ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เพื่อนร่วมบ้านล่องหน (อยู่ในช่วงรีไรท์)

    ลำดับตอนที่ #3 : ไม่ยินดี (รีไรท์)

    • อัปเดตล่าสุด 25 เม.ย. 65



    แสงไฟเทคสลับสีสาดส่องไปทั่วทุกโต๊ะกลิ่นเหล้าคละคลุ้งเต็มไปหมด เสียงเพลงเริ่มเปลี่ยนจังหวะเป็นครื้นเครง สลัดแนวอารมณ์ของผู้คนในผับจากแนวเพลงที่โศกเศร้ากันไปในช่วงหัวค่ำกลับมาสนุกสนานออกลีลาตามจังหวะหรือแม้กระทั่งการออกล่าของนักท่องราตรี...


              "มึงๆ กูว่าคืนนี้มีคนได้แต้มนำแล้วค่ะ" ออยหญิงสาวอกดูมเดรสสีดำทักท้วงขึ้นมากลางวงและสกิดเพื่อนชายร่างบางคนเดียวในกลุ่ม ยื่นกระดาษสีขาวใบเล็กที่มีตัวอักษรด้วยลายมือให้เจ้าตัวเปิดอ่าน


              "ออยมึงมองกูดิ้ กูไม่สวยตรงไหนส่งสายตามาตั้งนานดันมองข้ามหัวกูไปหาไอกัน" แพรวเพื่อนสาวผมสั้นประบ่าหน้าหวาน ชุดหวานเหมือนจะมิดชิดแต่ยกเว้นส่วนหลังเปิดเว้ายาวให้ความเซ็กซี่ปนหวานตามสไตล์ไม่แพ้คนไหนในกลุ่มบ่นขึ้นพร้อมมองหาเป้าหมายใหม่ทันทีและไม่ลืมจะยกยิ้มและส่งสายตาให้เป้าหมายก่อนจะกลับมาสนใจบทสนทนาในกลุ่มอีกครั้ง


              "แพรวมึงสวยค่ะ แต่! กันมันสวยและแซ่บกว่าค่ะเพื่อน ยังไม่ชินอีกหรอความฮอตผู้วิ่งตามมันเนี้ย กันหรือมึงทำเสน่ห์เล่นของถูน้ำมันพรายที่ไหนแล้วไม่บอกพวกกูปะวะ มึงด้วยค่ะบีมอย่าเงียบช่วยกูเค้นมันจนกว่ามันจะบอกแม้ว่ามึงจะมีผัวเป็นตัวเป็นตนแล้วก็เหอะ มันต้องมีของดีติดตัวกันบ้าง" 


              "เออวะ กันมึงไปเล่นเล่ห์ที่ไหนบอกพวกกูมานะ กูจะไปใช้กับผัวกูบ้าง" บีมสาวสวยคนสุดท้ายที่นั่งเงียบมานานให้ความสนใจทันทีกับคำล่อลวงของเพื่อนสนิทอย่างออยทำให้ต้องเสริมแรงเค้นคำตอบจากเพื่อนสุดฮอต


              "อย่างมึงไม่ต้องหรอกบีมแค่นี้ผัวมึงก็หนีไม่รอดแล้วครับแล้วหน้าอย่างกูพึ่งกลับจากปารีสแถมกลับมาครั้งนี้แค่จะมาทำงานจะเอาเวลาไหนไปเล่นน้ำมันพรายอะไรพวกมึง อย่างกูนะไม่ต้องพึ่งของ พริกทั้งสวนก็มาอยู่ที่กู"


              "จะบอกพวกกูว่ามึงเผ็ดเพราะเด็ดพริกทั้งสวนมาแดกเองงี้? " แพรวพูดพร้อมดึงกระดาษในมือผมออกไปเปิดอ่านคงรำคาญผมไม่เปิดอ่านสักทีนี่แหละ



              "อะเก่งครับสมเป็นเพื่อนกู งั้นมาลองเล่นกันนิดหน่อยปะละ" ในกระดาษมีแค่เบอร์โทรและชื่อเจ้าของกระดาษใบนี้ เท่านั้นแหละครับผมพับกระดาษคืนแล้วจงใจจุ่มลงแก้วตัวเองก่อนจะหันหลังออกมาไม่ลืมหยิบโทรศัพท์และวางเงินจำนวนนึงที่มากพอจะทำให้เพื่อนสามสาวสนุกกันได้ยาวๆในคืนนี้เป็นการฉลองครบทีมในรอบหลายปีที่ไม่ได้กลับไทยมาเลยตลอดหลายปี 



                 ในที่สุดผมก็ฝ่าฝูงชนมากมายที่เริ่มคึกคักมากขึ้นทุกทีมายืนหายใจเอาเอาออกซิเจนเข้าปอดข้างนอกได้สักที " เกือบหมดลมหายใจก่อนแล้วไหมละ"


                  " สวัสดีครับ ใจร้ายจังเลยนะครับเอากระดาษผมทิ้งแบบนั้นนะ  "  ตามแผน ผมมายืนคุยกับลมตีกับยุงได้ไม่ถึงห้านาทีก็มีเหยื่อติดเบ็ดซะแล้ว ง่ายจนไม่สนุกแล้วสิ

              

                    "เป็นของคุณหรอกหรอครับ ขอโทษทีนะครับพอดีข้างในคนเริ่มเยอะแล้วเริ่มอึดอัด" ยิ้มสวยๆ หนึ่งที แค่นี้ก็ปิดจ๊อบแล้ว 


                    กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคยจากการเดินผ่านไปของชายคนหนึ่งมันแน่ชัดมากขึ้นเมื่อเห็นแผ่นหลังคนตัวสูงเดินเข้าไปที่หน้าผับ การกระทำทุกอย่างถูกยุติลง ความรู้สึกชาวาบขึ้นมาอย่างมวนท้อง สองขาสับฝีเท้าก้าวตามแต่ก็ถูกดึงไว้ด้วยแรงของอีกคนที่คุยไว้ก่อนหน้า 

           

                       " ไปไหนละครับ จะกลับเข้าไปงั้นหรอไหนว่าอึดอัดไงอีกอย่างกลับเข้าไปแล้วก็ไม่สนุกเท่าไปกับผมหรอกนะครับ "


                        " กรุณาปล่อยแขนด้วยนะครับ" 


                        "โถ่ อะไรวะ อย่าเล่นตัวให้มากนักมึง เมื้อกี้สายตายังดูแพรวพราวอยู่เลย ไปแพรวพราวกันบนเตียงดีกว่าไหม "  


                        ชายร่างเล็กที่พยายามสะบัดสุดแรงเพื่อให้ข้อมือที่ถูกจับไว้หลุดจากมือใหญ่แต่ก็เหมือนไร้ประโยชน์ หมัดหนักอึ้งถูกชกเข้าที่ท้องเล็กอย่างจัง ร่างกายที่ถูกความเจ็บปวดเข้าแทรก ตัวงอล้มลงไปนอนกับพื้น ได้เพียงคิดอยู่อย่างนั้นว่าชายที่เดินผ่านไปเมื่อกี้จะจำเขาได้บ้าง แม้จะเป็นเสี้ยวนาทีก็ตามที่เขาเดินผ่าน ร่างนั้น กลิ้นนั้นที่คุ้นเคยยังจำได้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา

                   

                         ฟึบ ผลัวะ !! 

              

                        " น่ารำคาญวะ เด็กมันไม่อยากไปด้วยยังเกาะแกะอยู่นั่น "


                        "หนอยมึง เสือกไรวะ"  

                   

                        แกร๊ก "ถอยดีกว่านะครับคุณถ้าไม่อยากมีเลือดอุ่นๆไหลลงมาจากกระบาล"


                   อยู่ๆความชุลมุนก็เกิดขึ้นหลังผมล้มลงเพราะความจุกและเจ็บปวดจากหมัดไอเลวนั่น แต่ก็ต้องตกใจมีบุคคลที่สามมาจากข้างในผับดึงคอเสื้อมันให้หันไปพร้อมกับถีบมันลงกับพื้น แต่ไม่ทันที่มันจะสวนกลับก็มีปลายกระบอกปืนมาจอหัวมันแล้ว 


                   " ม...มึงรู้หรือเปล่าว่ากูลูกใคร ถ้ากูเป็นอะไรไปพ่อกูไม่เอาพวกมึงไว้แน่ กับแค่นักเลงปลายแถวอย่างพวกมึง"


                   "โถ่เอ้ยไอเด็กเปรตร้องหาพ่อ กูไม่อยากรู้ว่ามึงเป็นใคร แต่ถ้ามึงจะมาซ่าแล้วยังมาเสือกฉุดคนของกูในถิ่นของกู มึงก็แค่ต้องรับบทเรียนจะได้ไม่เป็นผู้ใหญ่เหี้ยๆนะ"


                   สิ้นเสียงด่าทอของบุคคลที่สามก็ก้าวพ้นออกจากเงามืดกับปลายกระบอกปืนที่ถูกยื่นจ่อปาก ตาเบิกโพลงลมหายใจแรง ความสั่นสะท้านของร่างกายที่รุนแรงขึ้น ด้วยความตกใจของปืนกระบอกแรกที่จ่อหัวว่าหนักแล้วแต่จ่อปากเป็นเชิงให้หยุดพูด ด้วยความกลัวตาที่เปิดกว้างก็แทบจะถลนออกจากเบ้าตา


                   " กูให้มึงเลือกนะจะได้แฟร์ๆ ว่ามึงอยากกินลูกปืนจากกูหรือมีรูเล็กๆบนหัวมึงจากมือขวากู"


                   ครับไม่ใช่แค่ไอเลวนั่นที่ตกใจ ผมเองก็ตกใจไม่ใช่แค่ปืนแต่ตกใจที่รู้ว่าบุคคลที่สามที่เดินออกมาจากเงาคือใคร อยู่ๆความอ่อนแอก็เกิดขึ้นภายในจิตใจเพียงเห็นชายผู้นี้ ผู้ที่ตัวเขาเองพยายามจะเดินตามไปในตอนแรกหรือผู้ที่เป็นเหตุผลหลักของการมาที่แห่งนี้ของผมหลังจากเหยียบพื้นสนามบินนี่ทันที ออฟ จุมพล... เค้าคือเหตุผลของผมทั้งหมด มีเพียงน้ำตาที่ไหลลงมาช้าๆไร้เสียงร้องที่ขมขื่นไม่รู้ว่าที่มีน้ำตาคือความดีใจที่เจอเขาหรือเสียใจที่เราไม่ได้มีกันและกันจนถึงวันนี้


                   "ขะ...ขอโทษครับอย่าทำอะไรผมเลยผมจะไม่บอกพ่อ ผมจะไม่มาที่นี่อยากได้เด็กนี่ใช่ไหมเอาไปเลยผมไม่เอาแล้วก็ได้ปล่อยผมเถอะครับ" น้ำเสียงสั่นเคลือที่ตอบกลับไปด้วยแววตาเหมือนคนเสียสติ 


                   "งั้นหรอ " เพียงหางตาเล็กน้อย เชิงคำสั่งให้มือขวาคนสนิทลดปืนที่จ่อหัวอยู่ลง


                   ปั่ง!  


                   "ถือว่ากูไว้ชีวิตแต่แขนข้างนี้ถือว่าให้คนของกูที่มึงกล้าฉุดแล้วก็..."


                   ปั่ง !


                   "แขนอีกข้างนี่ก็ถือว่าไถ่คำพูดมึงละกัน เด็กนี่ไม่เคยและจะไม่เป็นของใครนอกจากคนของกู ยังเหลือขานี่ วิ่งกลับได้เนาะ ไปก่อนกูเปลี่ยนใจ ! " 


                   " ปล่อยมันไปแล้วเปลี่ยนคนเฝ้าชุดใหม่ เฝ้าอะไรห่วยแตกสิ้นดี "


                   " พ..พี่เอ่อ คุณออฟขอบคุณครับ "


                   " ร้องไห้ทำไม "

                   

                  "เปล่า .... พี่ดูเปลี่ยนไปนะ"


                   "หรอ ไม่ใช่เพราะต้องแข็งแกร่งขึ้นถึงจะได้มีตัวตนอย่างวันนี้ ถึงกันจะได้กลับมาหาพี่ในตลอดหลายปีทั้งที่มีโอกาส....นะหรอ" คำสุดท้ายเสียงที่แผ่วลงดวงตาเล็กตี่ของคนตัวสูงในชุดเชิตสีดำมองมานัยย์ตาที่ดูผิดหวังและอาลัยแบบไม่จงใจที่จะปิด


              "ครับ งั้นการเจอผมในครั้งนี้ก็คงเป็นเรื่องที่ทำให้พี่ผิดหวัง " ผมลุกขึ้นยืนทั้งที่คิดว่าตัวเองจะไหวกับต้องรู้สึกจุกปวดแน่นไปหมดแต่ถ้าให้อยู่ตรงนี้ต่อไปก็คงเสียใจและเจ็บมากกว่าการไม่ยินดีที่ได้พบเจอของคนตรงหน้า





      

                     

                    









             





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×