ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : เพลง ของ มิว (จบ) ต่อจ้า
“แต่ว่า..... เราพยายามจนถึงที่สุดแล้วนะโต้ง” มิวพูดได้แค่นั้น น้ำตาเขาก็หยดลงบนแก้มที่ตอนนี้เปียกปอนไปด้วยน้ำฝน
“ความพยายามคืออะไรล่ะมิว” มิวนิ่งไปกับคำถามของโต้ง เขาพูดไม่ออกเลย พูดไม่ออกเลยจริงๆ
“เราก็พยายามนะ ที่สำคัญเราพยายามให้มิว แล้วมิวล่ะ...” โต้งเงยหน้าขึ้นพร้อมทั้งหันไปมองยังมิว
แสงไฟสาดส่องไปยังชายที่อยู่เบื้องหน้าเขา เผยให้เห็นร่างกายที่เปียกปอนไปด้วยน้ำฝน เสื้อสีขาวที่ตอนนี้เต็มไปด้วยดินโคลน ตามร่างกายมีรอยถลอกแม้สายฝนจะชะล้างรอยเลือดไปบ้างแล้ว แต่แผลใหญ่ๆตามข้อศอกยังคงมีเลือดซึมออกมาให้เห็นอยู่
มิวยังหอบอยู่เล็กน้อย แม้ร่างกายจะย้ำแย่แค่ไหนแต่ก็ไม่เท่ากับใจของเขาในตอนนี้
โต้งรู้สึกช็อคกับภาพที่เห็น เขาไม่เคยเห็นมิวมีสภาพที่แย่ขนาดนี้มาก่อน โต้งเร่งฝีเท้าเข้าไปหามิว
“ไม่ต้องเข้ามาหรอกโต้ง เดี๋ยวชุดจะเปื้อนเอาซะเปล่าๆ”มิวบอกขณะที่ถอยหลังออกไปอีก2ก้าวอย่างช้าๆเพราะอาการเจ็บที่หัวเข่า
“มิว เกิดอะไรขึ้นอ่ะ” โต้งถามออกไปอย่างเป็นห่วง อารมณ์โกรธ น้อยใจ เสียใจ ผิดหวังที่มีเมื่อสักครู่จางหายไปทันที่เมื่อเขาเห็นมิวในสภาพนี้
“เราไม่เป็นไรหรอกโต้ง”มิวฝืนยิ้มให้โต้ง หากแต่น้ำตาที่ไหลอยู่เขาไม่สามารถฝืนมันไว้ได้
“ขอโทษนะโต้ง ที่เราโกหกโต้ง ที่จริงเมื่อ2วันก่อนเราไม่ได้อยู่บ้านอย่างที่โต้งเข้าใจหรอกเราต้องเดินทางไปเชียงใหม่แต่เราก็ไม่กล้าที่จะบอกโต้ง เรานี่แย่จริงๆ แต่เราแค่ไม่อยากให้โต้งเสียใจ โต้งจะได้ตั้งใจทำงานได้อย่างเต็มที่ แล้วเราก็คิดว่าเราจะสามารถกลับมาทันโต้งแสดงละครเวทีได้ แต่แล้วมันก็ไม่ทันทั้งๆที่เราบอกโต้งไว้แล้วว่าจะมา นี่เราก็โกหกอีกเหมือนเคย.... แถมตอนวิ่งมายังซุ่มซ่ามไปถูกรถมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวอีกเรานี่แย่จริงๆอย่างที่ว่าแหละ” มิวทำเป็นพูดติดตลกและยังคงฝืนยิ้มมาให้โต้งอยู่ ทั้งๆที่ร่างกายเขาตอนนี้ยืนแทบจะไม่ไหวอยู่แล้วแท้ๆ โต้งได้แต่มองภาพนั้นไม่พูดไม่จาอะไร
สิ่งที่อยากจะบอกโต้งเขาก็บอกโต้งออกไปหมดแล้ว ไม่มีเหตุผลที่คนโกหกอย่างเขาจะอยู่ตรงนี้อีกแล้ว...
มิวกำลังจะหันหลังกลับไป อ้อมแขนอุ่นๆจากใครบางคนก็โอบกอดรอบเอวของเขาไว้ ไออุ่นจากตัวโต้งมันยิ่งใหญ่กว่าความหนาวเหน็บบนร่างกายของเขา
โต้งดึงมิวเข้ามาแนบชิด ใบหน้ามิวชิดเข้ากับอกของโต้ง โต้งก้มหน้าลงบนไหล่ของมิว น้ำตาเขาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว มิวเองแม้จะอึ้งไปกับการกระทำของโต้งแต่น้ำตากลับไหลมาอย่างไม่ขาดสาย โต้งเองก็กอดมิวแน่นขึ้นอีก เขานี่โง่จริงๆมัวแต่เสียใจกับสิ่งที่ตัวเองคิดว่ามันยิ่งใหญ่ที่ทำให้กับใครบางคน จนลืมไปว่ามันไม่ใช่เพียงเขาเท่านั้นที่พยายาม... เรื่องที่เขาทำมันดูเล็กน้อยเสียด้วยซ้ำกับสิ่งที่คนตรงหน้านี้ทำเพื่อเขา แต่สิ่งที่เขาตอบแทนคืนไปกลับเป็นวาจาและท่าทางที่ทำร้ายหัวใจของคนๆนั้นอย่างมาก
“ขอโทษนะมิว” โต้งพูดได้แต่เพียงเท่านั้น แต่เพียงเท่านี้มันก็เกินกว่าที่มิวจะคาดหวังถึงแล้วล่ะ
“เราต่างหากล่ะที่ต้องขอโทษ โต้งอุตส่าห์จะร้องเพลงให้เราฟังแท้ๆแต่กลับ...”
“มิวอยากฟังมั้ย?” โต้งถามด้วยน้ำเสียงเครือๆ
“อยากสิโต้ง”น้ำเสียงมิวเองก็ไม่ต่างไปจากโต้งเท่าไหร่
“ถ้าบอกว่าเพลงนี้....แต่ให้เธอ เธอ....จะเชื่อ..ไหม” โต้งเริ่มร้องออกมาอย่างตระกุกตระกักปนเสียงสะอื้น
“นี่มันไม่ใช่เพลงที่เราแต่งให้ละครนี่”มิวถามกลับมาอย่างแปลกใจเมื่อเห็นโต้งเริ่มร้องเพลงกันและกัน
“อื้ม เราบอกแล้วไงว่าเราจะร้องเพลงของมิว แล้วเพลง“กันและกัน” มันเป็นเพลงของ”เรา”นะ หมายถึงของโต้งและก็ของมิว ไม่มีเพลงไหนมาแทนที่เพลงนี้ได้หรอกสำหรับโต้งอ่ะ”
พูดจบมิวเองก็ได้แต่หลับตาสะอื้นบนอกของโต้ง ขอบคุณนะโต้ง ขอบคุณจริงๆ..
“มันอาจ...ไม่เพราะไม่ซึ้ง..ไม่สวย..งาม...เหมือนเพลงทั่วไป...”
“อยากให้รู้...ว่าเพ.ลงรัก.. ถ้าไม่รักก็เขียนไม่ได้..”
................
........
...
..
เพลงจบลงไปแล้ว มิวเองก็เงียบไปตั้งแต่เมื่อสักครู่ โต้งจึงผละตัวออกมานิดหน่อยเพื่อที่จะมองหน้ามิวได้
เมื่อมองมาที่มิวโต้งก็เห็นว่ามิวกำลังหลับอยู่ คงเพราะอาการอ่อนเพลียที่ผ่านมาทั้งหมด
โต้งยิ้มให้กับภาพที่เห็นข้างหน้าเล็กๆก่อนที่จะสะกิดมิวให้ตื่นขึ้น
“มิว..มิว”โต้งเรียกมิวให้รู้สึกตัว มิวเองก็สลึมสลือมองโต้งตาปรือๆ เพราะตอนนี้เขาไม่มีแรงอีกแล้ว ร่างกายเขาตอนนี้มันฝืนมาจนถึงที่สุดแล้ว
“โทษทีนะโต้ง เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้เลยอ่ะ” มิวตอบอย่างงัวเงีย
“นั้นนอนบนหลังเรานะ เดี๋ยวเราพามิวกลับเอง”โต้งหันหลังเพื่อที่จะให้มิวขี่หลังเขากลับ
“ไม่ดีกว่าเดี๋ยวโต้งจะเหนื่อยเปล่าๆ เรายังพอไหว”
“อย่าดื้อดิมิว อีกอย่างนะ...เราอยากทำอะไรเพื่อมิวบ้างอ่ะ” โต้งบอกพร้อมส่งแววตาเป็นการบอกว่าโต้งต้องการทำอย่างนั้นจริงๆ
“ก็ได้ แต่อย่ามาบ่นทีหลังนะ”มิวพูดไปพลางเอามือโอบรอบคอของโต้งไว้
“อื้ม...กับมิวไม่มีบ่นหรอก....”
ฝนหยุดตกแล้ว แต่ความเงียบเข้ามาปกคลุมแทนที่ โต้งค่อยๆเดินออกไปยังหน้ามหาลัยโดนมีมิวนอนหลับอยู่บนหลัง เขาไม่รู้สึกเหนื่อยเลยที่จะทำอะไรให้กับมิวอย่างนี้....ไม่เลยสักครั้ง
.......
...
..
.
บนรถแท็กซี่หน้าบ้านมิว
..
..
“มิวตื่นเถอะ..ถึงบ้านแล้วนะ”
..
โต้งเอามือไปสะกิดคนที่นอนซบไหล่เขาอยู่ แต่ก็ไม่มีการตอบสนองกลับมา โต้งยิ้มให้มิวซึ่งตอนหลับแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับลูกแมวน้อยๆเลย
โต้งมองไปยังบ้านมิวครู่หนึ่งก่อนที่หันกลับมามองที่มิว
“ออกรถเลยก็ได้ครับ”โต้งบอกคนขับเพื่อที่จะให้ไปส่งเขาที่บ้าน คืนนี้เขาไม่อยากปล่อยให้มิวอยู่ลำพัง เขาอยากอยู่ดูแลมิวใกล้ๆแบบนี้....
ถึงแม้บางสิ่งบางอย่างจะไม่เป็นไปตามที่เราเคยคาดหวังไว้ แต่บางครั้งสิ่งที่เกิดขึ้นมันกลับ ดีกว่าซะอีก.....
Delete Scene
แสงแดดเริ่มส่องมาแยงตาของมิวจนไม่สามารถที่จะฝืนนอนต่อไปได้
มิวค่อยๆลืมตาขึ้นแต่สิ่งที่เขาเห็นคือผ้าห่มสีฟ้าๆ ห้องนอนที่ดูแปลกตาไปจากปกติที่สำคัญมือของใครบางคนที่โอบรอบเอวเขาอยู่
“เฮ้ย!” มิวตกใจรีบผละตัวออกมาพลางหันไปมองยังคนที่นอนอยู่ใกล้ๆ
โต้งสลึมสลือตื่นขึ้นมามอง มิวเองก็ใจชื้นขึ้นที่เห็นว่าคนๆนั้นคือโต้ง
“ตื่นแล้วเหรอมิว เป็นไงบ้างดีขึ้นมั้ย” โต้งถามขณะที่ยังคงนอนมองมิวซึ่งตอนนี้ลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียง
“นี่ที่ไหนอ่ะโต้ง” มิวถามอย่างแปลกใจเพราะเขายังไม่เคยขึ้นมาห้องโต้งเลย
“ห้องเราเองอ่ะ”โต้งตอบ
“แล้วเรามาบ้านโต้งได้ไงอ่ะ” มิวถามอย่างต่อเนื่องเพราะงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ก็เมื่อวานกะว่าจะไปส่งมิวที่บ้านแต่เห็นมิวไม่ตื่นเราเลยพามาที่บ้านเราอ่ะ”โต้งบอกไปตามความจริง
“กี่โมงแล้วอ่ะโต้ง” โต้งเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
“8โมงครึ่งอ่ะมิว”โต้งบอกพลางวางมือถือเก็บไว้ที่เก่า
“มิวตื่นแล้วเหรอ”โต้งถามพลางคาดหวังว่ามิวอาจจะยังนอนต่อ ก็มันไม่ได้มีโอกาสบ่อยนักที่จะได้นอนกอดมิวบนเตียงนุ่มๆแบบนี้นี่
“อื้ม”มิวพยักหน้าตอบ โต้งเองก็แอบผิดหวังเล็กๆ
“มิวหิวยัง เดี๋ยวลงไปหาไรกินกันมั้ยจะได้กินยาด้วย” โต้งถามด้วยความเป็นห่วง
“ได้ แต่เดี่ยวเราขอล้างหน้าหน่อยนะ” มิวยิ้มมาให้
....
..
ที่โต๊ะกินข้าวมิวกับโต้งกำลังนั่งกินโจ๊กที่สุนีย์ซื้อมาทิ้งไว้ให้ โดยเธอไม่ลืมที่จะซื้อมาเผื่อมิวด้วยเช่นกัน
“เอ้อโต้งแล้วแผลพวกนี้โต้งทำแผลให้เราเหรอ”มิวถามพลางมองดูร่องลอยต่างๆตามตัว
“อ๋อ ก็มีแม่เรามาช่วยด้วยอ่ะ แม่เค้าตกใจมากเลยนะตอนที่เห็นมิวอ่ะ” โต้งบอกพลางตักโจ๊กเข้าปากต่อ
“เหรอ ไว้ฝากขอบคุณน้านีย์ด้วยนะโต้ง” มิวบอก
“อื้ม”
“เออแล้วใครเช็ดตัวให้เราอ่ะ”มิวถามต่อเพราะเมื่อวานเขามอมแมมเอามากๆเลย
“อ๋อเราเองอ่ะ” โต้งทำหน้าตาซื่อๆตอบกลับมา
มิวนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งเหมือนจะนึกอะไรออกพลางมองดูชุดที่เขาใส่ นี่มันไม่ใช่เสื้อเขานี่ดูแล้วคงจะเป็นเสื้อผ้าของโต้ง
“แล้ว...ใครเปลี่ยนชุดให้เราอ่ะ” มิวถามแบบทำหน้าเหวอๆ
“อ๋อเราเอง”โต้งยังคงตอบมาแบบหน้าตาซื่อๆ
“เฮ้ย..นั้นโต้ง.......หมดเลยอ่ะดิ”มิวเริ่มหน้าแดง
“อื้ม หมดเลย” โต้งอมยิ้มขึ้นมา
“อะไรกัน แล้วทำไมโต้งไม่ปลุกเราก่อน”
“ก็มิวหลับไม่ยอมตื่นนี่”
“แต่เรื่องแบบนี้ยังไงก็ไม่ได้”
“มิวอย่าเขย่าดิเดี๋ยวสำลัก”
“มันยังน้อยไปอ่ะ”
“เรื่องแค่นี้เอง”
“โต้งก็พูดได้นี่..”
...
..
.
“ความพยายามคืออะไรล่ะมิว” มิวนิ่งไปกับคำถามของโต้ง เขาพูดไม่ออกเลย พูดไม่ออกเลยจริงๆ
“เราก็พยายามนะ ที่สำคัญเราพยายามให้มิว แล้วมิวล่ะ...” โต้งเงยหน้าขึ้นพร้อมทั้งหันไปมองยังมิว
แสงไฟสาดส่องไปยังชายที่อยู่เบื้องหน้าเขา เผยให้เห็นร่างกายที่เปียกปอนไปด้วยน้ำฝน เสื้อสีขาวที่ตอนนี้เต็มไปด้วยดินโคลน ตามร่างกายมีรอยถลอกแม้สายฝนจะชะล้างรอยเลือดไปบ้างแล้ว แต่แผลใหญ่ๆตามข้อศอกยังคงมีเลือดซึมออกมาให้เห็นอยู่
มิวยังหอบอยู่เล็กน้อย แม้ร่างกายจะย้ำแย่แค่ไหนแต่ก็ไม่เท่ากับใจของเขาในตอนนี้
โต้งรู้สึกช็อคกับภาพที่เห็น เขาไม่เคยเห็นมิวมีสภาพที่แย่ขนาดนี้มาก่อน โต้งเร่งฝีเท้าเข้าไปหามิว
“ไม่ต้องเข้ามาหรอกโต้ง เดี๋ยวชุดจะเปื้อนเอาซะเปล่าๆ”มิวบอกขณะที่ถอยหลังออกไปอีก2ก้าวอย่างช้าๆเพราะอาการเจ็บที่หัวเข่า
“มิว เกิดอะไรขึ้นอ่ะ” โต้งถามออกไปอย่างเป็นห่วง อารมณ์โกรธ น้อยใจ เสียใจ ผิดหวังที่มีเมื่อสักครู่จางหายไปทันที่เมื่อเขาเห็นมิวในสภาพนี้
“เราไม่เป็นไรหรอกโต้ง”มิวฝืนยิ้มให้โต้ง หากแต่น้ำตาที่ไหลอยู่เขาไม่สามารถฝืนมันไว้ได้
“ขอโทษนะโต้ง ที่เราโกหกโต้ง ที่จริงเมื่อ2วันก่อนเราไม่ได้อยู่บ้านอย่างที่โต้งเข้าใจหรอกเราต้องเดินทางไปเชียงใหม่แต่เราก็ไม่กล้าที่จะบอกโต้ง เรานี่แย่จริงๆ แต่เราแค่ไม่อยากให้โต้งเสียใจ โต้งจะได้ตั้งใจทำงานได้อย่างเต็มที่ แล้วเราก็คิดว่าเราจะสามารถกลับมาทันโต้งแสดงละครเวทีได้ แต่แล้วมันก็ไม่ทันทั้งๆที่เราบอกโต้งไว้แล้วว่าจะมา นี่เราก็โกหกอีกเหมือนเคย.... แถมตอนวิ่งมายังซุ่มซ่ามไปถูกรถมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวอีกเรานี่แย่จริงๆอย่างที่ว่าแหละ” มิวทำเป็นพูดติดตลกและยังคงฝืนยิ้มมาให้โต้งอยู่ ทั้งๆที่ร่างกายเขาตอนนี้ยืนแทบจะไม่ไหวอยู่แล้วแท้ๆ โต้งได้แต่มองภาพนั้นไม่พูดไม่จาอะไร
สิ่งที่อยากจะบอกโต้งเขาก็บอกโต้งออกไปหมดแล้ว ไม่มีเหตุผลที่คนโกหกอย่างเขาจะอยู่ตรงนี้อีกแล้ว...
มิวกำลังจะหันหลังกลับไป อ้อมแขนอุ่นๆจากใครบางคนก็โอบกอดรอบเอวของเขาไว้ ไออุ่นจากตัวโต้งมันยิ่งใหญ่กว่าความหนาวเหน็บบนร่างกายของเขา
โต้งดึงมิวเข้ามาแนบชิด ใบหน้ามิวชิดเข้ากับอกของโต้ง โต้งก้มหน้าลงบนไหล่ของมิว น้ำตาเขาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว มิวเองแม้จะอึ้งไปกับการกระทำของโต้งแต่น้ำตากลับไหลมาอย่างไม่ขาดสาย โต้งเองก็กอดมิวแน่นขึ้นอีก เขานี่โง่จริงๆมัวแต่เสียใจกับสิ่งที่ตัวเองคิดว่ามันยิ่งใหญ่ที่ทำให้กับใครบางคน จนลืมไปว่ามันไม่ใช่เพียงเขาเท่านั้นที่พยายาม... เรื่องที่เขาทำมันดูเล็กน้อยเสียด้วยซ้ำกับสิ่งที่คนตรงหน้านี้ทำเพื่อเขา แต่สิ่งที่เขาตอบแทนคืนไปกลับเป็นวาจาและท่าทางที่ทำร้ายหัวใจของคนๆนั้นอย่างมาก
“ขอโทษนะมิว” โต้งพูดได้แต่เพียงเท่านั้น แต่เพียงเท่านี้มันก็เกินกว่าที่มิวจะคาดหวังถึงแล้วล่ะ
“เราต่างหากล่ะที่ต้องขอโทษ โต้งอุตส่าห์จะร้องเพลงให้เราฟังแท้ๆแต่กลับ...”
“มิวอยากฟังมั้ย?” โต้งถามด้วยน้ำเสียงเครือๆ
“อยากสิโต้ง”น้ำเสียงมิวเองก็ไม่ต่างไปจากโต้งเท่าไหร่
“ถ้าบอกว่าเพลงนี้....แต่ให้เธอ เธอ....จะเชื่อ..ไหม” โต้งเริ่มร้องออกมาอย่างตระกุกตระกักปนเสียงสะอื้น
“นี่มันไม่ใช่เพลงที่เราแต่งให้ละครนี่”มิวถามกลับมาอย่างแปลกใจเมื่อเห็นโต้งเริ่มร้องเพลงกันและกัน
“อื้ม เราบอกแล้วไงว่าเราจะร้องเพลงของมิว แล้วเพลง“กันและกัน” มันเป็นเพลงของ”เรา”นะ หมายถึงของโต้งและก็ของมิว ไม่มีเพลงไหนมาแทนที่เพลงนี้ได้หรอกสำหรับโต้งอ่ะ”
พูดจบมิวเองก็ได้แต่หลับตาสะอื้นบนอกของโต้ง ขอบคุณนะโต้ง ขอบคุณจริงๆ..
“มันอาจ...ไม่เพราะไม่ซึ้ง..ไม่สวย..งาม...เหมือนเพลงทั่วไป...”
“อยากให้รู้...ว่าเพ.ลงรัก.. ถ้าไม่รักก็เขียนไม่ได้..”
................
........
...
..
เพลงจบลงไปแล้ว มิวเองก็เงียบไปตั้งแต่เมื่อสักครู่ โต้งจึงผละตัวออกมานิดหน่อยเพื่อที่จะมองหน้ามิวได้
เมื่อมองมาที่มิวโต้งก็เห็นว่ามิวกำลังหลับอยู่ คงเพราะอาการอ่อนเพลียที่ผ่านมาทั้งหมด
โต้งยิ้มให้กับภาพที่เห็นข้างหน้าเล็กๆก่อนที่จะสะกิดมิวให้ตื่นขึ้น
“มิว..มิว”โต้งเรียกมิวให้รู้สึกตัว มิวเองก็สลึมสลือมองโต้งตาปรือๆ เพราะตอนนี้เขาไม่มีแรงอีกแล้ว ร่างกายเขาตอนนี้มันฝืนมาจนถึงที่สุดแล้ว
“โทษทีนะโต้ง เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้เลยอ่ะ” มิวตอบอย่างงัวเงีย
“นั้นนอนบนหลังเรานะ เดี๋ยวเราพามิวกลับเอง”โต้งหันหลังเพื่อที่จะให้มิวขี่หลังเขากลับ
“ไม่ดีกว่าเดี๋ยวโต้งจะเหนื่อยเปล่าๆ เรายังพอไหว”
“อย่าดื้อดิมิว อีกอย่างนะ...เราอยากทำอะไรเพื่อมิวบ้างอ่ะ” โต้งบอกพร้อมส่งแววตาเป็นการบอกว่าโต้งต้องการทำอย่างนั้นจริงๆ
“ก็ได้ แต่อย่ามาบ่นทีหลังนะ”มิวพูดไปพลางเอามือโอบรอบคอของโต้งไว้
“อื้ม...กับมิวไม่มีบ่นหรอก....”
ฝนหยุดตกแล้ว แต่ความเงียบเข้ามาปกคลุมแทนที่ โต้งค่อยๆเดินออกไปยังหน้ามหาลัยโดนมีมิวนอนหลับอยู่บนหลัง เขาไม่รู้สึกเหนื่อยเลยที่จะทำอะไรให้กับมิวอย่างนี้....ไม่เลยสักครั้ง
.......
...
..
.
บนรถแท็กซี่หน้าบ้านมิว
..
..
“มิวตื่นเถอะ..ถึงบ้านแล้วนะ”
..
โต้งเอามือไปสะกิดคนที่นอนซบไหล่เขาอยู่ แต่ก็ไม่มีการตอบสนองกลับมา โต้งยิ้มให้มิวซึ่งตอนหลับแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับลูกแมวน้อยๆเลย
โต้งมองไปยังบ้านมิวครู่หนึ่งก่อนที่หันกลับมามองที่มิว
“ออกรถเลยก็ได้ครับ”โต้งบอกคนขับเพื่อที่จะให้ไปส่งเขาที่บ้าน คืนนี้เขาไม่อยากปล่อยให้มิวอยู่ลำพัง เขาอยากอยู่ดูแลมิวใกล้ๆแบบนี้....
ถึงแม้บางสิ่งบางอย่างจะไม่เป็นไปตามที่เราเคยคาดหวังไว้ แต่บางครั้งสิ่งที่เกิดขึ้นมันกลับ ดีกว่าซะอีก.....
Delete Scene
แสงแดดเริ่มส่องมาแยงตาของมิวจนไม่สามารถที่จะฝืนนอนต่อไปได้
มิวค่อยๆลืมตาขึ้นแต่สิ่งที่เขาเห็นคือผ้าห่มสีฟ้าๆ ห้องนอนที่ดูแปลกตาไปจากปกติที่สำคัญมือของใครบางคนที่โอบรอบเอวเขาอยู่
“เฮ้ย!” มิวตกใจรีบผละตัวออกมาพลางหันไปมองยังคนที่นอนอยู่ใกล้ๆ
โต้งสลึมสลือตื่นขึ้นมามอง มิวเองก็ใจชื้นขึ้นที่เห็นว่าคนๆนั้นคือโต้ง
“ตื่นแล้วเหรอมิว เป็นไงบ้างดีขึ้นมั้ย” โต้งถามขณะที่ยังคงนอนมองมิวซึ่งตอนนี้ลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียง
“นี่ที่ไหนอ่ะโต้ง” มิวถามอย่างแปลกใจเพราะเขายังไม่เคยขึ้นมาห้องโต้งเลย
“ห้องเราเองอ่ะ”โต้งตอบ
“แล้วเรามาบ้านโต้งได้ไงอ่ะ” มิวถามอย่างต่อเนื่องเพราะงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ก็เมื่อวานกะว่าจะไปส่งมิวที่บ้านแต่เห็นมิวไม่ตื่นเราเลยพามาที่บ้านเราอ่ะ”โต้งบอกไปตามความจริง
“กี่โมงแล้วอ่ะโต้ง” โต้งเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
“8โมงครึ่งอ่ะมิว”โต้งบอกพลางวางมือถือเก็บไว้ที่เก่า
“มิวตื่นแล้วเหรอ”โต้งถามพลางคาดหวังว่ามิวอาจจะยังนอนต่อ ก็มันไม่ได้มีโอกาสบ่อยนักที่จะได้นอนกอดมิวบนเตียงนุ่มๆแบบนี้นี่
“อื้ม”มิวพยักหน้าตอบ โต้งเองก็แอบผิดหวังเล็กๆ
“มิวหิวยัง เดี๋ยวลงไปหาไรกินกันมั้ยจะได้กินยาด้วย” โต้งถามด้วยความเป็นห่วง
“ได้ แต่เดี่ยวเราขอล้างหน้าหน่อยนะ” มิวยิ้มมาให้
....
..
ที่โต๊ะกินข้าวมิวกับโต้งกำลังนั่งกินโจ๊กที่สุนีย์ซื้อมาทิ้งไว้ให้ โดยเธอไม่ลืมที่จะซื้อมาเผื่อมิวด้วยเช่นกัน
“เอ้อโต้งแล้วแผลพวกนี้โต้งทำแผลให้เราเหรอ”มิวถามพลางมองดูร่องลอยต่างๆตามตัว
“อ๋อ ก็มีแม่เรามาช่วยด้วยอ่ะ แม่เค้าตกใจมากเลยนะตอนที่เห็นมิวอ่ะ” โต้งบอกพลางตักโจ๊กเข้าปากต่อ
“เหรอ ไว้ฝากขอบคุณน้านีย์ด้วยนะโต้ง” มิวบอก
“อื้ม”
“เออแล้วใครเช็ดตัวให้เราอ่ะ”มิวถามต่อเพราะเมื่อวานเขามอมแมมเอามากๆเลย
“อ๋อเราเองอ่ะ” โต้งทำหน้าตาซื่อๆตอบกลับมา
มิวนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งเหมือนจะนึกอะไรออกพลางมองดูชุดที่เขาใส่ นี่มันไม่ใช่เสื้อเขานี่ดูแล้วคงจะเป็นเสื้อผ้าของโต้ง
“แล้ว...ใครเปลี่ยนชุดให้เราอ่ะ” มิวถามแบบทำหน้าเหวอๆ
“อ๋อเราเอง”โต้งยังคงตอบมาแบบหน้าตาซื่อๆ
“เฮ้ย..นั้นโต้ง.......หมดเลยอ่ะดิ”มิวเริ่มหน้าแดง
“อื้ม หมดเลย” โต้งอมยิ้มขึ้นมา
“อะไรกัน แล้วทำไมโต้งไม่ปลุกเราก่อน”
“ก็มิวหลับไม่ยอมตื่นนี่”
“แต่เรื่องแบบนี้ยังไงก็ไม่ได้”
“มิวอย่าเขย่าดิเดี๋ยวสำลัก”
“มันยังน้อยไปอ่ะ”
“เรื่องแค่นี้เอง”
“โต้งก็พูดได้นี่..”
...
..
.
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น