พลิกเวลา มาพบกัน - พลิกเวลา มาพบกัน นิยาย พลิกเวลา มาพบกัน : Dek-D.com - Writer

    พลิกเวลา มาพบกัน

    เมื่อนัฐพลหรือนัด หนุ่มวัยสามสิบสามอยากย้อนเวลากลับไปยังยุค90 เพื่อแก้ไข ลูกค้าชายปริศนายื่นนาฬิกาให้อีกฝ่าเพื่อกลับไปยังอดีตอีกครั้ง

    ผู้เข้าชมรวม

    49

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    49

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  28 ธ.ค. 63 / 11:33 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ปีปัจจุบัน ชายหนุ่มวัยสามสิบสามปี เขาชื่อ นัฐพล หรือนัด เขาเป็นพ่อค้าวานิชของร้านขายเบเกอรี่ซึ่งเป็นกิจการของเขา โดยมีลูกค้าคนหนึ่งเป็นลูกค้าชายวัยห้าสิบสี่ปี ชายคนนี้สวมเสื้อคอกลมสีขาว กางเกงขาก๊วยตามฉบับชาวบ้าน นัดจึงเอ่ยขึ้น
    “สวัสดีครับ วันนี้จะรับอะไรดีครับ มีขนมโดนัทมาใหม่ๆ นะครับ”
    ลูกค้าชายวัยห้าสิบสี่ มองไปยังขนมโดนัทที่นัดนำมาวางพึ่งทอดเสร็จใหม่ๆ 
    “เอาโดนัท 6ชิ้นนะพ่อหนุ่ม”เขาตอบ
    นัดหยิบโดนัทมา6ชิ้น ก่อนที่ชวนคุยเรื่อง อดีด จริงๆ แล้ว ในอดีตนัดเคยพลาดเพื่อน เขาชวนชายวัยห้าสิบสี่คุยเรื่องนี้
    “น้าครับ ผมในอดีตมีอดีตที่ไม่ค่อยดีเลยครับ ผมนี่แย่มากๆ คงจะกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว”นัดเอ่ยเบาๆ
    ก่อนที่ชายวัยห้าสิบสี่จะหัวเราะขึ้น
    “ฮึ ฮึ พ่อหนุ่มอยากจะกลับไปแก้ไขเรื่องอะไรหรอ”
    “น้าคือว่าผม ไม่ค่อยมีเพื่อนนะสิ ผมอยากจะย้อนเวลากลับไปในตอนที่ผมยังเด็กจัง ผมจะได้คุยกับเพื่อนได้ดีถ้าผมย้อนเวลากลับไปได้นะ ผมจะช่วยเหลือเพื่อนๆ ทั้งหมดเลย”นัดบอก
    ชายวัยห้าสิบสี่ หยิบสิ่งของอีกชิ้นหนึ่งนั่นคือ นาฬิกาเรือนเก่า มีสายที่ทำมาจากเหล็ก หน้าปัดนาฬิกาเป็นทั้งแบบเข็มและมีเข็มวัดวินาทีซึ่งอยู่ในช่องเล็กๆ ก่อนยื่นให้อีกฝ่าย
    “นี่คือนาฬิกาที่สามารถทำให้เราย้อนเวลากลับไป เพียงแค่เรานึกถึงปีพ.ศ.ที่เราอยากจะย้อนเวลา แค่นี้ก็สามารถใช้ชีวิตในเวลาช่วงนั้นได้แล้ว”ชายวัยห้าสิบสี่บอกก่อนที่จะแนะนำให้นัดใช้
     ก่อนที่ชายวัยห้าสิบสี่จะหยิบถุงใส่ขนมโดนัทและเดินกลับไป ก่อนที่จะเลยเวลาเลิกงานของนัด นัดกลับมานั่งลงบนเก้าอี้ก่อนที่จะหยิบนาฬิกาเรือนนั้นขึ้นมาดูก่อนบ่นพึมพำ
    “นาฬิกานี้นะเหรอ สามารถทำให้เราย้อนกลับไปในอดีตได้”
    เขามองดูอย่างสนใจ สภาพนาฬิกาภายนอกเหมือนนาฬิกาทั่วไป ก่อนที่เขาจะลองอธิษฐานและนึกถึงพ.ศ.ที่อยากจะย้อนเวลากลับไป ก่อนที่จะทำภารกิจส่วนตัวจนเสร็จก่อนที่จะล้มตัวลงนอน นาฬิกาเรือนที่ถูกวางข้างๆ เตียงก็ส่องแสงสว่างจ้า ก่อนที่บรรยากาศภายนอกมืดสนิท
     รอบๆ ตัวของนัดเต็มไปด้วยความมืด เขาบ่น
    “ที่นี่ที่ไหนกันนะ ทำไมมันมืดไปหมด”
    ก่อนที่จะมีแสงสว่างขึ้นมา นัดเดินตามแสงสว่างนัดบ่น
    “นี่ฉันตายแล้วหรือเนี่ย”
    ร่างๆ หนึ่งของเด็กชายวัยแปดขวบกำลังนอนอยู่บนเตียงนอน ก่อนที่จะมีเสียงนาฬิกาปลูกดังขึ้น เด็กชายเอื้อมมือเพื่อที่จะปิดนาฬิกาปลุก ก่อนที่จะได้ยินเสียงไก่ขัน ก่อนที่จะนอนอย่างขี้เซา
    “นัดตื่นแล้วหรือยังลูก”เสียงของหญิงซึ่งเป็นมารดาของเขา
    “ใครมาปลุกผมเนี่ย”
    เจ้าของเสียงที่สั่งให้ปลุกเมื่อสักครู่เปิดประตูเข้ามาดูก่อนที่จะเขย่าขาเจ้าของร่างที่กำลังนอนหลับให้ตื่น
    “นัดตื่นได้แล้ว”แม่ของเขาร้องให้อีกฝ่ายตื่น
    ก่อนที่เด็กชายจะลืมตาขึ้น ก่อนที่จะเอ่ยขึ้น
    “แม่หรอครับ ผมกำลังนอนฝันหวานอยู่ครับแม่”นัดตอบ
    เขาสำรวจดูร่างของตัวเองก่อนที่จะอุทานขึ้น
    “พระเจ้าช่วยกล้วยทอด นี่เรากลายเป็นเด็กแล้วหรือนี่”
    มารดาของเขาก็เอ่ยขึ้นอย่างเรียบๆ
    “ลูกพูดบ้าๆ อะไร ลูกยังเด็กอยู่นี่ ลูกอายุแค่แปดขวบเอง”
    นัดหันมาถามแม่ของเขา
    “แม่ครับ วันนี้วันอะไร แล้วปีไหนหรอครับแม่”เขาถามอย่างเร่งด่วน
    “วันนี้วันจันทร์ ที่ 15 เดือน พฤษภาคม ปี 2538”
    เขาลุกขึ้นก่อนที่จะรีบไปทำธุรส่วนตัวก่อนที่จะหยิบชุดนักเรียนตัวเก่ง ก่อนที่จะวานให้อีกฝ่าย
    “แม่ครับ ไปส่งผมได้ไหมครับ”
    แม่ของเขายักไหล่ก่อนตอบ
    “ก็ไปหาคนขับรถลูกน้องของพ่อสิลูก”
    เป็นคำตอบที่แบบเรียบๆ
    นัดกำลังตักอาหารเช้าก่อนที่จะดูรายการหนูดีมีเรื่องเล่า มีพิธีกรสาวในสมัยนั้นกำลังพูดเขาเคี้ยวข้าวในปากกินอย่างเอร็ดอร่อยจนสักพักหนึ่ง ชายวัยสามสิบต้นๆ สวมหมวกสีขาว ก่อนที่จะมาเรียกอีกฝ่าย
    “นัด ทานข้าวเสร็จหรือยัง”
    นัดหันกลับไปยังต้นเสียง เขาจำได้ดีว่าชายคนนั้นเป็นชาวมุสลิมกำลังส่งยิ้มให้เขาอยู่
    “อาเฟน รอแป๊บเดียวนะครับ”เด็กชายสั่งเสียงเขียวก่อนให้อีกฝ่ายรอ
    ก่อนที่จะมองไปรอบๆ ตัวของเขา เห็นตู้ปลาเป็นภาพคุ้นเคยสำหรับเขา เห็นเก้าอี้หวายตัวเก่งที่ในปัจจุบันไม่ค่อยได้ใช้ เขาอมยิ้มที่จะได้พบเจอเพื่อนที่เขาเคยรู้จักกัน
    “ไปแล้วนะครับแม่”
    เขาหยิบกระเป๋าสะพายก่อนที่จะสำรวจถุงเท้า กับรองเท้าตัวเก่ง เขาหยิบถุงเท้าสีขาวขึ้นมาสวมใส่ ก่อนที่จะสวมรองเท้าสีดำนันยางตัวเก่ง ก่อนเดินออกจากบ้านไป ก่อนที่จะเดินไปยังรถที่จอดอยู่ คนขับรถก็เคลื่อนรถให้ไปส่งอีกฝ่าย นัดดีใจก่อนส่งยิ้มให้ ก่อนที่จะชวนคนขับรถคุยเพื่อเป็นเพื่อนแก้เหงา
    “อาเฟนครับ ปีนี้คือปีพ.ศ.อะไรหรอครับ”เขาถามให้แน่ใจว่าไม่ใช่ปีปัจจุบัน
    “อ๋อ ปี2538 ถามทำไมหรอนัด”คนขับรถเอ่ยขึ้น
    “อ๋อ เปล่าครับ ถามให้แน่ใจเผื่อลืม”เขาตอบแบบเรียบๆ
    รถในตอนนี้ก็เคลื่อนมาจอดอยู่หน้าโรงเรียน เขาจอดตรงบริเวณวัดพอดี นัดมองไปยังเบื้องหน้าของโรงเรียนเขาจำได้ทันที
    “นี่เหรอครับโรงเรียนของผม”เขาเอ่ยขึ้นเบาๆ
    “ใช่ โรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัดนี้เลยนะ เข้าไปสิ”
    นัดเปิดประตูรถก่อนลงไป เขาปิดประตู เบื้องหน้าเป็นโรงเรียน เด็กๆ กำลังเข้าโรงเรียนก่อนที่จะมองไปเห็นตำรวจจราจรกำลังโบกรถเพื่อให้นักเรียนหยุดเพื่อข้ามถนน นัดในตอนนี้แบกกระเป๋าที่มีหนังสือ ห้าหกเล่มก่อนที่จะเดินเข้าไปในโรงเรียน ก่อนยกมือไหว้ครูที่ยืนอยู่หน้าโรงเรียน
    “อรุณสวัสดิ์ครับคุณครู”
    “เช่นกันเด็กชายนัฐพล”ครูสาวเอ่ยแบบเรียบๆ
    เขาเดินเข้ามาในบริเวณโรงเรียนก่อนเห็นเบื้องหน้า เขาฮึดใจเพื่อสู้ ในตอนนี้เขาคือ เด็กชายนัฐพล ด้านข้างเป็นสนามฟุตบอล ถัดมาเป็นอาคารเรียนของเขา ในตอนนี้เขาเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่๒ ก่อนทำท่าทางแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน เขาเห็นเพื่อนเด็กชายอีกคน ผิวสีคล้ำๆ เขาร้องเรียกขึ้น
    “เป้ เป้ใช่ไหม”
    เด็กชายคนที่ถูกเรียกชื่อหันมาตามเสียงคนที่เรียกก่อนที่จะบอก
    “นัด มานานแล้วหรอ”
    นัดรีบโผเข้ากอดอีกฝ่ายเพราะที่ผ่านมาเขาไม่เคยกอดเพื่อนคนนี้เลยสักครั้ง
    “พึ่งมาถึงนะ จริงสิพ่อนายมาถึงหรือยังละ”นัดถามอีกฝ่าย
    “ฉันก็มากับพ่อของฉันนะนัด เดี๋ยวก่อนเข้าแถวเราไปเก็บขยะกันนะ”
    ในตอนนี้นัดดีใจที่ได้คุยกับเพื่อนคนนี้เสียแล้ว เขาถูกชะตากับเพื่อนคนนี้ไปโดยปริยาย
    “เป้ ขอบคุณนะที่เรายังเป็นเพื่อน”
    “ไม่เป็นไร เรานะยังมีกันอยู่ทุกเมื่อ เราไปตึกคหกรรมกันไหม”เป้บอก
    “ก็ดีนะเป้ เราจะได้ไปเรียนรู้เรื่องการทำอาหาร”นัดตอบ
    ก่อนที่นัดเองจะรีบเดินไปก่อนเพื่อน แต่เขาวางกระเป๋านักเรียนไว้ที่ม้าหินอ่อน อากาศในตอนนี้ฝนตกเขาจึงเอ่ยขึ้น
    “เป้ เราว่าเอากระเป๋าไปเก็บไว้ที่ห้องที่เราเรียนก่อนดีกว่า”นัดบอกกับเพื่อนของเขา
    เป้กับนัดรีบย้อนเดินกลับไปยังตึกอาคารเรียนของเขา ในสายตาของเขาเหลือบไปเห็นบางคนกำลังเล่นหมากเก็บ กระโดดหนังยางบ้าง เขียนจดหมายบอกรักบ้าง ส่วนเขานั้นก็อมยิ้มก่อนที่จะสูดลมหายใจลึกๆ เพื่อเอาอากาศบริสุทธิ์ให้ก่อนเดินมาถึงห้องเรียน ในตอนนี้ยังไม่มีใครโผล่มาเลยสักคน เป้กับนัดก็สนิทกันเลยชวนกันไปเล่นที่ตึกคหกรรม ก่อนเบื้องหน้านั้นมี จานถาดหลุมขนาดใหญ่ ช้อน ส้อม แก้วน้ำ เขามองดูอย่างสนใจ
    “นัดนายสนเรื่องนี้ด้วยหรอ”เป้ถาม
    นัดผลักประตูเข้าไปก่อนที่จะตอบ
    “ก็นิดหน่อยนะ”
    นัดสำรวจตัวเอง ตอนนี้เขาสูงแค่130เซนเอง เป้ก็ยังตบบ่าเขาก่อนที่จะบอก
    “นี่นัด เราว่าเรารีบไปกันเถอะเดี๋ยวแม่ครัวมาเห็น”
    นัดอมยิ้มก่อนชี้ไปยังเครื่องครัว ในตอนนี้เขานั้นเดินเอี้ยวตัวไปยังประตูตามเดิมก่อนผลักแล้วชวนเป้ซึ่งอายุไล่เลี่ยกัน
    “ออกมาสิเป้ เร็วๆ”
    เด็กชายอีกคนรีบวิ่งออกมาก่อนที่นัดจะปิดประตูตามเดิม
    “เกือบไหมละ เราไปเล่นโปลิศจับขโมยหรือไม่ก็เล่นซ่อนหากันดีกว่าไหม”นัดบอก
    “เออๆ ก็ดีวะเพื่อน”เป้บอก
    นัดมีปัญหาคือ เพื่อนคนอื่นๆ เริ่มทยอยมาแต่เขามีแต่เป้นี่แหล่ะที่สนิทกัน
    “เราว่า เรามาเล่นโปลิศจับโจรดีกว่านะเป้”นัดชวนเขา
    เด็กชายตัวน้อยก็พับกระดาษมาทำเป็นปืน นัดแบ่งว่าใครจะอยู่ทีมไหน
    “เราเป็นโปลิศ”เป้บอก
    “งั้นเราเป็นโจรละกัน”นัดเสริม
    ทั้งสองคนเล่นหยอกล้อกัน ก่อนที่จะอมยิ้มให้กันทั้งคู่
    เด็กอีกคนเห็นทั้งสองเล่นกันจึงเข้ามาสมทบ
    “เห้ย ให้เราเล่นด้วยคนสิ”
    นัดอมยิ้มก่อนชวน
    “ได้สิ มาเล่นกันเลย”
    เด็กชายอีกคนมีใบหน้าคมตามฉบับมุสลิม ก่อนที่จะเล่นกันอย่างสนุกสนานตามฉบับเพื่อนกัน นัดดีใจที่ได้เล่นกับเพื่อนๆ อย่างมีความสุขในปี 2538

     ร่างของนัดกำลังนอนอยู่บนเตียง ก่อนที่จะมีเสียงปลุกจากโทรศัพท์มือถือที่ยังดังอยู่ข้างๆ เตียงนอนเขาเอื้อมมือไปยังโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะปิดมัน เขาลืมตาขึ้นอีกที บรรยากาศภายนอกยังเงียบสงบ เขาเปิดหน้าจอโทรศัพท์มือถือขึ้นอีกครั้งก่อนดูปีพ.ศ. ว่าเป็นพ.ศ.อะไร ทำให้เขาตกตะลึง นั่นคือปีปัจจุบันก่อนเอ่ยขึ้น
    “ฝันเหมือนจริงเลยแฮะ”
    สักพักมีชายหนุ่มอยู่สองคนเดินเข้ามาก่อนเอ่ยขึ้นเบาๆ
    “ไงนัด จำเราได้ไหม เราเป้ไง”
    นัดจำได้แค่รอยยิ้มของเพื่อนของเขา กับชายหนุ่มมุสลิมที่ตอนนี้เขายิ้มให้นัด
    “จำได้สิ แล้วเราย้อนเวลากลับไปปี 2538 สินะ”
    เพื่อนๆ ของเขาหัวเราะก่อนเอ่ยขึ้น
    “นี่ฝันไปอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย เราจะเอาอะไรให้นายดูนะ”
    เป้หยิบรูปภาพแต่ละรูปซึ่งเป็นความทรงจำดีๆ ในสมัยนั้นเขาเองก็เหมือนกับว่ากึ่งจริงกึ่งฝัน แต่กาลระยะเวลามันชั่งผ่านไปไวเสียเหลือเกิน
    “เดี๋ยวนะ เมื่อกี้นี้เราฝันว่า เรากับนายอายุแค่แปดขวบ แล้วเรามาพบกันที่โรงเรียนอีกครั้ง แล้วเราก็ชวนนายเล่นโปลิศจับโจรด้วย ตอนที่เราฝันเราเห็นบางคนเล่นหมากเก็บ บางคนเขียนจดหมายรัก บางคนก็เล่นกระโดดยาง แล้วไหนจะมีถาดหลุมอีก”นัดบอก
    “ถาดหลุมหรอ นัดเอ๊ย นี่เราเลยวัยแล้วนะเพื่อน เรามีทายาทแล้ว”เป้บอกก่อนที่จะหัวเราะให้เพื่อน
    “อ้าวหรอ เหมือนจริงเลย ฝันเหมือนจริงมากๆ”นัดบอก
    ก่อนที่ทั้งสามคนจะหยิบภาพถ่าย คือ เด็กชายสามคนถ่ายด้วยกันด้วยใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้มทำให้ทั้งสามคนมีความสุขกับความทรงจำที่ผ่านมา ก่อนที่จะร่วมถ่ายรูปซึ่งเป็นภาพในปัจจุบันด้วยกันอีกสักครั้งหนึ่งเขายังจำไม่เคยเปลี่ยนกับวันวานที่ยังอยู่ในหัวใจ

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×