนี้ฉันต้องทำใจก่อน ฉันต้องเสียคนที่ฉันรักไปให้เพื่อน เค้าไม่เคยรักฉันเลย มีแต่ฉันที่รักเค้าข้างเดียว ที่เค้าทำทุกอย่างให้ฉันมันเป็นเพียงหน้าที่ หน้าที่ที่พี่ชายต้องดูแลน้องสาว เค้าให้ฉันมาเยอะแล้ว ถึงเวลาที่ฉันต้องให้เค้าสักที ถึงเวลาที่เค้าต้องมีความสุขกับคนที่เค้ารักแล้ว
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น