คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : เดือนห้า
เดือนห้า
“ทำอะไรอยู่ครับทำไมยังไม่นอนหืม”เดือนสิบถามน้อง
คืนนี้เดือนอ้ายจะนอนกับพี่ชายเพราะไม่ได้นอนกอดกันนานมากแล้ว
เมื่อได้กลับมาเจอกันทำให้คนเจ้าตัวอยากใช้เวลาให้คุ้มค่ามากที่สุด
“เดือนรอที่รักอยู่ครับ”
“งั้นเข้านอนกันดีกว่าเพราะพรุ่งนี้คนเล็กคงจะต้องตื่นเช้ามาก
ๆ อีกตามเคยใช่ไหมครับ”เดือนสิบว่าพร้อมกับก้าวเท้าเดินมาที่เตียงก่อนจะขยับตัวขึ้นไปนอนเคียงข้างกับน้องน้อย
“เดือนมีเรื่องที่อยากจะคุยกับที่รักเยอะแยะเลย”
เมื่อจัดท่าซบอกพี่ชายคนดีของตัวเองแล้วเดือนอ้ายก็พูดขึ้น
เรื่องนี้ยังไงก็ต้องบอกให้เดือนสิบรับรู้ด้วยพี่ชายเขาจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง
“พี่รอฟังอยู่ครับ”น้ำเสียงอบอุ่นบอกกับน้องพลางลูบหัวเล็ก ๆ ไปด้วย
“..เรื่องนี้สำคัญมาก
ๆ เลย..”เรื่องราวมากมายที่ใครอีกคนได้ก้าวเข้ามาในเขตหวงห้ามของเดือนอ้ายก็เริ่มขึ้นโดยมีเดือนสิบลูบหัวหอมหัวเล็กของเดือนอ้ายไปด้วย
“..ตอนนี้เดือนไม่รู้เลยที่รักว่าจะจัดการกับมันยังไงดี”น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสับสนถูกปล่อยออกมาอย่างแผ่วเบา
“คนดีฟังพี่นะครับ
เรื่องบางเรื่องเราไม่จำเป็นเลยที่จะต้องใช้สมองแค่น้องเดือนลองใช้ตรงนี้
ตรงหัวใจของน้องเดือนมันจะบอกกับน้องเองว่าต้องทำยังไง”
“อย่าคิดมากเพราะเรื่องของพี่ที่มันผ่านไปแล้ว
มันไม่เป็นไร และใช่ว่าทุกคนจะต้องเป็นเหมือนเขาคนนั้นเสมอไป
อย่ากลัวจนเผลอปล่อยโอกาสที่จะเจอคนดี ๆ ให้หลุดลอยไปสิครับ
คนดีของพี่สิบเก่งอยู่แล้ว”พูดแล้วก็ส่งยิ้มอ่อนโยนให้คนในอ้อมแขนไปด้วย
“และถ้าสุดท้ายจะต้องผิดหวัง
น้องเดือนก็รู้ว่าพี่สิบยังอยู่ข้าง ๆ น้องเสมอ”
“ขอบคุณนะครับ
เดือนอ้ายรักเดือนสิบที่สุดเลย!!”
“เดือนสิบก็รักเดือนอ้ายที่สุดเหมือนกันครับ”
สองพี่น้องส่งยิ้มให้กันก่อนที่จะกอดกันให้แน่นมากยิ่งขึ้นเพื่อยืนยันว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเรายังมีกันเสมอ
เดือนอ้ายโชคดีที่มีพี่ชายที่รักและเข้าใจอย่างเดือนสิบ
เดือนสิบเองก็รู้ว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนที่น้องรักและเชื่อใจให้เขาดูแลเหมือนตอนที่น้องยังเป็นเด็กตัวเล็ก
ๆ
หลังจากที่สองพี่น้องแลกเปลี่ยนเรื่องราวแต่ละวันว่าทำอะไรบ้างในเวลาที่ต้องอยู่ห่างกันเพราะต้องแยกย้ายกันทำตามหน้าที่ของตัวเอง
ก็ถึงเวลาวางแพลนของวันพรุ่งนี้
“แล้วพรุ่งนี้ที่รักอยากทานอะไรดีครับเอาเป็นข้าวต้มกุ้งดีไหม”
แพลนในวันพรุ่งนี้ของเดือนอ้ายคือการตื่นเช้าเพื่อที่จะได้ทำอาหารให้พี่ชายทาน
ข้าวต้มกุ้งของโปรดของคุณเดือนสิบ
และมีแค่ไม่กี่คนหรอกที่ทำออกมารสชาติถูกปากคุณเขาซึ่งมีแค่ย่าบัว
คุณดาราและเดือนอ้ายเท่านั้น
“ดีครับพี่สิบชอบยิ่งเป็นคนเล็กทำพี่สิบจะกินให้หมดเลย”เรียกชื่อแทนตัวเองเหมือนกับตอนเด็ก ๆ ที่เคยเรียกกับน้อง
“เดือนจะทำให้สุดฝีมือเลย”คนตัวเล็กว่าแล้วยิ้มตาหยี
“พร้อมที่จะฝันดีหรือยังครับ”ว่าแล้วก็จูบหน้าผากสวยของเดือนอ้ายเบา ๆ
“ฝันดีครับเดือนสิบของน้องเดือน”พูดแล้วก็เงยหน้าขึ้นจูบเบา ๆ ที่คางได้รูปสวยของพี่ชาย
“ฝันดีนะครับเดือนอ้ายของพี่สิบ”
.
.
หลับไปได้เพียงไม่นานเท่านั้นก็มีเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือของเดือนอ้าย
ใครกันนะที่โทรมาเวลานี้
ว่าแล้วก็ยกมือขึ้นขยี้ตาเบา
ๆ ก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองพูดอะไรกับคนปลายสายก่อนที่จะกดวาง
ครืดด ครืดด
จากนั้นก็ขยับการลุกขึ้นจากเตียงอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวว่าจะไปรบกวนการพักผ่อนของพี่ชายเข้า
“กาย”เมื่อกดรับก็รีบเรียกชื่ออีกคนออกไปทันที
‘จะให้ถามหรือจะบอกเอง’ตอนนี้จากน้ำเสียงที่ได้ยินดูก็รู้ว่าสกายไม่พอใจมากแค่ไหนแต่ก็ดีที่อีกคนเลือกที่จะถามมากว่าการโวยวายให้ต้องทะเลาะกัน
“ง่ะ
ไม่เห็นต้องทำเสียงแบบนั้นเลย”เดือนอ้ายว่า
‘อ้าย’
“พี่ชายน่ะ”เดือนอ้ายบอกออกไปก่อนที่จะทำให้อีกคนโมโหไปมากกว่าที่เป็นอยู่
‘ที่รัก?’น้ำเสียงสงสัยถามขึ้น สกายต้องการความมั่นใจว่าเขามีคู่แข่งไหม
“ก็เรียกมาตั้งแต่เด็กนี่น่า”
‘งั้นก็แล้วไป’
“หายเคืองกันบ้างหรือยัง”เดือนอ้ายถามกลับไป จริง ๆ
เรื่องแบบนี้ไม่มีอะไรที่จะต้องห่วงหรอกเดือนอ้ายนะถ้าได้คุยกับใครจะคุยแค่คนคนเดียว
และถ้ารักใครแล้วคนอื่นยิ่งหมดสิทธิ์ไปใหญ่เพราะถ้ารักใครแล้วเขาจะไม่มีการเผื่อใจไปใจดีกับคนอื่นนอกจากแฟนของตัวเองหรอกนะ
เพราะการที่เราใจดีกับคนอื่นอกจากคนของตัวเองมีแต่จะทำให้อีกคนไม่สบายใจและต้องมาทะเลาะกันให้เจ็บปวด
เพราะฉะนั้นเดือนอ้ายจะไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน
‘ครับ’ร่างสูงตอบ
“แล้วตอนนี้ถึงห้องรึยัง”
‘ถึงแล้วครับ’
“ดีแล้วละงั้นก็พักผ่อนเถอะ
ฉันจะเข้านอนแล้วเหมือนกัน”
‘ครับ
ฝันดีนะ’
“ฝันดี”
ป๊า แม่ช่วยน้องเดือนอย่าให้เจอกับความเจ็บปวดทีนะครับ
และขอให้เดือนสิบเจอกับความสุขของตัวเองที
.
.
ในห้องครัวเช้านี้บรรยากาศคึกคักกันเป็นพิเศษเพราะว่าคุณหนูเล็กของบ้านกำลังทำอาหารอย่างมีความสุขทำเอาทุกคนต่างก็ยิ้มแย้มมีความสุขไปตาม
ๆ กัน
“วันนี้อารมณ์ดีจังนะคะน้องเดือน”คุณย่าคนสวยพูด
“ก็เดือนมีความสุข”
“แล้ววันนี้จะพาเพื่อนเที่ยวโซนไหนดีคะ”
“วันนี้จะพาไปที่สวนผลไม้ครับแล้วก็โรงผลิตไวน์”ว่าพร้อมกับหยิบจับเครื่องปรุงทำอาหารไปด้วยอย่างคล่องแคล่ว
“แล้วพี่สิบจะไปด้วยไหมจ๊ะ”
“ยังครับ
เห็นว่ามีเอกสารต้องเคลียร์ด้วย”
“งั้นให้คนงานของเราพาไปนะคะ”
“ครับ”
.
.
“อากาศดีชะมัด
กูตื่นไม่ทันยัยหนูอ้ายเหรอวะ”ไม้ว่าเมื่อนั่งลงที่โต๊ะทานอาหาร
“หอมมากเลย
อากาศดีบวกกับข้าวต้มร้อน ๆ”ตั้มว่าเสริม
“พูดมากจริงไอ้เด็กพวกนี้”เพื่อนเฮียฟลุ๊คว่าขึ้น คงรำคาญเกินทนสินะ
“โหยเฮียอ่ะ”
“วันนี้คนเล็กจะพาเพื่อนเที่ยวในไร่ใช่ไหมครับ”เดือนสิบถามน้อง
“ใช่ครับที่สวนผลไม้แล้วก็โรงผลิตไวน์”
“งั้นเย็นนี้ก็ปาร์ตี้กับไวน์ได้ใช่ป่ะมึง”ตั้มถามเพื่อนอย่างตื่นเต้น
“ตั้มช่วยสะกดคำว่าเกรงใจหน่อย”ฝนหันไปเอ็ดเพื่อน
“ไม่เป็นไรครับ
ดีเหมือนกันจะได้ช่วยออกความเห็นเรื่องรสชาติด้วย”
“นอกจากส่งออกต่างประเทศมีส่งในไทยบ้างไหมครับ”เพื่อนเฮียฟลุ๊คอย่างเฮียคิงถามขึ้น
เพราะธุรกิจของเฮียคิงทำเกี่ยวกับสถานบันเทิงหรือคลับนั่นเอง
“มีส่งในไทยด้วยครับแต่รับแบบจำกัด”เดือนสิบตอบ
“ถ้าผมจะเอาไปลงที่ร้านบ้างพอจะได้ไหมครับ”
“ลองชิมก่อนดีไหมพี่กลัวไม่ถูกใจ”
ว่าก็ว่าเถอะถ้ารสชาติของไวน์ไม่อร่อยแล้วจะขายดีจนผลิตไม่ทันแบบนี้ไหม
เปล่าอวดนะ!
“ได้ครับ”
.
.
ไร่ผลไม้ของไร่ล้อมเดือนมีพื้นที่ทั้งหมดเก้าร้อยไร่นิด
ๆ มีไร่องุ่นสองร้อยไร่ สตอเบอร์รี่สองร้อยไร่ ส้มสองร้อยไร่ ส่วนที่เหลือปลูกผลไม้อย่างอื่น
ๆ ปะปนกันไป
“ไร่ใหญ่มากเลย”
“กินเลยได้ไหมวะ”
“กินได้เลยเพราะไม่ได้ฉีดยา”เดือนอ้ายบอกเพื่อน
“ผลสวยนะอ้าย”
“ขอบคุณครับเฮีย
เราดูแลกันอย่างดีครับอาจจะมีแมลงสักหน่อยแต่ก็หาวิธีที่ไม่ต้องใช้ยา”เพราะป๊าบอกว่าการใช้สารเคมีหรือยาฆ่าแมลงในของกินมันไม่ปลอดภัยเพราะแบบนั้นจึงมีการคิดค้นวิธีที่ไม่ต้องใช้ยากับผลไม้ในไร่
“หวานมาก”ฝนว่า
“ชอบไหม
เดี๋ยววันที่กลับจะให้คนงานแพ็คไว้ให้เอากลับไปกินแล้วก็ฝากคุณพ่อคุณแม่ด้วย”เดือนอ้ายบอกเพื่อน
“ชอบมากกก”ฝนลากเสียงยาวจนน่าเอ็นดู
และดูเหมือนเฮียทนไม่ไหวกับความน่ารักของแฟนตัวเองจนต้องยีหัวเล็ก ๆ นั่น
“ดีแล้วที่ชอบ
งั้นไปดูโรงผลิตไวน์กันเลยไหม”เดือนอ้ายถามเพื่อนที่ยังคงเพลินกับการถ่ายรูปและการกิน
“ไปดิ ๆ”
“ตามมาเลย”
.
.
ไวน์ของไร่ล้อมเดือนใช้ชื่อที่จดลิขสิทธิ์คือดารารักเป็นชื่อของคุณแม่
เพราะป๊ารักคุณแม่มากทุกอย่างจึงมีชื่อคุณแม่อยู่ในนั้นรวมทั้งเราสองพี่น้องก็ด้วย
เราสองพี่น้องซึมซับความรักของป๊าที่มีต่อแม่มาทั้งหมด
ถ้ารักใครต้องรักแค่คนเดียว
มั่นคงกับคนรักตัวเองให้มากที่สุด ต้องซื่อสัตย์ต่อกัน และที่สำคัญต้องใจดีกับแค่คนรักของเราเพียงคนเดียว
“ส่งออกล็อตหนึ่งเยอะหรือเปล่าอ้าย”เฮียคิงถามขึ้น
“ก็พอประมาณครับ
เพราะกลัวของผลิตไม่ทันส่วนมากลูกค้าจะเพิ่มในแต่ละรอบขึ้นเท่าตัว”
และดูเหมือนจะไม่พอเราจึงต้องผลิตเกินจำนวนอยู่บ่อยครั้ง
“เฮียอยากลองชิมก่อนไหมครับ”เมื่อถามจบเดือนอ้ายก็เรียกผู้จัดการของฝ่ายการผลิตเพื่อขอทดลองสูตรที่กำลังทำการผลิตขึ้นใหม่
.
.
“เกือบลืมไปเลยตอนนี้อากาศกำลังพอดีเหมาะกับการขี่ม้านะ
เดี๋ยวจะพาทุกคนไปหาสีครามกับม่านหมอก”คุณหนูเล็กแห่งไร่ล้อมเดือนพูดเมื่อนึกขึ้นได้
เกือบลืมพาไปแนะนำกับคุณสีครามกับคุณม่านหมอกจนได้
“หือ
ที่ไร่มึงเลี้ยงม้าด้วยเหรอยัยหนูอ้าย”แม็กซ์ถามอย่างสงสัย
“เลี้ยงซี่เลี้ยงมาตั้งนานแล้ว”เดือนอ้ายอารมณ์ดีเพราะจะได้ไปเจอเพื่อนเล่นสมัยเด็ก
“กูว่านะยิ่งรู้เยอะมึงยิ่งรวยกว่ากูอีกนะ”ตั้มว่า แม่งเป็นเด็กทุนได้ไงวะหลอกลวงกูชัด ๆ
“ทั้งหมดนี่มันของป๊ากับแม่ต่างหาก”ในเมื่อไม่ได้สร้างขึ้นมาเองจะเป็นของตัวเองได้ไงละ ก็แค่ดูแลแทนเฉย ๆ
เหอะ
“สุดท้ายก็ของมึงกับพี่สิบอยู่ดี
ว่าแต่มึงมีอะไรที่ยังไม่ได้บอกพวกกูอีกไหม ถ้ากูรู้ที่หลังกูโกรธแน่”คำพูดของเพื่อนทำเอาเดือนอ้ายสะดุดลมหายใจไปนิดหนึ่งก่อนที่จะลอบมองหน้าเฮียฟลุ๊ค
“เอาไว้ค่อยคุยกันตอนกลับได้ไหม”คนตัวเล็กว่าเสียงอ่อย ๆ
“นี้แสดงว่ายังมีเรื่องที่ยังไม่ได้บอกอีกใช่ไหมลูกสาว”ฝนขมวดคิ้วกอดอกมองเพื่อนตัวเล็ก
“ฮือออ
ฝนไม่เอาไม่เครียดนะ เอาเป็นว่าตอนนี้ไปเที่ยวกันก่อนพลีสสสส”
“ก็ได้แต่หลังจากนี้ต้องเล่าให้หมดนะ”
“อือ”
.
.
หลังจากที่ไปสนามม้ากลับมาถึงบ้านก็เหมือนทุกคนจะหมดพลังงานชีวิตกันเรียบร้อยแล้วน่าสงสารจริง
ๆ
“สนุกมากเลยวะ”ว่าแล้วก็ทิ้งตัวลงกับโซฟาอย่างหมดแรง
“ม้าสวยนะ
ราคาคงดี”เฮียว่า
“เคยมีคนมาติดต่อเหมือนกันครับ
แต่เสียใจที่อ้ายไม่มีทางจะขายแน่นอน”ตอนนั้นเดือนอ้ายจำได้ว่าตัวเองโกรธมากแค่ไหนดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ไล่ตะเพิดออกไป
“หึหึ
เรานี่ก็นะ”
เมื่อแยกย้ายกันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมาทานข้าวกันหรือที่เรียกกันว่าปาร์ตี้เล็ก
ๆ ที่จัดขึ้นในบริเวณเรือนแสงอรุณ เป็นปาร์ตี้เล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
ส่วนคนที่สร้างเสียงหัวเราะก็เป็นใครไปไม่ได้คือพวกเพื่อน ๆ
ของคนตัวเล็กนั้นเองที่ขยันพากันปล่อยมุกกันตลอด
และหลังจากปาร์ตี้กันเสร็จก็เหมือนเฮียคิงจะชอบไวน์ของไร่ล้อมเดือนเอามาก
ๆ
จึงได้ทำการพูดคุยเรื่องที่จะนำไวน์ของไร่ล้อมเดือนไปลงที่ร้านเพราะถูกใจกับรสชาติที่ได้ลิ้มลอง
.
.
วันนี้เป็นวันที่เพื่อนของคนตัวเล็กต้องเดินทางกลับกันแล้ว
และก็ถึงเวลาที่เดือนอ้ายต้องบอกความจริงบางอย่างกับเพื่อนซึ่งเรื่องนี้อาจจะทำให้เพื่อนไม่พอใจและถ้ารู้เดือนอ้ายคงต้องเตรียมตัวง้อกันแบบยาว
ๆ เลยทีเดียว
“คุยกันดี
ๆ แล้วพวกเฮียจะไปนั่งเล่นกับพี่สิบรอ ใช้เหตุผลด้วยล่ะ”เมื่อพูดจบก็พากันเดินออกไปปล่อยให้คนตัวเล็กอยู่นั่งอยู่ท่ามกลางสายตากดดันจากเพื่อน
“ว่ามาสิยังมีเรื่องอะไรที่ยังไม่ได้บอก
คายออกมาให้หมดนะ”ไม้เปิดประเด็นก่อนเป็นคนแรก
“สัญญามาก่อนว่าถ้ารู้แล้วต้องห้ามโมโหนะ”ขอกันไว้ก่อนเดี๋ยวระเบิดลง
“กูว่านะเริ่มมาแบบนี้ชักไม่ดีละ”แม็กซ์ว่าพลางหรี่ตามองเดือนอ้าย
“ลูกสาวไปทำอะไรไว้กันแน่”ฝนกอดอกถาม
ตอนนี้เหมือนกับว่าเดือนอ้ายไม่ต่างจากนักโทษที่โดนสอบสวนอยู่เลย
ความกดดันที่แผ่ออกมาจากทุกคนทำให้คนตัวเล็กไม่กล้าที่จะเอ่ยปากพูดเรื่องสำคัญ
“เดือนอ้าย”อย่าเรียกชื่อพร้อมกันแบบนี้ได้ไหมมันใจดีเลย
“กะ
ก็ได้ คะ คือว่า.. กูกำลังดู ๆ กันอยู่กับสกายน่ะ”เดือนอ้ายกลั้นหายใจก่อนที่จะพูดออกไป
เงียบ
นี้คือสิ่งที่ได้รับจากเพื่อนหลังจากที่คนตัวเล็กตอบออกไป
แต่หารู้ไม่ว่าเพื่อนกำลังช็อก
ได้ไงกันนี้มันแอบไปคุยกันตอนไหน
ไม่จริงต้องไม่ใช่สิ
กูหูฝาดแน่ ๆ
ไม่มีทางเป็นไปได้
ไม่นะ ต้องไม่สิ
ตอนนี้ในใจทุกคนมีคิดว่านี้ไม่ใช่เรื่องจริง
จนเดือนอ้ายต้องเรียกสติเพื่อนให้กลับมา
“เอ่อ
ม่ะ..”ยังไม่ทันที่เดือนอ้ายจะได้พูดจบเพื่อนก็พูดตัดขึ้นมาทันที
“มึงเล่นอะไรโกหกใช่ไหม”
“ไม่ได้โกหกนะ
คุยกันได้เดือนกว่าแล้ว”เดือนกว่า! ช็อกยิ่งกว่าเดิม
“อ้าย!!” เพื่อนร้องขึ้นเสียงดัง
“กูเคยบอกแล้วไงว่าสกายมันเป็นคนเจ้าชู้
ทำไมไม่ฟังที่เตือนเลย”เขาไม่อยากให้เพื่อนเสียใจต่อให้เรื่องมันยังไม่เกิดก็เถอะแต่กันไว้ดีกว่าแก้มันย่อมเป็นผลดีไม่ใช่เหรอ
“ขอโทษนะ
ไม่ใช่ว่าไม่ฟังที่เตือนไม่ใช่ว่ามันไม่มีความหมาย แต่กูก็ห้ามใจตัวเองถึงที่สุดแล้วจริง
ๆ”เวลาแค่เดือนเดียวแต่อีกคนกลับสามารถทำลายกำแพงความกลัวของเขาได้ต้องยอมรับว่าสกายเก่งมากที่ทำให้เดือนอ้ายชอบได้
“อ้าย
คิดดีแล้วใช่ไหม”ฝนถามเพื่อน
“เราอยากลองดูสักครั้งลองตามใจตัวเองดู
แต่ถ้าสุดท้ายมันไม่เป็นตามที่เราหวังก็ไม่เป็นไร
เพราะยังไงเราก็ยังมีพวกฝนอยู่ไม่ใช่หรอ ทุกคนยังอยากจะอยู่เคียงข้างเราใช่ไหม”เดือนอ้ายถามเพื่อนเขากลัวเพื่อนเสียใจที่ไม่ฟังคำเตือน
แต่อยากบอกให้รู้ว่าต่อให้เขาจะชอบคนที่เพื่อนบอกว่าอันตรายแต่เดือนอ้ายก็ยังคงรักและแคร์ความรู้สึกเพื่อนเหมือนเดิม
“ไม่อยู่ข้างมึงแล้วจะให้กูอยู่ข้างใคร”ตั้มบอกเพื่อนเพราะต่อให้ไม่ชอบใจนักแต่ก็ไม่อยากบังคับเพื่อน
เมื่อเดือนอ้ายชอบคนคนนั้นไปแล้วพวกเขาคงทำได้แค่อยู่ข้าง ๆ
เพื่อนตัวเล็กของตัวเองไม่ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
“เอาเถอะ
แต่ถ้ามันทำมึงร้องไห้หรือเสียใจเมื่อไหร่กูไม่ปล่อยไว้แน่”ไม้บอกเพื่อน
ถ้ามึงเสียใจมันต้องอยู่ไม่สุข
“ขอบคุณมากนะ”ขอบคุณที่รักเขามากขนาดนี้
ขอบคุณที่ไม่โกรธ
ขอบคุณที่เข้าใจ
ขอบคุณที่คอยอยู่ข้าง
ๆ
ขอบคุณทุกคนมากจริง
ๆ
.
.
.....................................................................
หลังจากที่เพื่อนกลับเดือนอ้ายก็อยู่ช่วยงานที่ไร่ต่อจนกว่าจะเปิดเทอม
แต่ใช่ว่าคนตัวเล็กต้องอยู่คนเดียวเพราะเดือนสิบก็ยังคงกลับบ้านมาหาน้องทุกวันเช่นกัน
มีบางครั้งที่เดือนอายทำอาหารกลางวันไปให้พี่ชายถึงที่ทำงาน สองพี่น้องใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้คุ้มค่าที่สุดก่อนที่เดือนอ้ายจะต้องกลับไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ
และก็มีอีกคนที่โทร.มาวอแวกับคนตัวเล็กอย่างสม่ำเสมอ
งอแงว่าให้รีบกลับได้แล้ว ทำเอาเดือนอ้ายกลั้นยิ้มแทบไม่อยู่
แต่ยังไงก็ช่วยรออีกนิดก็แล้วกันเดือนอ้ายจะรีบกลับไปหาและบอกเรื่องสำคัญกับอีกคนด้วยตัวของเดือนอ้ายเอง
“ไงครับวันนี้น้องเดือนไปซนที่ไหนมาบ้างเล่าให้พี่สิบฟังสิ”เดือนสิบเอ่ยถามน้อง
ตอนนี้สองพี่น้องกำลังเตรียมตัวที่จะเข้านอนกันแล้วและสิ่งที่ต้องทำทุกวันคือการรายงานตัวกับเดือนสิบว่าในแต่ละวันทำอะไรไปบ้างเหมือนเป็นการแชร์เรื่องราวให้พี่ชายได้รับรู้
“วันนี้เดือนทำหลายอย่างเลยครับ ไปตรวจงานที่โรงผลิตไวน์ เก็บผลไม้
เช็คเอกสารกับตรวจบัญชีของไร่ แล้วก็ไปเล่นกับคุณสีครามและคุณม่านหมอกด้วย”เดือนอ้ายตอบพี่ด้วยน้ำเสียงร่าเริง
“อย่าทำอะไรเกินตัวนะครับพี่เป็นห่วงนะรู้ไหม”บอกน้องพร้อมกับลูบหัวไปด้วย
“ครับ
เดือนสัญญาว่าจะทำเท่าที่ทำได้”
“พร้อมจะฝันดีหรือยังครับคนเก่ง”เมื่ออยู่ที่บ้านเราเดือนสิบก็อยากให้น้องฝันดีที่สุด
ในความฝันนั้นจะต้องไม่มีเรื่องรบกวนจิตใจของน้อง
“ฝันดีนะครับเดือนสิบของน้องเดือน”ว่าแล้วก็เงยหน้าจูบเบา ๆ ที่ปลายคางของเดือนสิบอย่างที่เคยทำเป็นประจำ
“ฝันดีครับเดือนอ้ายของพี่สิบ”ก่อนจะกดจมูกที่ลงที่หน้าผากสวยของน้อง
จงหลับฝันดีในวันนี้และยิ้มรับกับเช้าวันใหม่ที่แสนสดใสที่กำลังจะมาถึงนะครับ
.
.
หลังจากที่เดือนอ้ายกลับมาบ้านได้สองสัปดาห์ก็ถึงเวลาที่จะต้องกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ
คนตัวเล็กซึมลงไปทันทีเมื่อรู้ว่าถึงเวลาที่จะต้องห่างจากบ้านและทุกคนอีกครั้ง
“ไม่เอานะครับคนเก่ง”เดือนสิบกอดปลอบน้องเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กเริ่มเบะปากเตรียมจะร้องไห้แล้ว
“ฮึกก
ฮึก”
สุดท้ายเดือนอ้ายก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวจนต้องปล่อยโฮกอดพี่ชายแน่น
“โธ่
คนดีของย่าไม่เอาไม่ร้องนะลูก”คุณย่ารีบปลอบหลานสุดที่รักด้วยอีกคน
“เดือน
ฮึก ไม่อยากไป ฮึก แล้ว”ตอบพร้อมกับร้องไห้ไม่หยุด
“ชู่วว
ไม่ร้องนะครับเดี๋ยวปวดหัวแย่”เดือนสิบบอกน้อง
“สิบ
ฮึกก ย่าบัว ไม่เอา ฮือออ”เหมือนการปลอบจะไม่เป็นผลเลยทำเอาคนที่มองอยู่ปวดใจไปตาม
ๆ กัน โธ่ลูกไม่อยากให้ร้องเลยคนเก่ง
“โอ๋ ๆ
นะครับ”
.
.
เมื่อปลอบกันอยู่นานก็ถึงเวลาที่เดือนอ้ายต้องไปจริง
ๆ
แล้วและตอนนี้คนตัวเล็กก็ยืนอยู่ที่สนามบินเป็นที่เรียบร้อยส่วนคนที่มาส่งก็คือเดือนสิบ
เพราะรู้ว่าถ้าให้ย่าบัวมาด้วยอีกคนน้องต้องไม่อยากกลับไปแน่ ๆ
กว่าจะปลอบกันได้เล่นเอาปวดใจกันเยอะเหมือนกันใครจะไปอยากเห็นน้ำตาน้องตัวเองกัน
“ดูแลตัวเองดี
ๆ นะครับ”เดือนสิบบอกคนที่กอดแขนเขาไม่ยอมปล่อยแถมยังเอาหน้าซุกลงไปอีก
“ที่รัก”เดือนอ้ายเรียกพี่เสียงเบา
“ว่าไงครับ
หืม”เอ่ยถามน้องพลางลูบผมนุ่มไปด้วย
ไม่ใช่แค่น้องหรอกนะที่ไม่อยากกลับไปเขาเองก็ไม่อยากให้น้องไปเหมือนกัน
เป็นห่วงจะแย่
“รักนะ”อยู่ดี ๆ
คนตัวเล็กก็บอกรักพี่ซะงั้นทำเอาเดือนสิบเลิกคิ้วมองน้องริมฝีปากระบายยิ้มเอ็นดู
“รักเหมือนกันนะครับ
สัญญากับพี่สิบนะว่าจะดูแลตัวเองให้ดี”
“อือเดือนสัญญา”เกี่ยวก้อยกับพี่ชายเหมือนที่เคยทำกันตอนเด็ก ๆ
“เดินทางปลอดภัยนะครับน้องเดือน
พี่สัญญาจะขึ้นไปเยี่ยมบ่อย ๆ”เดือนสิบบอกกับน้องก่อนที่คนตัวเล็กจะเช็คอินเข้าข้างใน
“ที่รักสัญญาแล้วนะ
ฮึกก”สุดท้ายก็ร้องไห้อีกจนได้
“ครับพี่สิบสัญญา”
เมื่อได้คำตอบคนตัวเล็กก็เดินหันหลังเข้าไปข้างในทันที
กลัวเดือนสิบไม่สบายใจที่เขาเอาแต่ร้องไห้แบบนี้ รีบ ๆ
ไปหาเดือนที่นู้นนะเดือนจะรอ
.
.
เมื่อเท้าเหยียบสนามบินคนตัวเล็กก็เดินลากกระเป๋าออกมา
ทำให้คนที่มารอรับรีบเดินเข้าไปหาทันทีก่อนที่จะสวมกอดด้วยความคิดถึง
“กลับมาได้สักทีนะครับแมวเหมียว”สกายว่า
“อือ”ตอบกลับไปเพียงเท่านั้นก่อนที่จะยื่นกระเป๋าให้กับอีกคนที่รอรับไปถือให้
“ทำไมตาช้ำแบบนี้ล่ะครับร้องไห้มาเหรอ”ร่างสูงเอ่ยถามคนตรงหน้า มันช้ำจนน่ากลัว
“ไม่มีอะไรแค่คิดถึงบ้านนะ”เดือนอ้ายตอบคนตัวสูงก่อนที่จะเดินไปขึ้นรถพร้อมกัน
“นึกว่าใครทำแมวเหมียวร้องซะอีก
ไม่ร้องแล้วนะครับเดี๋ยวคนที่บ้านไม่สบายใจ”
“อือ”เดือนอ้ายตอบกลับเพียงเท่านั้นก่อนที่จะหลับตาลง เขาต้องการพักสักนิด
สกายเหลือบมองคนตัวเล็กแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่ปรับเบาะแล้วหยิบเสื้อมาห่มให้คนตัวเล็กเท่านั้น
.
.
การจราจรในเมืองหลวงก็แบบนี้รถติดกันยาวเหยียดกว่าที่มาถึงคอนโดคนตัวเล็กได้ก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมง
และดูเหมือนว่าอีกคนจะเพลียมากจริง ๆ สงสัยเขาคงต้องอุ้มขึ้นไปแล้วล่ะ
เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงดับรถก่อนที่จะเดินอ้อมไปเปิดประตูรถอีกฝั่งก่อนที่ช้อนร่างของเดือนอ้ายขึ้นไว้ในอ้อมแขนแกร่งของตนเองก่อนที่จะเดินเข้าคอนโดไป
.
.
ก่อนจะค่อย ๆ
วางอีกคนลงบนเตียงเพื่อไม่ให้รบกวนการพักผ่อนของคนตัวเล็กลูบผมนุ่มที่ปรกหน้าผากสวยอย่างเบามือก่อนที่จะก้มลงจูบเบา
ๆ ที่หน้าผากสวยของคนตัวเล็ก
“ฝันดีนะครับ”บอกกับอีกคนก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องนอนของเดือนอ้าย
เขาจะรอจนกว่าแมวเหมียวจะตื่น
ระหว่างรอก็ดูหนังไปก่อนแล้วกัน
เดือนอ้ายตื่นอีกทีในช่วงเย็นก่อนที่จะขยับตัวกลิ้งบนเตียงกว้างไปมา
ว่าแต่เขามานอนอยู่บนเตียงได้ยังไงกัน
ก็จำได้ว่าก่อนหลับยังนั่งอยู่บนรถอยู่เลยนี่น่า จริงสิ!
สกาย ต้องเป็นคนตัวสูงแน่ ๆ ที่พาเขามาส่งถึงห้องแต่ว่าไปไหนซะแล้วล่ะ
หรือกลับไปแล้ว
และเมื่อเดินออกมาจากห้องนอนก็ต้องตกใจ
หืม?
ทำไมมานอนตรงนี้ได้เนี่ย
ภาพตรงหน้าคือร่างสูงของสกายที่กำลังกอดหมอนอิงใบเล็กไว้แนบอกนอนหลับบนโซฟากลางห้องนั่งเล่นขาที่ยาวกว่าโซฟาเห็นแล้วก็สงสาร
เดือนอ้ายเดินกลับเข้าไปในห้องนอนอีกครั้งและกลับออกมาพร้อมกับผ้าห่มผืนเล็กก่อนจะเดินไปห่มให้คนตัวโตที่หลับอยู่
หลังจากนั้นก็คงต้องทำอาหารเย็นแต่ก่อนอื่นต้องดูว่ามีอะไรพอที่จะทำเป็นอาหารให้เราสองคนอิ่มได้บ้าง
ไหนดูซิมีของที่พอจะทำเป็นอาหารได้บ้างไหมนะ
เดือนอ้ายที่ยืนทำอาหารเพลิน
ๆ ก็ต้องสะดุ้งเมื่อมีอ้อมแขนแข็งแรงรัดรอบเอวหลวม ๆ
พร้อมกับความรู้สึกหนักที่ไหล่เพราะอีกคนใช้เป็นที่พักคางไปแล้ว
“ทำไมไม่นอนต่ออีกหน่อยล่ะ”คนตัวเล็กถามออกไปและก็ได้คำตอบเป็นการส่ายหัวที่ซบอยู่กับไหล่ของเขา
“เมื่อยคอครับ”เสียงงัวเงียตอบกลับ
น่าสงสารจัง
เกิดมาตัวสูงกว่าคนอื่นเขาก็แบบนี้แหละ
“ไปล้างหน้าก่อนไหมจะได้สดชื่นแล้วมาทานข้าวกัน”เดือนอ้ายบอกคนตัวสูงแล้วยกมือขึ้นเสยผมที่ปรกตาของสกายขึ้นให้
เมื่อได้สบตากันตรง
ๆ ในระยะที่ใกล้กันเพียงแค่ลมหายใจทำให้สกายค่อย ๆ
ก้มหน้าจรดริมฝีปากแนบกับริมฝีปากบางของเดือนอ้ายอย่างแผ่วเบาก่อนที่จะผละแล้วมองหน้าคนตัวเล็กที่ตอนนี้นิ่งไปแล้ว
“จูบได้ไหมครับ”ทั้ง ๆ ที่ถามออกไปแบบนั้นแต่กลับไม่รอคำตอบหรือคำอนุญาตจากคนที่กำลังอึ้งตรงหน้าสกายก็กดจูบลงไปอีกรอบและดูดดึงปากล่างของคนตัวเล็กเบา
ๆ
แต่รอบนี้เดือนอ้ายเหมือนเก็บกวาดเอาสติของตัวเองกลับมาได้จึงยกมือขึ้นยันอกอีกคนให้ออกห่างก่อนที่อะไร
ๆ มันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้
“พะ
พอแล้ว”เดือนอ้ายบอกเสียงสั่น
“ขอโทษครับ
ตกใจมากไหม”สกายรีบถามคนตรงหน้าที่ตอนนี้เอาแต่ยืนก้มหน้า
“ไม่เป็นไร
แค่ตกใจนิดหน่อยน่ะ”
“ปากช้ำเลยขอโทษนะครับ”ประโยคของร่างสูงทำเอาเดือนอ้ายหน้าร้อนจนต้องรีบหันกลับไปทำกับข้าวต่อแล้วเม้มปากแน่น
“ไปล้างหน้าได้แล้ว”เดือนอ้ายออกปากไล่อีกคนแต่ไม่ยอมหันหน้ากลับมาสบตา
ทำเอาร่างสูงหัวเราะให้กับคนที่เขินจนทำอะไรไม่ถูก
อย่างน้อยก็ไม่โดนโกรธล่ะนะ
น่าเอ็นดูไปหมดเลยแมวเหมียว
“ครับ ๆ”รับปากก่อนที่จะก้าวเท้าออกจากห้องครัวเพื่อให้อีกคนได้ทำอาหารได้สะดวกโดยไม่เกร็ง
เดือนอ้ายเมื่อเห็นร่างสูงของสกายเดินหายออกไปแล้วจึงยกมือขึ้นปิดหน้าที่ร้อนยิ่งกว่าเตาอบซะอีก
นั้นเป็นจูบแรกของเรา
และก็เป็นจูบแรกของเขาเช่นกัน
ความรู้สึกตอนที่ได้สัมผัสริมฝีปากของอีกคนผ่านรสจูบเมื่อครู่นั้นมันเหมือนกับว่าได้ลอยอยู่ในอากาศที่รอบ
ๆ ตัวเต็มไปด้วยผีเสื้อมากมาย ทำให้สมองของเขาหยุดสั่งการไปโดยอัตโนมัติ
ถ้าถามถึงความรู้สึกที่โดนจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัวแบบนี้มันก็มีทั้งข้อดีและไม่ดี
ข้อดีคือมันทำให้รู้ว่าอีกคนได้ขยับเข้ามาใกล้เขาได้อีกก้าวแล้วและเขา..ก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจ
อยู่ตรงนี้ด้วยกันไปนาน
ๆ เลยนะคุณท้องฟ้า
บนโต๊ะอาหารนั้นเงียบเพราะเดือนอ้ายไม่กล้าที่จะสบตาร่างสูงของสกายที่จองมองอยู่ที่ริมฝีปากของเดือนอ้ายจนเองคนต้องกัดปากแน่น
“แมวเหมียวไม่กัดปากนะครับ”สกายบอกกับอีกคนเขาละกลัวปากสวย ๆ จะเป็นแผลจริง ๆ
“งั้นก็เลิกจองกันสักทีสิ”เดือนอ้ายพูดเสียงเบา
“หึหึ
โอเคครับทานข้าวกันดีกว่า”สกายยอมเปลี่ยนความสนใจมาเป็นอาหารหน้าตาน่าทานบนโต๊ะที่คนตัวเล็กทำ
“อือ
ทานกันเถอะ”คนตัวเล็กตอบ
“คืนนี้ค้างด้วยนะครับ”ประโยคที่ร่างสูงพูดออกมาทำเอาเดือนอ้ายชะงักไปอีกรอบ
“ค้างทำไม
ไม่เอา”เดือนอ้ายปฏิเสธ
“ก็อยากอยู่ใกล้
ๆ แมวเหมียวนิครับ ไม่เจอกันตั้งนานคิดถึงจะแย่”
หึ
ไม่ตกหลุมง่าย ๆ หรอกนะอย่าอ้อนซะให้ยาก
“นะครับ
ขอค้างด้วยนะ”
“ม่ะ...”
“นะครับ”
ก็บอกว่าไม่ไงเล่า!!
.
.
.
“ก็ได้
แล้วเสื้อผ้าล่ะ”
.....
#ฟ้าคลั่งรัก
แปลกไหมคั้บ
มันแปลกแหละ แต่เดี๋ยวถ้ามีโอกาสเราจะแก้ตัวเรื่องหน้าเน้อ แหะๆ
ความคิดเห็น