คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เด็กแสบ (รีไรท์)
ปลอม ปลอมมากจากใจจริง -.,- " นี่คุณทำหน้าแบบนี้หมายความว่าไงไม่เชื่อผมงั้นหรอว่าเป็นผี " เป็นการทำท่าตกใจได้ปลอมมากไอคุณที่ชื่อสิงโตคนนี้ อะไรวะเรามันไม่เหมือนผีหรือไง ดูสิ ยังทำหน้าอ้าปากเหวอเหมือนจะตกใจแต่สายตาล้อเลียนผมไม่เลิก คริสไม่โอเค! ต้องกลัวสิต้องกลัวว
สิงโตหลุดขำพรืด แล้วเดินไปนั่งโต๊ะทานข้าวเล็กยกยิ้มน้อยๆเป็นเชิงล้อเลียน " ไหนอะผีต้องน่าลัวไม่ใช่หรอไง ขาลอยพื้น ถอดหัวแยกไส้ นายทำได้ไหมล่ะ นอกจากตัวขาวซีดๆแล้วก็ไม่มีอะไรเนียนเลยสักนิด"
เออวะตั้งแต่เป็นผีมาก็ไม่ยักจะมีสกิลนี้เหมือนพี่แก้วที่อยู่ตรงต้นโพธิ์หน้าบ้านเลยนี่หว่า " กะ....ก็แค่ขี้เกียจต่างหาก กลัวโผล่มาคุณจะตกใจด้วยหวังดีนะเนี้ย " รีบๆขอบคุณคริสคนหล่อและจิตใจดีคนนี้สิ ฮ่าๆ
" งั้นหรอ นึกว่าเป็นเด็กไออฟส่งมากวนสะอีก " สิงโตพูดแหย่เพื่อให้อีกคนร้อนตัวหากพาดพิงถึงบุคคลที่ส่งเจ้าตัวมาให้กวนเขาตั้งแต่วันแรกแบบนี้
" ห๊ะ ! ออฟไหน แต่ผมเป็นผีจริงๆนะ หายตัวไง หายตัว! ผมทำได้ " มันคงเป็นสกิลการเป็นผีเดียวของผมที่ไม่ต้องฝึกแต่อย่างใดและคงทำให้คนตรงหน้าสะดุ้งได้บ้างแหละวะ
แชว๊บ !
สิงโตขยี้ตาทันที ที่ภาพของคู่สนทนาตรงหน้าหายไปกับตาเหมือนอย่างที่เจ้าตัวพูดไว้เมื่อกี้ สิงโตลุกขึ้นยืนหมุนตัวรอบทิศ ขยับเดินห่างจากโต๊ะสามก้าวยื่นมือปัดป่ายอากาศไปมาเพื่อเช็คว่าตัวเขาเองไม่ได้ตาฝาดนั่งคุยกับลมและภาพหลอกตาหรือการกระทบหักเหของแสงใดๆที่ทำให้เห็นถึงอีกคนภายในห้องนี้ได้ จากที่ไม่เชื่อก็เริ่มขนลุก ถึงการมีอยู่ที่เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆแล้วก็หายไปเหมือนลมพัดผ่านร่างกายตัวเอง
" นายเป็นผีประจำบ้านจริงหรอเนี้ย " ลมอีกแล้วเจ้าเด็กนี่มาพร้อมลมรึไงกัน
พรึบ! สิงโตรู้สึกถึงการมีอยู่ข้างหลังของตัวเองทำให้หันหน้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ไม่พบอะไร ความรู้สึกเดิมเกิดขึ้นอีกครั้งสลับหน้าหลังผ่านลำตัวอยู่สองสามที ทันใดนั้น....
พรึ่บ!
" แฮร่ จะเอ๋ ผมเองคริส ฮ่าๆ " ไม่กลัวนักใช่ไหมไอคริสจัดให้ การวิ่งผ่านคนเป็นวิธีที่ผมแอบดูพี่แก้วทำเวลาพี่แกแกล้งคนที่มาลองของหรือลบหลู่พี่แก้วถึงถิ่นเป็นวิธีที่ทำให้คนเป็นหรือมีชีวิตอยู่เนี้ย รู้สึกถึงการมีอยู่ที่เล้นลับแต่ก็ต้องอาศัยพลังของพวกเราระดับมากเลยนะถึงจะทำได้นะ ผลที่ได้ถ้าใครขวัญอ่อนมากๆก็อาจจะขวัญหลุดหรือเกิดอาการทางจิตได้ แต่พลังของผมมันไม่ได้มากขนาดนั้นอย่างมากสุดก็แค่ทำให้อีตาคนนี้ที่ชื่อสิงโตเป็นลมพับได้บ้างแหละ
ฟุบ ! แหมะ
"ห..เห้ย " จู่ๆผีตัวแสบก็โผล่ออกมาจากความว่างเปล่าก่อนหน้า ทำให้ผมที่ไม่ทันตั้งตัว ตกใจจนต้องลงเอาก้นไปจูบกับพื้นอย่าหมดสภาพ
เอ้าผิดคาด! " โถ่คุณ นึกว่าจะตกใจจนเป็นลมสะอีก " ว่าแล้วก็เสียดายรู้งี้ถ้าไปถามทริคพี่แก้วแต่แรกอาจได้ผลสงสัยแค่ดูวิธีมามันไม่แรง !
"นี่คุณ ลุกขึ้นมาได้แล้วไปนั่งกองกับพื้นอยู่อย่างนั้นเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก พื้นมันเย็น " ผมไม่ได้ห่วงเขานะครับทุกคนแต่ เห็นก้นกบเขากระแทกขนาดนั้นแถมพื้นบ้านมันเย็นอีก เดี๋ยวจะได้กลายเป็นผีอย่างผมต้องหามเค้าไปโรงพยาบาล
" ไม่ถามว่าฉันเจ็บไหม สักนิดเลยหรอไงเด็กแสบ " ถามว่าเจ็บไหมจริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้เจ็บมากขนาดนั้นหรอก(แต่คงเดินเป๋หลายวัน)เพียงแค่ตกใจในระยะประชันชิดของสายตามากกว่า ใกล้ขนาดที่ระยะสายตาของผมเห็นแค่ตาจมูกและปากเล็กๆของเด็กแสบ อีกนิดในละครคือจูบแล้ว แต่นี้มันผีไง !
"หน่าๆ ขอโทษคริสผิดไปแล้วค้าบพี่สิงโต... แล้วทีนี้เชื่อผมหรือยังว่าเป็นผีจริงๆ " พร้อมทำตาปริบๆเพื่อแสดงออกว่าตัวเองคงผิดไปแล้วจริงๆที่ทำก้นกบผมร้าวฉาน
หึ หูฝาดปะเนี้ยเด็กผีมันอ้อนเป็นด้วยหรอ "ขนาดนี้ถ้าไม่เชื่อจะถอดหัวโชว์ฉันหรือไงละคริส!"
" ไว้ไปเรียนกับพี่แก้วก่อนจะถอดโชว์ "
" ฉันประชด ! ใครอีกละพี่แก้วมีกี่วิณญาณในบ้านหลังนี้กันแน่เนี้ย " แต่ความจริงแล้วผีไม่เห็นจะน่ากลัวเหมือนคำบอกเล่าต่อๆกันมาเลยสักนิด จากวิณญาณ 1 ดวงที่ตอนนี้ยืนมองผมอยู่คำว่าน่ากลัวมันห่างไกลมาก จบกันความสงบในการทำงานของผม หรือผมควรให้ไออฟหาที่ใหม่ให้ดีนะ
ท้องฟ้าอมส้มประดับเมฆาสลับขาวบรรยากาศเหมือนเป็นใจให้ออกไปหาอินสไปเรชั่นภายนอก ชาวบ้านและผู้คนเริ่มเลิกงานกลับมาจากสวนตั้งแต่บ่ายเย็นๆพลุกพล่านกันไปหมดและนี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าแปลกใจแม้ในท้ายหมู่บ้านที่ควรจะไม่ได้รับความสนใจจากคนจำนวนมากกลับพบว่ามีคนในหมู่บ้านแทบครึ่งหนึ่งมารวมตัวกันอยู่ฝั่งตรงข้ามหน้าบ้าน ทั้งกลิ่นอาหารหอมๆผสมกลิ่นธูปมีควันลอยปะปนกันไปหมดแต่ยืนดูได้ไม่นานคนก็เริ่มซาลงทำให้เห็นว่าการรวมกลุ่มคนจำนวนมากเมื่อกี้คืออะไร
ผมขอถอนคำพูดครับที่ว่าผีมันไม่น่ากลัว...
"เป็นอะไรไปอะคุณไหนบอกจะไปถนนคนเดินทำไมมายืนตัวแข็งอยู่ตรงรั้วบ้านแบบนี้"
หลังจากเกิดเรื่องวุ่นๆกับผีตัวแสบอย่างคริสไปช่วงสายตอนนี้ก็เริ่มเย็นผมที่โทรบอกป้านิ่มไม่ต้องเข้ามาทำข้าวเย็นแล้วเพราะว่าจะลองเดินเก็บรรยากาศหาอะไรทานที่ถนนคนเดินในตัวเมืองเชียงใหม่สักหน่อยก็ต้องเก็บพับความคิดนี้ไป...หลังจากเห็นภาพตรงหน้าที่มีสิ่งที่เรียกว่า ' ผี ' เป็นเงาดำๆซีดๆจำนวนมาก บางดวงก็เล็บดำผมฟู ผิวคล้ำ มีแผลตามร่ายกายวิ่งกรูมาที่ต้นโพธิ์ฝั่งตรงข้ามหน้าบ้านเพราะชาวบ้านเอาอาหาร ขนม น้ำ มาเส้นไหว้ เป็นจำนวนมากกองรวมกัน เป็นอะไรที่แปลกตาและไม่ชวนดูเท่าไหร่ เห็นอย่างงี้จะมีใครบ้างไม่หันหลังกลับละครับ ใช่ครับผมปิดประตูรั้วและกลับเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว(ไม่ได้กลัวครับ..มันไม่ชิน)โดยมีเสียงทักจากคริสผีตัวแสบ แต่ครั้งนี้ไม่ได้มีแค่คริสนะสิโชคดีที่ไม่ได้น่ากลัวเหมือนพวกข้างนอกกลับกันแล้วคิดว่าน่าสบายใจกว่าเยอะด้วยซ้ำ
"เจ้าคริส อย่าไปทักพี่เค้าเวลาอยู่ข้างนอกแบบนี้มันอันตรายกับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ปู่ว่าเธอรู้ดีนะเรื่องนี้ " เสียงของชายชราผู้ปกป้องรักษาบ้านหลังนี้และดูแลวิณญาณเจ้าบ้านแสนแสบกล่าวตักเตือนและยิ้มเล็กน้อยให้กับผู้เป็นมนุษย์ชายเพียงคนเดียวอย่างสิงที่ยืนดูพวกเขาคุยกันด้วยแววตาผ่อนคลายมากกว่าทีแรก
" เข้าบ้านเถอะพ่อหนุ่มวันนี้อย่าพึ่งไปไหนเลย " หลังจากเดินเข้ามาในบ้านผมก็อดสงสัยไม่ได้ที่จะถามถึงความอันตรายที่ว่าของเจ้าปู่
" ผีพวกนั้นไม่เหมือนปู่กับเจ้าคริส เป็นสัมภเวสีหนะไร้ญาติขาดบุญ ยิ่งถ้ารู้ว่ามีคนเป็นเห็นหรือสัมผัสพวกมันได้ คนเป็นอย่าหวังว่าจะมีความสุขเลย "
" อย่างที่เจ้าคุณปู่บอกนั้นแหละคุณ แต่พวกเขาน่าสงสารนะไปไหนไม่ได้หรอก รอหมดเวรหมดหมดกรรมเท่านั้น ว่าแต่คุณมีซิกเซ้นส์หรอทำไมถึงเห็นพวกเราได้ "
" ฉันคิดว่าไม่ ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็น ไม่คยสัมผัส ไม่ใช่ว่าที่ฉันเห็นคือพวกวิณญาณต้องการให้เห็นหรอกหรอคริส"
" มันก็ได้อยู่หรอกแต่ต้องอาศัยพลังเยอะมากๆ ใช่ไหมครับเจ้าคุณปู่....อะอ่าว" เจ้าคุณปู่นี้ใช้โควต้าหายตัวได้คุ้มกับการเป็นผีสะจริงๆ
"เจ้าคริส ปู่ได้ยินนะ ยังเห็นหัวปู่เป็นผีปู่ย่าบ้างไหมเราแสบนัก "
" แหะ ขอโทษค้าบบ " ขนาดไม่เห็นตัวยังมีเสียงได้ นี้ไหมนะที่เรียกว่าเฮี้ยนของจริง แง่มม
"นี่ๆ คุณสิงโตต"
คริสใช้นิ้วป้อมๆของตัวเองจิ้มที่แขนผมหลังจากละความสนใจจากอะไรสักอย่างในความคิด ให้ผมทายคงเป็นอะไรแผลงๆตามฉบับเจ้าตัวนั่นแหละ
" อย่ายื่นหน้ามา " ผมชักสงสัยแล้วว่าเจ้าคุณปู่กำราบเจ้าเด็กแสบได้ยังไงกัน
"กลัวคริสหรอ" เจ้าตัวแสบเอียงคอถามด้วยดวงตาใสๆที่กลมโต มองมาทางผม
ทำไมต้องแทนตัวเองว่าคริส " ก็น่ารักดี " เชี่ย ชมผีว่ารัก พูดอะไรออกไปไอสิง
" ระวังจะตกหลุมความน่ารักของคริสน้า พี่แก้วชอบชมบ่อยๆว่าแต่ๆคุณยังไม่ตอบเลยนะ"
"ฉันไม่ได้กลัว นายไม่มีอะไรให้ฉันต้องกลัวเลยสักนิดแต่ที่ไม่ให้ยื่นหน้ามาใกล้เพราะต้องรู้จักหวงตัวบ้างเข้าใจไหมคริส"ถ้าไม่เห็นว่าคริสหายตัว เหาะเหินเดินอากาศได้คงคิดว่าเป็นคนมากกว่าผีทั้งที่เจ้าตัวยืนยัน นอนยัน หายตัวยัน ก็ตาม ดูๆแล้วอายุของคริสเหมือนเด็ก 18 19 หรือผีมันเป็นจำพวกอายุคงกระพันตามใจอยากวะ
" เผื่อคุณลืมว่าผม เป็นผี -..-"
"ก็ไหนบอกพี่แก้วอะไรของนายชมว่าน่ารัก คนน่ารักเขาต้องรู้จักหวงตัวไม่ใช่ยื่นหน้ามาใกล้ผู้ชายแบบนี้ถึงจะผีก็เถอะ" ครับ ผมแถ แถจนแดงเถือกอีกนิดต้องพึ่งเบตาดีนแล้วครับคุณหมอ จะให้บอกว่าผมดันรู้สึกวูบๆเพราะผีตัวขาวๆที่ไม่เหมือนผีชอบโผล่มาใกล้ๆแล้วยิ้มแบบโลกนี้มีแค่เด็กแสบเงี้ยหรอ ไม่หรอก อาจเเค่พลังงานความร้อนข้างในถูกขับออกมาตามหลักการวิทยาศาสตร์เนอะ
" โอเคไม่ยื่นก็ไม่ยื่นกลัวคนแก่แถวนี้หัวใจวายก่อนแค่อยากจะถามว่าจะไปถนนคนเดินอีกเมื่อไหร่อะ "
"กะ..แก่เลยหรอคริส! ฉันพึ่ง32ทำความเข้าใจของความหมายว่าแก่ด้วย"
" แง้งง แซวเล่ยเฉยๆชอบจริงจังเหมือนเจ้าคุณปู่เลยอ้า"
เจ้าคุณปู่? มันก็เท่ากับโดนว่าแก่ไม่ต่างจากเดิมไม่ใช่หรอกหรอ " ขี้เกียจจะเถียงด้วยแล้ว ฉันเหนื่อย "
"เนี้ย พูดเหมือนเจ้าคุณปู่เป๊ะ "คริสดีดนิ้วดังเปาะแล้วชี้มาทางผมเพื่อเป็นการยืนยันว่า ผมแก่!
" เดี๋ยวฉันจะให้เจ้าคุณปู่ลงโทษ คอยดูเถอะเด็กแสบ สรุปที่ถามฉันคงจะกล้าไปไหนหรอกนะจนกว่าจะชินแหละ" ยืนยันอีกรอบครับไม่ได้กลัวแต่ไม่ชิน (มั้ง)
" เสียดายจัง..แต่ไม่เป็นไรเจอคริสทุกวันเดี๋ยวคุณก็ชินเอง " น้ำเสียงและสีหน้าที่ตื่นเต้นจากตอนแรกกลายเป็นหน้างอ คอพับทันทีที่ผมตอบ แต่ไม่กี่นาทีก็ดึงตัวเองกลับมาสดใสแล้วยิ้มให้ผมใหม่ ช่างเป็นคน เอ้ย ผีที่มีพลังบวกมากเสียจริง
" เปลี่ยนใจแล้วไปพรุ่งนี้ก็ได้ "แล้วรอยยิ้มที่กว้างอยู่แล้วก็สดใสขึ้นได้มากกว่าเดิมหลังจากผมพูดจบ ผีอะไรมีรอยยิ้มเป็นอาวุธ แล้วทำไมผมต้องยอมไปด้วยเนี้ยถ้าเจออะไรขนลุกกลางทางขึ้นมาจะทำไงแต่นั่นแหละ...ช่างมันเถอะ
"ถามแบบนี้แปลว่าอยากไปด้วยใช่ไหมเราอะ งั้นตราบใดที่คริสไม่ดื้อและเอาแต่ใจก่อนแล้วกันนะ "
" ห๊ะ หมายความว่าไงอะคุณ " ถ้าไอคำว่าดื้อก็พอเข้าใจได้เพราะโดนเจ้าคุณปู่กับพี่แก้วดุเรื่องนี้บ่อยๆแต่ เอาแต่ใจนี่สิแล้วไอคริสคนนี้ไปเอาแต่ใจตอนไหนอะ
สิงโตไม่พูดอะไรเพียงแต่หันหลังจะกลับเข้าห้องของตัวเองทิ้งให้เจ้าตัวแสบยืนงุนงงต่อไป
"เดี๋ยวดิคุณ ไม่พูดแล้วจะรู้ไหมอะ " คริสหายวับไปโผล่ตรงหน้าของสิงโตเพื่อรั้งไม่ให้คนพูดงงๆเดินเข้าห้องไปก่อน
" ก็แบบที่คริสทำอยู่นี่ไง " ผมถอยหลังไปหนึ่งก้าวเพื่อเว้นระยะห่างเพราะทุกครั้งที่เจ้าตัวมาโผล่ตรงหน้าไม่เคยกะระยะได้สักที ซึ่งมันไม่ดีต่อผมมากๆนะสิคนตัวขาวคนนี้
" อ้อออ เข้าใจแล้วครับคริสจะไม่หายวับไปมาให้สิงโตตกใจ และจะเว้นระยะห่างนิดนึงเพื่อเป็นการหวงเนื้อหวงตัวด้วยครับ " คริสยิ้มแฉ่งตะเบะท่าชูสามนิ้วเหนือหางคิ้วโดยเจ้าตัวคิดว่าคือท่าเคารพเยี่ยงพลทหารแล้วยกมือไขว้หลังขยับหลบให้สิงโตเดินไปยังห้องของตัวเองได้
" เก่งมาก คนดี " ผมแปะมือบนหัวเด็กแสบไปหนึ่งทีก่อนเดินเข้าห้องด้วยความหมั่นไส้เหมือนคริสจะพยามเป็นทหารแต่ท่าทางดันออกมาเหมือนลูกเสือไม่สิลูกแมวสะมากกว่า หึ เด็กคนนี้ก็ไม่ได้เลี้ยงยากขนาดนั้นนะผมว่า
ตึก..ตึก..ตึก "มะ..เหมือนหัวใจกลับมาเต้น" ผมเอามือทาบอกกับความรู้สึกที่ไม่ควรจะเป็นหรือเกิดขึ้นกับวิณญาณที่ไม่มีแม้กระทั่งกายหยาบด้วยซ้ำ สัมผัสแผ่วเบาและอบอุ่นที่ได้รับเมื่อกี้มันคงเป็นอะไรที่มีความสุขมากแน่ ๆถ้าหากเป็นตอนที่ยังมีชีวิตอยู่นั่นแหละนะ ผมจินตนาการไม่ออกเลยว่าตัวเองจะรู้สึกยังไง จะรู้สึกดีเหมือนตอนนี้หรือเปล่าราวกับว่ามีหัวใจที่กำลังเต้นเพื่อสูบฉีดเลือดไปทั่วร่างกายหรือกำลังเต้นเพื่อตอบสนองสัมผัสนี้ จะเป็นอย่างไหนกันล่ะผมก็ไม่รู้สิ ชักอยากจะกลับไปมีกายหยาบเพื่อรู้คำตอบนี้จังแฮะ แต่ก็เห้อออ
" เจ้าแสบของปู่มายืนยิ้มอะไรตรงนี้ล่ะ แปลกนะเรา ยิ้มแต่คิ้วชนกันแถมยังถอนหายใจอีก ทำไมมันดูย้อนแย้งกันไปหมดอย่างนั้น " นั่นแหละครับเจ้าคุณปู่ว่าผมซนตัวเองก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่คิดจะไปก็ไปคิดจะมาก็มา เห้อออ ดูเอานะครับว่าผมเหมือนใครกัน
"เอ้า ย้อนแย้งอะไรกันครับไม่มี๊! คนมีความสุข เอ้ย! ผีมีความสุขก็ต้องยิ้มสิครับเจ้าคุณปู่ใครจะมาทำหน้าดุสลับหน้าบูดเพราะเจ้าคุณย่าหมดภารกิจล่วงหน้าไปก่อน แบบเจ้าคุณปู่ละครับ " ยิ้มแฉ่งกว้างๆหนึ่งทีและเตรียมสับตีนหนีครับ เพราะผมรู้ดีว่าเจ้าคุณปู่มีอิทธิฤทธิ์มากพอที่จะลงโทษผมในอีกไม่กี่วิแน่ๆ
" หนอย ไอเจ้าคริส ! " ไม่ตะพดหัวเสือสิ่งของทรงอำนาจประจำตำแหน่งที่ก่อนหน้ายังไม่เห็นวี่แววแต่ตอนนี้ปรากฏอยู่ในมือผู้เป็นเจ้าของแต่ยังไม่ทันได้เอ่ยคำลงโทษ เด็กแสบก็เหมือนจะไหวตัวทันหลบหนีได้ ทิ้งเจ้าคุณปู่ไว้บ่นเป็นการคาดโทษแทน
"ฮ่าๆ มุกเดิมๆผมก็หลบทันสิครับเจ้าคุณปู่ " เสียงหัวเราะคิกคักเชิงหยอกล้อตามปกติของหลานตัวแสบ เจ้าคุณปู่ได้เพียงแต่ส่ายหัวให้วีรกรรมนี้เหมือนเคย ระบายยิ้มเชิงเอ็นดูแต่แววตาคงความสงสารจับใจ แต่เศร้าได้ไม่นานเจ้าคุณปู่ก็รับรู้ถึงการมาของบางสิ่ง 'ผู้มาเยือน' หรือนั่นคือถึงเวลาออกไปทำหน้าที่ของตน จะต้องตอนรับหรือขับไล่ก็แล้วแต่ชื่อเสียงเรียงนามหรือจุดหมายของแขกผู้เยือนถึงรั้วบ้านนี้แล้ว
ความคิดเห็น