ตอนที่ 7 : ตอนที่ 5
ตอนที่ 5
/โอ้ย ทำไมเรื่องถึงเป็นแบบนี้ เจ้าองค์ชายเก้าน้้นมันลาสบอส ธงหายนะของเรื่องเลยนะ/ ร่างเล็กของวัยสี่ขวบที่ถูกพ่ออุ้มตะเลงกลับจวนอย่างรวดเร็วนั้นได้กลับมานอนแผ่อยู่บนเตียงในห้องของตนอยู่คนเดียว
นอนพลิกไปมาหาหนทางแก้ไขปัญหาที่กำลังจะเกิดในอนาคต
ให้ตายเถอะ นางอยากแต่งให้องค์ชายสามเสียมากกว่า ทำไมกันต้องเป็นองค์ชายเก้าที่ตอนสุดท้ายก่อกบฐแล้วไม่สำเร็จ ทั้งเป็นจอมวางแผนเลวร้ายเหลือเกิด ในเนื้อเรื่องหลักก็ไม่เคยบอกด้วยว่ามาหมั้นกันได้ยังไง รู้เพียงเป็นคู่หมั้นกันตั้งแต่เด็ก แต่ไม่คิดว่าจะเด็กขนาดนี้
/หายนะ หายนะ/ ไม่สามารถหาคำอื่นมาแทนที่ได้แล้ว
/ใจเย็นๆมีมี่ แกต้องคิดหาทางออกอื่นอย่างคนมีปัญญา ไม่นั้นดับอนาตแน่/
ร่างของเด็กน้อยลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิบนเตียงกว้างของตน ปิดดวงตา ผ่อนลมหายใจเข้าออก
/ปิ๊ง/ เหมือนหลอดไฟขนาดใหญ่นั้นถูกเปิดขึ้น รอยยิ้มสดใสกลับมาสู่ใบหน้าอีกครั้ง ร่างเล็กๆนั้นเดินริ้วออกไปนอกเรือน มุ่งหมายไปยังห้องอักษรของบิดาทันที
/ในเมื่อหนีการหมั้นไม่ได้ ต้องเตรียมเก็บเงินไว้เยอะสิ เงินเท่านั้นที่ทำให้เราโบยบินได้/
"ท่านพ่อ" เสียงหวานสดใสเรียกหานายท่านเจ้าของเรือน
"แอ๊ด" บานประตูถูกเปิดขึ้นโดยพี่ชายคนรองของตน ร่างบางพงะไปเพียงเล็กน้อย
/เจ้าตัวร้าย/ คำพูดที่ไม่อาจพูดออกไปได้ จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของพี่ชายตน อย่างนึกเคืองๆ จ้องมองคนที่ทำร้ายเสี่ยวเมา ลงบัญชีหนังสุนัขลำดับหนึ่งเลย
"ซูหมี่คารวะท่านพ่อ ท่านพี่ใหญ่ พี่เจิงยี่"
ร่างของเด็กน้อยวิ่งเข้าหาอ้อมกอดของผู้เป็นพ่ออย่างออดอ้อน
"ทำไมเจ้าไม่ทักทายพี่บ้าง น้องน้อย" ซูจางหย่งทำเสียงโศกเศร้า ทำตาละห้อยมองน้องสาว
"....." ซูหมี่เซมองทางอื่นแทน ทำให้พี่ชายนั้นคอตกที่รับการตอบรับกลับมาจากน้องสาวในทางที่ดี แต่กลับเรียกเสียงหัวเราะของคนที่เหลือได้เป็นอย่างดี
"เจ้ามาหาพ่อมีเรื่องอะไรฮึ เจ้านกน้อย"
"ท่านพ่อ หมี่เออ มีเงินมากหรือไม่" เด็กน้อยถามออกไปด้วยความไร้เดียงสา
"เจ้ามีเงินมากที่สุดลูกรัก รองมาจากฮ่องเต้เพียงเท่านั้น" นายท่านซูจางเหว่ยพูดออกไปอย่างเอาอกเอาใจลูกสาวคนเล็ก
/ทำแบบนี้ไงถึงทำให้ลูกมือเติบ เห้ย เอาเถอะๆ/ มีมี่ทำได้เพียงคิดต่อว่าบิดาใหม่ของตน
"ขอจำเอาพหมี่นตำลึง" เธอยังคงทำหน้าขึงขังแบบไร้เดียงสาใส่บิดา
"เจ้าจะเอาเงินมากมายไปทำอะไรหมี่เออ" ซูหวังเหว่ย พี่ใหญ่ของบ้านออกปากขัดขึ้นเมื่อเห็นท่าที่เอาแต่ใจของน้อง และท่าทีบิดาของตนพร้อมที่จะจ่ายให้อย่างไม่คิดอะไรมาก
"ข้าจะเอา" เด็กน้อยเล่นลูกดื้อไม่บอกเหตุผล
/หากบอกไป ความแตกแน่ๆ ไม่นั้นก็ต้องสงสัยว่าลูกสาวคนนี้โดนผีเข้าหรือไม่/
"หากเจ้าไม่บอกพี่ พี่จะไม่ให้" พี่ใหญ่ยื่นคำขาด
ดวงตากลมโตนั้นจับจ้องพี่ชายแน่นิ่ง หยาดน้ำใสๆเริ่มเคลืบดวงตากวางนั้น
"แหมะ แหมะ" หยาดน้ำใสนั้นถูกรีดออกมา
"หมี่เออ เจ้าจะร้องไห้ โดยไม่มีเหตุผลไม่ได้" คุณชายใหญ่ของบ้านนั้นปรามน้องสาวอย่างเหนื่อยใจ หากเขาไม่ปราม อนาคตข้างหน้า น้องน้อยของเขาต้องนิสัยเสียเป็นแน่
/แย่แล้ว ไม้ตายเล่นกับพี่ชายไม่ได้ แย่มากๆ พี่ใหญ่มาเป็นคนดูแลเรื่องเงินแทนท่านพ่อแล้ว ทำไมข้าไม่คิดก่อนนะเรื่องแบบนี้ ยกย้ายเงินไปเก็บไว้ก่อน"
"ทะ...ท่านพ่อ" เสียงของลูกสาวเรียกความเห็นใจของบิดา ที่ทำหน้าไม่ถูก
"เจ้าใหญ่ เจ้าก็ให้น้องเสียหน่อยสิ เงินเพียงไม่กี่หมื่นตำลึง"
"ท่านพ่อ น้องเพียงสี่หนาว ท่านว่านางควรนำเงินมากมายนั้นไปทำอะไร เรื่องนี้ข้าจะไม่อ่อนข้อให้" พี่ชายคนโตยื่นคำขาดแก่บิดา คนเป็นพ่อก็จนปัญญาช่วยลูกสาว แม้ตนจะเป็นใหญ่นอกจวน แต่เรื่องการค้า และการเงินต่างๆที่บุตรชายได้รับหน้าที่จากมารดาของนั้นมีมากมาย เขาเองก็ไม่อาจแทรกแซงออกความเห็นเรื่องการเงินได้ อีกทั้งบัญชีในจวนตนก็พึ่งมอบหน้าที่ให้สองสามีภริยาคู่นี้ไปดูแลแล้ว เท่านี้ก็เพิ่มภาระให้บุตรชายคนโตมากเหลือเกิน
"ข้า เกลียด ท่านพี่" ใบหน้าเล็กๆนั้นจับจ้องไปยังพี่ใหญ่อย่างโกรธ และพูดคำสามพยางค์ท่าไม้ตายเด็ดขาดออกไป
"....." ซูหวังเหว่ยเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่างไปเสียแล้วตอนนี้ ความเงียบเข้าปกคลุม
"เห้ย พันตำลึงทอง" พี่สะใภ้ใหญ๋ของบ้านพูดออกมาเพื่อขัดตราทัพ
ร่างเล็กของซูหมี่ ปีนลงจากตัดของพ่อ วิ่งหาพี่สะใภ้คนสวย
"พี่เจินยี่" เสียงหวานเรียกออดอ้อน เข้าไปกอดกายร่างบางอรชรนั้น ฝังใบ้หน้าซุกไซ้ เรียกร้อยยิ้มของหญิงสาว
"ไหนคนดีของพี่ น้องจะเอาเงินไปทำอะไรมากมายขนาดนั้น" เจินยี่ประคองใบหน้าเล็กๆนั้นอย่างถะนุถนอม ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาของน้องสาว
"ข้าจะเปิดบ่อน"
"ห๊า/ห๊า/ห๊า/ห๊า" เสียงของคนทั้งสี่คนร้องออกมาพร้อมกันอย่างไม่นัดหมาย
"ใคร ใครมันสอนเรื่องนี้ให้ลูกสาวข้า" บิดาลุกขึ้นตบโต๊ะเสียงดัง
"ท่านพ่อ ท่านพ่อ ลูกพบภาพวาดของเศรษฐีในหนังสือเป็นเจ้าของบ่อนร่ำรวย" ร่างของเด็กน้อยนั้นวิ่งไปที่ชั้นหนังสือเล่มหนึ่งออกจากชั้น หนังสือภาพวาดตลกร้ายในชั้นของบิดา ทำให้ทั้งห้องเงียบลงอีกครั้ง มีเพียงเสียงของบุตรชายและลูกสะใภ้ที่พยายามกลั้มเสียงหัวเราะ
ใบหน้าของบิดานั้นแดงก่ำอย่างห้ามไม่ได้
"อะแฮ่ม พรุ่งนี้ข้าว่าจะเข้าไปเยี่ยมหนิงเฉียงในวัง และก็ปรึกษาเรื่องวุ่นวายวันนี้ด้วย" ซูหมี่เห็นว่าเรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องของตนแล้ว ดึงแขนเสื้อของพี่ชายคนโต แบมือรับตั๋วเงิน ที่พี่ชายหยิบจากแขนเสื้อมอบให้น้องสาวอย่างไม่อิดเอื้อนประการใด และวิ่งออกมาเพื่อให้ผู้ใหญ่ได้คุยกันอย่างรู้หน้าที่
------------
เสี่ยวเมาค่าตัวแพงมาก ยิ่งคอมเม้นไม่มาเรียกหารอไปก่อนน๊า ตอนนี้ขอให้คุณหนูเคลียทางให้น้องเดินสะดวกก่อน อิอิ
ช่วงนี้อาจจะยังไม่สนุก ขอปูเรื่องให้เสร็จก่อนนะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

8 ความคิดเห็น
-
#6 มาร์คึ@น้องแบม (จากตอนที่ 7)วันที่ 17 ตุลาคม 2563 / 14:42ไรมมมมใครคืเสียวเมา#60