ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : คืน วัน สุข
- คืน วัน สุข
เพลงรักเพลงแรกที่เริ่มเขียน ผมเขียนให้กับใครบางคน คนที่ดึงผมขึ้นมาจากความเหงาพร้อมทั้งเลือกคำตอบที่ผมเคยตั้งไว้ให้กับตัวเอง
‘มันจะเป็นไปได้เหรอ ที่เราจะอยู่ได้โดยไม่รักใครเลย’
แต่แล้ววันหนึ่ง มันเป็นคืนวันคริสมาสต์เมื่อ5เดือนก่อน เขาอีกเช่นกันที่มอบคำตอบให้กับคำถามที่ผมเฝ้าถามตัวเองมาโดยตลอด
‘ ถ้าเรารักใครสักคนมากๆ เราจะทนได้เหรอ ถ้าวันนึงเราต้องเสียเข้าไป ‘
ผมอยู่กับความรู้สึกนี้มาโดยตลอด5เดือนที่ผ่านมา แม้รอบกายจะมีเพื่อนฝูง มีดนตรีและมีคนที่คอยหวังดีกับเราเสมอ แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงเวลาที่ต้องอยู่คนเดียวมัน..เหงาเพียงใด
แต่แล้วเมื่อ 3 อาทิตย์ก่อน”เรา” ก็ได้มีโอกาสมาเจอกันอีกครั้ง ความรู้สึกเก่าๆได้เวียนกลับมาเหมือนเดิม แล้วยิ่งผมได้มารับรู้ว่าเขาเองก็ยังคงรู้สึกไม่ต่างไปจากผมเลย
เรายังคงเหมือนเดิม...
ผมจะทำยังไงดี ใจหนึ่งก็ดีใจและแอบหวังจะให้เรากลับมาเหมือนเดิม แต่อีกใจหนึ่งก็ต้องคอยห้ามตัวเอง เพราะอยากเห็นอนาคตที่สดใสของเขาและความรักที่แท้จริงที่หลายๆคนคาดหวัง และแน่นอนว่านั่นไม่ใช่ความรักของผม..
จากวันนั้นที่เราเจอกันที่ตู้โทรศัพท์โดยบังเอิญในวันที่ฝนตก เราก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย ไม่สิ? ผมเคยเจอเขาอีกครั้ง เพียงแต่วันนั้นเขาคงไม่เห็นผม มันเป็นงานประกวดดาวเดือนของคณะวิศวกรรมศาตร์ ผมเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปเท่าไหร่แต่หญิง เพื่อนสนิทของผมคนหนึ่ง เธอมาชวนแกมบังคับให้ผมไปด้วย สุดท้ายผมก็ต้องยอม
แล้วสิ่งที่ผมไม่คาดว่าจะเจอในกลุ่มคนที่ได้รับเลือกเข้าประกวดในงานนี้ก็คือเขา..
ถึงกระนั้นผมก็คอยลุ้นให้เขาได้ตำแหน่งเดือนคณะ แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
แต่เขาจะรู้มั้ยนะ ว่าวันนั้นผมแอบคอยเป็นกำลังใจให้เขาอยู่ห่างๆ........
“โต้ง ทำไรอยู่เหรอลูก” สุนีย์เดินเข้ามานั่งข้างๆโต้งซึ่งกำลังนั่งทำการบ้านวิชาแคลคูลัส1อยู่
“การบ้านน่ะแม่”โต้งตอบ
“ แล้วนี่พ่อจะกลับมากี่โมงเหรอ” โต้งถามพลางหันไปมองดูนาฬิกาซึ่งบอกเวลาว่าขณะนี้กำลังจะ4ทุ่มแล้ว
“เมื่อกี้พ่อเค้าโทรมาว่า ออกจากงานเลี้ยงแล้วกำลังขับรถกลับมาอยู่น่ะ โต้งมีอะไรเหรอ”
“ป่าวน่ะแม่ ถามเฉยๆ”
“ แล้วเราล่ะเป็นไง ช่วงนี้เรียนหนักมั้ย” สุนีย์ถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“ ก็เรื่อยๆอ่ะแม่ แต่มีกิจกรรมเยอะเลย นี่โต้งก็เข้าชมรมฟุตบอลด้วย เลยไม่ค่อยว่าง” โต้งบอกไปตามความจริง
“ ก็ดีแล้วเรียนอย่างเดียวเดี๋ยวเครียดเอา เล่นกีฬาด้วยก็จะช่วยได้เยอะ แต่โต้งเองก็ต้องหาเวลาพักผ่อนด้วยนะลูก”
“ ครับแม่ “ โต้งยิ้ม สุนีย์เองก็ยิ้มตอบกลับมาเช่นกัน พลางเอามือมาลูบหัวโต้งเบาๆ
ไม่นานโต้งก็วางปากกาลง
“เสร็จสักที” โต้งเอ่ยขึ้นมาอย่างโล่งใจ สุนีย์ซึ่งนั่งดูโทรทัศน์อยู่ข้างๆก็หันมายิ้ม
โต้งหันไปมองดูโทรทัศน์ที่กำลังเปิดอยู่ ซึ่งช่วงก่อนเขาเองก็ไม่ค่อยจะมีเวลาได้สนใจสื่อต่างๆสักเท่าไหร่ เพราะแค่เรื่องที่ต้องทำในแต่ละวันมันก็มากพอที่จะทำให้เขาหลับเป็นตายได้อยู่แล้ว
“ มิว “ โต้งอุทานขึ้นมาเบาๆเมื่อเห็นโฆษณาโปรโมทอัลบั้ม The August อัลบั้มเพลงอัลบั้มแรกของวง ออกัส
สุนีย์ซึ่งนั่งข้างๆได้หันมาสนใจกับท่าทีของโต้ง เธอเห็นรอยยิ้มเล็กๆบนใบหน้าของลูกชาย แม้โต้งจะไม่เอ่ยอะไรเลยแต่เธอก็เข้าใจดีว่าโต้งดูมีความสุขมากแค่ไหนที่ได้เห็นมิว
“ว่าก็ว่านะโต้ง แม่ไม่ได้เจอมิวมาก็นานแล้วนะ ไม่รู้เป็นไงบ้าง” เธอเอ่ยขึ้นมาทันทีที่โฆษณานั้นจบลงไป
“ โต้งก็ไม่ได้เจอมิวเหมือนกัน” โต้งบอกพร้อมทั้งยิ้มแบบเจื่อนๆ
สุนีย์มองดูลูกชาย อย่างเป็นห่วง
“ อ้าว ทำไมล่ะโต้ง” เธอถามทั้งๆที่พอจะคาดเดาคำตอบได้แล้ว
“ ก็ไม่มีอะไรหรอกแม่” โต้งตอบเสียงแผ่ว
สุนีย์ยิ้มพร้อมทั้งส่ายหัวเล็กๆ
“ โต้งฟังแม่นะ”เธอเริ่มเอ่ย โต้งเองก็เงยหน้าขึ้นมองพร้อมทั้งให้ความสนใจกับสิ่งที่สุนีย์กำลังจะพูด
“ พ่อแม่ทุกคนน่ะ หวังที่จะให้ลูกตัวเองมีอนาคตที่สดใส เดินไปในทางที่ถูกต้อง แต่นั่นก็เพราะหวังจะให้ลูกมีความสุข แต่ถึงแม้ว่าทางที่ลูกเลือกเดินจะเป็นทางที่ต่างจากคนอื่นสักหน่อย แต่ถ้านั่นมันทำให้ลูกมีความสุขแน่นอนว่าพ่อแม่ทุกคนก็คงจะรู้สึกแย่ไปบ้างแต่แล้วพวกเขาก็จะมีความสุขในภายหลัง นั่นก็เพราะสิ่งที่พวกเขาหวังคือความสุขของลูก ไม่ใช่ความสำเร็จ แม่ไม่อยากเห็นโต้งประสบความสำเร็จในชีวิตแต่ปราศจากความสุขนะลูก”เธอเอ่ยพร้อมทั้งลูบหัวโต้งอย่างอ่อนโยน โต้งเขยิบเข้ามาใกล้ๆแล้วโอบกอดแม่ของเขาด้วยความรู้สึกรักเหมือนทุกๆครั้งที่ผ่านมา สุนีย์เองก็กอดรับเช่นกัน
“ขอบคุณครับแม่ ที่เข้าใจโต้ง” โต้งเอ่ยขอบคุณเบาๆ
“แต่ไม่รู้พ่อจะเข้าใจโต้งรึป่าว” พูดแล้วโต้งก็มีสีหน้าสลดลง
สุนีย์ผละออกจากอ้อมกอดของลูกชายพร้อมทั้งมองหน้าโต้ง
“เชื่อแม่สิ พ่อเค้าโกรธโต้งไม่ลงหรอก”
“ทำไมล่ะแม่” โต้งทำหน้างง พลางสงสัยในคำพูด
“นั้นแม่ถามโต้งอย่างนะ” เธอเอ่ย
“ถามไรอ่ะแม่”
“ตอนที่พ่อเค้าติดเหล้าไม่ทำการทำงาน โต้งยังรักพ่อเหมือนเดิมมั้ย”
“รักสิแม่” โต้งตอบไปตามความจริง
“นั่นไง ก็เพราะว่าโต้งรักพ่อไง ถึงแม้ว่าพ่อเค้าจะเปลี่ยนไปยังไง ถึงจะเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดี โต้งก็ยังรักพ่อเค้าเหมือนเดิม มันก็เหมือนกันล่ะโต้ง ถึงโต้งจะเป็นยังไง พ่อเค้าก็ยังรักโต้งเหมือนเดิม ความรักความผูกพันน่ะ มันไม่ได้ทำลายกันได้ง่ายๆนะลูก”พูดจบเธอก็ยิ้มให้โต้ง
โต้งเองก็อึ้งไปเล็กน้อยกับคำพูดของผู้เป็นแม่ ก่อนที่จะยิ้มตอบกลับมาเช่นกัน
....สุดท้ายแล้ว ความรักในครอบครัวก็ยังคงเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่อยู่เสมอ....
ที่มหาลัย
“ เฮ้ยโต้ง เดี๋ยวยืมเลคเชอร์ฟิสิกส์หน่อยดิ กูจดไม่ทันว่ะ” เอ็มเพื่อนในคณะที่โต้งพึ่งรู้จักเมื่อ2อาทิตย์ก่อน และก็ยังเป็นเพื่อนในชมรมฟุตบอลเหมือนกันกับโต้งด้วยเอ่ยขึ้น
“แม่งเอาแต่นอนแล้วมันจะจดทันไงว่ะ” โต้งบ่นให้แต่ก็ยังส่งสมุดโน้ตให้เอ็ม
“น่านะๆๆๆไว้วันหลังผมจะไม่หลับแล้วครับพี่โต้ง” เอ็มทำหน้าทะเล้นๆพร้อมทั้งรับสมุดโน้ตจากโต้งมา
“แล้วนี่ไอ้วีมันไปไหนอ่ะ กูหิวข้าวแล้วนะ” โต้งถามพร้อมทั้งมองหาเพื่อนในกลุ่มอีกคน
“โหย ช่างมันเถอะ ไอ้นี่ก็คงไปหาที่โทรศัพท์หาเด็กมันตามเคยแหละ เดี๋ยวมันก็ตามไปเองที่โรงอาหาร” เอ็มบอกพร้อมทั้งกอดคอโต้งเดินออกไปจากห้องเรียน
.......
ที่โรงอาหารคณะวิศวกรรมศาสตร์
“ โต้งคืนนี้มึงไปงาน Freshy Night ป่าวว่ะ” เอ็มถามขณะที่ทั้งสองกำลังทานข้าวอยู่
“งานไรมึงว่ะ” โต้งเอ่ยถาม
“เอ้า ก็งานที่เค้าจัดต้อนรับน้องใหม่ไง งานนี้เป็นงานของมหาลัยนะเว้ยไม่ใช่แค่ในคณะ”
“แล้วไง” โต้งทำหน้าตาซื่อๆถามกลับ
“ก็แล้วไง ถามได้ มึงไม่อยากเจอเด็กคณะอื่นเหรอว่ะ อ่อกูลืมไป มึงมันหล่อเลือกได้”
‘ผัวะ’ เอ็มเอามือรูปหัวตัวเองเมื่อโดนโต้งตบหัวไปที
“มึง 2 ตัวเล่นไรกันว่ะ” วีเดินเข้ามาทักพร้อมทั้งวางจานข้าวลงบนโต๊ะ วีค่อนข้างจะเป็นลูกคุณหนูหน้าตาดี เสียก็แต่เจ้าชู้ไปหน่อย ซึ่งต่างกับเอ็มซึ่งมาจากต่างจังหวัดที่เรียนโดยใช้ทุนของรัฐบาล แต่แม้จะต่างฐานะกันแต่ทั้งสามคนก็ไม่เคยเอาสิ่งเหล่านี้มาใส่ใจเลย มีแค่ความจริงใจก็พอแล้ว...
“ก็กำลังคุยเรื่องงานคืนนี้น่ะ” เอ็มบอกไป
“ออ แล้วพวกมึงไปกันป่าวว่ะ”
“กูยังไม่รู้เลยว่ะ อาจไม่ได้ไปมั้ง” โต้งบอก
“อ้าวไมว่ะ”วีถามทำหน้าแปลกใจ
“ก็ตอนเย็นกูซ้อมบอล แล้วกูก็ยังไม่ได้บอกที่บ้านด้วยว่ากูจะกลับดึก”
“มึงก็โทรไปบอกสิว่ะนี่มันวันศุกร์น่ะเว้ย แล้วซ้อมบอลมันก็เลิกไม่ดึกสักหน่อย”เอ็มบอก เพราะเขาเองก็ต้องอยู่ซ้อมด้วยเช่นกัน
“ไม่รู้ว่ะ กูไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่” โต้งตอบมา เอ็มกับวีหันหน้ามองกันพร้อมทั้งทำหน้างงๆกับท่าทีของเพื่อน
.....................
ที่สนามฟุตบอล
โต้งซึ่งชอบเล่นฟุตบอลอยู่แล้ว ที่นี่จึงเป็นเสมือนที่พักผ่อนของเขาไปในตัว แต่เพราะการเป็นเดือนคณะจึงทำให้มีคนสนใจเป็นพิเศษ ยิ่งเวลาที่เขาเล่นบอลด้วยแล้ว...
เกือบที่จะมืด การซ้อมก็เสร็จสิ้นลง โต้งกับเอ็มนั่งพักอยู่ข้างสนามบรรยากาศยามเย็นแบบนี้ทั้งสวยงามสมและก็...เหงาหงอย
“มิว” โต้งเอ่ยชื่อมิวขึ้นมาเบาๆอย่างไม่ทันรู้ตัว
“ไรว่ะโต้ง” เอ็มหันมาถาม โต้งทำหน้างงกับคำถาม
“ไรมึง”โต้งถามกลับ
“ก็เมื่อกี้มึงพูดไรกลับกูป่าวอ่ะ”
“ป่าวพูดเว้ย”โต้งแย้งกลับ
“ก็กูได้ยินอ่ะ อะไรแมวๆเนี่ยแหละ มึงนี่ถ้าจะเป็นเอามากนะ พักผ่อนบ้างเว้ย”เอ็มบอกพร้อมทำหน้ากวนๆใส่
“นั้นคืนนี้มึงยังไม่ต้องรีบกลับเลย ไปเที่ยวงานกับกูกับไอ้วีมันก่อนละกัน” เอ็มฉวยโอกาสมัดมือชก
“ไม่เอาว่ะ เหนื่อยจะตาย กูอยากกลับไปหลับมากกว่าว่ะ”
“นอนมึงนอนเมื่อไหร่ก็นอนได้แต่งานนี้นะเว้ยไม่ได้มีมาบ่อยๆ สาวๆอ่ะมาตรึมเลยนะเว้ยเชี่ยโต้ง”
“แล้วไงว่ะ” โต้งทำหน้าซื่อถามกลับไปอีก
“เออใช่กูลืมไป ก็มึงมันหล่...” เอ็มยังไม่ทันจะเอ่ยจบประโยคโต้งก็เอามือมาชี้หน้าประมาณว่ามึงอยากโดนอีกเหรอ
“เฮ้ยงานนี้มีคอนเสิร์ตด้วยนะเว้ย”เอ็มหาข้ออ้างอย่างอื่นมาเสริม
“คอนเสิร์ตไรว่ะ” โต้งถาม
“ก็วงใหม่นั่นไง วงออกัสอ่ะ กูแม่งโครตชอบเพลงวงนี้เลย” เอ็มบอกไปตามจริง
โต้งชะงักนิดนึงเมื่อได้ยินคำว่า ออกัส
“วงไรนะเอ็ม” โต้งถามกลับอีกรอบเพื่อนความแน่ใจ
“ก็วงออกัสไง เพลงกันและกันอ่ะ มึงเคยฟังป่าว ดังออกจะตาย”
รอยยิ้มเล็กๆของโต้งปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า นี่เป็นโอกาสดีที่เขาจะได้เจอมิวอีกครั้ง
“ แล้วงานเริ่มกี่โมงว่ะ” โต้งถาม
“ ก็สักทุ่มกว่าๆแหล่ะ ไปมั้ยว่ะโต้ง”
“เอาดิ” โต้งยิ้มร่า โดยมีท่าทีเปลี่ยนไปจนเอ็มเกิดอาการงง
...........................
ที่งาน
“เชี่ยเอ็มเชื่อโต้ง ทางนี้เว้ย” วีตระโกนทักทั้งสองคนเมื่อเห็นเดินเข้ามาในงานในชุดนักศึกษา
“เสียงดังว่ะ”เอ็มบอกวีขณะที่โต้งยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าไม่หาย
“แล้วนี่มึงลากไอ้โต้งมันมาได้ไงว่ะ ไหนมันว่าไม่มาไง” วีถามเอ็มกลับ
“กูก็ไม่รู้ว่ะ แม่งอยู่ๆก็เปลี่ยนใจกะทันหันเล่นเอากูตามไม่ทันเลย”
“เออๆ นี่ใบเตยแฟนกูเว้ย”วีแนะนำผู้หญิงที่อยู่ข้างๆให้รู้จัก
“แล้วนี่ โต้งกับเอ็มเพื่อนเรานะ” โต้งและเอ็มผงกหัวให้คนตรงหน้าเล็กน้อยเมื่อถูกแน่ะนำตัว
“แล้วนี่เพื่อนใบเตยนะ” วีชี้ไปที่อีก2คนด้านหลังใบเตย
“โบว์ กับน้ำตาล” โต้งกับเอ็มผงกหัวให้อีกเช่นกัน ซึ่งกับคนชื่อน้ำตาลโต้งพอจะคุ้นๆหน้าเพราะจำได้ว่าเคยเห็นตอนงานประกวดดาวเดือน ซึ่งน้ำตาลก็เป็นหนึ่งในคนที่ได้เข้าประกวดดาวของคณะ ถึงจะไม่ได้ตำแหน่งแต่ก็จัดว่าเป็นคนที่หน้าตาดีมากคนหนึ่งเลย
ในงานเต็มไปด้วยร้านต่างๆมากมายทั้งของกิน เกมและของน่ารักๆมากมาย โต้งเดินไปเรื่อยๆแต่ไม่ค่อยสนใจอะไรเท่าไหร่เพราะสิ่งที่เขาสนใจมากที่สุดมันยังไม่ถึงเวลา....
“กูว่า น้ำตาลสงสัยจะสนใจแกว่ะ” เอ็มแอบมากระซิบข้างหูโต้ง
“ รู้ได้ไงว่ะ” โต้งถามแบบไม่ค่อยจะสนใจสักเท่าไหร่
“ก็กูเห็นเค้าชอบมองมึงแปลกๆว่ะ เชื่อกูดิไม่ผิดแน่”
“ ไม่มั้ง “ โต้งยังคงไม่สนใจและเดินดูของไปเรื่อยๆ
ไม่นานโต้งก็หยุดมองตุ๊กตากวางเรนเดียตัวเล็กๆสีน้ำตาลอ่อน ซึ่งเป็นได้ทั้งพวงกุญแจหรือไว้สำหรับห้อยบนกระเป๋าก็น่ารักเหมือนกัน
ไม่รู้ทำไมเรื่องราวต่างๆมากมายตั้งแต่เด็กจนโต โต้งมักจะมีสิ่งที่เกี่ยวพันกับอะไรที่เป็นคริสมาสต์เสมอ
“ อยากได้เหรอโต้ง “ เสียงผู้หญิงที่โต้งคุ้นหูเอ่ยถามขึ้น
โต้งเงยหน้าขึ้นมามอง
“อ้าว หญิง “ โต้งทักด้วยท่าทางที่ดีใจ
“ไม่ได้เจอกันตั้งนานหล่อขึ้นเยอะเลยนะ” หญิงทักทาย
“แล้วหญิงอ่ะ เป็นไงบ้างไม่ได้เจอตั้งนาน”
“ก็ดีอ่ะ แล้วนี่มาเที่ยวกับเพื่อนเหรอ” หญิงมองไปด้านหลังโต้ง ซึ่งเอ็มและวีผงกหัวเล็กน้อยให้รู้ว่ามาด้วยกัน มีก็แต่น้ำตาลที่ทำตาเขียวใส่หญิง
“อืม ทีแรกก็กะว่าจะไม่มาแล้วล่ะ” โต้งบอก
“ทำไมล่ะ รู้รึป่าวว่าวันนี้น่ะ ”หญิงยังไม่ทันจะพูดจบ
“อื้มมม ก็นั่นแหละ เราเลยมาไง” โต้งยิ้มออกมาแบบเขินๆ หญิงเองก็ยิ้มตอบกลับมาเช่นกันเมื่อเห็นท่าทางของโต้ง
“อาทิตย์ก่อนเรากับมิวก็ไปเชียร์โต้งด้วยนะ ตอนที่โต้งประกวดเดือนคณะน่ะ”
“มิวไปด้วยเหรอ” โต้งถามด้วยท่าทีสนใจ
“อื้ม” หญิงตอบ พลางมองหน้าโต้งซึ้งตอนนี้ยิ้มแทบจะหงุบไม่ได้แล้ว
ส่วนน้ำตาลแม้จะไม่รู้ว่าโต้งคุยอะไรกับหญิงแต่เมื่อเห็นอาการที่โต้งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก็อดที่จะไม่พอใจไม่ได้
“ใบเตยเดี๋ยวเราเดินไปดูของร้านอื่นต่อนะ เบื่อแล้วล่ะร้านนี้” พูดแล้วน้ำตาลก็เดินออกไป
“รอด้วยสิน้ำตาล ไปร้านอื่นต่อเถอะวี”ใบเตยเรียกน้ำตาลพลางจูงมีวีออกไป
“กูไปก่อนนะเว้ยเดี๋ยวมึงตามไปล่ะ” เอ็มบอกโต้งเมื่อเห็นว่าเพื่อนคนอื่นๆเดินออกไปกันแล้ว
“แล้วนี่หญิงออกร้านกับเพื่อนๆเหรอ”โต้งเอ่ยถาม หญิงซึ่งอยู่ในชุดนักศึกษา
“ใช่แล้ว หญิงมาช่วยงานออกร้านพี่ๆเค้าอ่ะ เอ้อ มะกี้โต้งอยากได้ตุ๊กตาตัวนี้เหรอ” หญิงถาม
“อืม น่ารักดีอ่ะ” โต้งมองตุ๊กตาแล้วยิ้มบางๆ หญิงมองโต้งก็พอจะเดาออกว่าตอนนี้โต้งคิดถึงใคร
“อ่ะหญิงให้”หญิงหยิบตุ๊กตาขึ้นมาให้โต้ง
“ไม่ได้หรอกหญิงของซื้อของขาย”โต้งบอกพลางเอามือล่วงกระเป๋า
“ไม่เป็นไรหรอก อีกอย่างหญิงก็ไม่ได้เอาให้โต้งด้วย” หญิงรีบเอาตุ๊กตาใส่มือให้โต้งในขณะที่โต้งทำหน้างงกับคำพูดของหญิง
“หญิงเอาให้มิว” หญิงตอบยิ้มๆแบบมีเลศนัย
เสียงผู้คนดังขึ้นทางด้านหน้าเวทีคอนเสิร์ต โต้งและหญิงหันไปมอง
“สงสัยคอนเสิร์ตจะเริ่มแล้ว โต้งรีบไปดีกว่าเดี่ยวหาที่ดีๆไม่ได้นะ”หญิงบอกโต้ง
โต้งหันกลับมายิ้มให้หญิง
“ขอบคุณมากนะหญิง แล้วไว้เจอกันอีกนะ”โต้งบอกลาพร้อมทั้งหันหลังออกจากร้าน
“อย่าลืมเอาให้มิวล่ะโต้ง”หญิงตระโกนไล่หลังโต้งไป
โต้งไม่ได้ตอบอ่ะไรแต่ชูตุ๊กตากวางเรนเดียตัวน้อยขึ้นมา เป็นการบอกว่า ‘ แน่นอน ‘
หญิงยืนยิ้มอยู่ที่ร้าน ตอนนี้เขากับมิวกลายเป็นเพื่อนสนิทกันเหมือนเดิม การยอมรับและปรับตัวในช่วงเวลาที่ผ่านมามันทำให้ความรู้สึกของหญิงที่มีต่อมิวเปลี่ยนไปจากคนรักมาเป็นเพื่อน ถึงแม้บางอย่างจะเปลี่ยนไปแต่ความห่วงใยและความผูกพันยังคงมีให้กันเหมือนเดิม
“นี่หญิง เจอหนุ่มหล่อเข้าหน่อยให้ของเค้าฟรีเลยนะ” เพื่อนๆที่อยู่ในร้านแอบแซว
“ไม่ใช่อย่างที่คิดนะ นั่นอ่ะเพื่อนหญิง”
............................
ที่หน้าเวทีคอนเสิร์ต โต้งยืนท่ามกลางผู้คนมากมายที่มารอฟังคอนเสิร์ตของวงออกัส
มิวอยู่บนเวทีในชุดเสื้อเชิตสีขาวมีสูตสีดำทับอีกที
เมื่อดนตรีเริ่มขึ้น โต้งโห่ร้องตามผู้คนที่อยู่ใกล้เคียง โดยเพลง Ticket ได้ถูกบรรเลงมาเป็นเพลงแรกเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของผู้ชมให้ครึกครื้นตามจังหวะเพลง
เวลาผ่านไปเกือบๆ 1 ชั่วโมง ท่ามกลางความอิ่มเอมใจของผู้ที่มารอชมคอนเสิร์ต
“แล้วนี่ก็เป็นเพลงสุดท้ายของพวกเรานะครับ” มิวบอกพลางกวาดตามองไปยังคนดูข้างล่างเวที แต่สายตาเขาก็ไปหยุดอยู่ที่มุมๆหนึ่ง มิวชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นโต้งยืนยิ้มให้
ในขณะที่มิวมองมายังโต้ง โต้งเองก็มองตอบกลับมาเช่นกันพร้อมทั้งโบกมือทักทายแล้วก็ยกนิ้วโป้งขึ้นให้มิว
มิวเองก็ยิ้มตอบกลับไปเช่นกัน เอ็กซ์เองเมื่อมองตามสายตามิวไปก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับมิว
“ เต็มที่เลยนะมิวเพลงนี้ “เอ็กซ์เดินเข้ามาตบไหล่มิวพร้อมทั้งกระซิบข้างหู
“นั้นเราก็มาฟังกันเลยนะครับ กับเพลง กันและกัน” มิวพูดจบเสียงดนตรีก็เริ่มดังขึ้นพร้อมกับเสียงของคนดู
ระหว่างร้องเพลงสายตาของมิวไปหยุดอยู่ที่โต้ง ซึ่งไม่ต่างกันกับโต้งเลย โต้งเองก็ยิ้มพร้อมกับเขินไปในตัวเพราะรู้ว่าเพลงนี้เป็นเพลงของเขา
....สายตาต่างประสบพบกันต่างฝ่ายต่างเข้าใจในอารมณ์....
เมื่อเพลงจบลงมิวหันไปขอบคุณผู้ชมโดยรอบ แต่เมื่อเขาหันกลับมายังโต้ง แต่สิ่งที่พบกลับเป็นความว่างเปล่า เอ็กซ์สะกิดให้มิวเดินลงเวทีไปในขณะที่เพื่อนร่วมวงคนอื่นๆกำลังทยอยเดินออกเวทีไปจนจะหมดแล้ว
มิวทำหน้าสลดลงเล็กน้อยก่อนจะเดินตามเอ็กซ์ออกไป
...........................
“นั้นพวกผมกลับก่อนนะพี่มิว” ปิงปองบอกลาแล้วขึ้นรถตู้ไป
“วันนี้กูคงกลับแล้วว่ะ เหนื่อยคงไม่อยู่งานต่อว่ะ” เอ็กซ์บอกมิว
“อืม ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวกูเดินเล่นไม่นานก็กลับเหมือนกัน”
“เออ ยังไงก็กลับบ้านดีๆละกัน” เอ็กซ์ บอกพลางตบไหล่มิวก่อนจะเปิดประตูรถตู้ของทางบริษัทค่ายเพลง
“เออมิว”เอ็กซ์ เรียกมิวขณะที่ขึ้นไปนั่งในรถตู้แล้ว
“ไรเอ็กซ์”
“ฝากหวัดดีโต้งด้วยนะ” เอ็กซ์ยิ้มแบบมีเลศนัยให้มิวก่อนที่จะรีบปิดประตูรถ
มิวได้แต่ยิ้มเก้อๆเพราะไม่รู้จะทำไง อันที่จริงเขาเองก็เหนื่อยมากเหมือนกันวันนี้แต่....เขาก็ยังอยากอยู่ต่อ เผื่อว่าบางที......
มิวเดินเข้าไปในงานพร้อมทั้งมองหาบางสิ่ง...ในขณะที่มีผู้คนมากมายแวะเวียนเข้ามาพูดคุยบ้าง ถ่ายรูปบ้าง ให้ของบ้าง จนการหาบางสิ่งของเขาดูจะสะดุดไปเป็นช่วงๆ
สุดท้ายมิวก็ไม่เจอ เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายของที่หญิงอยู่
“หวัดดีหญิง” มิวทักหญิงด้วยท่าทางอ่อนเพลีย
“เป็นไงมิว ดูเหนื่อยๆนะ” หญิงทักตอบกลับมา
“เดี่ยวเราว่าจะกลับบ้านแล้วล่ะ วันนี้เหนื่อยทั้งวันเลย หญิงจะกลับพร้อมเรามั้ย” มิวถาม
หญิงมองดูนาฬิกาก็เห็นว่าเริ่มดึกแล้ว
“นั้น..”ขณะที่หญิงจะพูดต่อเธอเหลือบไปมองด้านหลังมิว
“หญิงต้องอยู่ช่วยงานเพื่อนๆก่อนอ่ะ มิวกลับไปก่อนละกันหญิงกลับเองได้”
“เอางั้นเหรอ” มิวตอบแบบเหงาๆ
“อื้ม” หญิงยิ้มกลับมาแบบมีเลศนัย...
.........................
มิวเดินออกมาจากบริเวณงานเพื่อที่จะออกไปยังหน้ามหาวิทยาลัย
“มิว”
มิวหยุดชะงักกับเสียงที่ได้ยิน พร้อมทั้งหันหลังกลับไป
โต้งในชุดนักศึกษากำลังยืนยิ้มให้เขาอยู่ พร้อมทั้งเริ่มเดินเข้ามาหา
มิวเองก็เช่นกัน เดินกลับไปหาโต้งพร้อมทั้งรอยยิ้ม
สุดท้ายแล้วเขาก็เจอจนได้ ...สิ่งที่เขาตามหา...
“ไงโต้ง” มิวเอ่ยทัก
“เพลงเพราะดีนะ”
“เพลงไหนอ่ะ มีตั้งหลายเพลง” มิวยิ้มถามแบบกวนๆ
“ก็...ทุกเพลงน่ะแหล่ะ”โต้งตอบ
“เหรอ” มิวเสียงอ่อยลงเล็กน้อย โต้งแอบมองแล้วก็อมยิ้มน้อยๆ
“แล้วนี่มิวจะกลับบ้านเหรอ”
“อื้ม”น้ำเสียงมิวยังดูไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่ แต่โต้งก็ยังคงอมยิ้มกับอาการของมิวอยู่
“นั้นเราไปส่งมิวที่บ้านนะ”
“จะดีเหรอโต้ง มันดึกแล้วนะ” มิวบอกทั้งๆที่ในใจแอบดีใจอยู่ แต่ก็เกรงใจโต้งอยู่เหมือนกัน
“ไม่เป็นไรหรอกเราโทรไปบอกที่บ้านแล้วล่ะว่าวันนี้จะกลับดึก อีกอย่างเจอกันวันนั้นยังไม่ค่อยได้คุยกันเลย” โต้งหาข้ออ้าง แต่นั่นก็เป็นความจริง
“อืม เอางั้นก็ได้ แต่อย่ามาบ่นทีหลังนะ” มิวเริ่มมีรอยยิ้มมาบ้างแล้ว
แล้วทั้งสองคนก็เดินไปด้วยกัน
“ไม่ชอบเพลงไหนเป็นพิเศษเลยเหรอ”
“ไม่นี่ มีไรเหรอมิว”
“ป่าว”
“เอ แต่ก็มีอยู่เพลงนึงนะ”
“เพลงไรอ่ะโต้ง”
“ก็เพลงของเราไง”
“แล้วมันชื่อเพลงไรล่ะ”
“นั่นดิ เพลงไรน้า”
..
.
บนเส้นทางนี้มีเพียงเขาสองคน แม้จะมืดบ้างสว่างบ้าง แต่มันก็มีทางให้เขาทั้งสองเดินเคียงกันไป....เพียงแค่นี้ ก็อุ่นใจแล้วไม่ใช่เหรอ?
ร้านบะหมี่
“พี่คับ เอาบะหมี่เกี๊ยว 2” โต้งบอกคนขาย
“แล้วมะกี้โต้งหายไปไหนอ่ะตอนคอนเสิร์ตจบ” มิวเอ่ยถาม
“อ่อ ก็ทีแรกเรากะว่าจะไปหามิวที่ด้านหลังเวทีน่ะแต่สุดท้ายคนเยอะเกินเราเลยเข้าไปไม่ได้” โต้งบอกตามความจริง
“เห็นมิวเดินหาอะไรในงานด้วย แต่คนเยอะเลยไม่กล้าเข้าไปหา” โต้งบอกมิว
“ออ”
“ดังเลยนะมิว”โต้งแซวพร้อมทั้งยิ้มทะเล้นๆมาให้
“ไม่อย่างนั้นหรอก โต้งก็ว่าไป” มิวเองก็เขินๆเวลาที่คนพูดถึงตัวเองแบบนี้
“เอ้า ก็จริงนี่ เอ้อว่าแต่ว่าในงานอ่ะ มิวมองหาอะไรอยู่เหรอ” เสียงโต้งถามเล่นๆแต่สายตากลับมองมิวอย่างต้องการเอาคำตอบ
มิวสบสายตานั้น ก็พอจะรู้ว่าโต้งรู้อยู่แล้วว่าเขาหาอะไร จึงหลบสายตาโต้งแล้วก็ดูดน้ำในแก้วไปพลางๆ
“มิวยังไม่ตอบเราเลยนะ”
“ตอบไรอ่ะโต้ง”
“ก็ที่เราถามเมื่อกี้ไง”
“ถามไรอ่ะ” มิวยังแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง พร้อมทั้งก้มหน้าก้มตาดูดน้ำต่อไป จนเกือบหมดแก้วแล้วตอนนี้
“บะหมี่ เกี๊ยว 2ที่คับ” คนขายยกบะหมี่มาให้แล้วจึงเดินกลับออกไป
“ยังไม่ตอบเลยมิว”โต้งยังคงคะยั้นคะยอเอาคำตอบจากมิวอยู่
“ไม่เอาแล้ว กินบะหมี่ดีกว่าหิวแล้ว”
โต้งยิ้มกับอาการเขินของมิว ก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มกินบะหมี่”ด้วยกัน”
......
...
..
.
ซอยเข้าบ้านมิว
“แล้วช่วงเที่ยงนี่ปกติ มิวกินข้าวที่ไหนเหรอ”โต้งถามขณะที่ทั้งสองคนกำลังเดินเข้าไปในซอย
“ก็แล้วแต่นะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นโรงอาหารในคณะซะมากกว่า คนไม่ค่อยเยอะดี แต่บางครั้งก็ไปโรงอาหารกลางบ้างนะ ถ้าต้องไปเรียนแถวๆนั้น”
“ไว้วันหลังเราไปกินข้าวด้วยได้มะ” โต้งเอ่ยออกมาเปรยๆแต่คาดหวังในคำตอบ
“ก็แล้วแต่โต้งดิ เรายังไงก็ได้” มิวไม่รู้จะตอบยังไง วันนี้โต้งชอบถามหรือทำอะไรจนทำให้มิวไม่กล้าที่จะสบตาด้วยเลย
“ดีเลย งั้นเราจะโทรไปชวนบ่อยๆนะ” เห็นอาการมิวแล้วโต้งก็อดที่จะแกล้งไม่ได้
“เอางั้นเลยเหรอ” มิวหันมามองโต้งพลางยิ้มตลกๆ
“ก็เอางั้นสิ” โต้งตอบกลับมาแบบทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“เออ แล้ว พรุ่งนี้มิวว่างมั้ยอ่ะ”
“พรุ่งนี้เหรอ อืม พรุ่งนี้มีงานบ่ายๆอ่ะ กว่าจะเลิกคงมืดๆแล้ว” โต้งมีอะไรเหรอ
“ป่าวหรอก เผื่อถ้ามิวว่างกะว่าจะชวนไปดูหนังหน่อยอ่ะ”โต้งดูมีทีท่าผิดหวัง แต่เขาก็เข้าใจเรื่องที่มิวติดงาน
.............
....
..
.
หน้าบ้านมิว
มิวก้าวเข้ามาในบ้านแล้วขณะที่โต้งยืนยิ้มส่งให้อยู่หน้าบ้าน
“ขอบคุณนะโต้ง” มิวเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งยิ้มให้
“ไม่เป็นไร”โต้งบอกกลับไป
“นั้นกลับบ้านดีๆนะโต้ง ไว้เจอกันใหม่”
“เดี๋ยวมิว....” โต้งเอามือล่วงลงไปในกระเป๋ากางเกง มิวเองก็ทำหน้าฉงนและคอยดูว่าโต้งจะทำอะไร
“อ่ะ..นี่ให้” โต้งหยิบพวงกุญแจตุ๊กตากวางเรนเดียออกมาพร้อมทั้งส่งให้มิว
มิวรับมันมาพร้อมทั้งยิ้มกว้างมาให้โต้ง
“อะไรอ่ะ”มิวเอ่ยขึ้น
“ก็เอ่อ...ของขวัญที่มิวเอ็นติดไง”
“ขอบคุณนะ”มิวบอกจากใจจริง
“ไม่เป็นไร” โต้งเอามือเกาหัวตัวเองอย่างเขินๆ
“นั้น เราไปก่อนนะมิว”
“อื้ม กลับบ้านดีๆนะโต้ง”มิวโบกมือให้โต้ง ขณะที่โต้งก็โบกกลับมาเช่นกันก่อนที่จะหันหลังแล้วเดินจากไป..
มิวมองโต้งจนลับหายไปจากสายตาก่อนที่จะปิดประตูบ้าน
มิวขึ้นไปบนห้องล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยอาการอ่อนเพลียแต่กลับอิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก
.........
บนรถเมล์
โต้งนั่งยิ้มตลอดทางที่กลับบ้าน นั่นยิ่งทำให้ดูมีเสน่ห์มากขึ้นอีกในสายตาของคนที่ผ่านไปผ่านมา
“ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ” เสียงโทรศัพท์โต้งดังขึ้น
โต้งหยิบออกมาจากกระเป๋าก่อนที่จะกดเปิดเมจเสสอ่าน พร้อมทั้งรอยยิ้ม
มันเป็นข้อความจากมิว
‘ วันเสาร์เราไม่ว่าง แต่ถ้าเป็นวันอาทิตย์ละก็มีเวลาทั้งวันเลย*-* ’
มันเป็นคืนวันศุกร์ที่ทำให้หัวใจของเขาทั้งสอง “มีความสุข” ไม่ต้องมีอะไรที่เป็นพิเศษแค่มี”กันและกัน”ก็เพียงพอแล้ว.....
เพลงรักเพลงแรกที่เริ่มเขียน ผมเขียนให้กับใครบางคน คนที่ดึงผมขึ้นมาจากความเหงาพร้อมทั้งเลือกคำตอบที่ผมเคยตั้งไว้ให้กับตัวเอง
‘มันจะเป็นไปได้เหรอ ที่เราจะอยู่ได้โดยไม่รักใครเลย’
แต่แล้ววันหนึ่ง มันเป็นคืนวันคริสมาสต์เมื่อ5เดือนก่อน เขาอีกเช่นกันที่มอบคำตอบให้กับคำถามที่ผมเฝ้าถามตัวเองมาโดยตลอด
‘ ถ้าเรารักใครสักคนมากๆ เราจะทนได้เหรอ ถ้าวันนึงเราต้องเสียเข้าไป ‘
ผมอยู่กับความรู้สึกนี้มาโดยตลอด5เดือนที่ผ่านมา แม้รอบกายจะมีเพื่อนฝูง มีดนตรีและมีคนที่คอยหวังดีกับเราเสมอ แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงเวลาที่ต้องอยู่คนเดียวมัน..เหงาเพียงใด
แต่แล้วเมื่อ 3 อาทิตย์ก่อน”เรา” ก็ได้มีโอกาสมาเจอกันอีกครั้ง ความรู้สึกเก่าๆได้เวียนกลับมาเหมือนเดิม แล้วยิ่งผมได้มารับรู้ว่าเขาเองก็ยังคงรู้สึกไม่ต่างไปจากผมเลย
เรายังคงเหมือนเดิม...
ผมจะทำยังไงดี ใจหนึ่งก็ดีใจและแอบหวังจะให้เรากลับมาเหมือนเดิม แต่อีกใจหนึ่งก็ต้องคอยห้ามตัวเอง เพราะอยากเห็นอนาคตที่สดใสของเขาและความรักที่แท้จริงที่หลายๆคนคาดหวัง และแน่นอนว่านั่นไม่ใช่ความรักของผม..
จากวันนั้นที่เราเจอกันที่ตู้โทรศัพท์โดยบังเอิญในวันที่ฝนตก เราก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย ไม่สิ? ผมเคยเจอเขาอีกครั้ง เพียงแต่วันนั้นเขาคงไม่เห็นผม มันเป็นงานประกวดดาวเดือนของคณะวิศวกรรมศาตร์ ผมเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปเท่าไหร่แต่หญิง เพื่อนสนิทของผมคนหนึ่ง เธอมาชวนแกมบังคับให้ผมไปด้วย สุดท้ายผมก็ต้องยอม
แล้วสิ่งที่ผมไม่คาดว่าจะเจอในกลุ่มคนที่ได้รับเลือกเข้าประกวดในงานนี้ก็คือเขา..
ถึงกระนั้นผมก็คอยลุ้นให้เขาได้ตำแหน่งเดือนคณะ แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
แต่เขาจะรู้มั้ยนะ ว่าวันนั้นผมแอบคอยเป็นกำลังใจให้เขาอยู่ห่างๆ........
“โต้ง ทำไรอยู่เหรอลูก” สุนีย์เดินเข้ามานั่งข้างๆโต้งซึ่งกำลังนั่งทำการบ้านวิชาแคลคูลัส1อยู่
“การบ้านน่ะแม่”โต้งตอบ
“ แล้วนี่พ่อจะกลับมากี่โมงเหรอ” โต้งถามพลางหันไปมองดูนาฬิกาซึ่งบอกเวลาว่าขณะนี้กำลังจะ4ทุ่มแล้ว
“เมื่อกี้พ่อเค้าโทรมาว่า ออกจากงานเลี้ยงแล้วกำลังขับรถกลับมาอยู่น่ะ โต้งมีอะไรเหรอ”
“ป่าวน่ะแม่ ถามเฉยๆ”
“ แล้วเราล่ะเป็นไง ช่วงนี้เรียนหนักมั้ย” สุนีย์ถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“ ก็เรื่อยๆอ่ะแม่ แต่มีกิจกรรมเยอะเลย นี่โต้งก็เข้าชมรมฟุตบอลด้วย เลยไม่ค่อยว่าง” โต้งบอกไปตามความจริง
“ ก็ดีแล้วเรียนอย่างเดียวเดี๋ยวเครียดเอา เล่นกีฬาด้วยก็จะช่วยได้เยอะ แต่โต้งเองก็ต้องหาเวลาพักผ่อนด้วยนะลูก”
“ ครับแม่ “ โต้งยิ้ม สุนีย์เองก็ยิ้มตอบกลับมาเช่นกัน พลางเอามือมาลูบหัวโต้งเบาๆ
ไม่นานโต้งก็วางปากกาลง
“เสร็จสักที” โต้งเอ่ยขึ้นมาอย่างโล่งใจ สุนีย์ซึ่งนั่งดูโทรทัศน์อยู่ข้างๆก็หันมายิ้ม
โต้งหันไปมองดูโทรทัศน์ที่กำลังเปิดอยู่ ซึ่งช่วงก่อนเขาเองก็ไม่ค่อยจะมีเวลาได้สนใจสื่อต่างๆสักเท่าไหร่ เพราะแค่เรื่องที่ต้องทำในแต่ละวันมันก็มากพอที่จะทำให้เขาหลับเป็นตายได้อยู่แล้ว
“ มิว “ โต้งอุทานขึ้นมาเบาๆเมื่อเห็นโฆษณาโปรโมทอัลบั้ม The August อัลบั้มเพลงอัลบั้มแรกของวง ออกัส
สุนีย์ซึ่งนั่งข้างๆได้หันมาสนใจกับท่าทีของโต้ง เธอเห็นรอยยิ้มเล็กๆบนใบหน้าของลูกชาย แม้โต้งจะไม่เอ่ยอะไรเลยแต่เธอก็เข้าใจดีว่าโต้งดูมีความสุขมากแค่ไหนที่ได้เห็นมิว
“ว่าก็ว่านะโต้ง แม่ไม่ได้เจอมิวมาก็นานแล้วนะ ไม่รู้เป็นไงบ้าง” เธอเอ่ยขึ้นมาทันทีที่โฆษณานั้นจบลงไป
“ โต้งก็ไม่ได้เจอมิวเหมือนกัน” โต้งบอกพร้อมทั้งยิ้มแบบเจื่อนๆ
สุนีย์มองดูลูกชาย อย่างเป็นห่วง
“ อ้าว ทำไมล่ะโต้ง” เธอถามทั้งๆที่พอจะคาดเดาคำตอบได้แล้ว
“ ก็ไม่มีอะไรหรอกแม่” โต้งตอบเสียงแผ่ว
สุนีย์ยิ้มพร้อมทั้งส่ายหัวเล็กๆ
“ โต้งฟังแม่นะ”เธอเริ่มเอ่ย โต้งเองก็เงยหน้าขึ้นมองพร้อมทั้งให้ความสนใจกับสิ่งที่สุนีย์กำลังจะพูด
“ พ่อแม่ทุกคนน่ะ หวังที่จะให้ลูกตัวเองมีอนาคตที่สดใส เดินไปในทางที่ถูกต้อง แต่นั่นก็เพราะหวังจะให้ลูกมีความสุข แต่ถึงแม้ว่าทางที่ลูกเลือกเดินจะเป็นทางที่ต่างจากคนอื่นสักหน่อย แต่ถ้านั่นมันทำให้ลูกมีความสุขแน่นอนว่าพ่อแม่ทุกคนก็คงจะรู้สึกแย่ไปบ้างแต่แล้วพวกเขาก็จะมีความสุขในภายหลัง นั่นก็เพราะสิ่งที่พวกเขาหวังคือความสุขของลูก ไม่ใช่ความสำเร็จ แม่ไม่อยากเห็นโต้งประสบความสำเร็จในชีวิตแต่ปราศจากความสุขนะลูก”เธอเอ่ยพร้อมทั้งลูบหัวโต้งอย่างอ่อนโยน โต้งเขยิบเข้ามาใกล้ๆแล้วโอบกอดแม่ของเขาด้วยความรู้สึกรักเหมือนทุกๆครั้งที่ผ่านมา สุนีย์เองก็กอดรับเช่นกัน
“ขอบคุณครับแม่ ที่เข้าใจโต้ง” โต้งเอ่ยขอบคุณเบาๆ
“แต่ไม่รู้พ่อจะเข้าใจโต้งรึป่าว” พูดแล้วโต้งก็มีสีหน้าสลดลง
สุนีย์ผละออกจากอ้อมกอดของลูกชายพร้อมทั้งมองหน้าโต้ง
“เชื่อแม่สิ พ่อเค้าโกรธโต้งไม่ลงหรอก”
“ทำไมล่ะแม่” โต้งทำหน้างง พลางสงสัยในคำพูด
“นั้นแม่ถามโต้งอย่างนะ” เธอเอ่ย
“ถามไรอ่ะแม่”
“ตอนที่พ่อเค้าติดเหล้าไม่ทำการทำงาน โต้งยังรักพ่อเหมือนเดิมมั้ย”
“รักสิแม่” โต้งตอบไปตามความจริง
“นั่นไง ก็เพราะว่าโต้งรักพ่อไง ถึงแม้ว่าพ่อเค้าจะเปลี่ยนไปยังไง ถึงจะเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดี โต้งก็ยังรักพ่อเค้าเหมือนเดิม มันก็เหมือนกันล่ะโต้ง ถึงโต้งจะเป็นยังไง พ่อเค้าก็ยังรักโต้งเหมือนเดิม ความรักความผูกพันน่ะ มันไม่ได้ทำลายกันได้ง่ายๆนะลูก”พูดจบเธอก็ยิ้มให้โต้ง
โต้งเองก็อึ้งไปเล็กน้อยกับคำพูดของผู้เป็นแม่ ก่อนที่จะยิ้มตอบกลับมาเช่นกัน
....สุดท้ายแล้ว ความรักในครอบครัวก็ยังคงเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่อยู่เสมอ....
ที่มหาลัย
“ เฮ้ยโต้ง เดี๋ยวยืมเลคเชอร์ฟิสิกส์หน่อยดิ กูจดไม่ทันว่ะ” เอ็มเพื่อนในคณะที่โต้งพึ่งรู้จักเมื่อ2อาทิตย์ก่อน และก็ยังเป็นเพื่อนในชมรมฟุตบอลเหมือนกันกับโต้งด้วยเอ่ยขึ้น
“แม่งเอาแต่นอนแล้วมันจะจดทันไงว่ะ” โต้งบ่นให้แต่ก็ยังส่งสมุดโน้ตให้เอ็ม
“น่านะๆๆๆไว้วันหลังผมจะไม่หลับแล้วครับพี่โต้ง” เอ็มทำหน้าทะเล้นๆพร้อมทั้งรับสมุดโน้ตจากโต้งมา
“แล้วนี่ไอ้วีมันไปไหนอ่ะ กูหิวข้าวแล้วนะ” โต้งถามพร้อมทั้งมองหาเพื่อนในกลุ่มอีกคน
“โหย ช่างมันเถอะ ไอ้นี่ก็คงไปหาที่โทรศัพท์หาเด็กมันตามเคยแหละ เดี๋ยวมันก็ตามไปเองที่โรงอาหาร” เอ็มบอกพร้อมทั้งกอดคอโต้งเดินออกไปจากห้องเรียน
.......
ที่โรงอาหารคณะวิศวกรรมศาสตร์
“ โต้งคืนนี้มึงไปงาน Freshy Night ป่าวว่ะ” เอ็มถามขณะที่ทั้งสองกำลังทานข้าวอยู่
“งานไรมึงว่ะ” โต้งเอ่ยถาม
“เอ้า ก็งานที่เค้าจัดต้อนรับน้องใหม่ไง งานนี้เป็นงานของมหาลัยนะเว้ยไม่ใช่แค่ในคณะ”
“แล้วไง” โต้งทำหน้าตาซื่อๆถามกลับ
“ก็แล้วไง ถามได้ มึงไม่อยากเจอเด็กคณะอื่นเหรอว่ะ อ่อกูลืมไป มึงมันหล่อเลือกได้”
‘ผัวะ’ เอ็มเอามือรูปหัวตัวเองเมื่อโดนโต้งตบหัวไปที
“มึง 2 ตัวเล่นไรกันว่ะ” วีเดินเข้ามาทักพร้อมทั้งวางจานข้าวลงบนโต๊ะ วีค่อนข้างจะเป็นลูกคุณหนูหน้าตาดี เสียก็แต่เจ้าชู้ไปหน่อย ซึ่งต่างกับเอ็มซึ่งมาจากต่างจังหวัดที่เรียนโดยใช้ทุนของรัฐบาล แต่แม้จะต่างฐานะกันแต่ทั้งสามคนก็ไม่เคยเอาสิ่งเหล่านี้มาใส่ใจเลย มีแค่ความจริงใจก็พอแล้ว...
“ก็กำลังคุยเรื่องงานคืนนี้น่ะ” เอ็มบอกไป
“ออ แล้วพวกมึงไปกันป่าวว่ะ”
“กูยังไม่รู้เลยว่ะ อาจไม่ได้ไปมั้ง” โต้งบอก
“อ้าวไมว่ะ”วีถามทำหน้าแปลกใจ
“ก็ตอนเย็นกูซ้อมบอล แล้วกูก็ยังไม่ได้บอกที่บ้านด้วยว่ากูจะกลับดึก”
“มึงก็โทรไปบอกสิว่ะนี่มันวันศุกร์น่ะเว้ย แล้วซ้อมบอลมันก็เลิกไม่ดึกสักหน่อย”เอ็มบอก เพราะเขาเองก็ต้องอยู่ซ้อมด้วยเช่นกัน
“ไม่รู้ว่ะ กูไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่” โต้งตอบมา เอ็มกับวีหันหน้ามองกันพร้อมทั้งทำหน้างงๆกับท่าทีของเพื่อน
.....................
ที่สนามฟุตบอล
โต้งซึ่งชอบเล่นฟุตบอลอยู่แล้ว ที่นี่จึงเป็นเสมือนที่พักผ่อนของเขาไปในตัว แต่เพราะการเป็นเดือนคณะจึงทำให้มีคนสนใจเป็นพิเศษ ยิ่งเวลาที่เขาเล่นบอลด้วยแล้ว...
เกือบที่จะมืด การซ้อมก็เสร็จสิ้นลง โต้งกับเอ็มนั่งพักอยู่ข้างสนามบรรยากาศยามเย็นแบบนี้ทั้งสวยงามสมและก็...เหงาหงอย
“มิว” โต้งเอ่ยชื่อมิวขึ้นมาเบาๆอย่างไม่ทันรู้ตัว
“ไรว่ะโต้ง” เอ็มหันมาถาม โต้งทำหน้างงกับคำถาม
“ไรมึง”โต้งถามกลับ
“ก็เมื่อกี้มึงพูดไรกลับกูป่าวอ่ะ”
“ป่าวพูดเว้ย”โต้งแย้งกลับ
“ก็กูได้ยินอ่ะ อะไรแมวๆเนี่ยแหละ มึงนี่ถ้าจะเป็นเอามากนะ พักผ่อนบ้างเว้ย”เอ็มบอกพร้อมทำหน้ากวนๆใส่
“นั้นคืนนี้มึงยังไม่ต้องรีบกลับเลย ไปเที่ยวงานกับกูกับไอ้วีมันก่อนละกัน” เอ็มฉวยโอกาสมัดมือชก
“ไม่เอาว่ะ เหนื่อยจะตาย กูอยากกลับไปหลับมากกว่าว่ะ”
“นอนมึงนอนเมื่อไหร่ก็นอนได้แต่งานนี้นะเว้ยไม่ได้มีมาบ่อยๆ สาวๆอ่ะมาตรึมเลยนะเว้ยเชี่ยโต้ง”
“แล้วไงว่ะ” โต้งทำหน้าซื่อถามกลับไปอีก
“เออใช่กูลืมไป ก็มึงมันหล่...” เอ็มยังไม่ทันจะเอ่ยจบประโยคโต้งก็เอามือมาชี้หน้าประมาณว่ามึงอยากโดนอีกเหรอ
“เฮ้ยงานนี้มีคอนเสิร์ตด้วยนะเว้ย”เอ็มหาข้ออ้างอย่างอื่นมาเสริม
“คอนเสิร์ตไรว่ะ” โต้งถาม
“ก็วงใหม่นั่นไง วงออกัสอ่ะ กูแม่งโครตชอบเพลงวงนี้เลย” เอ็มบอกไปตามจริง
โต้งชะงักนิดนึงเมื่อได้ยินคำว่า ออกัส
“วงไรนะเอ็ม” โต้งถามกลับอีกรอบเพื่อนความแน่ใจ
“ก็วงออกัสไง เพลงกันและกันอ่ะ มึงเคยฟังป่าว ดังออกจะตาย”
รอยยิ้มเล็กๆของโต้งปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า นี่เป็นโอกาสดีที่เขาจะได้เจอมิวอีกครั้ง
“ แล้วงานเริ่มกี่โมงว่ะ” โต้งถาม
“ ก็สักทุ่มกว่าๆแหล่ะ ไปมั้ยว่ะโต้ง”
“เอาดิ” โต้งยิ้มร่า โดยมีท่าทีเปลี่ยนไปจนเอ็มเกิดอาการงง
...........................
ที่งาน
“เชี่ยเอ็มเชื่อโต้ง ทางนี้เว้ย” วีตระโกนทักทั้งสองคนเมื่อเห็นเดินเข้ามาในงานในชุดนักศึกษา
“เสียงดังว่ะ”เอ็มบอกวีขณะที่โต้งยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าไม่หาย
“แล้วนี่มึงลากไอ้โต้งมันมาได้ไงว่ะ ไหนมันว่าไม่มาไง” วีถามเอ็มกลับ
“กูก็ไม่รู้ว่ะ แม่งอยู่ๆก็เปลี่ยนใจกะทันหันเล่นเอากูตามไม่ทันเลย”
“เออๆ นี่ใบเตยแฟนกูเว้ย”วีแนะนำผู้หญิงที่อยู่ข้างๆให้รู้จัก
“แล้วนี่ โต้งกับเอ็มเพื่อนเรานะ” โต้งและเอ็มผงกหัวให้คนตรงหน้าเล็กน้อยเมื่อถูกแน่ะนำตัว
“แล้วนี่เพื่อนใบเตยนะ” วีชี้ไปที่อีก2คนด้านหลังใบเตย
“โบว์ กับน้ำตาล” โต้งกับเอ็มผงกหัวให้อีกเช่นกัน ซึ่งกับคนชื่อน้ำตาลโต้งพอจะคุ้นๆหน้าเพราะจำได้ว่าเคยเห็นตอนงานประกวดดาวเดือน ซึ่งน้ำตาลก็เป็นหนึ่งในคนที่ได้เข้าประกวดดาวของคณะ ถึงจะไม่ได้ตำแหน่งแต่ก็จัดว่าเป็นคนที่หน้าตาดีมากคนหนึ่งเลย
ในงานเต็มไปด้วยร้านต่างๆมากมายทั้งของกิน เกมและของน่ารักๆมากมาย โต้งเดินไปเรื่อยๆแต่ไม่ค่อยสนใจอะไรเท่าไหร่เพราะสิ่งที่เขาสนใจมากที่สุดมันยังไม่ถึงเวลา....
“กูว่า น้ำตาลสงสัยจะสนใจแกว่ะ” เอ็มแอบมากระซิบข้างหูโต้ง
“ รู้ได้ไงว่ะ” โต้งถามแบบไม่ค่อยจะสนใจสักเท่าไหร่
“ก็กูเห็นเค้าชอบมองมึงแปลกๆว่ะ เชื่อกูดิไม่ผิดแน่”
“ ไม่มั้ง “ โต้งยังคงไม่สนใจและเดินดูของไปเรื่อยๆ
ไม่นานโต้งก็หยุดมองตุ๊กตากวางเรนเดียตัวเล็กๆสีน้ำตาลอ่อน ซึ่งเป็นได้ทั้งพวงกุญแจหรือไว้สำหรับห้อยบนกระเป๋าก็น่ารักเหมือนกัน
ไม่รู้ทำไมเรื่องราวต่างๆมากมายตั้งแต่เด็กจนโต โต้งมักจะมีสิ่งที่เกี่ยวพันกับอะไรที่เป็นคริสมาสต์เสมอ
“ อยากได้เหรอโต้ง “ เสียงผู้หญิงที่โต้งคุ้นหูเอ่ยถามขึ้น
โต้งเงยหน้าขึ้นมามอง
“อ้าว หญิง “ โต้งทักด้วยท่าทางที่ดีใจ
“ไม่ได้เจอกันตั้งนานหล่อขึ้นเยอะเลยนะ” หญิงทักทาย
“แล้วหญิงอ่ะ เป็นไงบ้างไม่ได้เจอตั้งนาน”
“ก็ดีอ่ะ แล้วนี่มาเที่ยวกับเพื่อนเหรอ” หญิงมองไปด้านหลังโต้ง ซึ่งเอ็มและวีผงกหัวเล็กน้อยให้รู้ว่ามาด้วยกัน มีก็แต่น้ำตาลที่ทำตาเขียวใส่หญิง
“อืม ทีแรกก็กะว่าจะไม่มาแล้วล่ะ” โต้งบอก
“ทำไมล่ะ รู้รึป่าวว่าวันนี้น่ะ ”หญิงยังไม่ทันจะพูดจบ
“อื้มมม ก็นั่นแหละ เราเลยมาไง” โต้งยิ้มออกมาแบบเขินๆ หญิงเองก็ยิ้มตอบกลับมาเช่นกันเมื่อเห็นท่าทางของโต้ง
“อาทิตย์ก่อนเรากับมิวก็ไปเชียร์โต้งด้วยนะ ตอนที่โต้งประกวดเดือนคณะน่ะ”
“มิวไปด้วยเหรอ” โต้งถามด้วยท่าทีสนใจ
“อื้ม” หญิงตอบ พลางมองหน้าโต้งซึ้งตอนนี้ยิ้มแทบจะหงุบไม่ได้แล้ว
ส่วนน้ำตาลแม้จะไม่รู้ว่าโต้งคุยอะไรกับหญิงแต่เมื่อเห็นอาการที่โต้งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก็อดที่จะไม่พอใจไม่ได้
“ใบเตยเดี๋ยวเราเดินไปดูของร้านอื่นต่อนะ เบื่อแล้วล่ะร้านนี้” พูดแล้วน้ำตาลก็เดินออกไป
“รอด้วยสิน้ำตาล ไปร้านอื่นต่อเถอะวี”ใบเตยเรียกน้ำตาลพลางจูงมีวีออกไป
“กูไปก่อนนะเว้ยเดี๋ยวมึงตามไปล่ะ” เอ็มบอกโต้งเมื่อเห็นว่าเพื่อนคนอื่นๆเดินออกไปกันแล้ว
“แล้วนี่หญิงออกร้านกับเพื่อนๆเหรอ”โต้งเอ่ยถาม หญิงซึ่งอยู่ในชุดนักศึกษา
“ใช่แล้ว หญิงมาช่วยงานออกร้านพี่ๆเค้าอ่ะ เอ้อ มะกี้โต้งอยากได้ตุ๊กตาตัวนี้เหรอ” หญิงถาม
“อืม น่ารักดีอ่ะ” โต้งมองตุ๊กตาแล้วยิ้มบางๆ หญิงมองโต้งก็พอจะเดาออกว่าตอนนี้โต้งคิดถึงใคร
“อ่ะหญิงให้”หญิงหยิบตุ๊กตาขึ้นมาให้โต้ง
“ไม่ได้หรอกหญิงของซื้อของขาย”โต้งบอกพลางเอามือล่วงกระเป๋า
“ไม่เป็นไรหรอก อีกอย่างหญิงก็ไม่ได้เอาให้โต้งด้วย” หญิงรีบเอาตุ๊กตาใส่มือให้โต้งในขณะที่โต้งทำหน้างงกับคำพูดของหญิง
“หญิงเอาให้มิว” หญิงตอบยิ้มๆแบบมีเลศนัย
เสียงผู้คนดังขึ้นทางด้านหน้าเวทีคอนเสิร์ต โต้งและหญิงหันไปมอง
“สงสัยคอนเสิร์ตจะเริ่มแล้ว โต้งรีบไปดีกว่าเดี่ยวหาที่ดีๆไม่ได้นะ”หญิงบอกโต้ง
โต้งหันกลับมายิ้มให้หญิง
“ขอบคุณมากนะหญิง แล้วไว้เจอกันอีกนะ”โต้งบอกลาพร้อมทั้งหันหลังออกจากร้าน
“อย่าลืมเอาให้มิวล่ะโต้ง”หญิงตระโกนไล่หลังโต้งไป
โต้งไม่ได้ตอบอ่ะไรแต่ชูตุ๊กตากวางเรนเดียตัวน้อยขึ้นมา เป็นการบอกว่า ‘ แน่นอน ‘
หญิงยืนยิ้มอยู่ที่ร้าน ตอนนี้เขากับมิวกลายเป็นเพื่อนสนิทกันเหมือนเดิม การยอมรับและปรับตัวในช่วงเวลาที่ผ่านมามันทำให้ความรู้สึกของหญิงที่มีต่อมิวเปลี่ยนไปจากคนรักมาเป็นเพื่อน ถึงแม้บางอย่างจะเปลี่ยนไปแต่ความห่วงใยและความผูกพันยังคงมีให้กันเหมือนเดิม
“นี่หญิง เจอหนุ่มหล่อเข้าหน่อยให้ของเค้าฟรีเลยนะ” เพื่อนๆที่อยู่ในร้านแอบแซว
“ไม่ใช่อย่างที่คิดนะ นั่นอ่ะเพื่อนหญิง”
............................
ที่หน้าเวทีคอนเสิร์ต โต้งยืนท่ามกลางผู้คนมากมายที่มารอฟังคอนเสิร์ตของวงออกัส
มิวอยู่บนเวทีในชุดเสื้อเชิตสีขาวมีสูตสีดำทับอีกที
เมื่อดนตรีเริ่มขึ้น โต้งโห่ร้องตามผู้คนที่อยู่ใกล้เคียง โดยเพลง Ticket ได้ถูกบรรเลงมาเป็นเพลงแรกเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของผู้ชมให้ครึกครื้นตามจังหวะเพลง
เวลาผ่านไปเกือบๆ 1 ชั่วโมง ท่ามกลางความอิ่มเอมใจของผู้ที่มารอชมคอนเสิร์ต
“แล้วนี่ก็เป็นเพลงสุดท้ายของพวกเรานะครับ” มิวบอกพลางกวาดตามองไปยังคนดูข้างล่างเวที แต่สายตาเขาก็ไปหยุดอยู่ที่มุมๆหนึ่ง มิวชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นโต้งยืนยิ้มให้
ในขณะที่มิวมองมายังโต้ง โต้งเองก็มองตอบกลับมาเช่นกันพร้อมทั้งโบกมือทักทายแล้วก็ยกนิ้วโป้งขึ้นให้มิว
มิวเองก็ยิ้มตอบกลับไปเช่นกัน เอ็กซ์เองเมื่อมองตามสายตามิวไปก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับมิว
“ เต็มที่เลยนะมิวเพลงนี้ “เอ็กซ์เดินเข้ามาตบไหล่มิวพร้อมทั้งกระซิบข้างหู
“นั้นเราก็มาฟังกันเลยนะครับ กับเพลง กันและกัน” มิวพูดจบเสียงดนตรีก็เริ่มดังขึ้นพร้อมกับเสียงของคนดู
ระหว่างร้องเพลงสายตาของมิวไปหยุดอยู่ที่โต้ง ซึ่งไม่ต่างกันกับโต้งเลย โต้งเองก็ยิ้มพร้อมกับเขินไปในตัวเพราะรู้ว่าเพลงนี้เป็นเพลงของเขา
....สายตาต่างประสบพบกันต่างฝ่ายต่างเข้าใจในอารมณ์....
เมื่อเพลงจบลงมิวหันไปขอบคุณผู้ชมโดยรอบ แต่เมื่อเขาหันกลับมายังโต้ง แต่สิ่งที่พบกลับเป็นความว่างเปล่า เอ็กซ์สะกิดให้มิวเดินลงเวทีไปในขณะที่เพื่อนร่วมวงคนอื่นๆกำลังทยอยเดินออกเวทีไปจนจะหมดแล้ว
มิวทำหน้าสลดลงเล็กน้อยก่อนจะเดินตามเอ็กซ์ออกไป
...........................
“นั้นพวกผมกลับก่อนนะพี่มิว” ปิงปองบอกลาแล้วขึ้นรถตู้ไป
“วันนี้กูคงกลับแล้วว่ะ เหนื่อยคงไม่อยู่งานต่อว่ะ” เอ็กซ์บอกมิว
“อืม ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวกูเดินเล่นไม่นานก็กลับเหมือนกัน”
“เออ ยังไงก็กลับบ้านดีๆละกัน” เอ็กซ์ บอกพลางตบไหล่มิวก่อนจะเปิดประตูรถตู้ของทางบริษัทค่ายเพลง
“เออมิว”เอ็กซ์ เรียกมิวขณะที่ขึ้นไปนั่งในรถตู้แล้ว
“ไรเอ็กซ์”
“ฝากหวัดดีโต้งด้วยนะ” เอ็กซ์ยิ้มแบบมีเลศนัยให้มิวก่อนที่จะรีบปิดประตูรถ
มิวได้แต่ยิ้มเก้อๆเพราะไม่รู้จะทำไง อันที่จริงเขาเองก็เหนื่อยมากเหมือนกันวันนี้แต่....เขาก็ยังอยากอยู่ต่อ เผื่อว่าบางที......
มิวเดินเข้าไปในงานพร้อมทั้งมองหาบางสิ่ง...ในขณะที่มีผู้คนมากมายแวะเวียนเข้ามาพูดคุยบ้าง ถ่ายรูปบ้าง ให้ของบ้าง จนการหาบางสิ่งของเขาดูจะสะดุดไปเป็นช่วงๆ
สุดท้ายมิวก็ไม่เจอ เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายของที่หญิงอยู่
“หวัดดีหญิง” มิวทักหญิงด้วยท่าทางอ่อนเพลีย
“เป็นไงมิว ดูเหนื่อยๆนะ” หญิงทักตอบกลับมา
“เดี่ยวเราว่าจะกลับบ้านแล้วล่ะ วันนี้เหนื่อยทั้งวันเลย หญิงจะกลับพร้อมเรามั้ย” มิวถาม
หญิงมองดูนาฬิกาก็เห็นว่าเริ่มดึกแล้ว
“นั้น..”ขณะที่หญิงจะพูดต่อเธอเหลือบไปมองด้านหลังมิว
“หญิงต้องอยู่ช่วยงานเพื่อนๆก่อนอ่ะ มิวกลับไปก่อนละกันหญิงกลับเองได้”
“เอางั้นเหรอ” มิวตอบแบบเหงาๆ
“อื้ม” หญิงยิ้มกลับมาแบบมีเลศนัย...
.........................
มิวเดินออกมาจากบริเวณงานเพื่อที่จะออกไปยังหน้ามหาวิทยาลัย
“มิว”
มิวหยุดชะงักกับเสียงที่ได้ยิน พร้อมทั้งหันหลังกลับไป
โต้งในชุดนักศึกษากำลังยืนยิ้มให้เขาอยู่ พร้อมทั้งเริ่มเดินเข้ามาหา
มิวเองก็เช่นกัน เดินกลับไปหาโต้งพร้อมทั้งรอยยิ้ม
สุดท้ายแล้วเขาก็เจอจนได้ ...สิ่งที่เขาตามหา...
“ไงโต้ง” มิวเอ่ยทัก
“เพลงเพราะดีนะ”
“เพลงไหนอ่ะ มีตั้งหลายเพลง” มิวยิ้มถามแบบกวนๆ
“ก็...ทุกเพลงน่ะแหล่ะ”โต้งตอบ
“เหรอ” มิวเสียงอ่อยลงเล็กน้อย โต้งแอบมองแล้วก็อมยิ้มน้อยๆ
“แล้วนี่มิวจะกลับบ้านเหรอ”
“อื้ม”น้ำเสียงมิวยังดูไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่ แต่โต้งก็ยังคงอมยิ้มกับอาการของมิวอยู่
“นั้นเราไปส่งมิวที่บ้านนะ”
“จะดีเหรอโต้ง มันดึกแล้วนะ” มิวบอกทั้งๆที่ในใจแอบดีใจอยู่ แต่ก็เกรงใจโต้งอยู่เหมือนกัน
“ไม่เป็นไรหรอกเราโทรไปบอกที่บ้านแล้วล่ะว่าวันนี้จะกลับดึก อีกอย่างเจอกันวันนั้นยังไม่ค่อยได้คุยกันเลย” โต้งหาข้ออ้าง แต่นั่นก็เป็นความจริง
“อืม เอางั้นก็ได้ แต่อย่ามาบ่นทีหลังนะ” มิวเริ่มมีรอยยิ้มมาบ้างแล้ว
แล้วทั้งสองคนก็เดินไปด้วยกัน
“ไม่ชอบเพลงไหนเป็นพิเศษเลยเหรอ”
“ไม่นี่ มีไรเหรอมิว”
“ป่าว”
“เอ แต่ก็มีอยู่เพลงนึงนะ”
“เพลงไรอ่ะโต้ง”
“ก็เพลงของเราไง”
“แล้วมันชื่อเพลงไรล่ะ”
“นั่นดิ เพลงไรน้า”
..
.
บนเส้นทางนี้มีเพียงเขาสองคน แม้จะมืดบ้างสว่างบ้าง แต่มันก็มีทางให้เขาทั้งสองเดินเคียงกันไป....เพียงแค่นี้ ก็อุ่นใจแล้วไม่ใช่เหรอ?
ร้านบะหมี่
“พี่คับ เอาบะหมี่เกี๊ยว 2” โต้งบอกคนขาย
“แล้วมะกี้โต้งหายไปไหนอ่ะตอนคอนเสิร์ตจบ” มิวเอ่ยถาม
“อ่อ ก็ทีแรกเรากะว่าจะไปหามิวที่ด้านหลังเวทีน่ะแต่สุดท้ายคนเยอะเกินเราเลยเข้าไปไม่ได้” โต้งบอกตามความจริง
“เห็นมิวเดินหาอะไรในงานด้วย แต่คนเยอะเลยไม่กล้าเข้าไปหา” โต้งบอกมิว
“ออ”
“ดังเลยนะมิว”โต้งแซวพร้อมทั้งยิ้มทะเล้นๆมาให้
“ไม่อย่างนั้นหรอก โต้งก็ว่าไป” มิวเองก็เขินๆเวลาที่คนพูดถึงตัวเองแบบนี้
“เอ้า ก็จริงนี่ เอ้อว่าแต่ว่าในงานอ่ะ มิวมองหาอะไรอยู่เหรอ” เสียงโต้งถามเล่นๆแต่สายตากลับมองมิวอย่างต้องการเอาคำตอบ
มิวสบสายตานั้น ก็พอจะรู้ว่าโต้งรู้อยู่แล้วว่าเขาหาอะไร จึงหลบสายตาโต้งแล้วก็ดูดน้ำในแก้วไปพลางๆ
“มิวยังไม่ตอบเราเลยนะ”
“ตอบไรอ่ะโต้ง”
“ก็ที่เราถามเมื่อกี้ไง”
“ถามไรอ่ะ” มิวยังแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง พร้อมทั้งก้มหน้าก้มตาดูดน้ำต่อไป จนเกือบหมดแก้วแล้วตอนนี้
“บะหมี่ เกี๊ยว 2ที่คับ” คนขายยกบะหมี่มาให้แล้วจึงเดินกลับออกไป
“ยังไม่ตอบเลยมิว”โต้งยังคงคะยั้นคะยอเอาคำตอบจากมิวอยู่
“ไม่เอาแล้ว กินบะหมี่ดีกว่าหิวแล้ว”
โต้งยิ้มกับอาการเขินของมิว ก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มกินบะหมี่”ด้วยกัน”
......
...
..
.
ซอยเข้าบ้านมิว
“แล้วช่วงเที่ยงนี่ปกติ มิวกินข้าวที่ไหนเหรอ”โต้งถามขณะที่ทั้งสองคนกำลังเดินเข้าไปในซอย
“ก็แล้วแต่นะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นโรงอาหารในคณะซะมากกว่า คนไม่ค่อยเยอะดี แต่บางครั้งก็ไปโรงอาหารกลางบ้างนะ ถ้าต้องไปเรียนแถวๆนั้น”
“ไว้วันหลังเราไปกินข้าวด้วยได้มะ” โต้งเอ่ยออกมาเปรยๆแต่คาดหวังในคำตอบ
“ก็แล้วแต่โต้งดิ เรายังไงก็ได้” มิวไม่รู้จะตอบยังไง วันนี้โต้งชอบถามหรือทำอะไรจนทำให้มิวไม่กล้าที่จะสบตาด้วยเลย
“ดีเลย งั้นเราจะโทรไปชวนบ่อยๆนะ” เห็นอาการมิวแล้วโต้งก็อดที่จะแกล้งไม่ได้
“เอางั้นเลยเหรอ” มิวหันมามองโต้งพลางยิ้มตลกๆ
“ก็เอางั้นสิ” โต้งตอบกลับมาแบบทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“เออ แล้ว พรุ่งนี้มิวว่างมั้ยอ่ะ”
“พรุ่งนี้เหรอ อืม พรุ่งนี้มีงานบ่ายๆอ่ะ กว่าจะเลิกคงมืดๆแล้ว” โต้งมีอะไรเหรอ
“ป่าวหรอก เผื่อถ้ามิวว่างกะว่าจะชวนไปดูหนังหน่อยอ่ะ”โต้งดูมีทีท่าผิดหวัง แต่เขาก็เข้าใจเรื่องที่มิวติดงาน
.............
....
..
.
หน้าบ้านมิว
มิวก้าวเข้ามาในบ้านแล้วขณะที่โต้งยืนยิ้มส่งให้อยู่หน้าบ้าน
“ขอบคุณนะโต้ง” มิวเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งยิ้มให้
“ไม่เป็นไร”โต้งบอกกลับไป
“นั้นกลับบ้านดีๆนะโต้ง ไว้เจอกันใหม่”
“เดี๋ยวมิว....” โต้งเอามือล่วงลงไปในกระเป๋ากางเกง มิวเองก็ทำหน้าฉงนและคอยดูว่าโต้งจะทำอะไร
“อ่ะ..นี่ให้” โต้งหยิบพวงกุญแจตุ๊กตากวางเรนเดียออกมาพร้อมทั้งส่งให้มิว
มิวรับมันมาพร้อมทั้งยิ้มกว้างมาให้โต้ง
“อะไรอ่ะ”มิวเอ่ยขึ้น
“ก็เอ่อ...ของขวัญที่มิวเอ็นติดไง”
“ขอบคุณนะ”มิวบอกจากใจจริง
“ไม่เป็นไร” โต้งเอามือเกาหัวตัวเองอย่างเขินๆ
“นั้น เราไปก่อนนะมิว”
“อื้ม กลับบ้านดีๆนะโต้ง”มิวโบกมือให้โต้ง ขณะที่โต้งก็โบกกลับมาเช่นกันก่อนที่จะหันหลังแล้วเดินจากไป..
มิวมองโต้งจนลับหายไปจากสายตาก่อนที่จะปิดประตูบ้าน
มิวขึ้นไปบนห้องล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยอาการอ่อนเพลียแต่กลับอิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก
.........
บนรถเมล์
โต้งนั่งยิ้มตลอดทางที่กลับบ้าน นั่นยิ่งทำให้ดูมีเสน่ห์มากขึ้นอีกในสายตาของคนที่ผ่านไปผ่านมา
“ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ” เสียงโทรศัพท์โต้งดังขึ้น
โต้งหยิบออกมาจากกระเป๋าก่อนที่จะกดเปิดเมจเสสอ่าน พร้อมทั้งรอยยิ้ม
มันเป็นข้อความจากมิว
‘ วันเสาร์เราไม่ว่าง แต่ถ้าเป็นวันอาทิตย์ละก็มีเวลาทั้งวันเลย*-* ’
มันเป็นคืนวันศุกร์ที่ทำให้หัวใจของเขาทั้งสอง “มีความสุข” ไม่ต้องมีอะไรที่เป็นพิเศษแค่มี”กันและกัน”ก็เพียงพอแล้ว.....
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น