ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Undead

    ลำดับตอนที่ #2 : วันแรกพบ ณ โรงเรียนมัธยมปลาย เซนต์วาเลนไทล์ เมาท์เบอร์เว่

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 46
      0
      12 พ.ค. 48

    วันที่ 6 มิถุนายน 2009 ณ โรงเรียนมัธยมปลาย เซนต์วาเลนไทล์ เมาท์เบอร์เว่* เวลา 08.00น.



       เตรงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!! เสียงออดเข้าเรียนดังขึ้น



    \"เฮ้!!! มิน.\"

    เสียงร้องเรียกทักทายผู้ชายผิวสีแทนร่างสูงโปร่งในเสื้อยืดสีแดงเข้ม หมวกแก๊ปสีขาวกับเกงยีนต์สีเก่าๆของเขาที่กำลังหยิบของเข้า-ออกจากตู้ลอกเกอร์ของเค้า



    \"อ้าวเฮ้!!! เคน.\"

    เสียงชายหนุ่มร้องทักตอบเพื่อนชายที่ใส่เสื้อแขนกุดสีเหลือง กับเกงยีนต์สีเข้มเจ้าของผมสีน้ำตาลเข้มตัดผิวขาวๆของเค้า จากนั้นมินก็ปิดล๊อกเกอร์แล้วเดินตรงไปหาเพื่อนรัก ที่ยืนกลางโถงทางเดินเพื่อรอไปเข้าชั้นเรียนการแสดง (คลาสแรกของเทอมนี้)



    \"ไงซัมเมอร์เป็นไงบ้างเพื่อน ?\" เคนถาม

    \"ก็ดีมากๆเลยแหละ นายก็รู้สาวฝรั่งเศษ ... แล้วนายหละ?\" มินถามกลับ

    \"อืมนั่งฟังโอเปร่าทั้งวันเลยหวะ ฉันจะอวกออกมาเป็นเสียงโอเปร่าได้อยู่แล้วเนี้ย\" เคนตอบ

    \"555 คุณย่านายยังร้องเพลงได้อีกหรอ เห็นหูตึงซะขนาดนั้น\" มินแซวด้วยสีหน้าสงสัยแบบกวนๆ

    \"เฮอะๆๆ ก็เพราะเธอได้ยินน้อยลงไง เธอเลยบอกว่า

      

       ....\"ฉันต้องฝึกร้องให้เสียงมันออกมามากกว่านี้แล้วสิ ยิ่งแก่ยิ่งเสียงเบาลงหนะ เคนนี่หลานรัก มาช่วยย่าฟังเสียงหน่อยสิจะ\"....



    \"หึหึไม่รู้เธอคิดได้ไงว่าเสียงเธอไม่ดีแทนที่จะเป็นหูของเธอต่างหากหละ\" เคนตอบพร้อมกับทำหน้าทำปากให้เหมือนคุณย่าของเค้า

    \"อ่านี้เคนซ้ายมือ ห้องนี้แหละ\" มินทัก

    หลังจากนั้นทั้งสองคนก็เดินเลี้ยวเข้าห้องซ้ายมือไป...



       เตรงงงงงงงงงงงงงง!!! เสียงออดเวลา 11.30น. ช่วงพักเที่ยง



       \"ชมรมดนตรีมาลงชื่อสมัครทางนี้เลยครับ ใครสนใจชมรมดนตรีเชิญเลยครับ\"

       \"ชมรมเทควันโดทางนี้เลย...\"

       \"ใครรักความรื่นรมณ์ของสุนทรียแห่งอารมณ์ขอเชิญทางนี้เลยครับ ชมรมของเรายินดีต้อนรับ\"

    เสียงประกาศของรุ่นพี่ตัวแทนแต่ละชมรมเชียร์ให้รุ่นน้องหน้าใหม่ของพวกเค้าเลือกเข้าชมรมที่สนใจแต่ละชมรม ในขณะที่มินกับเคนเดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่ของโรงเรียนที่ตอนนี้กำลังเต็มไปด้วยผู้คนมากมายทั้งรุ่นพี่และรุ่นเดียวกัน ต่างคนต่างเข้าแถวยื่นใบสมัครในชมรมต่างๆกันอย่างอลหม่าน แล้วมินกับเคนก็เดินไปที่บอรืดประกาศรายชื่อชมรมที่มีให้เลือก



       โจอี้ เด็กหนุ่มผิวขาวซีดกับท่าทางกวนเดินเข้ามาทางด้านหลังของ มิน กับ คิมที่ยืนดูรายชื่อชมรมบนบอร์ดประกาศ



    \"เฮ้!!!นายสองคน ฉันโจอี้ปีเดียวกะพวกนาย นายจะเข้าชมรมไรกันหนะ ฉันว่าที่นี้ไม่ชมรมคนหน้าตาดีให้พวกนายอยู่หรอกนะ ยกเว้นแต่นายจะเค้ากับไอ้พวกรุ่นพี่นักบอลห่วยๆพวกนั้นได้อะ หึหึ\"

    เค้าพูดพร้อมส่งสายตาไปทางกลุ่มรุ่นพี่นักบอล ที่มี โรล คิดส์ กัปตันทีมยืนเก็กคุยกะเพื่อนๆในทีมอยู่





    \"อืมหรอเราก็ไม่ได้อยากเข้าชมรมคนพวกนั้นหรอก\" มินพูด

    \"คือเราใช้สมองเป็นหนะ และก็อยากใช้ด้วย\" เคนเสริมแบบยิ้มๆ

    \"555+ ฉันรู้ ฉันรู้ ฉันถึงเข้ามา...\" โจอี้ยังพูดไม่จบก็มีเสียงหนึ่งดังแทรกเข้ามา

    \"นี้นายสองคน\" คิดส์เดินเข้ามาหาเคนและมิน

    \"พวกนายหน่วยก้านดีหนิ สนใจชมรมฟุตบอลของเรามั้ย อะฮ้าพวกนายต้องสนใจอยู่แล้วหละเพราะพวกขี้แพ้เท่านั้นที่อยู่ชมรมอื่น\" คิดส์พูด

    \"รู้สึกจะยกเว้นชมรมกีฬาว่ายน้ำของฉันนะ คิดส์ และอีกอย่างปีที่แล้วนายก็แพ้ไม่เป็นท่าเลยนี้\" โจอี้พูดด้วยท่าทีกวนสุดๆ

    \"อ่อและอีกอย่างนะพวกสองคนนี้ก็ลงเข้าชมรมฉันเรียบร้อยแล้ว อาจารย์แมกเวลส์ต้องไม่ปฏิเสธที่ฉันเอาสองคนนี้เข้าทีมแน่ๆๆ\"

    โจอี้พูดประโยคสุดท้ายพร้อมกระพริบตาเป็นเชิงบอกให้สองคนนั้นรู้ว่าเงียบๆไว้แล้วจะไม่ต้องเข้าชมรมคนขี้โม้นั้น



    \"เออออ แล้วฉันจะดูความเน่าของชมรมแกปีนี้ ไอ้เด็กเผือก\" คิดส์พูดเสียงเรียบเย็นใส่ โจอี้และเดินจากไป

    \"หึหึดูชมรมฉันอย่าลืมดูชมรมนายเองหละ ไม่อยากให้ชมรมนายเป็นเหมือนปีที่แล้วหนะ\" โจอี้พูดลอยๆ ทำหน้ากวนๆใส่ไปทางคิดส์ที่พึ่งเดินจากไปพร้อมกับหน้าเกร็งๆบ่งบอกว่าโมโหของเค้า

    \"นายกล้ามากนะที่พูดกับกัปตันทีปฟุตบอลอย่างนั้นได้อะ ว่าแต่นายคงไม่ยัดเราเข้าชมรมว่ายน้ำจริงๆหรอกช่ายมะ\" เคนถามพร้อมกับทำหน้าสงสัย

    \"555+ ไม่หร๊อก เพราะฉันใส่ชื่อมินไว้คนเดียวอะ ในฐานะที่เค้ามีประวัติที่ดีเกี่ยวกับกีฬาว่ายน้ำหนะ ... แต่ถ้านายอยากเข้าด้วยก็ได้นะลองสมัครดูสิฉันจะบอกอาจารย์แมกเวลส์ให้พิจารณานายเป็นพิเศษ\" โจอี้พูด

    \"เอะ แต่เดี๋ยวก่อนฉันไม่ต้องลงชื่อหน่อยหรอ\" มินถาม

    \"เฮ้ มินนายจะเข้าชมรมนี้จริงๆหรอ ... คือฉันว่ายน้ำไม่เป็นนายก็รู้\" เคนร้องทัก

    \"เอ่อ ฉันสนใจอะ ความจริงนายว่ายไม่เป็นแต่นายก็ว่ายได้แหละหน่าแล้วเดี๋ยวฉันสอนนายเอง นะนะนายลงชมรมนี้กับฉันนะ ฉันจะได้มีเพื่อน\" มินอ้อนวอน

    \"เอางั้นหร่อ ??? ... อืมมมมมมมม อืม อืม ก็ได้ ก็ได้นายต้องสอนฉันนะ\"



    \"ว่ายน้ำอะไม่ยากหรอก อะนี้ใบสมัครชมรมเราจะมีการทดสอบของผู้สมัครรวมทั้งนายด้วยนะ มิน ในวันจันทร์หน้าเตรียมตัวให้ดีหละ\" โจอี้บอกพร้อมยืนใบสมัครให้เคน

    \"อ่อส่วนถ้าเรื่องนายจะขอใช้สระว่ายน้ำซ้อมหละก็ นายบอกฉันได้ว่าจะซ้อมดึกขนาดไหนเพราะเดี๋ยวฉันช่วยเลทเวลาได้ กุญแจอยู่กะฉันหนะ นายจะได้ซ้อมได้หนักหน่อยสำหรับคนที่ว่ายไม่เป็นอย่างนายอะนะ เออว่าแต่ฉันยังไม่รู้จักชื่อนายเลย\"

    \"อ่อเราเคน ยินดีที่ได้รู้จักโจอี้ และขอบใจมากเรื่องชมรม\" เคนพูด

    \"เออยินดีรู้จักเหมือนกันนายสองคนเลย งั้นมิน เคนนายไปนั่งกินข้าวกะพวกฉันละกัน\"

    \"นายมีเพื่อนด้วยหรอ ฮิฮิ\" เคนกับมินพูดพร้อมกัน

    \"555+ ถึงฉันดูบ้าๆแต่ก็เพื่อนเยอะโว้ย ปะเดี๋ยวฉันจะแนะนำเพื่อนให้รู้จัก\"

    \"ดีเลย ฉันชอบรู้จักผู้คน\" มินพูด

    \"โดยเฉพาะสาวๆหละสิ ฮะฮะ\" เคนเสริม



       แล้วทั้งสามคนก็เดินออกจากห้องโถงกลางเข้าสู้ทางเดินไปยังโรงอาหาร



    \"ฉันว่าเค้าต้องจัดการกับเกรเกรฟว*ใหม่ได้แล้วนะ\" เสียงหญิงสาวผมบรอนซ์นั่งใกล้หน้าต่างพูดขึ้น

    \"ฉันไม่เข้าใจเรเวนล์จริงๆ ที่จะให้ใครต่อใครเชื่อว่าพื่นที่ตรงนั้นเป็นทางเข้าไปใต้หุบเขาตามที่บริษัทควีน*เฮงซวยไรนั่นมันบอกจริงๆ\" ผู้ชายร่างท้วมเอ่ยขึ้น

    \"นั่นสิแค่เห็นว่ามันทรุดตัวลงไปมากหน่อยก็ตื่นเต้นกันไปซะยกใหญ่ ...แล้วไหนจะยังที่ว่ามันเชื่อมมาถึงตัวร.ร.เราอีกนี้สิที่ฉันเซ็ง\" หญิงสาวอีกคนเสริม

    \"นั่นก็เพราะพื้นปูนร.ร.เรามันเป็นรอยร้าวใหญ่เลยนะสิ\" เสียงหนึ่งลอยมา

    \"อ่าวโจอี้\" ทั้งสามคนทักเพื่อนผิวเผือกของเค้าที่กำลังถือถาดอาหารมาพร้อมกับผู้ชายแปลกหน้าอีกสองคนที่ถือถาดอยู่เช่นกัน  

    \"ไงนึกว่าจะมัวหาคนเข้าชมรมใหม่อยู่จนไม่มากินข้าวซะอีก\"



       แล้วโจอี้ก็แนะนำเพื่อนใหม่อีกสองคนให้กับเพื่อนๆในกลุ่มนั้นรู้จัก



    \"นี้ริน\" โจอี้พูดพร้อมวาดมือไปทางหญิงสาวผมบรอนซ์ตรงประบ่าตาโตที่นั่งใกล้หน้าต่างและกำลังมองมายังเพื่อนใหม่สองคน

    \"เจน\"  และตอนนี้โจอี้วาดมือไปทางหญิงสาวผมน้ำตาลลอนหน้าเข้มที่กำลังยิ้มทัก

    \"และโดมินิก\" โจอี้นแนะนำชายหนุ่มร่างท้วมตกกระเต็มหน้าชมพู ชมพูของเค้าที่กำลังยิ้มทักเช่นกัน

    \"ส่วนนี้คือมินกับเคน ทั้งสองคนย้ายมาจากไรซ์ซิตี้*เอ่อซิตี้ฟอล*หนะและพวกเขากำลังจะเข้ามาอยู่ในชมรมว่ายน้ำของฉันด้วย\" โจอี้แนะนำ

    \"วามิน รีออชนะหรอโหตัวจริงหรอเนี้ยฉันพึ่งเคยเห็นหน้า หล่อหว่าที่ฉันคิดอีกนะเนี้ย\" โดมินิกพูดด้วยท่าทางกระปรี่กระเปร่า

    \"ใช่คนที่ฉันเล่าให้ฟังอะแหละ\" โจอี้เอ่ย

    \"ขอบคุณนะครับ ท่าทางทุกคนจะรู้จักผมดีเลยนะ\" มินพูดพร้อมยิ้มนิดๆ

    \"ก็นายดังนี้น่า\" เคนสวนและก็พูดต่อว่า \"ถ้าฉันว่ายน้ำไปช่วยคุณมิ้งออกมาจากโรงเก็บเรือที่จะระเบิดอีก 2-3 วิ.อย่างนายฉันก็คงดังไปแล้ว\"

    \"แล้วหลังจากไรซ์ซิตี้กลายเป็นซิตี้ฟอลแล้วนายจะช่วยชีวิตคนได้ยังไงถ้าไม่ว่ายน้ำเข้าไปหละ\" มินพูดกับเคน

    \"นายกล้าหาญมาก น้ำที่นั่นเย็นจะตายไม่ใช่หรอ...ความจริงควีนฮันนีมูน*ก็คงไม่ปล่อยให้ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องเป็นอะไรหรอกนะฉันว่า\" รินพูด

    \"อืมพูดถึงควีนฮันนีมูน นี่รู้รึเปล่าว่าเธออายุเท่าไหร่แล้ว\" เจนถามด้วยแววตามีเลศนัยว่ารู้อะไรดีๆมา

    \"ฉันว่า 27 มั้ง\" โดมินิกตอบ

    \"ฉันว่าเธออายุเท่าไหร่ไม่สำคัญหรอกแต่ตอนนี้ที่สำคัญคืออีก 3 นาทีเราต้องเข้าเรียนกันได้แล้วนะ\" รินพูดพร้อมเลื่อนเก้าอี้ลุกออกจากโต๊ะพร้อมถาดอาหารที่ว่างปล่าวของเธอ



       หลังจากนั้นทุกคนก็ลุกตามเธอเอาถาดอาหารไปเก็บ แล้วทุกคนก็แยกย้ายไปเรียนหลังจากนัดกันว่าตอนเย็นจะไปเจอกันที่ลานหน้าหอหลังจากเรียนเสร็จ บ่ายนี้รินกับเจนแยกไปเข้าชั้นเรียนภาษาฝรั่งเศษ ส่วนเคน มินและโดมินิกไปเข้าชั้นเรียนประวัติศาสตร์ และโจอี้เข้าชั้นเรียนดาราศาสตร์ และนั่นทำให้มินกับเคนได้คุยกะโดมินิกมากขึ้นและได้รู้ว่าโดมินิกเป็นรุ่นพี่ของพวกเค้าแต่โดมินิกค่อนข้างไม่ฉลาดนักจึงต้องเรียนซ้ำอีกปี เค้าเลยบอกกับมินและเคนว่าจะเป็นคนพาทัวร์ให้ทั่วส่วนของหอพักซึ่งมีพื้นที่ตั่งแต่ลานทางเดินยื่นยาวจากตัวร.ร.ไปถึงส่วนของตัวตึกหอพัก โดยส่วนนี้มี 2 ส่วนสำหรับแยกหอหญิง หอชายแต่ยังคงมีส่วนเชื่อมต่อกันด้วยห้องโถงในชั้นหนึ่งซึ่งจะมีร้านค้าไว้บริการแก่นักเรียนอีกด้วย

       ในชั้นเรียนประวัติศาสตร์ทั้งห้องได้รู้จักเพื่อนใหม่อีก 2 คนจากการที่อาจารย์บัคเวนด่าผู้สอนวิชานี้ให้มินและเคนแนะนำตัวหน้าห้องทีละคน บ่ายนี้เป็นบ่ายที่น่าเบื่อเสียเหลือเกินมินคิดและหันไปมองหน้าเพื่อนอีกสองคนของเค้าโดยเคนก็ทำท่าเบื่อเช่นดังที่มินคิดไว้ แต่ส่วนโดมินิกกับตรงกันข้ามเขาดูกระตือรือร้นในการเรียนมากเขาทั้งจดและฟังที่อาจารย์บัคเวนด่าพูดอย่างตั้งอกตั้งใจจริงๆ แต่ก็ไม่น่าแปลกที่จะเห็นคนที่ต้องเรียนซ้ำชั้นต้องทำอย่างนั้นเพราะคงไม่มีใครอยากเรียนซ้ำชั้นหลายรอบนักหรอก หลังจากเลิกเรียนคาบที่หน้าเบื่อของวันไปและ คาบสุดท้ายมินกับเคนต้องแยกกับโดมินิกเพื่อไปเข้า













    (ยังไม่มีไรน่าสนใจอ่านะ แล้วค่อยต่อละกานวันนี้ง่วงแล้ว อีกอย่างเรื่องนี้คงไม่ยาวมากเพราะคิดออกมาอยากให้เป็นหนังหนึ่งเรื่องได้อะ ไม่อยากให้ยาวมาก อิอิ ลองดูวิธีการเขียนผมไปก่อนะงั๊บแล้ววิจารณ์ด้วยนะงั๊บของคุง เพิ่งเคยเขียนครั้งแรกอะครับ ฝันดีทุกชีวิตในซีกโลกที่กำลังมืดมิดอยู่ตอนนี้นะครับ)

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    *  - โรงเรียนมัธยมปลาย เซนต์วาเลนไทล์ เมาท์เบอร์เว่ (St.Valentine Mount.Berve\' Highschool) เป็นโรงเรียนในเครือสถาบันเดอะคิงครอสเมาท์เบอร์เว่ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดและดีที่สุดในรัฐคิงครอส โดยประกอบด้วย โรงเรียนอนุบาลเมาท์เบอร์เว่/โรงเรียนประถมเมาท์เบอร์เว่/โรงเรียนมัธยมต้น เซนต์วาเลนไทล์ เมาท์เบอร์เว่/โรงเรียนมัธยมปลาย เซนต์วาเลนไทล์ เมาท์เบอร์เว่/มหาวิทยาลัยคิงครอสเมาท์เบอร์เว่ โดยโรงเรียนอนุบาลและโรงเรียนประถมอยู่ในตัวเมืองเมาท์เบอร์เว่ห่างออกมาจากทางหุบเขามากซักหน่อย ส่วนโรงเรียนมัธยมทั้งต้นและปลายอยู่ลึกเข้ามาในหุบเขาอีกหน่อยซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกันเป็นสองโรงเรียนใหญ่ และมหาวิทยาลัยนั้นตั้งอยู่ห่างออกมาทางชาลเมืองนอกหุบเขา

    *  - เกรเกรฟว (Gray Grave) เป็นสุสานเก่าแก่อีกฝากนึงของหุบเขา เมาท์เบอร์เว่ ฝากตรงข้ามกับที่ตั้ง โรงเรียนมัธยมปลาย เซนต์วาเลนไทล์ เมาท์เบอร์เว่พอดี สุสานนี้เป็นสุสานที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่รกทึบและทุกๆพื่นที่เต็มไปด้วยหลุมศพหมดแล้วไม่มีการฝังศพใหม่ลงไปมากกว่าอย่างน้อยร่วมหลาย 1000ปีถูกคนพบโดยนักสำรวจชาวอังกฤษ ริชาร์ด ชาร์ล เบอร์เว่ จึงเป็นที่มาของชื่อหุบเขาที่ห้อมล้อมสุสานนี้นั่นเอง ปัจจุบันเจ้าของพื้นที่คือครอบครัว เรเวนล์ แต่ครอบครัวเรเวนล์ยกให้กับทางรัฐบาลเพราะเป็นสุสานเก่าแก่คิดว่าไม่มีประโยชน์อะไร แต่หลังจากรัฐบาลส่งนักสำรวจไปตรวจพื้นที่ก็เกิดสิ่งแปลกประหลาดเกิดขึ้นกับคนสำรวจหลายคนจนคลุ้มคลั่ง เกิดกระแสความกลัวลำลือออกไปทำให้สุสานแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขนหัวลุกที่สร้างชื่อให้กับเมาท์เบอร์เว่ไปโดยปริยาย แต่ทางรัฐบาลสั่งปิดกั้นอณาเขตห้ามเข้าไว้ หลังจากนั้นครอบครัวเรเวนล์จึงขอผืนดินคืนเพื่อที่จะเป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ดูแลสุสานนี้เมื่อเห็นว่าสามารถกอบโกยรายได้มากมายมหาศาลจากความกลัวอันสิ้นเปลืองของผู้คนแต่ก็ทำได้แค่สร้างที่พักอีกฝากของฝั่งแม่น้ำให้นักท่องเที่ยวมาลิ้มลองบรรยากาศแห่งความวังเวงของสุสานนี้ เท่านั้น เพราะไม่มีลูกจ้างคนไหนกล้านำนักท่องเที่ยวเข้าไปบริเวณนั้นเลยแต่ถึงไม่ได้เข้าไปข้างในนักท่องเที่ยวก็ยังคงมากอยู่ซึ่งทำให้ธุรกิจในแถบนี้เริ่มเจริญรุ่งเรืองจากการหลั่งไหลของนักท่องเที่ยว และตอนนี้ลูกหลานรุ่นที่13 ครารอส เรเวนล์ นายใหญ่ของครอบครัวเรเวนล์ตอนนี้กำลังทำสัญญาที่ดินตรงนั้นกับทางบริษัทควีนโคเปอร์เลชั่นเพื่อขุดเข้าไปทางสุสานเพื่อค้นหาความลี้ลับบางอย่างที่คิดว่าเป็นประตูซุกซ่อนใต้หุบเขาเมาท์เบอร์เว่แห่งนี้ไปสู่หนทางแก้ปริศนาที่เกิดขึ้นได้

    * - บริษัทควีนโคเปอร์เลชั่น (Queen Coperation) เป็นบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ที่มีธุรกิจหลายตัวอยู่ในกำมือโดยธุรกิจหลักเป็นธุรกิจด้านอาวุธสงครามทั้งอาวุธชีวภาพ อาวุธอิเล็กทรอนิกส์ และอาวุธมหาประลัยต่างๆ ทั้งยังเป็นองกรณ์ที่มีกองทัพเป็นของตัวเอง และยังทำงานวิจัยต่างๆด้านวัตถุโบราณ ของศักสิทธิ์ล้ำค่า และยังทำงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ต่างๆมากมายทั้งยวดยานพาหนะ หุ่นยนต์ นวัตกรรมล้ำสมัยมากมาย ศึกษาสมรรถภาพขีดความสามารถของมนุษย์ โดยมีรัฐบาลหนุนองกรณ์ไว้อย่างแข็งแรงเนื่องจากต้องการต่อกรกับองกรณ์ของควีนฮันนีมูนที่กำลังเป็นภัยต่อรัฐบาลอย่างรุนแรงเนื่องจากได้ครอบครองเมืองท่าที่สำคัญของประเทศเอาไว้ะ

    * - ไรซ์ซิตี้ (Rise City) เมืองท่าที่สวยงามและสำคัญที่สุดถ้าใครอยากได้สถานที่พักผ่อนอันน่ารื่นรมณ์ก็ต้องมาหาความสุขในวันสบายๆที่เมืองไรซ์นี้ เพราะทั้งเมืองมีตัวเมืองในแผ่นดินและยังมีทั้งเกาะแยกออกไปจากแผ่นดินให้ดื่มด่ำบรรยากาศแห่งเมืองกลางทะเลอย่างเต็มที่พร้อมกับทั้งเมืองเต็มไปด้วยคาสิโนมากมายและยังมีแหล่งชอปปิ้งใหญ่โตทั่วเมือง แค่ต้องระวังอย่างเดียวก็คือพวกแก๊งค์มาเฟียร์เท่านั้นเอง

    * - ซิตี้ฟอล (City Fall) หลังจากที่เมืองไรซ์รุ่งเรืองถึงขีดสุดก็ต้องพบกับปัญหาใหญ่หลวงเมื่อเมืองนี้เต็มไปด้วยมาเฟียร์เหล่าประชาชนก็ต้องเดือดร้อนโดยที่รัฐบาลไม่มีทางช่วยอะไรได้เพราะอำนาจที่มาเฟียร์ครอบครองนั้นสามารถแทรกแซงเข้ารัฐบาลจนสำเหร็จยึดอำนาจอย่างเงียบเชียบแต่เมืองก็ต้องพินาศลงเมื่อการล้างแค้นและไถ่บาปสุดอหังกาได้เกิดขึ้นเมื่อสาวน้อยผู้หนึ่งได้รวบรวมกำลังผู้ต่อต้านรัฐบาลที่ตกอยู่ใต้อำนาจมาเฟียร์มารวมพลังปราบเหล่าทรชนให้หมดไปโดยเริ่มจากไรซ์ซิตี้นั่นเอง จนในที่สุดเธอสามารถยึดไรซ์ซิตี้ได้และตั้งชื่อให้ใหม่ว่าซิตี้ฟอลและสั่งห้ามคนในรัฐบาลเข้ามายุ่งเกี่ยวในเมืองนี้อีกพร้อมกับให้อพยพผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกนอกเมืองไปด้วยเพราะเธอจะทำลายทุกมุมเมืองให้เป็นจุล

    * - ควีนฮันนีมูน (Queen Honeymoon)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×