คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : -Chapter 1-
"เฮ้อออออ....."ถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยของวัน จะไม่ให้ผม 'บยอน แบคฮยอน' เหนื่อยใจอย่างนี้ได้ยังไง ในเมื่ออีกเเค่สองอาทิตย์คณะของผมก็จะสอบเก็บคะแนนแล้วน่ะสิ
ผมบยอน แบคฮยอน เป็นนักศึกษาปีสอง คณะสถาปัตย์ สาขาสถาปัตยกรรมภายใน แบคฮยอนเป็นคนไม่สูงมาก หน้าตาน่ารัก เข้ากับนิสัยขี้เล่นของเจ้าตัวดี ไม่เด่นดังอะไรมาก ก็แค่นักศึกษาธรรมดาๆคนหนึ่ง เค้าไม่ใช่เด็กเรียบร้อยแบบเด็กเรียน ไม่ใช่พวกเด็กเกเรที่ไม่สนใจเกรดตัวเองสักเท่าไหร่ และก็ไม่ใช่เด็กกิจกรรมที่ทำทุกกิจกรรมของมหา'ลัย ก็บอกแล้วว่าบยอน แบคฮยอนน่ะ เป็นแค่เด็กธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นเอง
ตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองเป็นเวลานาน พอรู้สึกตัวอีกทีขาสั้นๆก็พาแบคฮยอนมาอยู่ที่หน้ามหา'ลัยเป็นที่เรียบร้อยแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะเตรียมสาวเท้าก้าวเดินต่อไป
'กริ๊งงงงงง'
เท้าที่กำลังจะก้าวต่อเป็นอันต้องหยุดชะงันทันที เมื่อได้ยินเสียงกระดิ่งบานประตูดังขึ้น ก้าวเท้ากลับมาวางชิดกันเหมือนเดิม ก่อนที่ใบหน้าเรียวสวยได้รูปจะหันไปทางทิศทางต้นเหตุของเสียง ซึ่งก็คือร้านกาแฟที่หน้ามหา'ลัยของเขานั่นเอง
"ร้านนี้...น่ะเหรอ?" เอ่ยถามกับตัวเองเบาๆ
เคยได้ยินเพื่อนสนิทอย่างเสี่ยว ลู่หานบรรยายให้ฟังอยู่หรอก ว่าบาริสต้าที่นี่น่ะหล่อมาก และรสชาติกาแฟก็ละมุนสุดๆ แต่ก็ไม่เคยเข้าไปสักครั้งเพราะเป็นร้านที่เพิ่งเปิดใหม่เมื่อไม่นาน บวกกับลูกค้าที่ค่อนข้างจะพลุกพล่าน ทำให้ไม่เคยคิดที่จะเหยียบเข้าไปเลย
ลองสอดส่องสายตาเข้าไปภายในร้าน ก็พบว่าลูกค้าบางตากว่าปกติ อาจจะเป็นเพราะตอนนี้เป็นช่วงเวลาคำ่แล้ว ถ้าไม่มีคลาสดึกก็คงไม่มีใครบ้ามามหา'ลัยหรอก
ตัดสินเปลี่ยนทิศทางการเดินให้ไปทางร้านกาแฟที่เกือบจะเดินผ่าน
ถ้าจะเข้าไปอ่านหนังสือในนี้ก็คงจะดีอยู่นะ เปลี่ยนบรรยากาศหน่อย
'กริ๊งงงงง'
"Creme café ยินดีต้อนรับครับ"
เสียงพนักงานชงกาแฟที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์เอ่ยต้อนรับ พยักหน้ารับแต่ไม่ได้หันหน้าขึ้นไปมอง เพราะมัวแต่สนใจตู้เค้กที่ข้างๆเคาน์เตอร์แทน
"เมนูแนะนำของร้านเราก็จะมี ชอคโกแลตซิกเนเจอร์เค้ก พุดดิ้งครีมวานิลา พานนาคอตต้าเสาวรส ส่วนเครื่องดื่มก็จะเป็น ลาเต้ซิกเนเจอร์ มาร์ชเมลโล่ชอคโกแลตเฟรปเป้ มะยงชิดสมูตี้....."พนักงาน ไม่สิ น่าจะเป็นบาริสต้าของร้านมากกว่า เริ่มแนะนำเมนูมากมายที่ทางร้านมี คงเพราะเห็นว่าผมดูเงอะๆ งะๆ ในการเลือกเมนู ตัดสินใจเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าบาริมต้าหนุ่มที่พูดแนะนำเมนูยังไม่หยุด
เงยหน้าขึ้นไปเพื่อที่จะถามชื่อของขนมหวานที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า หวังว่าบาริสต้าที่ยังพูดไม่หยุดจะให้คำแนะนำในการเลือกเมนูของผมได้ วินาทีที่เงยหน้าขึ้นมาสบตากับบาริสต้าหนุ่ม เหมือนเกือบหยุดหายใจแหน่ะ เชื่อ..เชื่อแล้วเสี่ยวลู่หานว่าบาริสต้าที่นี่น่ะ หล่อ! หล่อจริงๆนะ!!
"สรุปรับอะไรดีครับ?"
เสียงของบาริสต้าหนุ่มหน้าหล่อเอ่ยถามอีกครั้งหลังจากสาธยายเมนูสารพัดของร้านให้ผมฟัง สะบัดหน้าสองสามครั้งเพื่อเรียกสติตัวเองกลับมา ก่อนที่ผมจะส่งยิ้มให้แล้วสั่งเมนูที่ต้องการออกไป
"เอาเป็นคาราเมล มัคคิอาโต้ กับสตรอเบอร์รี่ ชีส ครีมเค้ก แล้วกันครับ"ระหว่างที่ปากบอกเมนูที่ต้องการ แต่สายตากลับจดจ้องไปที่ป้ายชื่อพนักงานด้านซ้ายบนของอก
"ครับ ทั้งหมด 259.- นะครับ ชำระเงินแล้วรอรับของได้ที่โต๊ะเลยนะ เดี๋ยวพี่เอาไปให้"
"คะ ครับ นี่ครับ 259.-" 'ปาร์ค ชานยอล' ชื่อชานยอลเหรอ คุ้นๆแหะ
"พอดีเนอะ รอที่โต๊ะได้เลยครับ"
หลังจากชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ผมก็เดินหาโต๊ะเพื้อที่จะนั่ง ถึงจะบอกว่าลูกค้าบางตากว่าปกติก็เถอะ แต่ที่นั่งก็ยังคงถูกจับจองหมดอยู่เหมือนเดิมนั่นแหล่ะ ตัดสินใจหันหลังเพื่อที่ไปถามหาที่นั่งจากพี่บาริสต้าคนนั้น ก่อนสายตาจะไปสะดุดกับที่นั่งด้านในสุดของร้าน มันเป็นที่หลบมุมที่มองไม่ค่อยจะเห็นเท่าไหร่ จึงทำให้ไม่ค่อยมีลูกค้ามานั่ง หัวสมองสั่งการให้เดินไปนั่งที่ตรงนั้น และหลังจากที่นั่งมองบรรยากาศภายในร้านได้ไม่นาน ของที่สั่งไว้ก็มาเสริฟ
"นี่ครับ คารเมล มัคคิอาโต้ เพิ่มคาราเมลไซรัปสองปั๊ม กับ สตรอเบอร์รี่ ชีส ครีมเค้ก"
"ครับ"
"ทานให้อร่อยนะครับ"
บาริสต้าหนุ่มพูด แล้วส่งยิ้มเล็กๆมาให้ ผมจึงส่งตอบกลับไป แอบเขินอยู่เหมือนกันนะ
คนอะไร หล่อจัง
รับของที่สั่งไว้มาวางบนโต๊ะ ก่อนจะหยิบแก้วกาแฟที่สั่งไป มาเสียบหลอด แล้วชิมรสชาติว่าอร่อยอย่างที่เสี่ยวลู่บอกรึเปล่า
ดวงตาสวยที่เกือบจะปิดเพราะเหนื่อยล้าจากการเรียนตั้งแต่ช่วงเช้า ต้องเบิกกว้างขึ้นมาทันที รสชาติของกาแฟที่นุ่ม ละมุน แถมยังกลมกล่อม ทำให้ผมไม่อยากที่จะละออกจากแก้วกาแฟตรงหน้าเลย บอกได้คำเดียวเลยว่า 'อร่อย'
วางแก้วกาแฟลงแล้วหยิบส้อมขึ้นมาเพื่อจะลองชิมก้อนเค้กหน้าตาน่ากินตรงหน้า ตักเข้าปากคำเล็กๆ ก่อน เพื่อที่จะได้ลิ้มรสได้อย่างเต็มที่ เป็นไปตามคาด รสชาติทุกอย่างลงตัว เเละเข้ากันได้ดีมาก รสชาติหวานจากครีมตัดกับรสชาติเปรี้ยวจากสตรอเบอร์รี่ มีความเค็มจากชีสเข้ามาปนด้วยเล็กน้อย คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปจริงๆ
เพลิดเพลินกับของหวานตรงหน้าอยู่นานจนเกือบลืมจุดประสงค์ที่แท้จริงของการเข้ามาในร้านกาแฟแห่งนี้ นั่นก็คือการอ่านหนังสือเตรียมสอบนั่นเอง เมื่อนึกได้มือเล็กๆ จึงเปิดกระเป๋าเป้ที่ใส่แบกมาด้วย แล้วหยิบหนังสือออกมา เปิดหน้าที่จะทำการสอบก่อนจะลงมืออ่านหนังสือตามความตั้งใจของตนเอง
อ่านได้ไม่นาน ความตั้งใจก็หายกลายเป็นศูนย์ซะงั้น จากที่ก้มอ่านกลับกลายเป็นเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือแล้วก็ลองมองรอบๆร้านใหม่ มองไปเพลินๆผมเริ่มรู้สึกชอบร้านนี้ซะแล้วซิ คงเป็นเพราะบาริสต้าล่ะมั้งที่ทำให้ชอบน่ะ แบคฮยอนไม่ใช่คนใจง่ายนะ อาจจะบอกว่าคนนู้น คนนี้หล่อ แต่ไม่เคยชอบใครแบบนี้มาก่อน แบบที่เจอครั้งเเรกแล้วเกือบหยุดหายใจเลย พี่ปาร์คเนี่ย มีอิทธิพลกับแบคฮยอนจังนะ
และแล้วสายตาของผมก็ไปหยุดอยู่ที่บาริสต้าหน้าหล่อ คนเดิมจนได้ ดูจากชุดภายใต้ผ้ากันเปื้อนร้านแล้ว น่าจะเป็นนักศึกษาอยู่มหา'ลัยเดียวกัน แต่ไม่รู้รายละเอียดอย่างอื่นเลย จะว่าไปหน้าคุ้น ชื่อคุ้นจริงๆนะ เหมือนเคยได้ยิน ยังไงไม่รู้
จัดการความคิดตัวเองเรียบร้อย ก็เริ่มตั้งใจที่จะอ่านหนังสืออีกครั้ง คราวนี้ตั้งใจกว่าเดิม ยังไงวันนี้ก็ต้องจบบทแรกให้ได้
เวลาล่วงเลยจากช่วงค่ำ จนตอนนี้สี่ทุ่มกว่าแล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่ทยอยกันออกไปหมดเพราะใกล้เวลาปิดร้านห้าทุ่มแล้ว เหลือก็แต่แบคฮยอนที่หลับไปแล้ว หลังจากการปะทะกับหนังสือเป็นเวลานาน
บาริสต้าหนุ่มหน้าหล่อที่กำลังจะปิดร้านเพราะเห็นว่าลูกค้าออกกันไปหมดแล้ว แต่สายตากลับต้องสะดุดกับร่างเล็กๆที่ฟุบหลับไปกับโต๊ะเป็นที่เรียบร้อย
ขายาวก้าวเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กที่หลับไม่รู้เรื่องไม่รู้ราว ริมฝีปากอมยิ้มขำกับท่าทางของคนตรงหน้า สภาพที่นอนหลับคาหนังสือเรียน เค้าเองก็เคยเป็นมาเหมือนกัน ยิ่งช่วงนี้ใกล้สอบแล้ว ก็คงต้องตั้งใจอ่านกันเป็นธรรมดา ถ้าไม่อยากสอบตกอ่ะนะ
จริงๆ ก็ไม่อยากขัดคนที่กำลังหลับหรอก เพราะเค้าถือว่ามันเป็นบาปถ้าปลุกคนหลับ แต่เค้าจำเป็นหนิ ถ้าคนตรงหน้าไม่ตื่น จะปิดร้านได้ยังไง คิดดังนั้น นิ้วเรียวจึงสะกิดแขนของคนที่กำลังหลับ
"อือ" คนตัวเล็กครางออกมา มือเล็กถูกยกขึ้นมามาปัดป่ายสิ่งที่มารบกวนการนอนของตน
"ตื่นได้แล้วนะครับ ดึกแล้ว กลับบ้านเถอะ พี่ก็อยากกลับแล้วเหมือนกัน"พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่นโทนต่ำ หลังจากที่เห็นท่าทางงอแงของคนตัวเล็ก
คนตัวเล็กกว่าเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้างัวเงีย ทำให้บาริสต้าแทบหลุดขำ แต่ก็ยังสามรถกลั้นไว้ได้อยู่
ร่างเล็กที่ลืมตาขึ้นมา ขยี้ตาตัวเองเล็กน้อย เพื่อปรับจอโฟกัส ภาพที่เห็นหลังจากตื่นคือบาริสต้าหนุ่มสุดหล่อกำลังยืนกลั้นยิ้มอยู่ตรงหน้า 'ทำไมพี่เค้ามายืนตรงนี้?' นี่คือคำถามแรกที่อยู่ในหัวร่างเล็ก ปัดข้อสงสัยออกแล้วยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา หน้าปัดนาฬิกาดิจิตอล ปรากฏเลขยี่สิบสอง แล้วตามด้วยเลขสี่สิบเก้า ความสงสัยที่เกิดขึ้นเมื่อครู่กระจ่างหายไปทันที
"พี่เห็นว่าเราหลับ เลยปลุกน่ะ คือใกล้ร้านปิดแล้ว...ก็เลย...เอ่อ"
"ขอโทษด้วยนะครับ ลำบากแย่เลยที่ต้องรอผมตื่น แล้วก็ขอบคุณนะครับที่ปลุกผม"เมื่อเห็นร่างสูงของคนตรงหน้ามีท่าทีตะกุกตะกักในการพูด จึงชิงพูดสวนขึ้นมาก่อน
"อ่อ ไม่เป็นไรหรอก" บาริสต้าหนุ่มตอบพลางยิ้มบางๆส่งมาให้ เป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไรจริงๆ
"ครับ ขอบคุณอีกครั้งนะครับ พี่...เอ่ออ..."
ความจริงก็รู้ชื่อแหล่ะ เพราะอ่านป้ายชื่อตอนจ่ายเงิน แต่ผมไม่กล้าพูดหรอก
บาริสต้าหน้าหล่อไม่ตอบทำเพียงแค่ยิ้มและชี้ไปที่ป้ายชื่อบนอกซ้าย
"พี่ปาร์ค ชานยอล ขอบคุณนะครับ"
ตอบพลางส่งยิ้มไปให้
"แล้วเราล่ะ ชื่ออะไร รู้ชื่อพี่แล้วแต่พี่ยังไม่รู้ชื่อเราเลย"
.
.
.
.
.
.
.
.
.
"แบคฮยอนครับ ผมบยอน แบคฮยอน ยินดีที่ได้รู้จักครับพี่ปาร์ค ชานยอล:)"
-Cafféine-
ใบหน้าน่ารักกำลังอมยิ้มอยู่กับตัวเอง เหมือนกับคนบ้า ทำให้'เสี่ยวลู่หาน'คนนี้อดสงสัยไม่ได้ว่า แบคฮยอนมันเป็นบ้าอะไร ปกติถ้าเป็นคาบเรียนช่วงเช้าแบบนี้มันต้องหลับคาโต๊ะเรียนไปแล้ว ไม่ก็ต้องนั่งเล่นโทรศัพท์ ฟังเพลง อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ไม่ วันนี้ตั้งแต่เริ่มคาบ มันก็เอานั่งยิ้มขำอยู่เดียว ลู่หานจ้องหน้าเพื่อนสนิทอยู่นาน ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยปากถามคนที่กำลังยิ้มอยู่
"มึงเป็นอะไร" ถามด้วยน้ำเสียงนิ่งๆเรียบๆแต่แฝงไปด้วยความสงสัย
"เปล่า กูแค่มีความสุข"
"ไม่ กูไม่เชื่อ กูเป็นเพื่อนมึงมานาน มันต้องมีอะไร" พูดพร้อมกับสายตาคาดคั้นไปที่คนตอบ
"ไม่มีอะไรหรอก จริงๆนะ"
ถึงแม้ว่ากำลังพูดอยู่กับเพื่อนสนิทตัวเอง แต่สายตากลับจ้องมองเหม่อไปข้างหน้าพลางนึกถึงใบหน้าคนที่ทำให้เค้ายิ้มไม่หุบแทน
"เรียนไปเลยไป" บอกกับเพื่อนสนิทตัวเองพร้อมผลักหัวให้หันกลับไปสนใจการเรียนต่อ
เสี่ยวลู่หาน จึงทำได้เเค่เบะปากแล้วหันหน้ากลับไปเรียนเหมือนเดิม
-Cafféine-
หลังจากคาบช่วงเช้าจบลงไปแล้ว ผมเดินไปส่งลู่หานที่มีเรียนต่อก่อน แล้วค่อยกลับเพราะผมไม่เรียนต่อแล้ว ตอนแรกก็กะจะกลับบ้านเลย แต่พอนึกไปนึกมาแวะเข้าไปจิบกาแฟหน่อยก็ดีเหมือนกัน
ไวกว่าความคิด ตอนนี้คนตัวเล็กได้ยืนอยู่หน้าร้านกาแฟหน้ามอเรียบร้อยแล้ว ก้าวอีกสองสามก้าว เอื้อมมือจะไปจับบานประตูเพื่อที่ได้ผลักมันให้เปิดออก แต่ไม่ทันที่จะได้ทำอย่างใจคิด ประตูก็ถูกดึงให้เปิดออกจากด้านใน โดยคนที่กำลังถือถาดเค้กหลายถาดที่วางซ้อนกันอยู่ด้วยมือเดียว ส่วนมึงอีกข้างกำลังจับบานประตูที่เพิ่งถูกเปิดได้ไม่นาน เเละก็เป็นคนเดียวกับที่ทำให้ยิ้มอยู่คนเดียวเมื่อช่วงเช้า
ตอนนี้ สติของผมหลุดไปแล้วครับ เพราะเหตุการ์ณเมื่อกี๊ ทำให้หน้าของผมกับพี่เค้าห่างกันไม่ถึงคืบ แถมยังสบตากันอีก เอ๊ะ!ทำไมผมรู้สึกแปลกๆล่ะ ใจมันกำลังเต้นเหมือนกับจะระเบิดออกมาแหน่ะ ผมต้องชอบพี่เค้ามากๆแน่
"อ่า ขอโทษนะครับน้อง...เอ่อ... น้องแบคฮยอนใช่มั้ยครับ" เอ่ยถามอย่างกล้าๆอายๆเพราะกลัวจะโดนโกรธที่จำชื่อขอฃอีกคนไม่ได้
"ใช่ครับ ขอโทษนะครับ แล้วก็ขอบคุณที่จำชื่อผมได้นะครับ" พร้อมกับยิ้มให้พี่เค้า ที่ผมพูดน่ะ ไม่ได้ประชดนะ พูดจากใจจริง ดีใจจริงๆนะที่พี่เค้าจำผมได้
"ให้ผมช่วยถือมั้ยครับ" ใช้สายตาชี้ไปที่ถาดเค้กที่วางซ้อนกันอยู่มากกว่าห้าถาด
ไม่รอคำตอบใดๆ มือเล็กก็จัดการยกถาดเค้กด้านบนที่ซ้อนกันมาสามถาด
"ถือไหวหรอ ตัวเล็กนิดเดียวเอง"
"เดี๋ยวคอยดูแล้วกันนะครับ" ว่าจบขาเล็กก็เดินนำไปข้างหน้าโดยไม่สนใจคนข้างหลัง
"นี่! รู้รึไงว่าจะเอาไปไหน"
คนตัวเล็กหยุดเเล้วหันกลับมา ส่ายหน้าเบา ๆพร้อมกับยิ้มเจื่อนๆส่งมาให้คนตัวสูงกว่า
นั่นทำให้คนตัวสูงยิ้มขำกับท่าทางเด็กๆของอีกคน
"เดินตามพี่นะ ไปส่งเค้กที่รถคันนั้นน่ะ เค้าสั่งไว้" ชี้นิ้วไปที่รถคันที่จอดอยู่ไม่ไกลนัก
"อื้อ" พยักหงึกๆ แทนคำตอบ
หลังจากขนถาดเค้กไปส่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนก็เดินกลับมาที่ร้านกาแฟโดยที่คนตัวสูงเป็นคนเปิดปนะตูให้คนตัวเล็กกว่าเข้า
"เอาเป็นว่าเดี๋ยวพี่เลี้ยงกาแฟ แทนค่าแรงล่ะกันนะ เอาอะไรล่ะ?"
"เอาเหมือนเดิมครับ"
"เอ่อ...ขอโทษนะ พี่จำไม่ได้อ่ะ" ส่งยิ้มเจื่อนมาให้แทนคำขอโทษ
"อ่า...ฮ่ะฮ่า ผมไม่โกรธหรอกครับ แค่แกล้งเล่นเฉยๆ ลูกค้าเยอะขนาดนี้จำไม่ได้คงไม่แปลกหรอกครับ" ขำกับท่าทางของอีกคนจริง
"ขอโทษจริงๆนะ"
"เอาเป็นว่าครั้งนี้ผมให้อภัย แต่ครั้งหน้าพี่ต้องจำให้ได้นะครับ ผม 'บยอน แบคฮยอนชอบกิน คาราเมล มัคคิอาโต้ เพิ่มคาราเมลไซรัปสองปั๊ม' ครับ" จงใจเน้นชัดแต่ละคำ เพื่อให้เข้าไปในสมองอีกคน ให้จำขึ้นใจไปเลยทีเดียว
"งั้นน้องแบคฮยอนก็มาเป็นลูกค้าประจำของพี่ชานยอลซิครับ พี่จะได้จำได้" ช่วยบอกผมทีว่าพี่เค้าไม่ได้อ่อยอยู่
"ไม่มีปัญหาเลยครับ"
จบบทสนทนาพี่ชานยอลเค้าก็หันไปชงกาแฟที่ผมสั่ง ด้วยความอยากรู้ ผมจึงนั่งจ้องพี่เค้าชงกาแฟจากที่นั่งหน้าเคาน์เตอร์
จนพี่เค้ารับรู้ถึงสายตาที่จดจ้องไปที่พี่เค้า เลยเงยหน้าขึ้นมา ทำให้ผมสบตากับพี่เค้าเป้นครั้งที่สองของวันแล้ว
เราสบตากันสักพักก่อนที่ผมจะเป็นคนหลบสายตาไปก่อน เพราะถ้าจ้องนานกว่าผมอาจจะเป็นลมก็ได้
"เราอยากทำเหรอ กาแฟหน่ะ จ้องตาไม่กะพริบเลย"
"ครับ เห็นมันน่าสนุกดี"
"ไว้เดี๋ยววันไหนคนน้อยๆ พี่จะสอนแล้วกันนะครับ" ไม่ต้องยิ้มโชว์หล่อก็ได้ แค่นี้ก็หลงจะตายแล้ว
"ผมจะรอนะครับ"
-Cafféine-
ในระหว่างที่นั่งจิบกาแฟ ผมก็คุยกับพี่เค้าไปเรื่อยๆ ทำให้ผมได้รู้ข้อมูลพี่เค้าเพิ่มขึ้นเยอะเลยทีเดียว อย่างเช่น พี่เค้าเป็นนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ อยู่ปีสาม เป็นเดือนคณะด้วย ก็ว่าทำไมผมถึงคุ้นๆหน้า พี่เค้าชอบกินคาปูชิโน่ที่สุด ชอบกินพิซซ่า แต่ไม่ชอบกินแฮมเบอร์เกอร์เพราะเคยแล้วท้องเสียตอนเด็กๆ ชอบสีดำ ว่างจากการเรียนก็มาทำงานพาร์ททามที่ร้านนี้ ฐานะบ้านพี่เค้าไม่ได้จนหรอกนะครอบครัวพี่เค้ามีธุรกิจส่วนตัวที่ค่อนข้างรุ่งเรือง พี่เค้าเลยมาเรียนบริหาร เพื่อที่จะได้สานต่อ ที่มาทำพาร์ททามก็เพราะชอบทำขนม กับชงกาแฟล้วนๆ พี่เค้ามีความฝันว่าอยากจะเปิดร้านเป็นของตัวเองด้วยนะ
เป็นไงหล่ะ แบคฮยอนนั่งคุยกับพี่ชานยอลไม่กี่ชม.เอง รู้ข้อมูลพี่เค้าเยอะขนาดนี้ แล้วถ้ามาเป็นลูกค้าประจำหล่ะ จะรู้เยอะขนาดไหนกันนะ
-Cafféine-
หลังจากวันนั้น ผมก็ไปที่ร้านกาแฟหน้ามอทุกวันที่มีเรียนมาเกือบเดือนหนึ่งแล้ว เอาจริงๆ ผมก็ไม่ได้เจอพี่ชานยอลทุกวันหรอก เพราะพี่ชานยอลมาทำงานเฉพาะพุธ-พฤหัส-อาทิตย์ตอนเย็นๆเท่านั้น หรือถ้าว่างก็จะมาช่วยงานที่ร้าน ที่ผมไปร้านทุกวันน่ะ ก็เพราะผมขาดกาแฟไม่ได้แล้ว ผมกลายเป็นคนติดกาแฟไปเลย จากที่ไม่ค่อยชอบกินสักเท่าไหร่ จนไอ้ลู่มันสงสัย ผมก็เลยเล่าให้มันฟังไปแล้ว
ว่าเจอรุ่นพี่ที่ชอบมากๆ ตอนมันรู้นี่คือแบบ มันตกใจมาก ผมล่ะ ขำหน้าตามันสุดๆเลย
และวันนี้ผมก็มาอีก
กริ๊งงงงงง
"อ้าว มาอีกแหล่ะพี่ ผมอ่ะ เบื่อหน้าพี่แล้วนะ วันนี้พี่ชานยอลไม่มาหรอกนะ แบร่!" เคยบอกแล้วใช่มั้ยว่ามาทุกวัน ฉะนั้นถ้าจะสนิทกับพนักงานร้านคนอื่นก็ไม่แปลก อย่างเมื่อกี๊เป็นเสียงของ 'คิมแทฮยอง' รุ่นน้องปี1 คณะวิศวะ
"จะขายมั้ย กาแฟน่ะ เดี๋ยวฟ้องผู้จัดการร้านเลยหนิ ไอ้ดำ" ยักคิ้วกวนๆส่งให้มันไปหนึ่งที
"เออๆ ขายก็ได้เว้ย เอาเหมือนเดิมช่ะ" หลังจากพูดจบ ก็กำลังจะไปชงกาแฟของผม แต่ก็ชะงักแล้วหันกลับมาหาผม
"พี่! ผมไม่ได้ดำนะ เค้าเรียกผิวสีน้ำผึ่งต่างหาก ใครจะไปเตี้ยเหมือนพี่ล่ะ" แลบลิ้นยาวๆ เป็นเชิงล้อเลียนรุ่นพี่ที่ตัวเตี้ยกว่า
"ไอ้เด็กบ้า!!!!!"
-Cafféine-
ตอนนี้ ผมได้มาสถิตอยู่ที่ห้องสมุดของมหา'ลัยเป็นที่เรียบร้อย เพื่อที่จะมาหาหนังสือไปทำรายงาน เดินมาเรื่อยๆ ก็เจอป้ายชื่อล็อคที่ผมกำลังตามหา
ผมจึงเข้าไปเลือกหาหนังสือที่ต้องการ
ผ่านไปไม่นาน ผมก็มีหนังสือกองโตวางอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว มือเล็กเปิดเป้ที่วันนี้พกโน้ตบุ๊คมาด้วย หยิบโน้ตบุ๊คออกมาแล้วเริ่มต้นนั่งทำงาน
"ขอนั่งด้วยได้มั้ยครับ น้องแบคฮยอน" เสียงทุ้มดังขึ้นจากด้านหลัง ผมจำได้ดีว่าเป็นเสียงของใคร พูดจบเจ้าตัวก็เดินมานั่งตรงข้ามกับผมทันที ทั้งๆที่ยังไม่ได้คำตอบ
"ผมยังไม่ได้บอกว่านั่งด้วยได้นะครับ"
"เราจะใจร้ายกับพี่หรอ" กะพริบตาปริบๆเพื่อเรียกคะแนนความสงสาร ถ้าถามว่าน่ารักมั้ยในสายตาผม บอกเลยว่า มากกกกก
"เปล่าครับ ไม่กล้าหรอก^^"
"ทำงานหรอ ให้พี่ช่วยมั้ย"
"พี่จะอ่านหนังสือหนิครับ ผมไม่อยากรบกวน" ส่งยิ้มบางๆไปฝห้คนตัวสูงแทน
"งั้นติดตรงไหนก็บอกพี่แล้วกันนะ"
"อื้อ" ไม่ต้องช่วยจริงหรอก แค่เห็นว่าพี่ชานยอลเค้าอยากช่วย ผมก็ดีใจที่สุด คุ้มค่าจริงๆ หนึ่งเดือนที่อุตส่าห์ไปร้านทุกวัน
-Cafféine-
"พี่ชานยอล"
"มีอะไรให้ช่วยอ่ะ"
"ทำตรงนี้ไม่ได้ ดูให้หน่อย" จบคำพูดของคนตัวเล็ก คนตัวสูงกว่าก็ลุกขึ้นและเดินอ้อมโต๊ะไปหยุดด้านหลังคนตัวเล็ก
"ขอพี่ดูหน่อย" คนตัวสูงกว่าน้อมตัวลงมาเพื่อดูจอโน้ตบุ๊ค มือก็เลื่อนไปจับเม้าส์ไร้สาย ทำให้ตอนนี้ชานยอลกำลังยืนคร่อมแบคฮยอนอยู่ทางด้านหลัง
คนตัวสูงกว่าเริ่มอธิบายในจุดที่คนตัวเล็กไม่เข้าใจ ถึงแม้คนตัวเล็กจะตั้งใจฟังเท่าไหร่ ก็ไม่เข้าใจ เพราะระยะที่ใกล้เกินไป ทำให้ลมหายใจของคนที่คร่อมอยู่ด้านหลังเป่ารดอยู่ที่คอ นั้นแหล่ะ ลองคิดดูนะ ถ้ารุ่นพี่ที่แอบชอบอยู่ใกล้ขนาดนี้ สติยังไม่กระเจิงก็ให้มันรู้ไปเลย
"เข้าใจมั้ย?"
"อ่ะ อะไรนะครับ" หลุดออกจากภวังค์ด้วยคำถามของพี่ชานยอล
"พี่ถามว่า เข้าใจมั้ย?"
"ขะ เข้าใจครับ" ถึงจะยังไม่ค่อยเข้าใจก็เถอะนะ ไม่สิ ไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าขืนถามต่อมีหวังแบคฮยอนคนนี้เป็นลมแน่ๆ
-Cafféine-
เวลาล่วงเลยมาจนใกล้ถึงเวลาปิดห้องสมุด ผมเก็บของเรียบร้อยแล้ว เหลือก็แต่รอให้พี่ชานยอลเก็บเสร็จ แล้วเดินออกไปพร้อมกัน
ใช้เวลาไม่นานเราสองคนก็เดินมาถึงหน้าประตูมหา'ลัย
"เรากลับยังไงหรอ"
"ผมน่าจะกลับรถประจำทางอ่ะครับ"
"หรอ แล้วบ้านอยู่แถวไหนล่ะ"
ผมไม่ได้หูฝาดใช่มั้ย พี่เค้าถามว่าบ้านผมอยู่ไหน ขอพื้นที่ให้แบคฮยอนดิ้นหน่อย
"ทำไมหรอครับ หรือว่าพี่จะไปส่ง?" ถ้าพี่เค้ารุกมาขนาดนี้ ผมก็ต้องรุกกลับซิ
"ตอนแรกก็แค่อยากรู้เฉยๆ แต่ตอนนี้ไม่แน่"
"มอไซค์พี่ จอดอยู่หลังร้านกาแฟหน่ะ"
"อยากซ้อนท้าย พี่มั้ยล่ะครับน้องแบคฮยอน:)"
-Cafféine-
"อยากซ้อนท้ายพี่มั้ยล่ะครับน้องแบคฮยอน"
.
.
.
.
"เกาะแน่นๆ พี่ซิ่งมากนะจะบอกให้" ไม่ต้องสงสัย ถ้าพี่เค้าเสนอ ผมก็จะสนอง และนั่นทำให้ตอนนี้ผมซ้อนอยู่บนเบาะหลังเวสป้าของพี่พี่ชานยอลเรียบร้อยแล้ว
"งั้นพี่ก็ขับดีๆ อย่าให้ผมตกนะ ผมเชื่อใจพี่" พูดกับพี่ชานยอลก่อนจะเอื้อมมือไปกอดเอวของคนเป็นพี่ไว้แน่นๆ แล้วเอาหน้าซุกที่หลังกว้างของอีกคน รู้สึกอบอุ่นอยากบอกไม่ถูกจริงๆ
"ครับ น้องแบคฮยอน"
รถจักรยานยนต์คันสวยแล่นไปตามท้องถนน พร้อมกับใจแบคฮยอนที่เต้นรัวเหมือนมีคนมาตีกลอง จนแบคฮยอนกลัวว่าพี่ชานยอลจะได้ยิน กลัวว่าระหว่างแบคฮยอนกับพี่ชานยอลจะไม่เหมือนเดิม
-Cafféine-
ใช้เวลาไม่นานแบคฮยอนก็มาถึงหน้าคอนโดของตัวเองเรียบร้อยเเล้ว ขาเล็กค่อยๆ ก้าวลงจากเวสป้าของคนพี่ รู้สึกว่าการกลับห้องมันเร็วผิดปกติที่กลับเอง ไม่อยากถึงจริงๆยังอยากกอดพี่ชานยอลต่ออยู่เลย
"ขอบคุณนะครับ อุตส่าห์มาส่งผม ทั้งๆที่คนละทางแท้ๆเลย" ยิ้มแหยๆไปให้แทนคำขอโทษ
"ไม่เป็นไร ดึกแล้วถ้ากลับเองเดี๋ยวก็โดนฉุดหรอก ยิ่งน่ารักๆอยู่"
จบคำพูดของคนพี่ คนเป้นน้องก็ยืนตัวแข็งทื่อ ก้มหน้าลงพื้น พร้อมกับหน้าที่แดงเป็นลูกมะเขือเทศ เพราะคำพูดของคนพี่
"ฮ่ะฮ่า งั้นไปพี่ไปก่อนนะ" ขำเล็กน้อยกับท่าทางของอีกคน
"ขะ ขอบคุณครับ!" พูดจบก็โค้งให้หนึ่งครัง ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นห้องไป เหลือไว้ก็แต่คนขี้แกล้งทั่กำลังขำอยู่เดียวเท่านั้น
"ต้องเขินขนาดนั้นเลยหรอไง ก็น่ารักจริงๆหนิ"
-Cafféine-
ร่างเล็กที่วิ่งขึ้นมาจากชั้นล่างมาถึงห้องตัวเอง ตอนนี้กำลังหอบเหนื่อยแห่กๆ อยู่หน้าประตูห้อง รีบไขกุญแจห้องแล้วปิดประตู โยนของทั้งลงพื้น ก่อนจะกระโดดขึ้นเตียงแล้วก็
อ้ากกกกกกกกกกกก
"พี่ชานยอลบอกว่ากูน่ารักเว้ยยยยย"
นอนมโนเพ้อได้ไม่นานก็ต้องลุกขึ้นจากเตียงแล้วไปหยิบโทรศัพท์ที่โยนตกไปที่พื้น เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชั่นไลน์
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก่อนจะเลื่อนดูข้อความทร่ได้รับจากเพื่อนสนิทอย่าง
'เสี่ยวลู่หาน'
Lulu_han ได้ส่งรูปภาพถึงคุณ
แบคฮยอนกดเลื่อนจอเพื่อดูรูปที่เพื่อนสนิทส่งมาให้ ก่อนจะพบว่าเป็นรูปของตนเองกำลังซ้อนท้ายของพี่ชานยอลอยู่ พร้อมพาดหัวข่าวด้านข้างว่า
'อะไรกัน!? เดือนคณะบริหารปีสาม ปาร์ค ชานยอล พาเด็กปีสอง(ไม่ขอระบุชื่อชัดเจน)ซ้อนท้ายเวสป้าคันโปรดสีครีม ออกนอกมอ เตรียมเปิดตัวแฟนแล้วรึไงกันนะ'
Lulu_han
ใช่มึงใช่มั้ย? 19:48
Baekhyunee
19:48 เออใช่
Lulu_han
เหี้ย! มึงไปเปิดดูเว็บข่าวมอเลย 19:48
Baekhyunee
19:49 ทำไม? แปบ
กดออกจากแอปพลิดคชั่นแชทชื่อดัง แล้วเข้าแอปพลิเคชั่นไอค่อนสีน้ำเงิน ที่มีตัวอักษรเอฟ สีขาวตัดกับสีพื้น พิมชื่อเสิร์ชหาเพจข่าวสารของมหา'ลัย
เมื่อกดเข้าไปเท่านั้นแหล่ะ โพสต์แรกที่เห็นก็คือข่าวของผมกับพี่ชานยอล กดเข้าไปดูคอมเม้นท์ที่มีๆม่ต่ำกว่าพันเม้ท์ หลังจากโพสต์ได้ไม่นาน
'เด็กนั้นเป็นใคร'
'ฉันว่าฉันรู้จักนะ ขื่อบยอน แบคฮยอน ปีสอง คณะสถาปัตย์ อยู่คณะเดียวกับฉันเลย'
'ไม่นะ พี่ปาร์ค'
'บังอาจมาก มากอดพี่ชานยอลได้ไง'
'พวกเขาดูน่ารักนะ'
'ดูเข้ากันดีหนิ'
และคอมเม้นท์อีกมากมาย มีทั้งคอมเม้นท์บอกว่าชอบ และไม่ชอบ แต่ส่วนมากจะไม่ชอบมากกว่า
นิ้วเรียวเลื่อยหน้าจอเพื่ออ่านคอมเม้นท์ต่อ ไม่เคยคิดเลยว่าแค่ซ้อนท้ายพี่ชานยอลจะเป็นเรื่องขนาดนี้ ไม่อยากโดนคนเกลียดเลย ทำไงดีอ่าาาาา
การแจ้งเตือนดังขึ้นอีกครั้ง เป็นสัญญาณว่ามีคนคอมเม้นท์เพิ่ม
PCY happyvirussss'
แค่รุ่นน้องที่รู้จักน่ะ
เป็นคอมเม้นท์จากพี่ชานยอลในเพจมหา'ลัย และก็เป็นคอมเม้นท์ที่ทำให้ใจของผมฟีบลงทันที ไม่เข้าตัวเองเลย ทำไมต้องหวั่นไหวกับเรื่องเเค่นี้ด้วยนะ??
แต่...แค่เห็นพี่เค้ายิ้มก็มีความสุขแล้ว
-Cafféine-
หลังจากไปส่งแบคฮยอนเสร็จ ใช้เวลาไม่กี่นาที ผมก็กลับมาถึงคอนโดตัวเอง จอดเวสป้าคันโปรดไว้ตรงที่จอดรถใต้ตึก ขายาวก้าวเดินไปตามทางฟุตบาทของคอนโด จุดหมายปลายทางคือสวนสาธารณะที่อยู่ใกล้ๆ
ผมชอบที่นี่นะ มันสงบและก็ผ่อนคลายดี
นั่งลงใต้ต้นไม้ใหญ่กลางสวน ถึงจะเป็นเวลามืดแล้ว แต่มันก็ยังคงแผ่ร่มเงาออกมาอยู่ดี หลับตาลง เพื่อพักสายตาที่เหนื่อยล้ามาทั้งวัน
ตืด
ลืมตาขึ้นมาเพราะเสียงการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชั่นเฟสบุ๊ค กดเลื่อนหน้าจอเพื่อดูข้อความที่มีการแจ้งเตือนมา ก่อนจะพบว่าเป็นหน้าเพจข่าวสารของมหา'ลัย โพสต์ล่าสุดที่แท็กเจ้าตัวมา เป็นรูปของตัวเองที่ขับเวสป้าให้แบคฮยอนซ้อนท้าย
กดเข้าอ่านคอมเม้นท์ที่กำลังถล่มทลาย เนื่องจากพาดหัวข่าวที่ชวนคิด ขมวดคิ้วเป็นปมเพราะความไม่เข้าใจ
"แค่ไปส่งกลับบ้าน ต้องเป็นข่าวขนาดนี้เลยหรอ?"
"ก็แค่.....
กลัวว่าจะเป็นอะไรไปก็เท่านั้นเอง บอกแล้วไงว่าน้องแบคฮยอนน่ะ น่ารัก" ใช่น่ารัก น่ารักมากด้วย อดจะยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงใบหน้าของอีกคน
นิ้วยาวกดเข้าแป้นพิมพ์เพื่อพิมพ์คอมเม้นท์ให้หายข้องใจ
'แค่รุ่นน้องที่รู้จักน่ะ'
'แค่ตอนนี้นะ'
-Cafféine-
PCY happyvirussss'
'แค่ตอนนี้นะ"
อ่านข้อความในคอมเม้นท์ล่าสุดจากพี่ชานยอล หัวใจที่ตอนแรกห่อเหี่ยวกลับพองโตขึ้นมาทันที ถึงจะเป็นเพียงแค่ข้อความธรรมดาๆ แต่แบคฮยอนขอคิดไปเองก่อนแล้วกันว่าพี่ชานยอลก็รู้สึกดีกับตัวเองเหมือนกัน
แม้ว่าจะไม่รู้สถานะที่แท้จริงคืออะไรก็เถอะนะ....
Tbc.
Talk:
ฝากคอมเม้นท์ให้ไรท์ด้วยค่ะ แล้วจะรีบมาลงต่อให้นะ รักรีดทุกคน~~~เย่!!!
Talk 2:
ไรท์แก้เนื้อหานิดหน่อยนะ อาจจะงงๆนิดนึง5555
ความคิดเห็น