ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    . Inferno ™

    ลำดับตอนที่ #4 : [OC] HELLO UNDICI!! สานต่อตำนานรุ่นที่ 11! - Sasagawa Seiji

    • อัปเดตล่าสุด 28 เม.ย. 60





    APPLICATION
    UNDICI







    " ได้ยินเสียงหมาที่ไหนมันเห่ามั้ยวะ? "

    " อ๋อ.....แกเองเหรอเนี่ย นี่ เลิกเห่าได้ป่ะครับ ชักรำคาญละ "

     

         

                        " หลีกทางให้ราชาหน่อยเร้วว ไอพวกไพร่ "

         


         เด็กหนุ่มวัย17ปีนั่งยองกับพื้น นัยน์ตาสีเปลือกไม้จดจ้องรองเท้าผ้าใบ
    สีขาวคู่โปรดที่ขาดเป็นรูหลังจากกรำศึกมานาน ปลายนิ้วแคะเอารอยคราบ
    เลือดแห้งกรังติดอยู่ออกก่อนจะสบถเสียงเบา ละสายตาจากรองเท้ามาจด
    จ้องที่ร่างสูงของคู่อริที่นอนหมดสภาพอยู่ตรงหน้า ริมฝีปากหยักของเด็กหนุ่ม
    กระตุกยิ้มมุมปากก่อนถ่มน้ำลายใส่แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

                                          " น่าสมเพชชะมัด "

         ไม่ต้องพูดอะไรก็รู้ว่าอีกฝ่ายเจ็บแค้นเคืองใจมากแค่ไหน เขาหัวเราะใน
    ลำคอก่อนลุกขึ้นยืนล้วงกระเป๋า นัยน์ตาคู่คมมองคนใต้ร่างอีกครั้งพร้อมเผย
    รอยยิ้มสะใจพร้อมยกปลายเท้าขึ้นสูงให้ตรงกับใบหน้าเปื้อนเลือดของผู้แพ้

                                  " หลับให้สบายนะ ไอ้หน้าโง่ "

    #SASAGAWA SEIJI



    ▲ SASAGAWA SEIJI 





    FULL


    " อยากลองของแบบนี้ก็จัดไปเด้ "


    ชื่อ-นามสกุล :: ซาซางาวะ เซย์จิ || SASAGAWA SEIJI


    ชื่อเล่น :: เซย์ || SEI


    อายุ :: 17 ปี


    ลูกชายของ :: ซาซางาวะ เรียวเฮ || SASAGAWA RYOHEI


    ลักษณะภายนอก :: นักเลงสายห้าวเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาดุจเทวดา ใบหน้าคมคายรูปไข่ที่ไม่ว่าหันไปทางไหนก็เต็มไปด้วยสเน่ห์น่าดึงดูด ทว่าเจ้าตัวกลับชอบแสดงสีหน้ายียวนล่อบาทาทำให้เสียของไปโดยปริยาย นานๆทีถึงจะตีสีหน้านิ่งขรึมเหมือนอย่างคนอื่น เดิมทีเด็กหนุ่มมีเรือนเกศาสีน้ำตาลเข้มที่ได้จากฝั่งมารดา แต่เจ้าตัวกลับเลือกที่จะย้อมเป็นสีพีชอมชมพูพร้อมผมทรงอันเดอร์คัทเพราะอยากท้าทายอำนาจมืดของกรรมการนักเรียน เนตรเรียวคมดั่งพญาเหยี่ยวสีน้ำตาลอ่อน เส้นคิ้วหนาเรียงโค้งดุจคันศร ดั้งจมูกโด่งเป็นสันแนว ริมฝีปากหนาหยักเป็นรูปกระจับ องค์ประกอบบนใบหน้าถือว่าดูดีพอสมควร ไร้รอยสิวผดผื่นหรือรอยแผลเป็นใดๆบนใบหน้า ถึงแม้จะมีเรื่องชกต่อยอยู่ตลอดเวลาไม่ขาดแต่แผลกลับสมานได้อย่างรวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์ เซย์จิเป็นคนผิวขาว เนื้อผิวละเอียดมากเว้นแต่ช่วงบริเวณฝ่ามือที่หยาบกร้าน มือของเด็กหนุ่มนั้นใหญ่และเห็นเส้นข้อระหว่างนิ้วชัดมากเพราะชอบหักนิ้วก่อนจะเริ่มต่อยกับใครเป็นประจำ สรีระรูปร่างปราดเปรียวสมส่วนเป็นรูปสามเหลี่ยมกลับหัว ลาดไหล่ใหญ่หนาดูสง่า เรือนร่างอุดมด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรงแต่ไม่ดูล่ำสันจนเกินไป หากเทียบขนาดร่างกายกับเด็กวัยเดียวกัน เรียกได้ว่าเซย์จิอาจจะเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่มีพละกำลังมหาศาล สามารถยกของหนักที่มากกว่าน้ำหนักตัวเองเกือบ30กิโลกรัมเลยทีเดียว เด็กหนุ่มมีความสูงอยู่ที่ 1.84 เมตรและน้ำหนัก 73 กิโลกรัม


    ลักษณะนิสัย ::

    ใจร้อน มุทะลุ

              เป็นคนที่พูดก่อนคิด ลงมือทำก่อนจะมานั่งตระหนักว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นถูกหรือเปล่า เอาจริงๆคือน้อยครั้งที่เขาจะเก็บมาคิด ต่อให้รู้ว่าตัวเองทำผิด เซย์จิก็จะยอมขอโทษทีหลังแล้วก็ไม่คิดอะไรให้รกสมองอีก เขาเป็นพวกที่โดนปั่นหัวง่าย ความอดทนต่ำ ไม่ชอบเก็บอารมณ์สักเท่าไหร่นัก นั้นเป็นผลทำให้เขาเป็นคนโมโหร้ายและชอบใช้กำลังตลอดเวลา แต่ใช่ว่าเขาจะชอบชกต่อยอย่างไร้เหตุผลสักหน่อย เขาจะปล่อยของถ้าหากรู้สึกรำคาญหรือโมโหเท่านั้น และเขาจะไม่เป็นฝ่ายเริ่มใช้กำลังถ้าไม่รู้สึกรำคาญหรือหงุดหงิดสุดขีดจริงๆ ซึ่งแต่ละหมัดของเขาส่งคนเข้าโรงพยาบาลมาแล้วหลายราย ขึ้นโรงพักเป็นว่าเล่นจนบางครั้งก็โดนฟ้องใหญ่โต เป็นภาระให้พ่อแม่ต้องคอยมาเกลี้ยกล่อมให้อีกฝ่ายยกฟ้องอีก ต่อให้เขาจะพยายามข่มใจให้อดทนไม่ปล่อยหมัดใส่ใคร แต่ถ้ายิ่งราดน้ำมันใส่กองไฟมากขึ้นเมื่อไหร่ เขาก็จะคลั่งจนต้องกลับมาใช้กำลังเหมือนเดิมล่ะนะ

    ขี้โวยวาย เสียงดัง

              ดูเหมือนนิสัยนี้จะได้เชื้อมาจากฝั่งพ่อเต็มๆ พูดกับเพื่อนปกติก็ยังเฉยๆอยู่หรอก แต่ถ้าเกิดเจอเรื่องน่าตื่นตาตื่นใจหรือโมโหอะไรสักอย่างก็จะเริ่มขึ้นเสียง บางครั้งก็พูดเสียงดังมากจนโดนด่าก็มี เซย์จิเป็นสายล่อเป้าตัวจริง ชอบทำอะไรเสียงดัง เปิดเพลงเสียงดังจนคนอื่นรำคาญ หรือแม้แต่เล่นซ่อนแอบกับครูก็ชอบเผลอตะโกนจนโดนจับได้ยกแก๊งค์ เซย์จิชอบโวยวายเวลาตัวเองไม่พอใจ ไม่เชิงตะคอก แต่ก็เสียงดังจนทำให้คนอื่นรู้สึกกลัว โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็กเนิร์ดร่างกายอ่อนแอปวกเปียก แถมเสียงยังแหบๆเหมือนคนขาดน้ำมาเป็นสิบวันก็ยิ่งทำเอาคนฟังเสียสุขภาพหู แต่ทำไงได้ ก็นี่มันเป็นนิสัยที่แก้ไม่หายของเขานี่....

    เซียนด้านการพูดกวนประสาท

              ถึงจะโดนยั่วยุง่ายก็เป็นฝ่ายยั่วยุคนอื่นได้เก่งเอาเรื่อง สกิลปากหมาจะเด่นขึ้นมาทันที จะแซะ จะแขวะ จะด่า หรือจะพูดจาแซวจนโดนตบกะโหลกไปหลายรอบก็เคยมาแล้ว โดนผู้หญิงตบหน้า หยิกแขน บิดหูนี่ก็ยิ่งโดนเป็นประจำ แต่ที่พูดๆนี่บางครั้งก็แค่พูดเล่นๆไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ก็ทำให้คนฟังหงอยจนเขาต้องเป็นฝ่ายขอโทษเป็นประจำ เขาชอบพูดจี้จุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามจนจุกและด้วยสีหน้าที่ชอบเผยแววยียวนก็ยิ่งทำให้รู้สึกเจ็บช้ำเข้าไปอีก พอยิ่งพูดมากๆก็ยิ่งทำให้ชอบพูดจาวอนเบื้องล่างจนติดเป็นนิสัย จนเผลอเอาไปใช้กับผู้หญิงหรือครูบาอาจารย์ กลายเป็นว่าทุกคนที่เขาเคยพูดคุยด้วยเกลียดขี้หน้าเขาไปหมด ถ้าไม่ใช่เพื่อนสนิทจริงๆก็จะไม่เข้าใจว่านี่เป็นนิสัยเสียๆที่เขาไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้นตั้งแต่แรก เขาก็แค่เผลอหลุดพูดไปก็เท่านั้นเอง

    จริงๆแล้วให้เกียรติเพศแม่มาก

              ถึงจะชอบพูดจากวนฟุตอย่างไรแต่ก็ให้เกียรติและเคารพสิทธิของผู้หญิงเสมอ ข้อดีอย่างหนึ่งของเขาคือไม่แตะต้องตัวผู้หญิงเลยถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ถึงพวกหล่อนจะตบตีหรือทำร้ายเขาอย่างไร เซย์จิจะไม่โต้กลับ ไม่ใช้กำลังกับสตรีเพศเด็ดขาด เว้นแต่ถ้าพวกหล่อนคุกคามหรือเป็นภัยต่อชีวิตเขา เซย์จิจึงจะใช้กำลังเหมือนกับที่เขาใช้กับคู่อรินั่นล่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เพราะเป็นผู้หญิง เขาก็เลยพยายามไม่โฟกัสกับการจัดการพวกหล่อนมากเท่าไหร่ จะให้ผู้หญิงจัดการกันเองมากกว่า แต่ถ้าเป็นผู้ชายเขาก็อัดเต็มที่ไม่มีกั๊ก ถ้าเขาเอ่ยปากขอจับมือใครหรือเป็นแตะต้องตัวอีกฝ่ายโดยที่ไม่ได้มีเหตุจำเป็นอะไร ถือว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนพิเศษสำหรับเขาเลยล่ะ

    ไอคิวต่ำเตี้ยเรี่ยดิน

              รอยหยักบนสมองเรียกได้ว่าน้อยมากจนแทบไม่มี ไม่มีหัวทางด้านวิเคราะห์หรือภาษาอะไรทั้งนั้นเพราะเซย์จิมีดีแค่เรื่องหน้าตาและการใช้กำลัง เขาไม่ชอบเรียน ไม่ชอบอยู่ในห้องเรียนเพราะไม่อยากเจอหน้าครูเลยโดดเรียนบ่อยๆ พอโดดเรียนก็ดันเจอคู่อริได้แผลกลับมาอีก เรื่องคะแนนสอบไม่ต้องถามถึง แค่ผ่านครึ่งก็เก่งแล้วสำหรับคนอย่างเขา เซย์จิเรียนห่วยทุกวิชายกเว้นวิชาพละ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็โดดวิชาพละอยู่ดี จะเข้าเรียนแค่เวลาสอบเก็บคะแนนเฉยๆ ซึ่งก็ผ่านฉลุยได้เต็มทุกรอบ วันๆนึงในห้องเรียนถ้าเขาไม่โดดไปไหน เขาก็จะนอนหรือไม่ก็เขียนจดหมายพับเป็นจรวดส่งหาเพื่อน ความรู้ที่ครูสอนไม่เคยอยู่ในสารบบความคิดสักเท่าไหร่ ต่อให้ช่วงใกล้สอบมีคนมาช่วยติว ทุกอย่างก็จะจบลงที่เขาไม่เข้าใจเนื้อหาอยู่ดี บอกเลยว่าเรื่องการเรียนสำหรับเซย์จินั้นเกินเยียวยาจริงๆ

    จริงใจ ตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม

              เซย์จิเป็นคนตรงมาก คิดอะไรก็พูดไม่เกรงใจใคร ขวานผ่าซากไม่มีใครเกิน คำพูดของเขามักเป็นชนวนที่ทำให้เกิดการต่อยตีอยู่บ่อยๆ เขาเกลียดเวลาที่คนพูดจาอ้อมค้อมไม่เข้าประเด็นสักที หรือเวลาจะหาเรื่องเขาก็เก๊กทำเป็นพูดจาคมคายแทนที่จะเข้ามาต่อยเขาโดยตรงเลยทีเดียว เซย์จิก็จะข้องใจประมาณว่าแบบ ' บ่นไรของมันวะ ' เขาเป็นคนเลือกคบเพื่อน มีทั้งเพื่อนที่ตั้งใจเรียนและไม่ตั้งใจเรียนปะปนกันไป เขาไม่ค่อยมีเพื่อนมากนักถ้าเทียบกับจำนวนศัตรู แต่ถ้าใครได้เป็นเพื่อนกับเซย์จิด้วยแล้วจะรู้ว่าเขาเป็นคนจริงใจมาก ไร้เล่ห์เหลี่ยมใดๆ ไม่เคยหลอกใช้ใครเป็นเครื่องมือหรือเป็นทางผ่าน เพื่อนคือคนสำคัญ เป็นกลุ่มคนที่เขาสามารถพึ่งพาและเป็นที่พึ่งพาให้ได้ ถ้าเขาโดนหลอก เขาก็แค่จัดการอัดมันให้น่วมและตัดขาดความสัมพันธ์กับมันก็เท่านั้น และเขาไม่ใช่ประเภทพวกชอบนินทาเท่าไหร่ ต่อให้มีคนมานินทาให้ฟัง เขาก็จะแค่ตอบ ' อืม ' เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา พออีกฝ่ายเล่าจบเขาก็ลืมพอดี ก็มันไม่ใช่กงการอะไรที่เขาต้องมารับรู้นี่

    บางครั้งก็ชอบแบกรับปัญหาเอาไว้เอง

              เขาไม่ค่อยชอบเล่าอะไรให้ใครฟังถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายจริงๆ คือเขาไม่ได้คิดนะว่ากลัวคนอื่นต้องมาเครียด แต่ถ้ามันเป็นเรื่องของเขา เขาก็มีหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบเอง ไม่ใช่กงการที่คนอื่นจะต้องสอดรู้สอดเห็นเรื่องของเขา ถึงแม้มันจะเครียดจนอยากจะระบายแค่ไหน เซย์จิก็จะเงียบไม่พูดอะไร จนบางครั้งก็ดูเก็บกดไปบ้าง แต่ถ้าได้ออกกำลังกายหรือหาอะไรทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ เขาก็จะกลับมาเป็นหมาบ้าเหมือนเดิม อย่างหนึ่งที่คุณต้องจำไว้คืออย่าพยายามคะยั้นคะยอให้เขาพูดเรื่องที่ทำให้เขาไม่สบายใจออกมา เพราะนอกจากเขาจะไม่พูดแล้วคุณจะโดนด่าฟรีอีกต่างหาก สิ่งที่ควรทำคือให้เวลากับเขาสักพัก ส่วนเขาจะเล่าหรือไม่เล่าให้ฟังก็ขึ้นอยู่กับความไว้ใจระหว่างตัวเขากับคุณแล้วล่ะ


    ประวัติ :: อย่างที่รู้กันว่าเซย์จิเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของผู้พิทักษ์อรุณของวองโกเล่รุ่นที่10และภรรยาของเขา ' ซาซางาวะ ฮานะ ' ช่วงชีวิตวัยเด็กของเขาก็เหมือนเด็กทั่วไป วิ่งเล่น ปั่นจักรยาน เล่นกีฬา มีหกล้มบ้างเป็นธรรมดา พ่อของเขาเป็นนักมวยมืออาชีพที่เขานับถือเป็นต้นแบบมาก เซย์จิชอบหนีออกจากบ้านไปค่ายมวยบ่อยๆเพื่อไปดูพ่อต่อยมวย จนบางครั้งเวลาที่เขาอยู่กับพ่อ เขามักจะเผลอต่อยแขนเรียวเฮจนช้ำไปหลายรอบ ซึ่งเรียวเฮเองก็เห็นถึงพรสวรรค์ทางด้านนี้ของลูกชาย จึงให้เซย์จิลองฝึกต่อยมวยสากลดู ครั้งแรกที่ลูกชายของตนได้จับนวมลองต่อยกับอาจารย์ในค่ายเป็นครั้งแรก เขาสามารถน็อคอาจารย์ที่สูงกว่า ตัวใหญ่กว่าเขาเป็น3เท่าเพียงแค่ปล่อยหมัดแรกเข้าที่ท้องอีกฝ่าย ด้วยความที่ยังเป็นเด็กก็ยังไม่รู้หรอกว่าอะไรเป็นอะไร แต่ผู้พิทักษ์อรุณเริ่มมีสีหน้าตึงเครียดขึ้นราวกับว่ามีเรื่องหนักใจให้ต้องขบคิดเสียแล้ว

              ชีวิตของเขาก็ยังคงดำเนินไปตามปกติ วิ่งเล่นไล่จับกับเพื่อนในสวนสาธารณะ จนกระทั่งเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งโดนกลุ่มเด็กเกเรแกล้งจนร้องไห้เสียงดังลั่น เซย์จิลังเลว่าจะช่วยดีไหมแต่ก็ยอมไปช่วยเพราะสงสาร แน่นอนว่าหลังจากนี้คงไม่พ้นเรื่องต่อยตีเป็นแน่ ครั้งนี้เป็นการสู้แบบ4ต่อ1 เด็กชายคนเดียวถูกล้อมรอบด้วยเด็กผู้ชายตัวใหญ่ทั้งสี่ เซย์จิเองก็ต้องสู้อย่างไม่มีเงื่อนไข

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

              เขามองเด็กทั้งสี่ที่นอนร้องโอดครวญบนพื้น ดั้งจมูกยุบทั้งสี่รายแถมด้วยเเผลฟกช้ำบนใบหน้า ส่วนตัวเขามีเพียงแค่แผลโดนต่อยนิดๆและเเผลถลอกนิดหน่อย ทันทีที่ทุกอย่างจบลง พ่อแม่ของเด็กทุกคนรวมถึงพ่อแม่ของเขาต่างรีบร้อนมาดูอาการลูกตัวเอง เขายังจำได้ พ่อแม่ของเขาถูกด่าทออย่างหนักจนเรื่องลามไปถึงตำรวจ....แน่นอนว่าเรียวเฮและฮานะต่างปกป้องลูกชายของพวกเขาอย่างเต็มที่ แม้จะต้องแลกด้วยเงินทองบางส่วนและต้องเสียชื่อเสียงของตระกูลก็ตาม การโต้เถียงระหว่างพ่อแม่ของเขาและพ่อแม่ของเด็กทั้ง4อยู่ในสายตาของเด็กน้อยอย่างซาซางาวะ เซย์จิทั้งหมด

              จนกระทั่งเขาโตขึ้น พละกำลังเริ่มมีมากขึ้น เซย์จิเองก็ไม่ได้โง่ถึงขนาดไม่เข้าใจสถานการณ์ของตัวเองเลย เขารู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างในร่างกายเขาที่แตกต่างจากคนอื่น พ่อของเขาเองก็เข้าใจว่าลูกชายเองก็มีวุฒิภาวะในระดับหนึ่งแล้ว จึงเริ่มเล่าเรื่องทุกอย่างที่เคยปิดเป็นความลับเอาไว้ในวันครบรอบวันเกิด13ปีของเซย์จิ

              เรียวเฮเล่าทุกอย่างตั้งแต่หน้าที่การงานของตนเอง สิ่งที่เขาต้องแบกรับในทุกๆวันเพื่อครอบครัว เซย์จิที่รับรู้เรื่องราวทั้งหมดก็ทำเพียงพยักหน้ารับรู้ ถึงแม้ว่าบางเรื่องจะยากเกินกว่าที่เด็กม.ต้นจะเข้าใจแต่เขาก็พยายามรับฟังสิ่งที่พ่อเขาพูดมา จนกระทั่งพ่อของเขากลับมีสีหน้าจริงจัง มือใหญ่จับไหล่ทั้งสองของเด็กน้อยแน่นก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งผิดวิสัย

    " พ่ออยากให้เซย์เป็นผู้พิทักษ์อรุณแบบพ่อ "

    ถึงงานผู้พิทักษ์จะเท่ขนาดไหน แต่เขาก็ไม่ได้อยากปกป้องคนที่เขาไม่ได้รู้จักเลยสักนิด

              เขาไม่ได้ตอบปฏิเสธในทันที แต่กลับขอเวลาไปคิดสักพักแล้วจะมาให้คำตอบ เรียวเฮเองก็ไม่ได้เร่งอะไรเขามากนัก ในคืนนั้นเขามัวแต่ครุ่นคิดเรื่องนี้จนไม่ได้นอนหลับทั้งคืน

    เอาวะ ก็ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้วนี่

              เขาให้คำตอบกับพ่อว่าเขาจะทำ ซึ่งก่อนที่จะได้เป็นผู้พิทักษ์เขาต้องฝ่าด่านอะไรเยอะมาก พ่อเขาก็แค่ช่วยปูทางกับให้คำปรึกษาเพิ่มเติม และคอยเป็นคู่ฝึกซ้อมให้ แต่ที่เหลือคือหน้าของเขาที่ต้องไปค้นหาเอาเอง ใช่ว่าเป็นคนในสายเลือดของผู้พิทักษ์แล้วจะเป็นผู้พิทักษ์ได้อย่างง่ายได้เสียหน่อย ยังไงก็ต้องผ่านเหตุการณ์อันเลวร้ายกันทั้งนั้น

              นับเป็นครั้งแรกที่เขาเริ่มทำอะไรจริงๆจังๆในชีวิต เริ่มจากการไปเสนอหน้าให้ลูกชายของซาวาดะ สึนะโยชิรู้สึกรำคาญเล่นๆจนกระทั่งทั้งสองเริ่มพูดคุยกันมากขึ้น แต่บอสในอนาคตของเขาก็ยังคงนิสัยแบบเจ้าชายน้ำแข็งเหมือนเดิม ดูเป็นเด็กเรียนมีอนาคต ในขณะที่เขาก็เฮฮาปาร์ตี้ไร้การศึกษาไร้อนาคต เป็นเพื่อนที่นิสัยแตกต่างราวกับฟ้ากับเหว แต่ลูกชายของบอสรุ่นที่10ก็ยังอุตส่าห์ทนคบเพื่อนไม่เอาไหนอย่างเขาอยู่ดี หลังจากนั้นเขาก็ฝึกต่อยมวย ฝึกใช้พลังกับพ่อช่วงระหว่างรอสืบทอดตำแหน่ง

              ถึงตอนแรกจะไม่ค่อยชอบหน้าลูกชายรุ่นที่10เพราะเกลียดความขี้เก๊กนั่นก็ตาม แต่จะให้อีกฝ่ายเป็นคนเข้าหาเขาคงรอไปอีกสิบชาติ ซึ่งตอนนั้นเขาอาจจะติดคุกไปแล้วก็ได้ สู้ยอมทนนิสัยของอีกฝ่ายเพื่ออนาคตตำแหน่งไม่ดีกว่าหรือไง

              เหมือนช่วงม.ต้นก็ยังดูไม่มีอะไรมาก แต่ช่วงม.ปลายของเขาเรียกได้ว่าเป็น Trouble Maker ของแท้ ยิ่งโตขึ้นเขาก็ยิ่งอารมณ์ร้อนจนเผลอไปร่วมวงตะลุมบอนเด็กต่างโรงเรียนเป็นเรื่องใหญ่โต เขาเผลอใช้แรงจนทำเด็กวัยเดียวกันเข้าไอซียู พ่อแม่โดนฟ้องใหญ่โต เขาเกือบโดนจับไปอยู่สถานพินิจของเยาวชน แต่ก็เป็นอีกครั้งที่เรียวเฮกับฮานะพยายามช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่ โชคดีที่ได้คนของวองโกเล่มาช่วยไกล่เกลี่ยจนทุกอย่างจบลงด้วยดี แต่เชื่อเถอะ พ่อแม่ของเขาคงอยู่ในสภาพอารมณ์ที่ย่ำแย่พอควร

              เซย์จิพยายามเพลาๆเรื่องการใช้กำลังลง เขาพยายามไม่ไปยุ่งกับคู่อริ แต่ทว่ายังไงก็ไม่พ้นโดนอีกฝ่ายหมายหัวเอาไว้ และชีวิตของเขาก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป รอบตัวของเขามีแต่อริจากหลากหลายโรงเรียน แม้กระทั่งคนในโรงเรียนยังเกลียดขี้หน้าเขา เป็นช่วงที่ชีวิตของเขาดิ่งลงเหวเต็มที่ แถมพ่อของเขาก็มัวแต่ทำงานรับใช้วองโกเล่ไม่ได้สนใจเขาเท่าที่ควร ลำพังแค่แม่คนเดียวยังไงก็บังคับให้เขาไม่ให้มีเรื่องไม่ได้หรอกนะ

              แน่นอนว่าเขาก็ยังเป็นเพื่อนกับลูกชายรุ่นที่10อยู่ แต่ก็ไม่ด้สนิทกันเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ทั้งคู่ต่างมีเพื่อนกลุ่มใหม่ จากที่เคยคุยกันบ่อยๆก็ไม่ได้คุยอะไรมาก ถามคำตอบคำแล้วก็แยกย้ายทางใครทางมัน

              จากที่เคยฝึกซ้อมมวยก็เริ่มไม่ตั้งใจซ้อม ฝึกพลังก็แค่ฝึกไปวันๆงั้นๆจนเขาคิดจะล้มเลิก เขาเริ่มมีปากเสียงกับครอบครัวมากขึ้น หนีไปค้างบ้านเพื่อนบ่อยขึ้น จนกระทั่งทุกอย่างมาถึงจุดแตกหักในที่สุด เรียวเฮต่อยหน้าลูกชายตัวเองเป็นครั้งแรกก่อนจะตวาดใส่เขาอย่างหนัก

    " ถ้าแค่นี้ยังทำไม่ได้ก็อย่ามาใช้นามสกุลของซาซางาวะ!!!! "

              เหมือนโดนดึงสติให้คืนกลับมา เป็นครั้งแรกในหลายปีที่เขามานั่งเครียดเพราะคำพูดของพ่อ ทั้งที่ปกติก็ทำเป็นหูทวนลมไม่ได้สนใจอะไร หลังจากวันนั้นเขาก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม มีเตะต่อยกับคู่อริ โดดเรียนบ้าง แต่สิ่งที่ต่างกันออกไปคือเขากลับมาตั้งใจทำเป้าหมายของเขาอย่างสุดความสามารถ เขากลับมาต่อยมวยเหมือนเดิม ฝึกใช้พลังธาตุอรุณของเขาอย่างตั้งใจ ความสัมพันธ์ของเขากับคนในครอบครัวก็เริ่มดีขึ้น อย่างน้อยพวกเขาก็เห็นว่าเขาตั้งใจจะสานต่อความตั้งใจเดิม เรียวเฮก็ช่วยผลักดันหนทางการไปเป็นผู้พิทักษ์อรุณของวองโกเล่ แฟมิลี่ของลูกชายอีกครั้ง

              ชีวิตก็ไม่ได้ดีไปกว่าเดิมสักเท่าไหร่ พ่อแม่ก็ไม่ได้คาดหวังอนาคตเรื่องการเรียนของเขามากนัก สิ่งเดียวที่เขาตั้งใจจริงๆคือ เขาต้องเป็นผู้พิทักษ์อรุณของวองโกเล่ให้ได้ ก็เท่านั้นล่ะ

              ส่วนความสัมพันธ์ของเขาและเพื่อนก็เริ่มดีขึ้น จริงๆก็ยังมีคนไม่ชอบขี้หน้าเขา แต่ใครแคร์ เซย์จิก็ยังใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงไม่แคร์ใครเหมือนเดิม


    ไฟธาตุ :: อรุณ

    ยกตัวอย่างคำพูด :: เซย์จิเป็นคนที่มีเนื้อเสียงแหบเหมือนพ่อของเขา แต่เสียงเขาจะออกกวนๆเสียมากกว่า เขาเป็นคนพูดเสียงดัง แต่พูดชัดมาก ไม่ค่อยชอบใช้คำพูดวัยรุ่นแบบเชิง ' ครัช ตะมุตะมิ ' อะไรประมาณนี้สักเท่าไหร่ [จริงๆก็ไม่ได้แคร์ว่าภาษาจะเสีย แต่แค่ฟังแล้วรำคาญ เลยไม่พูด] เขาแทนตัวเองว่า ' ฉัน ' เรียกคนอื่นว่า ' นาย, เธอ, แก ' แล้วแต่ความชอบความเกลียด บางครั้งก็จะชอบลงท้ายด้วย ' วะ ' พอให้ดูห้าวทีนสักเล็กน้อย

    ☀ เวลาที่เขาอารมณ์ดี ก็จะพูดเสียงดังเฮฮาแฮปปี้ไลฟ์กับเพื่อนฝูง
    " อันนี้อร่อยว่ะ กินซะ ฉันบังคับ "
    " โคตรดี!!! "
    " ก็คนมันชีวิตดีไง ฮ่าๆ "

    ☀ เวลาที่เขาอารมณ์เริ่มบูด อย่างเช่นเจอหน้าคู่อริ โดนอริพูดจากวนส้นใส่
    " บ่นไรลุง "
    " ถามอยู่ได้ ไอเก๋าเหรอๆเนี่ย เดี๋ยวจัดให้สักดอกนึงมั้ยจะได้รู้ว่าเก๋าไม่เก๋า "
    " เลิกพล่ามได้ละครับ รำคาญ "
    " อะไรวะ!!! "

    ☀ เวลาคุยกับพ่อแม่ จะแทนตัวเองว่า 'ผม' เรียกเรียวเฮว่าตาแก่และเรียกฮานะว่าแม่
    " ผมหายใจไม่ออกโว้ย!! เอามือออกไปเดี๋ยวนี้ตาแก่!! "
    " ไปบ้านเพื่อนนะแม่ "
    " ก็แม่งมาเรื่องผมก่อน.....อ-อะไรอีกอ่ะครับ ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นใส่ด้วยเล่า!​ "

    ☀ เวลาพูดจากวนโอ๊ยใส่คนอื่น จะชอบพูดแล้วยิ้มมุมปากก่อนจะโดนตบไปตามระเบียบ
    " นี่คนเหรอ นึกว่าหมู "
    " เห็นหน้าเธอแล้วอยากกินหมูหัน "
    " พูดแบบนี้ฉันเสียใจนะ ลืมเรื่องเมื่อคืนของเราแล้วเหรอ "
    " นมเล็กไม่เอา ชอบนมใหญ่ "

    ☀ เวลาคุยกับผู้พิทักษ์ในกลุ่ม จะจริงจังขึ้นมานิดหน่อย โดยเฉพาะเวลาคุยกับบอส
    " ไม่ ฝั่งพวกมันมีเป็นร้อย ต่อให้เราจะมีความสามารถเหนือกว่าก็จริง แต่ไม่คิดเหรอว่ามันใช้พลังงานเยอะแค่ไหนน่ะ "
    " โอ๊ส! ไว้ใจฉันได้เลย! "
    " หา....ถ้าสอดแนมได้ก็ทำดีกว่ามั้ย ถ้าจัดการซะตั้งแต่ตอนที่พวกมันไม่รู้ก็จะเป็นผลดีกับฝั่งเราไม่ใช่เหรอ? "


    เพิ่มเติม ::

    ♞ เซย์จิมีงานอดิเรกคือต่อยมวย เล่นเกม แต่มีอีกสิ่งนึงที่เขาไม่เคยบอกให้ใครรู้คือเขาชอบถักโครเชต์และนิตติ้ง มันเป็นงานผู้หญิงที่เขาอายเกินกว่าจะบอกให้ใครรู้ เขาซุกอุปกรณ์ไว้ในลิ้นชักที่มีตัวล็อกแน่นหนา เซย์จิสามารถถักเป็นตุ๊กตาหรือผ้าพันคอได้ภายในระยะเวลาอันสั้น เขารู้ว่าการถักอะไรพวกนี้มันโคตรจะสาวน้อย แต่เขาก็ชอบจริงๆนะ
    ♞ อาหารที่เขาชอบคือข้าวหน้าเนื้อและเมนูซาชิมิ
    ♞ เวลาต่อสู้ส่วนมากเขาอยู่สายบุก ใช้พลังมากกว่าคนอื่นและอึดถึกที่สุดในทีม
    ♞ ถ้านึกเสียงของเซย์จิไม่ออก เสียงของเขาจะออกแนวๆ UrboyTJ


    TALK WITH M.N.T

    ชื่ออะไรคะเตง? :: บริทค่ะ

    ทำไมสนใจมาเรื่องนี้เหรอคะ? :: เบื่อค่ะ ไม่มีอะไรมาก เลยมาลง5555555 ชอบปั่นคาร์แนวนี้อยู่แล้วด้วย

    ถ้าไม่ติดจะยังติดตามอยูไหม หรือว่าจะไปบึ้มบ้านเรา :: ถ้าส่งโลเคชั่นมาก็อาจจะตามไปเผานะ #เอ๊ะ

    ขอบทเพลงที่เป็นตัวลูกท่านสั้นๆมาหนึ่ง-สองประโยคหน่อย :: ขี้โม้น่ะกูไม่ทำกูเอาจริง โย่ว สีสัันกูแสบสัดจัดหนักให้ยิ่งกว่าปีโป้

    #ขอให้ติดนะค้า!!!
    B
    E
    R
    L
    I
    N
     Dimension Pointer
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×