ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักแห่งสยาม

    ลำดับตอนที่ #4 : เพลง ของมิว 2

    • อัปเดตล่าสุด 14 ม.ค. 52


    - เพลงของมิว(2) –
    กว่า2อาทิตย์แล้วที่ผมรับเล่นเล่นละครเวทีให้กับชมรมการแสดง อย่างที่มิวพูดไว้การแสดงครั้งนี้จะเป็นเหมือนการนำความรู้สึกที่ขาดหายไปในวัยเด็กกลับคืนมา และอีกอย่างก็คือ มันเป็นการทำเพื่อคนที่ผมรักด้วย....
    หลังจากเลิกจากการซ้อมบอล ผมยังต้องไปซ้อมละครต่ออีกจนบางวันก็กลับเอา4-5ทุ่มก็มี แต่ผมก็ตั้งใจนะครับ อย่างที่บอกไว้ มันไม่ใช่แค่เพื่อตัวของผมเองเท่านั้น...
    มิวเองก็เช่นกัน ถึงแม้จะรับอาสาแต่งเพลงให้กับชมรมแต่มิวเองก็ไม่สามารถที่จะมาได้บ่อยเท่าไหร่ เพราะเขาเองก็ต้องเอาเวลาไปซ้อมให้กับวงของเขาด้วยเช่นกันซึ่งตอนนี้หลังจากที่เทปได้ออกวางแผงไปแล้วก็ได้รับความตอบรับที่ดีเกินกว่าที่คาดไว้มาก แต่นั่นมันก็ทำให้เวลาของเขาสูญหายไปมากเช่นกัน
    แต่ถึงอย่างนั้น ทุกครั้งที่มิวว่างเขาก็มักจะมานั่งดูผมซ้อมเสมอ ซึ่งถ้าวันไหนที่มิวเข้ามาในชมรม ผมก็มักจะไปส่งมิวกลับบ้านเช่นกัน จนมันกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับเราไปแล้ว
    แต่ถ้าวันไหนมิวไม่ว่างเราก็ยังโทรคุยกันเสมอ แม้จะไม่นานแต่แค่ได้ยินเสียงเขาทุกวันผมก็มีความสุขเล็กๆในหัวใจแล้วล่ะครับ
    เพลงที่มิวแต่งให้กับทางชมรมเสร็จแล้ว ผมเองก็กำลังฝึกร้องอยู่ แต่มันก็ค่อนข้างยากสักหน่อยสำหรับผมซึ่งไม่เอาไหนเลยเรื่องการร้องเพลง และแน่นอนว่ามิวยังไม่เคยฟังผมร้องหรอก แม้เขาพยายามตื้อผมมาหลายครั้งแล้วก็ตาม
    ผมแค่อยากร้องเพลงของ”เรา”ให้เขาฟังในวันแสดงจริงก็เท่านั้นเอง..........
    เคยมีคนพูดไว้ว่า มนุษย์เราค้นพบสิ่งต่างๆมากมาย ทั้งเรื่องของศิลปะ วิทยาศาสตร์ ดนตรี และเรื่องราวอีกมากมาย แต่ทว่าสิ่งยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยพบเจอมาก็คือ “ความรัก”
    การได้มอบความรัก และถูกรักตอบ....

    เย็นวันอาทิตย์ที่บ้านมิว
    “ตกลงที่ผ่านมามันเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเลยใช่มั้ย” โต้งมีสีหน้าที่โกรธเกรี้ยวอย่างมาก แววตาดูก้าวร้าวต่างไปจากโต้งคนเดิมอย่างเห็นได้ชัด มิวเองพูดไม่ออกได้แต่ก้มหน้านิ่งไม่ไหวติง
    “สิ่งที่ผ่านมามันไม่มีความหมายบ้างเลยเหรอ” โต้งยังคงตวาดต่ออย่างโกรธเกรี้ยว
    ตอนนี้มิวเองเริ่มเงยหน้าขึ้นมาเล็กๆอย่างเชื่องช้า
    “มันไม่ใช่อย่างนั้น..เพียงแต่” มิวเสียงอ่อยลงไป
    “เพียงแต่อะไร” โต้งเร่งเร้า
    “เรื่องของเรา..มันคงเป็นไปไม่ได้” มิวพูดเสียงแข็งขึ้นพร้อมกับมองหน้าโต้งแบบเต็มๆ
    “แต่เรารักมิวนะ…” โต้งพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆออกจะไร้เดียงสาด้วยซ้ำไปซึ่งต่างจากเมื่อกี้โดยสิ้นเชิง แถมสีหน้าก็กลับมาเป็นโต้งในยามปกติ
    มิวยังคงเงียบ ในขณะที่คิ้วเริ่มขมวดเข้ามาหากันแล้ว
    “นอกบทอีกแล้วอ่ะโต้ง เราอุตส่าห์มาช่วยต่อบทให้แท้ๆนะ”มิวทำหน้าเบ้ใส่ให้ก่อนจะนั่งลงบนเตียง โต้งเองก็ได้แต่ยิ้มทะเล้นๆ ไม่รู้ทำไมบางครั้งได้แกล้งมิวบ้างก็สนุกดีเหมือนกัน
    “นะนะเอาใหม่นะมิว คราวนี้ ไม่นอกบทละ” โต้งยิ้มเดินไปจับแขนมิวดึงให้ลุกขึ้นมา
    “เหนื่อยแล้วอ่ะโต้ง”มิวยิ้มแหยๆให้เป็นการบอกว่าเหนื่อยจริงๆ
    “อืมนั้นพอก่อนก็ละกัน แล้วนี่กี่โมงแล้วอ่ะ” โต้งพูดพลางมองดูนาฬิกาบนข้อมือ
    “อ้าวจะ6โมงแล้วเหรอ” โต้งพูดด้วยอาการแปลกใจ
    “แล้วนี่มิวต้องไปซ้อมดนตรีกี้โมงเหรอวันนี้” โต้งถามด้วยหน้าตาเหงาๆ คล้ายกับว่าเวลาแห่งความสุขของเขากำลังจะหมดไป
    “ก็2ทุ่มครึ่งอ่ะ” มิวบอก ขณะที่มองสีหน้าโต้งในขณะนี้
    “หิวยังโต้ง ออกไปหาอะไรกินกันมั้ย” มิวยิ้มเพื่อที่จะให้โต้งรู้สึกดี เขาเองก็อยากใช้เวลาอยู่กับโต้งให้มากกว่านี้ แต่ช่วงนี้เป็นช่วงที่เทปพึ่งออกมาใหม่ๆเลยมีหลายเรื่องที่เขาต้องทำซึ่งมันได้ขโมยเวลาของเขาไปมากเช่นกัน
    “เอาดิ แล้วกินไรดีอ่ะมิว” โต้งยิ้มได้ อย่างน้อยก็ยังมีเวลาอีกนิดที่จะได้อยู่กับมิว
    “ไม่รู้เหมือนกัน ไปก่อนเดี่ยวไว้ค่อยคิดทีหลัง” มิวลุกขึ้นเพื่อที่จะเตรียมตัวออกไป
    “อื้มมม”โต้งพยักหน้าเล็กๆรับ
    ร้านบะหมี่หน้าปากซอย
    “ช่วงนี้เราอาจจะไม่ค่อยว่างเท่าไหร่อ่ะโต้ง” มิวพูดขึ้นมาเมื่อนั่งลงที่โต๊ะเรียบร้อยแล้วหลังจากที่ไปสั่งก๋วยเตี๋ยวมา
    “เหรอ แล้วอย่างนี้เราก็ไม่ค่อยได้เจอมิวอ่ะดิ” โต้งทำหน้าและน้ำเสียงเซ็งๆ
    “ก็แค่ช่วงแรกๆอ่ะโต้ง เทปมันพึ่งวางแผงไป แต่อีกสักพักก็จะเริ่มกลับมามีเวลาเหมือนแต่ก่อนแล้วล่ะ” มิวพูดให้กำลังใจโต้ง เพราะไม่ใช่แต่โต้งเท่านั้นที่รู้สึก เขาเองก็เช่นกันรู้สึกไม่ต่างไปจากโต้งสักเท่าไหร่ แต่เพราะมันเป็นความรับผิดชอบของเขา เขาก็ต้องทำมันให้ดีที่สุด
    “ไม่เป็นไรหรอกมิว ตั้งใจทำงานเถอะเราเข้าใจ ยังไงเราก็เป็นกำลังใจให้นะ” โต้งเองก็ยิ้มพูดให้กำลังใจมิวเช่นกัน
    “โต้งก็เหมือนกันพยายามเต็มให้เต็มที่ล่ะ แล้ววันอาทิตย์หน้าในรอบสุดท้ายเราจะไปนั่งดูโต้งเล่นนะ ที่สำคัญไปฟังโต้งร้องเพลงด้วย”พูดไปแล้วก็อดที่จะเขินตัวเองไม่ได้ ก็เพราะเพลงนั้นโต้งบอกว่าจะร้องเพื่อเขาโดยเฉพาะเลยนี่
    โต้งเองก็ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ยิ้มเขินๆเหมือนกัน
    “เอ้อ แล้วนี่โต้งบอกน้านีย์กับน้ากรยังอ่ะ” มิวถามขึ้น เมื่อเห็นว่าโต้งไม่พูดถึงเรื่องนี้ให้ฟังเลย
    “อ๋อ ยังเลยอ่ะมิว ที่จริงกะว่าวันนี้จะเอาตั๋วไปให้อ่ะ ตั๋ววีไอพีที่พี่จู๊บให้เมื่อวันก่อนน่ะ” โต้งบอก
    “บอกแต่เนิ่นๆก็ดีนะโต้ง เค้าจะได้เตรียมตัวทัน”
    “อื้ม”
    “แล้วนี่มิวไปซ้อมดนตรีต่อเลยเหรอ” โต้งถามพลางดูดน้ำในแก้วไปด้วย
    “ก็คงงั้นอ่ะ ถ้ากลับไปบ้านอีกคงไม่ทัน”มิวให้เหตุผล
    “โต้งจะไปด้วยกันก็ได้นะ ถ้าไม่กลัวว่ามันจะดึกอ่ะ” มิวลองพูดชวนดู
    “เราไปได้ด้วยเหรอ” โต้งถาม
    “ได้ดิ จะไปมั้ยล่ะ” มิวยิ้มชวน
    “อืมมม เอาดิ” โต้งเองก็ยิ้มรับเช่นกัน...
    ......
    ...
    เช้าวันรุ่งขึ้นโต้งรีบตื่นให้ทันก่อนที่สุนีย์และกรณ์จะออกไปทำงาน
    “อ้าวโต้งตื่นแล้วเหรอลูก ทานข้าวต้มมั้ยเดี๋ยวแม่ไปตักให้” สุนีย์บอก เมื่อเห็นโต้งเดินลงมาในชุดนอน โดยที่ผมยังคงกระเซอะกระเซิงอยู่
    “ไม่เป็นไรอ่ะแม่ เดี๋ยวโต้งก็กลับไปนอนต่ออีก วันนี้มีเรียนตอนบ่าย” โต้งบอกพร้อมเดินเข้าไปหา
    “เย็นวันอาทิตย์นี้พ่อกับแม่ว่างมั้ยอ่ะ” โต้งเอ่ยถาม
    “ทำไมเหรอโต้ง”กรณ์ถามกลับอย่างสนใจ
    “อ๋อป่าวไม่มีอะไร โต้งแค่จะมาชวนไปดูละครเวทีที่มหาลัยอ่ะ” โต้งเอ่ยออกไปเบาๆ เพราะไม่รู้ว่าเรื่องที่ตัวเองจะพูดไปมันจะดูเป็นเรื่องที่สำคัญรึป่าว
    “ละครไรเหรอโต้ง”สุนีย์ถามอย่างสนใจ
    “ก็ละครเวทีของชมรมการแสดงอ่ะ พอดีโต้ง ได้แสดงด้วยก็เลยอยากให้พ่อกับแม่ไปดู”
    โต้งตอบแบบตระกุกตระกัก กรณ์และสุนีย์หันมองหน้ากันก่อนที่จะยิ้ม
    “แล้วไหนบัตรล่ะ จะชวนทั้งทีต้องมีบัตรฟรีให้นะ”กรณ์หันมาบอกโต้งด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น โต้งเองจึงยิ้มออกได้ พลางรีบยื่นบัตรที่ถือไว้ในมือส่งให้ทั้งกรณ์และก็สุนีย์
    ทั้งสองคนรับบัตรมาพร้อมทั้งอ่านดูรายละเอียดที่เขียนไว้บนบัตร
    “แล้วนี่เราเล่นเป็นตัวอะไรในเรื่องล่ะโต้ง” สุนีย์สุนีย์หันมาถาม
    “โธ่คุณ อย่างเจ้าโต้งมันก็ต้องเป็นพระเอกอยู่แล้ว จริงมั้ยโต้ง” กรณ์บอกกับสุนีย์พร้อมทั้งหันมารอคำยืนยันจากเจ้าตัว โต้งไม่ได้พูดอะไรได้แต่ยิ้ม มองดูพ่อกับแม่ของเขาพูดคุยถึงละครเวทีของเขา ความสุขในสมัยก่อนเริ่มกลับเข้ามาอีกครั้ง...
    ใช่....จริงอย่างที่มิวว่า......ขอบคุณมากนะมิว
    .....
    ..
    ที่มหาลัย
    “เชี่ยโต้ง บัตรล่ะบัตร” วีถามเมื่อเห็นโต้งเดินเข้ามาในห้องเรียน
    “บัตรไรว่ะ” โต้งถามอย่างงงๆ
    “ก็บัตรละครเวทีที่มึงเล่นไงว่ะ เนี่ยกูนัดเด็กว่าจะไปดูอยู่เลยมาขอบัตรมึงเนี่ย” วีพูดพลางแบมือขอ
    “โทษทีว่ะ กูให้ที่บ้านไปหมดแล้วอ่ะ”
    “โหแม่ง กูนัดเด็กไว้แล้วนะเว้ยจะหาบัตรไงหว่าป่านนี้คงหมดแล้วแน่” วีทำหน้าเซ็งๆ
    “เอาน่าเดี๋ยวกูลองถามพี่ๆเค้าดูให้ว่ายังมีเหลือมั้ย ถ้ามีเดี๋ยวกูเอามาให้” โต้งบอกไป
    “ติ๊ดๆๆๆๆๆ” เสียงโทรศัพท์ของโต้งดังขึ้น
    โต้งหยิบขึ้นมาดูชื่อที่ขึ้น ซึ่งมันเป็นชื่อของมิว โต้งยิ้มพร้อมทั้งเดินห่างออกไปจากกลุ่มเพื่อนๆเพื่อที่จะได้คุยได้สะดวก
    “ยิ้มแบบนี้ แม่งเป็นสาวๆแน่ว่ะ”วีบอกหลังจากที่โต้งเดินออกไปแล้ว
    “งั้นมั้ง” เอ็มซึ่งไม่ค่อยได้สนใจ ตอบวีไปแบบผ่านๆ เพราะตอนนี้เขาไม่มีเวลามานั่งสนใจใครนอกจากการบ้านวิชาแคลคูลัส1ซึ่งเขากำลังนั่งลอกอยู่ในตอนนี้
    ....
    “ว่าไงมิว” โต้งทักทันทีที่กดรับสาย
    “โต้งเหรอ วันนี้เราคงไปหาโต้งที่ชมรมไม่ได้อ่ะ พอดีพี่อ๊อดเค้าโทรมาให้เข้าไปหาเค้าตอนเย็นหน่อยอ่ะ” มิวบอกมาตามสาย
    “เหรอ” เสียงโต้งแผ่วลง
    “ไม่เป็นไรนะโต้ง” มิวถามเมื่อเห็นเสียงโต้งเปลี่ยนไป
    “อื้มมไม่เป็นไร มิวไปทำงานเถอะ เดี๋ยวเราจะตั้งใจซ้อมเองไม่ต้องห่วง” โต้งทำเสียงให้ดูร่าเริงขึ้น
    “นั้นไว้เราจะโทรหานะโต้ง”
    “อื้ม”
    มิววางหูไปแล้วโต้งจึงเดินเข้าไปในห้องเรียน
    “สาวไหนว่ะไอ้โต้ง แม่งต้องไปทำลับๆล่อๆคุยกัน” วียังคงอยากรู้อยู่
    โต้งไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ยิ้มและยักคิ้วข้างซ้ายให้เท่านั้น แต่เพียงเท่านี้ก็ทำเอาวีร้อนขึ้นมาด้วยความอยากรู้อยากเห็นเลยทีเดียว
    ...
    ..
    .
    เย็นวันนั้นที่บริษัท
    “เราเลื่อนเป็นวันอื่นไม่ได้เหรอครับพี่อ๊อด”มิวถามโปรดิวเซอร์ของเขาด้วยสีหน้าเป็นกังวล
    “พี่ดูตารางคิวพวกเราแล้วมันติดหมดเลยน่ะ อีกอย่างวันธรรมดาพวกเราส่วนนึงก็เรียนอยู่พี่เลยคิดว่าวันเสาร์อาทิตย์นี้แหละเหมาะแล้ว เราติดอะไรเหรอมิว” อ๊อดอธิบายพร้อมทั้งถามมิวกลับเมื่อดูเหมือนว่ามิวจะไม่ว่างในช่วงวันเสาร์อาทิตย์นี้
    “ป่าวครับพี่...” มิวตอบเสียงแผ่ว เขาไม่อยากให้เรื่องของเขาเพียงคนเดียวมาสร้างปัญหาให้กับวง
    “นั้นก็ดี นั้นเอาตามนี้นะ พี่ก็ไม่มีอะไรแล้ว เดี๋ยวพวกเราก็ไปซ้อมกันต่อละกัน เตรียมตัวกันให้ดีๆล่ะ”พี่อ๊อดบอกก่อนที่จะหยิบแฟ้มที่อยู่ใกล้ๆมาอ่านเพื่อทำงานเก่าที่ค้างอยู่แล้วต่อ
    ทุกคนในวงออกัสกำลังเริ่มทยอยออกจากห้อง เหลือไว้แต่มิวกับเอ็กซ์รั้งท้ายไว้อยู่
    “เอ็กซ์เองเห็นมิวก็พอจะเดาได้ เพราะเขาเองก็รู้เรื่องที่โต้งแสดงละครเวที อีกทั้งวันแสดงยังตรงกับวันเสาร์อาทิตย์นี้ที่พวกเขาต้องไปต่างจังหวัดกันอีก
    “แล้วมึงจะเอาไงว่ะมิว แบบนี้มึงก็ไม่ได้กลับมาดูละครเวทีอ่ะดิ”เอ็กซ์ถามมิวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วงเพื่อน
    “กูเองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน และกูยังไม่รู้เลยว่าจะบอกโต้งยังไง เค้าอุตส่าห์ตั้งใจขนาดนั้น”มิวพูดแล้วก็ทำหน้าเศร้าลง
    ....
    ..
    .
    ที่ห้องมิว
    “ว่าไงโต้ง” มิวทักโต้งผ่านทางสายโทรศัพท์
    “อื้ม มิวกลับถึงบ้านแล้วเหรอ”
    “เมื่อกี้นี้เองอ่ะ เข้าห้องมาโต้งก็โทรมาพอดีเลย” มิวพลางเช็ดหัวที่เปียกอยู่ด้วยผ้าขนหนู
    “เหรอ แล้วเป็นไงบ้างอ่ะวันนี้” โต้งพูดด้วยน้ำเสียงที่ห่วงใย
    “ก็เรื่อยๆนะ แต่ขากลับมานี่ฝนดันตกพอดี ทำเอาเปียกทั้งตัวเลยกว่าจะเข้ามาบ้านได้”
    “ระวังจะไม่สบายนะมิว เราว่ามิวกินยากันไว้ด้วยดีกว่านะ”
    “อื้ม”มิวตอบรับ
    “เดี๋ยวถ้ามิวไม่สบายขึ้นมา อดดูเราแสดงละครไม่รู้ด้วยนะ” โต้งพูดเล่นผ่านมาตามสาย แต่หารู้ไม่ว่าสีหน้าของคนปลายสายกลับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วที่ได้ยินประโยคนั้น มิวนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ใบหน้าที่จากยิ้มแย้มเมื่อครู่ตอนนี้กลับดูว่างเปล่า..
    “มิว เป็นไรเหรอ” โต้งถามขึ้นเมื่อเห็นว่ามิวเงียบไปนานเหมือนกัน
    “อ้อ ป่าวอ่ะโต้งไม่มีไร” มิวตอบมาด้วยเสียงหงอยๆ
    “พรุ่งนี้มิวว่างมั้ยอ่ะ”
    “อืมมม ก็ว่างนะพอดีเค้างดซ้อมอ่ะ”
    “นั้น เย็นๆเราไปหามิวที่คณะนะ ไปเดินเล่นกับกินข้าวกันเนอะ” โต้งบอกแบบร่าเริง เพราะช่วงนี้เค้าจะมีความสุขทุกครั้งที่รู้ว่าจะได้เจอมิว
    “อืม ได้” มิวตอบไปพลางคิดในใจว่า ก็ดีเหมือนกันเผื่อจะได้บอกเรื่องงานของเขาให้โต้งรู้ด้วย
    “เอ้อ แล้วโต้งไปไม่ต้องซ้อมละครเหรอ” มิวถามเพราะเห็นว่าอีกไม่กี่วันก็จะแสดงแล้ว
    “ออ พี่เค้าหยุดให้พักวันนึงอ่ะเพราะทุกอย่างก็ลงตัวแล้ว ก็เหลือแค่รอซ้อมใหญ่ก่อนแสดงจริง เค้าเลยอยากให้พักผ่อนเยอะๆ”โต้งอธิบาย
    “ออ”
    “นั้นไว้พรุ่งนี้เราจะโทรหานะ”
    “ได้”
    “นั้นไว้เจอกันนะ”
    “อื้ม เจอกัน”
    “เอ้อมิว”
    “หืม”
    “รีบๆอาบน้ำนะแล้วอย่างลืมกินยาล่ะ เดี๋ยวไม่สบายเอา”
    “จ้า ทราบแล้วคร้าบผม” มิวยิ้มให้โทรศัพท์ก่อนที่จะกดวางสายไป ก็โต้งทำอย่างกับว่าเขาเป็นเด็กเล็กๆที่ต้องคอยเตือนตลอดเวลาเลย
    แต่ถึงไงผมก็ชอบนะที่เขาทำแบบนี้....
    มิวนั่งอมยิ้มได้ไม่นาน ความคิดเรื่องที่งานก็หวนกลับเข้ามาอีกครั้ง
    สีหน้าของมิวเปลี่ยนไปดูเคร่งเครียดมากขึ้น รอยยิ้มที่เคยมีเริ่มจางหายไป เขาไม่อยากให้โต้งรู้สึกผิดหวังอีก.... ที่สำคัญเขาเป็นคนที่ทำให้โต้งเชื่อว่าความรู้สึกดีๆมันจะกลับมาหาเขาได้ ถ้าเขาพยายามที่จะเอามันกลับคืนมา มิวเองไม่อยากจะเป็นคนที่สร้างความหวังให้โต้งในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่ทำลายมันกับมือตัวเอง....
    “อาม่า แบบนี้แล้วมิวจะทำยังไงดี....” มิวเอ่ยขึ้นมาลอยๆ เพราะเมื่อเวลาใดที่เขารู้สึกเหงา อ้างว้างหรือมีปัญหาเข้ามา เขามักจะหวนคิดถึงอาม่าเสมอ คนที่มอบสิ่งดีๆและความรู้สึกที่อบอุ่นให้เขาเรื่อยมา
    ไม่นานมิวก็เผลอหลับไปบนเตียง...
    ...
    ...
    ..
    ที่มหาลัย
    “เชี่ยมิวตื่นได้แล้วเว้ย” เอ็กซ์สะกิดมิวซึ่งตอนนี้หลับอยู่บนโต๊ะเรียน
    “มึงไหวมั้ยเนี่ย” เอ็กซ์ถามอาการมิวเมื่อดูท่าแล้วมิวคงจะเป็นเอามาก พลางเอามือไปแตะที่หน้าผากมิว
    “แม่งมีไข้ด้วย ไหวมั้ยว่ะมิว เดี๋ยวกูไปส่งมึงดีกว่า” เอ็กซ์พูดด้วยความเป็นห่วงเพราะดูท่าแล้วไข้มิวจะขึ้นมากกว่าตอนบ่าย
    “ใจว่ะเอ็กซ์ แต่วันนี้เดี๋ยวโต้งมาหาเดี๋ยวกูกลับกับโต้งได้”มิวบอกด้วยหน้าตาสลึมสลือ
    “เออ ยังไงมึงก็ดูแลตัวเองด้วยนะเว้ยยเดี๋ยวตอนไปเชียงใหม่จะแย่เอา”
    “กูรู้แล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก”มิวพูดน้ำเสียงเรียบๆ เพราะมันทำให้เขาคิดถึงเรื่องที่จะต้องบอกโต้งวันนี้ ส่วนเอ็กซ์กลับมองหน้าเพื่อนอย่างที่จะอดห่วงไม่ได้
    ....
    ..
    .
    โต้งมาถึงก่อนก็นั่งรอมิวอยู่ที่ม้าหินอ่อนหน้าตึกเรียนของมิว เมื่อมิวลงมาก็เห็นโต้งนั่งคอยอยู่
    โต้งยิ้มให้เป็นการทักทาย มิวเองก็ยิ้มกลับมาเช่นกัน ส่วนเอ็กซ์ก็ยกมือทักทายให้โต้งอีกคน
    “หวัดดีโต้ง มาหามิวเหรอ” เอ็กซ์ทักทันทีเมื่อเข้ามาถึงม้าหินอ่อนตัวที่โต้งนั่ง
    “อื้ม”โต้งพยักหน้ายิ้ม ดูมีความสุข
    “ยังไงก็ฝากมิวด้วยละกันนะโต้ง วันนี้มันไม่ค่อยสบาย เนี่ยยังมีไข้อยู่เลย”เอ็กซ์บอกให้โต้งรู้
    “อ้าว แล้วมิวเป็นไรมากมั้ย” โต้งทำหน้าเหวอหันไปหามิว
    “เอ็กซ์มันก็พูดเวอร์อ่ะโต้ง เราแค่ตัวร้อนนิดเดียวเอง” แย่ละถ้าโต้งรู้ว่าเกิดจากที่ตากฝนเมื่อวานแล้วเผลอหลับไปโดยไม่ทันอาบน้ำและกินยาก่อนนอนละก็.....
    “เหรอมึง แล้วเมื่อกี้นี้ใครว่ะแม่งหลับตลอดเลย เข้ามาเรียนก็บ่นปวดหัว”เอ็กซ์แซวกลับพลางเอามือมากระทุ้งท้องมิวเบาๆ
    มิวหันมามองเอ็กซ์ทำหน้าดุ แต่สายตาก็เหลือบไปมองที่โต้งซึ่งมองมิวกลับมาอย่างห่วงๆอยู่
    “ไม่เป็นไรหรอกโต้ง”
    “จริงๆ” มิวย้ำเมื่อสีหน้าโต้งเหมือนจะไม่เชื่อ
    “นั้นกูกลับก่อนนะเว้ย” เอ็กซ์หันไปบอกมิว
    “ไปก่อนนะโต้ง”เอ็กผงกหัวให้โต้งนิดหน่อยเป็นการลา
    “โชคดีเอ็กซ์” โต้งหันไปยิ้มให้เช่นกัน
    มิวเดินเข้าไปนั่งที่เก้าอีกอีกตัวข้างๆโต้ง
    “นั้นวันนี้กลับบ้านก่อนมั้ย”โต้งหันมาถาม
    “ไม่เป็นไรหรอกโต้ง แค่นี้เองเอ็กซ์มันก็พูดเกินไป”
    โต้งเอามือขวามาแตะที่หน้าผากมิว พลางเอามือซ้ายแตะที่หน้าผากตัวเอง จึงรับรู้ได้ถึงความแตกต่างของอุณหภูมิของร่างกาย
    “แต่ตัวมิวค่อนข้างร้อนนะ เราว่าเอาไว้วันหลังก็ได้” โต้งบอกอย่างอ่อนโยน
    “อีกอย่างอาทิตย์หน้าเราก็ไม่มีซ้อมละครแล้ว ก็มีเวลามากขึ้น”โต้งเสริม
    “เอางั้นเหรอ” มิวเองไม่ค่อยอยากให้โต้งผิดหวังเพราะช่วงนี้เขากับโต้งไม่ค่อยได้ไปไหนด้วยกันเท่าไหร่ แต่ตัวเองก็รู้ดีว่าวันนี้ร่างการไม่ค่อยเอื้ออำนวยที่จะออกไปไหนเท่าไหร่
    “อื้ม”โต้งพยักหน้ายิ้ม เป็นการบอกว่าไม่เป็นไรหรอก
    “นั้นเราไปหาอะไรกินกันก่อนกลับละกันนะโต้ง”มิวบอกยิ้มกลับมาให้ อย่างน้อยกินข้าวด้วยกันก็ยังดี
    “ได้ดิ” โต้งยิ้มกว้างรับ
    ระหว่างทางที่พวกเขากำลังเดินออกจากมหาลัย
    “โต้ง”เสียงหญิงสาวเล็กๆดังขึ้น
    โต้งกับมิวหันหลังกลับไปมองยังที่มาของเสียงพร้อมกัน
    น้ำตาลกับเพื่อนอีกคนของเธอเดินเข้ามาหา เมื่อเห็นว่าคนที่เธอเรียกได้หันมาหา
    “จำเราได้ป่าวอ่ะ น้ำตาลไงคนที่เคยไปเที่ยวด้วยกันตอนงาน Freshy Night อ่ะ” น้ำตาลทวนความจำให้โต้ง มิวเองก็ทำหน้าตาเหวอๆและเหลือบมองหน้าโต้งนิดนึงก่อนจะหันกลับมาที่น้ำตาล
    “จำได้ดิ เป็นไงบ้างอ่ะ ตั้งแต่วันนั้นก็ไม่ได้เจอเลย” โต้งถามเสียงเรียบๆ
    “ก็เรื่อยๆนะ เห็นว่าโต้งได้แสดงละครของชมรมการแสดงด้วยเหรอ”น้ำตาลถาม
    “อื้ม”โต้งพยักหน้าตอบ
    “เนี่ยเราก็ซื้อบัตรมาแล้ว ว่าจะไปดูโต้งแสดงอ่ะ”
    “เหรอ ขอบคุณนะ แต่ไม่รู้เราจะแสดงเป็นไงดิอย่าขำก็ละกัน”
    “กับโต้งอ่ะเราไม่ขำหรอก ไว้วันนั้นเราจะเป็นกำลังใจให้นะ”เธอบอกพร้อมส่งยิ้มมาให้
    มิวเองได้แต่มองเขาสองคนคุยกันในขณะเดียวก็สังเกตว่าน้ำตาลมักจะชอบส่งยิ้มมาให้โต้งอยู่บ่อยๆ
    “พอดีเดี๋ยวเราต้องไปกินข้าวกับเพื่อนอ่ะ ไว้ค่อยคุยกันใหม่นะ”โต้งบอกเมื่อเขาเห็นว่าการสนทนาดูท่าจะยืดเยื้อขึ้น โดยไม่ทันสังเกตสีหน้าคนข้างq
    “คนนี้ใช่มิวที่เป็นนักร้องนำวงออกัสป่าวเหรอคะ”เพื่อนของน้ำตาลถามขึ้น
    “อ่ะครับ”มิวตอบรับ
    “เป็นเพื่อนโต้งเหรอคะ”เธอยังคงถามต่อ
    “ใช่ครับ รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว”มิวบอก
    “เราชื่อเฟิร์นนะ ขอถ่ายรูปด้วยรูปนึงได้ป่ะ”เธอบอกพลางหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา
    “ครับ.. ได้ครับ” มิวตอบโดยยิ้มเก้อ
    เฟิร์นฝากให้น้ำตาลช่วยถ่ายรูปให้ พร้อมทั้งเขยิบเข้าไปชิดกับมิวพลางเอนหัวเข้าไปใกล้ๆหน้ามิว มิวเองก็ยิ้มแหยๆ ส่วนโต้งก็ได้แต่มอง เขาไม่ว่าอะไรหรอกถ้าจะมีคนมาขอมิวถ่ายรูปแต่เขาไม่ค่อยชอบที่ทำไมต้องชิดกับมิวขนาดนั้นด้วย....
    เมื่อถ่ายเรียบร้อยแล้วมิวก็รีบเขยิบตัวออกจากเฟิร์นทันที
    “นั้นเราไปก่อนนะ ไว้เจอกันใหม่” โต้งรีบบอกลา
    “ไว้จะไปดูโต้งแสดงในงานนะ”น้ำตาลบอกก่อนจะโบกมือให้
    “โชคดีนะโต้ง ไปก่อนนะมิว”เฟิร์นบอกพร้อมทิ้งรอยยิ้มให้กับชื่อสุดท้าย โต้งได้แต่มองด้วยหน้าตามุ่ยๆ
    “อ่ะครับ” มิวยิ้มให้เช่นกัน
    โต้งกับมิวหันหลังให้ทั้งสองพร้อมกับเดินต่อไปตามทางเดิม
    “ดูเหมือนเฟิร์นจะชอบมิวเป็นพิเศษนะ”โต้งเปรยขึ้นมาเฉยๆระหว่างทาง
    “ยังไงอ่ะ”มิวทำหน้างงๆถาม
    “ก็เมื่อกี้เห็นส่งยิ้มให้ ตอนถ่ายรูปก็ชิดกันซะขนาดนั้น”โต้งพูดประชดออกมาเสียงเรียบๆ
    มิวหันไปมองหน้าโต้งที่ตอนนี้ยังคงทำหน้ามุ่ยเหมือนเดิม มิวมองไปก็อดจะคิดไม่ได้ว่าโต้งถึงจะโตแต่กับเขาก็ยังทำตัวเหมือนเด็กๆอยู่เลย
    “แล้วโต้งไม่ชอบเหรอ” ถามได้นะมิว เราคงชอบมั้งเห็นคนมาแนบชิดมิวซะขนาดนั้นแถมก่อนกลับยังส่งยิ้มให้อีก ก็เข้าใจนะว่ามิวเริ่มดังแล้วการที่มีคนอยากเข้าหาก็เป็นเรื่องปกติ แต่ว่าต่อหน้าต่อตาแบบนี้มันก็อด... ไม่ได้อ่ะ
    มิวยังคงยิ้มเล่นไม่เหมือนกับโต้งที่หน้ายังบึ้งเหมือนเดิม
    “อย่างนี้โต้งก็ไม่ต้องกังวลเรื่องแสดงละครแล้วดิ มีแฟนไปให้กำลังใจแบบนี้” มิวแซวกลับบ้าง
    “หมายถึงใครอ่ะมิว” โต้งทำหน้างงกับคำถามมิว
    “อ้าว ก็เมื่อกี้ไง เห็นได้ยินว่าคราวก่อนยังไปเที่ยวงานด้วยกันเลย ไอ้เราก็คิดว่าจะไปดูเราเล่นคอนเสิร์ตซะอีก หลงดีใจซะตั้งนานที่แท้ก็...” มิวถามพร้อมทั้งทำหน้าท้าทายคนตรงหน้า ก็ทีโต้งยังไปเที่ยวกับสาวๆได้เลย ทีเรื่องแค่นี้ทำงอนนะ
    “ก็ไร”โต้งเองถามกลับสีหน้ายังบึ้งเหมือนเดิม ซึ่งตรงกันข้ามกลับมิวเลย
    “ก็... แฟนโต้งไม่ใช่เหรอ”ถึงมิวจะพูดเล่นๆแต่ก็อดใจหายไม่ได้ ถ้านั่นเป็นความจริงเขาจะทำยังไง.....
    “มิวไปเอามาจากไหน..”
    “อ้าว ก็เห็นๆอยู่อ่ะ คุยกันซะสนิทเชียว” มิวยังไม่เลิก
    “เราไม่ได้ชอบน้ำตาลนะมิว อีกอย่างวันนั้นเราก็ไม่ได้ไปกันสองคนเราไปกับเพื่อนพอดีเค้าเป็นเพื่อนของเพื่อนอีกทีก็เลยเดินเที่ยวด้วยกัน ส่วนคนที่เราชอบอ่ะเป็นคนที่เรารู้จักมาตั้งแต่เด็กแล้ว เดี๋ยวนี้เค้าดังไปแล้วเลยมีคนมาชอบตั้งเยอะแยะ เราเลยหมดความหมาย”พูดแล้วก็หันหน้าไปมองที่มิวซึ่งตอนนี้กำลังอมยิ้มอยู่
    “แล้วแบบนี้โต้งทำไงอ่ะ” มิวยังคงแกล้งโต้งต่อไป
    “อ้าววว”โต้งทำหน้าเหวอทันทีที่เจอคำถามนี้ ถามมาได้นะมิว
    มิวยักคิ้วให้โต้งเพื่อรอคำตอบ
    โต้งไม่ได้ตอบอะไร แต่ทำหน้าบึ้งใส่มิวแล้วเดินเร็วขึ้น มิวเองก็เร่งฝีเท้าตามไป
    “โต้งก็รู้ว่าเราไม่ชอบเฟิร์นหรอก”มิวเริ่มง้อ
    “อ้าวแล้วงี้ชอบใครอ่ะ”
    “คนที่เราชอบเหรอ ก็เป็นคนที่เรารู้จักมาตั้งแต่เด็กเหมือนโต้งน่ะแหละ ชอบเล่นเกมหาของเวลาที่จะให้ของขวัญใคร ชอบเล่นฟุตบอล จำได้นะตอนเด็กๆเคยช่วยเราตอนที่เราถูกรังแกด้วยนะวันนั้นอ่ะตาเค้าเขียวไปเป็นอาทิตย์เลย”พูดไปมิวก็ขำกับความรู้สึกในสมัยเด็กไป โต้งเองก็เริ่มยิ้มเล็กๆ
    “ตอนเด็กๆเค้ามานอนที่บ้านเราบ่อยเหมือนกัน เราสนิทกันมากเลยนะโต้งรู้มั้ย”มิวเหลือบไปมองหน้าโต้ง ซึ่งเลิกทำหน้าบูดไปแล้วแต่กลับอมยิ้มอยู่
    “แล้วเราต้องห่างกันอยู่หลายปีเลยเพราะเค้าย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่พอกลับมาเจอกันอีกครั้ง เราก็ยังคงเหมือนเดิม เราแต่งเพลงให้เค้าด้วยนะ ร้องให้เค้าฟังในงานเลี้ยงครั้งนึงที่บ้านเค้า วันนั้นอ่ะเราไม่ลืมเลย...”ว่าแล้วมิวก็หันไปมองหน้าโต้งอีก ซึ่งตอนนี้ดูจะยิ้มแก้มแทบปริแถมพอเขาเล่ามาถึงตอนนี้กลับเขินหน้าแดงๆ
    “แอ๊ะ....ยิ้มได้แล้วเหรอ” มิวแซวโต้ง
    “เดี๋ยวนี้ชอบแกล้งนักเหรอมิว”โต้งทำหน้าตาหาเรื่องใส่ ส่วนมิวก็ได้แต่ยิ้มภูมิใจ
    เห็นแบบนี้โต้งเลยกระโดดกอดคอมิวไว้พลางเอามือขวามาขยี้ผมมิว
    “โอ้ย...ไม่เอาแล้วโต้ง”มิวบอกพลางแกะมือโต้งออก ส่วนโต้งเมื่อเอาคืนจนหนำใจแล้วก็ยอมปล่อย
    “คนที่เราอยากให้ไปดูเราอ่ะมี3คนเอง ก็มีพ่อเรา แม่เราแล้วอีกคนก็...”โต้งหยุดพูดและก็หยุดเดินพร้อมทั้งหันไปมองยังมิว ส่วนมิวเองก็เช่นกันหันมามองโต้งอย่างรอคำตอบ
    “ก็มิวไง” โต้งบอกพร้อมยิ้มให้ มิวเองก็ยิ้มเขินๆกลับมาให้
    แต่แล้วอยู่ๆรอยยิ้มของมิวก็จางหายไป จนโต้งเองก็สังเกตเห็น
    “โต้งอยากให้เรามาดูมากเลยเหรอ” มิวลองเกริ่นถามดู
    “แน่อยู่แล้ว เราพยายามขนาดนี้ทุ่มเทกว่าทุกๆครั้งก็เพื่อมิวโดยเฉพาะเลยนะ ในวันนั้นเราจะรอมิว จะมองมาให้มิวจากบนเวทีโดยเฉพาะเพลงที่มิวแต่งให้ เราจะร้องให้มิวฟังบ้าง มิวคอยดูเราให้ดีละกัน” โต้งดูมีความสุขเมื่อคิดถึงวันนั้น พลางยิ้มร่ามาให้มิว มิวเองก็ยิ้มตอบรับเช่นกัน
    ใช่แล้วโต้งพยายามเพื่อเขาขนาดนั้น ยังไงเขาก็จะพยายามเพื่อโต้งเหมือนกันไม่ว่าจะยังไงก็ต้องมาดูให้ได้ ไม่ว่าจะยังไง...
    “ยังไงเราจะมาดูโต้งแน่นอน....คอยเราอยู่บนเวทีละกัน”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×