คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : นี้หรอชนเผ่าที่หายสาบสูญ
“กริ่ง กริ่ง” เสียงจากโมบายกระดิ่งลม ที่อยู่ติดบริเวณหน้าต่าง เสียงดังไพเราะ เป็นเสียงที่บ่งบอกว่า
ในขณะนั้นลมกำลังพัดเย็นสบาย โดยที่ เด็กหนุ่มผมขาวตาสีฟ้ากำลังนอนหงายหน้า
อ่านแผ่นโปรแกรมใสสีฟ้าอ่อนจาก ไดแมนชั่นโซน ในห้องของเขาเอง จากนั้น
เขาก็พูดขึ้นมาอย่างแผ่วเบาว่า
“ช่างตีอาวุธ
เป็นอาวุธที่คอยช่วยเหลือคนที่ทำสงครามโดยการทำอาวุธขึ้นมา หรือ
ซ่อมอาวุธที่เสียหายในสงคราม …หรอ?”ซาอ่านพร้อมกับเกาศรีษะของตัวเอง
“นี้เราต้องเป็นพวกที่ช่วยเหลืออยู่ข้างหลังงั้นหรอ
รู้สึกไม่เข้ากับตัวเองเลยแหะ”พูดด้วยสีหน้า เบื่อหน่าย
‘ตั้งแต่จบการทดสอบมานี้ก็
1 อาทิตย์แล้วสินะ และยิ่งกว่านั้น ตอนที่เราเล่าเรื่องการทดสอบให้ครอบครัวฟัง
ดูเหมือนว่า ม๊า ป๋า และ อายะ
จะรู้กันอยู่แล้ว เห้ออ ให้ตายสิ ถ้ารู้ก็น่าจะบอกกันมั้งนะแต่ว่าเราก็ไม่ได้เล่าเรื่องหน้ากากคุโระฮาคุกับเรื่องที่เรากลายเป็นบอสให้ฟังละนะ... ’ในขณะที่ซากำลังคิดในใจจากนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
ต่อมาก็มีเสียงของเด็กสาวเสียงง่วงงัวเงีย
“พี่ซา
มีของจากที่โรงเรียนส่งมาหนะ”เมื่อเธอพูดจบก้บิดกอนประตูเข้ามา
เมื่อซาเห็นดังนั้นจึงรีบลุกขึ้นมาจากเตียงอย่ารวดเร็ว
‘นี้อายะอย่างน้อยก็ให้พี่บอกอนุญาติให้เข้าห้องก่อนสิ’ซาคิดพร้อมกับทำหน้าเหยๆจากนั้นเด็กหนุ่มผมขาวหันไปมองเด็กสาว
ผมสีขาวยาวสลวยร่างเล็ก นัยน์ตาสีฟ้าคราม พร้อมกับ กลิ่น
ลูกกวาดหวานๆจากตัวของอายะ
“อะนี้พี่ซาของที่มาส่ง
มาม๊าบอกให้เอามาให้หนะ”เด็กสาวผมขาวพูดจบก็ยื่นกล่องสีเหลี่ยมจัตุรัส
สีขาวล้วน ขนาดเท่ากับ ตะกร้าปิกนิค โดยที่บริเวณหน้ากล่องมี ตัวหนังสือเขียนว่า KUROHAKU
“มาแล้วหรอ
ชุดเครื่องแบบนักเรียน มาไวกว่าที่คิดแห๊ะ” เด็กหนุ่มผมขาวพูดพร้อมกับยื่นมือไปรับกล่องที่อายะถืออยู่
จากนั้น ซาก็เดินไปนั้งที่เก้าอี้สีขาวสะอาดที่อยู่ภายในห้องของเขาและวาง
กล่องที่ส่งมาจากโรงเรียนบนโต๊ะของเขา ต่อมา ซาจึงเปิดกล่องออกพบว่าภายในกล่องมีชุดนักเรียนสีดำ
เป็นเสื้อแขนยาวคล้ายๆชุดสูทโดยมี เสื้อด้านในสีขาว และมีเน็ทไทร์สีดำโดย
มีเข็มกลัดสีขาวเป็นรูป ดาบคล้ายๆกางเขนและสมุดกางออกไขว้กัน
โดยขนาดประมาณอุ้มมือนึงแต่มีน้ำหนักเบาต่อ มาเป็นกางเกงขายาวสีดำและรองเท้าสีดำ จากนั้นก็มีสมุดวิธีการแต่งกายและกฎระเบียบต่างๆในโรงเรียนอยู่ในกล่อง
“มีครบเลยแหะ..”ซาพูดขึ้นและหยิบเสื้อขึ้นมา จากนั้นก็มีกระดาษใบเล็กร่วงลงมาจากเสื้อ
เมื่อเด็กหนุ่มเห็นจึงหยิบขึ้นมาอ่าน พบว่ามีตัวอักษรสีดำดูเป็นทางการเขียนไว้ว่า
“
พรุ้งนี้เปิดเรียนขอให้นักเรียนทุกคน
กรุณามาที่โรงเรียนกันทุกคนในวันพรุ้งนี้ด้วยค่ะ
จาก ผอ. โรงเรียนคุโระฮาคุ ”เมื่อเด็กหนุ่มอ่านจบถึงกับผงะและคิดในใจว่า
‘กระทันหันจังฟระครับ’จากนั้นก็มีเสียงจากน้องสาวของตัวเองแทรกเข้ามา
“พี่ซามีอะไรหรอ”เด็กสาวผมสีขาวพูดขึ้นขณะที่กำลังนอนอยู่บนเตียงของซา
“ไม่มีอะไรหรอก”จากนั้นซาก็พูดต่อ
“แล้วก็กลับไปนอนที่เตียงของตัวเองสิครับคุณอายะ”
“ไม่เอาง่วงแล้ว..”อายุพูดพร้อมกับซุกหัวเขาไปในหมอนของซา
“เห้อ..เอาเถอะแต่อย่านอนจนถึงตอนเย็นละ”เด็กหนุ่มผมขาวพูดด้วยสีหน้าช่วยไม่ได้เพราะถึงพูดยังไงอายะก็ไม่ไปอยู่ดี
“คร้า พี่ชายยยยยยย”อายะพูดจบก็หลับไปอย่างรวดเร็ว
‘หลับเร็วไปแล้วเฟ้ยย’
.......................................................................................................................................................
โรงเรียนคุโระฮาคุ
.
.
ผู้หญิงผมดังโงะสีม่วงกำลัง
คุยประชุมกับ ผู้คนประมาณ 50 คน โดยผู้คนทั้ง 50 คนนั้น ใส่ผ้าคุมสีดำกันทั้งหมดโดย
ที่ที่พวกเขาประชุมกันอยู่นั้นประกอบไปด้วย โต๊ะลักษณะวงกลมขนาดใหญ่
และมีเก้าอี้รายล้อมเป็นสีดำทั้งหมด และ ผู้ที่สวมผ้าคุมสีดำทุกคนนั้นมี
ป้ายสีขาวและมีหมายเลขสีดำติดอยู่
“เน่ เน่ คิดยังไงกับนักเรียนในปีนี้หนะ ผู้อำนวยการ”เป็นเสยงค่อนข้างสดใสจากหมายเลข 13
“นั้นสินะ ก็มีคนน่าสนใจเข้ามาหนะ ก็พวก ผู้สืบทอดดาบศักดิ์สิทธิและดาบต้องสาป ผู้กล้าที่เคยถูกอัญเชิญไปต่างโลก คนจากชนเผ่าที่หายสาบสูญ ครึ่งปีศาจ ครึ่งเทพ พวกกลับชาติมาเกิด และก็ เด็กต้องสาปที่เคยก่อคดีโศกนาฏกรรมซากุระสีเลือด ”ผู้อำนวยการของโรงเรียนได้ตอบคำถามของหมายเลข 13
“เด็กน่าสนใจเยอะจัง
ผู้กล้าที่เคยถูกอัญเชิญไปต่างโลก จะมาจากโลกเดียวกันกับเค้าบ้างไหมน้า”หมายเลข 13 พูดด้วยท่าทางร่าเริง
“โศกนาฏกรรมซากุระสีเลือด...”หมายเลข1พูดขึ้น ทำให้อีกหลายคนตกใจ
“สนใจงั้นหรอ คุคุ
หมายเลข1”เป็นเสียงขี้เล่นของหมายเลข 2
“น่าแปลกใจนะ หมายเลข
1ที่ไม่เคยสนใจสิ่งรอบข้าง เกิดสนใจบางอย่างขึ้นมาเนี้ย” หมายเลข
25 พูดขึ้นด้วยท่าทางน่าสนุก
“เอาละ เงียบๆกันหน่อย ”ผู้หญิงผมดังโงะตะโกนเสียงดังทำให้ หมายเลขทั้งหมดเงียบลง
“ในวันพรุ้งนี้
จะเป็นวันเปิดเทอม และก็เป็นวันที่ นักเรียนจะได้รู้ห้องเรียนของตัวเองโดย
คะแนนจากการฆ่า ในวันพรุ้งนี้ละนะ ”ผู้อำนวยการโรงเรียนพูดพร้อมกับยิ้มแสยะ
‘พรุ้งนี้คงมีเรื่องสนุกๆเกิดขึ้นแน่ๆ’
…………………………………………………………………………………………………...
“คุโระฮาคุ
ได้โปรดอย่าฆ่าพวกเราเลยได้โปรด อ้ากกกกกกกกกกกก”
เป็นเสียงอ้อนโวนที่แสนที่เต็มไปด้วยความเวทนา
‘อะไรกันนี้เรากำลังทำอะไรอยู่’ซาคิดขณะที่กำลังถือดาบคาตานะสีดำสนิทค่อนข้างยาวมีไอสีดำกระจายฟุ้งไปทั่วและที่ปลายดาบมีเลือดติดเลอะเป็นคราบ
ประกอบกับกลิ่นคาวเลือดและสิ่งที่น่าชวนอ้วกคือซากศพของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์อยู่เป็นจำนวนมาก
.
.
“ฮื่อ ฮื่อ พ่อจ๋า
แม่จ๋า อยู่ที่ไหน”ต้นตอของเสียงนั้นเป็นเด็กผู้หญิงผมสีบลอนทองตัวเล็กกำลังนั้งร้องไห้ด้วยใบหน้าเปอะไปด้วยคราบเลือด
ในตอนนั้นเองร่างของซาก็เดินไปหาเด็กผู้หญิงดังกล่าวโดยถือดาบคาตานะที่เต็มไปด้วยคราบเลือด
พร้อมกับรังสีฆ่าฟัน
‘นี้!!!! หนีไปเร็วเข้าสิ หยุดนะเฟ้ย หยุดสิตัวฉันน’ซาไม่สามารถพูดออกมาได้ราวกับว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ร่างกายของเขาเองในตอนนั้นเอง
แขนที่จับดาบอยู่นั้นได้ฟันไปที่เด็กที่อยู่ด้านหน้าของเด็กหนุ่ม อย่างไม่ลังเล
ไม่มีทั้งเสียงกรีดร้อง ไม่มีทั้งน้ำตา เป็นการฆ่าที่ไร้ซึ่งความปราณี
.
.
‘ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ หยุดซะทีได้โปรด’เด็กหนุ่มผมขาวได้แต่กรีดร้องอยู่ภายในใจทันใดนั้นก็มี ผู้คนวิ่งหนีกันเป็นกลุ่ม และร่างกายของเขาก็ตอบสนองกับผู้คนเหล่านั้นโดยพุ่งไปหาด้วยความรวดเร็วและสบั้นคอของผู้คนเหล่านั้นทุกคน ศรีษะปลิวว้อนไปตามแรงลมสายเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วทำให้พื้นที่เขาเหยียบรวมตัวกันเป็นแอ่งน้ำสีเลือดขนาดใหญ่
‘ทำไมถึงทำแบบนี้แกเป็นใครเลิกควบคุมตัวฉันซักที’เด็กหนุ่มที่เห็นสภาพการสังหารหมู่โดยตัวของเขาเองเป็นคนลงมือฆ่าได้ตะโกนถามออกไปถึงจะรู้ว่ามันไร้ความหมายแต่เขาก็ยังจะอยากจะถามทันใดนั้นก็มีน้ำตาไหลจากภายใต้หน้ากากสีดำสนิทไหลออกมาและก็มีคำๆนึงถูกกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า
.
“ขอโทษ...”จากนั้นก็มีฝนตกลงมาเป็นสีแดงสด
ราวกับกำลังบ่งบอกว่าทุกอย่างไม่ควรได้รับการให้อภัย
‘นี้แกเป็นใครกันแน่’ทันใดนั้นก็มีแสงสว่างจ้าทำให้ซารู้สึกแสบตาจนสะดุ้งตกใจ…
..
...
......
..........
“แกเป็นใครกันแน่!!!”เด็กหนุ่มผมขาวได้ตะโกนเสียงดังลั่นบ้านจนทำให้อายะเปิดประตูเข้ามาและพูดว่า
“พี่ซาเกิดอะไรขึ้น...”เมื่ออายะเข้ามาจึงเห็นพี่ชายของตัวเองที่ลุกขึ้นมาโดยที่ใบหน้าของเด็กหนุ่มนั้นมีน้ำตาไหลออกมา
เหมือนกับท้องฟ้าที่มีฝนตกลงมา
“...ป่าวไม่มีอะไรหรอกแค่ฝันร้ายหนะ”ซาพูดขณะที่ใช้ผ้าห่มเช็ดน้ำตาของตัวเองเมื่อเช็ดเสร็จซาจึงยิ้มราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่ออายะเห็นว่าไม่เป็นอะไรจึงพูดต่อว่า
“เห้ออ ถ้าพี่ซาไม่เป็นอะไรแล้วก็ดี
และก็ได้เวลาตื่นไปโรงเรียนพอดี อายะมาปลุกพี่ซาหนะ”
“คร้าบ คร้าบ
จะไปเดี๋ยวนี้ละครับ”เด็กหนุ่มผมขาวพูดจบก็ลุกขึ้นจากเตียงและบิดตัวไปทางซ้ายจากนั้นก็เดินออกจากห้องของเขาไป
ทันใดนั้นอายะก็พูดเบาๆว่า
“...นี้ยังไม่หายไปจากตัวของพี่ซาอีกงั้นหรอ...คุโระฮาคุ” พร้อมกับกำหมัดแน่น..
.......................................................................................................................................................
โรงเรียนคุโระฮาคุ
.
.
.
‘กลิ่นหอมจากดอกไม้บริเวณด้านหน้าโรงเรียนเป็นกลิ่นที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
ทำให้เวลาเดินนั้นไม่รู้สึกถึงความเหนื่อยหรือตื่นเต้น เป็นกลิ่นที่ดีจริงๆ’เด็กหนุ่มผมสีขาวในชุดเครื่องแบบนักเรียนดูแล้วค่อนข้างเหมาะกับตัวของเขาอย่างมากเนื่องจากผมสีขาวตัดกับชุดสีดำ
และตราโรงเรียนที่ค่อนข้างเด่นแล้ว ทำให้ดูสุภาพมากขึ้น
‘วันนี้เป็นเปิดเทอมวันแรกสินะชักจะตื่นเต้นแล้วสิ’ซาคิดพร้อมกับมองนักเรียนคนอื่น ก็พบเห็นผู้หญิงผมสีส้มยาวสวมแว่นน่ารัก เด็กผู้ชายผมสีน้ำเงินเข้ม ผู้ชายร่างยักษ์ ที่ดูแล้วไม่อยากเข้าไปไกล้ และ ผู้หญิงผมสีดำมัดผมหางม้า พอเดินไปได้สักพักก็เจอประตูโรงเรียน แสตนเลสมันวาวขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าโรงเรียนจากนั้นเมื่อซาเดินผ่านประตูทางเข้า ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าถูกสแกนแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทำให้ซาหลับตาไปชั่วขณะนึง
‘เมื่อกี้นี้อะไรหนะ’จากนั้นเมื่อซาลืมตาขึ้นก็พบว่าทุกคนต่างไปจากเดิม ผู้หญิงผมส้มสวมแว่นมีหูแมวขึ้นมา ผู้ชายผมสีน้ำเงินเข้มผิวของเขาซีดนัยตาเป็นสีแดงและดูเหมือนจะมีเขี้ยวงอกออกมา ผู้ชายร่างยักษ์ที่น่ากลัวมีเค้าโครงหน้าคล้ายลิงโกลิล่ามากขึ้นและมีเคร้าขึ้น ผู้หญิงผมหางม้าที่ดูเย็นชามีรอยเย็บที่ข้อมือแขนและขาผิวซีด เมื่อเด็กหนุ่มผมสีขาวเห็นดังนั้นจึงใช้ยกมือขวาขยี้ตาโดยคิดว่าตัวเองนั้นตาฝาดไปเมื่อทำไปหลายๆครั้งจนเขานั้นเริ่มจะซื่อตรงต่อตัวเอง
‘เรื่องจริงดิ
นี้มันอะไรเนี้ยย ทำไมทุกคนถึงดูประหลาดกันทั้งนั้นเลยละ’ซาคิดพร้อมกับมีเหงื่อเย็นๆไหลบริเวณท้ายทอยเป็นจำนวนมาก
จากนั้นก็มีเสียงแทรกเข้ามา
“พ่อหนุ่มเป็นอะไรรึป่าว”เป็นเสียงของผู้หญิงผมดังโงะสีม่วงตาสีแดงทับทิม
“ไม่มีอะไรครับ ไม่สิ
ทำไมถึงมีคนประหลาดๆมากขนาดนี้ละครับ”ซาพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวน
“งั้นหรอ
เธอคงไม่รู้จักชนเผ่าที่หายสาบสูญสินะ”ผู้อำนวยการพูดพร้อมกับยิ้มจากนั้นเด็กหนุ่มผมขาวก็ถามต่อว่า
“มันคือะไรหรอครับ...ชนเผ่าที่หายสาบสูญ”
“งั้นฉันจะอธิบายให้เธอฟังนะ
ชนเผ่าที่หายสาบสูญก็ความหมายก็ตามที่บอกนั้นแหละ เป็น เผ่าที่มีจำนวนน้อยโดยที่ ในประวัติศาสตร์ไม่ถูกจารึกไว้
และ เป็นชนเผ่าที่ยังแน่ใจว่ายังถูกค้นพบรึยัง
บางชนเผ่าก็ถูกค้นพบแล้วยังไงละ ก็ประมาณว่า
เห็นเด็กผู้ชายผมสีน้ำเงินเข้มนั้นไหมละ นั้นคือเผ่าแวมไพร์ และแม่สาวผมส้มหูแมวนั้นคือ เผ่าครึ่งปีศาจ ผู้ร่างยักษ์หนวดเยอะนั้นคงเป็นเผ่าคนยักษ์ ส่วนผู้หญิงผมหางม้านั้นคงเป็น ซอมบี้ละนะ ”เมื่ออธิบายจบซาจึงพยักหน้าเข้าใจเนื่องจากพอรู้เรื่องทั้งหมดคร่าวๆแล้วจากนั้นผู้อำนวยการก็พูดขึ้นต่อว่า
“และก็นะที่เธอพูดว่ามีแต่คนประหลาดหนะ
ที่จริงแล้วในโรงเรียนนี้หนะคนที่เข้าได้ไม่มีคนปกติหรอกนะ เธอก็เหมือนกัน ฆาตกรผู้สังหารหมู่คดีโศกนาฏกรรมซากุระสีเลือด”
“คุณผู้อำนวยการโรงเรียน
จะเป็นไปได้ยังไงละครับ เด็กแบบผมจะเป็นฆาตกรไปได้ยังไงละครับ”เด็กหนุ่มผมสีขาวพูดพร้อมกับทำหน้าเหนื่อยใจราวกับว่าสิ่งที่ผู้อำนวยการโรงเรียนพูดนั้นเป็นเรื่องตลก
“ฉันไม่สนใจหรอกนะว่าเธอจะเป็นฆาตกรหรือไม่เพราะสิ่งที่ฉันต้องการหนะ
ก็แค่เรื่องสนุกเท่านั้นแหละ เอาแหละรีบไปที่หอประชุมได้แล้วตอนนี้เดี๋ยวก็สายหรอกนะ
ฮิมิยะ ซาจิ”เมื่อเธอพูดจบจึงเดินไปหายไปท่ามกลางฝูงนักเรียน
‘ทำไมถึงได้รู้กันละ....ให้ตายสิ’ซาทำหน้าเหนื่อยใจและเดินเข้าโรงเรียนต่อไปจากนั้นก็มองไปที่ตึกที่มีนาฬิกาขนาดใหญ่ติดอยู่
“ไกล้จะถึงเวลาแล้วสิ
รีบไปหอประชุมดีกว่า”จากนั้นซาก็เร่งฝีเท้าแล้วไปนั้งที่หอประชุมจากนั้นก็มีเสียงแทรกเข้ามาว่า
“โย่ววว นายผมขาวขอนั้งข้างๆนายได้ไหม”เป็นเสียงที่ค่อนข้างดูสนุกสนานเมื่อซาหันไปมองก็พบว่าเนชายหนุ่มผิวขาวซีด ผมสีดำ ดวงตาสีแดงอ่อนมีผ้าพันแผล พันรอบศรีษะ แขน ขา คอ และมี พลาสเตอร์ปิดที่แก้มซ้าย ส่วนบริเวณไกล้ๆมุมปากด้านขวานั้นมีรอยเย็บจนไปถึงหู
“ได้สิไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” ซาพูดพร้อมกับยิ้มพอเป็นมารยาทจากนั้นผู้ชายผมสีดำก็นั้งลงแล้วพูดว่า
“ฉันชื่อว่า อาคาชิ
โชวตะอยากให้เรียกว่าโชวตะมากกว่า เผ่าซอมบี้ อาชีพนักฆ่า ยินดีที่ได้รู้จักนะ
กิกิกิ”ซอมบี้หนุ่มพูดพร้อมกับหัวเราะและยื่นมือซ้ายไปหาซา
“ฉัน ฮิมิยะ ซาจิ
เผ่ามนุษย์ อาชีพช่างตีอาวุธ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับโชวตะ แล้วก้เรียกผมว่า ซา ก็พอ”ซายิ้มพร้อมกับยื่นมือซ้ายไปจับมือพอเป็นพิธีจากนั้น
ก็มีเสียงแทรกเข้ามาว่า
“หืม...เผ่ามนุษย์หรอ เห็นได้ค่อนข้างหายากเลยนะในโรงเรียนนี้หนะ อะขอโทษนะที่แอบฟัง”เป็นเสียงของผู้หญิงผมสีเทายาวสลวย นัยน์ตาสีทอง ผิวดูเนียนนุ่มสดใส ให้เสน่ห์เหมือนผู้ใหญ่
“ฉันขอแนะนำตัวนะ ฉัน มุซึฮะ คาซุมิ เผ่าแฟรี่ อาชีพจอมเวทย์มิติ ฝากตัวด้วยนะ ซาคุง โชวตะคุง ”
“ผู้หญิงน่ารักสุดๆไปเลยแถมยังเป็นเผ่าหาดูได้ยากอีกด้วย
วันเดอร์ฟูล!!! กิกิกิ”เป็นเสียงของโชวตะที่ทำท่าทีตื่นเต้นโดยที่เขายกมือขึ้นเหมือนจะตะโกนว่า
บันไซ บันไซ ไปด้วย
‘โรคจิตรีไงฟระ’ซาคิดพร้อมกับทำหน้าเหยๆ
‘โรคจิตหรอ’คาสุมิคิดพร้อมกับยิ้มราวกับว่าเห็นใจ
“ว่าแต่ที่บอกว่า
มนุษย์เห็นได้ค่อนข้างยาก นี้คืออะไรหรอครับ”เด็กหนุ่มผมขาวพูดพร้อมกับมองไปที่คาซุมิ
“เพราะมนุษย์หนะอ่อนแอจะตาย
แต่ก็ไม่นึกเลยนะว่านายจะผ่านมาได้ คงเป็นผู้มีพลังพิเศษสินะน่าสนใจมากๆเลยละ”
“คงจะแบบนั้นละมั้งครับ” เมื่อซาพูดจบก็มีเสียงประกาศจาก ผู้อำนวยการโรงเรียนดังขึ้น
“ยินดีต้อนรับนักเรียนที่ผ่านการทดสอบมาได้ทุกคนวันนี้ทางเราจะทำการ
ต่อสู้เพื่อคัดเลือกห้องกัน แต่คราวนี้จะพิเศษหน่อย เพราะอะไรหนะหรอ? นั้นเพราะคราวนี้ต้องต่อสู้กันเป็นทีมยังไงละ
ขอให้ทุกคนเตรียมตัวกันให้ดีละ”
.......................................................................................................................
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะครับ
ช่วยคอมเม้นเป็นกำลัง หรือ ถ้าชอบก็กดติดตามได้นะครับ
#นักเขียนมือใหม่
ความคิดเห็น