ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักแห่งสยาม

    ลำดับตอนที่ #3 : เพลง ของมิว 1

    • อัปเดตล่าสุด 14 ม.ค. 52


                 อันเนื่องมาจากว่า กลัวไม่มีเวลาลงน่ะคะ เอามาเยอะเลย





    - เพลงของมิว(1) –
    ตอนเด็กๆเวลาสอบตกคุณครูเขาก็จะมีการสอบซ่อมเพื่อให้เราแก้ตัว แล้วเมื่อเรารู้ว่าเราทำผิดข้อไหนเราก็จะแก้ไขคำตอบของข้อนั้นให้ถูกต้อง
    แต่เรื่องของผมกับโต้งปัญหาข้อนี้...ทั้งๆที่ผมรู้ว่าคำตอบที่ผมเลือกมันผิด และตอนนี้ผมก็มีโอกาสที่จะแก้ไขคำตอบนั้น แต่ทว่าผมกลับเลือกคำตอบเดิม คำตอบที่ทุกคนบอกผมว่ามัน”ผิด” เพียงแต่...ใจผมบอกกับผมว่า นี่แหละคือคำตอบ “ที่ถูกต้องที่สุด”
    แต่ผมสัญญานะ ถ้าวันใดที่ชีวิตผมเริ่มที่จะสร้างปัญหาให้กับโต้ง ผมจะเป็นคนก้าวออกมาจากชีวิตเขาเอง ถอยหลังออกมาเพื่อให้โต้งก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างไม่สะดุด...
    แต่ตอนนี้ เวลานี้ ผมขอก้าวไปพร้อมกับเขา ให้นานเท่าที่ผมจะทำได้ ผมขอแค่นี้ก็พอ
    .................
    ที่โรงอาหารคณะวิศวกรรมศาสตร์
    โต้ง เอ็มและวีกำลังนั่งทานข้าวกลางวันกันอยู่ ในขณะที่ดูเหมือนจะมีรุ่นพี่ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งกำลังหันมามอง และให้ความสนใจกับพวกเขาอยู่
    “มึงเห็นรุ่นพี่พวกนั้นป่ะ แม่งมองมาที่พวกเราตั้งนานแล้ว สังเกตป่าวว่ะ” วีพูดขึ้นมาพลางเอาข้อศอกสะกิดโต้งพร้อมทั้งส่งสายตามองไปยังกลุ่มรุ่นพี่กลุ่มนั้น
    โต้งมองตามไป ก็พบว่ามี รุ่นพี่ที่เป็นผู้หญิงประมาณ5-6คนกำลังซุบซิบกันพร้อมทั้งมองมายังจุดที่พวกเขากำลังนั่งทานข้าวกันอยู่
    ไม่นานรุ่นพี่ 2 คนในกลุ่มนั้นก็เดินเข้ามายังโต๊ะที่พวกเขานั่ง
    “น้องโต้งใช่มั้ยค่ะ”พี่คนนึงถาม มายังโต้ง
    “ใช่ครับ มีอะไรรึป่าวครับ” โต้งตอบแบบงงๆ
    “พี่ชื่อพี่จุ๊บนะคะ พี่เป็นประธานชมรมการแสดง คือตอนนี้ทางชมรมเรากำลังจะจัดการแสดงขึ้น โดยที่รายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วเราก็จะเอาไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทางภาคเหนืออ่ะค่ะ” เธอเริ่มอธิบายเป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น
    “แล้วยังไงเหรอครับ” โต้งยังคงงงๆกับเรื่องราว เพราะไม่รู้ว่าตัวเองไปเกี่ยวข้องยังไงกับเรื่องนี้
    “คือทางเรายังขาดนักแสดงนำชาย แล้วพวกพี่ก็เห็นว่าน้องโต้งมีหน้าตาและบุคลิกตรงตามเรื่องพอดี พวกพี่ก็เลยจะมาขอความร่วมมือกับน้องโต้งไปช่วยแสดงให้กับทางชมรมน่ะค่ะ”เธอบอก
    “คงไม่ไหวมั้งครับ คือผมก็ไม่เคยผ่านการแสดงมาด้วยอ่ะคับ คงเล่นไม่ได้หรอก” โต้งปฏิเสธไปแบบเก้อๆ เพราะไม่รู้จะหาคำพูดไหนมาปฏิเสธดี
    “ไม่ต้องห่วงหรอกน้องโต้งเรื่องการแสดงน่ะ เราเรียนกันได้ แค่น้องโต้งตกลงมาเดี๋ยวเรื่องอื่นๆพวกพี่ๆจัดการให้เอง” จุ๊บยังคงพยายามต่อไป
    “เอ่อ..”โต้งไม่รู้จะพูดยังไง จึงมองไปยังเพื่อนทั้งสองเพื่อขอให้ช่วยพูดปฏิเสธให้หน่อย
    แต่กลับกลายเป็นว่า....
    “เออกูก็ว่าดีน่ะเว้ยไอ้โต้ง ถือว่าช่วยพี่ๆเค้าละกัน” วีพูดพลางมองหน้ารุ่นพี่ ซึ่งตอนนี้กำลังยกนิ้วโป้งให้ เสมือนบอกว่า ทำได้ดีมากน้อง -*-
    “ถือว่าไปช่วยทำบุญไงว่ะ เรื่องแค่นี้เอง สบายอยู่แล้ว” เอ็มสมทบ
    “อย่างน้องโต้งแสดงนะ คนมาดูเพียบแน่ เงินทำบุญก็เยอะตามไปด้วย จริงมั้ยๆ” จุ๊บพูดพลางชี้มือไปทางเพื่อนทั้งสองของโต้ง
    “ช่าย” เอ็มและวีพูดออกมาพร้อมกัน ยังกับถูกเขียนสคริปต์ไว้เรียบร้อยแล้ว
    แนวร่วมที่หวังจะพึ่งได้กลับแปรพรรคไปซะแล้ว โต้งได้แต่น้ำจุกปากพูดไม่ออก
    “นั้นผมขอคิดดูอีกทีนะครับ” โต้งตอบผ่านๆเพื่อเอาตัวรอดไปก่อน
    “ได้จ้ะ แต่อย่านานมากนะ เพราะพวกพี่ต้องเตรียมการแสดง ยังไงพี่ขอเบอร์น้องโต้งหน่อยนะคะ” จุ๊บหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมเมมเบอร์ทันที
    “083 901 8320” โต้งบอกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองไป
    “ไว้เดี๋ยวพี่จะโทรหานะจ้ะ” เธอยิ้มให้โต้งพร้อมทั้งโบกมือเล็กน้อยให้ก่อนที่จะพากันเดินออกไป
    “แม่งไม่ช่วยกูแล้วยังเสือกไปสนับสนุนเค้าอีก” โต้งหันไปบอกเพื่อนตัวดีทั้งสองคน
    วีและเอ็มได้แต่ทำหน้าแหยๆ แต่ก็อดที่จะขำไม่ได้
    ............................
    “เฮ้ยมิว ไมทำตัวน่ารักจังว่ะ” เอ็กซ์แซวขึ้น เมื่อเห็นมิวเดินเข้ามาในห้องเรียน พลางเอามือมาจับที่ตุ๊กตารูปกวางเรนเดียที่มิวเอามาห้อยไว้ที่เป้สะพาย
    “เชี่ยไรมึงเนี่ย” มิวเอามือเอ็กซ์ออกจากตุ๊กตา พร้อมทั้งวางเป้ลงบนโต๊ะ
    “บอกมาเลยมึงซื้อเองหรือว่ามีคนให้มา”เอ็กซ์แกล้งถามต่อ
    “แต่กูว่านะ อย่างมึงคงไม่ซื้อเองหรอก น่าจะมีคนให้มามากกว่า”เอ็กซ์ยังไม่ยอมเลิกแซว มิวเองก็เริ่มอายมากขึ้น
    “เอ ใช่คนที่ชื่ออักษร ต. ไรเนี่ยป่าวว่ะ”เอ็กซ์แกล้งถามพร้อมทั้งทำหน้าเจ้าเล่ห์
    “เงียบเลยมึง ไม่มีไรจะคุยแล้วเหรอ” มิวไม่รู้จะแก้ตัวยังไง ในเมื่อความจริงมันเป็นอย่างนั้น ได้แต่ยิ้มแบบเขินๆแต่หน้ากลับแดงอย่างเห็นได้ชัด นั่นยิ่งสร้างความเพลิดเพลินให้เอ็กซ์มากขึ้น
    แต่ก่อนที่เอ็กซ์จะเริ่มแกล้งมิวต่อ ก็พอดีที่มีเพื่อนในคณะคนนึงเข้ามาเรียกมิว
    “มิวๆมีคนมาหาอ่ะ” มิวหันไปมองตามเสียงเรียก ก็พบต้นตอของเสียงซึ่งมาพร้อมกับพี่ผู้หญิงอีก2คน
    “น้องมิวใช่มั้ยค่ะนี่พี่ชื่อพี่จุ๊บนะ.........”
    ….

    ..
    .
    ...............................
    ที่ร้านไอศกรีมใกล้ๆมหาลัย
    “แล้วโต้งตอบเค้าว่าไงอ่ะ” มิวถามขณะที่กำลังกินไอศกรีมกัน
    “เราก็บอกว่าขอคิดดูก่อนอ่ะ เรายังไม่ได้ตัดสินใจเลยมิว”โต้งบอกพร้อมทั้งทำหน้าเซ็งๆ
    “แต่ เราก็ว่าดีนะ” มิวพูดขึ้น
    “อ้าว” โต้งได้แต่ทำหน้าเหวอเมื่อมิวกลับเห็นดีเห็นงามไปกับเค้าด้วย
    “อีกอย่างนะโต้ง ตอนเด็กๆโต้งก็เคยแสดงละครเวทีมาแล้วนี่ ไม่น่าจะมีปัญหาหรอก”มิวยกเหตุผลมาอ้างพลางตักไอศกรีมเข้าปาก
    “เป็นแกะเนี่ยนะ”โต้งทำหน้ามุ่ยหันมามองมิว มิวเองก็ได้แต่ขำกับท่าทางของโต้ง
    “หัวเราะเข้าไปๆ ไว้ถึงทีเราบ้างก่อนนะ”
    “ป่าว เราแค่อยากให้โต้งเล่นละครเวทีเรื่องนี้เท่านั้นเอง”
    “ทำไมอ่ะ”โต้งถามอย่างสนใจ
    “ป่าวไม่มีอะไรหรอก”มิวรีบตอบพร้อมทั้งก้มหน้าก้มตากินไอศกรีมโดยไม่สบตาโต้งที่กำลังรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
    “มีไรแน่ๆเลย บอกมาเลยมิว”โต้งเริ่มคาดคั้นเมื่อเห็นมิวมีท่าทีเปลี่ยนไป
    “ติ๊ดๆๆๆๆๆๆ” เสียงโทรศัพท์โต้งดังขึ้น เหมือนเป็นการช่วยชีวิตมิวเอาไว้ได้
    โต้งดูเบอร์ที่โชว์แต่กลับเป็นเบอร์แปลกที่ไม่มีในเครื่องของเขา
    “ฮัลโหล ใครอ่ะ”โต้งกดรับ ขณะที่มิวเองก็ให้ความสนใจเช่นกัน
    “นี่พี่จุ๊บเองนะ พี่ที่ชมรมการแสดงอ่ะจำได้มั้ย”เสียงจุ๊บตอบผ่านสายกลับมา
    “ออครับ ว่าไงครับพี่” โต้งถามไปทั้งๆที่พอจะเดาได้ว่าจุ๊บโทรมาทำไม
    “พี่จะถามว่าน้องโต้งตัดสินใจได้รึยังเหรอ เพราะว่าที่ชมรมวันนี้เค้าจะมีประชุมเรื่องการแสดงกันน่ะ”จุ๊บบอกเหตุผล
    “เอ่อ....”โต้งดูมีท่าทีลังเลพร้อมทั้งมองหน้ามิวเพื่อขอความคิดเห็น โดยมิวเองก็พยักหน้าเล็กน้อยเป็นการบอกให้รู้ว่า ลองดูก่อนถ้าไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที
    “คือพี่อยากได้คำตอบเลยอ่ะค่ะน้อง เพราะพวกพี่จะได้เตรียมตัวกันทัน”
    “เอ่อ...ครับพี่ ลองดูก็ได้ครับ”โต้งตอบไปแบบกระท่อนกระแท่น ส่วนมิวก็ได้แต่นั่งมองยิ้มๆกับท่าทางของโต้ง
    “จริงเหรอน้องโต้ง” เสียงของจุ๊บซึ่งดูท่าทางดีใจเอามากๆผ่านมาทางสายโทรศัพท์
    “นั้นวันนี้ตอน 6 โมงครึ่งที่ชมรมเราจะมีประชุมกันน่ะ พี่อยากให้น้องโต้งมาฟังด้วยน่ะ เพราะจะมีนักแสดงและคนที่เกี่ยวข้องมากันหมดเลย จะได้ทำความรู้จักกันไว้” จุ๊บแจงรายละเอียดให้โต้งฟัง
    “ได้ครับ แต่ผมอาจไปช้าหน่อยนะครับ เพราะวันนี้มีซ้อมบอลกว่าจะเลิกก็6โมงกว่าแล้ว” โต้งบอกไปตามจริง
    “ได้จ้ะ ยังไงเดี๋ยวพี่จะรอนะ ขอบใจมากนะน้องโต้งแล้วเย็นนี้เจอกันที่ชมรมนะ”
    จุ๊บวางสายไปแล้วแต่สีหน้าของโต้งยังคงเซ็งไม่เปลี่ยนไปจากเมื่อครู่
    “เอาน่าโต้ง” มิวยิ้มให้กำลังใจ พร้อมกับยื่นมือมาบีบมือโต้งเบาๆ โต้งเองก็ยิ้มตอบกลับมาเช่นกัน
    ......................
    ที่สนามบอล
    “ตกลง มึงบอกพี่เค้าไปว่าไงว่ะไอ้โต้ง” เอ็มถาม ขณะกำลังจะเดินออกจากสนามบอลเมื่อเลิกจากการซ้อมแล้ว
    “กูก็ตอบตกลงไปว่ะ ไม่รู้จะปฏิเสธยังไงดี” โต้งเอ่ยออกมาอย่างเบื่อหน่าย
    “เฮ้ย นั่นมันไอ้มิวนักร้องนำวงออกัสป่าวว่ะ” เอ็มชี้มือไปทางริมสนามอีกด้านหนึ่ง
    โต้งเองพอได้ยินชื่อมิวก็รีบหันขวับไปในทันที
    ใช่มิวจริงๆด้วย โต้งคิดในใจ แต่ทำไมวันนี้ถึงมาหาเขาได้ถึงที่นี่เลยนะ แถมไม่ได้โทรมาบอกล่วงหน้าด้วยว่าจะมา
    มิวซึ่งกำลังโดนกลุ่มรุ่นพี่วิศวะสาวๆรุมถ่ายรูปอยู่เมื่อเหลือบมาเห็นโต้งก็ส่งยิ้มให้เล็กๆเพราะไม่อยากให้มีคนสังเกตเห็น
    เมื่อเห็นมิวยิ้มมาให้ โต้งจึงเดินลัดสนามเข้าไปหาพลางอมยิ้มเล็กๆกับตัวเอง
    “ไปไหนว่ะโต้ง อย่าบอกนะว่ามึงก็บ้าดาราเหมือนกัน” เอ็มถามพลางเดินตามโต้งไป
    “จะว่าไปแล้ว แม่งน่าอิจฉาเหมือนกันว่ะ กูเห็นไปไหนมาไหนนะแม่งสาวๆมองกันตรึมเลย”เอ็มยังคงพูดต่อไป แต่โต้งก็ยังคงไม่ตอบอะไร
    “แต่แม่งสงสัยมีแฟนแล้วว่ะ กูเคยดูสัมภาสครั้งนึงมันบอกว่าเพลงกันและกันเนี่ยมันแต่งให้กับคนพิเศษ พูดแบบนี้ เชื่อกู แฟนชัวร์ๆ” คราวนี้แม้โต้งจะไม่ตอบอะไร แต่ก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้ จนเอ็มสังเกตเห็น แต่ก็แน่ล่ะ ก็คนพิเศษคนนั้นมันหมายถึงเขานี่นา
    “เดี๋ยวขอตัวไปหาเพื่อนก่อนนะคับ” มิวรีบบอกเพื่อขอปลีกตัวออกมาเมื่อเห็นโต้งเดินเข้ามาใกล้
    “ไงโต้ง” มิวทักเมื่อโต้งเดินมาถึง ทำเอาเอ็มเกิดอาการงง
    “นี่มึงรู้จักเค้าด้วยเหรอว่ะ” เอ็มถามอย่างอายๆ เพราะเมื่อกี้เค้ายังพึ่งแอบนินทาอยู่แท้ๆ
    “อ๋อ ก็เพื่อนสมัยเด็กอ่ะ” โต้งหันไปตอบ
    “แล้วมึงก็ไม่รีบบอก ทำเอากูปล่อยไก่ไปเยอะเลยนะแม่ง..”เอ็มกระซิบเบาๆไม่ให้มิวได้ยิน
    “เอ้อมิว นี่เอ็มเพื่อนโต้งที่คณะนะ”โต้งชี้ไปยังเอ็ม
    “หวัดดีคร้าบ”เอ็มผงกหัวให้ มิวเองก็ยิ้มรับเช่นกัน
    “แล้วนี่มิวนะ คงรู้จักแล้วใช่มะ” โต้งบอกพร้อมทั้งหันไปหาเอ็มพลางอมยิ้มปนขำให้เล็กน้อย เอ็มได้แต่ทำหน้าแหยๆ พูดไม่ออกกับท่าทางของโต้ง ส่วนมิวเองก็ได้แต่งงกับท่าทางของคนทั้งสอง
    “แล้วนี่มิวมาได้ไงเนี่ย” โต้งถามขึ้นมา เพราะปกติมิวไม่เคยมาหาเขาถึงในนี้เลย ต่อให้จะมาก็คงจะโทรมาบอกก่อน
    “อ๋อ ก็เห็นว่าโต้งต้องไปที่ชมรมการแสดงแล้วเราก็ต้องไปทำธุระแถวนั้นพอดีเลยกะว่าจะชวนโต้งไปด้วยกันอ่ะ” มิวอธิบาย
    “เอาดิ ดีเลยมิวเราก็กำลังอยากหาเพื่อนไปอยู่พอดี” โต้งยิ้มร่า อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องไปคนเดียว ที่สำคัญคนที่ไปเป็นเพื่อนยังเป็นมิวอีก
    “แล้วเอาไงอ่ะ โต้งต้องไปเปลี่ยนชุดก่อนมั้ย” มิวถามเมื่อเห็นสภาพโต้งตอนนี้ ถึงไม่มอมแมมแต่ก็มีเหงื่อซึมๆออกมาให้เห็น
    มิวพิจารณาดูโต้งอยู่ครู่หนึ่ง ก็เขาพึ่งเคยเห็นโต้งในชุดนักฟุตบอลสีขาว แดดสีส้มยามเย็นสะท้อนกับเหงื่อออกมาเป็นประกายสีทองขับให้ผิวที่ขาวอยู่แล้วดูสว่างขึ้นไปอีก ความสูงที่กำลังดูดีรวมกับหน่วยก้านที่เห็นได้ชัดเจนเมื่อใส่ชุดนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่มักจะเห็นสาวๆชอบมาแอบมองโต้งเวลาที่เล่นฟุตบอล
    “มิว” โต้งเรียกมิวเมื่อเห็นว่ามิวเงียบไป
    “เป็นอะไรรึป่าว” โต้งถามด้วยสีหน้าห่วงใย
    “อ่อ... ป่าว ไม่มีอะไร” มิวได้แต่ยิ้มเก้อๆแล้วก็ทำเป็นมองไปทางอื่นไม่กล้าสบตากับโต้ง
    “เราว่าไปเลยก็ได้น่ะ เดี๋ยวเดินๆไปเหงื่อก็แห้งเองแหละ อีกอย่างเดี๋ยวจะมืดเอาซะก่อนอ่ะ” โต้งบอก
    “เอางั้นก็ได้” มิวยังคงอายตัวเองและก็ยังไม่กล้าหันมามองหน้าโต้งเหมือนเดิม
    “นั้นกูกลับก่อนละกันว่ะโต้ง ไว้พรุ่งนี้เจอกันใหม่นะเว้ย” เอ็มบอก
    “เออ ไว้เจอกัน” โต้งบอกลาเอ็ม
    “เออ เจอกันโต้ง แล้วไว้เจอกันนะครับมิว” เอ็มหันไปผงกหัวเล็กๆให้มิวอีกครั้งก่อนเดินแยกออกไป มิวเองก็ผงกหัวเล็กๆตอบกลับเช่นกัน
    “ป่ะมิว” โต้งบอกพร้อมทั้งยิ้มที่มุมแก้มเล็กๆให้
    แล้วโต้งกับมิวก็พากันเดินไปตามทางที่จะมุ่งหน้าไปยังชมรมการแสดง
    สายตาผู้คนมากมายต่างพากันจับจ้องเขาทั้งสอง ในเมื่อจุดเด่นทั้งสองในมหาลัยต่างมาบรรจบรวมกัน มันแน่อยู่แล้วที่จะเป็นจุดสนใจของคนทั่วไป
    แต่ทั้งโต้งและมิวกลับไม่สนใจ พวกเขายังคงคุยเล่นกันไปตลอดทางคล้ายกับว่าบนเส้นทางนี้มีเพียงพวกเขาแค่สองคนเท่านั้น....

    ชมรมการแสดง
    “อ้าวน้องโต้งน้องมิวมากันแล้วเหรอ พี่กำลังรออยู่พอดี”จุ๊บทักทันทีที่เห็นทั้งสองคนเดินเข้ามา
    “แล้วนี่มาด้วยกันเหรอ” จุ๊บถามเมื่อเห็นทั้งสองเดินคู่กันมา
    “อ่อครับ” มิวตอบ
    “อ้าวเหรอ นั้นแสดงว่ารู้จักกันมาแล้วดิ” จุ๊บถามอย่างแปลกใจ
    “อ่อ ก็รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้วอ่ะคับ” มิวอธิบาย
    “ดีเลยแบบนี้น้องโต้งจะได้มีเพื่อน” จุ๊บยิ้มให้โต้งที่ตอนนี้ทำหน้างงๆ เพราะจากที่ฟังการสนทนาของทั้งคู่แล้วโต้งรู้สึกเหมือนว่ามิวจะมีส่วนร่วมกับการแสดงครั้งนี้ด้วย
    “ยังไงเหรอครับ” โต้งลองเชิงถามเพราะไม่แน่ใจในความคิดตัวเอง
    “อ้าว มิวยังไม่ได้บอกโต้งเหรอ” จุ๊บบอกโต้งอย่างแปลกใจ เพราะดูเหมือนโต้งจะยังไม่รู้เรื่อง
    “บอกไรเหรอคับ”โต้งถามหน้าซื่อ
    “ก็น้องมิวเค้าจะมาช่วยแต่งเพลงประกอบละครเวทีเรื่องนี้ให้ไง แล้วมีเพลงที่น้องโต้งต้องร้องเองด้วยนะ”จุ๊บอธิบายให้ฟังคร่าวๆ
    โต้งได้แต่อ้าปากค้างพลางหันมองมายังมิว ที่ตอนนี้แอบอมยิ้มขำๆอยู่
    มิน่าล่ะ ถึงได้คะยั้นคะยอนัก โต้งคิดในใจพร้อมทั้งทำหน้าตาประมาณว่าฝากไว้ก่อนนะ
    “เดี๋ยวพี่ว่าเข้าไปข้างในเลยมั้ย ทุกคนมากันพร้อมแล้วล่ะ”จุ๊บบอกพลางเดินนำเข้าไปข้างในซึ่งเป็นหอประชุมขนาดใหญ่ ภายในมีเก้าอี้ไต่ระดับเป็นสโลปลงไปยังเวทีที่อยู่เบื้องล่าง ซึ่งชมรมการแสดงได้ขอใช้ห้องเล็กๆด้านหลังเวทีนั้นเป็นห้องของชมรม
    เมื่อโต้งและมิวเดินเข้าไปถึง เขาก็เห็นผู้คนมากมายทั้งรุ่นเดียวกันและรุ่นพี่ รวมๆกันก็กว่า 50 คนได้ นั่งรวมกันอยู่บริเวณใกล้ๆกับเวที
    “ มิว” เสียงคุ้นหูดังขึ้นมา มิวมองไปทางต้นเสียงก็พบกับหญิงซึ่งกำลังกวักมือเรียกพวกเขาทั้งสองอยู่
    มิวกับโต้งโบกมือรับแล้วเดินเข้าไปนั่งข้างๆหญิงตรงเก้าอี้ตัวที่อยู่หน้าสุดใกล้กับเวที
    “นี่หญิงอยู่ชมรมนี่ด้วยเหรอ” มิวถามเมื่อนั่งลงข้างๆหญิงเรียบร้อยแล้ว
    “อื้ม เพื่อนเราชวนมาเข้าน่ะ” หญิงบอกพลางชี้ไปยังผู้หญิงอีก2คนที่นั่งอยู่อีกข้างหนึ่ง
    “นี่พิมกับป่านนะ” หญิงแน่ะนำเพื่อนทั้งสองให้มิวกับโต้งได้รู้จัก
    ทั้งสองต่างยิ้มให้เพื่อนของหญิง ทำเอาทั้งพิมและป่านพูดไม่ออกเลยทีเดียวเมื่อเจอกับรอยยิ้มของพวกเขาทั้งสอง
    “นี่หญิง มีเพื่อนเป็นนักร้องกับเดือนคณะไม่บอกกันเลยนะ”ป่านกระซิบเบาๆข้างหูหญิง
    หญิงไม่ตอบอะไรได้แต่ขำกับท่าทีของเพื่อนตัวเอง
    “น่ารักดีอ่ะมิว ซื้อที่ไหนเหรอ” หญิงแกล้งทักเมื่อเห็นตุ๊กตากวางเรนเดียบนกระเป๋าเป้ของมิว
    มิวไม่ตอบอ่ะไรได้แต่อมยิ้มหน้าแดง หญิงจึงหันไปมองยังโต้งพร้อมทั้งยักคิ้มเล็กๆส่งไปให้
    โต้งเองก็ได้แต่ยิ้มเก้อๆ ไม่รู้จะพูดยังไง ก็นะรู้ๆกันอยู่ยังมาถามกันได้
    จุ๊บเดินออกไปยืนตรงกลางเวที พร้อมทั้งกล่าวเริ่มการประชุม
    ....
    ...
    ...
    การประชุมใช้เวลาเกือบ2ชั่วโมง
    โดยเรื่องราวของละครจะออกไปในแนวเทพนิยายแฟนตาซีแบบกึ่งละครเพลง โต้งได้รับบทเป็นพระเอกของเรื่อง โดยมีเจนดาวของคณะวิทยาศาสตร์เป็นนางเอก หญิงรับบทเป็นเพื่อนของนางเอก และคนอื่นๆก็ได้รับบทและหน้าที่ต่างๆกันไปในแต่ส่วนของงาน
    และที่แน่นอน มิวได้รับหน้าที่ในการแต่งเพลงของละครเรื่องนี้...
    .....
    ..
    .
    เกือบ3ทุ่มแล้ว โต้งกับมิวเดินออกมาตามทางเดินที่จะออกไปสู่หน้ามหาลัย แสงไฟสลัวๆเป็นระยะๆตามทางที่ทอดยาวออกไปโดยรอบข้างมีต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกห่างกันเป็นระยะๆอย่างมีระเบียบ นักศึกษาแทบไม่มีหลงเหลือให้เห็นแล้ว ซึ่งตอนนี้เท่าที่เห็นดูเหมือนจะมีเพียงพวกเขา2คนเท่านั้นที่กำลังเดินอยู่บนทางสายนี้
    “มิว ถามจริงๆนะ”โต้งพูดออกไปเบาๆพร้อมทั้งหันหน้ามาหาคนข้างๆ มิวเองก็หันมามองหน้าคนถามเช่นกัน
    “อะไรเหรอโต้ง”
    “ทำไมมิวถึงอยากให้เราแสดงละครเวทีนี่จังเลยอ่ะ”
    มิวยิ้ม แล้วหันกลับไปมองยังทางเบื้องหน้า
    “ก็ไม่มีอะไรหรอกโต้ง โต้งจำตอนเด็กๆได้มั้ย วันที่โต้งแสดงละครเวทีในงานคริสมาสต์น่ะ ครั้งนั้นน้านีย์กับน้ากรไม่ได้มาดูโต้งแสดงเพราะต้องไปตามหาพี่แตง เรารู้นะว่าวันนั้นโต้งรู้สึกยังไงเพราะป๊ากับม๊าเราวันนั้นก็ไม่มาเหมือนกันเพียงแต่เรายังมีอาม่า... เราเลยอยากชดเชยความรู้สึกนั้นให้โต้งน่ะ อยากให้โต้งได้มีความประทับใจดีๆ ได้ยิ้มในขณะที่มีคนที่รักมาคอยให้กำลังใจ เชื่อเรานะโต้ง ครั้งนี้ทั้งน้ากรณ์และน้านีย์จะต้องมาดูโต้งแน่นอน โต้งเองก็ต้องพยายามทำให้ดีด้วยล่ะ” พูดจบมิวก็หันไปมองหน้าโต้งซึ่งตอนนี้กำลังยิ้มให้มิวอยู่ ยิ้มที่ออกมาจากใจ.... เขารู้สึกทั้งประทับใจ ซึ้งใจ ขอบคุณและอีกหลายๆความรู้สึกที่มันอัดแน่นอยู่ข้างใน ไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายอะไร เพียงแค่แววตาและรอยยิ้มที่โต้งส่งมาให้ มิวก็เข้าใจความหมายทุกอย่างที่โต้งต้องการจะบอก มิวจึงยิ้มให้เป็นการตอบรับสิ่งที่โต้งมอบมาให้...
    “และอีกอย่างนึงนะโต้ง” มิวพูดเสียงเบาๆพร้อมทั้งมองไปยังเบื้อหน้าอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขากลับอมยิ้มอย่างอายๆ
    “อะไรเหรอมิว” โต้งถามอย่างนุ่มนวล พร้อมทั้งแปลกใจกับท่าทางของมิว
    “ก็ไม่มีอะไรหรอก เพลงรักบางเพลงนอกจากโต้งแล้ว เราก็ไม่อยากแต่งให้ใครอีก...” พูดจบมิวก็ได้แต่ก้มหน้ามองทางข้างหน้า โดยไม่รู้ว่าโต้งเองตอนนี้ไม่สามารถหุบยิ้มตัวเองได้ อีกทั้งยังหน้าแดงไม่ต่างอะไรกับมิวเลย
    “มิวแต่งเพลงให้เรา... นั้น... เราก็จะขอร้องเพลงนี้ให้กับมิวนะ”
    มิวคลาดไม่ถึงกับสิ่งที่ได้ยิน ที่ทำได้ตอนนี้ก็เพียงแต่ยิ้มไม่กล้าสบตาคนข้างๆ ได้แต่มองไปข้างหน้าตามทางที่เดินไป
    ไม่นานก็เริ่มรู้สึกได้ว่ามือขวาเริ่มสัมผัสกับไออุ่น...
    โต้งกุมมือขวาของมิวด้วยมือซ้ายของตัวเองพลางมองไปยังทางข้างหน้าทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มิวเองก็เช่นกันได้แต่ยิ้มอย่างเขินๆพร้อมทั้งเดินต่อไปข้างหน้า
    แม้บนเส้นทางที่เดินไปจะมืดสักแค่ไหน จะเหน็บหนาวสักเพียงใด ขอแค่มีใครสักคนคอยกุมมือเราไว้ หัวใจเราก็จะอบอุ่นอยู่เสมอ
    “คืนนี้อากาศดีเนอะมิว.....”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×