คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : บทที่11 ภาค3 ร่วมมือสังหาร
“ฆ่า!”
เจียงเฉิงตะคอกลั่น ทวนวงเดือนทองคำขาวเล่มหนึ่งเคลื่อนไปในอากาศ ม้วนดึงเกลียวพายุขึ้นมา
โครม!
ตามองเห็นว่าไอสังหารโหมคลั่งราวจับต้องได้ รวมตัวอยู่ในกระบวนท่าเดียวของทวนวงเดือน ปลดปล่อยปรากฏการณ์ประหลาดน่าหวาดหวั่นอย่างเทพผี คร่ำครวญ ตะวันจมจันทรามลายออกมา
อานุภาพของการโจมตีนี้ทำให้ทุกคนที่อยู่ไกลออกไปต่างตื่นตระหนกจนขวัญแทบหาย
สมกับเป็นผู้ที่ทัดเทียมเทพสังหาร ใช้พลังเต๋าแท้จริงขั้นสมบูรณ์กระตุ้น อานุภาพออกมาน่ากลัวจนไม่กล้าจินตนาการ
“ดูท่าพวกเจ้าได้ตัดสินใจแล้ว”
ทันใดนั้นไอสังหารไหวเคลื่อนในดวงตาของจงหลิงเอ๋อ
“วันนี้ข้าก็จะบอกให้พวกเจ้ารู้ว่า อย่างไรเรียกรนหาที่เอง!”
หลังจากจงหลิงเอ๋อพูดจบ ประกายคมขาวเจิดจ้าราวหิมะสายหนึ่งโฉบออกมาอย่างรุนแรงจากตัวของนาง พุ่งตรงสู่เวิ้งฟ้า
ดุจดั่งรุ้งขาวแทงทะลุสุริยัน เจือความดุดันหาใดเทียบ
เปรี้ยง..!!
กระบี่หิมะเหินของจงหลิงเอ๋อกับทวนวงเดือนทองคำขาวปะทะกัน ทันใดนั้นเสียงอึกทึกสะท้านจนหูแทบดับปะทุขึ้น ทำให้ห้วงอากาศบริเวณนั้นระเบิดแหลก เมฆหมอกสลายกลายเป็นฝุ่นผง
จิตรับรู้ของผู้บ่มเพาะบางคนเจ็บแปลบ ยากจะมองสถานการณ์ต่อไปได้อีก
“ทำลาย!”
แขนเสื้อจงหลิงเอ๋อไหวกระพือ ผมที่ยาวทั้งศีรษะปลิว ไสว กลิ่นอายที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อนอยู่เดิมพลันถูก อานุภาพน่าประหวั่นเข้าแทนที่
ประหนึ่งแปลงกายเป็นเทพธิดาคนหนึ่งที่เดินออกมาจากหมู่เทพเซียนในชั่วพริบตา!
นางมั่นใจในกระบี่หิมะเหินที่น้องชายฉินหนานของตนหลอมสร้างให้เป็นอย่างยิ่ง
พลานุภาพเช่นนั้นทำให้ชั้นเมฆสิบทิศล้วนแหลก ละเอียด สุริยันจันทรายังจืดจาง ฟ้าดินมืดหม่น มีเพียง เงาร่างโปร่งสูงตระหง่านของนางเท่านั้นที่ราวกับเป็นนิรันดร์
“ฆ่า!”
ผมขาวของเจียงเฉิงพลิ้วไหวบ้าคลั่ง ไอสังหารทั้งกายทะลุเมฆา ทวนวงเดือนทองคำขาวเล่มหนึ่งเริงระบำ ต่อสู้กับกระบี่หิมะเหินอย่างดุเดือด
ทว่าก็ได้ยินเสียงปึงดังขึ้นครั้งหนึ่ง ทวนวงเดือนเล่มนั้นถูกซัดออกไปตรงๆ แทบจะกระเด็นหลุดมือ ทำให้เงาร่างของเจียงเฉิงซวนเซไปเช่นกัน ท่อนแขนชาหนึบ
สีหน้าของเขาครู่เดียวก็เปลี่ยนเป็นหนักอึ้งขึ้นมา
ปึง!
เมื่อประมือกันอีกครั้งเจียงเฉิงส่งเสียงอู้อี้ออกมา สังเกตได้ว่าพลังของตนสู้จงหลิงเอ๋อไม่ได้อย่างชัดเจน เสียเปรียบแล้ว
“เฉือน!”
จงหลิงเอ๋อสะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง กระบี่หิมะเหินส่งเสียง กังวาน คดโค้งราวนิมิตมายา แทบเหมือนกับลำแสง ว่องไวจนเหลือเชื่อ ประหนึ่งเฉือนทำลายพันธนาการ แห่งห้วงอากาศ
เจียงเฉิงหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย เริ่มหลบหนี
“จู่โจม!"
แทบจะในขณะเดียวกัน หลิงซูที่เห็นว่าสถานการณ์ของเจียงเฉิงลงมือแล้วไม่สู้ดี ก็เห็นว่าเขาสะบัดฝ่ามือดุจเหล็กกล้าครั้งหนึ่ง ประทับคลื่นพลังเต๋าสีเขียวตราหนึ่งทะยานไปในอากาศ บานออกเป็นดอกบัวให้ความรู้สึกอิ่มเอิบแจ่มจรัสและบริสุทธิ์ผุดผ่อง
แต่แสงเทพที่ประทับคลื่นพลังเต๋านั้นปลดปล่อยออก มากลับนองเลือดน่าหวาดหวั่น ดุจดั่งรุ่งเทพสีเลือดเข้า ขัดขวางกระบี่หิมะเหิน
ตูม!
ทว่ารุ้งเทพสีเลือดนั้นถูกดกระบี่หิมะเหินกรีดทิ้งทันตา เหมือนผืนแพร แม้แต่ประทับคลื่นพลัง้ต๋าตรานั้นก็ถูกฟันจนกระเด็นลอย ส่งเสียงครวญออกมา
ใบหน้าที่แดงปานลูกพลับของหลิงซูพลันซีดขาว ถอยหลังไปหลายก้าวทันที ในใจตกตะลึง
เมื่อได้ประมือกับจงหลิงเอ๋อย่างแท้จริงถึงได้รู้ว่าพลังของอีกฝ่ายมิได้ด้วยไปกว่าพวกตน มิหนำซ้ำยังอาจจะเหนือกว่า นี่ดูน่าครั่นคร้ามปานไหน ช่างเหมือนกับ มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาล มีอานุภาพดุจเขาถล่ม สมุทรทลาย
ควรรู้ว่าตอนนี้นางเป็นถึงบุคคลระดับเต๋าแท้จริง อีกทั้งพรสวรรค์ที่ได้ถูกฉินหนานยัดเยียดมาให้ยังสะท้านโลกา ผู้แข็งแกร่งในทวีปจิงโจวทั่วไปยังไม่อยู่ในสายตาของนางในเวลานี้
การจู่โจมของหลิงซูกลับถูกจงหลิงเอ๋อตีพ่ายเสียแล้ว!
ทว่าหลิงซูลงมือคราวนี้กลับช่วยเจียงเฉิงชิงโอกาส หายใจหายคอมาครั้งหนึ่ง หลุดพ้นจากการเป็นฝ่ายรับ
“ฆ่า!”
เจียงเฉิงกับหลิงซูร่วมกันลงมือ แยกกันใช้ทวนวงเดือนทองคำขาวกับประทับคลื่นพลังเต๋าประกบโจมตี จู่โจมจนทําให้กระบี่หิมะเหินสั่นไหว
ในขณะเดียวกัน
เสียงสวบดังขึ้น เงาร่างเออปาที่อยู่ไกลออกไปไหววูบ หายลับไปกลางอากาศ รวดเร็วจนเหมือนความเร็วเสียง
ครู่ต่อมาเขาก็ปรากฏตัวเบื้องหน้าจงหลิงเอ๋อ พ่นลมออกมาจากปากครั้งหนึ่ง กระบี่บินเรียวเล็กยาวแค่สามชุ่นเล่มหนึ่งยิงพุ่งออกมาแทงคอหอยของจงหลิงเอ๋อตรงๆ
แทบไม่มีทางบรรยายการโจมตีนี้ได้
เร็วยิ่งนักและดุดันเกินไป กระบี่บินสีเงินสามชุ่น แต่กลิ่นอายที่แผ่ออกมากลับปกคลุมทั่วฟ้าดิน ฉกาจฉกรรจ์ไร้ที่สิ้นสุด
“เงามายาพิฆาต..!!”
นี่เป็นพลังพรสวรรค์ของเออปาผู้อาวุโสลำดับสาม กราดเกรี้ยวดั่งพายุ ไร้รูปไร้เงาอานุภาพของมันเหมือนเทพมารโจมตี เพียงแค่พลังที่แฝงไว้ก็สามารถทำลายจิตวิญญาณและปณิธานต่อสู้ของคู่ต่อสู้ได้
“หึ แม่จะตบให้คว่ำ!”
สีหน้าจงหลิงเอ๋อไม่หวั่นไหว แต่กลับมีพลังฝ่ามือส่องประกายเปล่งปลั่งดั่งหยกเขียวปะทุออกมาในชั่วพริบตานั้นดั่งเหมือนมีตา
ตูม!
ห้วงอากาศระเบิดแหลกยุบตัว
พลังฝ่ามือเปล่งประกายนั้นเข้ารับกระบี่บินสามชุ่น นี้ไว้อย่างจัง พลังที่ฝ่ามือปลดปล่อยออกมา ทำให้กระบี่บินสามชุ่นเล่มนี้แหลกสลายเป็นผุยผงเสียงดังปึง!
เสียงพรูดดังขึ้น เออปากระอักเลือดออกมา เพียงรู้สึกว่าเลือดลมทั่วร่างปั่นป่วน ถอยไปพลันโดยไม่ลังเล
“ทำไมนางถึงแข็งแกร่งปานนี้ นั่นเป็นถึงกระบี่วิญญาณบินที่ข้าใช้วัตถุดิบระดับเทพหลอมขึ้น แต่กลับถูกรับไว้ได้หรือ มิน่าถึงกล้าท้าทายพวกข้า”
เออปาตะลึงพรึงเพริดอยู่ในใจ
เดิมเขานึกว่าตนกับจงหลิงเอ๋ออยู่คนระดับ ห่างชั้นกันราวฟ้ากับเหว แต่ตอนนี้ดูท่าเขาจะคิดผิดแล้ว
ปึง!
ในขณะเดียวกันเสียงสะเทือนเลื่อนลั่นดังขึ้นไกลออกไป
ทวนวงเดือนทองคำขาวกับประทับคลื่นพลังเต๋าที่ประกบโจมตีกระบี่หิมะเหินแตกออกทั้งอย่างนั้น ส่งเสียงครวญไม่ว่างเว้น
โดยเฉพาะบนประทับคลื่นพลังเต๋าถูกฟันเป็นรอยสายหนึ่ง ทําให้หลิงซูพลังสะท้อนกลับส่งเสียงอู้อี้ออกมา
ส่วนเจียงเฉิงก็ตัวสั่นไปทั้งร่าง เมื่อกี้ในระหว่างที่เขาปะทะกับกระบี่หิมะเหิน ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกภูเขาเทพบรรพกาลลูกหนึ่ง โจมตีอย่างรุนแรงอยู่ตลอด พลังน่ากริ่งเกรงเช่นนั้นกดข่มจนเขาแทบกระอักเลือด
ทั้งหมดนี้พูดไปก็เหมือนช้า แต่ความจริงแล้วล้วนเกิดขึ้นในชั่วพริบตา ชั่วอึดใจก็จบลงรวดเร็วจน สะท้านโลกพาให้ผู้คนตื่นตะลึง
“นึกไม่ถึงว่าพี่สามจะลงมือรุนแรงปานนี้” ฉินหนานกล่าวพลางแหงนมองการต่อสู้กลางอากาศไม่วางตา
“เจ้าจะไปรู้อะไรตอนที่เจ้าไม่อยู่ นางก็อยู่แต่ในสำนักเอาแต่เก็บตัวบ่มเพาะไม่ก็กลั่นโอสถ ข้าว่านะพี่สามจะต้องเก็บกดเป็นแน่”เมิ่งชวนเอ่ยปากในขณะที่สายตาก็ไม่ละจากการต่อสู้เช่นกัน
“เพราะเหตุใดกันพี่สี่”ฉินหนานมีสีหน้างงงวย
หมิงอี้ที่ทนไม่ได้ที่จะเข้าร่วมการสนทนาจึงกล่าวแทรก
“จะไม่ให้พี่สามเก็บกดได้อย่างไรกันพี่หก ในเมื่อทุกวันที่นางต้องเจอคือเหล่าจอมยุทธ์มากฝีมือ ผู้นำตระกูลมากมายพยายามมาสู่ขอนางไม่เว้นแต่ละวัน แต่นางก็ปฏิเสธไปอย่างนุ่มนวลทุกครั้ง หากใครเซ้าซี้นางมากๆก็ถูกนางไล่ทุบตีปางตายกันยกตระกูลมาแล้ว บรื๋อ..!! วันนั้นข้าเห็นพอดีตอนที่นางกำลังทุบตีคุณชายตระกูลซ่ง หากข้าไม่ห้ามไว้ไอ้หมอนั่นตายแน่ๆ” หมิงอี้กล่าวถึงจงหลิงเอ๋ออย่างออกรสออกชาติ
“พวกเจ้าจำคำพูดข้าไว้นะ พวกเจ้านินทานางกันเองหากนางรู้เข้าล่ะก็ พี่รองอย่างข้าไม่เกี่ยวนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า.!!”ต้วนเทียนฮ่าวหัวเราะอย่างชอบใจ
“ข้าด้วย..!!”จางเต๋าและเมิ่งตี้พรวดพราดพูดออกมาพร้อมกันจากนั้นพากันหัวร่อฮ่าฮ่ากันอย่างห้ามไม่ได้
ด้านบนเวิ้งฟ้า
จงหลิงเอ๋อนางทลายการประกบโจมตีของพวกร้ายกาจชั้นยอดทั้งสามคนได้อย่างแข็งกร้าว!
พลานุภาพโอหังเช่นนั้นทำให้ผู้อาวุโสคนอื่นๆที่ยังไม่ถูกเหลียนเซิงเรียกชื่อโดยที่พวกตนยังไม่ออกโจมตี หน้า เปลี่ยนสีเล็กน้อย สีหน้าเคร่งครัด
ด้านเหล่าศิษย์ผู้ชมการต่อสู้ที่อยู่ไกลออกไปถึงกับยังไม่ได้สติกลับมา...
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากสู้หนึ่งต่อหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเจียงเฉิง เออปาและหลิงซูคงเป็นคู่ต่อสู้ของจงหลิงเอ๋อไม่ได้!
“ลงมือพร้อมกัน!”
เวลานี้พวกเจียงเฉิงสบตากัน ต่างเข้าใจกันโดยไม่ต้องพูดออกมา ออกเคลื่อนไหวร่วมกันอย่างไม่ลังเล ล้วนรู้ดีว่าหากหมายจะสังหารสตรีผู้นี้ต้องลงมือพร้อมกัน
ความคิดเห็น