ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Creepypasta นางฟ้าแห่งความตาย [Proxies x oc]

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 1 ตอน ชตากรรมของเหยื่อ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 615
      49
      5 ส.ค. 66

    [ สเลน่า Pov. ]

         "...มีคนกำลังแอบมองพวกเราอยู่"

         แย่แล้ว...
         
         ทิมกับไบรอั้นเริ่มเดินไปทั่วห้อง ดูใต้โต๊ะหรือหลังสิ่งกีดขวางในห้อง

         "ขอร้องล่ะ อย่าหาฉันเจอเลยนะ..." ฉันได้แต้ภาวนาให้พวกเค้ารีบออกไปจากห้องเร็วๆ

         "หืม~" ทิมหันมาทางตู้ที่ฉันแอบอยู่ เค้าเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าตู้และค่อยๆยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ เหมือนเค้าพยายามาที่จะส่องดูข้างใน ฉันรีบปิดปากตัวเองเพื่อไม่ให้เสียงหายใจของฉันมันเล็ดลอดออกไปให้เค้าได้ยิน และถอยห่างจากประตู
     
         "...นี่ไบรอั้น" ฉันกลัวจนหลับตาปี๋ มือที่ปิดปากตัวเองไว้ก็เริ่มสั่น

         "หะ?มีไร?" เสียงไบรอั้นถาม

         "..."

         "...นายเอาศพที่อยู่ในตู้นี่ไปทิ้งรึยัง" ทิมถาม

         "ทิ้งแล้ว ทำไมเหรอ?" ไบรอั้นตอบ กำลังจะเดินขึ้นบันไดไป

         "ปล่าว... ก็แค่..." ทิมเดินจากไป ฉันส่องดูก็ไม่เห็นเค้าอยู่แล้ว และในห้องก็เงียบไป

         ฉันถอนหายใจ รอดแล้วสินะ-

         'เสียงประตูตู้ถูกเปิด!'

         ตัวฉันสดุ้งเฮือกเมื่อประตูตู้ที่ฉันซ่อนอยู่ถูกเปิดออก!

         "ก็เพราะมันเหมาะสำหรับที่จะซ้อนตัวไงละไบรอั้น!" ฉันเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นทิมโผล่มาตรงหน้า ถึงแม้เค้าจะใส่หน้ากากปิดหน้าของเค้าไว้ แต่ฉันก็รู้ได้ว่าเค้ากำลังสแยะยิ้มอย่างชั่วร้ายอยู่หลังหน้ากากนั่น

         "มานี่~" ทิมพูดพร้อมกับจับที่ข้อมือฉันแน่น ดึงฉันออกมาจากตู้ มือข้างนึงของเค้าจับที่คางฉันให้เงยหน้ามองเค้า

         ฉันใจเต้นแรง กลัวมากๆ ฉันพยายามที่จะผลักเค้าออกไปแต่ก็ไม่เป็นผล เค้ามีแรงเยอะกว่าฉัน

         "ดูสิว่าใครเอ่ย~" ทิมพูดเสียงเจ้าเล่ห์ ฉันดิ้นสุดแรง เอาเท้าเตะเค้าบ้าง แต่ทิมก็ไม่เป็นไรเลย

         "เธอนี่มันดื้อจริงๆ~" ทิมกระซิบที่ข้างหู ทำให้ฉันรู้สึกขนลุก เมื่อได้จังหวะฉันรีบผลักเค้าด้วยแรงทั้งหมดที่มีและรีบวิ่งหนีไปขึ้นบันได

         วิ่งไปถึงข้างบนก็เจอไบรอั้นดักรออยู่

         "ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าห้ามเข้าห้องนี่น่ะ" ไบรอั้นพูดด้วยเสียงเรียบและพยายามจะจับฉัน แต่ฉันก็รีบหลบ คลานหนีไปทางอื่น แล้วลุกขึ้นวิ่งหนีพวกเค้าขึ้นไปบนห้อง

         ฉันวิ่งเข้าไปในห้องปิดประตู ล็อคกลอน ฉันเห็นตู้ใบใหญ่เลยรีบไปดันมันมาขวางประตู ในขณะเดียวกันฉันก็ได้ยินเสียงตะโกนดังมาจากอีกฝั่ง

         "สเลนน่า เปิดประตู!"

         "ไบรอั้น หลีกไป ฉันจะจัดการเอง" สิ้นเสียงพูดก็มีเสียงดังโครมตามมา เหมือนอีกฝั่งพยายามที่จะพังประตูเข้ามา ฉันถอยห่างและมองไปรอบๆห้อง หาทางหนี

         "ฉันต้องรีบออกไปจากที่นี่!"



    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    *เพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อเรื่องในตอนนี้นะค่ะ

         ตอไปนี้ตัวละคร ทิม กับ ไบรอั้น จะถูกเรียกเป็นชื่ออีกชื่อนึงแทนค่ะ)

         ทิม          = แมสกี้

         ไบรอั้น     = ฮูดดี้

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    [ 3rd. Person Pov. ]

         เสียงดังโครมครามมาจากอีกฝั่งของประตู เหมือนคนข้างนอกกำลังจะพังประตูเข้ามา ทำให้สเลนน่ายิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้น เธอนึกไม่ออกจริงๆว่าพวกเค้าจะทำอะไรกับเธอถ้าพวกเค้าเข้ามาถึงตัวเธอได้

         สเลนน่ามองไปรอบๆห้อง พยายามหาของมาป้องกันตัวเอง เธอค้นของดูก็เจอไฟฉายหนึ่งกระบอก เธอลองเปิดดูและมันก็ใช้ได้

         เธอเห็นหน้าต่างในห้องบานหนึ่งแล้วรีบเร่งฝีเท้าไปตรงนั้น สเลนน่าเห็นว่ามันไม่ได้ล็อคไว้เธอจึงออกแรงดันหน้าต่างที่สนิมขึ้น เมื่อเปิดได้เธอก็ค่อยๆปีนออกไปทางหน้าต่าง ค่อยๆเดินทีละก้าวอย่างระมัดระวัง

         "สเลนน่า เปิดประตูเดี๋ยวนี้!" เสียงฮูดดี้ตะโกนมาจากอีกฝั่ง

         เธอไม่รอช้ารีบปีนลงจากชั้นสองของบ้าน เมื่อลงมาถึงพื้นอย่างปลอดภัยเธอก็เปิดไฟฉายแล้ววิ่งหนีออกจากที่นั้น

         สเลนน่าที่กำลังวิ่งหนีไปจากบ้านหลังนั้น เธอวิ่งผ่านรถกระบะคันหนึ่งที่ถูกจอดทิ้งไว้ให้ตากฝนอยู่ข้างนอกบ้าน เธอเห็นรถคันนั้นก็คิดในใจ อยากจะขับรถหนี แต่เธอขับรถไม่เป็น เธอปัดความคิดทิ้งแล้ววิ่งหนีต่อ

         'เสียงกระจกรถแตก'

         "กรี๊ด!"

         ในตอนนั้นเองก็มีเสียงกระจกแตกดังขึ้นใกล้ๆ ทำให้สเลนน่าตกใจมากๆ แล้วรีบลงไปคุกเข่าที่พื้น เอามือกุมหัวไว้ เธอหันไปมองก็เห็นรถคันที่เธอวิ่งผ่าน กระจกหน้ารถมันแตกเป็นเสี่ยงๆ และมีขวานหนึ่งด้ามที่ปักโด่อยู่ตรงหน้ารถ

         เธอหันกลับไปที่บ้านก็เห็นคนยืนอยู่หน้าบ้าน

         เค้าสวมฮูดคลุมหัว  ใส่แว่นคลอบตาสีส้ม และใส่ผ้าปิดปาก

         สเลนน่าแยกไม่ออกว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่ก็ไม่ทันที่จะได้คิด สายตาของเธอก็ไปหยุดอยู่ที่มือข้างหนึ่งของเค้าที่ถือขวานไว้ สเลนน่ารู้ทันทีว่าเจ้าของขวานที่ปักอยู่หน้ารถคือใคร

         เมื่อเห็นท่าทีของเค้าเหมือนกำลังจะปาขวานอีกด้าม สเลนน่าก็ถึงกับจิตตก จุดที่เค้าเล็งไว้คือหัวเธอแน่นอนคราวนี้ เธอไม่คิดอะไรมากรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีเข้าไปในป่าพร้อมกับไฟฉายหนึ่งกระบอก

         "โทบี้ นี่แกทำบ้าอะไรของแกหะ!แมสกี้วิ่งออกมาแล้วตวาดใส่ชายหนุ่มที่ชื่อว่าโทบี้ เค้าวางขวานลงและหันไปทางแมสกี้

         "โทบี้! ถ้ารถฉันเป็นอะไรขึ้นมา แกโดนแน่!" แมสกี้ดึงคอเสื้อโทบี้

         "แต่เราข-ขโมยร-รถนี้มาไม่ช-ใช่เหรอ? เราห-หาใหม่ก-ก็ได้นิ" โทบี้บอก

         "โทบี้..." แมสกี้กัดฟัน และกำลังจะกำหมัดชก แต่ฮูดดี้ก็เข้ามาห้าม

         "โทบี้ ผู้หญิงละ?" ฮูดดี้เดินเข้ามาแทรกทั้งสองแล้วถามถึงสเลนน่า โทบี้ชี้ไปทางป่าที่สเลนน่าวิ่งไป

         "หนีเข้าไปในป่าสินะ" ฮูดดี้มองเข้าไปในป่าลึกที่มืดมิด

         "...ฮึ-555~ ดูเหมือนว่าเราจะได้เล่นเกมไล่จับกับเธอแล้วสิ มาเถอะ... ไปเตรียมตัวให้พร้อม เราจะไปตามล่าเธอกัน" แมสกี้บอก ทั้งสามจึงเข้าไปในบ้าน เตรียมของที่จำเป็นสำหรับพวกเค้าใส่กระเป๋า

         เมื่อเตรียมตัวเสร็จทั้งสามคนก็เดินออกมาจากบ้าน แมสกี้เดินนำหน้าทุกคนไป ตามมาด้วยฮูดดี้ และโทบี้เดินไปที่หน้ารถแล้วดึงขวานของเค้าออกมาเก็บไว้ที่ตัวเหมือนเดิม แล้วเดินตามอีกสองคนไป

         "ฉันว่าเราควรรีบนะ ในป่าเราไม่รู้ว่าจะมีพวกมันอยู่รึเปล่า" ฮูดดี้บอกและเตรียมปืนของเค้า

         "มันนี่ ม-มันไหน?" โทบี้ถาม

         "Rake โทบี้ เจ้าพวกตัวประหลาด Rake ที่อยู่ในป่า รอคอยให้คนหลงเข้ามาและจับพวกนั้นกิน" ฮูดดี้บอก ส่วนโทบี้ก็เตรียมขวานของเค้าไว้ในมือ แมสกี้เองก็เตรียมแท่งเหล็กของเค้า พร้อมที่จะฟาดใส่หัวพวกมันเพื่อความสะใจ...

         "เป็นเพราะพวกมันแท้ๆ เลยมีข่าวสะได้" แมสกี้พูดและเหวี่ยงแท่งเหล็กเล่น

         "ล่าสุดมันพึ่งจะฆ่ากลุ่มวัยรุ่นที่มาตั้งแคมป์ในป่าไป แล้วเป็นข่าวใหญ่โต แล่วเราก็ต้องไปเก็บกวาดงานให้พวกมัน ถ้าเจอพวกมันสักตัว ฉันจะขอหยุมหัวมันสักหน่อย..."

         แล้วไม่นาน..ทั้งสามก็เดินหายเข้าไปในป่าลึกมี่มืดมิด ทั้งฝนตกหนัก และเสียงฟ้าผ่าเป็นระยะดังไปทั่วป่าแห่งนี้...



         สเลนน่าวิ่งและส่องไฟฉายไปตามทาง พยายามที่จะหาออกจากป่าแห่งนี้ แต่ก็คงไม่ง่าย เธอคิดได้แค่ว่าเธอควรที่จะวิ่งเป็นเส้นตรง คงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับเธอ

         สเลนน่าวิ่งไปเรื่อยๆไม่สนแม้แต่ว่าตอนนี้ฝนเริ่มที่จะตกหนักขึ้น และรอบๆก็มืดมากๆ แสงจากไฟฉายก็ไม่ได้สว่างมากนัก แต่ก็ดีกว่าไม่มีแสงสว่างติดตัวเลย

         สเลนน่าวิ่งออกมาก็เจอบริเวณลานกว้างที่ไม่มีต้นไม้บดบังท้องฟ้าทำให้บริเวณแห่งนี้ดูสว่างขึ้นมาบ้าง เธอรู้สึกดีใจเล็กน้อยที่ได้เห็นท้องฟ้าเต็มตา ถึงแม้ว่าฝนยังตกอยู่ก็ตาม

         สเลนน่าเดินมาหยุดอยู่ตรงต้นไม้ต้นหนึ่งเพื่อหยุดพักหายใจ เธอนั่งลงที่พื้นดินแล้วมองไปรอบๆ ดูเหมือนว่าตอนนี้ที่นี่จะมีแค่เธอคนเดียว ชายสามคนนั้นคงไม่ตามมาแล้ว...

         สเลนน่าถอนหายใจและข่มตาลง เธอรู้สึกเหนื่อยมากๆ

         สเลนน่านึกถึงเจย์(ฮูดดี้) ชายหนุ่มที่ช่วยเธอไว้ เธอนึกถึงร้อยยิ้มของเค้า รอยยิ้มที่แสดงถึงความเป็นมิตรของเค้า... แต่รอยยิ้มนั้นก็คงจะเป็นแค่การแสดงตบตาเธอเท่านั้น...

         'เสียงขู่'

         สเลนน่ารีบลืมตาด้วยความตื่นกลัวแล้วรีบฉายไฟไปรอบๆเพื่อหาต้นตอเสียงที่เธอได้ยิน

         เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วก็ไปสดุดที่พุ่มไม้พุ่มหนึ่งที่อยู่ๆมันก็ขยับเองเหมือนมีตัวอะไรสักอย่างซ่อนอยู่หลังพุ่มไม้

         เธอตั้งสติและลุกขึ้น รีบวิ่งออกจากตรงนั้นทันที

         'เสียงคำราม'

         ไม่นาน เจ้าสิ่งนั้นที่ซ้อนอยู่ในพุ่มไม้ก็วิ่งออกมาด้วยความเร็วและวิ่งตามสเลนน่าไปติดๆ

         สเลนน่าได้ยินเสียงฝีเท้ากำลังวิ่งตามไล่หลังเธอมา เธอหันกลับไปมองก็เจอมัน!

         มันมีหน้าตาคล้ายคนอยู่บ้าง แต่ทั้งตัวมันผอมแห้งจนเห็นกระดูก มีเล็บที่ยาวและแหลม มีน่าตาที่น่ากลัว ทั้งตาโต มีฝันที่แหลม และมันกำลังวิ่งตามหลังสเลนน่าไม่หยุด ทำให้เธอต้องรีบเร่งฝีเท้าตัวเอง วิ่งหนีต่อไป

         "เห้อๆ! ว-วันนี้มันอะไรกันเนี้ย ตอนแรกก็เจอกลุ่มคนบ้าที่จะฆ่าฉัน และคราวนี้ก็มีตัวประหลาดมาวิ่งไล่ตามฉันอีก!"

         สเลนน่าวิ่งไปเรื่อยๆจนไปถึงตรงที่มีสะพานข้ามเหวลึก

         สเลนน่ามองสะพานนั้น รู้สึกไม่ไว้ใจ สะพานนั้นดูเก่าพอสมควร

         ถ้าสเลนน่าวิ่งไปแล้วสะพานเกิดพังขึ้นมาก็เท่ากับเธอดิ่งลงสู่เหวทันที แต่เธอก็ต้องหนีเจ้าตัวประหลาดที่กำลังจะวิ่งมาถึงเธอ

         สเลนน่าตัดสินใจได้แล้วรีบวิ่งข้ามสะพานไม้ไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ความซวยก็เกิดขึ้น เมื่อมีแผ่นไม้แผ่นหนึ่งหักตอนที่เธอวิ่งไปถึง ทำให้เธอถึงกับทรุดลงไปกับสะพาน ไฟฉายหลุดมือล่วงลงไปในเหวในพริบตา

         สเลนน่ารีบตั้งสติแล้วลุกขึ้น วิ่งไปต่อจนข้ามสพานไปได้สำเร็จ

         สเลนน่าวิ่งต่อไปเรื่อยๆ แต่เธอก็ต้องหยุดเมื่อเธอวิ่งมาสุดทาง และเจอกับหน้าผาที่ข้างล่างนั้นเป็นเหวลึกอีก

         เธอคิดจะหันหลังกลับแต่ก็ต้องเผชิญกับเจ้าตัวประหลาดที่ตอนนี้มันมาอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว...

         "ไม่เอาแบบนี้สิ!" สเลนน่าตัวสั่นกลัว เจ้าตัวประหลาดนั่นเดินเข้ามาหาเธออย่างช้าๆ เธอทำได้แต่ถอยหลังหนี แต่ข้างหลังเธอก็เป็นเหว

         "ย-อย่า! กรี๊ด!" สเลนน่าเดินถอยหลังไปเยอะเกินจนตัวเธอหงายหลังตกลงไป แต่โชคดีที่เธอคว้ารากไม้อันใหญ่ที่แข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักตัวเธอไว้ได้ทัน แต่ตัวเธอก็ต้องห้อยอยู่อย่างนั้น ไม่รู้ว่าจะยื้อไว้ได้นานขนาดไหน เธอก็ไม่ได้แข็งแรงมาก

         ในตอนนั้นเธอนึกถึงเจย์ เธออยากให้เค้ามาอยู่ที่นี่ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้เลย!

         "เจย์! ช่วยด้วย"

         'เสียงทุบตี'

         "หะ?" สเลนน่ารีบเงยหน้าขึ้นไปมองแต่ก็ไม่เห็นอะไร เมื่อกี้เธอได้ยินเสียงทุบตีอะไรบางอย่างจากด้านบน มีเสียงเดินเข้ามาใกล้เธอ เธอหวังให้เป็นคนดีที่ผ่านมาช่วยเธอ แต่ความหวังนั้นก็เหมือนโดนลมพัดหายไปทันทีเมื่อคนที่โผล่มาคือโทบี้

         โทบี้เอื้อมมือลงมาจับมือเธอไว้ สเลนน่าเองก็แสดงสีหน้าออกชัดเจนว่าเธอไม่ได้หวังอยากให้เป็นเค้าที่มาช่วยหลังจากที่เค้าพยายามจะฆ่าเธอในตอนนั้น แต่ก็ไม่มีทางเลือก เธอจึงปล่อยให้โทบี้ดึงเธอขึ้นไปโดยไม่ขัดขืน

         "โทบี้! นายทำบ้าอะไรของนายอีก" แมสกี้เดินมาดูว่าโทบี้กำลังทำอะไร แล้วเห็นสเลนน่า

         "โอ้ว~ ดูสิว่าใครเอ่ย~" แมสกี้ช่วยโทบี้ดึงตัวสเลนน่าขึ้นมาได้สำเร็จ

         เมื่อสเลนน่าขึ้นมาถึงก็เห็นเจ้าตัวประหลาดที่ไล่ตามเธอก่อนหน้านี้ ตอนนี้อยู่ในสภาพที่หัวของมันเละ และมีเหลือดไหลออกมาเต็มพื้น

         สเลนน่าสึกช็อคกับภาพตรงหน้า

         "เยี่ยมมากทิม นายทำให้งานเราเละยิ่งกว่าเดิม" ฮูดดี้พูด มองไปที่แมสกี้ที่ควงแท่งเหล็กที่เปื้อนเลือดเล่น

         "โทษที ฮะฮะ~ มือฉันอยู่เฉยไม่ได้น่ะ~" แมสกี้บอกและสะบัดเลือดที่เปื้อนแท่งเหล็กออก สเลนน่าถอยห่างจากเค้า แต่เธอก็ต้องหยุดเมื่อหลังของเธอชนเข้ากับแผ่นอกของโทบี้ เธอกลัว กำลังจะถอยห่างจากเค้า แต่โทบี้จับข้อมือสเลนน่าไว้ก่อน แล้วพาเธอไปหาฮูดดี้

         ฮูดดี้เอาผ้าเช็ดหน้าที่ชุบไว้ในยาสลบ ที่เค้ามีติดตัว เอามาโป่ะใส่สเลนน่า ทำให้เธอรู้สึกมึนๆ แล้วไม่นานเธอก็หลับไป

         "โทษทีนะ แต่เพื่อให้งานเราง่ายขึ้น" ฮูดดี้บอกและอุ้มสเลนน่า ท่าอุ้มเจ้าสาว หัวสเลนน่าพิงที่ไหล่ของฮูดดี้ ภาพตรงหน้าทำให้แมสกี้รู้สึกอิจฉา

         "เราก-กลับได้รึยัง?" โทบี้ถาม

         "ใช่ เรากลับได้แล้ว" ฮูดดี้บอกและเดินนำหน้าทุกคนไปก่อน ตามมาด้วยแมสกี้กับโทบี้ที่ตามหลังไป

         และทั้งหมดก็เดินหายไปในป่า ท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก...



    ติดตามตอนต่อไป
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×