คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : (sf) Because of you – Taeten
Title : Because of you
Author : LittleG
Pairing : Taeten
Request by : -
About it : ฟิคสั้นเซตนี้มีทั้งหมด 4
ตอนนะคะ คือ Back to you / Sorry that I walked away / Because of you /
Stay in my life แนะนำให้อ่านให้ครบจะได้อรรถรสมากกว่าค่ะ
ตอนนี้จะเป็นตอนสุดท้ายนะคะ
โดยจะเล่าเหตุการณ์ออกมาให้อยู่ในมุมมองของแทยงค่ะ! และในที่สุดก็จะจบเซตนี้ไปได้อย่างสวยงาม
;_; แนะนำให้ค่อยๆอ่าน ค่อยๆซึมซับความรู้สึกของตัวละครนะคะ
ไหนๆก็ตอนจบแล้ว
เราอยากจะบอกว่าทั้ง 4 ตอน เราได้รับแรงบันดาลใจจากเพลง 4 เพลงค่ะ นั่นคือ Back2u
, Yestoday , Stay in my life (โดยแทยง โดยอง แทอิล) และเพลง Because of you (โดยแทอิล)ค่ะ
และแรงบันดาลใจอีกอย่างคือคลิปไลฟ์ที่ลูคัสจับมือเตนล์ค่ะ (กรี๊ดดดด
ตอนดูคือเขินมาก!) ประกอบกับสีหน้าแทยงตอนมองเตนล์
คือแบบ..พอพลอตผุดขึ้นมาในหัวก็รีบวางพลอตรีบแต่งทันที ;_;
ปล.
เรื่องทั้งหมดเกือบ 90% เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง
โปรดใช้จักรยานในการรับชม
-
- - - - | | - - - - - | | - - -
ปัง!!
เสียงปิดประตูที่ดังสนั่นทำให้ลีแทยงสะดุ้งตื่นขึ้นมา..ดวงตาคมเหลือบมองน้องชายร่วมห้องผู้ซึ่งเดินดุ่มๆทิ้งตัวลงนอนบนเตียง
เขาหยัดตัวลุกขึ้นอย่างยากลำบาก..อาการป่วยที่รุมเร้าทำให้รู้สึกปวดหัวเหมือนโลกหมุนเคว้งจนเกือบล้มไปเสียหลายครั้ง
หากแต่เพราะคนตรงหน้า..
เพราะคนตรงหน้าคือเตนล์
แม้ว่าจะเดินแทบไม่ไหว..แต่ก็เป็นห่วงอีกคนเกินกว่าจะนอนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ต่อไป
ไหล่ของเตนล์สั่นมากเสียจนเขาต้องเอื้อมมือไปสัมผัสเบาๆ
รู้สึกเจ็บปวด
“แจฮยอนโทรมาอีกแล้วเหรอ”
เตนล์พยักหน้า แทยงหลุบตาต่ำ..ปิดซ่อนความรู้สึกที่กำลังฉายชัดในดวงตาเอาไว้ไม่ให้เตนล์รู้
“เอาน่า
น้องมันคงอยากได้กำลังใจนะ ไปถ่ายทำที่สตูดิโอคงเหนื่อย” ตบบ่าเล็กเบาๆ
แล้วโน้มตัวลงกอดคนตัวเล็กที่สะอื้นหนักขึ้น
แถวยังโผตัวเข้ากอดเขาแน่นจนเขารู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก
แต่ไม่เป็นไร..เพื่อเตนล์เขาทนได้
“แจฮยอนไม่เคยเข้าใจความรู้สึกผม
เขาไม่ควรโทรมา..ไม่ควร” คนตัวเล็กสะอื้นฮักปานจะขาดใจ..ในขณะที่เขาก็ทำได้เพียงลูบหัวคนในอ้อมกอด
พยายามปลอบใจไม่ให้ใครอีกคนร้องไห้หนักไปกว่านี้
อยากจะบอกว่าไม่เป็นไร..อยากจะโอบกอดเอาไว้ไม่ให้แหลกสลาย
เตนล์ร้องไห้หนักเหมือนกับทุกๆครั้งที่ผ่านมา
เขาลอบมองอีกคนอยู่บ่อยครั้ง
พยายามลูบหัวลูบหลังหวังแค่ว่าอีกคนจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
ใช่..เขาทำได้แค่นั้น
ลีแทยงทำได้แค่นั้น
....
เตนล์หลับไปแล้ว
เขาจัดท่านอนให้เตนล์เพื่อที่คนตัวเล็กจะได้หลับสบาย
ก่อนที่จะหยัดตัวลุกขึ้นมาเพื่อเดินกลับไปยังเตียงของตัวเอง
ทว่า..
ตุบ!
ร่างทั้งร่างกับทรุดลงไปนั่งกับพื้นไร้เรี่ยวแรงจะก้าวเดินหรือแม้แต่ยืนก็ยังยากเกินไป
แทยงแค่นหัวเราะในลำคออย่างแผ่วเบา
เพียงแค่เห็นเตนล์ร้องไห้จะเป็นจะตายเขาก็ลืมอาการปวดหัวไปจนหมดสิ้น
ลืมไปแล้วว่าตัวเองกำลังป่วย..เขาพยายามพยุงตัวเองขึ้นอย่างช้าๆ
แม้ว่าจะรู้สึกปวดหัวหนึบจนแทบทิ้งตัวลงนอนบนพื้นให้รู้แล้วรู้รอด
แต่..ด้วยลักษณะนิสัยส่วนตัวที่เกลียดความพ่ายแพ้
เขาจะไม่ยอมมานอนกองอยู่บนพื้นแบบนี้
ไม่ยอมพ่ายแพ้ต่ออาการป่วยจนหมดรูป
ความพ่ายแพ้เพียงอย่างเดียวที่เขายอมรับ..คือเรื่องของเตนล์
เขาคลานกลับไปที่เตียงด้วยความทุลักทุเล
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา..เหม่อมองรูปคู่ของเขากับคนตัวเล็กที่ถ่ายเก็บไว้ตั้งแต่สมัยยังเป็นรุกกี้ก็ได้แต่ยิ้มบาง
รอยยิ้มของเตนล์ที่สดใส..เป็นดั่งแสงอาทิตย์ของเขา
แต่..ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่ท้องฟ้าเริ่มหมองหม่น
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ดวงอาทิตย์ของเขาไม่ส่องแสงเจิดจ้าอีกต่อไป
ตั้งแต่เมื่อไหร่..ที่เตนล์เริ่มมีน้ำตา
เขาปิดโทรศัพท์ลง..วางมันไว้ที่หัวเตียงแล้วปิดเปลือกตาลงเพื่อพักผ่อน
จนกระทั่งในเวลาเที่ยงคืน..เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กที่นอนอยู่เตียงข้างๆกันยังคงอยู่ในห้วงนิทราก็ถอนหายใจ
เขาจัดการห่มผ้าให้คนตัวเล็กหลังเห็นมันกองอยู่ตรงปลายเตียง
ก้าวขาเดินตรงไปยังประตูเมื่อรู้สึกว่าอาการป่วยของเขามันทุเลาลงพอสมควร..
แจฮยอนยืนอยู่ตรงหน้า
เจ้าเด็กตัวขาวที่เป็นสาเหตุของน้ำตานั่น
“แทยงฮยอง
ผมขอเข้าไปหาเตนล์ฮยอ---“
“ไม่
แจฮยอน..ฉันจะไม่ปล่อยให้นายเข้าไป”
เขาพูดแทรกขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ว่าเจตนาของแจฮยอนคืออะไร เงยหน้าขึ้นสบตากับรุ่นน้องคนสนิทด้วยสายตาที่ฉายแววจริงจังเหมือนกับทุกครั้ง
เขาปล่อยให้แจฮยอนเข้าไปไม่ได้..ไม่มีทาง
“แต่ผม..”
นัยน์ตาของเด็กตัวสูงสั่นไหว
“เตนล์ร้องไห้”
แทยงกำมือแน่นเมื่อพูดประโยคนี้ออกมา
แต่เขาก็พยายามกลั้นความรู้สึกร้อนรุ่มในอกที่อยากจะฉีกคนตรงหน้าเป็นชิ้นๆ
พยายามกล่อมตัวเองให้ใจเย็น..อย่าให้ความโมโหครอบงำทุกๆสิ่ง
“ผม..”
“อย่างน้อย..นายควรรอให้เตนล์ตื่นก่อน”
แจฮยอนนิ่งไป..
“ครับ
ผมจะรอ”
เขาพยักหน้ารับแล้วเดินไปดูหนังกับพวกยูตะที่นั่งล้อมวงกันอยู่เต็มโซฟาและพื้น
เขาหย่อนตัวนั่งลงข้างๆเพื่อนรักอย่างจอห์นนี่..สายตาจับจ้องไปยังจอแก้วทว่าจิตใจกลับล่องลอยไปไกลแบบกู่ไม่กลับ
ได้ยินเสียงเปิดประตู
ก็รู้ตัว..ว่าแจฮยอนคงแอบเข้าไปในห้องของเขาและเตนล์เหมือนที่เคยทำมาโดยตลอด
เขาน่ะ..รู้จักทั้งคู่ดียิ่งกว่าใคร
มือแกร่งกำแน่นจนเห็นเส้นเลือด
ไอยูตะที่นั่งอยู่บนพื้นลุกขึ้นยืนหันหน้ามาตบบ่าเขาจนดังแปะๆ
มันชี้ไปที่ห้องของมันซึ่งไม่มีใครอยู่เพราะเจ้าของห้องทั้งสามคนมากองกันอยู่ตรงห้องนั่งเล่นจนหมด
“กูรู้ว่ามึงโกรธ
ถ้าไม่พอใจ..ห้องกูเลยเพื่อน อาละวาดได้เต็มที่..แต่เก็บกวาดเองนะ”
“เออ
ขอบใจ” กอดมันไปหนึ่งทีก่อนเดินเข้าไปในห้องของเพื่อนรักอย่างว่าง่าย อย่างแรกที่ทำในทันทีที่เดินเข้าไปคือกดล็อคห้องให้เรียบร้อย
คว้าหมอนและของต่างๆขึ้นมา..ใส่อารมณ์โยนมันอย่างแรงจนกระจัดกระจายไปทั่วห้อง
ไม่เว้นแม้แต่สิ่งของต่างๆที่กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น
“โธ่เว้ย!”
เขาไม่ใช่คนที่โมโหแล้วชอบทำลายข้าวของ
แต่ทั้งหมดนี่..เตนล์คือต้นเหตุ
เตนล์ยังคงเป็นข้อยกเว้นสำหรับเขาเสมอ
แทยงค่อนข้างจำวันนั้นได้ดี..มันเป็นวันที่เขาไปพูดคุยเรื่องบางอย่างกับแจฮยอน
เขาจำได้ว่าวันนั้นตัวเองเดินตามเตนล์ออกมาจากในหอ..เขาได้ยินตั้งแต่เตนล์บอกแทอิลฮยองว่าจะออกมาหาเพื่อนข้างนอก
เพื่อนอะไรล่ะ..นอกจากพวกเขาแล้วเตนล์ก็ไม่มีเพื่อนชาวเกาหลีคนอื่นหรอก
บอกแล้ว..เขารู้จักเตนล์ดีกว่าที่เตนล์รู้จักตัวเองเสียอีก
ออกไปหาเพื่อนข้างนอกงั้นเหรอ..? มันไม่ใช่คำโกหกที่เนียนเลยสำหรับเตนล์
เขาเดินตามเตนล์ตั้งแต่ออกจากหอจนคนตัวเล็กเดินผ่านหน้าร้านกาแฟที่อยู่ไม่ไกลกันนัก
ข้างในมีฮันซลฮยองซึ่งไม่ได้เจอกันนานนั่งอยู่โดยบังเอิญ..เตนล์เดินเข้าไปขอนั่งร่วมโต๊ะด้วยซึ่งคนอายุมากกว่าก็ไม่ได้ขัดอะไร
เขาอยากจะไปนั่งด้วยใจจะขาด
แต่..เขาต้องเข้าบริษัท เมื่อไม่กี่นาทีก่อนเมเนเจอร์ฮยองพึ่งโทรหาเขาให้เข้าร่วมการประชุมเกี่ยวกับการโปรโมตในครั้งหน้า
จนเมื่อเวลาเกือบเย็นเขาเดินเข้าไปในห้องซ้อม..ในนั้นมีแจฮยอนที่กำลังซ้อมเต้นอย่างเอาเป็นเอาตาย
เขาทรุดตัวนั่ง..เห็นรุ่นน้องตัวขาวมองมาครู่หนึ่งก่อนหันกลับไปซ้อมเหมือนเดิม
จนเมื่อเพลงจบลง..แทยงหยิบน้ำที่วางอยู่ข้างๆยื่นให้ใครอีกคนในห้อง
ซึ่งแจฮยอนก็รับไว้แล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆเขาทันที
“แจฮยอน..”
“ครับ”
“มีอะไรจะปรึกษาฮยองรึเปล่า”
.......
แจฮยอนพูดเรื่องทุกอย่างที่ค้างคาอยู่ในใจออกมา
เล่าให้เขาฟังว่าอีกฝ่ายเจออะไรมาบ้าง เล่าให้ฟังถึงความเห็นแย่ๆเกี่ยวกับ ‘Jaeten’
ของพวกเนติเซ็นเกาหลี
เล่าให้ฟังว่ามีคนกลุ่มหนึ่งพยายามโจมตีพวกเขาเพราะเชื่อว่าแจฮยอนกับเตนล์มีซัมติงกันจริงๆ
คุณรู้ใช่มั้ย..ประเทศเกาหลีไม่ได้เปิดรับเรื่องเพศที่ 3 ขนาดนั้น
แม้จะไม่ได้ประกาศให้โลกรู้ว่าเป็นอะไรกัน
แต่ท่าทางที่สนิทกันเกินเพื่อนร่วมวงของเตนล์และแจฮยอนก็ทำให้กลุ่มคนบางพวกที่เดิมทีมีอคติต่อพวกเขาอยู่แล้ว
เมื่อมีเรื่องให้ด่าก็พยายามใส่สีตีไข่เอามาพูดจาให้พวกเขาเสียๆหายๆ
บั่นทอนจิตใจของพวกเขาไปไม่รู้จบ
แจฮยอนเล่าให้เขาฟังแม้แต่ความคิดที่ต้องการจะเลิกกับเตนล์หลังคบกันมานานพอสมควร
แทยงหยัดตัวยืนขึ้น..พยายามสะกดกลั้นความโกรธที่กำลังปะทุด้วยการกำมือให้แน่นที่สุดเท่าที่จะเคยมา
“นายกำลังทำเตนล์เสียใจ”
“แทยงฮยอง..ผมรู้
แต่ผมไม่สนใจสายตาของแฟนคลับไม่ได้”
“นายก็แค่รักเตนล์เหมือนเดิม
ดูแลเตนล์เหมือนเดิม แค่นี้มันยากตรงไหน? เตนล์รักนาย นายรักเตนล์
แค่นี้มันก็พอแล้วนี่”
“ไม่
ฮยอง..มันไม่พอ พวกเรารักกันไม่ได้ มันไม่ถูก..ผมเป็นผู้ชาย
เตนล์ฮยองก็เป็นผู้ชาย”
เขาเงียบไป..กำมือแน่นขึ้นไปอีก
เล็บจิกลงไปบนเนื้อหนังจนเลือดซิบ
“รู้มั้ย
แทยงฮยอง..ผมเคยคิดว่าเตนล์ฮยองเป็นโลกทั้งใบของผม”
เตนล์ก็เป็นโลกทั้งใบของฉันเหมือนกัน
“แต่หลังจากที่พวกเราเริ่มห่างกัน
ผมเริ่มมีงานของตัวเอง..ในตอนนั้นผมเริ่มคิดว่ามันไม่ใช่”
แล้วทำไมฉันถึงยังคิดล่ะ..ทำไมความรักของนายถึงได้เจอทางตันเพียงเพราะเรื่องแบบนี้ล่ะ
ทำไมต้องไปสนคำพูดของคนอื่นล่ะ
ทำไมล่ะ..แค่พวกฉันกับครอบครัวนายยอมรับเรื่องนี้ได้ก็โอเคแล้วนี่
“เตนล์ฮยองไม่ใช่โลกทั้งใบของผมอีกต่อไปแล้ว”
ครั้งนึงนายเคยแย่งเตนล์ไปจากฉัน ในเมื่อนายดูแลเตนล์ไม่ได้..ก็อย่าทำร้ายเตนล์ไปมากกว่านี้เลย
ขอร้อง
ต่อให้เตนล์กับแจฮยอนเลิกกัน
เตนล์ก็ไม่มีวันเลือกเขาอยู่ดี
“โถ่
เตนล์..บอกฝันดีฮยองหน่อยไม่ได้เหรอ” ลีดเดอร์ชั่วคราวอย่างเขากรอกเสียงลงในโทรศัพท์เสียงหวาน
พยายามออดอ้อนให้คนปลายสายบอกฝันดีให้ได้โดยที่ไม่สนว่าเสียงของตัวเองตอนนี้จะตลกแค่ไหน
[ฮยองอ่ะ..]
“นะ..นะครับ”
[คือ..งั้น ฝันดีครับ]
“เยสสสสสสส” โห่ร้องอย่างดีใจจนคนอื่นๆในโรงแรมหันมามองกันเป็นแถว
แต่ความสุขมักอยู่กับเราไม่นาน
[ไง..เด็กดื้อ]
เขาชะงักไป..เขามั่นใจว่าเตนล์ไม่ได้กำลังพูดกับเขา
ก่อนหน้านี้เขากำลังโทรคุยกับเตนล์..แต่อยู่ดีๆก็เกิดเสียงดังตุบเหมือนคนปลายสายทำโทรศัพท์ตก
[ฮยองนั่นแหละ..ที่ดื้อ]
เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าที่เขาจำได้ดีว่าใครหลุดออกมาจากสาย
แทยงมือสั่น..เขากำโทรศัพท์แน่น ได้ยินเสียงเตนล์หัวเราะในลำคอเบาๆ
[ฮยองเหรอดื้อ? เปล่าซะหน่อย]
[ผมไม่ชอบให้ฮยองคุยกับแทยงฮยองเลย..ผมหวง]
แทยงกัดริมฝีปากจนเลือดซิบ
[รู้แล้วน่า แต่กับแทยงฮยองไม่มีอะ----ติ๊ด!]
เขากดตัดสายทันทีเมื่อรู้ว่ากำลังจะมีคำพูดบาดใจหลุดออกมาจากคนตัวเล็กคนนั้น
เตนล์คงคิดว่าเขาตัดสายไปแล้วถึงได้พูดออกมา..ไม่สิ
ต่อให้รู้ว่าเขายังไม่ตัดสายเตนล์ก็ยังพูดแบบนี้อยู่ดี
เพราะสำหรับเตนล์เขาคือพี่ชายคนสนิท..และเตนล์ก็คงคิดว่าตัวเองเป็นน้องชายคนสนิทของเขาเหมือนกัน
ทั้งๆที่ไม่ใช่เลย..
เขาไม่ได้อยากได้เตนล์เป็นน้องชายเสียหน่อย
แต่มันก็ไม่ทันแล้วล่ะ..เพราะถึงเตนล์จะเลิกกับแจฮยอนไปเมื่อนานมาแล้ว
แต่เตนล์ก็คบกับลูคัสแล้วเช่นกัน
แทยงรู้..เตนล์ไม่ได้รักลูคัสหรอก
คนตัวเล็กคนนั้นรักได้แค่จองแจฮยอนคนเดียว
วันนั้นเป็นวันที่
14 กุมภาพันธ์..วันเกิดของแจฮยอน
ทางค่ายให้พวกเราไลฟ์สดผ่านทาง
Vlive…พวกเราคงจะมีความสุขกับมันมากกว่านี้ หากไม่ใช่เพราะคนข้างๆเขาที่ดูหม่นหมองกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
ซึ่งพวกเราทุกคนก็พอจะรู้ดีว่ามันเป็นเพราะอะไร
ท่าทางของเตนล์ทำให้แทยงต้องเหลือบมองหลายครั้งด้วยความเป็นห่วง
ทั้งโอบไหล่
ทั้งจ้องตา ทั้งพยายามลูบหลังโดยไม่ให้ใครจับได้..
เขาน่ะห่วงเตนล์ยิ่งกว่าใคร
โดยเฉพาะตอนที่จอห์นนี่กับเจ้าของวันเกิดอย่างแจฮยอนเดินมาหลบอยู่หลังกล้อง..มันทำให้เขาต้องหันหน้าไปมองเตนล์ด้วยความเป็นห่วง
เป็นอย่างที่คิด..แม้เตนล์จะกำลังพูดอะไรซักอย่าง
แต่สีหน้าของคนตัวเล็กกลับดูไม่ดีเอาเสียเลย..
สีหน้าของเตนล์แย่มากจนจอห์นนี่ที่หลบอยู่หลังกล้องถึงกับต้องทำไม้ทำมือเป็นเชิงขอให้เขาทำอะไรซักอย่างกับเตนล์ในตอนนั้น
เขาหันไปมองหน้าเตนล์
กำลังจะเอื้อมมือไปจับมือของเจ้าตัวเพื่อให้กำลังใจ..ทว่าก็ไม่ทัน
มือใหญ่ของลูคัสเอื้อมไปกอบกุมมันก่อนที่เขาจะได้ทำอะไร
เป็นอีกครั้ง..ที่แทยงรู้สึกพ่ายพ้
บอกแล้ว..เขาน่ะมีนิสัยที่ค่อนข้างเกลียดความพ่ายแพ้พอสมควร
ความจริง..มันอาจจะเป็นลักษณะนิสัยที่ติดตัวเด็กทุกคนในค่าย SM
ไปแล้วก็ได้
แต่มีเพียงเรื่องเดียวที่เขายอมรับมัน
ยอมรับความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้น
เรื่องของเตนล์
เหตุผลที่ยอมรับน่ะเหรอ?
ไม่มีอะไรหรอก..
ก็แค่มันเป็นเรื่องของเตนล์..นั่นล่ะเหตุผล
เตนล์กับแจฮยอนกลับมาพูดคุยกันเหมือนเดิมแล้ว
มันใช้เวลานานอยู่เหมือนกันว่าทั้งคู่จะพยายามทำตัวให้สนิทกันเหมือนเดิมต่อหน้าแฟนๆได้
ทั้งๆที่จริงๆแล้วมันไม่ใช่เลย..เบื้องหลังนั้นทั้งคู่คุยกันเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
ภาพที่เห็นจนชินตาคือแจฮยอนที่พยายามหาเรื่องคุยกับเตนล์ และเตนล์ที่ตอบบ้างตามมารยาทแต่หลักๆคือจะเดินหนี
ลูคัสที่จ้องไม่วางตาอยู่ห่างๆ
และแทยงที่มองบ้างเป็นระยะๆ
แทยงรู้..เขารู้ดีว่าลูคัสรู้สึกไม่สบายใจกับสถานการณ์แบบนี้
เจ้าเด็กโข่งนั่นกำลังกลัวว่าซักวันเตนล์อาจจะกลับไปหาแจฮยอน มันเป็นความคิดที่คาดเดาได้ง่ายๆเลย..เพราะถ้าเป็นเขาก็คงกลัวเช่นกัน
เตนล์กับแจฮยอนน่ะรักกันมาก..รักกันจนพวกเขาไม่เคยคิดว่าเหตุการณ์ที่ทั้งคู่เลิกกันจะเกิดขึ้น
ไม่แปลก..ที่เด็กนั่นจะกลัว
“เตนล์
ไปซ้อมได้แล้ว”
ลีดเดอร์ของวงเดินดุ่มๆไปคว้าข้อมือของคนตัวเล็กท่ามกลางสายตาของแจฮยอนและแฟนเด็กของเตนล์อย่างลูคัสที่มองมาตาโตเท่าไข่ห่าน
คนน่ารักของวงพยักหน้าอย่างมึนๆยอมเดินตามแรงลากไปอย่างว่าง่าย
พวกเขาเดินไปทางไปยังบริษัทโดยใช้เวลาไม่นานนัก
แทยงไม่อยากบอกหรอก..ว่าเขานึกขอบคุณทางค่ายแค่ไหนที่ยอมให้เขากับคนตัวเล็กได้โปรโมตคู่แบบนี้
พวกเขาซ้อมกันจนดวงตะวันลาลับขอบฟ้า..ซ้อมสำหรับคอนเสิร์ตเดี่ยวของวงที่ใกล้เข้ามา
เขาหยิบขนมที่ลงไปซื้อมาตอนที่คนตัวเล็กพักขึ้นมาชูตรงหน้าอีกคน
ฉีกยิ้มบางก่อนบรรจงแกะมันแล้วยื่นให้คนตัวเล็ก ช็อกโกแลตที่เตนล์ชอบนักหนา..เจ้าตัวยิ้มรับอย่างยินดี
มือบางนั่นหยิบขนมกินไม่หยุด
เพราะช่วงนี้ทางเมเนเจอร์ฮยองขอให้พวกเขาไดเอต..แถมตารางงานก็รัดแน่นทำให้ไม่ค่อยมีเวลาพักหรือไม่ค่อยได้กินอะไรพวกนี้นัก
เตนล์น่ะ..จะอารมณ์ไม่ค่อยดีถ้าขาดช็อกโกแลตนานๆ
แทยงรู้ดี
บอกแล้ว..เขารู้จักเตนล์ดีกว่าที่เตนล์รู้จักตัวเอง
“ขอบคุณนะครับฮยอง”
เจ้าตัวเล็กยิ้มกว้างจนตาหยีเป็นสระอิ หลังจากที่ได้กำลังใจดีก็ลุกขึ้นซ้อมต่อและไม่คิดจะหยุดพัก
เขาหลุดยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว..มองไปยังคนตัวเล็กที่ขยับเรือนร่างตามเสียงเพลง
ตัดสินใจหยัดตัวลุกขึ้น
จับมือข้อเล็กนั่นไว้พร้อมมองอีกคนด้วยสีหน้าจริงจัง
“เตนล์..”
“ครับ?” คนตัวเล็กมองมาด้วยความมึนงง
คงไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆเขาถึงได้ลุกขึ้นมาจับข้อมือตัวเองแบบนี้
ร่างสูงกว่าสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
“ไม่ว่าในอนาคตจะมีอะไรเกิดขึ้น..ขอให้นายมีความสุขมากๆนะ”
“เอ๋..อ่า”
“ฉันแค่อยากให้นายมีความสุขมากๆ”
เตนล์ยิ้ม
เป็นรอยยิ้มที่สดใสดุจแสงตะวันอีกครั้ง..ไม่ใช่รอยยิ้มอมทุกข์เหมือนที่ผ่านมา
“ขอบคุณนะครับ
แทยงฮยอง”
แทยงเกลียดความพ่ายแพ้
แต่เขาจะยอมรับมัน..ถ้านั่นเป็นเรื่องของเตนล์
ไม่ต้องมีเหตุผลอะไรมารองรับ
เพราะเป็นเรื่องของเตนล์..นั่นล่ะคือเหตุผลที่อธิบายการกระทำของเขาทั้งหมด
++++++++++
คำอธิบายสุดท้าย ตรงนี้สำคัญมากๆ เราขอบอกไว้ก่อนว่าด้วยความที่เราแต่งเป็นฟิคอิงวง ทำให้เราไม่สามารถกำหนดบทจบให้ตายตัวได้ มันกำหนดยากมากว่าจะให้จบแบบไหน เพราะไม่ว่าจะจบแบบไหนก็ต้องมีคนเจ็บแน่ๆ และมันส่งผลต่อตัววง nct ในเรื่องทั้งนั้น เราจึงเลือกที่จะจบแบบปลายเปิดค่ะ ให้ผู้อ่านไปจินตนาการต่อเองว่าเนื้อเรื่องจะเป็นยังไงต่อ (มาแชร์ๆกันได้นะคะว่าแต่ละคนคิดยังไง)
อันนี้คือตอนจบที่เคยคิดเอาไว้
และสาเหตุที่ทำให้เราไม่เลือกมาเป็นบทจบของเรื่องนี้นะคะ
แจเตนล์แตกหักกันไปเลย
เตนล์คบกับลูคัส ขอให้เข้าใจว่าจะให้แต่งแบบนี้ก็ไม่ได้
มันดูโหดร้ายไป
(เพราะตามหลักเมื่อคู่รักเลิกกันและจบกันไม่ค่อยสวยก็จะแตกหักกันไปเลย
คงไม่กลับมาคุยกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่แล้ว ยกเว้นไม่เคยรักกันแต่แรก)
พอลองคิดว่าถ้าจบแบบนี้เมมเบอร์ในวงจะสภาพเป็นยังไง อันนี้คือส่งผลต่อตัววงแน่ๆค่ะ
เป็นตอนจบที่อันตรายมาก
ลูเตนล์เลิกกัน
เตนล์กลับไปคบแจ แต่จะให้จบแบบนี้ก็เหมือนกรณีแรก
ค่อนข้างโหดร้ายมาก อีกอย่างแต่งให้เตนล์ตัดสินใจไปแล้วว่าจะไม่กลับ
จะให้กลับไปก็กระไรอยู่ ประเด็นคือจบแบบนี้ = จบไม่สวย ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์คนในวงมากกว่าแบบแรกอีก
;_;
ลูเตนล์เลิกกัน
เตนล์ไม่เลือกใครทั้งนั้น ตายล่ะ..จบแบบนี้นี่ส่งผลกระทบหนักกว่าอันก่อนหน้านี้อีกนะคะ
;^;
เพราะที่เราแต่งคือทั้งเตนล์ แจฮยอน ลูคัส แทยง
ต่างคนต่างมีความรักประเภทที่เรียกได้ว่ายอมทำทุกอย่างเพื่อคนที่ตัวเองรัก
(ถึงแจฮยอนจะทำผิดพลาดไปในตอนแรก..แต่ความจริงความรักที่แจฮยอนให้เตนล์คือประเภทนี้นะคะ
ที่พลาดไปถือว่าเป็นบทเรียนละกัน TT)
จะให้เตนล์ไม่เลือกใครทั้งนั้น
แล้วแต่ละคนต่างคนต่างอยู่ไปเลย..ประเด็นคือแล้วความสัมพันธ์ของคนในวงคนอื่นล่ะ?
คือความรักประเภทนี้เป็นอะไรที่ลืมยากมาก
ฝังใจสุดๆ เหมือนให้ทั้งใจไปแล้วไรงี้ จะให้กำหนดตอนจบว่าต่างคนต่างอยู่
จนในที่สุดทุกคนก็ลืมแล้วกลับมาเป็นเพื่อนร่วมวงที่ดีต่อกันเหมือนเดิม..ไม่ไหวค่ะ
ดูไม่สมเหตุสมผลเกินไป ตามหลักคือความรักประเภทนี้เมื่อจบลงต้องมีแผลในใจอยู่แล้ว
(เหมือนเตนล์ที่ร้องไห้เพราะแจฮยอนแม้เลิกกันนานแล้ว)
แถมเป็นแผลใหญ่ซะด้วย..และต่อให้แผลหายมันก็ต้องเหลือรอยแผลเป็น
ซึ่งแผลเป็นนี่ไม่มีวันหายแน่ๆค่ะ ต่อให้กลับมาเป็นเพื่อนร่วมวงที่ดี
แต่คงไม่สนิทกันเหมือนเดิมแล้วแน่ๆ
ซึ่งถ้าจะให้จบแบบที่ตัววงห่างเหินกันแบบนี้มีหวังเราโดนแฟนๆน้องถล่มแน่ค่ะ TT_TT
สุดท้ายนี้อยากบอกว่าการเลือกให้ตอนจบเป็นแบบนี้คือเราคิดดีแล้วค่ะ
หากใครไม่พอใจขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ TT^TT
ความคิดเห็น