คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : บทที่8 ภาค3 จิตขับเคลื่อน
พรวด!
เจียงซือที่อยู่ไกลออกไปเดิมทีไอสังหารพวยพุ่ง หมายจะใช้พลังแท้จริงกำราบอิเตาเพื่อระบายความแค้นในใจ ทว่าเขาในตอนนี้กลับกระเด็นลอยออกไปเหมือนว่าวที่เชือกขาด ปากกระอักเลือด แม้แต่สีหน้ายังเปลี่ยนเป็นซีดเซียวในบัดดล
เสียงดังกึ่งหนึ่งครา ร่างของเจียงซือร่วงยุบลงบนพื้น กระแทกจนที่ตรงนั้นแตกเป็นเสี่ยง ฝุ่นควันตลบฟ้า
“นี่...”
ทั่วทั้งลานปากอ้าตาค้าง
หลังจากที่เจียงซือสำแดงอานุภาพโดยมิได้ยับยั้งพลังอีกต่อไป อานุภาพน่าหวาดกลัวนั้นได้สั่นสะท้านหัวใจของทุกผู้คนตั้งแต่ต้นเอาไว้แล้ว ต่างลอบเป็นกังวลแทนอิเตากันถ้วนหน้า
อย่างไรเสียในตอนนั้นแม้แต่บุคคลชั้นยอดระดับ เต๋าแท้จริงขั้นปลายยังหยุดสามกระบี่ของเจียงซือเอาไว้ไม่ได้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ อิเตาที่เพิ่งครอบครองพลัง การบ่มเพาะระดับปราณฟ้าจะไหวหรือ
ทว่าผลลัพธ์กลับทําให้ผู้คนอึ้งงัน ทันทีทีชิงเจ๋อ ปล่อยกระบี่พิฆาตออกไป กลับพ่ายแพ้อย่างสุดจะทนยิ่ง กว่าเมื่อครู่เสียอีก!
นี่เป็นเพียงความคิดของคนทั่วไปที่มิได้รู้ว่าแท้จริงแล้วมีพลังเทียบเท่ากับเจียงซือ มิหนำซ้ำยังมีคุณภาพที่ดีกว่า แม้กระทั่งยังสามารถหยั่งรู้เข้าใจกฎเกณฑ์พลังแห่งฟ้าดินได้อีกด้วย
ภาพนี้เห็นได้ชัดว่าน่าเหลือเชื่อเกินไป
“สวรรค์ ก่อนหน้านี้พวกเราทึ่มที่เป็นกังวล แทนศิษย์พี่อิเตากันชัดๆ!”
เหล่าศิษย์ผู้ฝึกปราณที่รู้ความจริงและเชื่อมั่นในตัวอิเตาเวลานี้ต่างตะลึงเล็กน้อย
แข็งแกร่งเกินไปแล้ว ทำลายศัตรูอย่างง่ายดายเหมือนพังไม้ผุ ฝีมือเช่นนี้เกรี้ยวกราดเผด็จการเกินไปแล้ว!
“เป็นไปไม่ได้!”
บุคคลสำคัญของสำนักอักษรเทียนจงตกใจจนแทบโดด ผลุงขึ้นมา เดิมทีพวกมันมั่นใจเต็มอก กำลังเตรียมชมเรื่องสนุก แต่ไหนเลยจะคาดคิดว่าพริบตาเดียวกลับเป็นเจียงซือที่พ่ายแพ้ไปเสียได้!
ยังดีที่พวกเขามีบทเรียนจากคราวก่อน ไม่กล้าส่งเสียงออกไป เพราะหลายคนเริ่มจำได้ว่าเมื่อสามปีก่อนมีคนมาบุกรุกทำลายสิ่งปลูกสร้างของสำนัก ตบซัดเจียงซืออัดใส่หน้าผาด้วยการโจมตีเดียวคือชายหนุ่มที่ยื่นอยู่อีกฝั่งของลานประลองนั่นเอง เมื่อพวกตนส่งเสียงไปเกรงว่าชายหนุ่มผู้นั้นหากลงมือเกรงว่าต่อให้ยกกันมาทั้งสำนักก็ไม่อาจต้านไว้ได้
“ศาสตราจิตวิญญาณ นั่นเป็นถึงศาสตราจิตวิญญาณ…”
นัยน์ตาผู้แข็งแกร่งหลายคนวับวาว ค่อนข้างไหวหวั่นสะเทือนอารมณ์ จับจ้องไปยังคมกระบี่ขาวแวววาวที่วนอยู่รอบกายอิเตา สีหน้าปรวนแปร
พวกเขาที่รู้ดีว่าการพ่ายแพ้ครั้งนี้ของเจียงซือนั้น สมควรแล้ว เพราะนั่นเป็นศาสตราจิตวิญญาณขนานแท้! ต่อให้ เป็นในสำนักอักษรเทียนจงก็ยังเป็นสมบัติล้ำที่เรียกได้ว่า มีค่าเหลือล้นพบเห็นได้น้อยมาก
เพียงแต่... ท้ายที่สุดผลลัพธ์นี้ช่างทำให้ผู้คน หดหู่เหลือเกิน!
“ฮ่าๆ วะฮะฮ่าๆ...” คังซือหลิงที่อยู่ไกลออกไป หัวเราะจนเหมือนจิ้งจอกเฒ่าที่ขโมยลูกไก่ได้อย่างไร อย่างนั้น
ส่วนหน้าประตูทางเข้าสำนักอักษรเทียนจง สมาชิกและบุคคลระดับสูงของสำนักที่ยังภักดี ทั้งหมดต่างกู่ร้องขึ้นอย่างเป็นเกียรติ
“ข้าจะฆ่าเจ้า!”
ในที่นั้นเจียงซือตะกายขึ้นมาจากพื้น ส่งเสียงตะโกนเดือดดาลเย็นเยียบ เขาไม่ยินยอมในใจโกรธเกรี้ยวเฉียวฉุน ไม่อาจยอมรับผลลัพธ์เช่นนี้ได้
ยังไม่ทันงัดพลังทั้งหมดออกมาใช้ก็ต้องบาดเจ็บสาหัสแล้ว นี่เป็นความอัปยศยิ่งโดยไม่ต้องสงสัย!
“พิฆาต!”
เจียงซือในขณะนี้ไม่อาจรักษาท่วงท่าเป็นเอกเทศวางตัว ตามสบายเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว เรือนผมสีเงินของ เขาเต้นพล่านใบหน้าเขียวคล้ำ เงาร่างประหนึ่งภูเขาไฟ ลุกไหม้ เผาทำลายห้วงอากาศ เรียกกระบี่วิญญาณสี เขียวเล่มหนึ่งพุ่งสังหารออกมา
เวลานี้เจียงซือเขาเหมือนดวงอาทิตย์ลุกโชนสีเขียวดวง หนึ่งกำลังปะทุเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ แทบอยากเอาชีวิต อิเตาด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
เพียงแต่อิเตากลับไร้ซึ่งความเกรงกลัวตั้งแต่ต้น!
ถ้าหากก่อนหน้านี้เจียงซือไม่ใช้วิชาลับวิถีกระบี่นั้น ออกมา บางทียามที่อิเตาต่อสู้กับเขาอาจจะยังชักช้า เสียเวลาอีกหน่อย ทว่าตอนนี้
ผลลัพธ์ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว!
“เจ้าแพ้แล้ว ขัดขืนไปก็เปลืองแรงเปล่า”
อิเตาเอ่ย กระบี่นภาครามแปรเป็นสายรุ้งขาวกระจ่าง ราวโปร่งแสง ส่งเสียงคำรามก้องกังวาน พุ่งโฉบออกมา แสนมหัศจรรย์
นี่เป็นวิชาแห่งจิตขับเคลื่อนที่ฝึกฝนมาจากเคล็ดวิชามรรคสงัดนิรันดร์เช่นเดียวกัน ทว่าสิ่งที่อิเตาใช้พลังจิตควบคุมคือศาสตราจิตวิญญาณแท้จริง ส่วนที่เจียงซือใช้กลับเป็นกระบี่ลับที่ควบรวมมาจากพลังจิตวิญญาณ
นี่จึงจะเป็นความแตกต่างของทั้งสอง ซึ่งส่งผลให้พลานุภาพบังเกิดความแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว
เห็นได้ชัดว่าเจียงซือเองก็ตระหนักถึงจุดนี้เช่นเดียวกัน ดังนั้นการลงมือครั้งนี้จึงเรียกกระบี่วิญญาณสีเขียวเล่มหนึ่งออกมา
ชิ้ง!
การต่อสู้ปะทุขึ้นอีกครั้ง กระบี่นภาครามดุจสายรุ้ง ลอย ล่องราวภาพฝัน อัศจรรย์และโปร่งแสง สลายการโจมตี ของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย
ฟืด..!!
โฮก..!!
ขณะที่ต่อสู้ อิเตาสูดลมเข้าเต็มปอดสำแดง ‘วิชามังกรคำราม’ที่เรียนรู้มาจากหรงเหวิน คลื่นเสียงสนั่นฟ้าสะเทือนดินแปรเปลี่ยนเป็นมีรูปร่างกลายเป็นคลื่นแผ่ซ่านออกไป ซัดทำลายห้วงอากาศ ปกคลุมทั่วสารทิศ
พลันเห็นเจียงซือที่ต่อสู้ดุเดือดส่งเสียงร้องอึดอัด ทั่วร่างสั่นเทิ้มไม่รู้จบ
“ต่ำช้า!”
นัยน์ตาของเขาน่ากลัว ลุกโชนด้วยเพลิงโทสะ ก่อนหน้านี้เขาถูกกระบี่นภาครามทำร้ายพลังจิต และตอนนี้ยัง ถูกคลื่นเสียงอันน่ากลัวนั้นพุ่งจู่โจมจิตวิญญาณอีกด้วย พลันรู้สึกรับไม่ไหวขึ้นมาในบัดดล
“ต่ำช้าหรือไอ้ระยำหมา? นี่คือการต่อสู้ เจ้าเป็นถึงผู้อาวุโสใหญ่แห่งสำนักอักษรเทียนจง ที่มีการบ่มเพาะสูงส่งอยู่ในขั้นเต๋าแท้จริง ยังต้องให้ข้าสอนเจ้าอยู่หรือ”
อิเตาพูดไปพลางสำแดงก้าวย่างเมฆาไร้ลักษณ์ไปด้วย โจมตีออกไปอย่างแกร่งกล้า
อิเตาเขาคิดสยบคู่ต่อสู้ ครั้งนี้จึงไม่ได้ยั้งมือใดๆ หมาย จะพิชิตชัยในอึดใจเดียว ยุติการดวลนี้ไปเสีย
ตูม!
เงามายาสีดำทมิฬราวภูติพรายทะยานกลางอากาศ แผดคำรามเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน ส่วนความเร็วของอิเตานั้นได้บรรลุถึงระดับที่น่าตกใจ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ผมยาวของเขาปลิวสยายไปด้านหลัง นัยน์ตาดำราวหุบเหว ยามนี้ได้แสดงให้เห็นถึงอานุภาพของตนโดย สมบูรณ์แล้ว ท่วงท่าอันแสนเหยียดหยันไร้เทียมทานนั้นสั่นสะเทือนไปทั่วลาน
เจียงซือบันดาลโทสะ แข็งขึ้นสู้ไม่ยอมหลบหลีก
โครม!
ห้วงอากาศแถบนี้ราวกับถูกระเบิด กระบี่นภาครามร่าย รำ คมกระบี่ว่ายเวียน แสงศักดิ์สิทธิ์พลุ่งพล่านแผ่ซ่าน กวาดม้วนทั่วสารทิศราวกับน้ำไหลหลากก็ไม่ปาน
ผู้ฝึกปราณที่จับตามองศึกครั้งนี้ต่างนิ่งงันไปแล้ว ก่อนหน้านี้ความสามารถของเจียงซือแข็งแกร่งตั้งเท่าไร แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าอิเตาในยามนี้ ถึงกับถูกสยบจนเกือบโงหัวไม่ขึ้น!
ส่วนสีหน้าของเหล่าอาวุโสและเหล่าศิษย์ที่ทรยศล้วนเปลี่ยนเป็นเหยเกถึงขีดสุด ผลลัพธ์นี้ทำให้พวกเขา ยากยอมรับเป็นอย่างยิ่ง ความสามารถของอิเตาเจิดจ้าขึ้นทุกที ยิ่งทำให้พวกเขาหงุดหงิดและอัดอั้นขึ้น เรื่อยๆ นี่มันยากรับไหวเหมือนกินแมลงวันตายชัดๆ!
“ไอ้เด็กนี่แท้จริงแล้วมีการบ่มเพาะเช่นไร.?”
ปังๆๆ!
เจียงซือรู้สึกเพียงว่าเลือดลมพลิกตลบ ถูกซัดสะเทือนจนมือไม้ชาวาบ จิตวิญญาณกวัดแกว่ง มีความรู้สึกโกรธแค้นและอัดอั้นที่บรรยายไม่ถูก
นี่เป็นไปได้อย่างไร
เขาไม่อยากเชื่อ
เขาก้าวสู้อันดับผู้แข็งแกร่งชั้นยอดในระดับ เต๋าแท้จริงมาสองร้อยกว่าปีแล้ว พลังต่อสู้โดดเด่นน่าทึ่งเหนือ ธรรมดา แม้แต่ในกลุ่มผู้บ่มเพาะทั่วสารทิศยังเรียกได้ว่าเป็นระดับผู้อาวุโส แม้กระทั่งผู้แข็งแกร่งระดับเต๋าแท้จริงขั้นสมบูรณ์ยังไม่อยู่ในสายตาเขา
ทว่าตอนนี้เขากลับถูกกำราบ ซ้ำยังถูกเด็กหนุ่มที่ไม่รู้ระดับการบ่มเพาะคนหนึ่งกำราบอีกด้วย!
สภาพจิตใจของเจียงซือแน่วแน่เสมอมา เพียงแต่ในยามนี้เขากลับรู้สึกเสียหน้าหาที่เปรียบ อึดอัดสุดจะทน ถ้าหากถูกโจมตีจนปราชัย เมื่อข่าวแพร่สะพัด คงทำให้เขาไม่พ้นเป็นตัวตลกอย่างแน่นอน!
เคร้ง!
ไม่นานอิเตาก็ขับเคลื่อนกระบี่นภาคราม ปะทะสะบั้น กระบี่วิญญาณของเจียงซือจนเกิดเสียงเล็กแหลม
ขณะเดียวกันอิเตาสาวเท้าออกมา ชักนำพลังกฎเกณฑ์แห่งฟ้าดินควบรวมกดฝ่ามือลงกลางอากาศ ประทับ ‘เคล็ดวิชาหนึ่งหัตถ์ประทับดารา’ ที่ควบแน่นสายหนึ่งปลดปล่อยแสงจ้าล้นหลามกดทับบนตัวเจียงซือ
ตูม!
เจียงซือถูกซัดจนลอยขว้าง ทรวงอกเว้ายุบ เลือดข้นพุ่งสาด
ณ ที่นั้นเกิดเสียงฮือฮาโกลาหลในบัดดล เจียงซือถูกกำราบอย่างรุนแรง ทำให้ผู้ฝึกปราณของสำนักอักษรเทียนจง ต่างรู้สึกเหมือนกำลังฝันอยู่
ทว่าในเวลาเดียวกัน พลังต่อสู้อันกล้าแกร่งที่อิเตาสำแดงออกมา ก็ทำให้เหล่าผู้ฝึกปราณของสำนักอักษรเทียนจงที่ยังภักดีเลือดร้อนพลุ่งพล่าน รู้สึกถึงความฮึกเหิมและประหลาดใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
แน่นอนใครเลยจะเคยจินตนาการ ว่าเด็กหนุ่มที่เมื่อสามปีก่อนมีระดับการบ่มเพาะแค่ปราณฟ้าคนหนึ่งถึงกับสามารถสยบผู้อาวุโสใหญ่ที่มีชื่อเสียงมาหลายร้อยปีจนโงหัวไม่ขึ้นได้
นั่นอาจทำให้การยึดอำนาจของเจียงซือและพวก ทำลายเชื้อร้ายจากสำนักมารโลหิตที่แฝงเข้ามากัดกินในสำนักมีโอกาสสำเร็จมากขึ้นหลายสิบส่วน
ความคิดเห็น