ลำดับตอนที่ #14
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Chapter 1 ตอน เรื่องในจินตนาการ
ก่อนที่จะไปอ่านนิยายตอนนี้ไรท์ก็มีข่าวมาแจ้ง ขอให้รีดเดอร์ทุกคนอ่านรับทราบกันก่อนค่ะ
เรื่องที่หนึ่ง : เนื่องจากที่ไรท์ได้ห่างหายไปอีกรอบก็เพราะไรท์ติดภารกิจสอบเข้ามหาลัยค่ะ แต่ว่าตอนนี้ไรท์สามารถหาที่เรียนได้แล้วนะคะ เลยรีบกลับมาแต่งต่อทันที
เรื่องที่สอง : ในส่วนเนื้อเรื่องChapter 2 ไรท์ยังไม่ได้วางแผนไว้ว่าจะแต่งยังไงต่อ จะประติดประต่อเนื้อเรื่องยังไงให้มันประสานกับเนื้อเรื่องChapter 1ให้ลงตัว และในChapter 2ก็จะมีตัวละครใหม่ด้วย แต่ไรท์ก็ยังไม่ได้เริ่มออกแบบพวกเค้าเลย
แล้วก็ต้องขอโทษรีดเดอร์ทุกคนนะคะที่จะต้องรอกันต่อไปอีกหลังจากจบChapter 1 เพราะกว่าไรท์จะดำเนินเรื่องChapter 2ก็คงต้องใช้เวลาสักพัก แต่ไม่ต้องห่วงไรท์ไม่ทิ้งนิยายเรื่องนี้หรอกคะ :) อุส่าแต่งทั้งทีก็ต้องแต่งให้จบ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
[ สเลนน่า Pov. ]
ฉันกำลังนอนหลับฝันดีอยู่บนเตียงในห้องของตัวเอง อยู่ๆก็รู้สึกมีน้ำแฉะๆตรงจมูก ฉันลืมตาขึ้นก็เห็นเจ้าแมวสีดำกำลังเลียที่จมูกเหมือนอยากปลุกให้ฉันตื่น
"ว่าไงน้องเหมียว~" ฉันทักทายและลูบขนมันเบาๆ แล้วเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น ฉันหันไปมองก็เจอแอนและแจ็คเดินเข้ามาในห้อง แอนเดินมานั่งลงข้างๆที่เตียง
"หลับสบายมั้ยสเลนน่า?" แอนถามและจัดเตียงให้ฉันนั่งได้สบายๆ
"อื้อ~ นอนสบายมากเลยค่ะ แล้ววันนี้นู๋ต้องทำอะไรบ้าง?" ฉันบิดขี้เกียจและถามถึงเรื่องกิจวัตรที่ฉันจะต้องทำวันนี้
"วันนี้แค่ตรวจร่างกายนะสเลนน่า" แจ็คบอก ฉันลุกจากเตียงและเดินไปห้องน้ำพร้อมกับผ้าเช็ดตัว เข้าไปในห้องน้ำถอดเสื้อผ้าทั้งหมดและชโลมน้ำทั้งตัว
ระหว่างที่อ่าบน้ำอยู่ ฉันมองที่มือของตัวเองที่ตอนนี้มันแถบจะกลายเป็นสีดำทั้งมือแล้ว ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้สึกเจ็บหรือรู้สึกแปลกๆที่มือของฉันเลย แต่มันก็ทำให้ฉันหยุดกังวลไม่ได้
ใช้เวลาไม่นาน ฉันเดินออกไปจากห้องน้ำพร้อมกับผ้าเช็ดตัวมัดรวบตัว ปกปิดร่างเปลือยของฉัน เดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าและหาเสื้อใส่
แต่งตัวเสร็จ ฉันเดินออกจากห้องไปพร้อมกับเจ้าเหมียว
วันนี้ฉันใส่เสื้อแขนยาว กางเกนขาสั้น และสวมถุงมือสีขาว
ฉันเดินไปที่ห้องทานอาหาร ตอนนี้ทุกคนก็มารวมตัวกันครบแล้ว
"สเลนน่า! ทางนี้" เจนเรียกให้ฉันไปนั่งข้างๆ ฉันนั่งลงที่เก้าอี้พร้อมกับมีอาหารเช้ามาเสริฟตรงหน้า แมสกี้วางถ้วยซุปอุ่นๆตรงหน้า ได้กลิ่นซุปที่ลอยมาฉันก็รู้สึกหิวทันที
"กินให้อิ่มนะซันชายน์~" แมสกี้บอกและเดินไปนั่งที่ของเค้า
แซลลี้เดินมานั่งข้างๆฉันแล้วทักทาย
"พี่สเลนน่า~"
"ไงจ้ะแซลลี้" พวกเราทักทายและเริ่มลงมือทานอาหารเช้า แซลลี้กินเลอะเทอะไปหมด เธอเล่นตักอาหารป้อนคุณตุ๊กตาหมีของเธอ ฉันเห็นอย่างนั้นก็เลยเอื้อมมือไปหยิบผ้าเช็ดหน้ามา
"แซลลี้ อย่ากินเลอะเทอะสิ" ฉันบอก ใช้ผ้าเช็ดคลาบอาหารตรงมุมปากของเธอและตุ๊กตาหมี
"แต่คุณหมีก็ต้องกินข้าวนะคะ!" แซลลี้บอก
คุณสเลนเดอร์แมนเดินเข้ามาและหยิบจานอาหารของแซลลี้ไป
"เอาละแซลลี้ อ้าม~" คุณสเลนเดอร์แมนตักอาหารให้และแซลลี้ก็ยอมกินดีๆ แต่สเลนเดอร์แมนก็โดนเรียกตัวไปสะก่อน เค้าก็เลยฝากให้ฉันจัดการต่อ
"นี่จ้ะแซลลี้" ฉันตักซุปให้แต่แซลลี้หันห้าหนี
"ไม่เอา! แซลลี้อยากกินขนม!" แซลลี้พูด เห็นอย่างนี้ก็ทำให้ฉันนึกถึงตอนที่ฉันยังอยู่ที่สถานรับเลี้ยงและต้องช่วยคุณผู้ดูแลป้อนข้าวเด็กๆ ฉันพอจะรับมือกับปัญหานี้ได้
"แซลลี้ดูสิ เครื่องบินมาแล้ว!" ฉันใช้วิธี 'ช้อนเครื่องบินส่งอาหาร' ฉันทำเสียงเครื่องบิน แซลลี้หัวเราะชอบใจ ได้จังหวะฉันก็ป้อนอาหารเข้าปากเธอทันที
"เก่งมาก~" ฉันปรบมือให้ แซลลี้หัวเราะมีความสุข
"ดูเธอจะดูแลเด็กเป็นนะ" เจนพูด แล้วฉันก็พึ่งนึกขึ้นได้ ฉันเล่นพูดเสียงดังจนทุกคนหันมามองกันหมด ฉันรู้สึกเขินสุดๆ
"ก-ก็ฉันเคยดูแลเด็กหลายคนจนชินแล้วละ" ฉันบอก
"ฮะๆ~ได้เธอมาช่วยดูแลแซลลี้อีกคนก็ดีเหมือนกัน ไม่เหมือนใครบางคนที่ไม่ช่วยอะไรเลย" เจนบอกและมองไปทางเจฟที่กำลังจิ้มอาหารในจานเล่น
"เห้ย!ฉันได้ยินนะ!"
"เพราะฉันตั้งใจพูดให้นายได้ยินไงละ!" แล้วทั้งสองคนเริ่มปะทะวาจาใส่กัน ฉันเห็นอย่างงั้นก็รีบกินอาหารจนหมดแล้วแอบย่องออกจากห้องไปพร้อมกับแซลลี้
"พี่สเลนน่า นู๋อยากออกไปเล่นข้างนอก~" แซลลี้ดึงแขนเสื้อฉันแล้วชี้ไปที่ประตูใหญ่
"ได้สิจ้ะ แต่พี่จะต้องไปหาคุณแอนกับแจ็คก่อน แล้วเราค่อยออกไปด้วยกันนะ~" ฉันยิ้มหวานให้ แซลลี้ตอบตกลงอย่างร่าเริงและเราก็เดินไปที่ห้องทำงานของแจ็ค
เราเดินไปที่ห้องทำงานของแจ็ค ฉันเคาะประตูแล้วรอคนมาเปิด ฉันนึกว่าคนที่เปิดประตูออกมาจะเป็นคุณแอน แต่เป็นแจ็คที่กำลังฉีกไตกินที่โผล่มา ฉันเห็นก็ตกใจกรีดร้องในขณะที่แซลลี้กลับไม่กลัวเลย
"อ-โทษทีสเลนน่า ไม่คิดว่าจะเป็นเธอ" แจ็ครีบยัดไตที่เหลือเข้าปากแล้วกลืนลงท้อง เค้าเลียริมฝีปากตัวเองก่อนจะพูด
"มาให้ฉันตรวจเช็คใช่มั้ย?" แจ็คถาม ฉันผงึกหัวให้แล้วเค้าก็บอกให้ฉันกับแซลลี้เข้ามา
แจ็คบอกให้ฉันไปนั่งที่เตียงคนไข้รอ ระหว่างที่รอก็มีคนเดินเข้ามาในห้องอีกคน นี่นก็คือคุณแอนและคุณสเลนเดอร์แมน
"มาแล้วเหรอสเลนน่า" แอนเดินเข้ามาหาฉัน เมื่อเธอเห็นแซลลี้ก็ลูบหัวเด็กอย่างเป็นมิตร
"งั้นฝากที่เหลือด้วยนะทั้งสองคน" สเลนเดอร์แมนบอกก่อนจะออกไปพร้อมกับแซลลี้ แต่ก็ก่อนที่เค้าจะไปฉันก็เรียกเค้า
"คุณสเลนเดอร์แมน คือว่า...หลังจากเสร็จจากตรงนี้นู๋พาแซลลี่ออกไปข้างนอกได้มั้ย?" ฉันถาม
"...ได้สิสเลนน่า แต่อย่าไปไกลละ หรือไม่ก็ให้พร็อกซี้ของฉันสักคนติดตามเธอไปด้วยก็ดี" สเลนเดอร์แมนบอกแล้วเดินออกจากห้องไป แล้วคุณแอนกับแจ็คก็เริ่มตรวจร่างกายฉัน ทั้งเช็คอุณหภูมิร่างกาย เจาะเลือด แล้วก็อย่างสุดท้ายคือการตรวจร่างกายอย่างละเอียดโดยที่ฉันจะต้องถอดเสื้อผ้าทั้งหมด
แจ็คเดินออกไปพร้อมกับดึงผ้าม่านปิดให้ด้วย ฉันถอดเสื้อผ้าทีละชิ้น ระหว่างที่ถอดไปก็เขินไป ถึงแม้จะอยู่กับคุณแอนที่เป็นผู้หญิงก็เถอะแต่ตอนนี้ฉันร่างเปลือย ได้แต่เอามือปิดส่วนลับของตัวเอง
"ฉันรู้ว่าเธอรู้สึกอาย แต่ฉันจำเป็นต้องตรวจเธออย่างละเอียดนะ" แล้วคุณแอนก็เริ่มทำหน้าที่ของเธอ ระหว่างตรวจไปฉันก็หยุดเขินไม่ได้ จนกระทั้งมีเสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับมีคนเดินกระทืบเท้าดังเข้ามาใกล้พวกเรา
"แจ็ค! แอนอยู่ไหน!"
"เดี๋ยวเจฟ!" เสียงของแจ็ครีบพูดห้ามพร้อมกับผ้ามานโดนดึงออก นั่นคือเจฟที่เดินเข้ามาพร้อมทำหน้าตึงเครียดใส่ แต่หน้านั้นก็เปลี่ยนเป็นหน้าเอ๋อทันทีเมื่อเค้าเห็นฉันที่อยู่ในสภาพร่างเปลือย
"กรี๊ด!!!" ฉันกรี๊ดออกมาดังสุดเสียง รีบแบมือ ใส่แรงทั้งหมด ตบเข้าไปที่หน้าของเจฟทันที ทำให้เจฟหน้ายู่ ทั้งตัวเอนไปตามแรงตบของฉันจนเค้าล้มลงไปกับพื้น บนหน้ามีรอยมือของฉันอย่างชัดเจน
"อะ!-ขอโทษ!" ฉันรีบขอโทษพอรู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป
"ว้าว!~พี่สเลนน่าตีพี่เจฟจนตัวกระเด็นเลย!" แซลลี้รีบวิ่งเข้าไปดูเจฟแต่ก็โดนแจ็คอุ้มออกไปก่อน
"ที่จริงก็สมควรนะ เพราะเมื่อกี้เสียมารยาทเดินเข้ามาอย่างนั้นน่ะ" คุณแอนพูด แล้วก็มีคนเปิดประตูเข้ามาอีกคน ซึ่งก็คือเจน
"เกิดอะไรขึ้น?...โอ้ว..." เจนไม่ถามต่อเพราะภาพตรงหน้ามันบอกทุกอย่าง เจฟที่นอนไม่ได้สติอยู่บนพื้น
"เห้อ...เดี๋ยวฉันจัดการเอง" แจ็คบอกและลากเจฟออกไปจากห้อง ส่วนคุณแอนก็กลับมาตรวจเช็คร่างกายฉันต่อ
ตรวจเช็คร่างกายเสร็จฉันก็รีบใส่เสื้อผ้าและเดินออกจากห้องไปพร้อมกับแซลลี้ ฉันจูงมือแซลลี้เดินออกมาข้างนอกของปราสาท ตอนนี้ข้างนอกเหมือนจะกลายเป็นสวนดอกไม้ไปแล้ว จากตอนแรกที่เป็นแค่พื้นที่โล่งๆ เพราะก่อนหน้านี้คุณสเลนเดอร์แมนก็ออกมาข้างนอกและก็ทำสวนดอกไม้นี้ขึ้นมา เค้าคงอยากให้ที่นี่ดูน่าอยู่มากขึ้น
เราเดินเล่นอยู่ในสวน แซลลี้เห็นผีเสื้อบินไปมาเธอก็เลยวิ่งตามไป แล้วฉันก็เจอคุณสเลนเดอร์แมนกำลังยืนมองดอกไม้ในสวนอยู่ตามลำพังฉันเลยเข้าไปทักทาย
"คุณสเลนเดอร์แมน" ฉันเรียก เค้าหันมาพร้อมกับยื่นดอกกุหลาบให้ฉันหนึ่งดอก
"เป็นยังไงบ้างสเลนน่า ตรวจเช็คร่างกายแล้วแอนเค้าพูดอะไรบ้างมั้ย?" สเลนเดอร์แมนถาม ฉันรับดอกกุหลาบนั้นมาไว้แล้วตอบ
"ไม่นิคะ พอทำเสร็จก็ให้นู๋ออกมาได้เลย" ฉันบอก สเลนเดอร์แมนแค่ผงึกหัวให้แล้วเดินไปที่รั้ว เปิดประตูรั้ว และหันกลับมามองฉัน
"เดี๋ยวฉันจะออกไปข้างนอก อย่าไปเล่นที่ไหนไกลละ" สเลนเดอร์แมนบอก แล้วเดินออกไป หายไปในป่า ฉันโบกมือลาเค้า และแซลลี้ก็วิ่งกลับมาหาฉัน
"พี่สเลนน่า! นั่นคุณสเลดี้นี่! ตามเค้าไปกันเถอะค่ะ~" แซลลี้พูดและวิ่งออกประตูรั้วไป
"แซลลี้! เดี๋ยว!" ฉันเรียกแต่แซลลี้ก็วิ่งออกไปแล้ว ฉันเลยรีบวิ่งตามไปทันที
ฉันเห็นแซลลี้วิ่งตรงไปทางป่าใหญ่ฉันเลยวิ่งตามไป ระหว่างที่วิ่งอยู่ฉันเผลอทิ้งดอกกุหลาบไป แต่ก็ไม่ได้สนใจและวิ่งตามแซลลี้ต่อ โชคดีที่ในป่านี้ยังมีแสงเข้าถึง ไม่งั้นฉันคงได้ลงทางแน่ๆ
เมื่อฉันเห็นแซลลี้ก็เลยรีบวิ่งไปหา ตามไปถึงแล้วก็พักหายใจก่อนแล้วมองไปรอบๆว่าตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหน
"โถ่~คุณสเลนดี้หายไปสะแล้วง่า~" แซลลี้บอกด้วยน้ำเสียงงอแง
ฉันได้แต่ยืนสงสัยแล้วถามกับตัวเอง
"ฉันยังไม่เห็นคุณสเลนเดอร์แมนเลย" ฉันมองไปรอบๆ เหมือนว่าตอนนี้เราจะอยู่ในป่าตามลำพัง ฉันเดินเข้าไปหาแซลลี้แล้วพูด
"เรารีบกลับกันเถอะ" ฉันบอก จับมือแซลลี้แล้วจูงมือเธอเดินไป ยังดีที่แซลลี้วิ่งเป็นทางตรงมาตลอด เพาะฉะนั้นเราก็คงจะไม่หลงทาง...หรอกมั้ง?
"แซลลี้ คราวหลังอย่าวิ่งออกไปแบบนั้นอีกนะ มันอันตรายถ้าออกมาคนเดียวน่ะ" ฉันพูดตักเตือนเธอ แซลลี้ทำหน้าเศร้า เธอคงคิดว่าฉันกำลังโกรธอยู่ถึงดุเธอ
"ขอโทษค่ะ พี่สเลนน่าโกรธแซลลี้ซะแล้ว" แซลลี้เริ่มงอแง ฉันหยุดเดินแล้วย่อตัวลงไปอยู่ระดับเดียวกับแซลลี้และยิ้มให้
"พี่ไม่โกรธนู๋หรอกนะ พี่แค่กลัวว่านู๋จะเป็นอะไรไป และคนที่รับผิดชอบก็คือพี่ เพาะฉะนั้นพี่จะต้องดูแลนู๋ให้ดีที่สุด" ฉันพูดเสร็จแซลลี้ก็เข้ามากอดฉัน ฉันก็กอดรับไว้แล้วลูบหลังเธอเบาๆ
'เสียงเหยียบไม้'
อยู่ๆฉันก็ได้ยินเสียงเดินจากด้านหลัง ฉันหันไปดูก็ถึงกับตาค้าง เพราะต้นตอของเสียงเมื่อกี้นี้ก็คือเจ้าสัตว์ประหาดสี่ขานั้นที่ฉันเคยเจอ เจ้าตัวที่มีลูกตาน่ากลัว ฟันและนิ้วที่แหลมคมนั้นฉันยังจำได้ดี เจ้า 'Rake'
'เสียงขู่' มันส่งเสียงขู่ในลำคอ ฉันรีบลุกขึ้นและให้แซลลี้มาอยู่ด้านหลังฉัน
'เสียงคำราม' มันคำรามออกมาแล้วกระโจนเข้ามาหาพวกเรา ฉันรีบอุ้มแซลลี้แล้วหลบ
ฉันรีบหันกลับไปดู เห็นว่ามันกำลังวิ่งเข้ามาหาพวกเราพร้อมกับง้างกรงเล็บของมัน มือฉันคลัมไปเจอก้อนหินพอดี ฉันรีบหยิบขึ้นมาและปาอัดใส่หน้ามัน ทำให้มันเจ็บและเสไปข้างหลังนิดนึงก่อนที่จะหันกลับมาและแยกเขี้ยวใส่ ฉันเลยรีบจับมือแซลลี่และวิ่งหนีทันที
ระหว่างที่วิ่งอยู่ฉันก็หันกลับไปมองก็เจอมันวิ่งตามมา ฉันรีบพาแซลลี้วิ่งเข้าพุ่มไม้ข้างๆเพื่อซ่อนตัว คอยสังเกตการณ์
ไม่นานเจ้าเรคตัวนั้นก็วิ่งตามมาหยุดอยู่ตรงจุดที่เราซ่อนอยู่ มันดมกลิ่นไปทั่ว มันคงกำลังหาพวกเราอยู่
แซลลี้กอดฉันแน่น ฉันก็ลูบหลังเธอเพื่อปลอบ ฉันพยายามคิดหาวิธีแต่ตอนนี้ก็รู้สึกกลัวจนคิดอะไรไม่ออกเลย
ฉันพยายามสงบสติตัวเองแล้วตั้งสมาธิ คิดหาวิธี และสุดท้ายก็คิดออกได้อย่างนึง
"ฟังพี่นะแซลลี้ พี่จะออกไปล่อมันให้ เมื่อพี่วิ่งล่อมันออกไปไกลแล้วเธอก็รีบวิ่งกลับไปที่ปราสาททันทีเลยนะ" ฉันกระซิบบอก ถึงแม้ในใจจะกลัวเจ้าเรคนั้นมากก็เถอะ แต่ฉันไม่อยากให้แซลลี้เป็นอะไรไปงั้นวิธีนี้ก็คงจะดีที่สุด
"แล้วพี่ละ?" แซลลี้ถามด้วยสีหน้าที่ดูเป็นห่วง ฉันฝืนยิ้มแล้วพูด
"พี่ไม่เป็นไรหรอก พี่จะกลับไปเจอเธอที่ปราสาทนะ" พูดเสร็จฉันก็วิ่งออกจากพุ่มและตะโกน
"เห้ย!" ฉันตะโกนเรียก เจ้าเรคหันมาและวิ่งเข้าใส่ ฉันรีบวิ่งไปอีกทาง หันกลับไปดูก็เห็นแซลลี้วิ่งกลับไปทางปราสาทแล้ว ฉันยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกสบายใจที่อย่างน้อยแซลลี้ก็ปลอดภัย
ฉันวิ่งต่อไปเรื่อยๆ ถึงแม้ตอนนี้แซลลี้จะปลอดภัยแล้ว แต่ตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกกดดันขึ้นทุกครั้งที่ฉันเห็นเจ้าเรคเริ่มวิ่งเข้ามาใกล้มากขึ้น ในขณะที่ฉันก็เริ่มที่จะเหนื่อยที่ต้องวิ่งหนีมาไกล
ฉันวิ่งเกินขีดจำกัดของตัวเองจนสุดท้ายฉันล้มลงกับพื้น ฉันหันกลับไปดูก็เจอเจ้าเรคนั่นกระโจนเข้ามาใส่พร้อมอาปากโชว์ฟันที่แหลมคมของมัน
ทุกอย่างรอบตัวฉันเหมือนกับช้าลง ฉันได้แต่คิดในใจ...
"ขอโทษนะแซลลี้ ดูเหมือนว่าฉันคงไม่ได้กลับไปที่ปราสาทแล้ว..."
...
"อย่ายอมแพ้"
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
[ 3rd. Person Pov. ]
เจนกำลังเตรียมทำอาหารกลางวันอยู่ในครัว เจนมองที่เวลา ตอนนี้ใกล้จะถึงตอนเที่ยงแล้ว เธอเดินออกจากครัวไปแล้วเจอพวกพร็อกซี้อยู่กับเจฟ
"อะไรอีกละ?" เจนถามเมื่อเดินออกมาจากครัวแล้วเห็นภาพตรงหน้า คือแมสกี้ที่ถือมีดไว้ในมือ พยายามที่จะเข้าไปแทงเจฟที่ตอนนี้นอนอยู่บนพื้นและมีรอยโดนเตะที่หน้า แต่ฮูดดี้ก็พยายามห้ามแมสกี้ไว้ เช่นเดียวกับแจ็คที่พยายามห้ามโทบี้ที่ถือขวานไว้ พยายามที่จะเข้าไปสับเจฟ และเบ็นที่ดูสถานการณ์ทั้งหมดอย่างสนุกสนาน
"เกิดอะไรขึ้น?" เจนเดินเข้าไปถามเบ็น
"หลังจากที่เจฟโดนสเลนน่าตบกระเด็นแล้วได้สติ ก็มาบ่นให้ฉันฟังว่าที่เค้าโดนตบเพราะเห็นสเลนน่าตอนเปลือย แล้วยังพูดอีกว่าของสเลนน่าเล็กอีก แต่ตอนนั้นพวกพร็อกซี้เดินผ่านมาได้ยินพอดี แล้วก็เป็นอย่างที่เห็นตอนนี้เนี่ยแหละ555" เบ็นอธิบายพร้อมกับขำไปด้วย
"กล้าดียังไง! ฉันควรจะเป็นคนที่ได้เห็นร่างเปลือยของซันชายน์เป็นคนแรก!" แมสกี้ตะโกนเสียงดัง
"ร-โรคจิต มาให้ฉันสับส-สะ!" โทบี้พูด พยายามดันแจ็คออก
"ใจเย็นๆทั้งสองคน" ฮูดดี้ห้ามทั้งสองคน
"พวกนายสองคนเป็นบ้าอะไร!" เจฟตะโกนกลับ
เจนกุมขมับ เธอมองไปรอบๆ ไม่เห็นสเลนน่าและแซลลี้
"เดี๋ยวนะ...สเลนน่าและแซลลี้อยู่ไหน?" เจนถาม ทุกคนหยุดทำทุกสิ่งแล้วมองหาสองคนนั้น
"ฉันจำได้ว่าพวกเค้าออกไปเล่นข้างนอกนิ" แจ็คบอก
"เดี๋ยวฉันไปตามให้" แอนโผล่มา เดินไปที่ประตูใหญ่แล้วเปิดออกไปข้างนอก
"ขอบคุณแอน" เจนบอก แต่ไม่นานแอนก็วิ่งกลับเข้ามา
"สเลนน่ากับแซลลี่หายไป!" แอนตะโกนบอก ทุกคน(ยกเว้นเจฟ)รีบตื่นตัวทันที
"แน่ใจนะ-!" แมสกี้ไม่ทันได้ถาม ก็มีเสียงดังก้องในหัวทุกคน ทุกคนเอามือกุมหัวตัวเองเพราะรู้สึกปวดหัว แล้วก็มีเสียงของสเลนเดอร์แมนดังขึ้นในหัวพวกเค้า
"สเลนน่า เธออยู่ในอันตราย"
"ไปช่วยเธอกับแซลลี้กลับมาสะ"
เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนรีบวิ่งออกไปข้างนอกปราสาทเพื่อหาสเลนน่าและแซลลี้
"ประตูรั้วถูกเปิดทิ้งไว้" แจ็คชี้ไปที่ประตู เค้าเดินไปดูก็พบรอยเท้า
"เฮ้ฮูดดี้ มาดูนี่" แจ็คเรียก ฮูดดี้เดินตามมาดู เค้าก้มลงไปดูรอยเท้าพวกนั้นแล้วก็ได้คำตอบ
"รอยเท้าของสเลนน่า แล้วก็มีของแซลลี้ด้วย" ฮูดดี้บอกแล้ววิ่งนำไปก่อน ตามรอยเท้าไป
ทั้งหมดวิ่งไปตามทาง ไม่นานพวกเค้าก็เจอกับแซลลี้ที่วิ่งมาทางพวกเค้าพอดี
"แซลลี้! เป็นอะไรมั้ย!" เจนตะโกนถามเมื่อเธอเห็นแซลลี้วิ่งมาหา แซลลี้รีบวิ่งเข้าไปกระโดดกอดเจนแล้วร้องไห้ออกมา
"พี่เจน! ฮือ~ พ-พี่สเลนน่า..."
"สเลนน่า?! สเลนน่าอยู่ไหน!" เจนถาม แซลลี้คุกเข่าร้องไห้แล้วกอดเจนแน่น และชี้ไปทางที่เธอวิ่งมา ฮูดดี้รีบวิ่งนำไปก่อน
"ไบนอั้น! รอก่อน" แมสกี้ตะโกน แต่ฮูดดี้ก็วิ่งออกไปแล้ว
ฮูดดี้วิ่งไปตามทาง เห็นคนยืนอยู่ไกลๆ เค้าจึงหยุดวิ่งแล้วค่อยๆเดินเข้าไปหาอย่างช้าๆ ในมือก็ถือปืนเอาไว้เพื่อป้องกันตัว
พอเข้าไปใกล้ ฮูดดี้ก็ได้รู้ว่านั่นคือสเลนน่าที่กำลังยืนเหม่อมองอะไรสักอย่าง
ฮูดดี้เห็นว่าสเลนน่าไม่ขยับเลยเดินเข้าไปทัก
"สเลนน่า เธอ-!..." ฮูดดี้ถึงกับหยุดนิ่งเมื่อเค้าเห็นมีศพของเจ้าเรคนอนตายอยู่บนพื้น หัวเละตุ้มเปะ
ถึงแม้ฮูดดี้ไม่อยากจะคิดว แต่ภาพตรงหน้ามันก็เล่าเรื่องทั้งหมด
พอสเลนน่าได้ยินเสียงของฮูดดี้ เธอก็หันกลับไปมองเค้าด้วยดวงตาที่ดำสนิท ในมือของเธอถือก้อนหินที่เปื้อนเลือด เธอทิ้งก้อนหินไปและเดินเข้าไปหาฮูดดี้อย่างช้าๆ เค้ารีบเล็งปืนไปที่สเลนน่าทันที
"ฮูดดี้..." สเลนน่าเรียกฮูดดี้ ในขณะที่นิ้วชี้ของเค้าก็อยู่ที่ไกปืนและกำลังจะยิง
...
แต่ฮูดดี้ทำไม่ได้...
ฮูดดี้ลังเล ไม่กล้าที่จะเหนี่ยวไก
"ฉันควรจะยิงมั้ย?" ฮูดดี้ตั้งคำถามกับตัวเอง โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าสเลนเดอร์แมนและแอน ทั้งสองคนได้มายืนอยู่ข้างหลังเค้า กำลังมองสถานการณ์ทั้งหมด
"...เค้าทำไม่ได้หรอก" แอนกระซิบบอก แต่สเลนเดอร์แมนไม่พูดอะไร
"...ฮูดดี้" สเลนน่าเรียกอีกครั้ง แต่เค้ายังไม่ลดปืนลง
สุดท้ายฮูดดี้ก็ถูกขัดด้วยมือของสเลนเดอร์แมนที่มาบังไว้
"ฮูดดี้" สเลนเดอร์แมนเรียกสติฮูดดี้กลับมา
"ฮูดดี้..." สเลนน่าที่ตอนนี้ดวงตาไม่ได้เป็นสีดำทั้งหมดแล้ว มองฮูดดี้ด้วยสายตาที่แสดงถึงความเป็นห่วง
"...สเลนน่า?" ฮู้ดดี้ถามเพื่อให้แน่ใจว่านี่คือสเลนน่าที่เค้ารู้จักรึเปล่า
"ใช่ ฉันเอง" ฮูดดี้เริ่มสับสน งั้นก่อนหน้านี้ที่เค้าเห็นคืออะไร? เค้าหลอนไปเองงั้นเหรอ?
แอนรีบเข้ามาดูสเลนน่า เธอมีแผลรอยข่วนไม่ลึกมากบนแขน
แล้วไม่นานคนอื่นๆก็ตามมาทัน
"โว้ย! เกิดอะไรขึ้นเนี้ย!" เจฟตื่นเต้นเมื่อเค้าเห็นศพของเรคนอนตายอยู่บนพื้น เค้าเลยเอามีดไปจิ้มเล่น
"อย่าเล่นเจฟ" แจ็คดุและหันไปหาสเลนเดอร์แมน
"ท่านสเลนเดอร์แมน นี่ฝีมือคุณเหรอ?" แจ็คถามพร้อมกับชี้ไปที่ศพ
"...ไม่รู้สิ" สเลนเดอร์พูด ทุกคนไม่เอะใจ คิดว่าคงเป็นฝีมือของคนนอกที่ไม่ใช่พวกเค้า ยกเว้นฮูดดี้ที่แอบมองสเลนน่าอยู่ห่างๆ
"พี่สเลนน่า! พี่ไม่เป็นอะไรนะ!" แซลลี้วิ่งเข้ามากอดเอวสเลนน่าไว้แน่น
"พี่ไม่เป็นไรแล้ว..." สเลนน่าลูบหลังแซลลี้เป็นการปลอบ
พระอาทิตย์เริ่มตกดินแล้ว เป็นสัญญาณบอกเวลากลางคืนกำลังจะมา เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่พวกเรคจะออกมาล่า จะดีกว่าถ้ารีบกลับไปก่อน แต่ก่อนไปแจ็คก็ขอเก็บซากของเรคกลับไปตรวจสอบด้วย
ทั้งหมดกลับไปที่ปราสาท ส่วนสเลนน่าก็ถูกพาไปที่ห้องพยาบาลเพื่อทำแผลที่แขน เธอจึงไม่ได้ไปร่วมโต๊ะอาหารเย็นกับคนอื่น
สเลนน่านั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย แล้วไม่นานก็มีเสียงเปิดประตูดังขึ้น สเลนน่าหันไปมองก็เห็นสเลนเดอร์แมนเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับถาดอาหารและสมุดหนึ่งเล่ม
"คุณสเลนเดอร์แมน?"
"เป็นยังไงบ้างสเลนน่า? รู้สึกดีขึ้นบ้างรึยัง?" สเลนเดอร์แมนถามพร้อมกับนั่งลงข้างๆ
"ทานข้าวก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันมีอะไรให้ดู" สเลนเดอร์แมนวางถาดอาหารตรงหน้า สเลนน่าเริ่มลงมือทานอาหารทั้งหมด
พอสเลนน่ากินเสร็จ สเลนเดอร์แมนก็ยื่นสมุดเล่มนึงให้ เธอรับมาและอ่านชื่อ
"เออ...แอนเจิ้ล? แอนเจิ้ลที่แปลว่านางฟ้าหรือเทวดาเหรอคะ?" สเลนน่าถาม
"มันเป็นสิ่งที่เพื่อนเก่าของฉันเคยให้ฉันเมื่อนานมาแล้วน่ะ" สเลนน่าเปิดดูเนื้อหาข้างใน ตัวหนังสือเป็นลายมือคนเขียนทั้งหมด อ่านยากนิดหน่อย แต่ก็พออ่านจับใจความได้บ้าง
"ฉันเก็บมันไว้นานจนฝุ่นเกาะมาหลายปี ฉันคิดว่า...มันน่าจะเป็นประโยชน์ต่อเธอน่ะ..." แล้วสเลนเดอร์แมนก็ขอตัวไปทำงานของเค้าต่อ เค้าลุกไปจากเตียงและเดินออกจากห้องไป
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
[ สเลน่า Pov. ]
ฉันกำลังนั่งอ่านสมุดบันทึกที่สเลนเดอร์แมนให้ฉันมา เนื้อหาในสมุดเหมือนกับนิยายเลย
เนื้อหาในสมุดเล่าเรื่องถึง...
คนกลุ่มหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า 'แอนเจิ้ล' พวกเค้ามีพลังวิเศษ แต่ละคนมีพลังที่แตกต่างกันออกไป คนนึงมีพลังไฟ คนนึงมีพลังน้ำแข็ง คนนึงมีพลังจิต และอื่นๆอีกมากมาย
"ว้าว! คนที่เขียนบันทึกเล่มนี้จะเป็นพวกเดียวกับคนกลุ่มนั้นรึเปล่านะ?" ฉันพูดกับตัวเองแล้วอ่านเนื้อหาต่อ
เหล่าแอนเจิ้ลมีลักษณะที่เหมือนมนุษย์ ดังนั้นพวกเค้าจึงสามารถอาศัยอยู่ในโลกมนุษย์ได้ แต่สิ่งที่ทำให้พวกเค้าแตกต่างจากมนุษย์นั่นคือพวกเค้าจะมีดวงตาสีฟ้า
"อืม...ถ้าพวกเค้าน่าตาเหมือนมนุษย์จริงๆ บางทีทั้งชีวิตนี้ฉันอาจจะเคยเดินผ่านๆพวกเค้าก็ได้ อิอิ!" ฉันนึกไปก็ขำไป คงเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะประชากรมนุษย์ส่วนนึงก็มีตาสีฟ้า คงยากที่จะหาพวกเค้าเจอ
ตัวฉันเองก็ตาสีฟ้านะ แม่เคยบอกว่าฉันว่าฉันได้ตาสีฟ้ามาจากพ่อ
ฉันเปิดไปหน้าถัดไปก็เจอหัวข้อและรูปที่เปรียบเทียบเรื่องความแตกต่างระหว่างมนุษย์และแอนเจิ้ล
ตาสีฟ้าของแอนเจิ้ลสว่างเหมือนกับเพรช ไม่เหมือนของมนุษย์
"งั้นนี่คือความแตกต่างระหว่างแอนเจิ้ลกับมนุษย์เหรอ?" ฉันนึกภาพไว้ว่าเหล่าแอนเจิ้ลจะมีปีกด้านหลังตามชื่อสะอีก
พวกเค้าครั้งหนึ่งเคยอาศัยอยู่ในโลกมนุษย์ แต่ในภายหลังพวกเค้าคิดว่าการอาศัยอยู่ในโลกมนุษย์เป็นเรื่องที่อันตราย พวกเค้าจึงพากันอพยพไปอาศัยอยู่ที่อื่นที่ห่างไกล
"หืม? เพราะอะไรกันนะ?" ฉันรีบเปิดหน้าต่อไปเพื่ออ่านต่อ แต่ก็ไม่มีเขียนต่อ แต่มีเป็นเหมือนข้อสันนิษฐานของคุณสเลนเดอร์แมนที่เค้าจดเพิ่มเติมไว้
"สาเหตุที่เหล่าแอนเจิ้ลตัดขาดจากโลกมนุษย์อาจเป็นเพราะพวกเค้าในตอนนั้นต้องการที่จะหนีจากเหล่า Creepypasta พวกเค้าไม่ไว้ใจพวกเรา ที่ผ่านมาเริ่มมีเหล่า Creepypasta เข้าไปปะปนอยู่ในหมู่มนุษย์ นั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่พวกเค้าหลบหนี..."
"โดยเฉพาะหลบหนีจาก Zalgo"
แต่ว่าทั้งหมดนี้ก็เป็นแค่การสันนิษฐานของสเลนเดอร์แมนเท่านั้น
"และก็เขียนหยุดที่แค่นี้เองเหรอ?" ในหน้าถัดๆไปก็เป็นข้อมูลเรื่องพลังของแอนเจิ้ล
ฉันวางสมุดลงเมื่อมีคนมาเคาะประตูดังขึ้น นั่นก็คือแจ็คที่เดินเข้ามาพร้อมกับเอกสารในมือ
"เป็นยังไงบ้างสเลนน่า?" แจ็คถามพร้อมกับนั่งลงข้างๆ
"...หืม? เธออ่านอะไรอยู่เหรอ?" แจ็คถาม ชี้ไปที่สมุดบันทึก
"อ้อ! คุณสเลนเดอร์แมนให้นู๋มา มันเกี่ยวกับ...แอนเจิ้ล"
"แอนเจิ้ล...ที่แปลว่านางฟ้าเหรอ?" แจ็คถาม เค้าไม่รู้จักคนพวกนี้เหรอ?
"คุณไม่รู้จักพวกเค้าเหรอ?" ฉันถาม แจ็คทำท่าทีสงสัยแล้วพูด
"ไม่รู้จัก...ท่านสเลนเดอร์แมนไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้พวกเราฟัง" แจ็คบอก แล้วเค้าก็เริ่มตรวจร่างกายของฉัน
หลังจากที่ตรวจเสร็จแจ็คก็ออกจากห้องไปพร้อมกับบอกให้ฉันนอนพักพ่อน
ฉันนอนลงบนเตียงนุ่มๆ ก่อนจะนอน ฉันนึกถึงเนื้อหาในสมุดบันทึกเล่มนั้นกับสิ่งที่แจ็คพูด
จะว่าไปแล้ว คุณสเลนเดอร์แมนก็ไม่ได้บอกว่าเรื่องทั้งหมดในสมุดบันทึกเป็นเรื่องจริงนิ ฉันอาจจะคิดไปเอง หรือว่าเรื่องทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องจริงและมีแค่คุณสเลนเดอร์แมนที่รู้และเค้าบอกแค่ฉันคนเดียวเหรอ?-
'เสียงเปิดประตู'
ในระหว่างที่ฉันกำลังใช้ความคิดอยู่นั้นก็มีเสียงเปิดประตูดังขึ้น ทำให้ฉันรู้สึกขนลุกขึ้นมา ฉันพลิกตัวหันกลับไปดูก็เห็นฮูดดี้...เหมือนกำลังแอบมองฉันอยู่...เหรอ?
"เอิ่ม... มีอะไรรึเปล่าฮูดดี้?" ฉันถาม แต่เจ้าตัวกลับไม่ขานกลับแล้วก็ปิดประตู
ฉันพยายามทำใจให้สงบและกลับไปนอนต่อ เค้ามีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันรึเปล่านะ?
ติดตามตอนต่อไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น