. Inferno ™

ลำดับตอนที่ #7 : [OC] [ABO Verse] FALLING :: Kimhun Wattanapanit

APPLICATION

FALLING

" I'm just an ORDINARY who wants to be EXTRAORDINARY "

 

IMAGE :: I II III ◎ " โอ้โห หน้าอย่างกะจิ้งเหลนละยังเสือกกร่าง คิดว่าเป็นอัลฟ่าละทำไรก็ได้ว่างั้น? " " น่าสงสารจังวะ เข้มแข็งไว้นะเพื่อน อย่างน้อยฉันก็อยู่ข้างนาย.....ซะที่ไหน "

β KIMHUN WATTANAPANIT β

FULL

" บางทีคนที่พวกนายมองข้ามไป อาจจะเป็นคนที่อันตรายที่สุดก็ได้ "

" ที่บอกน่ะ แค่อยากบอกให้รู้ว่าอย่าไว้ใจฉันมากก็พอ หึ "

เพศรอง || เบต้า

ชื่อ - นามสกุล :: คิมหันต์ วัฒนพานิชย์ || KIMHUN WATTANAPANIT

ชื่อเล่น :: เพียว || PURE

อายุ :: 18 ปี

เพศ :: ชาย

ตำแหน่งในโรงเรียน :: นักเรียนชั้นม.6

ส่วนสูง/น้ำหนัก :: 1.83 เมตร || 71 กิโลกรัม

ลักษณะภายนอก :: คิมหันต์เป็นเด็กหนุ่มร่างสูงปราดเปรียวดูคล่องแคล่ว ร่างกายดูแข็งแรงอย่างคนเล่นกีฬา ลาดไหล่หนาใหญ่ อกผายไหล่ผึ่งดูสง่า มีกล้ามเนื้อประดับอยู่ตามร่างกายพอให้ดูดีและดึงดูดสายตาเพศตรงข้าม[หรืออาจเพศเดียวกันก็แล้วแต่] ส่วนเรื่องของใบหน้านั้นถือว่าก็พอดูดีอยู่ระดับหนึ่ง อาจไม่ใช่คนที่มีสเน่ห์บนใบหน้า แต่ถ้าเรื่องเรือนร่างสรีระขยี้ใจสาวนี่ต้องยกให้เขาเลยล่ะ คิมหันต์มีเชื้อจีนทำให้เขาหน้าค่อนไปทางหล่อตี๋เสียมากกว่า เขามีเรือนผมสั้นสีปีกกาเข้มสนิทดูยุ่งเหยิงเล็กน้อย ผมหน้าม้าปิดบังดวงตาข้างขวาแต่ก็ยังพอให้เห็นอยู่บ้างบางส่วน นัยน์ตาเรียวคมสีรัตติกาล หางตาชี้ขึ้นเป็นหางแหลมและมีเปลือกตาชั้นเดียว ดั้งจมูกไม่โด่งมากเหมือนชาวคอเคซอยด์แต่ก็ยังพอมีบ้างให้ไม่ดูแหนบจนเกินไป และริมฝีปากหยักบางที่มักฉีกยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์อยู่เสมอ ผิวกายขาวออกแทนนิดๆไม่ถึงกับคล้ำมาก ท่าทางของเด็กหนุ่มนั้นกระเดียดออกไปแนวแอ๊บสาวหน่อยๆ ไม่แต๋วมากแบบแนวเพศที่3 [บางทีก็มีแอบใช้เครื่องสำอางแม่มาแต่งหน้าแล้วถ่ายรูปส่งไปให้เพื่อนดู (　；∀；)] มีจริตจก้านพอให้ดูน่าหมั่นไส้เล็กๆ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็แมนเต็มร้อยจริงๆนะ

ลักษณะนิสัย ::

เหลี่ยมจัด ชอบยุ พูดจาหลอกล่อได้ดี

          เรียกว่าบลัฟคนเป็นถึงจะถูก เขาชอบพูดเสี้ยมให้คนคล้อยตามและเชื่อว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นคือเรื่องจริิง ถึงมันจะไม่ใช่เรื่องที่ดูน่าเชื่อถือ แต่เขาสามารถพูดให้มันดูมีเหตุผลมีหลักการได้อย่างแนบเนียน สกิลการแถมีร้อยให้พัน คำพูดที่ว่ามารยาร้อยเล่มเกวียนของผู้หญิงก็ยังต้องยอมแพ้ให้กับความเจ้าเล่ห์ดั่งสุนัขจิ้งจอกของเขา สามารถหลอกล่อคนให้หัวหมุนและชักจูงให้คนๆนั้นทำในสิ่งที่เขาต้องการได้ เขาถนัดการเสแสร้งเป็นที่สุด เมื่ออีกฝ่ายหลงกล เขาก็จะเริ่มใส่ความไม่หยุดปาก ป้ายสีให้บุคคลที่อ้างถึงดูเลวร้ายมากถึงมากที่สุด ถ้าพูดแบบภาษาบ้านๆก็เรียกว่าคิมหันต์เป็นคนขี้โกหกเลยล่ะ มูลเหตุข้อเท็จจริงมีเพียง1% ที่เหลืออีก99%ก็คือคำลวงหลอกที่ตัวเขาคิดขึ้นมาเองทั้งนั้น เขาชอบทิ้งคำพูดกำกวม ทิ้งคำพูดขู่ให้ดูน่ากลัวให้อีกฝ่ายเกรงกลัวในตัวเขา ทั้งๆที่จริงเขาไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะทำอย่างที่ตัวเองพูดเลยสักนิด แต่ก็แค่โม้ไปเพราะอยากโม้หรือตัดความน่ารำคาญก็เท่านั้น

          คำโกหกที่คิมหันต์ชอบพูดคือการพูดว่าตัวเองเป็นอัลฟ่า เนื่องจากอ้างอิงจากรูปลักษณ์ภายนอกตัวเองและฐานะทางครอบครัวที่ใหญ่โตพอควร ถ้าไม่บอกว่าเป็นเบต้า เขาก็มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นอัลฟ่าหมดทุกข้อเลยล่ะ พอโดนจับได้ เขาก็แค่ยกยิ้มไม่มีท่าทีสำนึกผิดพร้อมคำพูดที่ว่า " แล้วไง " หรือ " ว้า....โดนจับได้ซะละ "

เป็นคนมีระเบียบ วางแผนอนาคต

          อนึ่งอ้างอิงมาจากนิสัยกะล่อนขั้นเทพของเขา ถ้าหากลงมือทำอะไรโดยไม่มีแผนในใจ เขาจะรู้สึกไม่สบายใจเอามากๆ เพราะต้องสับรางไม่ให้ชนกัน [หมายถึงการบลัฟคนไม่ให้แผนแตกนะ ไม่เกี่ยวกับเรื่องชู้สาว] จึงต้องไตร่ตรองมากๆก่อนจะลงมือทำจริงๆ เขาจะวางแผนไว้ในหัวก่อนแล้วค่อยเขียนลิสต์ลงไปในสมุดโน้ตคู่ใจ [ที่ไม่เคยมีใครเปิดอ่าน] บางทีถ้าไม่อยากเขียนก็พิมพ์โน้ตลงไปในโทรศัพท์ เขาเป็นคนบริหารเวลาเก่ง รู้จักว่าอะไรควรมาก่อนมาหลัง มีขั้นตอนมีชั้นเชิงที่คนอื่นก็ต่างต้องอึ้งทึ่งไปตามๆกัน แค่นั้นไม่พอ เขายังมีแผนสองแผนสามอยู่ในหัวด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้น วิธีที่จะโค่นล้มเขาคือต้องอ่านเกมตั้งแต่แผนแรกให้ออก ขัดขวางเขาตั้งแต่แรก พอเขาเริ่มใช้แผนสอง ประสิทธิภาพของแผนการจะเริ่มลดลงแล้วจะจับตัวการได้ง่ายขึ้น แต่สิ่งที่เป็นจุดแข็งของเขาอย่างหนึ่งคือเขามีสติอยู่เสมอ ไม่ลน ไม่ร้อนตัวใดๆ ถึงโดนจับได้ก็ไม่ได้โวยวายอะไรมากเพราะมันทำให้เขาดูโง่ การที่จะตามจับตัวการอย่างเขาจึงเป็นเรื่องที่ยากพอสมควรเลยล่ะ

เป็นนักเข้าสังคม เพื่อนเยอะ พวกเยอะ

          เขาเป็นคนคบเพื่อนเยอะ ติดโซเชียล ติดโทรศัพท์ และต้องเช็คไทม์ไลน์ในเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ไอจี สเเนปแชท Ask.fm และอีกสารพัดแอปอยู่ตลอดเวลา ทำให้รู้ข่าวเยอะ ตามข่าวทัน ใครคบใคร ใครแย่งแฟนใครนี่รู้หมด แต่ที่บอกว่าเพื่อนเยอะ สัก80%ไม่รู้สันดานที่แท้จริงของเขา แต่ที่เหลืออีก20%คือรู้ว่าเขาเป็นคนยังไง แต่ก็ยอมรับในจุดๆนั้นได้อยู่บ้าง [ไม่ใช่ถึงกับเปิดกว้างยอมรับเลย เพราะพวกเขาก็ไม่ไว้ใจในตัวคิมหันต์อยู่เหมือนกัน แต่ก็ยังคุยกันได้] ภายนอกเขาเป็นคนอัธยาศัยดี ปั้นยิ้มจริงใจ เฟรนด์ลี่ ทำตัวTolaeสารพัดเพื่อให้อีกฝ่ายไว้ใจ แต่ลับหลังเขาจะพลิกจากหน้ามือเป็นหลังตีนในทันที เขาเป็นสายขุด ขุดเรื่องในโซเชียลหาต้นสายปลายเหตุได้อย่างรวดเร็ว และถ้ายิ่งได้ขุดเรื่องของคนที่ตัวเองไม่ชอบ เขาก็จะยิ่งขุดตั้งแต่ปีมะโว้ ใส่สีนิดหน่อยแล้วปล่อยข่าวให้คนอื่น แต่ใช่ว่าเขาจะปล่อยแบบหน้าด้านๆสักหน่อย เขาจะปล่อยแบบส่งรูปภาพ ส่งแคปชั่นแล้วลากเชื่อมโยงไปให้คนที่เกี่ยวข้อง แล้วบังคับไม่ให้คนแรกเอาเรื่องที่เขาปล่อยข่าวไปพูดต่อด้วยสารพัดวิธี [ซึ่งใช้วิธีพูดข่มเป็นส่วนใหญ่] พอยิ่งกระแสฮือฮามากๆเข้าเขาก็จะนั่งกระดิกขาดูความสำเร็จของตัวเอง มันไม่มีทางหรอกที่จะมีคนนิ่งดูดายไม่สนใจเรื่องข่าวลือในโซเชียล ซึ่งมันก็มีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตในปัจจุบันด้วย จะไม่ให้แคร์ได้ไงล่ะ จริงไหม?

บอกแล้ว คนในโซเชียลโง่กันถ้วนหน้า แค่เป่าหูนิดหน่อยก็เอาไปมโนกันเองละ

เป็นคนขี้เหงา จะอยู่เฉยๆนิ่งๆทั้งวันไม่ได้

          อย่างน้อยขอแค่ออกไปเตะบอลก็ยังดี เนื่องจากนิสัยที่ติดโซเชียล ขาดมือถือไม่ได้ ถ้าขาดมันไปเหมือนชีวิตเขาหายไปครึ่งนึงเลยทีเดียว เพราะมันคือแหล่งหาข่าวที่ดีของเขานั่นเอง ถ้ามีแฟน คิมหันต์จะตามติดแฟนตัวเองมาก เผลอๆติดแฟนมากกว่าติดมือถือเลยก็ว่าได้ แต่ถ้าไม่มี เขาก็จะเล่นมือถือบ้าง ออกไปเล่นกีฬากับเพื่อน ไปกินเหล้าสังสรรค์เฮฮาปาร์ตี้ตามแบบฉบับชายฉกรรจ์ เพื่อผู้หญิงมักมองเขาว่าเป็นสายแรด เรื่องมั่นหน้านี่ไม่มีใครเกิน ซึ่งตัวเขาก็แค่ปฏิเสธว่าก็แค่เป็นคนมีความมั่นใจอ่ะนะ บางทีก็ชอบหยอดมุขทำตัวมีจริตชวนให้เพื่อนสาวหมั่นไส้ไปตามกันๆ ยิ่งมีเพื่อนเป็นสาวห้าว เขาก็จะยิ่งทำตัวแรดใส่เพราะอยากแกล้งจนโดนตบกลับมา [บางทีเขาก็ทำท่ากัดปาก ขยิบตา นั่งไขว่ห้าง ทำท่าทางที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกรำคาญและสยองไปพร้อมๆกัน] เอาจริงๆเวลาอยู่กับเพื่อนสนิท เขาก็เป็นตัวของตัวเองแหละ สบายๆไม่ได้อะไรมาก แต่ถ้าอยู่ในคราบของศัตรู บอกไว้เลยว่าเขาคือตัวอันตรายที่แท้ทรู

ต้นเหตุของนิสัยทั้งหมดคือความอิจฉา

          คิมหันต์เป็นคนขี้อิจฉามากโดยเฉพาะพวกเผ่าพันธุ์อัลฟ่า อิจฉาในความยิ่งใหญ่ การเป็นผู้นำและอำนาจที่อยู่ในมือของพวกเขา คิมหันต์พร้อมทำทุกทางเพื่อที่จะโค่นล้มพวกอัลฟ่ากร่างๆที่เคยรังแกเขาให้จมดิน ส่วนโอเมก้าก็ไม่ต่างกัน ทำตัวน่ารำคาญเขาก็จะเหยียบให้ตายลุกขึ้นไม่ได้อีก เบต้ามักเป็นเผ่าพันธุ์ที่ถูกลืม ไม่ได้รับความสนใจ ไม่มีอะไรที่เป็นคุณสมบัติพิเศษเหมือนอย่างที่อัลฟ่ามี ถ้าหากไม่ได้มีประวัติที่น่าสนใจหรือความสามารถที่โดดเด่น เขาจะไม่มีวันที่จะตั้งตนทัดเทียมกับอัลฟ่าได้เลย เผ่าพันธุ์อื่นๆอาจมองว่าเบต้าเป็นเผ่าพันธุ์ที่เรียบง่าย ไม่ต้องมีเรื่องน่ากังวลใจ แต่มันไม่ใช่สำหรับเขา การที่เป็นคนที่ถูกลืมเป็นอะไรที่เจ็บปวด เหมือนจะมีอำนาจเหนือโอเมก้า แต่ก็ยังต้องเป็นรองให้อัลฟ่าอยู่ดี โอเมก้าและอัลฟ่ามักเป็นของคู่กัน เขารักใคร ก็มักถูกอัลฟ่าแย่งไปเป็นของตัวเองหมด อัลฟ่ามักได้ทำอะไรตามใจตัวเอง เป็นที่หนึ่งในทุกๆด้าน ในขณะที่เบต้าได้เป็นแค่ที่สอง แล้วมันจะต่างอะไรจากไอ้ขี้แพ้กันล่ะ

อย่ามาบอกว่าให้เขาปล่อยวางและทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วเลย ถ้าไม่มาเป็นตัวเขาก็ไม่มีทางรู้หรอกว่าเขารู้สึกยังไง

ชอบ :: 

♞ เล่นมือถือ

♞ กีฬาทุกชนิด

♞ แกล้งเพื่อน

♞ น้ำเกลือแร่

♞ ไก่ทอด

ไม่ชอบ/เกลียด ::

♞ พวกอัลฟ่าที่ทำตัวกร่าง

♞ พวกโอเมก้าที่ทำตัวดราม่าจนน่ารำคาญ

♞ งานเย็บปักถักร้อย

กลัว :: เป็นคนที่ถูกลืม

ประวัติ :: คิมหันต์ วัฒนพานิชย์ ลูกชายของเจ้าสัวเงินล้านและคุณหญิงบุตรสาวนักการเมืองมากอำนาจ เขาเกิดมาในฐานะที่ร่ำรวย อยู่บนกองเงินกองทองมีกินมีใช้ตั้งแต่เกิด เขาถูกเลี้ยงด้วยเงิน พ่อแม่มักเดินทางไปพบปะพวกไฮโซในต่างประเทศทิ้งให้เขาอยู่กับพี่เลี้ยงผู้ชายกันสองคน ซึ่งพ่อแม่ของเขาไม่รู้เลยว่าคิมหันต์ในวัยเด็กโดนพี่เลี้ยงทำอะไรไว้กับเขาบ้าง

" ถอดเสื้อผ้า "

" แม่งเอ้ย หยุดร้องไห้ได้มั้ยวะ ถ้าไม่ติดว่ากูเป็นคนใช้ป่านนี้กูเอามึงจนพรุนละ "

" กูน่ะอัลฟ่า จำใส่กะโหลกไว้ด้วย "

เขาไม่รู้ว่าอัลฟ่าคืออะไร แต่ต้องเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีอำนาจมากอย่างแน่นอน

          เขาถูกบังคับขืนใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากพี่เลี้ยงที่เลวทราม มันเป็นเรื่องที่หนักเกินกว่าเด็กวัยประถมอย่างเขาจะรับมันไหว ในวันๆนึงเขาแค่เพียงภาวนาว่าให้เรื่องทั้งหมดถูกเปิดโปงเสียที แน่นอนว่ามันก็เป็นไปตามที่เขาคิด พ่อแม่ของเขารู้เรื่องหลงจากที่พวกท่านกลับมาจากฮาวาย พี่เลี้ยงถูกจับแจ้งความและถูกไล่ตะเพิดออกจากบ้าน ส่วนเขาก็ถูกรายล้อมด้วยนักจิตวิทยาที่พ่อแม่จ้างมาให้ช่วยดูแลเพื่อหวังว่าให้สภาพจิตใจเขากลับมาสดใสเหมือนเดิม

          คิมหันต์ในวัยเด็กเป็นเด็กอ่อนแอมาก เนื้อตัวผอมแห้งแต่ผิวขาว ทำให้มักโดนแกล้งจากเพื่อนรุ่นเดียวกันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเขาก็ทำได้เพียงร้องไห้เงียบๆคนเดียว เวลาอยากคุยกับใครก็มักถูกเมินเป็นประจำ โดนหัวโจกของกลุ่มกลั่นแกล้งอย่างรุนแรงจนเขาไม่กล้าออกไปไหนอีก เขาไม่ยอมไปโรงเรียน เริ่มงอแงเอาแต่ใจ ซึ่งพ่อแม่เขาก็ตามใจเขามาก ไม่ใช่ว่าไม่ใส่ใจ แต่ไม่รู้จะรับมือยังไงเสียมากกว่า มีเพียงแม่บ้านที่ทำงานให้ครอบครัวมานานเท่านั้นที่บังคับให้เขาไปโรงเรียนและคอยอบรมให้เขาเป็นผู้เป็นคน เด็กน้อยเกือบกลายเป็นเด็กไม่เอาถ่านเสียแล้วถ้าไม่ได้ป้าแม่บ้านคอยช่วยดูไว้

          ช่วงประถมอาจจะฟังดูเลวร้าย แต่ช่วงวัยม.ต้นเรียกได้ว่าคิมหันต์เหมือนตกนรกทั้งเป็น เขาเริ่มได้ยินคำว่าอัลฟ่า เบต้า โอเมก้ามาบ้างจากปากของเพื่อนในห้อง คิมหันต์ในวัย14ปีเป็นที่รักของเพื่อน เขาหันมาเล่นกีฬาและสร้างสัมพันธ์กับคนในห้อง เรียกได้ว่าเขาค่อนข้างป๊อบเลยล่ะ ดูองค์ประกอบรวมทั้งหมด รวย เก่ง ฉลาด แข็งแรงก็เหมาะกับการเป็นอัลฟ่า ทุกคนจึงบอกเขาว่า เขาจะได้เป็นอัลฟ่าแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัยเลย 

          เพื่อนในกลุ่มของเขาก็เป็นพวกบ้ากีฬาและชอบทำร้ายร่างกายเด็กที่อ่อนแอกว่า ใจจริงเขาไม่ได้อยากอยู่ด้วย แต่เพราะอยากได้การยอมรับจากทุกคน จึงทำตัวเป้นมิตรและดูน่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน เพื่อไม่ให้มีคนมากลั่นแกล้งเขาได้ ซึ่งคนในกลุ่มก็ต่างยอมรับในตัวเขา มันเป็นช่วงขาขึ้นของคิมหันต์สุดๆเลยล่ะ

          แต่เรื่องราวกลับพลิกผันหลังจากที่ตรวจร่างกาย ตัวอักษรเบต้าปรากฏให้เห็น ใจของเด็กชายแทบตกลงอยู่ที่ตาตุ่ม ถึงแม้มันไม่ได้เป็นโอเมก้าอย่างที่หลายคนไม่ต้องการ แต่เบต้าก็ไม่ใช่เผ่าพันธุ์ที่เขาต้องการเช่นกัน เพราะมันไม่มีอะไรพิเศษเลย ทั้งไร้ตัวตนและไม่พิเศษ เขาเดินออกมาจากห้องตรวจด้วยสีหน้าซีดเผือด ก่อนจะเจอเพื่อนในแก็งค์ที่ยืนกอดอกรอฟังผลตรวจด้วยท่าทางอวดเบ่งเต็มที่

" ไหนวะไอ้เพียว แกเป็นเผ่าไร? "

" อะ อัลฟ่า "

" เอาใบมา "

" เดี๋ยวเพื่อน...ฉัน "

" กูบอกให้เอาใบมาไง!! "

          หลังจากวันนั้น กลุ่มเพื่อนของเขาที่เป็นอัลฟ่าทั้งหมดถีบเขาออกจากกลุ่มในทันที ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นตัวเสนียดกลุ่ม เป็นโอเมก้าคอยเป็นเครื่องรองรับอารมณ์ทางเพศยังจะดีกว่า ไม่พอ เขายังจะโดนแกล้งไม่ให้มีใครยุ่งกับเขา อีกฝ่ายใช้สิทธิ์ของอัลฟ่าในการบังคับทุกคนเต็มที่ว่าห้ามยุ่งกับเขา เขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงลากทุกคนมาเกี่ยวข้อง แต่พวกเขาก็ให้เหตุผลที่ฟังแล้วแทบอยากจะต่อยให้หน้าหงาย

" เกลียดมึงตั้งแต่ก่อนตรวจละ ที่กูรับมึงเข้ากลุ่มเพราะกูจะใช้ประโยชน์จากมึง ทำตัวฉลาดคิดว่าเท่เหรอ? "

" แต่ก็ดีละที่ข้อเสียของมึงคือไม่ใช่อัลฟ่า แล้วก็จำใส่กะโหลกไว้นะ "

" เบต้าอย่างมึงไม่มีวันแข็งแกร่งเหมือนอัลฟ่าอย่างพวกกู "

          คิมหันต์ไม่มีสิทธิ์ออกเสียงอะไรได้ เขาต้องก้มหน้ายอมรับชะตากรรมไปเกือบหกเดือนเต็มๆ มีหลายคนสงสารเขา แต่ด้วยความที่เกรงกลัวในอำนาจของเหล่าอัลฟ่าในห้องจึงไม่กล้าเสี่ยงที่จะมายุ่งกับเขา ทว่า....คิมหันต์ไม่ใช่เด็กอ่อนแอเหมือนตอนประถมอีกแล้ว เขาฉลาด เขารวย เรื่องการแก้แค้นมันกลายเป็นเรื่องที่ง่ายดายในทันที เพียงแค่ต้องใช้เวลาสักหน่อยก็เท่านั้นเอง...

          ครั้งแรก เขาวางแผนเพื่อที่จะบีบให้เพื่อนเก่าของเขาออกจากโรงเรียนด้วยการทำร้ายร่างกายเด็กคนนึงในห้องแล้วป้ายความผิดให้คนพวกนั้น หาจุดที่อยู่มุมอับสายตา จัดการทำร้ายร่างกายให้เด็กคนนั้นโคม่า แล้วส่งจดหมายไม่ระบุชื่อให้พวกนั้นมาที่จุดอับสายตา ก่อนที่เขาจะฟ้องครูให้มาเห็นฉากที่เขาสร้างขึ้นมาเอง เมื่อครูเข้าใจผิด หลักฐานคาตาอย่างไม่ต้องสืบหาอะไร แล้วคนพวกนั้นก็โดนไล่ออกอย่างไม่มีสิทธิ์แก้ตัวอะไรได้ แถมยังไม่สามารถสืบสาวเรื่องมาถึงเขาได้อีก

ถึงจะรู้สึกผิด แต่ความสะใจมันมีมากกว่า

          นิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้นจึงเริ่มติดมาตั้งแต่ตอนนั้น เขาเริ่มใช้ความอัธยาศัยดีของตัวเองเป็นฉากบังหน้าในการทำเรื่องสกปรกลับหลัง เขาไม่กลัวอะไรอีกแล้ว ต่อให้เป็นอัลฟ่าเขาก็สามารถกดพวกนั้นให้จมดินได้อย่างเลือดเย็น 

แถมการบลัฟใส่คนอื่นว่าตัวเองเป็นอัลฟ่ามันทำให้งานราบรื่นกว่าที่คิด

          นิสัยนี้สืบเนื่องมาจนถึงม.ปลาย ใครที่เคยทำร้ายเขา หรือเป็นเสี้ยนหนามในชีวิต เขาก็จัดการเก็บหมดทุกคน เขารู้ว่าอนาคตเขาจะต้องเจอกับอะไร แต่อย่างน้อยก็ขอให้ได้แก้แค้นบ้างก็ยังดี

" นายก็รู้ว่าถ้านายเป็นแบบนี้ต่อไป นายจะไม่เหลืออะไรเลย พอเถอะนะไอ้เพียว "

" อย่างน้อยก็ขอให้ฉันได้เหยียบย่ำพวกมันก่อนที่ฉันจะต้องชดใช้กรรมก็พอ "

" เธอไม่เข้าใจหรอก ว่าฉันผ่านอะไรมาบ้าง เพราะฉะนั้นเงียบไปซะ "

เขารู้ว่าถ้าเขาแพ้ เขาจะสูญเสียทุกอย่าง มิตรภาพระหว่างเพื่อน ความเชื่อใจ ชื่อเสียงในโรงเรียน มันจะหายไปทั้งหมด

          แต่ถ้ามัวนั่งก้มหน้ายอมรับว่าตัวเองเป็นแค่ไอ้ขี้แพ้ เขาก็ยอมเลวเพื่อจะถีบตัวเองขึ้นไปอยู่ทัดเทียมกับพวกอัลฟ่าเสียดีกว่า ถึงแม้จะต้องโกหกคนทั้งโรงเรียน เขาก็ทำได้อย่างไม่มีเงื่อนไข

" ขอโทษนะ นายเป็นเผ่าพันธุ์อะไรงั้นเหรอ? "

" ฉันเหรอ.....? "

" หึ อัลฟ่าน่ะ "

ความสามารถพิเศษ :: ขับมอเตอร์ไซค์แบบไม่จับแฮนด์ได้ || พูดได้3ภาษา [ไทย,อังกฤษ,จีน] || เล่นกีฬาได้เกือบทุกชนิด

งานอดิเรก :: เตะบอล || เล่นบาส || ส่องโซเชียล || เล่นเกมในอาร์เคด

ทัศนคติต่ออัลฟ่า/เบต้า/โอเมก้า ::

{{ อัลฟ่า α :: อัลฟ่าบางคนก็ดี บางคนก็ไม่ค่อยดี แต่พูดรวมๆคือเขาอิจฉาที่อัลฟ่ามีอำนาจ สามารถทำอะไรก็ได้ตามใจชอบโดยที่ไม่มีใครสามารถขัดขืนได้เลย ต่อให้ต้องแบกภาระเพราะเป็นผู้นำก็ตาม แต่ถ้าแลกมาด้วยการทำอะไรได้ตามอำเภอใจ มันก็ถือว่าดีแล้วไม่ใช่เหรอ?

{{ เบต้า β :: ถ้าสำหรับคนที่อยากอยู่แบบสงบๆ เบต้าถือว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่โชคดีที่สุด เพราะไม่ต้องยุ่งอะไรมากมายให้ปวดหัว แต่ตัวเขาไม่ชอบเพราะเป็นเผ่าพันธุ์ที่มักถูกลืมและไม่ค่อยได้รับความสนใจ ในขณะที่อัลฟ่ามีแต่คนชื่นชม [ถึงจะมีคนเกลียด แต่ถ้าไม่ทำตัวขืนใจคนไปทั่วก็ไม่โดนหรอก] เป็นเบต้ามันก็ดี แต่อย่างเขาควรเป็นอัลฟ่ามากกว่า

{{ โอเมก้า Ω :: เป็นเผ่าพันธุ์ที่น่าสงสารพอๆกับคำว่าไร้ประโยชน์ พวกนี้ทำได้แค่ถูกชักจูงให้ทำตามเท่านั้น บางคนก็หลอกง่าย บางนก็หลอกยาก แต่ไม่คณามือคนอย่างคิมหันต์หรอกนะ

อื่นๆ :: 

♞ คิมหันต์เกิดในฤดูร้อน พ่อแม่เลยตั้งชื่อว่าคิมหันต์

♞ คิมหันต์มีน้ำเสียงทุ้มห้าว แทนตัวเองว่าฉัน เรียกคนอื่นๆว่านายหรือเธอแล้วแต่เพศ มีติดคำหยาบมาเล็กน้อยพอให้มีอรรถรสในการคุย

" ฉันชื่อเพียว ยินดีที่ได้รู้จักนะ "

" แล้วไง? ถ้ารู้แล้วจะเปลี่ยนแปลงยังไงเหรอ? "

" นายดังได้ ฉันก็ทำให้นายดับได้เหมือนกัน "

" น่ารำคาญอ่ะ อย่าสะเหล่อได้ป่ะ ยัยหน้าโง่ "

" อุ้ยยย มารยาที่ว่ามีร้อยเล่มเกวียนก็ยังสู้ฉันไม่ได้ เพราะฉันมีเป็นพัน " //แล้วก็จะโดนตบไปตามระเบียบ

♞ นอกจากเพื่อนสนิทซี้ปึ้กที่รู้นิสัยของเขาก็ไม่เคยมีใครรู้ว่าเนื้อแท้ของเขาเป็นคนยังไง แม้แต่แฟนเขาก็ไม่กล้าบอก เพราะเขารู้ว่าถ้าเขาโดนจับได้ เธอจะหมดรักเขาไปในทันทีเมื่อได้รับรู้พฤติกรรมของเขา

♞ เอาจริงๆค่อนข้างขาดความอบอุ่น

♞ ชอบผู้หญิง

♞ เปิดใบสมัครคนอื่นละเจอแต่คนดี เลยมาหย่อนแบดบวยไว้คนนึงจ้า

B
E
R
L
I
N
❀

 

B
E
R
L
I
N
❀