คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : แฟนใหม่
“เฮ้ย!”
และนี่คือเสียงที่ทั้งฉันและไอ้จุ้นประสานออกมาพร้อมกัน ในขณะที่พี่คนนั้นได้แต่ยืนทำหน้าเหรอหรา เป็นอันว่าความคิดก่อนหน้านี้ที่ฉันชมว่าเขาหล่อถือซะว่าเป็นโมฆะ! =_=
“ไม่ใช่! ยัยนี่เป็นเพื่อนน่ะ”
“ใช่ๆ เอ๊ย!! ไม่ใช่ค่ะ คือเราเป็นคนรู้จักกันน่ะค่ะ เอ่ออาจจะเป็นศัตรูก็ได้น่ะค่ะ”
ฉันตอบอึกอักขณะมองไอ้จุ้นตาขวาง
“ใคร...เธอว่าใครเป็นศัตรู!”
จุ้นตวาดใส่ฉัน
“แล้วนายล่ะ นายเรียกใครว่ายัยนี่!!”
ฉันย้อน
“เธอคิดว่าฉันอยากเป็นเพื่อนกับเธอรึไง!!”
“ฉันก็ไม่เคยคิดอยากจะคบกับนายหรอกไม่ว่าจะแบบไหนทั้งนั้น!!”
“เฮอะ! พูดกับเธอแล้วอยากจะอ้วก”
“โอ๊ะ! เหรอ ฉันไม่ต้องพูดหรอกแค่เห็นหน้านายแบบผ่านๆก็ปวดขี้แล้ว แล้วนี่ฉันต้องมาเถียงกับนายอีก สงสัยคืนนี้ฉันต้องนอนฝันร้ายแน่ๆ!!”
“อ๋อ..นี่..คิดว่าเธอเป็นอย่างนั้นคนเดียวรึไง!”
“นั่นมันเรื่องของนาย...”
“เอ่อ...พอซักทีได้มั้ย!”
พี่คนนั้นพูดแทรกขึ้นมา ซึ่งก็ดังพอทีจะทำให้เราสองคนหยุดสงครามน้ำลาย
“ฉันก็แค่ถามว่าเป็นแฟนกันเหรอเท่านั้นเอง ไม่เห็นต้องมาทะเลาะกันเลย”
พี่ประธานชมรมพูดกลั้วหัวเราะ ขณะที่ฉันกับจุ้นมองหน้ากัน ถ้าเราเป็นหมาเราคงแยกเขี้ยวใส่กันแล้ว
“อีกอย่าง...รถเมล์ก็ผ่านมาแล้ว แล้วมันก็ไปแล้วด้วย ถ้ายังยืนทะเลาะสงสัยคงไม่ต้องไปเรียนแล้วมั้ง”
ว้าก! จริงอย่างที่พี่คนนี้พูด เพราะเมื่อฉันก้มลงมองนาฬิกาก็ปรากฎว่าเวลาได้ล่วงเลยผ่านไปกว่าสิบห้านาทีโดยเปล่าๆปลี้ๆ ฉันอุตสาห์วางแผนว่าจะมาลอกการบ้านยัยนิ้งแต่เช้าแท้ๆ ฮึ่ม!! ไอ้จุ้นเพราะนายแท้ๆ -_-^
และเป็นอันว่าเช้าวันนี้แทนที่ฉันจะได้ไปโรงเรียนแต่เช้ากลับกลายเป็นสายไปกว่าเดิมเสียอีก เพราะหลังจากนั้นเราก็เสียเวลารอรถเมล์อีกหลายสิบนาทีกว่ามันจะมา ดังนั้นเมื่อไปถึงโรงเรียนได้ ฉันก็รีบวิ่งอ้าวๆไปสมทบกับกลุ่มเพื่อนที่โรงอาหารทันที
“แฮ่กๆๆๆ”
“หอบเป็นหมาเลย แกไปทำไรมาอ่ะ”
แพมเท้าเอวถามพลางเคี้ยวแซนวิชเต็มปาก
“ก็วิ่งมาเด่ะ! แฮ่กๆ ไม่เห็นรึไง แฮ่กๆๆ นิ้งๆ เอาการบ้านมาลอกหน่อย”
ฉันตอบแพม ประโยคสุดท้ายหันไปบอกยัยนิ้ง
“ทำไมเวลาแกจะลอกการบ้าน มันต้องเป็นของฉันทุกทีเลยวะ”
นิ้งเงยหน้าถามขณะขยับแว่นตากรอบน้ำตาลให้เข้าที่
“ก็ฉันรู้ไงว่าแกเป็นเด็กเรียน เอามาเร็วๆเหอะเดี๋ยวไม่ทัน”
ยัยนิ้งส่งชีทการบ้านเลขมาให้ฉัน ก่อนจะก้มหน้างุดๆไปขลุกอยู่กับหนังสือตรงหน้าต่อ
“แต่วันนี้แกมาโคตรช้าเลยว่ะ ฉันคิดว่าแกจะมาเร็วกว่านี้ซะอีก”
แพมนั่งลงข้างฉัน
“มันมีเหตุนิดหน่อยอ่ะ”
ฉันตอบพลางลอกการบ้านเลขอย่างเมามัน
“เหตุ...ทำไมเหรอ เมนมาเหรอวะ!”
“ช่างมันเหอะ อย่าไปพูดถึงมันเลย พูดแล้วเดี๋ยวฉันกินข้าวไม่ลง แล้วไอ้ที่แกบอกว่านึกว่าฉันจะมาเช้าน่ะ ทำไมเหรอ”
”อ้าว...ก็ที่เราคุยกันเมื่อคืนไง ที่ฉันจะพาไปรู้จักแฟนใหม่ฉันน่ะ”
แพมตอบกระดี๊กระด๊า
“แหม...แฟนใหม่! พูดได้เต็มปากเต็มคำเลยนะแกน่ะ เพิ่งเลิกกะไอ้แบงค์ไปเมื่อวานเอง”
“อย่าไปพูดถึงมันเลย พูดแล้วฉันก็เสียดายมือถือ”
แพมพูดหน้าเศร้า ขณะที่ฉันส่ายหน้าระอากับความงกของมัน
“แล้วแกเอามือถือไปคืนแบงค์มันแล้วเหรอ”
“อืม...ฉันฝากน้องมันไปคืนแล้ว เออ! แก...งั้นตอนพักกลางวันก็ได้ ฉันจะพาไปหาแฟนฉัน”
“เออๆ เฮ้อ...แต่ความจริงฉันก็ไม่ได้อยากจะไปเจอเค้าซักเท่าไหร่หรอกนะ มันก็คงไม่พ้นสไตล์เดิมๆ ไอ้ผมตั้งๆ หน้าตี๋ๆ อะไรเทือกนั้น”
“แกไม่รู้อะไร นี่คนนี้ฉันบอกไว้ก่อนว่าเค้าไม่เหมือนใครนะยะ”
“เอ๊ะ! เค้าอยู่โรงเรียนนี้เหรอ”
“ก็เออเด่ะ! แกก็หน้าจะทำความรูจักไว้นะ เพื่อนเค้าอ่ะหล่อทั้งกลุ่ม”
“เหรอ...ก็ได้ฉัน...”
“นี่พวกแกน่ะ!...”
ในตอนนั้นเองที่ยัยนิ้งพูดขัดขึ้นมาซึ่งทำให้ทั้งฉันและแพมแปลกใจโคตรๆ เพราะเราต่างก็ไม่เคยเห็นยัยนี่ออกความเห็นอะไรเวลาทีเราคุยกันเกี่ยวกับเรื่องผู้ชาย หรือเรื่องไร้สาระอื่นๆ แต่ถ้าเป็นเรื่องเรียนมันไม่เคยพลาด
แต่วันนี้ที่มันพูดขึ้นมาในจังหวะนี้จึงถือว่าผิดปกติมากๆ
“...”
ดังนั้นเราสองคนจึงเงียบกริบทันที รอฟังว่ามันจะพูดอะไรต่อ
“...เสียงออดดังแล้วไปเข้าแถวกันเถอะ”
ยัยนิ้งบอกด้วยสีหน้าเรียบเฉยพลางเก็บหนังสือที่มันอ่านเข้ากระเป๋า เป็นอันว่ามันยังปรกติดีอยู่ -_-
“นี่ยัยเบล พี่แกชักจะดังใหญ่แล้วนะ ดูนี่สิ”
ยัยหนึ่งเพื่อนในห้องมาสะกิดฉันพลางยื่นหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งให้ดู ฉันก้มลงมองดูอย่างไม่สนใจนัก ก่อนจะต้องทำตาลุกวาว
เบื้องหลังการถ่ายทำเอ็มวี เพลงเปิดตัวโนอีโก้
“อุ๊! นี่มัน...”
ยัยแพมชะเง้อคอมาดูอีกคน ในภาพเป็นรูปการทำงานของทีมงาม แน่นอนมีพี่ดอมสุดหล่อของฉันอยู่ด้วย และก็มีภาพยัยแบม เอ๊ย!พี่แบมกำลังจุ๊บแก้มพี่ดอมของฉันอย่างหวานแหวว
“ฉันอิจฉาพี่แกจังเลยว่ะ!”
“เออ...แล้วเมื่อไรรูปพี่แบม ที่ฉันฝากเธอขอจะได้ซักทีล่ะ เอาแบบกำลังอาบน้ำอยู่ก็ได้นะ”
นายเต้ยที่ดูท่าทางหื่นกามและเป็นแฟนคลับคนหนึ่งของพี่แบมโผล่หน้ามาถาม
“ฝันไปเถอะย่ะ!”
ฉันตอบกลับหน้าเบ้ ซึ่งตอนนั้นอาจารย์เอมใจได้เดินเข้ามาพอดี ทำให้เหล่านักเรียนที่จับกลุ่มคุยกันสลายตัวไปนั่งที่ของตัวเองทันที แม้อาจาย์เอมใจจะไม่ใช่ครูที่ดุร้ายป่าเถื่อนอะไร(เอ๊ะ! พูดเหมือนสัตว์ป่า) และปฏิกิริยาการสลายตัวของเหล่านักเรียนก็ไม่ได้ไปกระตุ้นต่อมโมโหของอาจารย์แม้แต่น้อย แต่ปฏิกิริยานี้ก็ยังคงเกิดขึ้นทุกครั้งที่มีอาจารย์เข้ามาในห้อง เหมือนเป็นสัญชาตญาณแห่งความถูกต้องของนักเรียน อาจเรียกได้ว่าเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติ
“ที่เมื่อวานครูได้บอกไปเรื่องเรียนพิเศษสำหรับนักเรียนที่ตกของครู เอาเป็นว่าครูจะเริ่มพรุ่งนี้นะ ตอนเลิกเรียน ก็คือราวๆประมาณ สามโมงครึ่งที่ห้องสามสามสองนะจ๊ะ ในแต่ละครั้งที่เข้าเรียนจะทำการเช็คชื่อ แล้วเราจะเอาจำนวนครั้งนี้ไปเป็นคะแนนสำหรับนักเรียนที่ตกนะ และต้องเข้าเรียนอย่างน้อยไม่ต่ำกว่าสิบสองครั้งด้วย เราจะเรียนกันทุกๆวันพุธและศุกร์ เริ่มพรุ่งนี้วันแรก...”
อาจารย์เอมใจพูดหลังจากที่ หัวหน้าบอกทำความเคารพเรียบร้อย
“นี่ยัยแพม แกไม่ตกอังกฤษจริงเหรอ”
ฉันถามยัยแพมที่นั่งข้างๆ
“อืม...”
ทันทีที่มันตอบกลับมาสีหน้าฉันก็ห่อเหี่ยวลง
“แล้วทีนี้ฉันจะนั่งเรียนกับใครล่ะ”
ฉันถาม
“ไอ้จุ้นไง มันก็ตกเหมือนกันนี่”
“อะไรนะ!”
-_- หลังจากนั้นวิชาอังกฤษที่สุดแสนจะน่าเบื่อก็ยังคงดำเนินตอไป ตามด้วยวิชาเลขที่สุดแสนจะหฤโหด และวิชาพละศึกษาที่สุดแสนจะทรหด โอ๊ย!รู้สึกตาลายชะมัดหิวขาวเป็นบ้า...เมื่อไหร่จะหมดคาบซักทีฟะ!
“เย้ๆ พักแล้วๆ ไป...เบลไปหาพี่ต้ากัน”
“หา...ใครอ่ะ”
ฉันถามขณะนั่งพักเหนื่อยจากการวิ่งระยะสั้น
“ก็แฟนฉันน่ะสิ”
“นี่แกจะไม่ให้ฉันกินข้าวเลยหรือไงยะ ตั้งแต่เช้าฉันก็ยังไม่ได้กินอะไรเลยนะ หิวท้องกิ่วหมดแล้ว”
ฉันโวยวาย
“ใครบอกล่ะ ก็ไปกินด้วยกันกับแฟนฉันไง”
“ไม่เอาอ่ะ อยู่ต่อหน้าคนอื่นที่ไม่รู้จักฉันกินไม่ลง”
“เถอะน่า...”
ยัยแพมไม่ยอมฟังเสียงฉันแล้วก็ดึงดันจะลากฉันไปอย่างเดียว ในขณะที่ฉันหมดแรงเพราะความเหนื่อยและหิว
“ว่าแต่แฟนแกชื่อไรนะ”
“พี่ต้าๆๆ”
ยัยแพมตอบร่าเริง
“รู้แล้วๆ บอกฉันครั้งเดียวก็จำได้แล้วย่ะ แต่เอ๊ะ! ชื่อคุ้นๆนะ”
“ใช่ม้า...ก็พี่เค้าฮอตมากเลยนะ พวกผู้หญิงไม่มีใครไม่รู้จักหรอก”
“ทำไมอ่ะ เค้าหล่อเหรอ”
ไม่น่าถามเลยฉัน ก็ถ้าไม่หล่อยัยนี่คงไม่เอามาทำแฟน เชอะ! ยัยคนมองคนที่หน้าตา -_-
“หึๆๆ ไม่ได้แค่หล่ออย่างเดียวนะเว้ย! เค้ายังเป็นนักกีฬาเทควันโดด้วย เป็นประธานชมรมไงล่ะ”
ฉับพลันนั้น ฉันก็นึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อเช้า เหมือนภาพยนต์ที่ถูกกรอกลับ...เมื่อเช้าที่ฉันบังเอิญเจอไอ้จุ้นที่ป้ายรถเมล์ และมีรุ่นพี่คนนึงที่เป็นประธานชมรมของไอ้จุ้นเข้ามาทักทาย ชมรมเทควันโด!
“เดี๋ยวนะ...ไอ้ชมรมที่ว่าเนี่ยมันชมรมอะไรอ่ะ”
ฉันถามเริ่มรู้สึกลางไม่ดี
“เทควันโดไง”
แพมตอบ และฉันก็ได้ค้างไปเรียบร้อยในท่าอ้าปากหวอ...
“เอ่อ...แพม คือฉันชักไม่อยาก...”
“นั่นไงๆ อยู่นั่นไง โห...นั่งกันทั้งกลุ่มเลย”
แพมพูดพลางชี้ไปที่ผู้ชายกลุ่มหนึ่ง ที่นั่งอยู่ในโรงอาหาร อืม...คงมีประมาณห้าหกคนล่ะมั้ง ดูเด่นมากเลยอ่ะ แต่ฉันไม่อยากจะสนใจหรอก ก็ตอนนี้ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว!!
“รอนานมั้ยคะพี่ต้า!”
แพมร้องทักอย่างร่าเริงกับบุคคลที่ยัยนั่นเรียกว่าแฟน และเขาคนนั้นก็หันมา...
อื้ม...เป็นไปตามคาด ใช่คนที่ฉันเจอเมื่อเช้าไม่มีผิด
“ไม่หรอก เอ๊ะ!...นั่น น้องคนที่เจอเมื่อเช้านี่”
แฟนยัยแพม เอ่อ...พี่ต้านั่นแหละ ชี้มาทางฉันและคนทั้งกลุ่มก็หันมามองกันเป็นตาเดียว ตอนนี้ฉันรู้แล้วล่ะ ว่าที่ยัยแพมคุยอวดสรรพคุณอะไรเอาไว้เนี่ย มันเป็นแบบนั้นจริง เฮ้อ...กลุ่มนี้เค้าคัดหน้าตากันหรือไงนะ ประมาณว่าไม่หล่อไม่คบไงงั้น โดยเฉพาะไอ้พี่คนนั้น ที่จมูกโด่งๆ ตาสวยๆนั่น หล่อที่สุดเลย...ดูเหมือนจะเคยเห็นที่ไหนด้วย หน้าตาดูคุ้นๆ
“เอ๊ะ! พี่ต้าเคยเจอยัยเบลมาก่อนเหรอคะ”
แพมถามอย่างงงๆ
“อ๋อ...เมื่อเช้าที่ป้ายรถเมล์ เห็นยืนอยู่กับไอ้จุ้น”
พี่ต้าตอบพลางมองหน้าฉันอย่างหวาดๆ ในขณะที่ฉันยิ้มให้แสร้งทำหน้าไม่รู้ประสีประสา
“งั้นเหรอเนี่ย”
แพมเปรยเบาๆมองหน้าฉัน
“อืม...งั้นฉันไปซื้อข้าวกินก่อนนะ”
ฉันบอกแล้วรีบเดินออกมาโดยไม่ฟังเสียงเรียกของยัยแพม
และหลังจากที่ฉันซื้อข้าวมาเสร็จสรรพและกำลังหาที่นั่ง ยัยแพมก็ได้ทำตัวเนียนๆนัวๆไปกับกลุ่มพี่ๆเรียบร้อยแล้ว ฉันจึงค่อยๆเดินไปที่โต๊ะอย่างเงียบๆ ขณะที่พวกนั้นกำลังคุยกันสนุกสนาน
“แล้วเพื่อนชื่อไรอ่ะ”
พี่คนนึงในกลุ่มถามขึ้นขณะที่ฉันนั่งลงพร้อมกับจานข้าวในมือ
“ชื่อเบลค่ะ”
ฉันตอบ
“น่ารักดีนี่”
พี่คนนึงพูด
“ก็แหงอยู่แล้วล่ะค่ะ ยัยนี่น่ะเป็นน้องสาวของแบมแบมไงคะ เอ่อ...คนที่โฆษณาแชมพูซันไชน์...”
แพมเริ่มคุยเรื่องฉัน ในขณะที่ฉันได้แต่ยิ้มแห้งๆ และก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อไปอย่างไม่สนใจสิ่งใด
“นี่แล้วเธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าเวลาอยู่ต่อหน้าคนไม่รู้จักจะกินข้าวไม่ลงง่ะ แล้วนี่อะไรยะ”
แพมถามพลามมองมาที่จานข้าวฉันที่พร่องไปแล้วกว่าครึ่ง
“ฉันหิวนี่!!”
ฉันตอบอายๆ
“พี่เธอที่ชื่อแบมใช่มั้ย”
พี่คนที่หล่อที่สุดถาม
“อ่ะ...ค่ะ”
ฉันตอบพลางกลืนก้อนข้าวลงคอ
“น่ารักกว่าพี่ซะอีก”
พี่คนนั้นพูดต่อ
“เอ๊ะ!”
ฉันเงยหน้าขึ้นมามองอย่างงงๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะฉันคงจะหูฝาดไปเองก็ได้
สิบนาทีผ่านไปหลังจากที่ฉันฟาดเย็นตาโฟที่เพิ่งซื้อมาหมด ฉันก็ตั้งใจจะลุกไปซื้อน้ำ แต่ในจังหวะนั้นเองที่ใครคนหนึ่งวิ่งมาจากข้างหลังด้วยความเร็วสูงพุ่งชนฉันอย่างแรง ตัวฉันจึงเซไปข้างหน้าเล็กน้อยแต่ก็ยั้งไว้ได้เพราะมีโต๊ะกั้น ในขณะที่คนนั้นอุธานออกมา...
“ว้าย!”
ฉันหันไปมองตามเสียง เห็นผู้หญิงหน้าตาสวยอาจจะพอๆหรือมากกว่าพี่แบม และคงเป็นรุ่นพี่เพราะเค้าปักลูกศรสามอันบนเสื้อนักเรียนสีขาวที่เปียกโชกไปด้วยน้ำแดง...
น้ำแดง!!! O_O
“เอ่อ...ขอโทษนะคะ ขอโทษจริงนะคะ”
ฉันถลาไปขอโทษหน้าเสีย ทั้งๆที่มีความรู้สึกว่าตัวเองไปได้ผิดอะไร(ก็คนมันมีมารยาท โฮะๆๆ) ก็ยัยนี่วิ่งมาจากข้างหลังฉัน ฉันจะไปเห็นได้ยังไงล่ะ แถมยังถือน้ำแดงมาด้วย
“ไม่เป็นไรใช่มั้ย! ป่าน”
แต่ในตอนนั้น...พี่คนที่หล่อที่สุดก็รีบเดินมาดูแล้วพาผู้หญิงคนนั้นไปนั่งข้างๆเค้า ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าของตัวเองขึ้นมาเช็ดเสื้อให้ผู้หญิงคนนั้น ท่ามกลางสายตาทุกคู่ในโรงอาหารที่มองดู
“ฉันว่าเธอไปซักเสื้อหน่อยดีกว่ามั้ย”
พี่สุดหล่อถาม
“ไม่เป็นไรหรอกริว”
พี่สาวคนนั้นบอกก่อนจะหันมายิ้มให้ฉัน ในขณะที่ฉันทำหน้าเอ๋อ
“ไม่เป็นไรได้ไงล่ะ ถ้าเธอเป็นปอดบวมจะว่ายังไง”
พี่คนนั้นเถียงกลับ พลางบรรจงเช็ดเสื้อผู้หญิงอย่างทะนุถนอม โห...อะไรจะเวอร์ขนาดนั้นเนี่ย แค่นี้ถึงกับปอดบวมเลยเหรอ...งั้นคงต้องห้ามอาบน้ำด้วยเลยมั้งเพราะเดี๋ยวตายได้! =_=
“เธอเองทำอะไรก็ระวังมั่งซี่!!!”
เค้าหันมาตะคอกฉัน
“เอ๊ะ! ทำไมมาโทษกันอย่างนี้ล่ะ”
ฉันเถียง
“ก็ถ้าเธอทำอะไรระวังๆ กว่านี้ก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอก!! ยัยซุ่มซ่าม!!”
เค้าตวาดกลับมาอีก คนในละแวกนั้นจึงหันมามองฉันเป็นจุดศูนย์รวม ในขณะที่ทุกคนในโต๊ะต่างก็อึ้ง
“งั้นแล้วทำไมไม่ว่าแฟนนายบ้างล่ะ เค้าวิ่งมาข้างหลังฉัน ฉันจะเห็นมั้ยล่ะ! ฉันไม่ได้มีตาหลังนี่”
“เธอจะต้องชดใช้!!”
“ว่าไงนะ!”
ฉันถามกลับอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ชดใช้งั้นเหรอ...หมอนี่บ้ารึเปล่า แค่น้ำแดงไม่ถึงครึ่งแก้วแค่นี้เอง แล้วฉันก็ไม่ใช่คนผิดด้วย พี่คนนั้นต่างหากที่ผิด วิ่งมาชนฉันเองทั้งๆที่ฉันค่อยๆลุกแท้ๆ แล้วนี่ยังจะบอกให้ฉันชดใช้อีก
“อย่าเวอร์ได้ไหม!!”
ฉันวีนอย่างสุดจะทน
“อะไรนะ!”
“เอ่อ...ริวนายก็.
ใจเย็นเถอะ”
ดูเหมือนเพื่อนในกุล่มจะพยายามเข้ามาไกล่เกลี่ย ในขณะที่แพมก็มายืนหน้าเสียอยู่ข้างๆฉัน
“ค่อยๆพูดกันก็ได้นี่เบล”
แพมบอกฉัน
“เฮอะ! ค่อยๆพูดงั้นเหรอ แกหน้าจะไปบอกไอ้บ้านั่นมากกว่านะ ว่าให้ค่อยๆพูดน่ะ!!”
ฉันย้อนขณะชี้ไปที่ไอ้บ้านั่นที่กำลังมองฉันแบบอยากกินเลือดกินเนื้อ
“เธอเรียกใครว่าไอ้บ้า!! ยัยเซ่อ!!”
นายนั่นตวาดกลับมา แล้วในตอนนั้นเองที่ฉันรู้สึกว่าความอดทนของฉันก็สิ้นสุดลง ฉันคว้าแก้วน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะนั้นโดยไม่รู้ว่าเป็นของใครมาถือไว้ ด้วยความรู้สึกที่ถึงจุดเดือด
“ก็นายไง...ไอ้อุบาต!!”
ฉันตอบก่อนจะสาดน้ำใส่หน้าไอ้บ้านั่นอย่างไม่กลัวเสียหล่อ ก่อนจะรีบเดินออกมาท่ามกลางความตะลึงงันของทุกคน
ความคิดเห็น