ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักแห่งสยาม

    ลำดับตอนที่ #2 : คืน วัน สุข

    • อัปเดตล่าสุด 13 ม.ค. 52


    - คืน วัน สุข –
    เพลงรักเพลงแรกที่เริ่มเขียน ผมเขียนให้กับใครบางคน คนที่ดึงผมขึ้นมาจากความเหงาพร้อมทั้งเลือกคำตอบที่ผมเคยตั้งไว้ให้กับตัวเอง
    ‘มันจะเป็นไปได้เหรอ ที่เราจะอยู่ได้โดยไม่รักใครเลย’
    แต่แล้ววันหนึ่ง มันเป็นคืนวันคริสมาสต์เมื่อ5เดือนก่อน เขาอีกเช่นกันที่มอบคำตอบให้กับคำถามที่ผมเฝ้าถามตัวเองมาโดยตลอด
    ‘ ถ้าเรารักใครสักคนมากๆ เราจะทนได้เหรอ ถ้าวันนึงเราต้องเสียเข้าไป ‘
    ผมอยู่กับความรู้สึกนี้มาโดยตลอด5เดือนที่ผ่านมา แม้รอบกายจะมีเพื่อนฝูง มีดนตรีและมีคนที่คอยหวังดีกับเราเสมอ แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงเวลาที่ต้องอยู่คนเดียวมัน..เหงาเพียงใด
    แต่แล้วเมื่อ 3 อาทิตย์ก่อน”เรา” ก็ได้มีโอกาสมาเจอกันอีกครั้ง ความรู้สึกเก่าๆได้เวียนกลับมาเหมือนเดิม แล้วยิ่งผมได้มารับรู้ว่าเขาเองก็ยังคงรู้สึกไม่ต่างไปจากผมเลย
    เรายังคงเหมือนเดิม...
    ผมจะทำยังไงดี ใจหนึ่งก็ดีใจและแอบหวังจะให้เรากลับมาเหมือนเดิม แต่อีกใจหนึ่งก็ต้องคอยห้ามตัวเอง เพราะอยากเห็นอนาคตที่สดใสของเขาและความรักที่แท้จริงที่หลายๆคนคาดหวัง และแน่นอนว่านั่นไม่ใช่ความรักของผม..
    จากวันนั้นที่เราเจอกันที่ตู้โทรศัพท์โดยบังเอิญในวันที่ฝนตก เราก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย ไม่สิ? ผมเคยเจอเขาอีกครั้ง เพียงแต่วันนั้นเขาคงไม่เห็นผม มันเป็นงานประกวดดาวเดือนของคณะวิศวกรรมศาตร์ ผมเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปเท่าไหร่แต่หญิง เพื่อนสนิทของผมคนหนึ่ง เธอมาชวนแกมบังคับให้ผมไปด้วย สุดท้ายผมก็ต้องยอม
    แล้วสิ่งที่ผมไม่คาดว่าจะเจอในกลุ่มคนที่ได้รับเลือกเข้าประกวดในงานนี้ก็คือเขา..
    ถึงกระนั้นผมก็คอยลุ้นให้เขาได้ตำแหน่งเดือนคณะ แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
    แต่เขาจะรู้มั้ยนะ ว่าวันนั้นผมแอบคอยเป็นกำลังใจให้เขาอยู่ห่างๆ........





    “โต้ง ทำไรอยู่เหรอลูก” สุนีย์เดินเข้ามานั่งข้างๆโต้งซึ่งกำลังนั่งทำการบ้านวิชาแคลคูลัส1อยู่
    “การบ้านน่ะแม่”โต้งตอบ
    “ แล้วนี่พ่อจะกลับมากี่โมงเหรอ” โต้งถามพลางหันไปมองดูนาฬิกาซึ่งบอกเวลาว่าขณะนี้กำลังจะ4ทุ่มแล้ว
    “เมื่อกี้พ่อเค้าโทรมาว่า ออกจากงานเลี้ยงแล้วกำลังขับรถกลับมาอยู่น่ะ โต้งมีอะไรเหรอ”
    “ป่าวน่ะแม่ ถามเฉยๆ”
    “ แล้วเราล่ะเป็นไง ช่วงนี้เรียนหนักมั้ย” สุนีย์ถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง
    “ ก็เรื่อยๆอ่ะแม่ แต่มีกิจกรรมเยอะเลย นี่โต้งก็เข้าชมรมฟุตบอลด้วย เลยไม่ค่อยว่าง” โต้งบอกไปตามความจริง
    “ ก็ดีแล้วเรียนอย่างเดียวเดี๋ยวเครียดเอา เล่นกีฬาด้วยก็จะช่วยได้เยอะ แต่โต้งเองก็ต้องหาเวลาพักผ่อนด้วยนะลูก”
    “ ครับแม่ “ โต้งยิ้ม สุนีย์เองก็ยิ้มตอบกลับมาเช่นกัน พลางเอามือมาลูบหัวโต้งเบาๆ
    ไม่นานโต้งก็วางปากกาลง
    “เสร็จสักที” โต้งเอ่ยขึ้นมาอย่างโล่งใจ สุนีย์ซึ่งนั่งดูโทรทัศน์อยู่ข้างๆก็หันมายิ้ม
    โต้งหันไปมองดูโทรทัศน์ที่กำลังเปิดอยู่ ซึ่งช่วงก่อนเขาเองก็ไม่ค่อยจะมีเวลาได้สนใจสื่อต่างๆสักเท่าไหร่ เพราะแค่เรื่องที่ต้องทำในแต่ละวันมันก็มากพอที่จะทำให้เขาหลับเป็นตายได้อยู่แล้ว
    “ มิว “ โต้งอุทานขึ้นมาเบาๆเมื่อเห็นโฆษณาโปรโมทอัลบั้ม The August อัลบั้มเพลงอัลบั้มแรกของวง ออกัส
    สุนีย์ซึ่งนั่งข้างๆได้หันมาสนใจกับท่าทีของโต้ง เธอเห็นรอยยิ้มเล็กๆบนใบหน้าของลูกชาย แม้โต้งจะไม่เอ่ยอะไรเลยแต่เธอก็เข้าใจดีว่าโต้งดูมีความสุขมากแค่ไหนที่ได้เห็นมิว
    “ว่าก็ว่านะโต้ง แม่ไม่ได้เจอมิวมาก็นานแล้วนะ ไม่รู้เป็นไงบ้าง” เธอเอ่ยขึ้นมาทันทีที่โฆษณานั้นจบลงไป
    “ โต้งก็ไม่ได้เจอมิวเหมือนกัน” โต้งบอกพร้อมทั้งยิ้มแบบเจื่อนๆ
    สุนีย์มองดูลูกชาย อย่างเป็นห่วง
    “ อ้าว ทำไมล่ะโต้ง” เธอถามทั้งๆที่พอจะคาดเดาคำตอบได้แล้ว
    “ ก็ไม่มีอะไรหรอกแม่” โต้งตอบเสียงแผ่ว
    สุนีย์ยิ้มพร้อมทั้งส่ายหัวเล็กๆ
    “ โต้งฟังแม่นะ”เธอเริ่มเอ่ย โต้งเองก็เงยหน้าขึ้นมองพร้อมทั้งให้ความสนใจกับสิ่งที่สุนีย์กำลังจะพูด
    “ พ่อแม่ทุกคนน่ะ หวังที่จะให้ลูกตัวเองมีอนาคตที่สดใส เดินไปในทางที่ถูกต้อง แต่นั่นก็เพราะหวังจะให้ลูกมีความสุข แต่ถึงแม้ว่าทางที่ลูกเลือกเดินจะเป็นทางที่ต่างจากคนอื่นสักหน่อย แต่ถ้านั่นมันทำให้ลูกมีความสุขแน่นอนว่าพ่อแม่ทุกคนก็คงจะรู้สึกแย่ไปบ้างแต่แล้วพวกเขาก็จะมีความสุขในภายหลัง นั่นก็เพราะสิ่งที่พวกเขาหวังคือความสุขของลูก ไม่ใช่ความสำเร็จ แม่ไม่อยากเห็นโต้งประสบความสำเร็จในชีวิตแต่ปราศจากความสุขนะลูก”เธอเอ่ยพร้อมทั้งลูบหัวโต้งอย่างอ่อนโยน โต้งเขยิบเข้ามาใกล้ๆแล้วโอบกอดแม่ของเขาด้วยความรู้สึกรักเหมือนทุกๆครั้งที่ผ่านมา สุนีย์เองก็กอดรับเช่นกัน
    “ขอบคุณครับแม่ ที่เข้าใจโต้ง” โต้งเอ่ยขอบคุณเบาๆ
    “แต่ไม่รู้พ่อจะเข้าใจโต้งรึป่าว” พูดแล้วโต้งก็มีสีหน้าสลดลง
    สุนีย์ผละออกจากอ้อมกอดของลูกชายพร้อมทั้งมองหน้าโต้ง
    “เชื่อแม่สิ พ่อเค้าโกรธโต้งไม่ลงหรอก”
    “ทำไมล่ะแม่” โต้งทำหน้างง พลางสงสัยในคำพูด
    “นั้นแม่ถามโต้งอย่างนะ” เธอเอ่ย
    “ถามไรอ่ะแม่”
    “ตอนที่พ่อเค้าติดเหล้าไม่ทำการทำงาน โต้งยังรักพ่อเหมือนเดิมมั้ย”
    “รักสิแม่” โต้งตอบไปตามความจริง
    “นั่นไง ก็เพราะว่าโต้งรักพ่อไง ถึงแม้ว่าพ่อเค้าจะเปลี่ยนไปยังไง ถึงจะเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดี โต้งก็ยังรักพ่อเค้าเหมือนเดิม มันก็เหมือนกันล่ะโต้ง ถึงโต้งจะเป็นยังไง พ่อเค้าก็ยังรักโต้งเหมือนเดิม ความรักความผูกพันน่ะ มันไม่ได้ทำลายกันได้ง่ายๆนะลูก”พูดจบเธอก็ยิ้มให้โต้ง
    โต้งเองก็อึ้งไปเล็กน้อยกับคำพูดของผู้เป็นแม่ ก่อนที่จะยิ้มตอบกลับมาเช่นกัน
    ....สุดท้ายแล้ว ความรักในครอบครัวก็ยังคงเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่อยู่เสมอ....

    ที่มหาลัย
    “ เฮ้ยโต้ง เดี๋ยวยืมเลคเชอร์ฟิสิกส์หน่อยดิ กูจดไม่ทันว่ะ” เอ็มเพื่อนในคณะที่โต้งพึ่งรู้จักเมื่อ2อาทิตย์ก่อน และก็ยังเป็นเพื่อนในชมรมฟุตบอลเหมือนกันกับโต้งด้วยเอ่ยขึ้น
    “แม่งเอาแต่นอนแล้วมันจะจดทันไงว่ะ” โต้งบ่นให้แต่ก็ยังส่งสมุดโน้ตให้เอ็ม
    “น่านะๆๆๆไว้วันหลังผมจะไม่หลับแล้วครับพี่โต้ง” เอ็มทำหน้าทะเล้นๆพร้อมทั้งรับสมุดโน้ตจากโต้งมา
    “แล้วนี่ไอ้วีมันไปไหนอ่ะ กูหิวข้าวแล้วนะ” โต้งถามพร้อมทั้งมองหาเพื่อนในกลุ่มอีกคน
    “โหย ช่างมันเถอะ ไอ้นี่ก็คงไปหาที่โทรศัพท์หาเด็กมันตามเคยแหละ เดี๋ยวมันก็ตามไปเองที่โรงอาหาร” เอ็มบอกพร้อมทั้งกอดคอโต้งเดินออกไปจากห้องเรียน
    .......
    ที่โรงอาหารคณะวิศวกรรมศาสตร์
    “ โต้งคืนนี้มึงไปงาน Freshy Night ป่าวว่ะ” เอ็มถามขณะที่ทั้งสองกำลังทานข้าวอยู่
    “งานไรมึงว่ะ” โต้งเอ่ยถาม
    “เอ้า ก็งานที่เค้าจัดต้อนรับน้องใหม่ไง งานนี้เป็นงานของมหาลัยนะเว้ยไม่ใช่แค่ในคณะ”
    “แล้วไง” โต้งทำหน้าตาซื่อๆถามกลับ
    “ก็แล้วไง ถามได้ มึงไม่อยากเจอเด็กคณะอื่นเหรอว่ะ อ่อกูลืมไป มึงมันหล่อเลือกได้”
    ‘ผัวะ’ เอ็มเอามือรูปหัวตัวเองเมื่อโดนโต้งตบหัวไปที
    “มึง 2 ตัวเล่นไรกันว่ะ” วีเดินเข้ามาทักพร้อมทั้งวางจานข้าวลงบนโต๊ะ วีค่อนข้างจะเป็นลูกคุณหนูหน้าตาดี เสียก็แต่เจ้าชู้ไปหน่อย ซึ่งต่างกับเอ็มซึ่งมาจากต่างจังหวัดที่เรียนโดยใช้ทุนของรัฐบาล แต่แม้จะต่างฐานะกันแต่ทั้งสามคนก็ไม่เคยเอาสิ่งเหล่านี้มาใส่ใจเลย มีแค่ความจริงใจก็พอแล้ว...
    “ก็กำลังคุยเรื่องงานคืนนี้น่ะ” เอ็มบอกไป
    “ออ แล้วพวกมึงไปกันป่าวว่ะ”
    “กูยังไม่รู้เลยว่ะ อาจไม่ได้ไปมั้ง” โต้งบอก
    “อ้าวไมว่ะ”วีถามทำหน้าแปลกใจ
    “ก็ตอนเย็นกูซ้อมบอล แล้วกูก็ยังไม่ได้บอกที่บ้านด้วยว่ากูจะกลับดึก”
    “มึงก็โทรไปบอกสิว่ะนี่มันวันศุกร์น่ะเว้ย แล้วซ้อมบอลมันก็เลิกไม่ดึกสักหน่อย”เอ็มบอก เพราะเขาเองก็ต้องอยู่ซ้อมด้วยเช่นกัน
    “ไม่รู้ว่ะ กูไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่” โต้งตอบมา เอ็มกับวีหันหน้ามองกันพร้อมทั้งทำหน้างงๆกับท่าทีของเพื่อน
    .....................
    ที่สนามฟุตบอล
    โต้งซึ่งชอบเล่นฟุตบอลอยู่แล้ว ที่นี่จึงเป็นเสมือนที่พักผ่อนของเขาไปในตัว แต่เพราะการเป็นเดือนคณะจึงทำให้มีคนสนใจเป็นพิเศษ ยิ่งเวลาที่เขาเล่นบอลด้วยแล้ว...
    เกือบที่จะมืด การซ้อมก็เสร็จสิ้นลง โต้งกับเอ็มนั่งพักอยู่ข้างสนามบรรยากาศยามเย็นแบบนี้ทั้งสวยงามสมและก็...เหงาหงอย
    “มิว” โต้งเอ่ยชื่อมิวขึ้นมาเบาๆอย่างไม่ทันรู้ตัว
    “ไรว่ะโต้ง” เอ็มหันมาถาม โต้งทำหน้างงกับคำถาม
    “ไรมึง”โต้งถามกลับ
    “ก็เมื่อกี้มึงพูดไรกลับกูป่าวอ่ะ”
    “ป่าวพูดเว้ย”โต้งแย้งกลับ
    “ก็กูได้ยินอ่ะ อะไรแมวๆเนี่ยแหละ มึงนี่ถ้าจะเป็นเอามากนะ พักผ่อนบ้างเว้ย”เอ็มบอกพร้อมทำหน้ากวนๆใส่
    “นั้นคืนนี้มึงยังไม่ต้องรีบกลับเลย ไปเที่ยวงานกับกูกับไอ้วีมันก่อนละกัน” เอ็มฉวยโอกาสมัดมือชก
    “ไม่เอาว่ะ เหนื่อยจะตาย กูอยากกลับไปหลับมากกว่าว่ะ”
    “นอนมึงนอนเมื่อไหร่ก็นอนได้แต่งานนี้นะเว้ยไม่ได้มีมาบ่อยๆ สาวๆอ่ะมาตรึมเลยนะเว้ยเชี่ยโต้ง”
    “แล้วไงว่ะ” โต้งทำหน้าซื่อถามกลับไปอีก
    “เออใช่กูลืมไป ก็มึงมันหล่...” เอ็มยังไม่ทันจะเอ่ยจบประโยคโต้งก็เอามือมาชี้หน้าประมาณว่ามึงอยากโดนอีกเหรอ
    “เฮ้ยงานนี้มีคอนเสิร์ตด้วยนะเว้ย”เอ็มหาข้ออ้างอย่างอื่นมาเสริม
    “คอนเสิร์ตไรว่ะ” โต้งถาม
    “ก็วงใหม่นั่นไง วงออกัสอ่ะ กูแม่งโครตชอบเพลงวงนี้เลย” เอ็มบอกไปตามจริง
    โต้งชะงักนิดนึงเมื่อได้ยินคำว่า ออกัส
    “วงไรนะเอ็ม” โต้งถามกลับอีกรอบเพื่อนความแน่ใจ
    “ก็วงออกัสไง เพลงกันและกันอ่ะ มึงเคยฟังป่าว ดังออกจะตาย”
    รอยยิ้มเล็กๆของโต้งปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า นี่เป็นโอกาสดีที่เขาจะได้เจอมิวอีกครั้ง
    “ แล้วงานเริ่มกี่โมงว่ะ” โต้งถาม
    “ ก็สักทุ่มกว่าๆแหล่ะ ไปมั้ยว่ะโต้ง”
    “เอาดิ” โต้งยิ้มร่า โดยมีท่าทีเปลี่ยนไปจนเอ็มเกิดอาการงง
    ...........................
    ที่งาน
    “เชี่ยเอ็มเชื่อโต้ง ทางนี้เว้ย” วีตระโกนทักทั้งสองคนเมื่อเห็นเดินเข้ามาในงานในชุดนักศึกษา
    “เสียงดังว่ะ”เอ็มบอกวีขณะที่โต้งยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าไม่หาย
    “แล้วนี่มึงลากไอ้โต้งมันมาได้ไงว่ะ ไหนมันว่าไม่มาไง” วีถามเอ็มกลับ
    “กูก็ไม่รู้ว่ะ แม่งอยู่ๆก็เปลี่ยนใจกะทันหันเล่นเอากูตามไม่ทันเลย”
    “เออๆ นี่ใบเตยแฟนกูเว้ย”วีแนะนำผู้หญิงที่อยู่ข้างๆให้รู้จัก
    “แล้วนี่ โต้งกับเอ็มเพื่อนเรานะ” โต้งและเอ็มผงกหัวให้คนตรงหน้าเล็กน้อยเมื่อถูกแน่ะนำตัว
    “แล้วนี่เพื่อนใบเตยนะ” วีชี้ไปที่อีก2คนด้านหลังใบเตย
    “โบว์ กับน้ำตาล” โต้งกับเอ็มผงกหัวให้อีกเช่นกัน ซึ่งกับคนชื่อน้ำตาลโต้งพอจะคุ้นๆหน้าเพราะจำได้ว่าเคยเห็นตอนงานประกวดดาวเดือน ซึ่งน้ำตาลก็เป็นหนึ่งในคนที่ได้เข้าประกวดดาวของคณะ ถึงจะไม่ได้ตำแหน่งแต่ก็จัดว่าเป็นคนที่หน้าตาดีมากคนหนึ่งเลย
    ในงานเต็มไปด้วยร้านต่างๆมากมายทั้งของกิน เกมและของน่ารักๆมากมาย โต้งเดินไปเรื่อยๆแต่ไม่ค่อยสนใจอะไรเท่าไหร่เพราะสิ่งที่เขาสนใจมากที่สุดมันยังไม่ถึงเวลา....
    “กูว่า น้ำตาลสงสัยจะสนใจแกว่ะ” เอ็มแอบมากระซิบข้างหูโต้ง
    “ รู้ได้ไงว่ะ” โต้งถามแบบไม่ค่อยจะสนใจสักเท่าไหร่
    “ก็กูเห็นเค้าชอบมองมึงแปลกๆว่ะ เชื่อกูดิไม่ผิดแน่”
    “ ไม่มั้ง “ โต้งยังคงไม่สนใจและเดินดูของไปเรื่อยๆ
    ไม่นานโต้งก็หยุดมองตุ๊กตากวางเรนเดียตัวเล็กๆสีน้ำตาลอ่อน ซึ่งเป็นได้ทั้งพวงกุญแจหรือไว้สำหรับห้อยบนกระเป๋าก็น่ารักเหมือนกัน
    ไม่รู้ทำไมเรื่องราวต่างๆมากมายตั้งแต่เด็กจนโต โต้งมักจะมีสิ่งที่เกี่ยวพันกับอะไรที่เป็นคริสมาสต์เสมอ
    “ อยากได้เหรอโต้ง “ เสียงผู้หญิงที่โต้งคุ้นหูเอ่ยถามขึ้น
    โต้งเงยหน้าขึ้นมามอง
    “อ้าว หญิง “ โต้งทักด้วยท่าทางที่ดีใจ
    “ไม่ได้เจอกันตั้งนานหล่อขึ้นเยอะเลยนะ” หญิงทักทาย
    “แล้วหญิงอ่ะ เป็นไงบ้างไม่ได้เจอตั้งนาน”
    “ก็ดีอ่ะ แล้วนี่มาเที่ยวกับเพื่อนเหรอ” หญิงมองไปด้านหลังโต้ง ซึ่งเอ็มและวีผงกหัวเล็กน้อยให้รู้ว่ามาด้วยกัน มีก็แต่น้ำตาลที่ทำตาเขียวใส่หญิง
    “อืม ทีแรกก็กะว่าจะไม่มาแล้วล่ะ” โต้งบอก
    “ทำไมล่ะ รู้รึป่าวว่าวันนี้น่ะ…”หญิงยังไม่ทันจะพูดจบ
    “อื้มมม ก็นั่นแหละ เราเลยมาไง” โต้งยิ้มออกมาแบบเขินๆ หญิงเองก็ยิ้มตอบกลับมาเช่นกันเมื่อเห็นท่าทางของโต้ง
    “อาทิตย์ก่อนเรากับมิวก็ไปเชียร์โต้งด้วยนะ ตอนที่โต้งประกวดเดือนคณะน่ะ”
    “มิวไปด้วยเหรอ” โต้งถามด้วยท่าทีสนใจ
    “อื้ม” หญิงตอบ พลางมองหน้าโต้งซึ้งตอนนี้ยิ้มแทบจะหงุบไม่ได้แล้ว
    ส่วนน้ำตาลแม้จะไม่รู้ว่าโต้งคุยอะไรกับหญิงแต่เมื่อเห็นอาการที่โต้งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก็อดที่จะไม่พอใจไม่ได้
    “ใบเตยเดี๋ยวเราเดินไปดูของร้านอื่นต่อนะ เบื่อแล้วล่ะร้านนี้” พูดแล้วน้ำตาลก็เดินออกไป
    “รอด้วยสิน้ำตาล ไปร้านอื่นต่อเถอะวี”ใบเตยเรียกน้ำตาลพลางจูงมีวีออกไป
    “กูไปก่อนนะเว้ยเดี๋ยวมึงตามไปล่ะ” เอ็มบอกโต้งเมื่อเห็นว่าเพื่อนคนอื่นๆเดินออกไปกันแล้ว
    “แล้วนี่หญิงออกร้านกับเพื่อนๆเหรอ”โต้งเอ่ยถาม หญิงซึ่งอยู่ในชุดนักศึกษา
    “ใช่แล้ว หญิงมาช่วยงานออกร้านพี่ๆเค้าอ่ะ เอ้อ มะกี้โต้งอยากได้ตุ๊กตาตัวนี้เหรอ” หญิงถาม
    “อืม น่ารักดีอ่ะ” โต้งมองตุ๊กตาแล้วยิ้มบางๆ หญิงมองโต้งก็พอจะเดาออกว่าตอนนี้โต้งคิดถึงใคร
    “อ่ะหญิงให้”หญิงหยิบตุ๊กตาขึ้นมาให้โต้ง
    “ไม่ได้หรอกหญิงของซื้อของขาย”โต้งบอกพลางเอามือล่วงกระเป๋า
    “ไม่เป็นไรหรอก อีกอย่างหญิงก็ไม่ได้เอาให้โต้งด้วย” หญิงรีบเอาตุ๊กตาใส่มือให้โต้งในขณะที่โต้งทำหน้างงกับคำพูดของหญิง
    “หญิงเอาให้มิว” หญิงตอบยิ้มๆแบบมีเลศนัย
    เสียงผู้คนดังขึ้นทางด้านหน้าเวทีคอนเสิร์ต โต้งและหญิงหันไปมอง
    “สงสัยคอนเสิร์ตจะเริ่มแล้ว โต้งรีบไปดีกว่าเดี่ยวหาที่ดีๆไม่ได้นะ”หญิงบอกโต้ง
    โต้งหันกลับมายิ้มให้หญิง
    “ขอบคุณมากนะหญิง แล้วไว้เจอกันอีกนะ”โต้งบอกลาพร้อมทั้งหันหลังออกจากร้าน
    “อย่าลืมเอาให้มิวล่ะโต้ง”หญิงตระโกนไล่หลังโต้งไป
    โต้งไม่ได้ตอบอ่ะไรแต่ชูตุ๊กตากวางเรนเดียตัวน้อยขึ้นมา เป็นการบอกว่า ‘ แน่นอน ‘
    หญิงยืนยิ้มอยู่ที่ร้าน ตอนนี้เขากับมิวกลายเป็นเพื่อนสนิทกันเหมือนเดิม การยอมรับและปรับตัวในช่วงเวลาที่ผ่านมามันทำให้ความรู้สึกของหญิงที่มีต่อมิวเปลี่ยนไปจากคนรักมาเป็นเพื่อน ถึงแม้บางอย่างจะเปลี่ยนไปแต่ความห่วงใยและความผูกพันยังคงมีให้กันเหมือนเดิม
    “นี่หญิง เจอหนุ่มหล่อเข้าหน่อยให้ของเค้าฟรีเลยนะ” เพื่อนๆที่อยู่ในร้านแอบแซว
    “ไม่ใช่อย่างที่คิดนะ นั่นอ่ะเพื่อนหญิง”
    ............................

    ที่หน้าเวทีคอนเสิร์ต โต้งยืนท่ามกลางผู้คนมากมายที่มารอฟังคอนเสิร์ตของวงออกัส
    มิวอยู่บนเวทีในชุดเสื้อเชิตสีขาวมีสูตสีดำทับอีกที
    เมื่อดนตรีเริ่มขึ้น โต้งโห่ร้องตามผู้คนที่อยู่ใกล้เคียง โดยเพลง Ticket ได้ถูกบรรเลงมาเป็นเพลงแรกเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของผู้ชมให้ครึกครื้นตามจังหวะเพลง
    เวลาผ่านไปเกือบๆ 1 ชั่วโมง ท่ามกลางความอิ่มเอมใจของผู้ที่มารอชมคอนเสิร์ต
    “แล้วนี่ก็เป็นเพลงสุดท้ายของพวกเรานะครับ” มิวบอกพลางกวาดตามองไปยังคนดูข้างล่างเวที แต่สายตาเขาก็ไปหยุดอยู่ที่มุมๆหนึ่ง มิวชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นโต้งยืนยิ้มให้
    ในขณะที่มิวมองมายังโต้ง โต้งเองก็มองตอบกลับมาเช่นกันพร้อมทั้งโบกมือทักทายแล้วก็ยกนิ้วโป้งขึ้นให้มิว
    มิวเองก็ยิ้มตอบกลับไปเช่นกัน เอ็กซ์เองเมื่อมองตามสายตามิวไปก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับมิว
    “ เต็มที่เลยนะมิวเพลงนี้ “เอ็กซ์เดินเข้ามาตบไหล่มิวพร้อมทั้งกระซิบข้างหู
    “นั้นเราก็มาฟังกันเลยนะครับ กับเพลง กันและกัน” มิวพูดจบเสียงดนตรีก็เริ่มดังขึ้นพร้อมกับเสียงของคนดู
    ระหว่างร้องเพลงสายตาของมิวไปหยุดอยู่ที่โต้ง ซึ่งไม่ต่างกันกับโต้งเลย โต้งเองก็ยิ้มพร้อมกับเขินไปในตัวเพราะรู้ว่าเพลงนี้เป็นเพลงของเขา
    ....สายตาต่างประสบพบกันต่างฝ่ายต่างเข้าใจในอารมณ์....
    เมื่อเพลงจบลงมิวหันไปขอบคุณผู้ชมโดยรอบ แต่เมื่อเขาหันกลับมายังโต้ง แต่สิ่งที่พบกลับเป็นความว่างเปล่า เอ็กซ์สะกิดให้มิวเดินลงเวทีไปในขณะที่เพื่อนร่วมวงคนอื่นๆกำลังทยอยเดินออกเวทีไปจนจะหมดแล้ว
    มิวทำหน้าสลดลงเล็กน้อยก่อนจะเดินตามเอ็กซ์ออกไป
    ...........................
    “นั้นพวกผมกลับก่อนนะพี่มิว” ปิงปองบอกลาแล้วขึ้นรถตู้ไป
    “วันนี้กูคงกลับแล้วว่ะ เหนื่อยคงไม่อยู่งานต่อว่ะ” เอ็กซ์บอกมิว
    “อืม ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวกูเดินเล่นไม่นานก็กลับเหมือนกัน”
    “เออ ยังไงก็กลับบ้านดีๆละกัน” เอ็กซ์ บอกพลางตบไหล่มิวก่อนจะเปิดประตูรถตู้ของทางบริษัทค่ายเพลง
    “เออมิว”เอ็กซ์ เรียกมิวขณะที่ขึ้นไปนั่งในรถตู้แล้ว
    “ไรเอ็กซ์”
    “ฝากหวัดดีโต้งด้วยนะ” เอ็กซ์ยิ้มแบบมีเลศนัยให้มิวก่อนที่จะรีบปิดประตูรถ
    มิวได้แต่ยิ้มเก้อๆเพราะไม่รู้จะทำไง อันที่จริงเขาเองก็เหนื่อยมากเหมือนกันวันนี้แต่....เขาก็ยังอยากอยู่ต่อ เผื่อว่าบางที......
    มิวเดินเข้าไปในงานพร้อมทั้งมองหาบางสิ่ง...ในขณะที่มีผู้คนมากมายแวะเวียนเข้ามาพูดคุยบ้าง ถ่ายรูปบ้าง ให้ของบ้าง จนการหาบางสิ่งของเขาดูจะสะดุดไปเป็นช่วงๆ
    สุดท้ายมิวก็ไม่เจอ เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายของที่หญิงอยู่
    “หวัดดีหญิง” มิวทักหญิงด้วยท่าทางอ่อนเพลีย
    “เป็นไงมิว ดูเหนื่อยๆนะ” หญิงทักตอบกลับมา
    “เดี่ยวเราว่าจะกลับบ้านแล้วล่ะ วันนี้เหนื่อยทั้งวันเลย หญิงจะกลับพร้อมเรามั้ย” มิวถาม
    หญิงมองดูนาฬิกาก็เห็นว่าเริ่มดึกแล้ว
    “นั้น..”ขณะที่หญิงจะพูดต่อเธอเหลือบไปมองด้านหลังมิว
    “หญิงต้องอยู่ช่วยงานเพื่อนๆก่อนอ่ะ มิวกลับไปก่อนละกันหญิงกลับเองได้”
    “เอางั้นเหรอ” มิวตอบแบบเหงาๆ
    “อื้ม” หญิงยิ้มกลับมาแบบมีเลศนัย...
    .........................
    มิวเดินออกมาจากบริเวณงานเพื่อที่จะออกไปยังหน้ามหาวิทยาลัย
    “มิว”
    มิวหยุดชะงักกับเสียงที่ได้ยิน พร้อมทั้งหันหลังกลับไป
    โต้งในชุดนักศึกษากำลังยืนยิ้มให้เขาอยู่ พร้อมทั้งเริ่มเดินเข้ามาหา
    มิวเองก็เช่นกัน เดินกลับไปหาโต้งพร้อมทั้งรอยยิ้ม
    สุดท้ายแล้วเขาก็เจอจนได้ ...สิ่งที่เขาตามหา...
    “ไงโต้ง” มิวเอ่ยทัก
    “เพลงเพราะดีนะ”
    “เพลงไหนอ่ะ มีตั้งหลายเพลง” มิวยิ้มถามแบบกวนๆ
    “ก็...ทุกเพลงน่ะแหล่ะ”โต้งตอบ
    “เหรอ” มิวเสียงอ่อยลงเล็กน้อย โต้งแอบมองแล้วก็อมยิ้มน้อยๆ
    “แล้วนี่มิวจะกลับบ้านเหรอ”
    “อื้ม”น้ำเสียงมิวยังดูไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่ แต่โต้งก็ยังคงอมยิ้มกับอาการของมิวอยู่
    “นั้นเราไปส่งมิวที่บ้านนะ”
    “จะดีเหรอโต้ง มันดึกแล้วนะ” มิวบอกทั้งๆที่ในใจแอบดีใจอยู่ แต่ก็เกรงใจโต้งอยู่เหมือนกัน
    “ไม่เป็นไรหรอกเราโทรไปบอกที่บ้านแล้วล่ะว่าวันนี้จะกลับดึก อีกอย่างเจอกันวันนั้นยังไม่ค่อยได้คุยกันเลย” โต้งหาข้ออ้าง แต่นั่นก็เป็นความจริง
    “อืม เอางั้นก็ได้ แต่อย่ามาบ่นทีหลังนะ” มิวเริ่มมีรอยยิ้มมาบ้างแล้ว
    แล้วทั้งสองคนก็เดินไปด้วยกัน
    “ไม่ชอบเพลงไหนเป็นพิเศษเลยเหรอ”
    “ไม่นี่ มีไรเหรอมิว”
    “ป่าว”
    “เอ แต่ก็มีอยู่เพลงนึงนะ”
    “เพลงไรอ่ะโต้ง”
    “ก็เพลงของเราไง”
    “แล้วมันชื่อเพลงไรล่ะ”
    “นั่นดิ เพลงไรน้า”
    ……

    ..
    .
    บนเส้นทางนี้มีเพียงเขาสองคน แม้จะมืดบ้างสว่างบ้าง แต่มันก็มีทางให้เขาทั้งสองเดินเคียงกันไป....เพียงแค่นี้ ก็อุ่นใจแล้วไม่ใช่เหรอ?


    ร้านบะหมี่
    “พี่คับ เอาบะหมี่เกี๊ยว 2” โต้งบอกคนขาย
    “แล้วมะกี้โต้งหายไปไหนอ่ะตอนคอนเสิร์ตจบ” มิวเอ่ยถาม
    “อ่อ ก็ทีแรกเรากะว่าจะไปหามิวที่ด้านหลังเวทีน่ะแต่สุดท้ายคนเยอะเกินเราเลยเข้าไปไม่ได้” โต้งบอกตามความจริง
    “เห็นมิวเดินหาอะไรในงานด้วย แต่คนเยอะเลยไม่กล้าเข้าไปหา” โต้งบอกมิว
    “ออ”
    “ดังเลยนะมิว”โต้งแซวพร้อมทั้งยิ้มทะเล้นๆมาให้
    “ไม่อย่างนั้นหรอก โต้งก็ว่าไป” มิวเองก็เขินๆเวลาที่คนพูดถึงตัวเองแบบนี้
    “เอ้า ก็จริงนี่ เอ้อว่าแต่ว่าในงานอ่ะ มิวมองหาอะไรอยู่เหรอ” เสียงโต้งถามเล่นๆแต่สายตากลับมองมิวอย่างต้องการเอาคำตอบ
    มิวสบสายตานั้น ก็พอจะรู้ว่าโต้งรู้อยู่แล้วว่าเขาหาอะไร จึงหลบสายตาโต้งแล้วก็ดูดน้ำในแก้วไปพลางๆ
    “มิวยังไม่ตอบเราเลยนะ”
    “ตอบไรอ่ะโต้ง”
    “ก็ที่เราถามเมื่อกี้ไง”
    “ถามไรอ่ะ” มิวยังแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง พร้อมทั้งก้มหน้าก้มตาดูดน้ำต่อไป จนเกือบหมดแก้วแล้วตอนนี้
    “บะหมี่ เกี๊ยว 2ที่คับ” คนขายยกบะหมี่มาให้แล้วจึงเดินกลับออกไป
    “ยังไม่ตอบเลยมิว”โต้งยังคงคะยั้นคะยอเอาคำตอบจากมิวอยู่
    “ไม่เอาแล้ว กินบะหมี่ดีกว่าหิวแล้ว”
    โต้งยิ้มกับอาการเขินของมิว ก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มกินบะหมี่”ด้วยกัน”
    ......
    ...
    ..
    .


    ซอยเข้าบ้านมิว
    “แล้วช่วงเที่ยงนี่ปกติ มิวกินข้าวที่ไหนเหรอ”โต้งถามขณะที่ทั้งสองคนกำลังเดินเข้าไปในซอย
    “ก็แล้วแต่นะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นโรงอาหารในคณะซะมากกว่า คนไม่ค่อยเยอะดี แต่บางครั้งก็ไปโรงอาหารกลางบ้างนะ ถ้าต้องไปเรียนแถวๆนั้น”
    “ไว้วันหลังเราไปกินข้าวด้วยได้มะ” โต้งเอ่ยออกมาเปรยๆแต่คาดหวังในคำตอบ
    “ก็แล้วแต่โต้งดิ เรายังไงก็ได้” มิวไม่รู้จะตอบยังไง วันนี้โต้งชอบถามหรือทำอะไรจนทำให้มิวไม่กล้าที่จะสบตาด้วยเลย
    “ดีเลย งั้นเราจะโทรไปชวนบ่อยๆนะ” เห็นอาการมิวแล้วโต้งก็อดที่จะแกล้งไม่ได้
    “เอางั้นเลยเหรอ” มิวหันมามองโต้งพลางยิ้มตลกๆ
    “ก็เอางั้นสิ” โต้งตอบกลับมาแบบทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
    “เออ แล้ว พรุ่งนี้มิวว่างมั้ยอ่ะ”
    “พรุ่งนี้เหรอ อืม พรุ่งนี้มีงานบ่ายๆอ่ะ กว่าจะเลิกคงมืดๆแล้ว” โต้งมีอะไรเหรอ
    “ป่าวหรอก เผื่อถ้ามิวว่างกะว่าจะชวนไปดูหนังหน่อยอ่ะ”โต้งดูมีทีท่าผิดหวัง แต่เขาก็เข้าใจเรื่องที่มิวติดงาน
    .............
    ....
    ..
    .
    หน้าบ้านมิว
    มิวก้าวเข้ามาในบ้านแล้วขณะที่โต้งยืนยิ้มส่งให้อยู่หน้าบ้าน
    “ขอบคุณนะโต้ง” มิวเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งยิ้มให้
    “ไม่เป็นไร”โต้งบอกกลับไป
    “นั้นกลับบ้านดีๆนะโต้ง ไว้เจอกันใหม่”
    “เดี๋ยวมิว....” โต้งเอามือล่วงลงไปในกระเป๋ากางเกง มิวเองก็ทำหน้าฉงนและคอยดูว่าโต้งจะทำอะไร
    “อ่ะ..นี่ให้” โต้งหยิบพวงกุญแจตุ๊กตากวางเรนเดียออกมาพร้อมทั้งส่งให้มิว
    มิวรับมันมาพร้อมทั้งยิ้มกว้างมาให้โต้ง
    “อะไรอ่ะ”มิวเอ่ยขึ้น
    “ก็เอ่อ...ของขวัญที่มิวเอ็นติดไง”
    “ขอบคุณนะ”มิวบอกจากใจจริง
    “ไม่เป็นไร” โต้งเอามือเกาหัวตัวเองอย่างเขินๆ
    “นั้น เราไปก่อนนะมิว”
    “อื้ม กลับบ้านดีๆนะโต้ง”มิวโบกมือให้โต้ง ขณะที่โต้งก็โบกกลับมาเช่นกันก่อนที่จะหันหลังแล้วเดินจากไป..
    มิวมองโต้งจนลับหายไปจากสายตาก่อนที่จะปิดประตูบ้าน
    มิวขึ้นไปบนห้องล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยอาการอ่อนเพลียแต่กลับอิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก
    .........
    บนรถเมล์
    โต้งนั่งยิ้มตลอดทางที่กลับบ้าน นั่นยิ่งทำให้ดูมีเสน่ห์มากขึ้นอีกในสายตาของคนที่ผ่านไปผ่านมา
    “ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ” เสียงโทรศัพท์โต้งดังขึ้น
    โต้งหยิบออกมาจากกระเป๋าก่อนที่จะกดเปิดเมจเสสอ่าน พร้อมทั้งรอยยิ้ม
    มันเป็นข้อความจากมิว
    ‘ วันเสาร์เราไม่ว่าง แต่ถ้าเป็นวันอาทิตย์ละก็มีเวลาทั้งวันเลย*-* ’




    มันเป็นคืนวันศุกร์ที่ทำให้หัวใจของเขาทั้งสอง “มีความสุข” ไม่ต้องมีอะไรที่เป็นพิเศษแค่มี”กันและกัน”ก็เพียงพอแล้ว.....
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×