ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ++ ประวัติโรงเรียนต่างๆคร่ะ ++

    ลำดับตอนที่ #1 : ++...!!อัสสัมชัญ!!...++

    • อัปเดตล่าสุด 24 ธ.ค. 49



    "อัสสัมชัญ" เป็นคำย่อมาจากภาษาลาตินว่า ASSUMPTIO BEATAE VIRGINIS MARIAE หมายถึงการให้เกียรติยกพระนางพรหจารีมารีอาต้นกำเนิดของการฉลองนี้เริ่มมีขึ้น
    พร้อมกับการเริ่มต้นของศาสนาคริสตัง เนื่องจากขณะที่พระเยซูเจ้าใกล้จะ
    สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน พระองค์ได้ขอร้องให้พระนางมารีอารับเป็นมารดา
    ของมนุษย์ทุกคน ซึ่งมีนักบุญยอห์น เป็นตัวแทนดังนี้ “สตรีเอ๋ยนี่คือลูกของท่าน” พระนางมารีอาไม่อาจปฏิเสธ คำร้องขอครั้งสุดท้ายของพระบุตรซึ่งใกล้จะ
    สิ้นพระชนม์ได้ พระนางจึงทำหน้าที่เป็นมารดา คอยเอาใจใส่ช่วยเหลือ
    ทุกคนนับแต่วาระนั้น บรรดาสาวกและคริสตังรวมทั้งผู้ไม่เป็นคริสตัง ต่างพากันมาขอความช่วยเหลือจากพระนาง และไม่มีใครเลยซึ่งเข้ามาหา
    พระนาง แล้วต้องผิดหวังกลับไป เมื่อพระเยซูเจ้า เสด็จขึ้นสวรรค์แล้ว

     สาวกและคริสตังต่างเคารพรักพระนางมารีอาประดุจ แม่ของพวกเขา เพราะพระนางเป็นญาติสนิทที่สุดของพระเยซูเจ้า ไม่ว่าพระนางจะทูลขอสิ่งใดจากพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้า ทรงยอมตามพระทัยของพระนางเสมอดังจะเห็นได้จากพระวรสาร (ยอห์น 2: 1-12) พระนางมารีอาได้มีชีวิตอยู่เป็นที่พึ่งและกำลังใจของพระศาสนจักรแต่เริ่มแรก จนกระทั่งพระศาสนจักร แพร่หลายและเจริญมั่นคง แล้วก็ถึงวาระที่พระนางจะต้องจากโลกนี้ไปรับความสุขในสวรรค์ ขณะที่พระนางใกล้จะสิ้นใจ สาวกและคริสตังได้เข้าร่วมชุมนุมแสดงความรักและอาลัยพระนาง ยกเว้นนักบุญโทมัส ซึ่งไปประกาศ ศาสนาในดินแดน ที่ไกลโพ้น เมื่อพระนางพรหมจารีมารีอา สิ้นพระชนม์แล้ว บรรดาสาวกของพระเยซูเจ้า ได้จัดพิธีปลงศพของพระนาง อย่างสมเกียรติตามธรรมเนียมชาวยิว พระวรสารเล่าถึงการบรรจุศพตามธรรมเนียม ชาวยิวไว้ดังนี้ว่า :

    “…ยอแซฟแห่งอาริธมาทาและนิโคเดมัสได้ซื้อเครื่องหอมผสมคือ กฤษณา(myrrh) และมดยอบ (aloes) หรือวุ้นของว่านหางจรเข้มา แล้วเอาผ้าป่านกับเครื่องหอมพันพระศพตามธรรมเนียมการฝังศพของชาวยิว”(ยอห์น 19: 39-40) เครื่องหอมผสมที่ทาชโลมก่อนฝังนี้จะช่วยรักษาศพให้คงสภาพได้นานพอสมควร

    หลังจากพิธีศพของพระนางมารีอาแล้ว บรรดาสาวกและคริสตังยังคงเฝ้าวนเวียนสวดภาวนาอยู่ที่หลุมศพของพระนาง เพราะความอาลัยรักอย่างสุดซึ้งตลอดเวลาสามวัน สามคืน รวมทั้งนักบุญโทมัสซึ่งได้เดินทางกลับมาถึง นักบุญโทมัสร้องไห้คร่ำครวญเสียใจ และแสดงความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเห็นพระพักตร์ พระมารดาเป็นครั้งสุดท้าย สาวกอื่น ๆ และคริสตังจึงขอร้องให้มีการเปิดหลุมศพ

     

    โบสถ์อัสสัมชัญ

     นักบุญเปโตรหัวหน้าของพระศาสนจักรยินยอมให้เปิดหลุมศพเพื่อให้ทุกคนแสดงคารวะต่อพระศพของพระนาง แต่ปรากฎว่า พระศพของพระนางมารีอาได้อันตรธานไปเสียแล้ว ทุกคนที่เฝ้าหลุมศพนั้น ตลอดทั้งวันทั้งคืนต่างประหลาดใจมาก พวกเขาเชื่อว่า พระนางมารีอาได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณจึงได้จัดให้มีงานสมโภชสืบต่อกันมาจนทุกวันนี้ …

    และเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 1950 พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ได้ทำพิธีประกาศเป็นทางการต่อหน้าฝูงชนจากทั่วโลกซึ่งไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน ที่มาชุมนุมกัน ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร ที่กรุงโรมว่า

    “พระนางมารีอาได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณนั้น เป็นความเชื่อ ของพระศาสนจักรคาทอลิก” ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×