คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ที่มาของเจ้าก้อนผมทอง
'ใยเล่าชีวิตของเขาต้องระหกระเหินเร่ร่อนออกดิ้นรนเอาชีวิตรอดในเมืองหลวงแห่งนี้กัน... ถ้าเขายังอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ากับแม่พริ้ง เขาคงไม่มาลำบากขนาดนี้'
ปัณรวีย์อดนึกถึงชีวิตในวัยเยาว์ไม่ได้ ชีวิตเขาเติบโตมาที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า พออายุย่างเข้า 18 ก็ขอออกมาใช้ชีวิตคนเดียว เพราะเขาไม่อยากเป็นภาระแม่พริ้งอีกต่อไป หากเขายังมีชีวิตอยู่ ไว้สักวันหนึ่งเขาจะไปตอบแทนท่าน แต่....
ปัณรวีย์
"น้องปาแปงค่าบบ มาหามามี้มาลูก เราไปหาคุณพ่อคุณแม่กันนะครับ.!!"
เด็กน้อยตัวอ้วนกลมหน้าตาลูกครึ่งที่กำลังเล่นของเล่นตรงมุมห้อง พอได้ยินเสียงคนเป็นแม่ก็วางของเล่นลุกขึ้นวิ่งเข้าไปหาอ้อมแขนเล็กๆ ของคนเป็นแม่ทันที
"อึ๊บ! อ่าา...เจ้าอ้วนของมามี้ มี้๊จะอุ้มไม่ไหวแล้วนะครับ"
ฟอดดด..
ผมอุ้มลูกชาย กดจมูกหอมแก้มย้อยๆ ด้วยความรักที่ล้นปริ่มจะว่าหลงก็คงจะไม่ผิด
'อ่าาา ...หอมชะมัด'
ใช่ครับหลังจากออกมาใช้ชีวิตอย่างระหกระเหิน ก็กลายเป็นว่าผมดันมีลูกที่เกิดจากความไม่ตั้งใจ กับความเห็นแก่ตัวของไอ้ผู้ชายเลวคนหนึ่งเพียงแค่คืนเดียวเท่านั้น ชีวิตผมต้องกลับตาลปัตรแทนที่จะได้ออกมาทำงานหาเงินแล้วส่งให้แม่พริ้งกับเด็กๆ ที่อยู่ในบ้านเด็กสงเคราะห์ กลายเป็นว่าผมมีอีกชีวิตหนึ่งอาศัยอยู่ในท้องเสียอย่างนั้น
หลังจากรู้ว่าตั้งท้อง ชีวิตผมเหมือนตกนรก ไม่กล้าแบกหน้าเอาลูกไปอาศัยแม่พริ้งอีก แค่ลำพังเด็กที่อยู่ที่นั่นก็เลี้ยงกันแทบจะไม่ไหวแล้ว
เหตุการณ์ในตอนนั้นผมที่เพิ่งออกจากบ้านแม่พริ้งใหม่ๆ ผมมาอาศัยห้องเล็กหลังร้านอาหารกึ่งคลับที่ผมทำอยู่ ได้เงินมาพอได้ประทังชีวิตไปวันๆ ยังดีที่พี่เจ้าของร้านเอ็นดู ให้ผมทำงานถึงแม่อายุจะยังไม่ถึงยี่สิบ ผมจึงไม่ต้องไปเสียค่าเช่าแถมยังได้กินอาหารฟรีอีก ชีวิตดูเหมือนจะดีขึ้นแต่คืนนั้น...
คืนที่ผมจำได้ไม่เคยลืม ผมออกไปหาซื้อยาเพราะผมรู้สึกปวดหัวมาก แต่จู่ๆ ก็มีผู้ชายตัวโตแต่งตัวดีใส่สูทผูกเนกไทสองคนจับผมขึ้นรถ แล้วเอายาอะไรไม่รู้กรอกใส่ปากผมแล้วกรอกน้ำทันที ก่อนผมจะหลับผมได้ยินเสียงผู้ชายสองคนพูดคุยกันแว่วๆ ว่า
"ไอ้เหี้ย มึงเอาแบบนี้จริงดิ! ถ้านายรู้ว่ามึงจับเด็กข้างทางไปให้ หัวมึงกระเด็นแน่ ๆ ไอ้สัสชัย"
"เออ...เอาน่ามึงจะให้นายทรมานจากยาที่ไอ้เหี้ยสมุทรมันให้นายกินหรือไงวะ!อย่างน้อยนายก็ได้ปลดปล่อย เดี๋ยวเราค่อยหาทางออกอีกทีหลังจากนี้แล้วกัน กูว่ารีบพาน้องมันไปก่อนเถอะ! ก่อนที่นายจะแย่เอา " ผมได้ยินแค่นั้นแล้วไม่รู้สึกตัวอีกเลย จนกระทั่ง
ปั่ก ปั่ก ปั่ก
อึก!! เจ็บ...
นั่นละครับผมตื่นขึ้นมาอีกทีก็รู้สึกถึงแรงกระแทกไม่หยุดพร้อมกับความเจ็บปวดรวดร้าวไปหมด ร่างผมเหมือนจะแหลกเป็นเสี่ยงๆ แต่ผมรู้สึกว่าร่างกายกลับตอบสนองไปกับการกระทำอันต่ำช้าของคนๆ นั้น ตอนนั้นผมรู้สึกทรมานมาก น้ำตาไหลพราก ๆ แต่ไอ้คนที่กระทำย่ำยีผมไม่รู้สึกสะท้าน กลับตอกกระแทกแก่นกายเข้าออกอย่างบ้าคลั่งจนผมสลบไป พอตื่นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองนอนเปลือยเปล่าข้างๆ มีเช็ควางไว้ให้ผม ผมเห็นยอดเงินเขียนไว้สามแสน
หึ! อย่างน้อยชีวิตที่น่าสมเพชของผมก็มีค่าถึงสามแสน ผมกำเช็คไว้ในมือแน่น อีกมือหนึ่งปาดน้ำตาพยุงร่างลุกออกจากเตียงด้วยสภาพบอบช้ำ แข้งขาสั่นเกินควบคุม ผมต้องเดินไต่กำแพงเข้าไปอาบน้ำ ยิ่งผมเห็นสภาพตัวเองในกระจก ผมยิ่งปล่อยโฮออกมาเสียงดังลั่น ทั้งรอยดูดรอยกัดบนตัวแทบไม่มีที่ว่างให้เห็น แถมช่องทางตรงหว่างขายังมีน้ำขาวขุ่นไหลออกมาผมเห็นคราบเลือดแห้งเกรอะกรังเต็มไปหมด ผมถึงได้รู้ว่าไอ้ผู้ชายคนเมื่อคืนมันไม่ได้ใส่ถุงยาง ผมปล่อยโฮอีกครั้ง ไม่รู้ว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นมันจะมีโรคอะไรหรือเปล่า? แม่พริ้งเคยสอนว่าไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายถ้าจะมีอะไรกันต้องใส่ถุงยางทุกครั้งมันเป็นการป้องกันเชื้อโรคกับป้องกันไม่ให้ท้อง เพราะผมเป็นผู้ชายพิเศษที่สามารถท้องได้ แม่พริ้งถึงคอยพร่ำสอนผมมาโดยตลอด
แต่...แต่ไอ้ผู้ชายคนนั้น
ผมปล่อยน้ำตาให้ไหลจนเหือดหาย ตั้งสติที่มีเหลืออยู่เพียงน้อยนิด ลากสังขารตัวเองออกมารีบแต่งตัวออกจากโรงแรม
ผมออกมาที่เลานจ์โรงแรมด้วยสภาพไม่ต่างจากคนโดนรุมโทรม เห็นสายตาหลายคู่ที่มองมาอย่างน่าสมเพช คงคิดว่าผมเป็นเด็กขายเลยไม่มีใครสนใจเข้ามาให้ความช่วยเหลือผมเลยสักคน ผมออกมาเรียกแท็กซี่กลับร้านอาหารที่ผมพักอยู่ซึ่งอยู่ไม่จากโรงแรม ผมนอนซมจากอาการไข้ขึ้นไปสามวัน ดีที่พี่เจ้าของร้านกับป้าแม่ครัวให้ความช่วยเหลือเข้ามาดูแลจนหายป่วย ผมไม่ได้บอกใครเรื่องนี้ แม้แต่เจ้าของร้านที่มองผมด้วยความห่วงใยก็ตาม
ความคิดเห็น