คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1 : Freshman
วันนั้นถ้าจำไม่ผิดหรือความจำของผมไม่ได้ย่ำแย่จนเกินไป....
16 พฤษภาคม 2548(ผมคาดว่าเป็นวันนี้นะ = =)
วันแรกแห่งการเปิดเทอมสำหรับเด็กใหม่เฟรชชี่อย่างผม
ทุกอย่างมันคงจะดูดีกว่านี้มากๆๆๆถ้าโรงเรียนที่ผมจะต้องมานั่งเรียนนั่งเล่นอยู่อีกตั้ง 6 ปีมันไม่ใช่โรงเรียนชายล้วน!!!
ทำไม่ท่านพ่อท่านแม่ต้องส่งลูกชายสุดรักสุดหวงสุดใจขาดดิ้นอย่างผมคนนี้มาเรียนชายล้วนด้วย คุณพ่อคุณแม่ไม่อยากได้ลูกสะใภ้กันใช่มั้ยคร้าบบบบ!!!
หลังจากเดินไปเดินมาได้ไม่นานผมก็ถูกเรียก(อัญเชิญ)จากประชาสัมพันธ์ให้เด็กใหม่ทุกคนไปเข้าร่วมพิธีปฐมนิเทศน์ที่หอประชุมใหญ่
พอเข้าไปปุ๊บผมก็ถูกต้อนเข้าไปนั่งรวมกับเพื่อน(ฝูง)ในห้องทันที หลังจากนั้นก็ถูกจับแบ่งเป็นกลุ่มๆเพื่อร่วมทำกิจกรรมกัน ในจุดนี้กลุ่มผมมีทั้งหมด 6 คน ในตอนนั้นผมไม่รู้เลยว่าไอ้อีก5 ชีวิตที่อยู่ด้วยกันเนี่ยมันจะกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่มีอิทธิพลกับชีวิตของผมไปโดยปริยาย
“ดี! เราชื่อนัท” นัท ชี้ไปที่ป้ายชื่อที่ติดอยู่บนอกของตัวเอง ไอ้หมอนี่มันเป็นคนตี๋ๆ ดูเข้ากับคนง่ายดี ผมมองไปที่เพื่อนร่วมทีมที่เหลืออีก4ชีวิต
“เราเวียร์...” อยากบอกว่าไอ้หมอนี่หน้าตาซนๆดูน่ารักยังไงก็ไม่รู้(เห็นมั้ยครับท่านพ่อท่านแม่ผมเริ่มมองเห็นไอ้ตัวผู้เหมืนกันว่ามันน่ารักแล้ว) ผมรู้สึกว่ามันกำลังประหม่าตากลมๆนั่นมองวอกแวกไปมาไม่หยุดนิ่ง พอเห็นว่าผมมองอยู่มันก็หันมายิ้มแหยๆให้
“เดี๋ยวเรามานะ” หมอนั่นพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะวิ่งดุ๊กๆ ไปกระโดดเตะป๊าบเข้าก้นของเด็กคนนึง ดูท่าจะเป็นเพื่อนที่โรงเรียนเก่า ผมเห็นหมอนั่นพูดอะไรไม่รู้แล้วก็ชี้ๆมาที่ทางกลุ่มพวกเรา เหมือนจะได้ยินแว่วๆว่า
“กลุ่มเรา...”
ผมเบนเข็มกลับมาที่กลุ่มของตัวเองที่ตอนนี้เริ่มจะพูดคุยกันบ้างแล้ว หัวข้อสนทนาใหญ่ก็คงจะเป็นเรื่องโรงเรียนเก่า แต่ก็มีอยู่คนนึงที่นั่งนิ่งๆเงียบๆ ฟังอยู่เฉยๆมานานละผมมองไปที่มัน ได้ความว่ามันชื่อ เชน ไม่อยากยอมรับว่าแมร่งดูดี หน้าอย่างกะลูกครึ่งไม่หรั่งจ๋าแต่ก็ไม่ตี๋ ตกลงมึงครึ่งไรวะ แต่พอมองตา...ตามันนี่ดุใช่เล่นเลยแหะนอกจากนี้กลุ่มผมยังประกอบไปด้วย ไอ้เมฆ ไอ้นี่มันกวาดสายตาไปมารอบห้องปากมันก็พึมพำๆอะไรสักอย่าง(ซึ่งมาทราบภายหลังว่ามันบ่นเรื่องอยากไปเรียนโรงเรียนสหมากกว่าต้องมานั่งจ้องไอ้พวกตัวผู้ด้วยกัน) ส่วนอีกคนชื่อแบงค์ ดูเป็นคนปกติดี หมอนี่กำลังคุยอยู่กับไอ้นัทอย่างเมามันส์
“นี่ เค้าให้ไปที่ฐานแล้วนะ” ไอ้เวียร์ที่ไม่รู้ว่ากลับมาตั่งแต่เมื่อไหร่เรียกพวกผม
ไม่น่าเชื่อว่าระยะเวลาสั้นๆของการทำกิจกรรม มันจะทำให้พวกผมรู้จักกันมากขึ้น ไม่รวมถึงสันดารดิบที่พวกมันแต่ละตัวเริ่มเปิดเผยออกมาทีละเล็กละน้อย ยิ่งพอสามปีผ่านไปมันก็แทบจะเริ่มหาเค้าเดิมของความน่าเอ็นดูตอนเข้ามาใหม่ๆไม่ค่อยจะได้
ม.1
“กฤษไปไหน?” ไอ้เวียร์มันถามผม
“ไปซื้อขนม...ไปมั้ย” มันพยักหน้ารัวๆ ก่อนจะเดินมาหาผมมิวายมีอีกสองสามตัวตามมาด้วย
สมัยนั้นเวลาใครจะไปไหนไอ้เวียร์มันก็มักจะแจ้นตามไปด้วยไม่รู้ว่าเพราะไม่มีอะไรทำหรือยังไงไม่ทราบ
“มีใครจำได้ป่ะว่าห้องคอมฯมันอยู่ตรงไหน รู้สึกเหมืนว่าจะลืมกล่องดินสอไว้” ไอ้นัท ไอ้นี่มันขี้ลืมโดยเฉพาะกล่องดินสอของมันนี่แทบจะเปลี่ยนใหม่ทุกสัปดาห์
“ก็อยู่ตรง...ห้อง...” ไอ้เชนมันบอก แต่ดูหน้าก็รู้ว่าไอ้นัทมันสับสนจะว่ามันคนเดียวก็ไม่ได้เพราะพวกผมเองบางทีก็ยังลืมๆห้องเรียนไปเหมือนกัน เด็กใหม่ก็อย่างนี้แหละครับเปลี่ยนห้องทีไม่เข้าช้าก็หลง โดยเฉพาะพวก ม.1 ใช้เวลาเป็นสัปดาห์กว่าจะเข้ารูปเข้ารอย ยิ่งเวลาท่านอาจารย์ทั้งหลายเปลี่ยนสถานที่สอนกระทันหันยิ่งแล้วใหญ่
“เอางี้เดี๋ยวเราพาไป” ไอ้เวียร์มันอาสาแล้วเดินนำไอ้นัทไป
.................................................................
ม.2
“ไอ้เวียร์ แกรู้จักอาจารย์...รึเปล่าวะ” ผมถามมัน
“เคยเห็น...อยู่หมวดไทยมั้ง ทำไมวะ”
“งั้นไปด้วยกันหน่อย อาจารย์...เค้าใช้ให้เอาของไปให้ พอดีไม่เคยเห็นหน้าว่ะ” มันทำหน้าคิดหนักเล็กน้อยก่อนจะยุรย่างออกมาจากห้อง
“เดี๋ยวชี้ให้ดูแล้วแกเดินเข้าไปในห้องเองนะเว้ย ขี้เกียจ”
แล้วมันก็ทำตามที่ได้ลั่นวาจาไว้ โดยการชี้ๆเข้าไปในห้องพักแล้วให้ผมเดินเข้าไปคนเดียว ส่วนมันรออยู่หน้าห้อง
โอเค อย่างน้อยก็ถือว่ามันยังอุตส่าห์เดินมาส่ง ถึงจะมีบ่นนู้นบ่นนี้มาตามรายทางบ้างก็เถอะ
...........................................................
ม.3
“ไอ้เวียร์ ไปหาอาจารย์...กับกูหน่อย” ไอ้เมฆมันชวน
“ทำไมวะ ไม่มีกูไปด้วยนี่มึงจะเหงามากนักหรือไง” ไอ้เวียร์มันเงยหน้าขึ้นจากหนังสือการ์ตูน ปากแมร่งก็อมจูป้าจุ๊บอยู่ อายุกี่ขวบแล้วเนี่ยเพื่อนกรุ
“ก็กูไม่อยากไปคนเดียว มึงก็รู้’จานเค้าน่ากลัวชิบหาย”
“มึงชวนไอ้เชนไปดิ มันลูกรักอาจารย์นิ”
“ไอ้เชนมันอยู่ที่ห้อง...”
“งั้นมึงก็ไปหาไอ้เชนที่ห้องนั้น แล้วค่อยไปหา’จานของมึงดิ...ยากตรงไหนวะ” ถึงมันจะพูดแบบนั้นแต่มือมันเก็บหนังสือการ์ตูนไปเรียบร้อยแล้ว แต่มันก็ยังทำเล่นตัวโดยการเอาคางเกยบนโต๊ะแล้วหลิ่วตามองไอ้เมฆ
“มึงจะบ้าหรอ!! ให้กูถ่อสังขารเดินขึ้นเดินลงเนี่ยนะ”
“นั่นก็เรื่องของมึง...มึงดันเสือกทำตัวสไตร์เข้าตา’จานเองนิ” ถ้าใครไม่รู้ผมจะบอกให้ว่าไอ้เวียร์มันประชด
“เข้าตาแบบเรียกไปด่าอย่างนี้กูไม่เอาเว้ย!!”
“แต่กูขี้เกียจอ่ะ” มันทำตัวเลื้อยลงไปตามแนวเก้าอี้เพื่อแสดงให้ไอ้เมฆรู้ว่ามันกำลังไม่มีกระดูก
“น่า~ไอ้เวียร์นะ เดี๋ยวกูช่วยปั่นสังคม” ได้ผลครับ กระดูกมันผุดขึ้นมาทันที
“แมร่ง คนอื่นมีเยอะแยะเสือกไม่ชวน...รักกูมากหรอไง” ถึงมันจะบ่นแต่ก็ลุกขึ้นแต่โดยดี
“ไอ้เวียร์ ในปากมึง...เดี๋ยวก็โดนหรอก” ผมเตือนมันด้วยความหวังดี เหมือนมันจะนึกได้ดึงจูป้าจุ๊บในปากยื่นมาให้ผม
“ฝากหน่อย” ว่าแล้วมันก็ลากไอ้เมฆออกไป
นั่นก็เป็นเพียงส่วนนึงจากอดีต แต่เรื่องราวที่สำคัญหน่ะมันเริ่มต่อจากนี้ไปตังหาก.....
ความคิดเห็น