ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 1 ตอน คนที่เข้าใจกัน
[ 3rd. Person Pov. ]
หลังจากนั้นสเลนน่าก็ถูกชวนให้เข้าร่วมโต๊ะทานอาหารเช้า ตอนแรกเธอกังวลที่จะนั่งร่วมโต๊ะกับเหล่าฆาตกรคนอื่นๆ แต่ตราบใดที่เธอยังมีเจนอยู่ข้างๆ มันก็ทำให้เธออุ่นใจขึ้นมาได้บ้าง
ระหว่างทานอาหารเช้าเธอก็ได้โอกาสทำความรู้จักกับคนอื่นๆมากขึ้น
"สวัสดีสเลนน่า ฉัน 'Eyeless Jack' แต่เรียกฉันว่า 'แจ็ค' เฉยๆก็พอ" แจ็คที่พึ่งมานั่งร่วมโต๊ะกล่าวทักทายเธอ สเลนน่าที่ยังไม่ลืมภาพตอนที่เจอเค้าหน้าประตูก็รู้สึกกลัวขึ้นมา แต่เธอก็ฝืนยิ้มแล้วทักทายกลับ
แต่สเลนน่าก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเธอเห็นในจานอาหารของแจ็คมันมีก้อนเนื้อวางอยู่ เธอสังเกตดูดีๆก็รู้ว่ามันคือไตมนุษย์ นั้นทำให้เธออยากจะอ้วก
สเลนน่ารีบหันหน้าหนี ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกพะอืดพะอมแล้ว
"สวัสดีค่ะพี่" สเลนน่าหันไปมองก็เจอเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ผมยาวสีน้ำตาล ตาสีเขียว ใส่เสื้อกระโปรงยาวสีชมพูที่เปื้อนเลือด ตามตัวของเด็กมีเลือดไหลออกมา และในมือเด็กก็กอดตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลไว้
พอสเลนน่าเห็นเด็กคนนี้อยู่ในสภาพที่เปื้อนเลือดทั้งตัว เธอแทบจะกรี๊ดลั่นปราสาท เธอรีบวิ่งเข้าไปหาเด็กคนนั้นและเช็คดูว่าเด็กเป็นอะไรรึเปล่า
"ใจเย็นสเลนน่า เด็กไม่เป็นอะไร" เจนเดินมาบอกพร้อมกับเอาผ้ามาเช็ดตัวแซลลี่ ถึงแม้จะเช็ดเลือดออกหมดแล้ว แต่ก็เห็นรอยแผลบนตัวเด็ก นั่นก็ไม่ได้ทำให้สเลนน่าหยุดกังวล
"สเลนน่า...นี่แซลลี้จ้ะ แซลลี่...นี่พี่สเลนน่าจ้ะ" เจนให้ทั้งสองคนได้รู้จัก แซลลี่ยิ้มให้ สเลนน่าโบกมือทักทายกลับ แต่เธอยังไม่ปล่อยแซลลี่ไปเพราะความเป็นห่วง แล้วเบ็นก็เข้ามาคุยด้วย
"เห้~สาวสวย ว่าไง~" เบ็นเข้ามาทักทาย ขยิบตาให้เธอ สเลนน่าที่เห็นแบบนั้นก็ทำตัวไม่ถูก รู้สึกเขินเค้า ทำให้เจนที่นั่งอยู่ข้างๆส่ายหัว เชิงบอกเบ็นว่าอย่าทำ แต่เค้าก็ยักไหล่ ไม่สนใจและพูดต่อ
แซลลี่ขึ้นมานั่งบนตักสเลนน่าแล้วกินแพนเค้กในจาน
"แล้ว~เธอโสดอยู่รึเปล่า-เย้ย!" เบ็นที่กำลังจีบสเลนน่าอยู่ก็โดนเครื่องไฟฟ้าช็อตจี้เข้าที่เอว เบ็นรีบบินหนีแล้วหันไปมองเจ้าของเครื่องช็อต ซึ่งก็คือแมสกี้
"...ซันชายน์~ อยากได้ไซรัปหรือวิปครีมละ" แมสกี้เก็บเครื่องช็อตไปแล้วหันไปสนใจสเลนน่าแทน
"555 น่าสงสารว่ะ เห้อ~ว่าไงสาวน้อย ฉันชื่อว่าแจ็คนะ" 'แจ็ค' เจ้าตัวตลกแนะนำตัว ทำให้สเลนน่าสับสนแล้วชี้ไปมาระหว่างแจ็ค (Eyeless Jack) คนนั้น กับแจ็ค (Laughing Jack) ตรงหน้าเธอ
"อ้อ~คือว่าที่นี่มีสองแจ็คน่ะ~" แมสกี้อธิบาย นั่งลงข้างๆสเลนน่า เค้ายื่นมือมาจับมี่คางเธอ ให้เธอมองหน้าเค้า สเลนน่าเองก็แสดงสีหน้ากลัวออกมาเล็กน้อย ทำให้แมสกี้ยิ้มสแยะภายใต้หน้ากาก
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
*แทรกนิดนึงค่ะ
คือในนิยายเรื่องมันมี 2 แจ็คนะค่ะ
แจ็คคนแรกคือ Eyeless Jack มนุษย์กินไต ซึ่งในเรื่องไรท์จะเรียกเค้าปกติเลยคือ แจ็ค
ส่วนแจ็คอีกคนที่ชื่อ Laughing Jack ตัวตลกขาวดำ ไรท์จะขอเรียกเค้าว่า Lj. นะ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"เธอคงจะรู้แล้วใช่มั้ยว่าฉันชื่ออะไร~" แมสกี้ถาม ยื่นหน้าเข้าไปใกล้สเลนน่า
"เออ-อืม คุณ...แมสกี้" สเลนน่าตอบ แต่แมสกี้ดูเหมือนจะไม่พอใจกับคำตอบของเธอ เพราะเค้าอยากให้สเลนน่าเรียกเค้าว่าทิม
"...โอ้ว~ซันชายน์ เธอควรจะเรียกฉันว่าทิมนะ" แมสกี้พูดเสียงดูดุดันและจับคางเธอแน่น ทำให้สเลนน่ายิ่งกลัวเค้า พยายามผลักเค้าออกแต่ก็ไม่เป็นผล แต่แล้วก็มีมือเข้ามาดึงคอเสื้อแมสกี้ ดึงเจ้าตัวออกห่างจากสเลนน่า
เมื่อแมสกี้รู้ว่ามีคนมาดึงเค้าออกห่างจากสเลนน่า เค้าหันกลับไปมองด้วยอารมณ์ฉุน แล้วก็เจอกับฮูดดี้ เพื่อนของเค้า
"...อย่าลืมว่าเธอคือคนที่บอสต้องการให้เราดูแล เพาะฉะนั้น...นายไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรเธอไปมากกว่านี้ แค่จับตามอง ทำตามคำสั่งที่ท่านมอบให้ ก็เท่านั้น" ฮูดดี้พูดด้วยเสียงที่จริงจัง เชิงว่า 'เค้าไม่ได้ล้อเล่น'
แมสกี้ปัดมือฮูดดี้ออก ทั้งสองมองหน้ากันอยู่ชั่วขณะก่อนที่แมสกี้จะกระโจนเข้าไปหาเรื่องฮูดดี้
"ย-หยุดเลยทั้งคู่" โทบี้พูดเดินเข้าไปห้ามทั้งสอง
"อย่ายุ่งโรเจอร์!" แมสกี้ตะคอกใส่โทบบี้แล้วผลักเค้าออกไป โทบี้เสหงายหลังไป ทำให้หัวของเค้าไปกระแทกกับขอบโต๊ะอย่างแรง
ทุกๆคนรีบฉุดเข้ามาช่วยและห้ามแมสกี้
สเลนน่าเองก็ทนอยู่เฉยๆไม่ได้ เธอจึงรีบเข้าไปหาโทบี้ ดูว่าเค้าเป็นยังไงบ้าง
"นี่! ไม่เอาน่าแมสกี้ หัดควบคุมอารมณ์ของตัวเองสะบ้างสิ!" แจ็คบอก พยายามที่จะดึงตัวแมสกี้ไว้และก็มีเบ็นมาช่วยอีกคน ส่วนฮูดดี้เองก็ไม่ได้มีท่าทีที่จะต่อยกับอีกฝ่ายเลย แค่ยืนนิ่ง กอดอก มองเพื่อนของเค้าที่ตอนนี้กำลังโวยวาย โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
"เจ็บมากมั้ย? ขอฉันดูที่หัวของคุณหน่อย..." สเลนน่าดูที่ด้านหลังหัวของโทบี้ ก็พบว่าไม่เป็นอะไรมาก หัวของเค้าอาจจะปูดขึ้นมานิดหน่อย เอาผ้าเย็นประคบหน่อยน่าจะช่วยได้
แมสกี้เองก็ยังไม่หยุดโวยวาย ตะโกนลั่นปราสาท
สถานการณ์มันเริ่มที่จะแย่ลงเรื่อยๆเมื่อแจ็คไม่สามารถรั้งแมสกี้ไว้ได้นาน ถูกแมสกี้กระทุ้งศอกเข้าให้ที่หน้า ทำให้หน้ากากที่เค้าสวมไว้กระเด็นหลุดไป หงายหลังลงไปนั่งกับพื้นพร้อมกับความเจ็บแสบที่จมูก
เมื่อแมสกี้เป็นอิสระก็รีบกระโจนเข้าไปหาฮูดดี้อีกครั้ง ฮูดดี้สู้กลับ ทั้งสองต่างแลกหมัดให้กัน ไม่มีใครยอมใคร ถึงแม้เจนกับเบ็นจะเข้าไปช่วยห้ามแต่ก็ไม่เป็นผล
"นี่! พวกนายเป็นเพื่อนกันแท้ๆ อย่าทำเพื่อนกันเองสิ!" เบ็นห้าม พยายามแยกเพื่อนทั้งสองออกจากกัน มีLjมาช่วยอีกคน ส่วนเจฟก็เอาแต่นั่งไขว้ขาบนโต๊ะ ยิ้มมีความสุขที่ได้เห็นเพื่อนตีกัน
"นี่หยุดเถอะ.." สเลนน่าพูดเสียงแผ่วเบา แน่นอนไม่มีใครได้ยิน
สเลนน่ามองภาพตรงหน้าอย่างน่ากังวล เพื่อนกันเองแต่กลับทำร้ายกัน คนที่ช่วยต้องเจ็บเพียงแค่อยากช่วยยุติเรื่องนี้ แต่กับเธอกลับทำอะไรไม่ได้เลย
"ทุกคน-" อยู่ๆรอบตัวสเลนน่าก็มืดไป เธอเห็นสเลนเดอร์แมนยืนอยู่ต่อหน้าเธอ เธอรู้สึกได้ถึงความโกรธที่ออกมาจากเค้าเหมือนเค้าไม่พอใจ...
สเลนน่าเห็นดังนั้นจึงรีบถอยหนี เธอคิดว่าเธอไม่ควรอยู่ใกล้เค้าเวลาที่เค้าโกรธ
"...คุณสเลนเดอร์แมน"
"ฉันว่าแล้วเชียว... ถ้าฉันไม่อยู่คุมพวกมัน ก็ต้องมีเรื่องขึ้น!" สเลนดี้ตะโกนออกมาพร้อมกับหนวดหมึกที่ด้านหลังเค้า มันสะบัดไปมาอย่างบ้าครั้ง ทำให้รอบๆสั่นสะเทือนเหมือนแผ่นดินไหว
สเลนเดอร์แมนพุ่งเข้ามาหาสเลนน่าพร้อมกับแยกเขี้ยวใส่ สเลนน่ากรีดร้องออกมาด้วยความกลัว
"ขอร้องละ! หยุดเถอะ!" สเลนน่าตะโกนออกมา แล้วทันใดนั้น โต๊ะอาหารทั้งโต๊ะก็ปลิวกระเด็น ลอยขึ้นเหนือพื้น ทุกคนต่างอึ้งแล้วรีบหลบโต๊ะที่กำลังล่วงลงมาทางพวกเค้า
ตัวโต๊ะคว่ำลงกับพื้น เสียงดังโครมคราม อาหารทั้งหมดที่ตอนนี้เละเทะเปรอะเปื้อนบนพื้นเต็มไปหมด ไม่สามารถกินได้แล้ว ทุกคนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้แต่ถามกับตัวเองว่า 'เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?'
"เออ...ทุกคนโอเคมั้ย? ไม่มีใครโดนโต๊ะบินได้คว่ำใส่ใช่มั้ย?" แจ็คถาม ดูว่าคนอื่นๆเป็นไงกันบ้าง
"เออ...ก็..." เบ็นชี้ไปทางโต๊ะ เห็นเจฟที่โดนโต๊ะทับ นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น
"ก็สมควรแล้วละ " เจนบอก คนอื่นพยายามกลั้นขำเมื่อเจฟเงยหน้าพร้อมกับที่บนหน้าของเค้าแต่งแต้มไปด้วยวิปครีมและซอสสตอเบอรี่
"เมื่อกี้ใครทำอะไรวะ!" เจฟโวยวาย เบ็นกับแจ็คพยายามช่วยเค้าออกจากตรงนั้น
เมื่อเจฟลุกขึ้นมาได้ เค้าก็เดินตรงไปหาสเลนน่าทันที
"เมื่อกี้แกทำอะไร!" เจฟคว้าข้อมือของสเลนน่าและบีบเต็มแรง ทำให้เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บ เจนจึงรีบเข้ามาขวางไว้
"เอามือแกออกไปเจฟ!" เจนชักมีดออกมาแล้วฟันไปหนึ่งครั้ง แต่เจฟหลบก่อน ปล่อยข้อมือของสเลนน่าไป
"ยัยนั่นทำฉันปลิวไปพร้อมทั้งโต๊ะเลย!"
"สเลนน่าไม่ทำอะไรเจฟ!" ทั้งสองเถียงกันไปมาจนแจ็คต้องเข้ามาห้าม
"โอเคทุกคนใจเย็นๆก่อน เราไม่รู้ว่าใครทำ เพาะฉะนั้นอย่าโทษกันเอง และฉันหมายถึงนายเจฟ อย่าโทษสเลนน่ามั่วซั่ว เข้าใจนะ" แจ็คพูด เจฟทำได้แต่กัดฟัน จ้องไปที่สเลนน่าด้วยความโกรธ สเลนน่าที่โดนมองแบบนั้นก็เลยรีบไปหลบอยู่หลังเจน
"...บางที อาจจะเป็นสเลนเดอร์แมนรึเปล่า?" เบ็นพูด
"แต่เค้าไม่อยู่ที่นี่ เค้ายังนอนอยู่บนเตียงในห้องนะ" Lj.พูด แต่แจ็คก็พูดแทรกขึ้นมา
"ที่เบ็นพูดก็เป็นไปได้... เพียงแค่เค้าอาการไม่ดี ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะจับตามองเราไม่ได้" ทั้งห้องเงียบ คิดว่าที่แจ็คกับเบ็นพูดอาจเป็นไปได้...
"แล้วจะทำไงต่อ อาหารเช้าของพวกเราก็..." เบ็นถาม ตอนนี้อาหารเช้าก็ไม่เหลือแล้ว
"เห้อ... เดี๋ยวฉันทำให้ใหม่ก็ได้" แมสกี้พูดแล้วเดินไปหาสเลนน่า เธอเห็นแมสกี้เดินเข้ามาใกล้และหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ
"โทษทีที่ทำให้กลัว ซันชายน์..." แมสกี้เอามือลูบที่แก้มสเลนน่าเบาๆ สเลนน่าแค่ยืนอยู่เฉยๆ แล้วแมสกี้ก็เดินเข้าไปในครัว
ทุกคนต่างแยกย้ายไปทำอย่างอื่นเพื่อรอ สเลนน่ามองตามโทบี้ที่เอามือกุมหัวตัวเอง ทำให้เธอนึกขึ้นได้ว่าตอนมีเรื่องทะเลาะกัน เค้าถูกผลักจนหัวของเค้าไปกระทบกับขอบโต๊ะอย่างแรง
สเลนน่าคิดที่จะเข้าไปถามโทบี้ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง แต่ก็ไม่ทันที่จะได้เข้าไปคุย โทบี้ก็ได้เดินเข้าไปในห้องๆหนึ่งและปิดประตูห้อง เธอเดินไปหยุดอยู่หน้าประตูห้องเห็นป้ายชื่อห้อง เธออ่าน
"ห้องของพร็อกซี่เหรอ?" สเลนน่ายืนอยู่ตรงนั้นไม่รู้จะทำอย่างไร จะเคาะประตูเรียกเค้าดีมั้ย มันจะเป็นการรบกวนเค้ารึเปล่า หรือเธอควรจะกลับไปที่ห้องของเจนดีละ...
สเลนน่ายืนคิดอยู่แป๊บนึง ก่อนที่เธอจะตัดสินใจได้และรีบวิ่งไปที่ห้องครัว หาผ้าขนหนูสักผืนมาชุบน้ำ
โทบี้ หรือ Ticci Toby นอนอยู่บนเตียง พยายามที่จะนอนหลับเพื่อลืมความโกรธที่เค้ามีให้หายไป ที่เค้าอารมณ์เสียก็เพราะก่อนหน้านี้ ที่แมสกี้เรียกเค้าว่า 'โรเจอร์' มันทำให้โทบี้ไม่พอใจอย่างมาก เค้าไม่ต้องการที่จะถูกเรียกด้วยนามสกุลของเค้า มันทำให้อดีตอันเลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นกับตามมาหลอกหลอนโทบี้อีกครั้ง
ไม่ว่าจะเรื่องที่พ่อของเค้าที่มักจะทำร้ายร่างกายเค้าบ่อยๆ...
แต่ยังไงสะ...
ใอแก่นั่นก็ตายไปแล้ว...
แต่สิ่งที่มันตามหลอกหลอนเค้าจริงๆ ก็คือพี่สาวของเค้าที่ตายไปแล้ว...
บางครั้งโทบี้เห็นวิญญาณของผีสาวของเค้า ที่อยู่ในสภาพเป็นศพเน่า มันทำให้เค้าเป็นบ้าทุกครั้งที่เห็นเธอ...
ภาพและความทรงจำมากมายของเค้ากับพี่สาวกำลังแล่นเข้ามาในหัว ทุกเหตุการณ์ที่พวกเค้าได้มีเวลาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
แต่มันก็จบลงในอุบัติเหตุรถชน...
มันเป็นความผิดของเค้า...
โทบี้ที่นอนอยู่ หายใจเสียงดัง เหมือนเค้ากำลังฝันร้าย...
'เสียงเคาะประตู'
โทบี้ลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงคนมาเคาะที่ประตู เค้าลุกขึ้น เดินไปเปิดประตูก็เจอกับสเลนน่าที่ยืนอยู่ตรงหน้าเค้า พร้อมกับในมือเธอถือขันใส่น้ำและผ้าขนหนูไว้
"ส-สวัสดี คือ...ฉันมาดูว่าคุณเป็นไงบ้าง ที่หัวน่ะ...ยังเจ็บอยู่มั้ย? จำได้ว่าคุณโดนผลัก แล้วหัวไปกระแทกกับขอบโต๊ะ" สเลนน่าถาม โทบี้เอื้อมมือไปจับที่ด้านหลังของหัว เค้าไม่รู้สึกเจ็บเพราะเค้าไม่สามารถรู้สึกถึงความเจ็บได้ แต่เค้าก็รู้ว่าที่หลังหัวของเค้ามันปูดโนขึ้นมานิดๆ
"ฉ-ฉันไม่เป็นไร ไปสะ ฉันจ-จะนอน" โทบี้บอกแล้วกำลังจะปิดประตู
"ย-อย่างน้อยก็ให้ฉันได้ดูแลคุณเถอะนะ ปล่อยไว้แบบนั้นมันจะไม่ดีเอานะ" สเลนน่าเอามือดันไว้ โทบี้ไม่สนใจและปิดประตู แต่มือของสเลนน่าที่ยังคงจับที่ขอบประตู ยันไว้ไม่ให้ปิด มือของเธอถูกประตูหนีบจนเป็นรอยแดง
โทบี้คิดว่าเดี๋ยวพอมือของสเลนน่าเจ็บมากๆ เดี๋ยวเธอก็ปล่อยเอง
โทบี้ดันกลับเพื่อที่จะปิดประตูให้มิด แต่สเลนน่าเองก็ยังไม่ปล่อย จนมือของเธอมันแดงมากๆ
โทบี้เริ่มรู้สึกรำคาญ คิดจะไล่เธอ แต่เค้าเห็นสายตาของเธอที่แสดงถึงความเจ็บ แต่ต่างจากมือของเธอที่ยังคงยันประตูไว้ เค้าก็รู้ได้ทันทีว่าเธอคงไม่ยอมไปไหนแน่ๆ
ทำไมเธอถึงไม่ยอมแพ้...
โทบี้ถอนหายใจ ยอมแพ้และเปิดประตูให้สเลนน่าเข้ามา
สเลนน่าเห็นว่าในที่สุดโทบี้ก็ยอมเปิดประตูให้เธอเข้าไป เธอยิ้มดีใจและขอบคุณเค้า เดินเข้าไปในห้อง
เมื่อเธอเข้ามาก็เจอกับสภาพห้องที่รก ข้าวของกระจัดกระจายไปทั่ว เธอเห็นว่ามีเตียงนอนสามเตียง แสดงว่าห้องนี้มีคนอยู่ด้วยกันสามคน เธอก็เลยไม่แปลกใจที่ห้องจะรกได้ขนาดนี้
"คุณอยู่กับใครบ้างในห้องนี้?" สเลนน่าหันไปถามโทบี้ที่เดินตามหลังมา
"ม-มีฉัน แมสกี้ และก-ก็ฮูดดี้" โทบี้บอก สเลนน่าบอกให้เค้ามานั่งที่เก้าอี้
"ขอฉันดูที่หัวของคุณหน่อยนะว่ามันปูดมากมั้ย" สเลนน่าลูบไปตามผมของโทบี้ หาจุดตรงที่โน
สเลนน่าคลำหาอยู่แป๊บนึงก็เจอตรงที่มันปูดขึ้นมา เธอเอื้อมไปหยิบผ้าขนหนูที่ชุบน้ำไว้มาประคบ
ในห้องเงียบเพราะไม่มีใครจะพูดอะไร
"ค-คราวหลังเรียกฉันว่าโทบี้ก-ก็พอ และไม่ต้องใช้คำว่าค-คุณ ไม่ต-ต้องสุภาพกับฉันม-มาก..." โทบี้พูด หลังจากที่ในห้องเงียบไปสักพัก
"อ-โอเคจ๊ะ" สเลนน่าตั้งตัวไม่ทันที่อยู่ดีๆอีกฝ่ายก็พูด
"..." แต่ในห้องก็กลับมาเงียบอีกครั้ง
ในขณะที่สเลนน่ากำลังเอาผ้าชุบน้ำและบิดน้ำออก โทบี้สังเกตว่าที่มือข้างขวาของเธอที่แดง มือข้างที่เธอใช้ยันประตูไว้ เพื่อให้เค้าเปิดประตูให้เธอเข้ามาในห้อง...
เพื่อให้เธอได้เข้ามาดูแลเค้า...
เหมือนกับที่พี่สาวของเค้าเคยทำ...
เมื่อหลายปีก่อน...
โทบี้รีบวิ่งเข้าไปในห้องของเค้า โยนกระเป๋านักเรียนทิ้งไป และล็อคประตูห้อง
"โทบี้ เปิดประตูจ้ะ..." เสียงของผู้เป็นพี่สาวของเค้าพูดจากข้างนอกห้อง
"ไม่!! ผมย-อยากอยู่ค-คนเดียว" โทบี้ตะโกนบอก เค้านั่งกอดเข่า ร้องไห้อยู่ข้างเตียงในห้องของเค้า เค้าพึ่งกลับมาจากโรงเรียนหลังจากที่เค้าถูกเพื่อนๆในห้องรังแก บอกว่าเค้าเป็นตัวประหลาด เพียงแค่ว่าเค้ามักจะพูดติดๆขัดๆ และไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด
"เปิดประตูเถอะนะโทบี้ ให้พี่เข้าไปเถอะ..." โทบี้ที่ตอนนี้น้ำตาอ่าบแก้ม ยอมลุกขึ้นไปเปิดประตูให้พี่สาวของเค้า 'ไลล่า'
เมื่อโทบี้เปิดประตูให้ เค้าก็เดินไปนั่งที่เตียง ในหัวมีคำถามมากมาย..
ทำไมพวกเค้าเกลียดฉัน...
ทำไมฉันถึงแตกต่างจากพวกเค้า...
ทำไมคุณพ่อถึงไม่รักฉัน...
ทำไมพวกเค้าไม่ยอมรับในสิ่งที่ฉันเป็น...
โทบี้ถูกดึงออกจากภวังค์ความคิดเมื่อมีสัมผัสมือมาแตะที่ไหล่ของเค้า โทบี้หันไปมองไลล่าที่มองเค้าด้วยความห่วงใย และในมือของเธอก็ถือผ้าเช็ดหน้าไว้
"โอ๋~ ไม่ร้องนะน้องชายของพี่" ไลล่าเช็ดน้ำตาให้โทบี้
"พี่ฮะ ท-ทำไมพวกเค้าก-เกลียดผม..." โทบี้ถาม เสียงสะอึกสะอื้น
"...อย่าไปใส่ใจพวกเค้าเลยโทบี้ พี่อยากให้น้องรู้ว่าพี่จะไม่มีวันจะเกลียดน้อง และพี่ก็จะไม่ทิ้งน้องไปด้วย" ไลล่าบอกพร้อมกับดึงตัวโทบี้เข้ามากอดไว้ โทบี้เองก็กอดตอบกลับ คำพูดที่ไลล่าพูดมันมีความหมายกับเค้ามากๆ เค้าไม่อยากให้เธอหายไปจากชีวิตเค้าเลย
แต่เราก็ต่างรู้...
ว่าบนโลกนี้ มันไม่มีอะไรที่อยู่ตลอดไป...
ณ สถานที่แห่งหนึ่งที่เป็นหลุมฝังศพของผู้ที่เสียชีวิตมากมาย โทบี้ยืนอยู่ท่ามกลางป้ายหลุมศพพวกนั้น ตอนนี้ตัวเค้าใส่ชุดสูทสีดำ และที่ริมฝีปากข้างซ้ายของเค้ามีแผลฉีกจนเห็นฟันกลามของเค้าอย่างชัดเจน
เค้าร้องไห้ น้ำตาไหล ในขณะที่กำลังมองไปที่หลุมศพตรงหน้าเค้า...
ผู้ตาย 'ไลล่า โรเจอร์'
ครั้งสุดท้ายที่เค้าเห็นเธอ... เธอตายต่อหน้าเค้า...ในอุบัติเหตุรถชน...
เค้ายังคงเห็นเธอ... วิญญาณของเธอยังคงโผล่มาให้เค้าเห็นทุกคืน
มันจะไม่มีวันหยุดหลอกหลอนเค้า...
คอยตอกย้ำทุกๆครั้งว่ามันคือความผิดของเค้าที่ผู้เป็นพี่ต้องตาย...
"ท-โทบี้"
"ผมขอโทษ... ผมขอท-โทษ..."
"โทบี้!" โทบี้เมื่อได้สติ ลืมตาขึ้น เจอสเลนน่าที่เขย่าตัวเค้าไม่หยุด เรียกชื่อเค้า ทั้งสีหน้าและสายตาแสดงถึงความเป็นห่วง
เมื่อสเลนน่าเห็นว่าโทบี้ได้สติแล้ว เธอก็รู้สึกโล่งใจ
"โทบี้เป็นอะไรรึเปล่า! อยู่ดีๆ...นายก็ฟุบลงไป และยังหายใจดังอีก" สเลนน่าถาม โทบี้นั่งลงบนเตียง ทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น เค้าแค่นึกย้อนเรื่องของพี่เค้า นี่เค้าถึงกับนอนหลับไปเลยเหรอ?
"...ฉ-ฉันก็แค่ล-หลับไป" โทบี้ตอบ แต่เค้าเองก็ไม่รู้หรอกว่าจริงๆมันเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้
"...นายคงจะรู้สึกง่วงแล้วสินะ งั้นฉันไปก่อนละกัน" เธอบอก ดึงฮูดหมวกของเค้าลง เผยให้เห็นผมสีน้ำตาลของเค้า
สเลนน่ากำลังจะดึงที่ปิดปากของโทบี้ลง แต่มือของเค้าก็มาห้ามไว้ เธอจึงไม่ทำและดันตัวเค้าลงให้นอนไปกับเตียง แล้วเดินไปหยิบขันน้ำที่วางทิ้งไว้ที่โต๊ะและเปิดประตูออกไป
"นอนหลับฝันดีนะ " แล้วสเลนน่าก็ปิดประตูและเดินจากไป
โทบี้มองสเลนน่าที่เดินออกไป เค้าดึงที่ปิดปากออก เผยให้เห็นรอยแผลฉีกที่มุมซ้ายของปากเค้า และหลับตาลง
"ฉันน่าจะดีก-กับเธอให้ม-มากกว่านี้..."
สเลนน่าเอาของทั้งหมดกลับไปวางไว้ที่เดิม เธอกำลังจะเดินกลับไปที่ห้องของเจน แต่ก็เดินไปชนเข้ากับตัวตลกสีขาวดำสะก่อน
สเลนน่าเงยหน้าขึ้นไปมองก็เจอLj.ที่ส่งยิ้มหวานให้เธอ
"โอ้ว~ สวัสดีสเลนน่า~ เป็นยังไงบ้างจ้ะ~" Lj.ถามพร้อมกับย่อตัวลงไปหาสเลนน่า
"เออ...สวัสดีค่ะ..." สเลนน่าทักทายกลับ Lj.ยิ้มเป็นมิตรและเอามือล้วงกระเป๋า ในมือกำลูกอมไว้ เอาออกมาให้สเลนน่า
"นี่ลูกอมแสนอร่อย~ เอามั้ย~" Lj.ยื่นลูกอมให้ สเลนน่าเองก็เกรงใจ แต่Lj.ก็บอกว่าไม่เป็นไรและหยิบลูกอมหนึ่งเม็ดให้เธอ สเลนน่ายิ้มเล็กน้อย และกำลังจะเอาลูกอมเข้าปาก แต่มีเสียงคนตะโกนมาแต่ไกล ทำให้ทั้งสองคนหันไปดูก็เห็นแจ็คที่กำลังวิ่งมาทางพวกเค้า
"อย่ากินนะ!" แจ็ครีบปัดลูกอมในมือสเลนน่าทิ้งไป เค้าหันไปมองLj.แล้วพูด
"Lj.! นี่นายคิดจะฆ่าเธอรึไง!" สเลนน่าได้ยินแบบนั้นก็รีบถอยห่างจากLj. ไปหลบอยู่ด้านหลังแจ็คแทน
"อ้าวแจ็ค... นั้นมันเสียของนะ ฉันแค่อยากจะแบ่งปันกับสเลนน่าก็เท่านั้นเอง~" Lj.ยื่นมือไปจะจับตัวสเลนน่า แต่แจ็คก็ขู่เค้ากลับด้วยมีดพกที่เค้ามีติดตัวไว้
"โถ่~ ไม่จำเป็นต้องเล่นแรงกันเลยนิ" Lj.ยิ้มเจ้าเล่ห์
"ไปสะLj. ฉันเองก็ไม่อยากจะควักไตแกมากินหรอก" แจ็คไล่พร้อมกับเก็บมีดของเค้าไป Lj.หัวเราะคิกคักก่อนที่จะหายตัวไปในอากาศ
"เห้อ... ไม่เป็นไรนะสาวน้อย" แจ็คถาม สเลนน่าผงึกหัว บอกว่าเธอไม่เป็นไร แต่ตาของแจ็คสดุดไปเห็นมือข้างขวาของสเลนน่าที่แดงเป็นรอย
"มือเธอไปโดนอะไรมา?" แจ็คถาม สเลนน่าอึงๆอำๆว่าจะตอบเค้ายังไงดี
"...ถ้าไม่บอกก็ไม่เป็นไร แต่มากับฉัน ฉันจะได้ทายาให้" แจ็คพูด สเลนน่าตอบตกลงและเดินตามเค้าไปที่ห้อง เมื่อไปถึงห้อง แจ็คก็ลงมือ ทายาที่มือของเธอ
หลังทำเสร็จ แจ็คขอให้สเลนน่าออกไปเดินกับเค้าข้างนอก เค้าอยากจะถามคำถามเธอสักสองสามข้อ สเลนน่าเองก็ตกลงและออกไปพร้อมเค้า
ทั้งสองออกมาข้างนอกปราสาท สเลนน่าเองที่พึ่งได้ออกมาข้างนอกเป็นครั้งแรก ได้เห็นวิวที่มีแต่ต้นไม้สูงเต็มไปหมด เธอเลยไม่แปลกใจที่จะไม่มีใครหาที่นี่เจอ
ลมเย็นปะทะเข้าที่หน้า อย่างน้อยที่นี่ก็อากาศดี
สเลนน่าเดินตามแจ็คไป ทั้งสองคนเดินมาหยุดอยู่ตรงที่มีแม่น้ำเล็กๆ
แจ็คบอกให้สเลนน่านั่งลงที่ริมลำธาร และเค้าก็เริ่มถาม
"เธอมาจากไหนสเลนน่า?" แจ็คถาม สเลนน่าคิดว่าจะตอบไปตรงๆดีมั้ย เธอยังไม่ไว้ใจผู้ชายคนนี้ เพราะเธอพึ่งได้อยู่ตามลำพังกับเค้าครั้งแรก และเจนก็ไม่อยู่ด้วยตอนนี้ เพื่อความปลอดภัยเธอจึงตอบอ้อมๆ
"นู๋...อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบท" แจ็คเมื่อได้ยินคำตอบก็ไม่พูดอะไรแล้วถามต่อ
"ที่ไหน..." เมื่อเน้นถามแบบนั้น ใจสเลนน่าเต้นแรง นี่เค้าพยายามที่จะเค้นข้อมูลจากเธองั้นเหรอ?
เมื่อสเลนน่าไม่ตอบ แจ็ครู้ได้ทันทีว่าสเลนน่าไม่ไว้ใจเค้า ไม่เหมือนเจน
"...งั้นเธอชอบกินอะไรมากที่สุด" เมื่อสเลนน่าฟังคำถาม ทำให้เธองง เมื่อกี้เค้ายังเหมือนพยายามที่จะเค้นข้อมูลเกี่ยวกับเธอ แต่ตอนนี้กลับถามสิ่งที่เธอชอบสะงั้น
"...เออ ไอติม" สเลนน่าตอบเสียงเบา แจ็คหัวเราะ
"ฮะฮะ~ แล้วชอบรสอะไรละ"
"เออ... รสวานิลา"
"งั้นเหรอ ส่วนฉันชอบช็อคโกแล็ต" แจ็คนั่งลงข้างๆแล้วพูดต่อ
"ไม่ต้องกลัวฉันหรอกนะ ฉันแค่อยากทำความรู้จักกับเธอให้มากขึ้น"
"งั้นเหรอคะ..."
"ดูท่าทีแล้ว เธอคงจะไม่ไว้ใจฉันเลยสินะ" แจ็คเลือกที่จะพูดออกมาตรงๆ
"คือ... คุณจะไม่กินไตฉันใช่มั้ย..."สเลนน่าถาม นั่นทำให้แจ็คขำ
"ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก ที่จริงก็ทำไม่ได้อยู่แล้ว..." แจ็คบอก ถ้าเค้าหรือใครที่อยู่ที่นี่ทำร้ายสเลนน่า คงจะโดนสเลนเดอร์แมนฆ่าทิ้งแน่ เพราะพวกเค้าถูกสั่งห้ามไว้แล้ว
พอแจ็คพูดเสร็จ ทำให้สเลนน่าเริ่มไว้ใจเค้านิดนึง
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็คุยกันไปเรื่อยๆ ทั้งสองคุยกันได้สนิทสนมเป็นอย่างดี เพราะพวกเค้าพบว่าพวกเค้าชอบอะไรหลายๆอย่างคล้ายกัน สเลนน่าชอบวิชาวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับเรื่องดวงดาวดาราศาสตร์ แจ็คเองก็ชอบวิทยาศาสตร์เช่นกัน แต่จะเป็นเรื่องการแพทย์มากกว่า
"คุณเป็นหมอรึเปล่าค่ะ" สเลนน่าถาม
"ฮะฮะ~ เป็นความฝันน่ะ แต่มาถึงจุดนี้ก็หันหลังกลับไม่ทันแล้วละ" แจ็คบอก เสียงของเค้าฟังเหมือนมีความเศร้าอยู่เล็กน้อย ทำให้สเลนน่าเอะใจ
"...เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ? " สเลนน่าถาม
" ...เธออยากรู้งั้นเหรอ?" แจ็คถามกลับ สเลนน่าผงึกหัวและเขยิบเข้าไปนั่งใกล้ๆ แจ็คเงียบอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะเริ่มเล่า
"ตอนที่ฉันอายุเท่าเธอ ฉันเรียนสายแพทย์เพราะฉันอยากจบไปเป็นหมอ จะได้ช่วยเหลือผู้คนที่เจ็บป่วย ฉันเรียนอย่างหนัก ในตอนนั้น ฉันก็เรียกได้ว่าเป็นเด็กเนิ้ตน่ะ ฮะฮะ~
ฉันมีเพื่อนสนิทอยู่สองคน เราเรียนมาด้วยกันในสายแพทย์ เราช่วยเหลือกันมาตลอด... แต่สุดท้ายฉันก็ไม่คิดเลยว่า... ความเป็นเพื่อนของพวกเรา มันจะไม่มีความหมายกับพวกเค้าเลย...
พวกเค้าอิจฉาที่ฉันเก่งกว่า เรียนดีกว่า... สิ่งที่พวกเค้าทำกับฉันมันทำให้ฉันสูญเสียการมองเห็นไป และก็กลายมาเป็นฆาตกรตาบอด ไล่กินไตของคนอื่น อย่างที่เป็นทุกวันนี้แหละ..."
"...แล้วคุณทำยังไงต่อหลังจากที่คุณสูญเสียการมองเห็นไป?" สเลนน่าถาม แจ็คมองเธอก่อนที่จะลูบหัวเธอเบาๆ
"ฉันว่าเธอไม่ควรจะรู้ดีกว่านะ มันเป็นเรื่องของคำว่า 'แก้แค้น' น่ะ " แจ็คบอก
"ก็หลังจากนั้นฉันก็เจอสเลนเดอร์แมน และเค้าก็เชิญให้ฉันมาอยู่ที่ปราสาทนี้ เหมือนกับคนอื่นๆ ก็คนไม่ที่ไปละนะ..."
"แล้วเธอละสเลนน่า เรื่องราวของเธอเป็นไง?" แจ็คถาม สเลนน่าเองก็กังวลว่าจะเล่าเรื่องของตัวเองดีมั้ย เพราะอดีตของเธอก็ไม่ได้ดีไปทุกอย่าง...
"เอิ่ม... ก็...ชีวิตปกติของวัยรุ่นทั่วไปค่ะ" สเลนน่ายิ้มฝืดๆ แจ็ครู้ว่าเธอกำลังฝืนยิ้ม มันไม่ใช่แค่ชีวิตปกติอย่างที่เธอบอกแน่นอน
"ฉันว่ามันมีมากกว่านั้นนะ" แจ็คพูดจับผิด ทำให้สเลนน่ารู้ว่าเค้าจับผิดคนโกหกเป็น
"...นู๋มีเพื่อนสนิทอยู่คนนึง ชื่อว่ามินดาค่ะ ส่วนคนอื่นก็...ไม่ค่อยสนิทสักเท่าไหร่" สเลนน่าเล่าให้ฟัง
"ที่มหาลัยไม่มีใครชอบนู๋น่ะ..." แจ็คมองสเลนน่าก่อนที่จะเอื้อมมือไปโอบไหล่เธอ สเลนน่าตกใจเล็กน้อยแต่ก็ปล่อยให้เค้าทำ
"...แล้วครอบครัวละ?" แจ็คถาม
"...นู๋อยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็ก อยู่รวมกับเด็กคนอื่นมาตั้งแต่เล็กๆแล้วละ" สเลนน่าเริ่มน้ำตาคลอเมื่อนึกย้อนเรื่องทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้น ทั้งคุณพ่อที่ทิ้งเธอกับแม่ และแม่ของเธอที่ป่วยตายเพราะโรค
"พ่อเค้าออกไปจากบ้าน ส่วนคุณแม่ก็-" แจ็คเอานิ้วมาแตะที่ริมฝีปากของสเลนน่า บอกว่าเธอไม่ต้องพูดต่อ
"เธอไม่ต้องเล่าต่อแล้ว..." แจ็คบอกและกอดสเลนน่า เธอจึงเอนหัวไปพิงที่ไหล่ของเค้า และหลับตาลง พยายามสงบอารมณ์
"แล้วไม่ต้องไปใส่ใจคนพวกนั้นที่ไม่ชอบเธอ เธอมีดีมากกว่าพวกเค้า"
"...คุณรู้ได้ไงว่านู๋มีดีกว่า"
"รู้สิ ถ้าเธอไม่มีอะไรพิเศษ เธอก็คงไม่ได้มาอยู่ที่นี่หรอก ฉันเชื่อท่านสเลนเดอร์แมน"
"ฉันเชื่อว่าสเลนเดอร์แมนต้องมีเหตุผลที่ให้เธออยู่ที่นี่ ท่านสเลนเดอร์แมนเค้าไม่เคยพลาด ไม่ว่าเค้าเห็นอะไรในตัวเธอ ฉันเชื่อว่ามันพิเศษ" แจ็คพูดเสร็จ สเลนน่าก็กอดแจ็คทันที แจ็คไม่พูดอะไรและกอดตอบกลับ ทั้งสองกอดกันอยู่นานจนมีเสียงดังขึ้นอยู่ไกลๆ แต่คนหูดีอย่างแจ็คไม่พลาด เค้ารีบหันไปตามเสียง ในมือถือมีดไว้
"มีอะไรเหรอคะ?" สเลนน่าถามเมื่ออยู่ๆแจ็คก็ตื่นตัว
ทั้งรอบพื้นที่เงียบกริบ มีแต่เสียงลมที่พัดผ่าน เวลาผ่านไปก็ยังไม่มีใครหรือตัวอะไรโผล่มาจนมีเสียงพูดในหัวของแจ็ค
"พาสเลนน่าออกมาจากที่นั้น แจ็ค" แจ็คจำเสียงนี้ได้ เสียงของท่านสเลนเดอร์แมน...
"..."
"เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ" แจ็คที่ยืนนิ่งไม่พูดอะไร หันกลับมาและเก็บมีดเข้ากระเป๋ากางเกง และเดินไปหาสเลนน่า
"กลับกันเถอะ ใกล้จะเย็นแล้ว" แจ็คบอกและพาสเลนน่าเดินออกจากป่าไป สเลนน่าสงสัย ทองฟ้ายังไม่มืดเลย เย็นแล้วเหรอ?...
ทั้งสองเดินกลับไปที่ปราสาท แล้วก็เจอกับฮูดดี้ที่รออยู่
"อ้าวฮูดดี้ มาทำอะไรอยู่ตรงนี้" แจ็คถาม
"ฉันมารอสเลนน่า ฉันกับผู้หญิงคนนี้มีธุระที่ต้องจัดการ" ฮูดดี้พูด แจ็คกับสเลนน่ามองหน้ากัน แล้วแจ็คก็เดินเข้าไปกระซิบคุยด้วย
"มีอะไรรึเปล่า" แจ็คกระซิบถาม
"คำสั่งของท่านสเลนเดอร์แมน" พูดเสร็จ ทั้งสามคนก็เดินเข้าไปในปราสาท
แจ็คแยกตัวออกมา เหลือแค่ฮูดดี้กับสเลนน่า
ทั้งสองคนมองหน้ากัน ไม่พูดอะไร สเลนน่าเลยเริ่มพูดก่อน
"...เจย์-"
"ฮูดดี้" ฮูดดี้บอก ให้สเลนน่ารู้ว่านี่คือชื่อที่เธอควรจะใช้เรียกเค้า
"เออ...ฮูดดี้ พวกเราต้องทำอะไรเหรอ?" สเลนน่าถาม ฮูดดี้เดินเข้าไปหาเธอพร้อมกับในมือถือโทรศัพท์ไว้
ฮูดดี้ยื่นโทรศัพท์ให้สเลนน่า เธอรับมาทั้งที่ยังไม่เข้าใจว่าเธอต้องทำอะไร
"ฉันอยากให้เธอโทรไปหาผู้ดูแลของเธอ" ฮูดดี้สั่ง สเลนน่ามองเค้าด้วยความแปลกใจ ฮูดดี้รู้จักกับคุณจินนี่ ผู้ดูแลของสเลนน่า ได้อย่างไร?
"โทรไปหาผู้หญิงคนนั้น โกหกหล่อนว่าเธอไม่เป็นไร" ฮูดดี้อธิบาย
"แต่ทำไม-"
"เพราะครั้งก่อนที่เจ้าพวกเร็คโจมตีกลุ่มที่มาตั้งแคมป์ในป่า ทำให้ตอนนี้ยังมีพวกตำรวจเข้ามาป้วนเปี้ยนในบริเวณใกล้ๆ และคราวนี้เราต้องระงับไม่ให้พวกนั้นขยายพื้นที่ออกสำรวจมากขึ้น ถ้าเป็นอย่างนั้น พวกนั้นก็จะมาถึงที่นี่" ฮูดดี้จับที่ข้อมือสเลนน่าและยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ
"เธอคงไม่อยากให้มีใครต้องตายเพิ่ม ใช่มั้ย..." ฮูดดี้ขู่ ถึงแม้เค้าไม่อยากจะทำ แต่ก็เพื่อให้งานของเค้าง่ายขึ้น แต่สเลนน่าก็เหมือนว่ายังลังเลอยู่ และกลัวสิ่งที่ฮูดดี้พูด
"...ท่านสเลนเดอร์แมนขอมา"
"คุณสเลนเดอร์แมนเหรอ?" สเลนน่าถาม ฮูดดี้กังเกตเห็นว่าความกลัวและความกังวลของสเลนน่าลดลงเมื่อเค้าพูดถึงสเลนเดอร์แมน นั่นแสดงว่าสเลนน่าเริ่มไว้ใจสเลนเดอร์แมนบ้างแล้ว
"ที่นี่เรามีกฎง่ายๆอยู่หนึ่งข้อ ถ้าไม่จำเป็นต้องฆ่า งั้นก็ไม่ต้องฆ่า..." สิ่งที่ฮูดดี้พูดไปไม่ใช่เรื่องจริง เค้าโกหกเพื่อล่อสเลนน่าเท่านั้น แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ใช่ความจริงทั้งหมด คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ส่วนใหญ่ก็ไม่ฆ่าถ้าไม่จำเป็น (ยกเว้นเจฟกับLj.)
"เพาะฉะนั้น...เราหลีกเลี่ยงการนองเลือดได้ เพียงแค่เธอ...โทรไปหาผู้ดูแลของเธอเท่านั้น" ฮูดดี้พูดเสร็จ กดเข้าแอปโทรในโทรศัพท์ให้
สเลนน่าสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วกดเบอร์ของคุณจินนี่ โทรหาเธอ...
"...ฮัลโหล" เสียงคุณจินนี้ดังจากปลายสาย
"ฮัลโหลคุณจินนี่"
"สเลนน่า! ขอบคุณพระเจ้า นู๋อยู่ไหน? นู๋หายไปเกือบสามวัน! ไม่ติดต่อ! ถามมินดา เค้าก็ไม่รู้ว่านู๋หายไปไหน! พวกเราเป็นห่วงมากๆ!" เมื่อคุณจินนี่ได้ยินเสียงสเลนน่า เธอก็พ่นคำถามใส่ทันที
"ขอโทษค่ะ"
"แล้วนี่นู๋หายไปไหน?" คุณจินนี่ถาม สเลนน่าเงียบ มองฮูดดี้ที่ยืนตรงหน้าเธอ ก่อนที่จะตอบกลับไป
"...คือว่า มันอธิบายยากนะคะ"
"ทุกอย่างโอเคมั้ยสเลนน่า?"
"...คือ ตอนนี้นู๋กำลังเดินทางค่ะ" สเลนน่าโกหก เธอไม่อยากเชื้อเลยว่าเธอจะใช้เรื่องที่จะคุยต่อจากนี้เป็นข้ออ้าง
"เดินทาง? นู๋กำลังไปที่ไหน? แล้วทำไมนู๋ถึงไม่บอกไว้ก่อน?"
"ข-ขอโทษค่ะคุณจินนี่ คือนู๋ต้องไปตามหาใครคนนึงนะคะ..."
"หะ? ใคร? สเลนน่า"
"...คุณพ่อค่ะ" พูดเสร็จ ต่างคนต่างเงียบ คุณจินนี่ก็คงจะอึ้งเมื่อได้ยินอย่างนั้น สเลนน่าเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะพูดถึงพ่อ ทั้งที่เธอไม่อยาก แต่เธอนึกข้ออ้างอื่นไม่ออกแล้ว
"...สเลนน่า...นี่นู๋..."
"มันจำเป็นค่ะคุณจินนี่"
"...แล้วนู๋รู้เหรอว่าเค้าอยู่ที่ไหน?" คุณจินนี่ถาม เหมือนเธอยังไม่เชื่อ
"...นู๋หาข้อมูลมาเป็นเดือน แล้วนู๋ก็เจอแล้ว นู๋ต้องไปค่ะ"
"สเลนน่า-"
"นู๋ใช้เวลาคิดอยู่นาน แต่นู๋ตัดสินใจแล้ว คุณจินนี่ก็คงจะเคยสังเกตเห็นใช่มั้ยคะ..." สเลนน่าไม่เปิดโอกาสให้คุณจินนี่พูด เธอต้องทำให้คุณจินนี่วางใจให้ได้
"...เห็นสเลนน่าซึมๆช่วงหลังมานี้ ฉันก็นึกว่านู๋แค่กังวลเรื่องเรียน แต่ไม่คิดเลยว่าจะเป็น...เรื่องคุณพ่อ..." คุณจินนี่พูด ดูเหมือนเธอเริ่มจะเชื่อบ้างแล้ว
"...มันเป็นสิ่งที่ค้างคาใจนู๋มาตลอด เพราะอย่างงั้น นู๋ต้องไป... ไม่ต้องห่วงค่ะคุณจินนี่ นู๋ดูแลตัวเองได้" สเลนน่าพูดไปก็ฝืนยิ้มไป พยายามไม่ให้ฟังเหมือนเศร้า
"...ไม่เคยคิดเลยว่าสเลนน่าจะทำอะไรแบบนี้... แต่ถ้ามันคือสิ่งที่จำเป็นกับนู๋จริงๆ งั้นก็ขอให้โชคดี้จ้ะ" สเลนน่าถอนหายใจเมื่อได้ยินอย่างงั้น แสดงว่าเธอทำให้คุณจินนี่เชื่อเธอแล้ว
"นู๋คงจะไม่กลับไปที่สถานรับเลี้ยงอีกนาน เพราะงั้น..."
"เดี๋ยวฉันจะยื่นเรื่องขอพักการเรียนของนู๋ให้มหาลัยทราบเอง" สเลนน่ากัดฟัน ไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะโกหกผู้ดูและของเธอได้ แต่นี่ก็เพื่อความปลอดภัยของคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ให้พวกเค้าปลอดภัย
"เดินทางและกลับมาอย่างปลอดภัยนะ ฉัน- ไม่สิ ทุกคนเป็นห่วง"
"...นู๋จะกลับไปครบสามสิบสองแน่นอน ไม่ต้องห่วงค่ะ" แล้วสเลนน่าก็วางสายไป...
สเลนน่าคืนโทรศัพท์ให้ฮูดดี้
"ใช้เรื่องพ่อเป็นข้ออ้าง ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะเชื่อด้วย" ฮูดดี้เก็บโทรศัพท์ของเค้าไป เค้าไม่คิดว่าคุณจินนี่จะเชื่อเรื่องที่สเลนน่าพูด
"แต่อย่างน้อย ผู้หญิงคนนั้นก็จะไม่ไปแจ้งตำรวจเรื่องคนหายแล้ว อย่างน้อย...ก็ตอนนี้" ฮูดดี้มองสเลนน่าที่ตอนนี้ทำหน้าเศร้า
"...เธอทำให้ไม่มีคนต้องตายเพิ่ม" ฮูดดี้บอกพร้อมกับจับที่ไหล่ของสเลนน่า เหมือนเป็นการปลอบ
แล้วฮูดดี้ก็พาสเลนน่าไปที่โต๊ะอาหาร นั่งรวมโต๊ะกับคนอื่นๆ ทานอาหารเย็น...
ติดตามตอนต่อไป
สวัสดีทุกๆคนที่ติดตามนิยายเรื่องนี้ เป็นไงกันบ้างพักนี้~ ขอโทษนะที่ไรท์หายไปตั้งเกื่อบ3หรือ4อาทิตย์เลย กลับมาแล้วน่ะ พอดีพักนี้ไรท์ติดเคลียการบ้านน่ะ เลยไม่ค่อยว่าง ที่วันนี้มาลงตอนใหม่ได้คือตอนนี้งานการบ้านเหลือน้อยแล้วน่ะ เป็นกำลังใจส่งหัวใจมาให้บ้างนะ เจอกันตอนหน้าน่ะจ้ะ และถ้าตอนนี้มีคำผิดเยอะก็ขอโทษนะคะ บ้าย~บาย~
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น