ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 1 ตอน เส้นเลือดสีดำ
สวัสดีไรท์เองนะ
ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่จะบอกว่าถ้าเกิดพักนี้มันมีการแจ้งเตือนจากนิยายเรื่องนี้บ่อย ก็ถ้าไม่ใช่การแจ้งเตือนว่าลงนิยายตอนใหม่ ก็ไม่ต้องไปสนใจมากนะคะ แค่ไรท์เข้าไปแก้คำที่ผิดในนิยายตอนก่อนๆเท่านั้นค่ะ โทษที~ ไรท์ผิดเองที่ไม่ดูให้ดีก่อน
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
[ สเลน่า Pov. ]
"...เข้ามาหาฉันสิเด็กน้อย" สเลนเดอร์แมนหันมาหาฉัน ฉันมองเค้าอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะเดินไปหยุดอยู่ข้างๆเตียงเค้า แน่นอนว่าฉันยังกลัวเค้าอยู่...
ฉันสำรวจตัวสเลนดี้ เค้าเหมือนคนไม่มีแรงเลย ฉันสงสัย
"เกิดอะไรขึ้นกับเค้านะ?"
หนวดสีดำที่อยู่ด้านหลังเค้านอนอยู่บนพื้น ไม่ขยับเขยื้อน แต่ก็มีบางเส้นกระตุกบ้าง ฉันก็กล้าๆกลัวๆลองจับหนวดเส้นนึงของเค้า มันลื่นๆ รู้สึกแปลกๆ
จู่ๆหนวดที่ฉันจับนั้น มันก็เลื่อนเข้ามาม้วนจับมือของฉันเอาไว้เบาๆ ฉันพยายามที่จะดึงมือกลับแต่หนวดนั่นก็รัดมือฉันเอาไว้ ดึงฉันให้เดินเข้าไปหาสเลนเดอร์แมน
สเลนเดอร์แมนหันมาหาฉัน หนวดเส้นนึงของเค้าเลื้อยเข้ามาและเอาแว่นของฉันไป
ฉันกำลังจะขอแว่นชองฉันคืน แต่มีอะไรใหญ่ๆมาแตะที่แก้มของฉัน ฉันสัมผัสดูก็พบว่ามันเป็นมือของสเลนเดอร์แมน ฉันรู้สึกกลัวขึ้นมา กลัวว่าเค้าจะจับฉันกินจริงๆ แต่ว่าสเลนดี้ก็ไม่ได้ทำอะไรฉันเลย แค่ลูบที่ใบหน้าของฉันเบาๆก่อนที่จะพูด
"เธอโตขึ้นเยอะเลย..." สเลนเดแร์แมนพูดพร้อมกับละมือออกจากแก้มของฉัน สิ่งที่เค้าบอกทำให้ฉันสงสัย...
"...หมายความว่าไงกันนะ" ฉันคิดในใจ
"...มันหมายความว่า เธอโตเป็นสาวแล้วไง" สิ่งที่สเลนดี้พูดทำให้ฉันถึงกับอึ้ง นี่เค้าอ่านใจคนได้ด้วยเหรอ?
"...คุณ... อ่านใจฉันได้..." ฉันพูดด้วยความแปลกใจ และสเลนเดอร์แมนก็ลูบหัวฉันเบาๆพร้อมกับคืนแว่นให้ฉัน
"ฮะฮะ~ สำหรับเธออาจเป็นเรื่องที่น่าตกใจ แต่สำหรับ...สิ่งมีชีวิตอย่างฉัน มันเป็นเรื่องปกตินะ" สเลนดี้พยายามที่จะเอนตัวลุกขึ้น นั่งบนเตียงแทนนอน แต่ดูเหมือนเค้าจะลุกด้วยตัวเองไม่ได้ ฉันจึงช่วยเค้า แต่ว่า...
"หนักอ่ะ..."
"ถ้าเธอลำบาก เธอไม่ต้องช่วยฉันก็ได้นะ..."
แต่ในที่สุดฉันก็ดันหลังเค้า ให้นั่งบนเตียงได้สำเร็จ
"...ขอบใจ แต่เธอก็รู้ว่าฉันตัวใหญ่ใช่มั้ย?"
"แต่ฉันก็ช่วยคุณได้สำเร็จ..." ฉันห่มผ้าบนตักให้สเลนเดอร์แมน เค้าจะได้ไม่หนาว
"...เธอไม่กลัวฉันเลยเหรอ?" คุณสเลนเดอร์แมนถามฉันด้วยความแปลกใจ ก้มลงมามองที่ฉัน
"...ตอนแรกก็กลัวคุณนะ แต่ดูเหมือน... คุณไม่อยากจะกินฉัน ไม่เหมือนที่เพื่อนของคุณพูดเลย" ฉันยิ้มให้คุณสเลนเดอร์แมน บางที่คุณสเปรนดี้อาจจะพูดจริงก็ได้ เค้าคงไม่ได้ดุร้ายอย่างที่ฉันคิดไว้หรอก
คุณสเลนเดอร์แมนลูบหัวฉันเล่น
พอเค้าทำแบบนี้แล้ว...
ทำไมฉันรู้สึกคุ้นเคยกับมือของเค้านะ...
"...ฉันขอจับมือเล็กๆของเธอได้มั้ย" สเลนเดอร์แมนขอ ฉันยื่นมือไปให้เค้า
ฉันคิดว่าสเลนเดอร์แมนก็แค่อยากจะขอจับมือฉัน
แต่มันกลับไม่ใช่แบบนั้นเลย...
เมื่อฉันยื่นมือไปให้เค้าจับ จู่ๆฉันก็รู้สึกเหมือนตัวเองโดนดึงวูบไป...
พอฉันลืมตาอีกที ทุกอย่างรอบตัวฉันกลับมืดสนิท ฉันมองไปรอบ ไม่เห็นมีอะไร ที่นี่มันที่ไหน? ที่นี่ไม่ใช่ห้องคนไข้ที่ฉันเข้ามากับสเปรนดี้ในตอนแรก แล้วสเลนเดอร์แมนอยู่ไหน ก่อนหน้านี้เค้ายังอยู่กับฉันอยู่เลย
ทั้งห้องมันเงียบอยู่ชั่วขณะ จนกระทั้งมีแสงวิบวับส่องสว่างขึ้นมา มันส่องแสงระยิบระยับ เรียกร้องความสนใจจากฉันได้เป็นอย่างดี
ฉันเดินเข้าไปหาแสงนั่นอย่างช้าๆ ในขณะเดียวกันแสงสว่างตรงหน้าฉันก็ค่อยๆลิบหลี่ลงจนฉันสามารมองมันเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันคืออะไร และพบว่ามันเป็นลูกแก้วอะไรบางอย่าง
ฉันเดินเข้าไปดูลูกแก้วนั้นใกล้ๆ แต่ลูกแก้วนั้นกลับลอยเข้ามาหาฉันอย่างช้าๆ ลอยมาอยู่ในมือของฉัน
ฉันสังเกตเห็นว่าในลูกแก้วมีภาพเคลื่อนไหวอะไรบางอย่าง ฉันลองมองดีๆและก็ต้องอึ้ง เพราะภาพที่ลูกแก้วมันแสดงให้เห็นมันเป็นฉันในตอนวัยเด็กที่กำลังเดินเล่นอยู่กับครอบครัว (ถ้าใครนึกภาพไม่ออก ให้นึกถึงหนัง Inside out ค่ะ)
"แม่คะ พ่อคะ ดูสิ นั่นลูกโป่ง!" ฉันในตอนเด็กชี้ไปที่ๆขายลูกโป่งหลากสี
ฉันจำตอนนี้ได้ มันคือตอนที่พ่อกับแม่พาฉันไปเที่ยวสวนสนุก
"ลูกอยากได้เหรอ?" คุณพ่อถามและชี้ไปที่ลูกโป่งที่ฉันอยากได้
"หนูอยากได้ หนูอยากได้ หนูอยากได้!" ฉันในตอนเด็กกระโดดเล่นไปมา ชี้ไปที่ลูกโป่งที่อยากได้
ฉันมองความทรงจำในลูกแก้วแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม เรื่องราวในอดีตก็มีเรื่องดีเหมือนกันสินะ...
ฉันละสายตาจากลูกแก้ว ฉันว่าฉันควรที่จะหาทางออก
ฉันมองไปรอบๆ ฉันใช้แสงสว่างจากลูกแก้วเป็นแสงนำทาง เผื่อบางที่ฉันอาจจะเดินไปเจอทางที่พาไปทางออกก็ได้
ข้างหน้าฉันมีลูกแก้วอีกลูกนึง ฉันเดินเข้าไปดู ลูกนี้แสดงภาพเหตุการณ์เช่นกัน แต่คนละเวลา
เหตุการณ์ตอนที่ฉันได้เจอกับลินดา เพื่อนคนแรกของฉันในชีวิตมหาลัย
"สวัสดีฉันชื่อลินดานะ ยินดีที่ได้รู้จัก" ลินดาสวัสดีทักทายฉัน
"ส-สวัสดี ฉันสเลนน่า" ตัวฉันทักทายกลับ
ฉันจำตอนนี้ได้ นี่มันตอนที่ฉันเจอกับมิดาครั้งแรกที่ฉันมาเรียนที่มหาวิทยาลัยใหม่ แล้วหลังจากนั้นเป็นต้นมา เราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาโดยตลอด เวลาที่ฉันมีปัญหาหรือฉันโดนพวกคโลอี้บูลี่ มินดาจะเป็นคนที่จะเค้ามาช่วยฉันเสมอ
อยู่ๆรอบตัวฉันก็มีลูกแก้วแสงสว่างขึ้นมาอีกหลายจุด ฉันเดินดูผ่านๆ ลูกแก้วทั้งหมดนี้... มันคือ... ความทรงจำของฉันเหรอ?
ฉันเดินไปต่อ สายตาฉันไปสดุดกับลูกแก้วลูกนึงที่ดูแตกต่างจากลูกแก้วอื่นๆ
ฉันเดินไปหยิบมันมาดู เห็นว่าข้างในลูกแก้วคือรูปภาพครอบครัวของฉัน มันเป็นรูปที่ฉันเคยถ่ายกับคุณพ่อและคุณแม่ตอนเด็ก
ตอนแรกฉันก็ไม่ได้เอะใจอะไรจนกระทั้งฉันเห็นว่ามันมีรอย เหมือนรอยขีดเขียนบนรูป แต่พอฉันกระพริบตาอีกที รอยนั้นก็หายไปแล้ว ฉันขยี้ตาตัวเอง นี่ฉันตาฟาดรึเปล่า?
แต่แล้วเรื่องประหลาดก็เกิดขึ้น ลูกแก้วความทรงจำมากมายไม่ส่องแสงเหมือนก่อนหน้านี้ ทั้งหมดล่วงลงสู่พื้น แตกเป็นเสี่ยงๆ
ฉันตกใจกลัว ฉันรีบวิ่งหนีไปพร้อมกับลูกแก้วภาพครอบครัวในมือ
"เกิดอะไรขึ้นอีกละเนี่ย!"
ฉันเผลอวิ่งไปสดุดกับลูกแก้วที่กลิ้งมาทางฉันพอดี ฉันล้มลงไปกับพื้น โดนมรสุมลูกแก้วที่ล่วงตกลงมาแตกบนพื้นเป็นเสี่ยงๆ ฉันได้แต่ขดตัวงอ กอดลูกแก้วในมือไว้ กลัวเหลือเกินว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ...
เวลาผ่านไปไม่นาน เหมือนรอบๆตอนนี้จะเงียบแล้ว ฉันลุกขึ้นอย่างระมัดระวัง รอบๆฉันก็มีแต่เศษลูกแก้วที่แตกเต็มไปหมด ฉันค่อยๆเดินไป พยายามที่จะไม่เหยียบเศษแก้วพวกนี้
ฉันมองลูกแก้วในมืออีกครั้ง มันยังเป็นรูปภาพครอบครัวฉันเหมือนเดิม
แต่คราวนี้รูปมีรอยขีดเขียนอย่างชัดเจน
ฉันยังไม่ทันได้สังเกตรูปภาพนั้นดีๆ ลูกแก้วในมือฉันดันแตกหักออกจากกัน แล้วก็มีหนวดหมึกสีดำพุ่งเข้ามาและจับรวบที่หัวของฉัน
ฉันรู้สึกเหมือนร่างของตัวเองกำลังลอยอยู่ พร้อมกับภาพความทรงจำมากมายในวัยเด็กของฉันกับครอบครัวกำลังแล่นเข้ามาในหัวของฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกปวดหัวมากๆ และฉันก็สลบไปเพราะทนต่อแรงกดดันที่ปะทุในหัวไม่ได้
แต่ก่อนที่ฉันจะสลบไป ภาพสุดท้ายที่ปรากฏในหัวฉัน มันคือภาพเดียวกันที่โดนขีดเขียน เหมือนในลูกแก้ว
พ่อของฉันโดนเขียนเติม เหมือนปีศาจ...
แม่ของฉันโดนขีดระบายหน้าจนไม่เหลือ...
และสุดท้าย ฉัน ที่ไม่โดนขีดเขียนอะไรใดๆทั้งสิ้น...
"หะ!" ฉันลืมตาขึ้น พบว่าตัวเองถูกอุ้มไว้ด้วยมือหนาทั้งสองข้างของสเลนเดอร์แมนที่กำลังมองลงมาที่ฉัน เค้าวางฉันลงบนเตียง ฉันยังมึนๆกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้อยู่ มันคืออะไรกัน ภาพทั้งหมดนั้นที่แล่นเข่ามาในหัวฉัน?
ฉันยิ่งคิดก็ยิงปวดหัว กำลังจะยกมือมาพาดที่หน้าผาก แต่ก็ต้องชงักเมื่อฉันเห็นบางอย่างบนมือฉันที่ทำให้ฉันถึงกับต้องตาค้าง...
มือของฉันมีรอยเส้นเลือดสีดำปรากฏขึ้นบนมือทั้งสองข้าง ฉันมองภาพตรงหน้าอย่างหวาดกลัว มันเกิอะไรขึ้นกับฉัน? สเลนเดอร์แมนทำอะไรกับฉัน?
ฉันที่กำลังกระวนกระวาย สเลนเดอร์แมนลูบหลังฉันเหมือนกำลังปลอบฉันอยู่
"ไม่ต้องห่วงน-อะ!" ขณะที่สเลนเดอร์แมนกำลังพูดอยู่ เค้าก็ทรงตัวไม่ได้และล้มลงไปนอนกับพื้นทันที
"ค-คุณสเลนเดอร์แมน!" ฉันตะโกนเรียก รีบลุกจากเตียงและย่อตัวลงไปดูอาการของสเลนเดอร์แมน ฉันเขย่าตัวและเรียกชื่อเค้าหลายๆครั้ง แต่เค้าก็ไม่ตอบกลับ ไม่นานก็มีคนเปิดประตูเข้ามา
"เกิดอะไรขึ้น! ฉันได้ยินเสียงตะโกนชื่อพี่ชายฉันมาจากห้อง-" เป็นคุณสเปรนดี้ที่เปิดประตูเข้ามา กำลังเอ่ยปากถาม แต่ก็ต้องชงักเมื่อเห็นร่างของพี่ชายของเค้านอนอยู่บนพื้นแน่นิ่ง ไม่ขยับเขยื้อน
คุณสเปรนดี้ไม่รอช้า รีบเดินเข้ามาประคองพี่ชายของเค้า พามานอนที่เตียงเหมือนเดิม
"พี่ชาย! ไม่เป็นไรแล้วนะ ฉันอยู่นี่แล้ว!" คุณสเปรนดี้จัดการห่มผ้าให้พี่ชายของเค้าเรียบร้อย แต่ดูเหมือนว่าสเลนดี้จะไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆทั้งสิ้น เหมือนกับเค้าจะหลับไปแล้ว
"..." คุณสเปรนดี้เงียบอยู่แป๊บนึง ก่อนที่จะหันกลับมามองฉัน
"มาเถอะ พี่ชายฉันหลับไปแล้ว..." คุณสเปรนดี้เดินมาหาฉัน วางมือของเค้าบนไหล่ พาฉันเดินออกจากห้องไป
แต่ก่อนที่ฉันจะเดินออกไป ฉันหันกลับไปมองคูณสเลนเดอร์แมน และมองที่มือตัวเองที่มีเส้นเลือดสีดำ
คุณสเลนเดอร์แมนคงไม่ได้สาปหรือทำอะไรฉันใช่มั้ย...
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
[ 3rd. Person Pov. ]
หลังจากที่สเปรนดี้พาสเลนน่าออกมาจากห้องที่สเลนเดอร์แมนอยู่ เธอก็เจอกับเหล่า Creepypasta คนๆอื่นที่นั่งรออยู่ข้างนอกห้อง ไม่ไปไหน
เธอรู้สึกกลัวเลยรีบเดินหนีไปหลบหลังสเปรนดี้
"โถ่เอ้ย~ ฉันนึกว่าสเลนเดอร์แมนกินยัยนี้ไปแล้วสะอีก" เจฟที่ยังนั่งไขว้ขาบนโต๊ะพูดขึ้น ทำให้สเลนน่ายิ่งกลัวพวกเค้ากว่าเดิม โดยเฉพาะเจฟเป็นพิเศษ เธอมองไปรอบๆว่ายังมีใครอยู่อีกมั้ย สายตาของเธอไปหยุดอยู่ที่พร็อกซี้ที่ก็กำลังมองมาที่เธอ เธอรีบหันหน้าหนีพวกเค้า
"ไม่เอาน่าเจฟ แล้วสเลนเดอร์แมนเค้าเป็นยังไงบ้างครับ" แจ็คถาม มองไปที่สเลนน่าที่ยังคงยืนหลบอยู่หลังสเปรนดี้ แต่ก็มีแอบมองพวกเค้าบ้าง
"คือ... เค้าหลับไปแล้วนะตอนนี้..."
"ยังไงก็ตาม สเลนน่า..." สเปรนดี้เรียก สเลนน่าเพียงแค่เงยหน้ามองเค้า
"ฉันรู้ว่าเธอคงจะไม่ชอบสิ่งที่ฉันจะพูดต่อจากนี้ แต่... จะเป็นอะไรมั้ยถ้าฉันอยากจะให้เธออยู่ที่นี่ต่อ-"
"หะ!" สเปรนดี้ยังไม่ทันได้พูดเสร็จ คนอื่นๆก็ตะโกนขึ้นมา ยกเว้นแค่เจนที่รู้สึกอึ้งเล็กน้อย และพวกพร๊อกซี้เองก็พอเดาได้ว่าทำไม ส่วนสเลนน่าที่ตามสถานการณ์ไม่ทันก็ได้แต่ยืนงง ไม่เข้าใจที่เค้าพูด
"คุณล้อเล่นใช่มั้ยคุณสเปรนดี้ ที่จะให้เธอมาอยู่ที่นี่น่ะ" แจ็คถามด้วยความแปลกใจ
"ขอโทษด้วยนะแจ็ค และทุกคน แต่ฉันได้ตัดสินใจแล้ว..." สเปรนดี้บอกและดันสเลนน่าออกมาจากที่ซ่อนของเธอ ออกมาพบกับคนอื่นๆ
"ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมพี่ชายฉันอยากจะเจอเธอ ถึงขั้นที่ต้องให้พวกพร็อกซี้ไปลักพาตัวเธอมา ทั้งที่พี่ชายฉันก็ไม่ได้คิดที่จะทำร้ายเธอเลย..." สเปรนดี้ลูบหัวสเลนน่าเบาๆ แต่เธอเองก็ยังคงแสดงสีหน้าเชิงบอกว่า 'ไม่เอาแบบนี้สิ'
"ฉันไม่ห่วงเรื่องที่คุณจะให้เธออยู่ที่นี่หรอกนะ แต่มันเป็นเรื่องที่ว่า..." เจนหันไปทางเจฟ เจฟเองที่รู้ว่าที่เจนพูดหมายถึงอะไร แล้วชูนิ่วกลางใส่
"โอ้ว!ไม่ต้องมามองฉันเลยอีเจ้หน้าแก่" เจฟลุกจากเก้าอี้แล้วเดินออกจากห้องไป
"หึ! ใอเจ้าโรคจิต" พูดเสร็จ เจนเดินไปหาสเปรนดี้ แล้วจับมือสเลนน่าไว้
"ถ้าคุณจะให้เธออยู่ที่นี้ งั้นฉันขอให้เธออยู่กับฉันค่ะคุณสเปรนดี้" เจนขอ สเปรนดี้คิดก่อนที่จะตอบกลับ
"...ถ้าเธอต้องการแบบนั้น ฉันก็อนุญาต แต่...ทำไม" สเปรนดี้ถามกลับบ้าง
"ไม่ต้องห่วงว่าฉันจะทำร้ายเธอหรอกค่ะ ฉันแค่ไม่ไว้ใจพวกผู้ชาย โดยเฉพาะใอเจ้าปากฉีกและเจ้าพวกสามหน่อนี่" เจนบอกแล้วจูงมือสเลนน่า เดินออกจากห้องไป ตรงไปที่ห้องส่วนตัวของเธอ
"...ไม่ได้เข้าข้างนะ แต่ฉันว่าเจนพูดถูก" แจ๊คบอกและลุกจากโต๊ะ เดินออกจากห้องไปอีกคน
"แมสกี้ ฮูดดี้ และโทบี้ หลังจากพรุ่งนี้เป็นต้นไป ฉันต้องเดินทางกลับไปหากลุ่มของฉัน หลังจากนั้น ความมีอิทธิพล อำนาจในที่แห่งนี้จะเป็นของพวกเธอสามคน แต่พวกเธอก็ยังต้องฟังทำตามที่พี่ชายฉันบอก เข้าใจนะ" สเปรนดี้พูด มองไปที่ทั้งสามคน
"เราจะดูแลทุกคนที่อยู่ที่นี่เอง ไม่ต้องห่วงครับคุณสเปรนดี้ โดยเฉพาะสเลนน่า ผมจะดูแลอย่างดี~" แมสกี้รับปาก
"...และที่สำคัญกว่านั้น ห้ามให้เด็กคนนั้นเป็นอะไรไปหรือถูกฆ่าเด็ดขาด ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมก็รายงานมาให้ฉันหมดเลย" สเปรนดี้พูดเสร็จและเดินจากไป
"ครับท่าน" ทั้งสามพร็อกซี้รับทราบ กำลังจะเดินกลับไปที่ห้องของพวกเค้า แต่เบ็นก็เข้ามาคุยด้วยก่อน
"พวกนายโชคดีชะมัด หลังจากพรุ่งนี้เป็นต้นไป พวกนายก็สั่งฉันกับคนอื่นๆได้เต็มที่เลยสิ เหมือนเป็นนายของปราสาทเลย ฮะฮะ~" เบนพูดในขณะที่ตัวเค้าเองก็ลอยไปมาอยู่เหนือพื้น
"ฮาฮา~ พ-พวกนายด-โดนฉ-ฉันเล่นแน่~" โทบี้พูดท้าทายเบ็น แล้วเดินจากไป
"เหอะ- แค่โทบี้คนเดียว ฉันรับมือสบายๆ~" เบ็นท้าโทบี้กลับ
"แล้วพวกนายจะทำยังไงกับผู้หญิงคนนั้นต่อละ~" เบ็นถาม หันไปหาแมสกี้กับฮูดดี้
"...ไว้ทีหลังละกัน~" แมสกี้บอก ยิ้มมุมปากอย่างคิดร้ายและเดินจากไป ตามมาด้วยฮูดดี้ไปที่ห้องของพวกเค้า ส่วนเบ็นก็บินทะลุเข้าไปในทีวี
แล้วไม่นานไฟในตัวประสาทแห่งนี้ก็มืดลง ดับสนิท...
ติดตามตอนต่อไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น